คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 การขึ้นไปเดินเล่นบนหลังคาบ้านคนอื่น มันเสียมารยาทน่ะเฟ้ย!!
“ฮ่าๆๆๆ ฉันต้องขอโทษพวกนายทุกคนด้วยน่ะ ที่ลูกน้องฉันไปถล่มบ้านซะพังยับเยินขนาดนั้น แต่ไม่ต้องห่วงฉันจัดการเรื่องช่างซ่อมบ้านให้เรียบร้อยแล้ว น่าจะราวๆ 2 สองเดือนถึงจะเสร็จ” ชายผู้มีหน้าตาดุจดั่งกอริลลาเอ่ยขึ้นในขณะที่มือก็พลิกเนื้อย่างบนเตา
“เฮ้ยๆ ทำบ้านคนอื่นพังแล้วยังมาหัวเราะน่าระรื่นอีกนะ เจ้ากอริลล่า ง่ำๆ” ถึงจะพูดเป็นเชิงตำหนิ แต่ชายผู้มีดวงตาดั่งปลาตายก็ยังตักเนื้อย่างเข้าปากอย่างสบายอารมณ์
“นี่ คุณคอนโด้ แล้วทำไมพวกเราต้องมาเลี้ยงเนื้อย่างเจ้าพวกนี้ด้วยล่ะครับ เห็นหน้าพวกนี้แล้วขัดตาชะมัด” รองหัวหน้าปีศาจฮิจิคาตะ โทชิโร่เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“อย่าพูดอย่างนั้นสิโทชิ เราต้องเลี้ยงเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านของพวกเขาที่โดนเจ้าโซโกะมันยิงบาซูก้าใส่จนพังยับเยินสิ”
“พูดถูกเลี้ยวน่อ ง่ำๆ อากอริลล่า ลื้อนี่เป็นคนดีจริงๆ ง่ำๆ” สาวหมวยแห่งร้านรับจ้างสารพัดพูดขึ้นทั้งๆที่ปากยังโซ้ยเนื้อย่างตรงหน้าอย่างตะกละตะกลาม
“แน่นอนอยู่แล้วอาหมวย ว่าแต่ตจะกี้เรียกฉันว่ากอริลล่าใช่ม่ะ”
“นี่ๆ คางุระ เวลากินอาหารอย่าพูดสิ มันเสียมารยาทน่ะรู้มั้ย ง่ำๆ”
“คุณเองก็ไม่ต่างอะไรกับคางุระเลยนี่ครับคุณกิน เฮ้อ!” ชินปาจิพูดกับถอนหายใจกับพฤติกรรมของคนทั้งสองคน
ตอนนี้เหล่านักรับจ้างสารพัดทั้งสามหน่อก็ถูกพวกคอนโด้ อิซาโอะ หัวหน้าซินเซ็นงุมิพามาร้านเนื้อย่างแห่งหนึ่งในย่านคาบูกิโจว เพราะพวกเขาต้องการแสดงความขอโทษที่ถล่มร้านรับจ้างสารพัดโดยไม่ได้ตั้งใจ สาเหตุก็มาจากโจรขโมยชุดชั้นในที่ถูกซินเซ็นงุมิไล่ตามอยู่ ดันสะเออะไปวิ่งบนหลังคาจนมาถึงร้านรับจ้างสารพัด และก็เป็นจังหวะเหมาะที่ “โอคิตะ โซโกะ” มาเจอเข้าเลยเล็งบาซูก้าใส่โจรขโมยชุดชั้นในทันที แต่โชคร้ายที่ร้านสารพัดรับจ้างต้องโดนถล่มไปด้วย
“โชคดีจังเลยน่ะครับที่พวกลูกพี่กระโดดออกมาจากทางระเบียงลงมาทัน ไม่งั้นคงมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นแน่” ชายผู้มีผมสีน้ำตาลอ่อนและเป็นผู้ก่อเหตุเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิดเลยซักนิด
“ลื้อน่ะหุบปากไปเลยน่อ อาตี๋ตูดหมึก เพราะลื้อนั่นแหละทำให้อั้วเกือบแขนขาหักตอนกระโดดลงมา ง่ำๆ” คางุระใช้ตะเกียบชี้หน้าของคนที่เป็นคู่กัดตลอดกาลของเธอด้วยความไม่สบอารมณ์ ก่อนที่หันจะตั้งหน้าตั้งตากินเนื้อย่างต่อ
“คนที่สมควรแขนขาหักควรจะเป็นลูกพี่มากกว่านะ เพราะพวกหล่อนกระโดดลงมาทับลูกพี่เข้าอย่างจังเลยไม่ใช่รึไง”
“อากินจังอีถึกอยู่แล้วน่อ เรื่องแค่นี้อีไม่ถึงตายหรอกน่อ”
“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วคางุระ บอกแล้วไงว่าคนอย่างคุณกินน่ะไม่ตายง่ายๆหรอก อ้าม!!”
“ยังจะมาพากันกินแบบสบายอารมณ์อีก บ้านพังซะขนาดนั้นแล้วสองเดือนที่ต้องรอบ้านซ่อมเสร็จ พวกคุณสองคนจะนอนที่ไหนกันครับ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าบ้านผมไม่ต้อนรับ” ชินปาจิโวยวายขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
“เฮ้ยๆ ชินปาจิทำไมพูดแบบนั้นล่ะ ถ้าแกไม่ให้พวกฉันไปอยู่ที่บ้านแก แล้วพวกฉันจะนอนไหนกันล่ะ”
“ใช่เลี้ยวน่อ อาชินปาจิ ลื้อจะปล่อยสาวน้อยบอบบางอย่างอั้วไปนอนอยู่ริมถนนรึไงน่อ”
“หมวยถึกอย่างหล่อนเนี่ยนะ บอบบาง พูดได้ไม่อายปากเลยน่ะ ฮึๆ” โซโกะหัวเราะเบาๆในลำคอส่งผลให้หญิงสาวที่ถูกกล่าวถึงไม่พอใจแบบสุดๆ
ปัง!
คางุระวางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิดลุกขึ้นยืนยกขาข้างหนึ่งขึ้นบนโต๊ะแล้วชี้นิ้วไปยังคนตรงหน้าส่งผลให้คนรอบข้างหันมามอง แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ได้สนใจอะไร
“ว่าใครหมวยถึกไม่ทราบย๊า ไอ้ตี๋ขี้เหร่ เพราะลื้อพวกอั้วถึงไม่มีที่ให้ซุกหัวนอนเลยน่อ ”
“นี่หล่อนจะโทษฉันคนเดียวก็ไม่ได้นะ ต้องไปโทษไอ้โจรขโมยชุดชั้นในนั่นสิที่ดันสะเออะไปวิ่งบนหลังคาบ้านหล่อน ฉันก็แค่ทำตามหน้าที่เท่านั้นเอง”
“ก็แล้วตำรวจบ้านไหนเขาเอาบาซูก้ามาไล่จับโจรกัน อย่ามาโป้ยขี้ให้คนอื่นอย่างหน้าด้านๆเลยน่อ”
“ใช้ดาบมันไม่ทันใจฉันนี่น่า แต่บาซูก้าเนี่ยเล็งปุ๊ปดับปั๊ป สะดวกกว่าเยอะ”
“อย่ามาแหลสดน่อ แล้วเรื่องที่พวกอั้วไม่มีที่ให้ซุกหัวนอนตั้งสองเดือนลื้อจะรับผิดชอบยังไง”
“งั้นก็มาอยู่ที่ซินเซ็นงุมิสิ”
“............หา!!!!!!!!!!!....................”
ท่ามกลางสงครามน้ำลายระหว่างโอคิตะ โซโกะกับคางุระกำลังดำเนินอยู่ ก็มีชายคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นทำเอาทุกคนตกใจไปตามๆกัน
“พูดอะไรน่ะครับคุณคอนโด้ จะให้เจ้าพวกนี้มาอยู่ที่ซินเซ็นงุมิหรอครับ สำหรับยัยหมวยผมพอรับได้ แต่ไอ้หัวหงอกนี่ผมรับไม่ได้เด็ดขาด” เป็นรองหัวหน้าปีศาจที่พูดขึ้นเป็นคนแรก หลังจากที่อึ้งไปได้ซักพัก
“เฮ้ๆ ไหงแกถึงรับได้แค่คางุระว่ะ แกเป็นพวกโลลิค่อนรึไง ไอ้ปีศาจนิโคติน”
“ยัยหมวยนี่เป็นแค่เด็กผู้หญิง แค่หาสาหร่ายดองให้กินทุกวันๆก็พอใช้งานไรได้บ้าง แต่ไอ้คนที่ไม่ได้ความอย่างแกเนี่ยดูยังไงก็ทำประโยชน์อะไรให้พวกฉันไม่ได้เลยซักนิด”
“แกว่าใครไม่ได้ความฟ่ะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้เอาเงินที่รีดจากชาวบ้านมาซื้ออาหารหมามากินหรอกเฟ้ย”
“มายองเนสไม่ใช่อาหารหมาน่ะเฟ้ย แต่เป็นส่วนผสมชั้นเลิศที่กินกับอะไรก็ได้รสชาติเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เป็นสิ่งที่สวรรค์สร้างมาเชียวน่ะว้อย”
“ขึ้นสวรรค์งั้นเรอะ แบบนี้ได้ขึ้นแบบไปไม่กลับแหงแซะ”
“อันนี้ผมเห็นด้วยอย่างแรงเลยครับลูกพี่”
“แกน่ะหุบปากไปเลยโซโกะ คู่กัดแกน่ะยัยหมวยนั่นต่างหาก” ฮิจิคาตะพูดพร้อมเบ๊หน้าไปทางคางุระ
“อาตี๋นี่ไม่ใช่คู่กัดอั้วน่อ ฝีมือระดับอีเทียบกับอั้วไม่ได้เลยซักนิด”
“ฉันแค่ไม่เคยเอาจริงกับหล่อนต่างหาก อย่าทำเป็นได้ใจไปหน่อยเลย”
“อั้วก็แค่ออมมือให้ลื้อเหมือนกันน่อ อย่างลื้อน่ะเป็นได้แค่ก้อนขี้มูกของอากินจังเท่านั้นเองน่อ”
“พูดแบบนี้ก็สวยสิน้องสาว”
โซโกะแสยะยิ้มแล้วชักดาบคู่กายออกมาพร้อมๆกับคนตรงหน้าที่หยิบร่มมาถือไว้เตรียมเปิดศึก แต่ก็ถูกชายที่เหมือนกอริลล่าห้ามไว้
“พวกแกสองคนน่ะหยุดเลย กัดกันทีไรรู้สึกเหมือนโลกจะแตกทุกที อีกคนก็อีหมวยยาโตะ อีกคนก็เจ้าชายซาดิสม์ อันตรายพอกันทั้งคู่” เขาส่ายหน้าอย่างเอือมๆก่อนจะหันไปหาคุณกินกับคางุระ
“แล้วสรุปพวกนายว่าไง จะไปมั้ย? ซินเซ็นงุมิน่ะ”
ทั้งสองหน่อหันมามองหน้ากันเป็นเชิงปรึกษาว่าเอาไง เมื่อส่งกระแสจิตคุยกันเสร็จ กินโทกิก็หันมาพูดว่า
“ถ้าขอร้องขนาดนั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันจะไปอยู่ที่ซินเซ็นงุมิให้ก็ได้”
“ใครเขาขอร้องพวกแกมิทราบ แล้วไหงถึงตัดสินใจไปล่ะเนี่ย” ฮิจิคาตะพูดพร้อมกับจุดบุหรี่ในมือ
“พวกอั้วเห็นแก่เนื้อย่าง เอ้ย! เห็นแก่ความมีน้ำใจของพวกลื้อก็เท่านั้นเองน่อ”
“หล่อนก็แค่เห็นแก่กินไม่ใช่รึไงยัยหมวย”
“หนวกหู!! ลื้อไปตายไหนก็ไปไป๊ชิ้วๆ”
“หน็อย.....” โซโกะเตรียมชักดาบออกมาแต่ก็ถูกคอนโด้ห้ามไว้
“แต่ว่า ต้องให้สวัสดิการพวกฉันอยู่อย่างหนึ่ง”
กินโทกิกล่าวขึ้นจนทำให้ทุกคนหันมามองที่เขา สายตาทุกคนที่มองมาแฝงไปด้วยความอยากรู้ว่าตาคนไม่ได้ความนี่จะพูดอะไร
“ต้องให้พวกฉันเปิดสำนักงานรับจ้างสารพัดที่ซินเซ็นงุมิด้วย”
ความคิดเห็น