คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : UNKNOW
อาลู่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่แสนจะหงุดหงิดดึงผ้าห่มมาคลุมหัวไว้จนมิดและเอามืออุดหูไว้อย่างแน่นแต่มิวายยังมีเสียงเล็ดลอเข้มาได้อีก ใครจะไปชอบใจล่ะถ้าหากกำลังฝันดีๆอยู่แล้วดันที่คนมาดับฝันซะได้
"ใครรร!" อาลู่ตะโกนเสียงแข็ง
"ลู่หาน! นี่แกกล้าตะโกนใส่ฉันหรือ!" เสียงแสบแก้วหูที่ลู่หานเกลียดที่สุดในชีวิตกำลังยืนเคาะประตูเสียงดังอย่างไม่ยอมลดความแรงลง
"ซวยแล้ว!" อาลู่สะดุ้งโหยงลุกออกจากที่นอนด้วยความว่องไวไปเปิดประตูห้อง
"หึ ขี้เกียจสันหลังยาวแบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอไม่ได้เป็นคุณหนูนะ" เธอพูดด้วยสีหน้าดูถูก
" ขอโทษครับ คราวหลังผมจะระวังไม่ให้ตื่นสายอีก" อาลู่โค้งหัวเล็กน้อย
เธอเบะปากอย่างพึงพอใจพลางยกแขนขึ้นกอดอกมองความน่าสมเพชนี้ เธอนึกในใจว่านี่น่ะหรือลูกคุณหญิงเสี่ยวมีผู้มีตระกูลดี ตอนนี้ถูกฉันคนนี้เหยีบจนผุจากตมไม่ได้เลยแหละ คุณหญิงคนใหม่ของบ้านที่ไม่เป็นที่ต้อนรับเท่าไหร่ยืนกวาดสายตามองบ้านหลังเล็กซอมซ่อแห่งนี้ด้วยความสะใจ
"บ้านเธอก็สะอาดดีนี่ ฉันคงต้องถอนคำพูดที่ว่าเธอขี้เกียจหน่อยแล้ว" เธอกล่าว
"ไม่เป็นไรครับ คุณน้ามีอะไรรึเปล่าครับถึงได้มาหาผมที่นี่" อาลู่สงสัยเพราะต่อให้เขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรคนบ้านนั้นก็ไม่คิดจะมาเหยียบที่นี่เลย
"ฉันจะมาบอกว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้แล้ว" เธอนั่งลงตรงโซฟาที่คิดว่าสะอาดทีสุดแล้วพร้อมยกขาไกว่ห้างอย่างสง่า
"ทำไมหรือครับ" อาลู่คิดว่าเธอคงจะให้เขากลับไปอยู่บ้านใหญ่แน่ๆ
"ฉันคุยกันคุณท่านไว้ว่าจะส่งเธอไปฮ่องกง" เธอลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมมาจับไหล่ของอาลู่พร้อมกระซิบ "ที่ที่แม่ของเธอเคยอยู่ไง" เธอยิ้มอย่างมีเสศนัย
"คุณหมายความว่ายังไง จะส่งผมไปอยู่กับคุณยายหรอ!" อาลู่รู้สึกดีใจที่จะได้เจอคุณยายที่แสนจะคิดถึงเพราะตั้งแต่คุณแม่เสียไปเขาก็ไม่ได้พบญาติทางฝ่ายแม่อีกเลย
"ไม่ใช่หรอก แค่ประเทศที่แม่เธอเคยอยู่แต่ไม่ใช่ที่ที่แม่เธออยู่สักหน่อย" เธอยิ้ม
"แล้วจะส่งผมไปที่ไหน" อาลู่ถาม
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้ รีบเก็บของซะ" มือเรียวผลักให้เด็กชายตัวเล็กให้ไปทำตามคำสั่งเธอ อาลู่ก็ยอมทำตามอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ "เก็บไปเท่าที่จำเป็น ฉันจะส่งคนมารับ" เธอพูดจบก็เดินจากออกไป
อาลู่เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าทีละตัวทีละตัวพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใส ทำไมเด็กชายที่มีอายุแค่สิบห้าปีคนนี้ต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆแบบนี้ด้วย ความสุขที่เคยมีมามันเป็นแค่ความฝันหรือเรื่องหลอกลวงกันแน่มือน้อยยกขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนจะลุกไปหยิบเอากรอบรูปที่แอบซ่อนไว้บนหัวเตียงมาตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่
"แม่ครับฮึก...ผมต้องทำยังไงดีฮือๆ..แม่ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับ" อาลู่นั่งทรุดลงกับพื้นกอดกรอบรูปที่มีใบหน้าของผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกคนหนึ่งเอาไว้แน่น เขาร้องไห้จนแทบขาดใจก่อนจะเรียกสติตัวเองให้กลับมาจัดกระเป๋าต่อก่อนที่คุณหญิงคนนั้นจะมาโวยวาย
ไม่นานนักก็มีรถยนต์สีดำมาจอดรอพร้อมกับผู้ชายสสูทดำสองคนที่ยืนรอรับเอากระเป๋า อาลู่หันไปมองคุณหญิงที่ยืนกอดอกยิ้มแฉ่งอย่างมีความสุข ข้างกายยังมีลูกสาวคนโตยืนอยู่ด้วยและทำท่าทางเหมือนคนเป็นแม่ไม่มีผิดถ้าเดาไม่ผิดอาลู่คิดว่าหลังจากผู้หญิงคนนี้กลับมาต้องมาเป่าหูอะไรสักอย่างเป็นแน่ เพราะสายตาที่เขามองอาลู่มีแต่ความอิจฉาริษยาและโกรธเกลียดอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าไปแค้นมาจากไหนกันนะ ผู้หญิงที่ชื่อ'ซูฮวา' คนนั้นน่ะ...
"ขอให้มีความสุขกับบ้านใหมนะ" คุณหญิงกล่าวลา แต่ลางสังหรณ์ของอาลู่มั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนสำหรับการย้ายบ้านครั้งนี้ แต่จะให้ทำอย่างไรก็โชคชะตามันกำหนดมาให้อาลู่ไม่มีสิทธิ์เลือกนี่หน่า
"ขอคุณครับ" อาลู่โค้งหัวเล็กน้อยก่อนจะก้าวขาขึ้นรถไป ดวงตาโตกลมสวยราวกับตาของของกวางป่าที่มีทั้งความอ่อนโยนและแข็งแกร่งมองทอดออกไปสู่ความยาวไกลของถนน ไม่รู้ว่าจะจบการเดินทางที่ไหนแต่ชีวิตนี้ของอาลู่ขอใช้มันให้คุ้มค่าที่เหมือนที่คุณแม่สอนมาตั้งแต่เด็ก
อาลู่สังเกตุมาตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้วว่าชายสูทดำอีกคนที่มาด้วยมีท่าทีแปลกๆ เหมือนลุกลี้ลุกลนอย่างไรชอบกลแต่อาลู่ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าอาจจะเป็นลูกน้องคนใหม่ที่อาจจะตื่นเต้นกับงานแรกแทน
"เฮ้ย!! แกจะทำบ้าอะไรวะ!!" คนที่ขับนถอยู่ตะโกนอย่างสุดเสียงเมื่อรู้สึกตัวว่ามีปืนสั้นกระบอกหนึ่งมาจ่อที่หัว และดึงเอาสายสัญญานติดตามออกจากรถ
"ทำตามที่ฉันบอก" คนที่ถือปืนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง อาลู่ที่นั่งอยู่ข้างหลังก็พลันำเข็ดขัดนิรภัยแน่นพร้อมกับถอยหลังนั่งให้ชิดเบาะมากที่สุด อาลู่ไม่เคยลัวขนาดนี้มาก่อนใจดวงน้อยเต้นรุนแรงจนแทบจะทะลักออกมา เมื่อครู่เพิ่งจะปฏิญาณตนว่าจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าแต่กจะมาตายหลังจากนั้นแค่ไม่กี่นาทีเนี่ยนะ เกิดมาซวยจริงๆเลยนะอาลู่
"ฉันทำตามที่แกบอกแล้ว! อะ เอาปืนลงจากหัวฉันก่อน" คนที่ถูกปืนจ่อหัวพูดเสียงสั่น
"จอดรถ!" คนที่ถือปืนตะคอกเสียงดังทำให้รถถูกเหยียบเบรกจนมิด ทำให้อาลู่กระเด็นจนหัวมาชนกระแทกกับเบาะหน้าอย่างจังเขาขบฟันแน่นเพื่อไมให้มีเสียงความเจ็บปวดเล็ดลอดออกมาแม้แต่นิดเดียว
"ลง!" เขาเอาปืนจ่อหัวไม่วางและยังดังเอาปืนพกที่เหน็บอยู่ข้างเอวของชายคนนั้นออกมาด้วย
"คุณด้วย!" อาลู่ไเ้ยินเช่นนั้นก็รีบปลดเข็มขัดและกอดเอากระเป๋าลงไปด้วย
เมื่อลงมาจากรถคนที่ถือปืนก็พาเดินออกมาให้ห่างจากรถลงไปที่ริมถนนข้างทาง ไม่นานนักรถคันนั้นก็ระเบิดตู้ม! เสียงดังสนั่นอาลู่ยกมือขึ้นปิดหูไม่ทันแต่กลับมีมือหนาของชายคนหนึ่งมาปิดไว้ให้แทน เขาปิดจนกระทั่งเสียงระเบิดเงียบลงระดับหนึ่งแล้วจึงคลายมือออก
"คุณหนูลู่หาน ไม่เป็นอะไรนะครับ" ชายหัวล้านที่ถือปืนนั่งย่อลงระดับเดียวกันกับเด็กน้อยพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้ด้วย อาลู่มึนงงไปหมด เขาเป็นใครช่วยอาลู่ไว้ทำไมแล้วอีกอย่างพวกเขาคิดจะฆ่าอาลู่เชียวหรือนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
"ฉ ฉันไปได้ยัง" ชายอีกคนเตรียมท่าจะวิ่งหนีแต่ก็ไม่พ้น มือหยาบเหนี่ยวไกลปืนทันทีที่หันไปมองต้นเสียงนั้น คนที่ยังไม่ทันจะวิ่งออกไปก็ล้มลงกับที่ในร่างที่ไม่มีลมหายใจ
"คุณหนู ผมขอโทษนะครับที่ให้เห็นภาพนี้" เขาหันกลับมาพูดกับอาลู่
"น้าเป็นใครหรือ?" อาลู่ถาม
"ผมเป็นคนของคุณหญิงเสี่ยวมี่ ผู้มีพระคุณกับผมมากที่สุดในชีวิต" เขาตอบ "คุณหนูโตขึ้นเยอะเลยนะครับ คงจำไม่ได้หรอกว่าผมเคยสอนคุณหนูต่อสู้ด้วย " มือสากวางปืนลงแล้วยกขึ้นลูบหัวเด็กชายเบาๆ
"ช่วยผมด้วยนะครับ" อาลู่เอ่ยขอร้องด้วยความตื้นตันเขาไม่คิดว่าจะมีคนกล้าช่วยเขาจริงๆเช่นนี้ น้ำตาแห่งความดีใจไหลอาบแก้มใสของเด็กหนุ่ม
"คุณหนูต้องไม่อ่อนแอนะครับ เราจะมาทวงคืนความยิ่งใหญ่และความยุติธรรมให้คุณหญิงด้วยกัน" เขาพูดอย่างหนักแน่นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง "ผมจะส่งข่าวว่าคุณหนูตายไปแล้ว จะไม่มีใครรู้จักคุณหนูลู่หานและอาลู่อีกต่อไป"
"แล้ว.." อาลู่กลัวว่าจะถูกจับได้และจะพากันซวยไปอีก อีกอย่างเขาจะใช้ชีวิตอย่างไรในโลกนี้ล่ะก็ในเมื่อตัวตนที่แท้จริงของเขาต้องตายไป
"ผมเตรียมทุกอย่างไว้ให้ เพื่อรอวันนี้แล้วครับคุณหนูไม่ต้องกังวลนะครับ" เขาพูดอย่างผ่อนคลายพาให้อาลู่ผ่อนคลายไปด้วย
"ขอบคุณครับ " อาลู่มองหน้าคนตรงหน้าอย่างพิจรณา "น้าช่วยเล่าเรื่องของน้าให้ผมฟังหน่อยสิ เรื่องของคุณแม่ด้วยนะ"
"ได้สิครับ" เขาทั้งสองคนพากันออกเดินเท้าไปยังเป้าหมาย ระหว่างทางอาลู่ก็ได้ฟังเรื่องราวที่ตนไม่รู้มาก่อนทั้งความชั่วร้ายของคน ความอิจฉาริษยาและความโลภของกากลุ่มหนึ่ง ที่รุมกันจิกกัดความสง่างามของนางพญาหงส์ที่สวยงามให้เหลือแต่ความเน่าเฟะทำลายรังที่มีเคยอุดมสมบูรณ์ให้กลายเป็นรังที่สกปรกน่าเกลียด ยิ่งอาลู่ได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกโกรธแค้นไฟในใจรุกโชนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"คุณหนูครับ ผมไม่อยากให้คุณโกรธแค้นนะครับ" เขาคุกเข่าลงอีกครั้ง "ผมไม่ยากให้คุณต้องมาแปดเปื้อน ถ้าคุณต้องการอะไรผมจะเป็คนทำให้ทุกอย่าง ด้วยชีวิตและจิตใจจะไม่มีวันทรยศคุณหนู" เขาจับมือเล็กขึ้นมาจุมพิตอย่างอ่อนโยน แสดงถึงความซื่อสัตย์และอุทิศตัวเองเพื่อรับใช้คนตรงหน้า
"มีคนเคยบอกไหมครับว่าคุณเหมือนคุณหญิงมากเลย ผมรู้สึกเหมือนว่าได้กลับมารับใช้ท่านอีกครั้ง" เขาเงยหน้าจ้องนัยตาใสของเด็กน้อยตรงหน้า
"งั้นผมขอสั่งให้คุณโกรธแค้นแทนผม ทำลายทุกอย่างที่พวกเขาสร้างซะ" เด็กน้อยเอาแต่ใจคนเดิมกลับมาอีกครั้ง "จะให้ผมเรียกน้าว่าอะไรดีล่ะ" อาลู่ถาม
"ไป๋หรง ผมคือไป๋หรง"
"น้าไป๋หรง" อาลู่
"ครับ"
"อยู่ข้างๆผมตลอดไปนะครับ น้าเหมือนเป็นคนในครอบครัวของผมที่หายไปเลย" เขารู้สึกเหมือนว่านี่แหละครอบครัวที่มีอยู่ นับว่าโชคดีที่ชีวิตนี้จะมีคนอยู่ข้างๆอาลู่เสียที เด็กน้อยคนนี้จะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้วอาลู๋ส่งยิ้มตาหยีให้น้าตรงหน้ามือหน้อดไม่ได้ที่จะยีหัวของเด็กชายคนนั้นทันที
ลู่หาน คือ ความเข้มแข็ง
อาลู่ คือความอ่อนโยน
คุณผู้หญิงตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ได้ดีจริงๆ เด็กผู้ชายที่มีทั้งความน่ารักอ่อนโยนและความเด็ดเดี่ยวเข้มเเข็งในคนเดียวกันช่างหายากเสียจริง...
เม้นเป็นกำลังใจให้เค้าด้วยนะ!!
จงเม้น จงเม้น จงเม้น!!!
ความคิดเห็น