คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : RESIGN
ลู่หานถูกพาตัวมาที่โรงพยาบาลตามที่เซฮุนคิดไม่มีผิด ลู่หานใช้แขนตัวเองกระแทกไปที่พื้นอย่างแรงทำให้กระดูกเคล็ดผิดรูปต้องใช้เวลาเข้าเฝือกอยู่ประมาณหนึ่งเดือน ลู่หานจะกลายเป็นคนพิการไปหนึ่งเดือนเลยหรือแค่คิดลู่หานก็รู้สึกรำคาญแล้ว จะทำอะไรก็ดูลำบากไปหมดโชคดีที่เป็นแขนซ้าย ถ้าเป็นที่เเขนขวามีหวังลู่หานได้กลายเป็นคนซู่มซ่ามอย่างเต็มรูปแบบเเน่ๆ
"ญาติของคุณ เสี่ยว ลู่หานค่ะ" เสียงพยาบาลเอ่ยเรียกชื่อทำให้เซฮุนหันขวับทันที นามสกุลของลู่หานเป็นนามสกุลเดียวกับบ้านซูฮวาหรอ
"ผมครับ" เซฮุนขานรับ
"เชิญเซ็นเอกสารและชำระเงินด้านนั้นนะคะ" พยาบาลสาวตอบ
"ครับ"
เซ็นเอกสารไปเซฮุนก็คิดไป ซูฮวากับลู่หานมีอะไรเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า และท่าทีของลู่หานบางครั้งก็น่าสงสัยทั้งวันที่ไปงานเลี้ยง วันที่เจอซูฮวาและวันที่เซฮุนเจอไป๋หรงที่บ้านลู่หานอีก
"คุณเซฮุน.." ลู่หานเดินพายแขนตัวเองมาด้วยท่าทีระมัดระวังกลัวจะไปชนใครเข้า
"เสี่ยว ลู่หาน?" เซฮุนเอ่ย
ลู่หานเบิกตาโพรง เขาลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเขาไม่เคยบอกชื่อจริงกับเซฮุนเลย และนามสกุลนั่นอีกซวยแล้วลู่หาน
"ครับ? ชื่อผมเพราะใช่ไหมล่ะ" ลู่หานแกล้งทำเป็นไขสือ
"จนกว่าแขนจะหาย นายต้องไปอยู่กับฉัน" เซฮุนพูดเสียงเรียบ
"ไม่เอา ผมอยากอยู่บ้าน" ลู่หาน
"อย่าดื้อ" เซฮุนยัดยาและใบเสร็จใส่ถุงและเดินนำหน้าออกไป ลู่หานเองก็ต้องรีบเดินตามเช่นกัน
RRRRrrrr~เสียงโทรศัพท์ของลู่หานดังจากกระเป๋ากางเกง แขนข้างที่ไม่เจ็บพยายามล้วงเอาโทรศัพท์ที่อยู่กระเป๋าอีกฝั่งอย่างลำบาก น้าผิงนะน้าผิงถึงจะรีบแค่ไหนก็ไม่ควรยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าด้านซ้ายสิ!
"ให้ผมช่วยไหมครับ?" ระหว่างนั้นก็มีหมอคนหนึ่งเข้ามาหา และช่วยหยิบเอาโทรศัพท์ให้ลู่หานเผลอจ้องหน้าหมอไปสามวินาทีก่อนจะรีบรับโทรศัพท์ หมอคนนี้ดูหล่อไม่แพ้เซฮุนเลยจริงๆ
"ครับน้าไป๋หรง" ลู่หาน
"อะไรนะครับ!?"
"ได้ครับๆๆ ผมจะรีบกลับบ้าน"
พูดจบลู่หานก็รีบเดินออกมาแต่พอรู้สึกได้ว่ามีคนยืนอยู่ข้างๆก็ไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณ
"คุณนะครับคุณหมอ..." ลู่หานแอบหันไปดูป้ายชื่อ อู๋อี้ฟาน"
"ครับบ" หมอหนุ่มส่งยิ้มให้กับคนไข้ด้วยความเอ็นดู
ลู่หานเองก็ยิ้มตอบเช่นกัน
"ลู่หาน!" เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้ลู่หานสะดุ้งโหยง กว่าจะหันกลับไปมอง ก็ถูกคว้าแขนเอาไว้ซะแล้ว...
"มาหว่านเสน่ห์อะไรตรงนี้อีก จะกลับไหมบ้าน" ลู่หานมองค้อนเซฮุนไปหนึ่งทีก่อนจะหันกลับไปกล่าวขอบคุณคุณหมอที่ยืนอยู่
"ขอบคุณนะครับคุณหมอ ผมขอตัวกลับแล้วนะครับ" ลู่หาน
"ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ และคุณเองก็ด้วยอย่ารุนแรงกับผู้ป่วยเหมือนเมื่อครู่นี้อีกนะครับเพราะมันอาจจะกระทบกระเทือนภายในได้ ถ้ามีอะไรแนะนำให้ใจเย็นๆก่อนค่อยคุยนะครับ" คุณหมอฝานสั่งสอนคนตรงหน้าที่นืนทำหน้าบึ้งทะมึนทึนอยู่
"ไปได้แล้ว" เซฮุนไม่เอาหูรับฟังคำพูดของหมอเอาไว้ในสมองแต่ก็จับมืออีกข้างของลู่หานจูงเดินไปด้วยกันเบาๆ
"คุณเซฮุนอารมณ์ไม่ดีหรอ ผมขอโทษนะครับ" ลู่หานพูดเบาๆ
"ขอโทษทำไม หรือคิดว่าฉันหึงนายหรอ?" เซฮุนเดินหน้าตรงไม่หันมองลู่หานแม้แต่น้อย
"เปล่าครับ..." ลู่หานลืมคิดไปเลยว่าเรื่องเซฮุนกับเขาเป็นแค่ข้อตกลงกัน อีกไม่นานเซฮุนก็คงจะเบื่อและทิ้งเขาไปแน่นอน แต่การกระทำของเซฮุนบางอย่างนั้นก็ทำให้ลู่หานเผลอสำคัญตัวไปคนเดียว คนตัวเล็กแค่นยิ้มประชดความน่าสมเพชของตัวเองคนเดียว เซฮุนไม่เห็นมันหรอก
ลู่หานลืมไปเสียสนิทว่าเมื่อครู่น้าผิงโทรมา เมื่อนึกขึ้นได้ก็ว่าจะให้เซฮุนไปส่ง แต่เซฮุนยื่นคำขาดมาแล้วว่าจะให้เขาไปอยู่ที่บ้านด้วยเซฮุนต้องไม่ยอมแน่นอน ลู่หานอาศัยช่วงที่เซฮุนเดินไปซื้อกาแฟแอบเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลอย่างรุกรี้รุกรน
ลู่หานยกแขนข้างที่ไม่เจ็บขึ้นโบกรถแท็กซี่คันที่กำลังวิ่งใกล้เข้ามา เมื่อรถแท็กซี่ใกล้จะหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วหางตาของเจ้ากวางน้อยดันเหลือบไปเห็นคุณเซฮุนที่กำลังวิ่งหน้าตั้งออกมาหน้าโรงพยาบาลและล้วงเอาโทรศัพท์ยกขึ้นแนบหูโทรหาใครสักคน และคนคนนั้นก็คือเจ้าแมวน้อยในคราบกวางนี่เอง
ลู่หานปัดหน้าจอทิ้งไม่รับสายเซฮุนและรีบโทรกลับหาน้าผิงให้เปลี่ยนจากเจอกันที่บ้านเป็นที่อื่นแทนเพราะลู่หานมั่นใจว่าเซฮุนต้องตามเขาไปถึงบ้านแน่นอน คนตัวเล็กชะเง้อคอมองทางอย่างรีบร้อนแต่การกระทำนั้นก็ไม่ได้ทำให้คนขับรถขับเร็วขึ้นเลย
“พี่ขับเร็วกว่านี้ได้ไหม ผมรีบ” ลู่หานพูดกับคนขับ
“โถ่น้อง นี่ก็เร็วแล้วนะเร็วกว่านี้ตำรวจได้จับพอดี” คนขับหันกลับมาตอบและขับรถต่อไป
ลู่หานเถียงไม่ออกเพราะกฑหมายก็คือฎหมายถึงจะอยากบอกไปว่าก็ช่างสิ เดี๋ยวค่อยไปจ่ายค่าปรับทีหลังก็เกรงว่าพี่แท็กซี่คนนี้จะเสียประวัติไปด้วย ลู่หานแอบเป็นกังวลในใจอยู่ว่าคุณเซฮุนจะรู้สึกตะหงิดถึงนามสกุลของเขาหรือเปล่าแต่ถึงจะสงสัยก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะบนโลกนี้ไม่ได้มีคนนามสกุลเสี่ยวแค่คนเดียวนี่
กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนแนบพิงไปที่กระจกรถทอดสายตามองเส้นถนนไปอย่างเลื่อนลอย ในใจดวงน้อยพลันคิดว่าถ้าหากแม่เขายังอยู่เขาคงไม่ต้องมาทุกข์ระทมใจขนาดนี้ ถ้าหากไม่เป็นคนที่สูญเสียคงไม่เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกที่เหมือนรอคอยใครสักคนที่ไม่วันกลับมามันเป็นเช่นไร ลู่หานภาวนาขอให้เรื่องทั้งหมเเป็นเพียงความฝัน เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น ขอให้ไม่พรุ่งนี้ ไม่เดือนหน้า ปีหน้าหรืออีกกี่สิบปีขอให้แม่กลับมาหาเขา และบอกให้เขาตื่นจากฝันร้ายหากแม่จะจากเขาไปอีกครั้งก็ขอให้เขาได้บอกลาแม่ด้วยตัวเอง ‘อาลู่คิดถึงแม่เหลือเกิน’
หยดน้ำใสรินไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง บนโลกนี้ไม่มีใครไม่เคยร้องไห้ ไม่มีใครไม่เคยเสียใจ และไม่มีใครไม่เคยโกรธแค้น ลู่หานใช้มือปาดน้ำตาอย่างลวกๆ ให้ตายสิเขาสัญญากับตัวเองแล้วแท้ๆว่าจะไม่ร้องไห้แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ใจดวงน้อยนี้รู้สึกปวดหนึบไปหมดแล้ว
ขายาวเรียวก้าวลงจากรถแท็กซี่และเดินตรงเข้าไปยังบ้านไม้เก่าหลังหนึ่ง น้าผิงบอกว่านี่เป็นบ้านของคุณแม่ที่ซื้อไว้เมื่อนานมาแล้วตอนเด็กๆอาลู่ชอบมาเล่นที่นี่ประจำ และทุกครั้งก็จะไปนั่งเล่นกันที่ใต้ต้นส้มแต่ตอนนี้ลู่หานจำมันไม่ได้หรอก เรื่องความสุขที่เคยมีลู่หานจดจำมันไม่ได้แล้ว และลู่หานก็ไม่อยากจำมันด้วยเพราะมันทำให้ลู่หานอ่อนแอเหลือเกิน
“คุณลู่หานคะ” น้าผิงเดินลงมาจากบันไดอย่างระวัง
“น้าผิง มาถึงนานยังครับ” ลู่หานถาม
“เมื่อครู่คุณเซฮุนกระหน่ำโทรมาจนโทรศัพท์น้าสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” น้าผิงถาม
“น้าผิงได้รับหรือเปล่าครับ”
“ไม่ค่ะ เพราะน้าเดาว่าคุณลู่หานต้องแอบหนีมาแน่”
ลู่หานคลายยิ้มบางๆก่อนจะเดินขึ้นบ้านไป ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีแต่มีฝุ่นเกรอะกรังนิดหน่อยเป็นธรรมดา
มือเรียวถูไปยังสิ่งของต่างๆทำให้ฝุ่นติดมือขึ้นมา ลู่หานยกมือขึ้นมาดูและแค่นยิ้มออกมาคล้ายกับพวกกับโรคจิตร
“พรุ่งนี้คุณผู้ชายจะแถลงการณ์เรื่องมรดกทั้งหมดของคุณหญิงเสี่ยวมี่ พี่ไป๋หรงบอกว่ามรดกจะแบ่งออกสองส่วนเพื่อให้คุณซูฮวากับคุณหนูคนเล็กเหมยอิงค่ะ และก็จะแถลงการณ์ว่าคุณหนูประสบอุบัติเหตุรถตกเขาหาศพไม่เจอด้วยค่ะ” น้าผิงกัดฟันพูด ถึงแม้จะไม่อยากพูดก็ตาม
“เลวที่สุด คนพวกนี้…ไม่มีใครสำนึกเลยสินะ” ลู่หานกัดฟันพูดด้วยตาแดงก่ำ สองมือกำแน่นเข้าหากันราวจะบีบกะโหลกพวกคนทรยศให้ตายคามือให้ได้
“พี่ไป๋หรงได้หลักฐานอีกอย่างมาค่ะ คุณลู่หานจำคุณซ่งเชี่ยนได้หรือเปล่าคะ” น้าผิงถาม
“ป้าวิคตอเรีย? ” ลู่หานถามย้ำเพราะป้าของเขามีอยู่สองชื่อเมื่ออยู่ในประทศจะชื่อ ‘ซ่งเชี่ยน’ แต่ถ้าออกนอกประเทศจะใช้ชื่อ ‘วิคตอเรีย’ ป้าคนนี้เคยมาหาอาลู่บ่อยๆสมัยเด็กและเป็นคนที่พยายามจะพาอาลู่ออกมาจากขุมนรกนั่น แต่ก็ไม่สำเร็จ
“ใช่ค่ะ พี่ไป๋หรงเพิ่งจะติดต่อคุณหญิงได้เพราะเธอไปอยู๋ต่างประเทศนานและไม่กลับมาอีกเลยไม่มีใครทราบที่อยู่ที่แน่ชัดของเธอเลยค่ะ” น้าผิง
“แล้วตอนนี้ป้าอยู่ไหน?” ลูหานถาม
“เธอกำลังเดินทางมาค่ะ ไม่แน่ว่าอาจจะถึงคืนนี้”
ลู่หานรู้สึกหัวใจพองโตเป็นอย่างมากตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาลืมไปสนิทเลยว่ายังมีป้าคนนี้อยู่ ที่เป็นคนของตระกูลเสี่ยวที่แท้จริงและมีศักดิ์เป็นถึงพี่สาวของเสี่ยวมี่ แต่ไม่รู็เหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นถึงพาอาลู่ออกมาจากที่นั่นไม่ได้
ลู่หานค่อยๆปัดฝุ่นออกจากโซฟาเพื่อหาพื้นที่สำหรับพักผ่อน ก่อนจะเอนกายบางลงไปน้าผิงก็นั่งหลับอยู่ข้างๆด้วยพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ลู๋หานต้องเจ็บปวดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมรดกหรือเรื่องของคุณเซฮุน คุณเซฮุนจะทำหน้าอย่างไรถ้าหากรู็ความจริงยังจะอยู่ข้างลู่หานอยู่ไหม ยังจะให้ลู่หานเป็นคู่ค้าอีกไหม ลู่หานยังต้องการคุณนะคุณเซฮุนช่วยทำธุรกิจของเราต่อเถอะนะ…
เช้าวันรุ่งขึ้นรถเก๋งสีดำคันหรูสองสามคันมาจอดเรียงกันอยู่หน้าบ้าน ลู่หานกับน้าผิงรีบเดินออกไปดูก็ปรากฏให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เส้นผมดำขลิบทั้งยาวสลวยสวยงาม รูปร่างสูงโปร่งสง่างามรามกับนางแบบต่างประเทศ ใบหน้าสวยราวกับพระเจ้าสรรค์สร้างอย่างปราณีตดวงตาทั้งสองถูกปิดด้วยแว่นตาแฟชั่นราคาแพงสีดำกำลังยืนกางร่มอยู่หน้ารถ
“จะไม่ลงมาหาป้าหน่อยหรือ อาลู่” เธอเรียก
ลู่หานน้ำตาไหลพรากชื่อนี้ของเขาไม่ได้ถูกเรียกมานานแสนนาน เมื่อได้ยินคนเรียกอีกครั้งก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งจนน้ำตาไหล ลู่หานวิ่งเข้าผู้เป็นป้าอย่างไม่ลังเล เเละป้าคนสวยเองก็อ้าแขนรับหลานชายตัวน้อยๆเอาไว้ในอ้อมอก
“น้องสาวฉันแต่งงานเร็วเกินไปหน่อยสินะ หลานฉันได้โตเร็วขนาดนี้” เธอกล่าว
“ผมลืมไปเลยว่ามีป้าวิคตอเรียอยู่ ฮือๆๆ” ลู่หานกระชับกอดแน่นและร้องไห้ราวกับเด็ก
“เรียกฉันว่าวิคตอเรียเฉยๆเถอะนะ ฉันไม่ชินกับคำว่าป้าเท่าไหร่” เธอพูดหยอก “ป้าขอโทษนะที่ยอมแพ้ ไม่พยายามพาอาลู่ออกมาให้ได้ ป้ารักอาลู่มากนะรู็ไหม” เธอกอดหลานชายแน่นขึ้นมากกว่าเดิม เธอยอมรับว่าเธอรู้สึกผิดกับเรื่องของลู๋หานมาตลอดเด็กคนนี้เธอรักมากเหมือนกับว่าลูกของเธอ เมื่อได้ยินข่าวว่ารถตกเขาในตอนนั้นเธอก็ทำอะไรไม่ถูกเสียสติไปอยู่สองสามเดือนกว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ก็ลำบากเช่นกัน
“เรามาแก้แค้นกันเถอะ” เธอจับไหล่ทั้งสองข้างของหลายชายและจ้องมองเข้าไปยังนัยต์ตาใสอย่างจริงจัง
มาแล้วทุกคนนน คิดถึงเค้ามั้ย!!! คงไม่555
คือหลายวันมานี้เค้าเครียดมาก ก็เลยตัดสินใจซิ่วเเล้ว
เรียนไปด้วยเครียดไปด้วยคงไม่ดีใช่ม้าาา เค้าจะค้นหาตัวเองอีกรอบก่อนแล้วค่อยไปเรียนใหม่!
ระหว่างนี้เค้าจะมาคลายเครียดด้วยนิยายซะเลยย
เค้าคิดว่าชีวิตเราไม่จำเป็นต้องเดินเป็นเส้นตรง เรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบม.6 ได้ทุกคนเก่งมากเลยนะ
ป.ตรีน่ะ ให้สบายจิตก่อนค่อยกลับไปใหม่ก็ได้ ถ้าจะเรียนต้องใช้ความสุขเรียนสิ!!
ความคิดเห็น