ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BUSINESS BOY(HUNHAN)

    ลำดับตอนที่ #9 : GOOD BY MY LOVE

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 63


     

    คฤหาสน์หลังใหญ่ถูกประดับตกเเต่งด้วยลูกไฟสีขาวอย่างสวยงามเรียงร้อยกันลงมาราวกลับหยาดฝน รอบรั้วบ้านก็มีไฟประดับห้อยระโยงระยางไปทั่ว นี่มันงานแถลงข่าวเรื่องลู่หานตายไปแล้วหรือว่าจัดงานเลี้ยงฉลองที่เขาตายกันแน่ ลู่หานกับวิกตอเรียนั่งอยู่หรูคันดำที่จอดอยู่หน้าบ้าน ลู่หานรู้สึกว่าตนเองจะจำความได้สักเรื่องเขาหลับตาแน่นเพราะเรื่องราวในหัวพลันตีกันเป็นเรื่องเป็นราวทั้งเรื่องที่แม่ตายอย่างน่าสงสัย และเรื่องเกี่ยวกับพินัยกรรมมรดกทั้งหมดลู่หานค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพราะสัมผัสนุ่มนวลและไออุ่นจากมือของคนที่อยู๋ข้างๆ

    “ป้าอยู่ข้างอาลู่นะ อย่ากลัว” เธอเอ่ย เพราะรู้ว่าหลานชายนั้นกำลังกังวล

     

    “ครับ” ลู่หานตอบรับ

     

    “ว่าแต่เขาจะแถลงข่าวอะไรกันแน่นะ” เธอยกแว่นขึ้นให้กระชับ

     

    ลู่หานหันมองรั้วบ้านพร้อมกับถอนหายใจ สถานที่ที่เขาเคยอยู่และเคยแอบเข้ามาอย่างลับๆคราวนี้เป็นการเข้ามาโดยเปิดเผยตัวตนและสถานะ มือน้อยๆสองมือประสานเข้าหากันแน่นด้วยความประหม่า ‘ผมกลับมาแล้วครับแม่’ ลู่หานส่งสารในใจหวังว่ามันจะส่งไปถึงแม่ของเขาที่อยู่บนสวรรค์ได้

    “เข้าไปได้” วิกตอเรียสั่งคนขับรถ เมื่อเห็นว่ารถนักข่าวจากสถานีต่างๆเข้าไปเกือบหมดแล้ว ยามหน้าบ้านก็ให้เข้าโดยไม่สงสัยอะไร

     

    งานจัดอยู่ที่ห้องประชุมใหญ่ของบ้านใครๆก็รู้ว่าบ้านเสี่ยวนั้นใหญ่โตขนาดไหนจะมีห้องประชุมใหญ่ในบ้านก็ไม่แปลก ห้องประชุมถูกจัดแบ่งเป็นโซนเวทีข้างหน้าตรงกลางเวทีมีโพเดียมตั้งอยู่ ด้านหลังมีจอโปรเจคเตอร์ที่เตรียมไว้ฉายรายงายต่างๆ คนในงานก็จะมีพนักงานระดับสูลของบริษัทและหุ้นส่วนคนสำคัญ ยังมีแขกผู้มีเกียติรที่เชิญมาเพราะสนิทสนมกลมเกลียวกันมาด้วยบางคนก็ติดต่อค้าขายกันมาตั้งแต่สมัยที่คุณหญิงเสี่ยวมี่ยังมีชีวิต บางคนก็เพิ่งจะมาสนิทคบค้าด้วย

     

    “ขอบคุณแขกทุกคนที่ให้เกียติรเดินทางมาร่วมฟังงานแถลงในวันนี้ด้วยนะครับ ครอบครัวของผมจมอยู่กับความทุกข์ทรมานมาหลายปี วันนี้ผมเจ็บปวดใจย่างยิ่งที่ต้องมาตอบสิ่งที่ทุกคนต่างก็สงสัยกัน” 

    ลู่หานกับวิกตอเรียยืนฟังคำพูดหลอกลวงแล้วก็ได้แต่รู้สึกโกรธแค้นในใจ วิกตอเรียกกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟที่ถือเครื่องดื่มเดินผ่านให้หยุด เธอหยิบเอาเครื่องดื่มหนึ่งแก้วและวหันไปถามลู่หาน “เอาด้วยไหม?” 

    ลู่หานสายหน้าเธอจึงบอกให้เด็กเสิร์ฟไปได้

    “ไอหยาา เหล้านี่รสชาติแย่ชะมัดกล้าดียังถึงเอาเข้ามาในบ้านหลังนี้” เธอพูดพลางทำท่าแสบคอ ลู่หานมองป้าตัวเองแล้วส่ายหัวไปมาตกลงเธอเป็นคนยังไงกันแน่ ไม่เจอกันนานลู่หานชักจะไม่รู้นิสัยป้าเสียแล้ว

     

    ลู่หานละสายตาออกจากคุณป้าคนสวยกลับได้พบกับคุณเซฮุนที่ยืนอยู่อีกฟากของเวทีเขากำลังคุยกับซูฮวาและคุณนายซูเจียวอย่างสนุกสนาน ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณเซฮุนแบบนั้นลู่หานไม่เคยได้สัมผัสมันเลย นอกจากสายตาที่เย็นชาและการกระทำที่ชวนสับสนแล้วลู่หานไม่ได้รับอะไรเลย

     

    “ผมคิดถึงลูกชายของผมมาโดยตลอด ผมส่งคนไปตามหาที่ถนนเส้นนั้นแต่ก็ไม่มีใครแจ้งเบาะเเสอะไรได้เลย นอกจากเห็นซากรถที่ตกอยู่ตีนเขาที่เป็นข่าวใหญ่ตอนนั้นทุกคนคงจำได้ดี เอาล่ะผมขอให้พวกคุณอยู่ก่อนเพราะเราจะมีงานเลี้ยงต่อ เพื่อขอบคุณที่ทุกคนนั้นได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน” เขาแสร้งพูดด้วยใบหน้าเศร้าโศรก เหล่านักข่าวและเเขกทั้งหลายก็ทำหน้าเห็นอกเห็นใจด้วยความสงสาร 

     

    “น่าสงสารคุณเขานะครับ ภรรยาก็ตายไม่มีสาเหตุลูกชายคนเดียวก็ยังมาตายอีกยังดีที่เขามีคุณนายซูเจียวอยู่ข้างๆ เห้อ..” 

     

    “นั่นน่ะสิ ตอนแรกผมก็ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนั้น แต่คุณมู่เหยาเขาคงต้งการกำลังใจจริงๆ”

     

    ‘มู่เหยา คือชื่อของพ่อลู่หาน’

    ลู่หานและป้ากำลังยืนฟังบทสนสนทนาอยู่ด้านหลัง วิกตอเรียเผลอเบะปากหนึ่งทีก่อนจะกล่าว “อย่างน้อยเขาก็ควรเสียใจเรื่องภรรยาให้นานกว่านี้หน่อยนะคะ ถ้าฉันเป็นถรรยาเขาฉันคงลุขึ้นจากหลุมมาบีบคอเขาให้ตายคางานแต่งแล้ว”  พูดจบก็ยิ้มหวานให้สร้างความงุนงงให้กับคู่สนทนาเมื่อครู่

     

    “ป้าวิกจะทำยังไงต่อ” ลู่หานถาม

     

    “เธอคิดจะทำยังไงล่ะ” เธอถามกลับ 

     

    “ผมจะเปิดเผยตัวตนในงานนี้” ลูหานตอบ

     

    “เอางั้นก็ได้” วิกตอเรียยิ้มให้หลานพร้อมกับโอบไหล่บางเอาไว้ ในใจก็นึกสงสัยว่านี่หลานฉันอดอยากปากแห้งขนาดไหนกันตัวถึงได้ซูบผอมขนาดนี้

     

    “เรื่องบริษัทและมรดกผมจะให้ทนายของผมจัดการตามขั้นตอนต่อไป ทุกอย่างจะเปิดเผยและโปร่งใสทุกท่านอย่าได้กังวลนะครับ” เมื่อผู้พูดกล่าวจบก็มีเสียปรบมือเสียงดังสนั่น มู่เหยาลงเวทีลงมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเดินไปจับมือกับคนนั้นทีคนนี้ที ทุกคนต่างก็ให้กำลังใจและชื่นชมเขาทำให้เขายิ่งได้ใจไปยกใหญ่

     

    กึกๆๆ! เสียงเคาะไมค์ดังขึ้นทำให้ผู้คนในงานต่างก็พากันหันไปทางด้านหน้าเวที บนเวทีมีผู้หญิงใส่ชุดกระโปรงยาวสีดำปต่กลับดูเซ็กซี่ไม่น้อย ทั้งรูปร่างหน้าตาและทรงผมนั้นต่างก็เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี และเด็กผูชายที่ยืนอยู่ข้างๆก็ดูดีไม่แพ้กัน นักข่าวสำนักต่างๆก็พากันถ่ายรูปเอาไว้เพราะหวังว่าจะสามารถเอาไปทำข่าวได้ คงจะเป็นข่าวดังด้วย

     

    “อะฮึ่ม! สวัสดีแขกผู้มีเกียติรทุกคนนะคะ” วิกตอเรียจัยไมค์พูด 

     

    เซฮุนเองก็มองขึ้นไปบนเวทีเหมือนกับทุกคน ทันทีทีเห็นลู่หานในหัวเขามีแต่ความสงสัยและสับเต็มไปหมดและดูเหมือนว่าคนตัวเล็กที่อยู่ด้านบนนนั้นจะมองลงมาเช่นกัน ทันทีเห็นเขาลู่หานก็รีบหลบสายตาไปทางอื่น

     

    “เมื่อครู่นี้คุณมู่เหยาพูดผิดไปนิดหน่อยนะคะ เรื่องเเรกบริษัทแห่งนี้เดิมทีเป็นของตระกูลเสี่ยวตั้งแต่บรรบุรษที่ขยายสาขามาจากฮ่องกงและถูกตัดขาดเนื่องจากมีเงื่อนไขบางอย่างซึ่งคุณน่าจะรู้ดี แต่คุณกลับยังใช้ชื่อของบริษัทใหญ่ทำมาหากินมาตลอดนั่นแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ต้องการเป็นเจ้าของเอง” เธอกล่าว เงื่อไขที่ว่าเกิดขึ้นหลังจากที่คุณหญิงเสี่ยวมี่ตาย คุณหญิงใหญ่เลยจำเป็นต้องมอบริษัทนี้ให้ลูกเขยดูเเล แต่ทว่าลูกเขยกลับแต่งงานใหม่ทำให้ท่านไม่พอใจจึงสั่งยุติข้อเสนอแรก แต่ด้วยความหัวหมอของมุ่เหยาที่ใช้อาลู่เป็นข้อต่อรองจึงทำให้คุณหญิงใหญ่ยอมให้บริษัท แต่!ต้องเปลี่ยนชื่อบริษัท

    มู่เหยาเห็นว่าการเปลี่ยนชื่อจะให้เสียลูกค้าและไม่น่าเชื่อถือเท่ากับต้องดิ้นรนหาใหม่ทั้งหมดแต่มู่เหยาไม่ใช่คนขยันสร้างเช่นนั้นจึงคิดหาวิธีแปลงมรดกแทน เพราะหลังจากที่ตกลงกันคุณหญิงใหญ่ก็ตายตามไปจึงไม่มีใครวอแวกับเขาอีกทำให้เขารุ่งเรืองถึงปัจจุบัน

     

    “ใช่ค่ะ พวกคุณถูกหลอกร่วมลงทุนมาตลอดถ้าจะพูดให้ถูกก็คือบริษัทเสี่ยวที่คุณมู่เหยากำลังบริหารอยู่ คือของปลอม บริษัทใหญ่ไม่มีความเกี่ยวข้องด้วย”

     

    “เขาโกหก!” มู่เหยาตะโกนจากด้านล่างเวที “รปภ.จับมันออกไป!” เขากล่าวอย่างฉุนเฉียว

     

    “ใครเข้ามาได้เห็นดีแน่” วิกตอเรียขู่ “ใจเย็นๆค่ะ ยังมีอีกเรื่องก็คือลูกชายของคุณยังไม่ตายนะคะข่าวในปีนั้นเป็นข่าวปลอมด้วย รถไปไดเสียหลักตกเขา แต่กลับเป็นการจงใจวางแผนส่งเด็กไปตายต่างหาก ” เธอหันกลับมาดึงแขนหลานให้อยู่ในระดับเดียวกับตนเอง

     

    “เสี่ยว ลู่หาน หรืออาลู่ที่ทุกคนชอบเรียกไงคะ” แขกทุกต่างทำหน้าตกอกตกใจกันยกใหญ่นักข่าวรัวกดชัตเตอร์จนนิ้วพันกันไปหมด เซฮุนเองก็ตกใจเช่นกัน สิ่งทีเขาเคยสงสัยเป็นจริงลู่หานกับซูฮวาเกี่ยวข้องกันจริงๆ

     

    “เสี่ยวมู่เหยา ขนาดแต่งงานใหม่แล้วยังกล้าใจแซ่นี้อยู่ และยังกล้าดีแบ่งให้ลูกให้เมียใหม่ใช้สร้างความเสียหายแก่ตระกูฉันด้วย! ”วิกตอเรียพลั้งตะโกนใส่ไมค์อย่างเดือดดาล “ฉันจะไม่ทนอีกแล้ว จากนี้เราจะมาสู้คดีกันมีหลักฐานอะไรให้งัดมันออกมาให้หมด! ใครจะแพ้ใครจะชนะต้องมาลุ้นกันหน่อย” เธอแสยะยิ้ม

     

    “คนที่โกหกต้องเปนเธออยู่แล้ว เธอเป็นใครมาจากไหนก็ไม่มีใครรู้!” มู่เหยา

     

    “ผมคงจะดูดีขึ้นเยอะเลยสินะครับจนทุกคนจำผมไม่ได้ แม้กระทั่งซูฮวา….”ลู่หานเหลือบมองเธอที่ยืนกำมือแน่นอยู่ข้างเซฮุน ในใจของลู่หานรู้สึกเจ็บปวดเมื่อมองเห็นสายตาที่เซฮุนส่งมา มันทั้งแข็งกระด้างเต็มไปด้วยความโกรธ “ถ้าไม่เชื่อว่าผมคืออาลู่จะให้ผมเล่าให้ฟังไหมครับ ว่าตอนเด็กผมถูกตีกี่ครั้ง ถูกส่งไปโรงพยาบาลบ้ากี่ครั้ง หรือว่าต้องไปโรงเรียนด้วยนามสกุลของป้าคนใช้กี่ครัง…..” ลู่หานอดไม่ได้ที่จะไม่ปล่อยน้ำตาออกมา 

    แขกในงานตอนนี้รู้สึกสงสารเด็กคนนี้มากกว่ามู่เหย่าเมื่อครู่อีก ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งผู้คนก็ให้ความสนใจแล้ว!

     

    “ไม่จริง! ไอ้เด็กนี่มันหลอกลวงพวกเรารักอาลู่มากๆ! จะไปทำแบบนั้นได้ยังไง! ”ซูเจียวที่ยืนฟังมานานกล่าวขึ้น

     

    “ผมจะกลับมาเอาทุกอย่างที่เป็นของแม่คืน และผมจะทำลายทุกอย่างที่พ่อสร้างขึ้นเอง!” ลู่หานประกาศกร้าวใส่ไมค์แล้ววิ่งออกไปข้างนอก ทิ้งใหป้าวิกพูดเรื่องราวต่อ

     

    เซฮุนสะบัดมือซูฮวาออกแล้ววิ่งอ้อมหลังเวทีตามลู่หานไป ซูฮวาทำอะไรไม่ถูกจึงร้องไห้ออกมากลางวงให้น้องสาวปลอบ

     

    ลู่หานวิ่งออกมาถึงสวนหน้าบ้านคนตัวเล็กนั่งย่อลงกับพื้นกอดเข่าร้องไห้อย่างหนักหน่วง ความอุ่นจากมือใครสักคนถูกแผ่กระจายทั่วไหล่ทั้งสองข้าง ลู่หานหันกายกลับไปก็เห็นเจ้าของมือนั่งคุกเข่าลงจับเขาไว้ “คุณเซฮุน…ฮึก..ผมขอโทษ..ฮือออ” 

     

    “ทำไมไม่บอกฉัน” เซฮุนถามเสียงเรียบ

     

    “เพราะ…ฮึกก..คุณมันโง่ไง! …ถึงถูกหลอกได้ง่ายแบบนี้!” ลู่หานแยากจะบอกไปว่าเพราะรักคุณเซฮุน แต่กลับพูดสิ่งนั้นออกไปแทนลู่หานไม่ต้องการให้คุณเซฮุนมายุ่งกับเขาอีกแล้ว เขามันผิดตั้งแต่แรกที่ตั้งใจจะแก้แค้นโดยใช้เซฮุน ทำไมเขาไม่คิดวิธีที่ดีกว่านี้เขาอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายเสียจริง!

     

    “นายหลอกฉันมาตลอดเลยหรอ” เซฮุนถาม “ ฉันคิดว่านายชอบฉันเสียอีก” เซฮุนกล่าวต่อ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

     

    ลู่หานตอบ “เพราะซูฮวาชอบคุณ…ผมเลยจะปก้แค้น! และคุณเองก็เข้าหาผมถูกเวลาจริงผมไม่ต้องลงแรงอะไรก็ได้แก้แค้นไปครึ่งหนึ่งแล้ว!” ลู่หานพยามหัวเราะกลบเกลื่อนน้ำตาที่มี “หรือว่าคุณชอบผมหรือไง? ใจง่ายจังนะเซฮุนฮ่าๆๆ” 

     

    “เราอย่าเจอกันอีกเลย ลู่หาน” เซฮุนเดินจากไปแล้ว ในใจลู่หานกรีดร้องว่าอย่าไปดังขนาดไหนใครจะได้ยินลู่หานทรุดตัวลงไปกองกับพื้นร้องไห้จนแทบจะหายใจไม่ออกก็ยังไม่หายเจ็บปวดใจได้เลย

     

     

    กลับมาแล้ว

    1เม้น 1 ความคิดเห็นเป็นกำลังใจให้เค้าแต่งต่อได้น้าาาา

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×