ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากบอกนายว่า "ไปตายซะน่อ!!!"

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เรื่องผายลมเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ไม่มีในหมู่พระเอกหรอกนะอีหนู

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 58


     บทที่ 1 เรื่องผายลมเป็นเรืองธรรมชาติ  แต่ไม่มีในหมู่พระเอกหรอกนะอีหนู

    “อากินจางงงงงงงงงงงงงงงงงงง  สาหร่ายดองของอั้วหมดเลี้ยวน่อ  ขอเงินหน่อยสิ” เด็กสาวผมส้มนามคางุระเอ่ยขึ้นพร้อมเดินเข้ามาในห้องของตาคนผมหยักศกที่นอนอยู่บนที่นอน ด้วยลักษณะผมเผ้ายุ่งเหยิงเพราะพึ่งตื่นนั้นเอง

    “....คร๊อกกก....ฟี้....” แต่ก็แน่นอน เขายังไม่ตื่น

    “อากินจาง  ลื้อได้ยินอั้วอ่ะป่าว?” คางุระเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

    “....ง่า...งึมๆ” แต่คนตรงหน้าก็แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบด้วยการพลิกตัวหันไปอีกฝั่งและหลับต่ออย่างสบายอารมณ์

    “อากินจัง” ยังเรียกต่อ

    “................”  ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

    เด็กสาวเอียงคอเล็กน้อย  แล้วจึงใช้มือทั้งสองข้างจับฟูกนอนที่คนตรงหน้านอนอยู่ แล้วก็......

    “อัตต้า  ลื้อหูตึงรึไงน่อ  ไอ้หัวมาม่า!!!” คางุระเขวี้ยงฟูกนอนกับคนผมหยักออกไปข้างนอกประตูห้องด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล จนไปถึงประตูหน้าร้าน

    “อรุณสวัสดิ์ครั...แอ่ก!!! โครม!!!” ดูเหมือนทั้งคนทั้งฟูกจะลอยไปกระแทกหนุ่มแว่นนามชินปาจิที่เปิดประตูเข้ามาพอดี

    “อู้ย  เจ็บๆๆๆ นี่หล่อนทำบ้าอะไรของหล่อนเนี่ยห๊า!!”  กินโทกิผู้มีดวงตาดุจดังปลาตายลุกขึ้นมานั่งพร้อมใช้มือจับหัวหลังจากที่โดนปลุกจากเด็กสาวผมส้ม 

    “อั้วบอกว่าสาหร่ายดองอั้วหมดเลี้ยว  ขอเงินไปซื้อหน่อย  ไม่ได้ยินรึไงน่อ” คางุระเดินเข้ามาพร้อมเอามือกอดอก

    “นี่หล่อนจะกินอะไรแต่เช้าเนี่ย  แล้วไอ้วิธีปลุกแบบที่ทำคนตายได้เลยนี่มันอะไรกัน!! เผ่ายาโตะเขาปลุกคนอื่นแบบนี้งั้นหรอ”

    “มังเรื่องของอั้ว  เอาเงินมาให้อั้วเดี๋ยวนี้เลยน่อ”  คางุระดึงคอเสื้อคนตรงหน้าขึ้นพร้อมใช้มืออีกข้างมารอรับเงิน

    “เฮ้ๆ  มารีดไถกันแต่เช้าแบบนี้เลยเนี่ยน่ะ  ฉันไม่มีให้หรอก.....”

    “ตูม”  เสียงหมัดของคางุระเฉียดหน้ากินโทกิไปโดนระเบียงด้านหลังจนเป็นเหตุให้ระเบียงพังจนตกไปอยู่ข้างล่าง

    “ลื้อจะบอกว่าไม่ได้ใช่มั้ยน่อ!! จู่ๆก็มีรังสีอำมหิตแผ่มาจากคนตรงหน้าทำให้กินโทกิเหงื่อแตกเล็กน้อย

    “อะ  ปะ...เปล่า  นี่ไง  เอาไปเลยครับ  คุณคางุระ”  กินโทกิยื่นเงินให้คางุระด้วยท่าทางสั่นๆ

    “ขอบใจน่อ  อากินจัง” คางุระปล่อยคอเสื้อกินโทกิแล้วรับเงินมาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มสดใส  (แล้วเจ้าแม่มาเฟียคนเมื่อกี้หายไปไหนแล้วฟร่ะ?//กินโทกิ)

    “ว่าแต่...เหมือนก่อนหน้านี้ฉันได้ยินเสียงชินปาจิเลยนะ แต่ตอนนี้หมอนั้นอยู่ไหนล่ะเนี่ย”  กินโทกิพูดพร้อมหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาบุคคลที่เขาถามถึง

    “อั้วก็ไม่เห็นน่อ อ่ะ...” คางุระกวาดสายตามองรอบๆก่อนจะไปสะดุดกับสิ่งๆหนึ่งเข้า  ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นโหมดเบื่อโลกทันที

    “เฮ้อ! สงสัยหมอนั่นเหม็นขี้ปากหล่อนเลยหนีกลับบ้านก่อนแน่ๆ”

    “อั้วว่าไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่อ!!

    “มันจะไม่ใช่ได้ยังไงกัน  ปากหล่อนน่ะ เหม็นจะตาย”

    “ลื้ออยากตายก่อนวัยอันควรรึไงน่อ!

    “คนอย่างคุณกินสุดหล่อไม่ตายง่ายๆหรอกอีหนู”

    “แต่อั้วว่าถ้าลื้อไม่รีบลุกขึ้นมาอาจจะมีคนตายจริงๆก็ได้น่อ”  คางุระพูดพร้อมชี้นิ้วไปยังสิ่งที่กินโทกินั่งทับอบู่

    “เห...” กินโทกิค่อยๆหันหน้าไปมองตามจนสังเกตเห็นว่าคนที่เขาถามหากำลังเอาหน้าซุกกับก้นของเขาอยู่ 

    “อีบ...อุก...ไอ..อัก..อี..อิ..อับ(รีบลุกไปซักทีสิครับ)” ชินปาจิที่ถูกทับอยู่พยายามจะสื่อสารกับคนข้างบนให้ลุกออกไป  แต่ก็ออกมาแค่เสียงอู้อี้ๆ

    “ว่าอะไรน่ะ  ชินปาจิ”  ดูเหมือนสิ่งที่ชินปาจิพยายามพูดจะทำให้กินโทกิไม่เข้าใจ

    “ออก.. ไอ้..อีบ..อุก..ไอ..อัก..อี..อิ..โว้ย (บอกให้รีบลุกไปซักทีสิโว้ย)”

    “หา...พูดอะไรของนายเนี่ยชินปา.. ผั้วะ!  อ่อก!

    “ย้ากกกก  ลื้อก็รีบลุกออกมาซักทีสิโว้ยยยยยย!!!”  คางุระทนไม่ไหวกับคนตรงหน้าเลยเข้าชกจนกินโทกิกระเด็นไปด้านข้างอย่างเต็มเหนี่ยว

    “โอ้ยย! อะไรของหล่อนอีกล่ะเนี่ย  ฉันกำลังคุยกับชินปาจิอยู่น่ะ” กินโทกิพูดในขณะที่เลือดยังกลบปากอยู่

    “ก็ลื้อเล่นนั่งทับหน้าคนอื่นอยู่ใครจะไปพูดได้กังน่อ”  คางุระช่วยพยุงชินปาจิให้ลุกขึ้นแล้วหันมาทำสีหน้าเหนื่อยจิตใส่คุณกินทันที

    “ขอบคุณน่ะ  คางุระจัง  ที่ช่วยให้ผมรอดจากก้นไอ้หงอกนี่!!

    “เฮ้ยๆ เรียกคุณกินว่าไอ้หงอกได้ไง แล้วใครใช้ให้นายไปนอนจูบกับแง้มก้นฉันมิทราบ”  กินโทกิลุกขึ้นปัดก้นตัวเองด้วยสีหน้าปลาตายเหมือนทุกที

    “ใครมันจะไปอยากจูบกับของที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคกัน  แล้วอีกอย่างตอนที่คุณคุยกับคางุระจังน่ะ.....” ชินปาจิทำหน้าพะอืดพะอมก่อนที่จะเอ่ยขึ้นว่า

    “คุณตดใช่ม่ะ!!

    “เฮ้ย! ตดอะไร  บ้าบอคอแตก  คนอย่างคุณกินน่ะไม่ทำอะไรที่ทำลายภาพพจน์แบบนั้นหรอกเฟ้ย  คุณกินเป็นพระเอกน๊า “  ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเอานิ้วแคะขี้มูกมาปั้นเป็นก้อนแล้วดีดใส่หนุ่มซิงอย่างชินปาจิ

    “แล้วไอ้กิริยายืนแคะขี้มูกแล้วดีดใส่คนอื่นหน้าตาเฉยเนี่ย  มันพระเอกตรงไหนไม่ทราบ(ว่ะ)ครับ”

    “เอาน่าๆ  ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันตด  แต่มันมีเหตุผลอยู่น๊า”

    “จะตดทั้งที  มันต้องมีเหตุผลด้วยหรอครับ”

    “มีสิ  ก็ไอ้นั่นไง  ฉันเห็นว่านายหายใจไม่ออก  เลยจะช่วยไง  แบบแลกเปลี่ยนออกซิเจ...แอ่ก!!”  ไม่ทันได้พูดจบกินโทกิก็โดนสองเท้าที่ชินปาจิประเคนให้อย่างสวยงามจนล้มไปกองกับพื้นอีกรอบ

    “ยังจะมาแถสดหน้าด้านๆอีก ไอ้วิธีแลกเปลี่ยนออกซิเจนอุบาทย์ๆแบบนั้นคงมีแต่คนสมองกลวงๆแบบคุณเท่านั้นที่คิดได้นะ”

    “ใช่ๆ ลื้อหัดทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแก่เยาวชนแบบพวกอั้วบ้างไม่ได้รึไงน่อ “  คางุระที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นบ้าง

    “สาวน้อยที่เอาแต่ใช้กำลังรีดไถเงินจากคนอื่นอย่างหล่อนนะ หุบปากไปเลย” 

    “ลื้อนั่นแหละที่หุบปากไปเลย  หัดทำตัวเหมือนอีตาที่แขวนแว่นจืดจางที่สาวไม่แลนี่บ้างสิน่อ” คางุระพูดพร้อมกับตบไหล่ชินปาจิเบาๆ

    “ใครเป็นที่แขวนแว่นมิทราบ  แล้วทำไมต้องจืดจางด้วย  แล้วสาวไม่แลเนี่ยมันก็เรื่องของผมนี่ครับ” ชินปาจิหันมาแว้ดใส่ทันทีที่โดนเรียกแบบแทงใจดำขนาดนั้น

    “ที่แขวนแว่นก็ยังเป็นที่แขวนแว่นอยู่วันยังค่ำน่อ”

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนปากเหม็นอย่างหล่อนมิทราบ”

    “ลื้อว่าใครปากเหม็นกันย๊า” คางุระเริ่มปรี๊ดแตกเมื่อได้ยินแบบนั้น

    “เฮ้ยๆ  พวกแกน่ะจะเถียงกันอีกนานมั้ยฟร๊า  คุณกินหิวแล้วเนี่ย!! ชายหนุ่มที่ยืนดูเหตุการณ์มานานก็เอ่ยขึ้นขัดก่อนที่จะเกิดสงคราม

    “หุบปากไปเลยไอ้หัวหงอก” ทั้งสองพร้อมใจกันหันมาแว้ดใส่คุณกินทันที

    “ใครหัวหงอกฟร๊า” 

    ในระหว่างที่คนทั้งสามกำลังทะเลาะกันก็มีชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

    “เฮ้  ลูกพี่ช่วยหลบออกมาจากตรงนั้นจะได้มั้ยครับ”

    “อะไรน่ะ.....”ในขณะที่ทั้งสามหันมาทางต้นเสียง ก็พบว่าปากกระบอกปืนบาซูก้าเล็งมาทางพวกเขา

    ตูม!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×