คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 14 ค่าสินสอดที่ถูกเรียกจากแม่เจ้าสาว มันเยอะจนแทบจะกินข้าวกับแกลบ
บทที่ 14 ค่าสินสอดที่ถูกเรียกจากแม่เจ้าสาว มันเยอะจนแทบจะกินข้าวกับแกลบ
หลังจากที่ได้เดินตรวจเมืองเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็เดินทางกลับซินเซ็นงุมิ และก็เป็นเวลาพอดีที่แขกคนใหญ่คนโตกลับไปแล้ว
ในระหว่างที่เดินผ่านห้องรับแขกของซินเซ็นงุมิ ทั้งสามก็สังเกตุเห็นคอนโด้กับิจิคาตะนั่งทำหน้าซีเรียสกันอยู่จึงเดินเข้าไปหา
“ทำหน้าอย่างนั้น ญาติเสียรึไง” กินโทกิเริ่มต้นด้วยประโยคคำถามที่ชวนกระทืบ
“ญาติเสียบ้านป้าแกสิไอ้หัวหงอก” ฮิจิคาตะหันมาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“หรือว่าคุณเป็นโรคมะเร็งแล้วใช่มั้ยครับ คุณฮิจิคาตะ” โซโกะถามบ้าง (ไม่ต้องถามก็ได้มั้ง)
“ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็คงไม่สนอะไรหรอก” ฮิจิคาตะยังคงตอบด้วยสีหน้าแบบเดิม
“แล้วมีเรื่องอะไรกันน่อ” คราวนี้เป็นสาวหมวยที่เอ่ยถามขึ้น
“พวกนายก็รู้กันแล้วใช่มั้ยว่าวันนี้มีแขกคนสำคัญมาที่นี่” คอนโด้เริ่มต้นพูดขึ้น
“ก้พอรู้ แล้วมีเรื่องอะไร เขาสั่งยุบที่นี่งั้นหรอ” กินโทกพูดพลางเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับฮิจิคาตะพร้อมกับโซโกะและคางุระ
“ฮ่าๆๆๆๆ มั่นใจนะว่าปากน่ะ แต่ช่างเถอะมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอก”
“ก็แล้วมันเรื่องอะไรล่ะน่อ อากอริลล่า”
“ก็วันนี้น่ะ...ขุนนางในวังเข้ามาที่ซินเซ็นงุมิ เขาบอกว่าต้องการจะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนของเรากับคนของเขาน่ะ”
“เลยจะให้คุณคอนโด้แต่งงานกับผู้หญิงในวังหรอ” หนุ่มเอสเอ่ยถามขึ้นบ้าง
“ฮ่าๆๆๆๆ ยังฉลาดเหมือนเดิมเลยน่ะโซโกะ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกน่ะ”
“ไม่ใช่ทั้งหมดงั้นหรอครับ แล้วมันเป็นยังไงล่ะครับ”
“เรื่องแต่งงานน่ะถูกแล้วล่ะ แต่คนที่เขาต้งการให้แต่งไม่ใช่ฉันหรอก”
“ไม่ใช่ลื้อ แล้วใครกันอ่ะน่อ”
คอนโด้เงียบพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมา
“คนที่เขาต้องการให้แต่งงานกับหญิงสาวในวังเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์คราวนี้เป็น โทชิน่ะ”
ทุกคนหันไปมองหน้าชายหนุ่มที่ตกเป็นเครื่องเชื่อมความสัมพันธ์ที่ตอนนี้ตีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เขาสูบควันบุหรี่เข้าปอดก่อนจะพ่นออกมาแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ก็เรื่องดีนีน๊า ไอ้ปีศาจนิโคตินจะได้ทำตัวเป็นผู้เป็นคนกับเขาซักที” กินโทพุดพลางใช้นิ้วแคะขี้มูก
“ดีกับผีน่ะสิ ฉันไม่ได้อยากแต่งงานซะหน่อย” ฮิจิคาตะเอ่ยขึ้น
“แล้วทำไมถึงเป็นอีตามายองเลอร์อ่ะน่อ”
“ฝ่ายผู้หญิงเขาเป็นคนขอร้องมาน่ะ ว่าต้องเป็นโทชิเท่านั้น”
“งั้นลื้อกับอาตี๋นี่ก็หญิงไม่แลสิน่อ”
“หล่อนอย่าเอาฉันไปรวมกับไอ้แว่นโอตาคุจืดจางนั่นสิ เห็นแบบนี้แต่พวกหมูตัวเมียก็ยอมศิโรราบเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันทั้งนั้น” โซโกะพูดอย่างภาคภูมิใจ
“อย่างน้อยก็ไม่ใช่อั้วอ่ะน่อ”
“ฉันจะทำให้หล่อนยอมก้มหัวให้ฉันเอง หึหึ” โซโกะหันไปแสยะยิ้มใส่คางุระที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ไม่มีทางหรอกน่อ ยี้” คางุระบุ๊ยหน้าใส่โซโกะอย่างรู้สึกหมั่นไส้
“แล้วงานแต่งจะเริ่มเมื่อไหร่” กินโทกิพูดขัดและยังคงทำสีหน้าปลาตายตามเคย
ปัง!
เสียงมือของคนๆหนึ่งทุบลงโต๊ะทำให้เกิดเสียงดังจนทุกคนหันมามองเป็นทางเดียวกันด้วยความตกใจ
“จะไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้น” ฮิจิคาตะพูดด้วยความหงุดหงิด
“หมายความว่าไงกันครับ คุณฮิจิคาตะ” โซโกะเป็นคนแรกที่พูดขึ้นหลังจากเงียบกันไปได้ซักพัก
“ก็อย่างที่โทชิว่านั่นแหละ พอได้ยินแบบนั้นโทชิก็ปฏิเสธทันทีเลย” คอนโด้พูดขึ้นบ้าง
“แบบนั้น ขุนนางที่มาวันนี้คงฉุนน่าดูเลยสิ”
“ใช่แล้วล่ะ พอโทชิปฏิเสธเขาโมโหขึ้นทันที แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมซะด้วยสิ”
สีหน้าของคอนโด้ดูหม่นหมองลงอย่างสังเกตุได้ ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็นั่งเงียบไปตามๆกัน
“แต่ว่าน่ะ ฉันไปตกลงกับขุนนางคนนั้นมาแล้ว เขาบอกว่าจะยกเลิกการแต่งงาน ก็ต่อเมื่อ....” คอนโด้พูดขึ้นอย่างใจเย็นทำให้ทุกคนหันมามองอย่างตั้งใจโดยเฉพาะฮิจิคาตะ
เขาเงียบพักหนึ่งก่อนจะ..........
จะ..........................
จะ....
ซู้ดดดด!!
ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม
ทุกคนหงายหลังขาชี้ฟ้ากันเป็นแถบๆ
“อากอริลล่า ลื้ออยากตายมากใช่มั้ยน่อ อั้วไม่ชอบค้างคารีบบอกมาซะทีเซ่” คางุระตรงเข้ากระชากคอเสื้อชายร่างใหญ่แล้วเงื้อมือขึ้นเพื่อเตรียมปล่อยหมัดใส่อย่างเสียอารมณ์
“จะ...ใจเย็นๆสิอาหมวย ก็ฉันคอแห้งนี่น๊า เลยต้องดื่มชาซักหน่อย” คอนโด้รู้สึกเหงื่อตกเล็กน้อย เพราะเด็กสาวตรงหน้าทำได้มากกว่าที่เขาคิด เขาอาจถึงตายได้ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจเธอ
“ลื้อก็บอกมาเร็วๆสิน่อ หรือจะให้อั้วเอาเลือดหัวลื้อออกมาก่อน” คางุระทำสายตาอำมหิตทำให้คอนโด้เหงื่อตกมากกว่าเดิม
“บะ...บอกแล้วจ้า บอกแล้ว”
ได้ยินดังนั้น คางุระจึงปล่อยคอเสื้อชายร่างยักษ์ แล้วกลับมานั่งที่เดิม
“อะ..แฮ่ม คือ ขุนนางคนนั้นบอกว่าจะยกเลิกการแต่งงาน ถ้า...โทชิมีคนที่หมายตาไว้แล้ว”
“หมายตาไว้แล้วงั้นหรอครับ” โซโกะพูดขึ้น
“ใช่แล้ว จะพูดให้ถูกคือมีแฟนแล้วนั่นแหละ” คอนโด้หยิบชาขึ้นมากินอีกรอบ
ได้ยินดังนั้นฮิจิคาตะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหยิบบุหรี่ม้วนใหม่ขึ้นมาคาบแล้วใช้ไฟแช็คจุดไฟตรงปลายบุหรี่
“งั้นก็แปลว่าถ้าบอกเขาไปว่ามีแฟนแล้ว ไอ้บ้ามายองเลอร์นี่ก็ไม่ต้องแต่งงานแล้วงั้นสิ ดีใจด้วยนาเหวย” กินโทกิพูดพลางตบบ่าฮิจิคาตะเบาๆ
“แล้วทำไมหน้าแกมันถึงบ่งบอกว่าเสียดายโคตรๆขนาดนั้นว่ะ”
“งั้นคุณฮิจิคาตะก็ไม่ต้องย้ายไปอยู่ในวัง แล้วยกตำแหน่งรองหัวหน้าให้ผมสิน่ะครับ” โซโกะทำสีหน้าเศร้าสร้อย
“นี่แกคิดเรื่องนี้อยู่งั้นเรอะ”
“หวา อั้วนึกว่าจะกำจัดมายองเนสไปได้ซะเลี่ยวน่อ”
“มายองเนสมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยรึไง”
“เอ่อ.....”
ในระหว่างที่ทั้งสถานการณ์กำลังดีขึ้นเพราะเสียงเถียงกันขอลคนสามคน คอนโด้ก็เอ่ยแทรกขึ้น
“มีอะไรหรอครับคุณคอนโด้” เป็นฮิจิคาตะที่หันมาถาม
“คือว่าน่ะ....ขุนนางคนนั้นบอกว่าจะยกเลิกการต่งงานถ้าโทชิมีแฟนก็จริง แต่ถ้าพาผู้หญิงคนนั้นมาพบไม่ได้ เขาก็จะไม่ยอมรับว่าโทชิมีแฟนแล้วน่ะสิ”
ฮิจิคาตะถึงกับหน้าซีดเผือดแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาไม่รู้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับเขาด้วย ทั้งที่เขาไม่คิดจะแต่งงานกับใครเลยตั้งแต่ผู้หญิงที่เขารักจากไป
เหมือนกินโทกิจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร รู้สึกยังไงอยู่ ชายผมหยักมองคนข้างๆอย่างรู้สึกเห็นใจจึงหาทางช่วย
“มีแฟนแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นแฟนจริงๆนี่”
“อะไรกังอ่าน่อ อากินจัง” คางุระถามขึ้นอย่างรู้สึกสงสัย
“ก็แฟนหลอกๆไง ยัยโง่” โซโกะหันมาตอบใส่หูคางุระทำให้เจ้าหล่อนต้องเอนตัวหนี
“ไม่ได้ถามลื้อน่อ เงียบไปเลย”
“เห็นผู้หญิงโง่ๆอย่างหล่อนแล้วมันขัดหูขัดตาชะมัด ฉันเลยแสดงความฉลาดให้ดูเป็นขวัญตาไง สำนึกบุญคุณไว้ซะ”
“รู้แค่นี้ไม่ถือว่าฉลาดหรอกน่อ ความรู้แค่เด็กป.3 ก็ตอบได้แล้วน่อ”
“งั้นหล่อนก็โง่กว่าเด็ก ป. 3 น่ะสิ แค่นี้ก็ไม่รู้”
“ซักยกมั้ยน่อ อาตี๋” คางุระถลกแขนเสื้อขึ้นพลางทำท่าหาเรื่อง
“ก็เอาสิ ยัยหมวย” โซโกะเหยียดยิ้มอย่างนึกสนุก
“นี่พวกนายสองคนน่ะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว เรากำลังหางช่วยโทชิอยู่น่ะ” คอนโด้รีบพูดห้ามแต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะเด็กสองคนนั้นอันตรายพอกัน ถ้าเข้าไปห้ามอาจทำให้เขาถึงชีวิตได้
“แล้วแกจะว่าไง ไอ้ปีศาจนิโคติน” กินโทกิหันมาถามฮิจิคาตะโดยไม่สนว่าคนที่เหลือกำลังจะทำอะไร
“อา..ถึงจะไม่ชอบขี้หน้าแกเท่าไหร่ แต่ก็ขอบใจล่ะกัน” ฮิจิคาตะเปรยยิ้มออกมาน้อยๆ
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพลางทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหันไปหาคอนโด้
“คุณคอนโด้ครับ แค่พาผู้หญิงซักคนไปพบ แล้วโกหกว่าเป็นแฟนก็พอสิน่ะครับ”
“อ่ะ..อ่อ ใช่”
“ถ้างั้น ต้องหาผู้หญิงซักคนมาช่วยงานนี้”ฮิจิคาตะทำท่าครุ่นคิด พลันสายตาก็หันไปมองเด็กสาวผมส้มที่กำลังก่อสงครามน้ำลายกับโซโกะอยู่
“แล้วแกจะหาผู้หญิงที่ไหนมาแสดงละครตบตาว่าเป็นแฟนแกกันล่ะ ที่โยชิวาระมีเยอะแยะเลย นายจะเอามั้ยล่ะ” ชายผมหยักออกความเห็น
“ไม่จำเป็นหรอก...” ฮิจิคาตะเดินไปหาคางุระแล้วดึงแขนเธอให้ลุกขึ้น
“หืม? มีอะไรน่ออามายองเลอร์” หญิงสาวถามด้วยความงุนงง
“นี่ยัยหมวย....”
“อะไรหรอน่อ”
“ช่วยเป็นแฟนฉันซักวันหนึ่งสิ”
ณ วินาทีนั้น ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ต่างคนต่างอึ้ง แม้แต่หนุ่มซาดิสม์อย่างโซโกะก็ยังตัวแข็งทื่อ
“หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงของกินโทกิกับคอนโด้ประสานขึ้นมาพร้อมกัน
“จะบ้ารึไงไอ้ปีศาจนิโคติน ยัยคางุระเนี่ยน่ะ” กินโทกิลุกขึ้นมาถามด้วยตกใจปนสงสัย
“ใช่ โทชิ อีกอย่างแม่หนูหมวยนี่ยังเด็กอยู่เลย เด๋ยวคนอื่นก็คิดว่านายเป็นพวกโลลิค่อนหรอก” คอนโด้พูดเสริมอีกคน
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ ก็แค่แฟนหลอกๆ” ฮิจิคาตะพูด
“ผมว่ายัยนี่น่าจะทำงานพังมากว่าสำเร็จน่ะครับ” โซโกะพูดขึ้นแต่หน้าตาแฝงไปด้วยความหงุดหงิดไม่น้อย
“ฉันไว้ใจยัยนี่ แล้วเธอจะว่าไง” ฮิจิคาตะหันมามองเด็กสาวผมส้มที่ยังคงทำหน้าเอ๋อประมาณว่า ‘ที่นี่ที่ไหน’
คางุระมองหน้าชายหนุ่มพร้อมทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยปากตอบ
“อืม...แต่อั้วไม่ชอบทำอะไรไร้สาระพรรค์นี้น่อ” คางุระพูดพลางเชิดหน้าไปทางอื่น
“สาหร่ายดอง 10 ห่อ”
“คิดว่าอั้วจะเห็นแก่กินขนาดนั้นเลยหรอน่อ”
“งั้น 10 ลัง”
“ค่าตัวอั้วไม่ได้ถูกขนาดนั้นหรอกน่อ”
“งั้นสาหร่ายดองตลอดชีวิตเลย เป็นไง”
“โอ้! ปล่อยให้เป็นหน้าที่อั้วเองน่อ อามายองเลอร์
“ค่าตัวถูกมากเลยว้อยยยยยยย!!!” คอนโด้กับกินโทกิตวาดลั่น
“งั้นตกลงตามนี้ พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
“โอส! ได้เลยน่อ”
ทุกคนยังคงคุยกันอยู่อย่างนั้น มีเพียงชายผมสีน้ำตาลอ่อนเท่านั้นที่นั่งเงียบไม่พูดอะไร จากการกระทำของคนตรงหน้า ทำให้เขารู้สึก หมั่นไส้ อย่างไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น