ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Smile Again..........[IF....SPECIAL PART]

    ลำดับตอนที่ #3 : PART END! : I'm Don't Understand....

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 469
      1
      18 ธ.ค. 51




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    IF..............SPECIAL PART



    SMILE AGAIN





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    I'm Don't Understand...

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .




    ทุกอย่าง มีสองด้านให้คิดเสมอ รีดเดอร์ทุกคนค่า

    อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียวนะค่ะ
    สำหรับฟิค...............พาร์ทนี้



    แล้วทุกคน....จะเข้าใจ




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .





    “นายเลิกกับแฟนแล้วเหรอ”



    เสียงใหญ่ เอ่ยถามเพื่อนตัวสูง ซึ่งอยู่ในทีมบาสด้วยกัน ขณะที่นั่งพักจากการซ้อมหนักในช่วงเช้า ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของทีม มือใหญ่ยกขวดน้ำขึ้นดื่มในทันทีที่ถามคำถามนั้นออกไป แต่ยังเห็นจากหางตาว่าเพื่อนตัวสูง ซึ่งเป็นทั้งผู้เล่นและกัปตันทีมนั้นนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนที่เสียงทุ้มจะตอบ



    “ก็ยังนิ”



    ตอบเสร็จก้อหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่ข้างตัว ขึ้นมาเปลี่ยนโดยไม่เอ่ยว่าอย่างใดอีก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่คนถามจะชินเสียแล้ว เมื่อรู้ดีว่าเพื่อนร่วมทีม ร่วมห้อง และสนิทที่สุดในกลุ่มนั้น พูดน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว


    แต่ในตอนนี้ การที่อีกฝ่ายตอบคำถามเค้าสั้นๆ แล้วเงียบไปเสียอย่างนั้น กำลังทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



    “หมายความว่ายังไง….”



    คำถามที่สอง ถูกถามขึ้นอย่างไม่ค่อยนุ่มนวลนัก ติดจะเสียงดังเกินไปเสียด้วยซ้ำ หากแต่คนถูกถามก็ยังคงนิ่ง ก่อนจะหันมามองเพื่อนช้าๆ ดวงตาคมไม่มีแววลังเล เมื่อเอ่ยคำตอบ



    “ยังไม่ได้เลิกกับคน.....ที่คบอยู่ตอนนี้”

    “นายก็รู้ ..ว่าฉันหมายถึงแทมิน”



    สวนกลับทันควัน เมื่อเห็นท่าทางไม่เดือดร้อนของอีกคน ก่อนจะจ้องมองแผ่นหลังของเพื่อนสนิทนิ่ง เมื่ออีกฝ่ายหันไปสนใจกับการเปลี่ยนชุดตามเดิม




    นึกถึงน้ำตาบนใบหน้าน่ารักที่เห็นอยู่ทุกวัน และรอยยิ้มฝืนๆที่มองยังไงก็เจ็บปวดแทนยิ่งนัก คนคนนั้นที่ไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้ง คนร่าเริงที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ กลับถูกทำร้ายขนาดนั้น



    แต่คนตรงหน้าเค้าตอนนี้ กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลายครั้งที่เห็น ว่าทุกอย่างดำเนินไปเหมือนเมื่อก่อน ร่างเล็กนั้นจะยังคงยิ้มเมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนเค้าเสมอ แต่ลับหลัง ....




    ใบหน้านั้นกลับเรียบเฉย และเต็มไปด้วยน้ำตา....



    .
    .
    .
    .
    .
    .





    “นายทำให้เค้าร้องไห้....”


    สะใจเล็กน้อย เมื่อเห็นอีกฝ่ายหันกลับมามองเค้าในทันที พร้อมแววตาตกใจที่ฉายขึ้น อยากให้รู้ อยากให้อีกฝ่ายเห็น ว่าที่เค้าพูดมันยังน้อยไปนัก หากแต่คำพุดต่อมา ก็แทบจะทำต้องถลาไปซัดเปรี้ยงเข้าให้สักครั้ง




    “ช่างเถอะ”




    ช่างเถอะ.....

    .
    .
    .
    .
    .
    .

    เค้ารู้ว่าตัวเองผิด


    .
    .
    .
    .
    .



    ดวงตาคมมองเพื่อนตรงๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำหมัดแน่น เค้ารู้มาตลอด ว่าเพื่อนของตนเองกำลังชอบคนรักของตนเอง นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมอีกฝ่ายจึงหลีกเลี่ยงที่จะเจอแทมินตรงๆเสมอ

    คนตรงหน้าเค้าไม่เคยเข้ามาทัก เมื่อร่างเล็กอยู่ด้วย ไม่เคยเอ่ยถึงร่างเล็ก เพราะไม่อยากให้ผิดสังเกต แต่เค้ารู้ รู้ดี เมื่อสายตาที่มองคนรักของเค้าทุกครั้งนั้น เป็นแววตาที่ไม่ต่างกับที่เค้ามองคนคนหนึ่ง





    แววตาที่เค้าไม่เคยใช้มันเพื่อมองคนชื่อลีแทมิน.....






    “ฉันไม่ได้รักเค้า แบบนี้...มันถูกแล้ว”


    “ไม่ได้รัก ? แต่นายก็คบ? หมายความว่าไงว่ะ?”




    น้ำเสียงนั้นทั้งอัดอั้น และเดือดร้อนแทน หากแต่เมื่อถามเสร็จร่างนั้นก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง และคว้าเอาข้าวของของตนเองขึ้นมา ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัว เพราะขืนอยู่ต่ออีกแม้แต่นาทีเดียวเท่านั้น อาจห้ามอารมณ์ตนเองไม่ได้




    เห็นแก่ตัว ....น้ำตาบนใบหน้านั้นไม่มีค่ากับคนเห็นแก่ตัวอย่างมินโฮเลยสักนิด



    .
    .
    .
    .
    .
    .






    ร่างหนายังคงไม่หันกลับไป แม้น้ำเสียงทุ้มที่ดังไล่หลังมานั้น จะทำให้สะกิดใจมากเพียงใดก็ตาม





    “นายไม่เข้าใจรึไงจงฮยอน.....ถ้าฉันยังอยู่กับเค้า เค้าเอง....ที่จะเจ็บปวดที่สุด”










    ไม่เข้าใจ ............หรืออย่างไร



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .




    ไม่เข้าใจ หรืออย่างไร






    “นี่ บลิ้งงงบลิ้งงง”


    “อะไร”



    ร่างหนาขานเบาๆกับคนที่นอนแผ่อยู่บนพื้นหญ้า และกำลังใช้หน้าท้องเค้าเป็นหมอนอยู่ในขณะนี้ ใบหน้าน่ารักที่เห็นเพียงด้านข้างจ้องมองนิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้านิ่ง มือเล็กๆทั้งสองข้างกำลังวาดอะไรบางอย่างในอากาศ ก่อนที่เสียงเล็กๆจะหงุงหงิงถามออกมา ตามประสาคนเจ้าคำถามอย่างที่จงฮยอนเคยชิน




    “บลิ้งบลิ้งเรียนปีไรอ่า ฉันยังไม่รู้เลยนะ”




    คำถามที่เหมือนจะถามขึ้นลอยๆนั้น ทำให้ร่างหนาเงียบลงทันใด แทมินยังคงวาดอะไรบางอย่างบนอากาศต่อไป โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่ตัวเองนอนหนุนหน้าท้องอยู่นั้นเงียบไปเพียงใด



    ไม่เคยสังเกตเห็นเค้า


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    รอยยิ้มที่มีให้มินโฮ จงฮยอนเคยได้มองเห็นแค่เพียงไกลๆ ยามที่คนตัวเล็กมาหาเพื่อนตัวสูงของเค้าที่ห้อง ท่าทางออดอ้อนที่เคยคิดอยากให้คนตรงหน้าทำกับเค้าสักครั้ง จงฮยอน...เป็นฝ่ายทำความรู้จักแทมินอย่างเงียบๆมาโดยตลอด




    ใช่...เค้าชอบแทมิน แต่เมื่อแทมินเป็นคนรักของมินโฮ สิ่งที่ต้องทำคือการตัดใจ เพื่อนต้องไม่แย่งแฟนเพื่อน




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    จนวันที่เค้าเห็นคนคนนี้ในห้องน้ำ


    มือเล็กที่พยายามง้างปากตัวเอง ทั้งตบแก้มตัวเอง พยายามที่จะยิ้ม ทั้งๆที่น้ำตากำลังไหลไม่หยุด วินาทีที่รู้ ว่ารอยยิ้มนั้นหายไปจากใบหน้าน่ารัก ที่เคยเฝ้ามองมาโดยตลอด จงฮยอนก็เดาสาเหตที่มาของน้ำตานั้นได้ในทันที


    มันเป็นความผิดของเค้าเอง ที่ทำให้คนตรงหน้าต้องมีน้ำตา หากเข้าไปปกป้องเอาไว้ หากสังเกตสักนิด ว่าชเวมินโฮที่เป็นเพื่อนตัวเอง ไม่เคยรักคนตรงหน้านี้ คงจะไม่ยอมให้แทมินต้องเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย





    หากเพียงแต่รู้สักนิด ........จะต่อยมินโฮคนเห็นแก่ตัวนั้นไม่ยั้งเลยทีเดียว



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    “บลิ้งงงงบลิ้งงงง”


    “ฮะหา?”


    “ง่า = = ‘”



    ใบหน้าน่ารักนั้นเงยหน้าบูดๆที่คนมองเห็นว่าน่ารักยิ่งนักขึ้นมองจงฮยอน เมื่อเห็นว่าคำถามที่ถามออกไปถูกละลเย มือใหญ่เอื้อมมือจะไปขยี้ผมนุ่มๆเห็ดๆนั้นสักทีให้หายหมั่นเขี้ยว แต่ร่างเล็กกลับไวกว่า โดยการเลี่ยงหลบทันควัน มือใหญ่ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อใบหน้าน่ารักนั้นหันกลับไปทางเดิม พร้อมกับวาดอากาศต่อไป ไม่สนใจจะฟังคำตอบอีก




    รู้สิ ...เค้ารู้เหตุผล




    เพราะที่ตรงนั้น มันเป็นของอีกคน ที่ไม่ใช่เค้าก็เท่านั้นเอง.....................................





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    เมื่อไหร่ ....ที่ความรู้สึกของเค้าจะไปถึง




    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .
    .
    .
    .
    .



    ทำดีที่สุดแล้ว แล้วเมื่อไหร่ จะเข้าใจมัน.......................



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    อากาศที่หนาวเย็นในช่วงปลายปี และลมที่พัดแรงพร้อมหิมะเม็ดเล็กที่โปรยปรายเป็นช่วงๆนั้น ทำให้ในอาคารเรียน มีนักเรียนที่นั่งหลบหนาวมากมายกว่าปกติ เพราะแม้จะอยากตากแดดอุ่นๆมากเพียงใด ท้องฟ้าที่มืดครึ้ม ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น




    ห้องสมุดอันเงียบสงัด และเปิดเครื่องทำความร้อนจนอุ่นก็เช่นเดียวกัน ทั้งที่เวลาปกติเงียบเหงาร้างผู้คน แต่วันนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงพึมพำพูดคุย จนแทบจะไม่เหลือเค้าของห้องสมุดห้องเดิม ร่างบางที่เพิ่งเดินเข้ามา ถอนหายใจเบาๆเมื่อห็นเช่นนั้น ก่อนจะเดินไปยังชั้นหนังสือที่ต้องการ หวังเพียงจะยืมเล่มที่อยากได้ และออกไปเผชิญอากาศหนาวๆใต้ต้นไม้ที่เดิมที่นั่งประจำ




    ที่แบบนี้ เสียงดัง คีย์อ่านหนังสือไม่ได้.........




    .
    .
    .
    .
    .


    ต่างกับที่ตรงนั้น......ที่แม้จะอ่านไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน ตรงที่ที่ตรงนั้นมีใครบางคน


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .





    “ช้าจัง”


    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยเดินมาในระยะใกล้ หนังสือเล่มหนาในอ้อมแขนเจ้าตัว ยิ่งทำให้ดูตัวบางไปถนัดใจ ใบหน้าขาวคลี่ยิ้มบางๆ ยิ้มที่มินโฮใจเต้นทุกครั้งที่ได้เห้น




    สายตาที่ส่งมา ....ที่รู้กันเพียงสองคนเท่านั้น




    ม้านั่งไม้ตัวยาวซี่งใช้เป็นที่นอนในตอนแรก ร่างสูงยกขาลง เพื่อแบ่งที่ว่างให้อีกคน ที่หย่อนตัวลงนั่ง ในทันทีที่ศรีษะได้รูป ก็
    วางลงบนไหล่บางๆของเค้า ไม่มีเสียงทักท้วงอีกต่อไป เพราะรู้ดีว่า ถึงพูดไปอย่างไร มินโฮก็ยังคงทำเป็นไม่ได้ยินอยู่ดี



    มือบาง เปิดหน้าหนังสือเล่มใหม่ที่กำลังจะเริ่มอ่านในวันนี้ออก ไม่รบกวนคนที่คงจะหลับไปในไม่ช้า รอแค่เพียงเวลาที่จะสะกิดให้ตื่นเมื่อถึงเวลาเรียน



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    เรียวปากบางคลี่ยิ้มอีกครั้ง เมื่อลมหายใจสม่ำเสมอดังมาให้ได้ยิน ค่อยๆพับปิดหนังสือในมือลงแผ่วเบา ก่อนจะจ้องมองใบหน้าของคนหลับ ที่เห็นเพียงจมูกโด่งๆนั้น เปลือกตาที่ปิดสนิท ชวนให้คิดถึงเด็กที่หลับง่ายอย่างไม่คิดอะไร



    ถึงจะหนัก ......ถึงจะขยับตัวลำบาก แต่คีย์ไม่เคยปลุกมินโฮที่กำลังหลับอยู่เลยสักที จนกว่าจะถึงเวลาเรียน และมินโฮเองคงไม่มีทางรู้ ว่าเมื่อตัวเองเข้าสู่นิทราแล้ว คีย์ไม่เคยอ่านหนังสือที่มีอยู่เลยสักครั้งนอกจากนั่งจ้องมินโฮ แล้วยิ้ม.....





    ไม่รู้ว่าผิดไหม ที่มีความสุขถึงเพียงนี้
    ไม่รู้ว่าผิดไหม.........





    ที่รัก ...มากถึงขนาดนี้........




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .





    …………………………………………………………..............................








    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    มันดีแล้วหรือ...ที่เป็นแบบนี้



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ‘กินนม จะได้แข็งแรง’



    ‘ชอบรสนี้ไหม ชอบล่ะสิ ^^’



    ‘ตั้งใจเรียนนะ’



    ‘วันนี้มีวิชาภาษาอังกฤษที่นายไม่ชอบใช่ไหม สู้!!’



    ‘ฉันรักนายนะ...นายรู้รึเปล่า’




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .






    มือเล็กรวบรวมกระดาษแผ่นเล็กปึกหนึ่งในมือ ก่อนจะอ่านมันทีละแผ่น ร่างเล็กที่นั่งอยุ่บนพื้นหญ้าที่มักมานั่งกับจงฮยอนเสมอ ...


    แทมินเป็นฝ่ายรอทุกครั้ง เพราะจงฮยอนที่เค้าไม่รู้ว่าเรียนปีไหนกันแน่ มักจะเลิกช้ากว่าเค้าเสมอ ระหว่างนั้น แทมินมักหาอะไรฆ่าเวลาทำ .......และอะไรที่ว่านั้น ก็คือกระดาษโพสอิทนับไม่ถ้วนในมือเค้านี่เอง


    ดวงตาโต ไล่กวาดสายตาอ่านข้อความเหล่านั้นต่อไป ทั้งที่อ่านทุกวัน แต่ทั้งอย่างนั้นก็ยังอยากที่จะอ่านมันอยู่อย่างนั้น ข้อความที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย หากแต่แทมินไม่เคยเข้าใจมันสักครั้ง




    ไม่เข้าใจเลย...............................




    .
    .
    .
    .
    .
    .



    แทมินเป็นคนไม่ดีอย่างนั้นเหรอ
    ทำไม


    .
    .



    ทั้งที่คีย์กำลังยิ้มแท้ๆ ทำไมถึงได้ยิ้มไม่ได้
    ทำไม.....ถึงยินดีด้วยไม่ได้




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    หรือเพราะว่าตัวเค้าเอง ที่ตั้งใจไม่เข้าใจมันเอง
    ทำไม.....ถึงทำใจกับมันไม่ได้


    .
    .


    กระดาษแผ่นสุดท้ายถูกอ่านจบ มือเล็กพับมันเก็บลงกระเป๋าตามเดิม ก่อนจะนั่งรอร่างหนานั้นต่อไป

    ไม่เข้าใจ….


    .
    .
    .



    ไม่เข้าใจ ตัวเองเลย




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ไม่เข้าใจ

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    หากเพียงจะมองให้ลึกเข้าไปมากกว่าเดิมอีกสักเล็กน้อย...สักนิดเท่านั้น

    สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่ได้มองเข้าไป...อาจไม่มีอะไร ที่ตรงกันเลย






    ร่างหนา ลุกจากโต๊ะเรียนในทันทีที่อาจารย์ประจำวิชาก้าวออกจากห้อง จุดหมายปลายทางที่ไปอยู่เป็นประจำ หากแต่บ่อยขึ้นในช่วงหลัง......ที่ที่มักจะใช้งีบเวลาพักกลางวันก่อนเข้าเรียน เพราะคนตัวเล็กที่รู้ดีว่าคงกำลังนั่งคอยเค้าอยู่


    ไม่อยากปล่อยให้อยู่คนเดียวนานจนเกินไปนัก .....จึงรีบเร่งฝีเท้าโดยไว กลัวว่าหากไปถึง จะเห็นร่างเล็กนั้นร้องไห้ เพียงแค่ช่วงเวลาไม่ถึง สิบนาทีที่ไม่มีคนอยู่ข้างๆ อย่างน้อยไปกวนประสาท ก็จะทำให้ใบหน้าเล็กนั้นมีแต่รอยยิ้มอีกครั้ง



    .
    .
    .


    ขอเพียงแค่ยิ้ม เมื่ออยู่กับคิมจงฮยอนเท่านั้น ก็คงพอ...




    .
    .
    .
    .
    .


    สายตาที่มองไปข้างหน้าอยู่ตลอดพลันต้องหยุดลงพร้อมกับเท้าทั้งสองข้างที่หยุดก้าวเดิน ...กับสิ่งที่เห็น จงฮยอนหยุดยืนระหว่างล็อกเกอร์ของนักเรียนปีอื่น หากแต่สิ่งที่น่าสนใจ ไม่ใช่ล็อกเกอร์เหล่านั้น แต่คือร่างๆหนึ่ง


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    ไม่เข้าใจ หรืออย่างไร


    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .
    .



    คำพูดของมินโฮย้อนซ้ำอยู่ในหัว เมื่อดวงตาเข้มเพ่งมองภาพตรงหน้า ทุกสิ่งกำลังกระจ่างชัดในสายตา และเปลี่ยนความคิดเค้าทั้งหมดในทันที .....เข้าใจ คิมจงฮยอนเข้าใจแล้วว่าทำไม



    ร่างหนาหันหน้าหนีจากภาพตรงหน้าที่อยู่ไกลออกไป ก่อนจะเดินไปยังจุดหมายเดิม ทั้งที่วูบไหว


    เข้าใจแล้ว...คิมจงฮยอนเข้าใจ





    ไม่ได้มีเพียงใครคนเดียว...ที่เจ็บปวด




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .




    เข้าใจแล้ว





    ดวงตาเข้ม มองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่เดียวดาย ด้วยแววตาวูบไหว ไปไม่ต่างจากเมื่อครู่ ...ร่างที่กำลังนั่งหันหลังให้เค้า ขาเล็กเหยียดยาวกับพื้นหญ้า เหม่อมองนิ่งไปบนท้องฟ้า หลายต่อหลายครั้งที่เคยสังเกตุเห็น แต่ไม่เคยถามว่าทำไม แทมินถึงได้ชอบมองขึ้นไปบนนั้นนัก บางครั้ง นิ้วเล็กจะยกขึ้นมาพร้อมกับขีดเขียนคำพูดที่มองไม่เห็นบนอากาศ




    การกระทำที่เค้าเคยมองว่าเป็นการเล่นของแทมิน ...โดยที่ไม่เข้าใจมันแม้แต่น้อย



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    แล้วเค้า..ก็ได้เข้าใจมัน


    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ใบหน้าเล็กแหงนเงย ยิ้มกับท้องฟ้าสีหม่นๆในฤดูหนาวอย่างแจ่มใส หากแต่บางสิ่งกับไหลเรื่อยตามแก้มขาวช้า ทั้งๆที่กำลังยิ้ม ...แต่ลีแทมินกำลังร้องไห้


    ซ่อนน้ำตาสินะ




    .
    .
    .



    ทุกครั้งที่มองขึ้นไปบนนั้น และยิ้ม คือตอนที่ร้องไห้ งั้นสินะ.



    .
    .
    .
    .
    .
    .



    คิมจงฮยอนคิดผิดไป ว่ารอยยิ้มนั้นมีขึ้น เพียงเวลาที่ได้อยู่กับเค้า หวังมากจนเกินไป ว่ารอยยิ้มนั้นคือรอยยิ้มที่แท้จริง โง่ไปเอง.....ที่คิดว่าคงทำได้ ทำให้น้ำตาเหล่านั้นหายไปได้



    .
    .
    .
    .
    .



    แล้วเค้า ก็เข้าใจในที่สุด



    .
    .
    .
    .






    “อ้าว บลิ้งงง บลิ้งงง มาเมื่อไหร่อ่า ^^”


    เสียงเล็กร้องขึ้น พร้อมกับที่ร่างเล็กนั้นหันกลับมามองเค้าทั้งตัว ใบหน้าน่ารักยิ้มกว้าง แต่ไม่อาจปิดบังดวงตาที่แดงช้ำ และรอยน้ำตาที่ยังเปียกชื้น ..รอยยิ้มและน้ำตา ..






    .
    .
    .
    .
    .


    ถังขยะ

    .
    .
    .
    .



    คิมจงฮยอนเหมือนถังขยะ.....


    น้ำตาของลีแทมิน มีไว้ให้คิมจงฮยอนเห็น หากแต่รอยยิ้มของลีแทมิน มีไว้ให้คนอื่นเห็น รอยยิ้มที่มีให้เค้า คือเรื่องแสแสร้ง ทุกครั้งที่กำลังหัวเราะ แต่เมื่อเงยหน้ามองท้องฟ้า ก็กำลังร้องไห้



    เอาน้ำตามาทิ้งกับถังขยะอย่างคิมจงฮยอน แล้วเอารอยยิ้ม ไปให้คนอื่น..........................





    .
    .
    .
    .



    “บลิ้งงงบลิ้งง เป็นไรไปอ่า”


    ร่างเล็กขมวดคิ้วอย่างน่ารัก เมื่อเห็นว่าร่างหนายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ก้าวเข้ามา แต่กลับจ้องมาทางเค้านิ่ง ใบหน้าเล็กงุนงงชั่วครู่ ก่อนจะเอียงคอสงสัย หากแต่ยังคงยิ้มกว้างมาให้ รอยยิ้มที่จงฮยอนเคยเฝ้ามอง และรักมาโดยตลอด



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    รอยยิ้มที่เห็นแก่ตัว




    .
    .
    .
    .
    .



    “ร้องไห้ทำไม หมาตายอีกแล้วเหรอ”


    “ง่าT^T”


    “ร้องไห้ทำไม”

    “.......................”






    ร่างเล็กนิ่งอึ้งไป เมื่อคำถามนั้นไม่ได้ดูล้อเล่น หากแต่คนถามถามมันออกมาอย่างจริงจัง



    ใบหน้าเข้มนั้นนิ่งเฉย อย่างที่แทมินไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ้มกว้างบนใบหน้าน่ารักค่อยๆลดลงจนหมด เมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไรเลย .....จงฮยอนในเวลานี้ดูแปลกไป แปลกอย่างที่แทมินกลัว



    ร่างเล็กลุกขึ้นยืนเต็มตัว มองใบหน้านิ่งเฉยนั้นอย่างงุนงง เค้าทำอะไรให้งั้นหรือ คนตรงหน้าเหมือนกำลังโกรธ กำลังไม่พอใจอะไรเค้าสักอย่าง โดยที่แทมินไม่รู้ว่าคืออะไร ชั่วครู่ที่แทมินเห็น แววตาเข้มที่ฉายแววรื่นเริงอย่าเสมอกำลังเจ็บปวด




    จงฮยอนเป็นอะไรไป



    ไม่มีความเป็นจงฮยอนคนเดิมที่แทมินคุ้นเคย จงฮยอนที่เค้าเคยนอนหนุนแขน จงฮยอนที่มักทำให้เค้ายิ้มได้เสมอ แม้ในช่วงเวลาไม่นาน แต่คนตรงหน้าคืออีกคนที่แทมินสนิทด้วยมากที่สุด ........ยอมให้เห็นน้ำตา อย่างที่ไม่เคยให้ใครได้เห็น



    ทำไม..ถึงมองเค้าด้วยสายตาเจ็บปวดแบบนั้น





    .
    .
    .
    .



    “รู้อะไรไหมเจ้าลิง...”


    รรพนามที่มีเพียงคนตรงหน้าที่เรียกดังออกมาจากปากหนานั้น .....หากแต่น้ำเสียงกลับแตกต่างกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน ......ทำไมเรียบเฉยนัก


    .
    .
    .


    ลีแทมินไม่เข้าใจมัน


    .
    .
    .



    “ฉันไม่ชอบคนเห็นแก่ตัว”



    ร่างเล็กเอียงคออย่างไม่เข้าใจ หากแต่คำพูดต่อมา กลับทำให้ดวงตาโตเบิ่งกว้าง



    “นายน่ะ...อย่าเห็นแก่ตัวนักเลย..”





    .
    .
    .
    .
    .
    .


    ไม่เข้าใจ ลีแทมินไม่เข้าใจ





    .
    .
    .
    .
    .
    .



    “เดี๋ยวสิ บลิ้งบลิ้ง...!”


    แทมินร้องเรียก คนที่พูดจบก็หันหลังเดินจากไป แต่ไม่เป็นผล ร่างหนานั้นไม่ได้หันกลับมาแม้แต่น้อย ดวงหน้าน่ารักแทบจะร้องไห้ ขอบตาร้อนผ่าว เมื่อไล่เรียงคำพูดเหล่านั้นทั้งหมดจากจงฮยอน




    อย่าเห็นแก่ตัว......................



    ไม่เข้าใจ ......ร่างเล็กจ้องมองคนที่เดินหายไปด้วยความรู้สึกใจหาย




    .
    .
    .
    .
    .




    ทำไมต้องเดินจากไป
    ทำไม...ไม่มีใครรักลีแทมินเลยสักคน



    .
    .
    .
    .
    .



    บลิ้งบลิ้ง





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .
    .






    .........................................................................................







    อย่าเห็นแก่ตัวนักเลย




    หมายความว่า เค้าเห็นแก่ตัวงั้นเหรอ...................


    แทมินขมุบขมิบพึมพำกับตัวเองเบาๆ ร่างเล็กนั้นนอนแผ่ลงกับเตียงนุ่ม..มือทั้งสองข้างถือกระจกใบพอดีมือ และถือค้างไว้ในระดับสายตา ดวงตาโตจ้องมองลึกลงในเงาของตนเอง พึมพำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่กับคำเดิมๆ



    “เห็นแก่ตัว”



    .
    .
    .




    ใจหาย



    ทุกครั้งที่อยู่กับจงฮยอน แทมินสบายใจ ทุกครั้งที่ได้พูดคุย แทมินคือตัวของตัวเองมากที่สุด .....แม้จะพบกันเพียงบางครั้ง ....แต่กำลังผูกพัน...และคำพูดนั้น กับการที่ร่างหนาเดินหนีเค้าไปดื้อๆ ยิ่งทำให้กระวนกระวายจนทนไม่ได้




    จงฮยอนเป็นอะไรไป จงฮยอนเป็นอะไรไป




    .
    .
    .



    เหมือนถูกทิ้ง

    ความรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว




    .
    .
    .
    .




    ไม่มีใคร รักลีแทมินเลยสักคน


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .




    ‘กินนม จะได้แข็งแรง’



    ‘ชอบรสนี้ไหม ชอบล่ะสิ ^^’


    ‘ตั้งใจเรียนนะ’



    ‘วันนี้มีวิชาภาษาอังกฤษที่นายไม่ชอบใช่ไหม สู้!!’



    ‘ฉันรักนายนะ...นายรู้รึเปล่า’


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .







    …………………………………………………………………………………







    คิมจงฮยอน .....ไม่ชอบคนเห็นแก่ตัว




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    มือหนา ถูกเจ้าของยกขึ้นก่ายหน้าผากตนเอง ใบหน้าเข้มนั้นยังคงเรียบเฉย ครุ่นคิด................
    คงไม่รู้สึกอะไร หากทุกอย่างยังคงเป็นแบบเดิม



    แทมินไม่รู้จักเค้า
    มีเพียงเค้าที่ยังคงรู้จัก
    อย่างเงียบๆ



    ...คนเรามักจะโลภมาก เมื่อได้คืบก็จะเอาศอก จงฮยอนเองก็เช่นกัน ยิ่งเห็น ยิ่งได้อยู่ใกล้ ก็ยิ่งอยากที่จะปกป้องดูแล และเมื่อรู้ว่ารอยยิ้มนั้นไม่ใช่ของตัวเอง ก็ยิ่งเสียใจ





    เพียงเพราะที่ตรงนั้น...มันไม่ใช่ที่ของเค้าก็เท่านั้น



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ไม่อยากเห็นแก่ตัว


    .
    .
    .


    เมื่อไม่มีทางแทนที่ได้ ......อย่าอยู่ใกล้ เลย ไม่ดีกว่าอีกหรือ


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    ภาพที่ร่างบอบบางร่างหนึ่ง ซึ่งเค้าจำได้ดีว่ามักจะไปไหนกับคนตัวเล็กเสมอ และเป็นคนที่เค้ารู้ดี...ว่าเป็นคนรักใหม่ของมินโฮ



    ร่างนั้น ก้มลงมองบางสิ่งบางอย่าง เมื่อมองตาม จึงได้รู้ ว่ามันคือถังขยะ..... แววตาคู่สวยนั้นเศร้าขึ้นมาชั่วครู่ ก่อนจะก้มตัว ล้วงมือลงไปในถังขยะนั้นอย่างไม่รังเกียจจงฮยอนมองตามมือบาง ที่หยิบขวดนมพอดีมือออกมาจากถังขยะใบนั้น ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าของเจ้าตัวอย่างทะนุถนอม .....ทั้งที่เป็นขยะ




    ร่างนั้นเดินออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว แต่จงฮยอนก็ทันเห็นมัน.............................




    น้ำตา......ที่เอ่อล้นในดวงตาคู่นั้น




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .




    ไม่ได้มีเพียงใครคนเดียว ที่เจ็บปวด
    แต่ทุกคน เจ็บปวดไม่แพ้กัน




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .
    .
    .
    .

    .


    ทุกอย่าง มีสองด้านให้คิดเสมอ
    อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว....................





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    นอนไม่หลับ





    กระจกใบเดิม และใบหน้าเดิม




    ดวงตาคู่โต มองภาพตนเองที่สะท้อนในกระจกทรงกลมอย่างเหม่อลอย ทั้งคืนที่ครุ่นคิดแต่เรื่องราวซ้ำกันไปมา ทำให้ตื่นเช้ากว่าปกติมาก เป็นเช้าที่ดำเนินไปอย่างทุกวัน หากแต่เงาในกระจกวันนี้ช่างดูหนักอึ้ง




    ทำไม...

    ทำไม.....




    ไม่เข้าใจ


    .
    .
    .
    .


    ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้ม
    และคนที่จากไป






    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ..........................................................................................................




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    หากเพียงมองเข้าไปให้ลึก อีกสักนิด แล้วจะเข้าใจ ......




    .
    .
    .
    .



    นอนไม่หลับ




    ร่างเล็ก ลากร่างกายอันอ่อนล้าด้วยความเพลีย มาถึงโรงเรียนได้ในที่สุด สังเกตุได้ว่าตนเองมาถึงเร็วกว่าปกติ เพราะเด็กนักเรียนที่ดูบางตา ขาเล็กเดินเชื่องช้า พลางคิดในใจ ว่าคีย์อาจจะมาแล้วก็เป็นได้




    คีย์คงรออยู่ที่ห้อง...แต่ไม่แน่ วันนี้เค้าอาจจะเป็นคนมาก่อน



    ร่างเล็กมุ่งหน้าไปยังล็อกเกอร์ของตัวเองดังเช่นทุกวัน เพื่อเปลี่ยนรองเท้าสำหรับเข้าเรียน หากแต่เมื่อพ้นมุมก่อนจะถึงแถวของเค้า บางอย่าง บางคน กลับทำให้ต้องหยุดนิ่ง ดวงตาคู่โตมองเห็นภาพตรงหน้า..ชัดเจน





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    ไม่เข้าใจเลยสักนิด



    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ทำไมทุกคนจึงได้ทำเหมือนลืม ทำไมจึงยังมีเค้าคนเดียว ที่จดจำเรื่องราวเหล่านั้นเอาไว้ ความรู้สึกที่เหมือนเป็นส่วนเกิน ทุกคนให้เค้าได้เพียง คำขอโทษ.....ความเงียบ

    ให้เค้า...ในสิ่งที่เค้าไม่เคยคิดยอมรับมัน




    .
    .
    .
    .



    มีใครรู้บ้างไหม..ว่าเค้าเจ็บปวด




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    ดวงตาคู่สวยเศร้าสร้อย ยามที่เปิดล็อกเกอร์ของแทมินออก มือบางบรรจงวางโพสอิทสีฟ้าอ่อนและตามด้วยขวดนมในมืออย่างอ่อนโยน ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่มือนั้นจะปิดล็อกเกอร์นั้นอย่างเบามือ



    .

    .
    .
    .
    .
    .


    ไม่เข้าใจเลย แม้แต่น้อย ทำไมจึงยอมรับมันไม่ได้ ...เจ็บใจที่เหมือนเป็นคนไม่ดี ...เจ็บปวด ที่เหมือนเป็นคนถูกตัดออก


    ลีแทมินไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ อย่างที่เคยบอกไว้เลยสักนิด..

    ตรงกันข้าม



    .
    .
    .



    ลีแทมินเป็นเพียงเด็ก ....ที่แยกไม่ออกแม้แต่ความรัก..และความอิจฉาต่างหาก

    ไม่เข้าใจเลย
    ว่าทำไม


    .
    .
    .
    .


    ต้องเห็นแก่ตัว ถึงเพียงนี้





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ไม่เข้าใจ หรือว่าแกล้งไม่เข้าใจ




    .
    .


    คีย์คือเพื่อนที่ดีที่สุด....ของแทมิน


    คีย์ใส่ใจความรู้สึกของเค้าเสมอ ไม่ว่าในเรื่องไหนๆ คีย์ดูแลเค้าเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่..ก็ตาม..แทมินเคยคิดอยู่เสมอ ว่าเค้า คงไม่อาจหาใครที่จริงใจกับเค้าได้เท่ากับคีย์ ..ดังนั้น จึงเจ็บใจเมื่อยิ้มไม่ได้ เมื่อรอยยิ้มที่ให้คีย์ไปนั่น เป็นเพียงรอยยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากหัวใจ



    ทำไมต้องทำแบบนี้กับเค้า




    ทั้งที่เค้าเลือกคีย์เสมอ ไม่ว่าเรื่องใด

    แล้วทำไม คีย์จึงเลือกที่จะทำร้ายเค้า........



    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ลืมที่จะคิดไปว่า.......................................



    คีย์ต้องเจ็บปวดแค่ไหน เมื่ออยู่ใกล้มินโฮที่เป็นคนรักของเค้า ทั้งที่เค้ารู้ดี ว่าคีย์เองก็รักมินโฮ...ทั้งที่รู้ดี ว่าสองคนนั้นรักกัน..แต่สิ่งที่ลีแทมินทำ คือการทำให้คีย์ทรมาน เห็นแก่ตัวด้วยการทำเป็นไม่รู้ ว่ามินโฮรู้สึกอย่างไร ละเลยที่จะสนใจความรู้สึกของคีย์ไป




    และแม้แต่ตอนนี้ ก็ไม่สนใจ ที่จะรับความรู้สึกของคีย์



    มือเล็ก หยิบเอานมรสโปรดของตัวเองออกมาจากล็อกเกอร์ ตามด้วยโพสอิทแผ่นเล็ก ที่เขียนด้วยลายมืออันคุ้นตา ลายมือที่เห็นทุกครั้ง ยามที่ขอลอกการบ้าน ลายมือที่จำได้ขึ้นใจ ดวงตาคู่โต รื้นด้วยน้ำตา........ เมื่อข้อความนั้นเค้าเข้าใจมันในที่สุด …



    ข้อความสั้นๆ แตกต่างกันที่เห็นทุกวัน ข้อความ....ที่แทมินไม่เคยเข้าใจ ข้อความที่ไม่อยากได้ แต่พยายามอ่านทบทวน เพื่อจะเข้าใจมันสักครั้ง






    ‘กินนม จะได้แข็งแรง’



    ‘ชอบรสนี้ไหม ชอบล่ะสิ ^^’


    ‘ตั้งใจเรียนนะ’



    ‘วันนี้มีวิชาภาษาอังกฤษที่นายไม่ชอบใช่ไหม สู้!!’



    ‘ฉันรักนายนะ...นายรู้รึเปล่า’








    ‘ไม่ว่ายังไง ....ฉันก็เลือกแทมินนะ’


    KEY


    .
    .
    .
    .
    .




    'แล้วก้อนะ...ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นคีย์ ยังไงฉันก็เลือกคีย์อยู่แล้ว'






    ทั้งๆที่เคยพูดไว้แบบนั้น แต่ลีแทมินกลับเห็นแก่ตัว เสแสร้งว่าเจ็บปวดอยู่เพียงคนเดียว .........





    ทั้งที่จริงๆแล้ว





    ไม่ได้มีเพียงใครคนเดียว ที่เจ็บปวด
    แต่ทุกคน เจ็บปวดไม่แพ้กัน






    .
    .
    .
    .
    .






    ……………………………………………………………………………….








    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .






    ยังคงเป็นอีกวัน ที่เหมือนทุกวันที่ผ่านไป





    ร่างบางหันมองคนที่เพิ่งทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ตัวข้างๆ ราวกับกำลังเฝ้ารออยู่แล้ววว...ใบหน้าหวานยิ้มบาง ก่อนเสียงนุ่มจะเอ่ยทัก



    “วันนี้มาเช้า”



    แทมินหันมายิ้มแป้น กับคีย์ ให้กับคำทักทายตอนเช้าที่ฟังมาหลายปีจนชิน ร่างเล็กเก็บกระเป๋าของตนเองให้เข้าที่ ก่อนจะหยิบเอาหนังสือที่ต้องเรียนเป็นวิชาแรกขึ้นมา ...วิชาที่เค้าเกลียดแสนเกลียด





    .
    .
    .



    วิชาภาษาอังกฤษ



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ทันใดนั้น มือเล็กก็วางของบางอย่างลงกับโต๊ะ บางอย่างที่คีย์เห็น...แล้วนิ่ง




    นม…




    แทมินเปิดขวดนั้นช้าๆ ก่อนตั้งอกตั้งใจดื่มจนหมด ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากตนเองอย่างน่ารัก ก่อนจะยิ้มแป้นอีกครั้ง เสียงเล็กเอ่ย





    “อร่อยยยยย ชอบรสนี้”





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    มันเหมือนถูกหักหลัง เมื่อคิดว่าคนที่รักที่สุดทำร้าย

    หากแต่ลืมที่จะมอง....ว่ากำลังทำร้าย คนที่รักมากที่สุด





    .
    .
    .
    .
    .


    รักชเวมินโฮไหม ..อาจจะเคยรัก

    แต่คงไม่เคยรัก...มากเท่าที่คีย์รัก





    .
    .
    .


    เพราะลีแทมิน เลือกคีย์เสมอ ไม่ว่าต้องเลือกกับใคร



    .
    .
    .





    “ฉันก้เลือกคีย์นะ รู้ป่าวววววววววววววววว”




    เสียงเล็กลากยาว ขณะที่ยังยิ้มกว้าง ต่างกับอีกคนที่ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้อยู่ร่อมรอ คีย์ยิ้มบาง ทั้งน้ำตา พยักหน้าเบาๆรับคำนั้น



    .
    .
    .


    เข้าใจแล้วใช่ไหม
    เข้าใจฉันหรือยัง




    .
    .
    .
    .
    .



    รักจนไม่อาจตัดใจได้





    เข้าใจฉัน ....แล้วใช่ไหม





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .





    ....................................................................................................................





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ..
    .
    .
    .




    “บลิ้งบลิ้งงงงงงงงงงงง”


    “อะไร”


    “หายโกรธฉันเถอะน้า”


    “...............”


    “ง่า T^T”


    “.................”


    “บลิ้งงงงงงงงงงงงงงบลิ้งงงงงงงงงงงงงงงงง!!”




    มือหนาถูกยกขึ้นปิดหูตัวเอง ปิดกั้นเสียงเล็กๆ ที่นอกจากจะนั่งทับเค้าไม่ยอมลุกแล้ว ยังก่อกวนการนอนของเค้าทุกๆห้านาที...อาจจะน้อยกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ....จงฮยอนพยายามไม่สนใจคนที่นั่งส่งตาวิ้งๆออดอ้อน หากแต่ก็ทำได้ยากนัก



    “บลิ้งบลิ้งงงงง”



    แทมินยื่นนิ้วก้อยเล็กๆของตนเองไปตรงหน้าคนที่นั่งทับอยู่ จงฮยอนมองมือเล็กๆนั้น ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น




    .
    .
    .
    .


    แกล้งให้ง้อเล่นเสียให้เข็ด ท่าจะดี





    .
    .
    .
    .
    .




    “บลิ้งบลิ้งอ่า ไม่สนใจฉันเลยอ่า ฉันอุตส่าห์คิดถึงน้า ว่าบลิ้งบลิ้งจะโกรธฉันไหม บลิ้งบลิ้งจะง้อยากรึป่าววววว สนใจฉันหน่อยน้า”





    ว่าแล้วก็ทำหน้าตาน่าสงสาร ที่มาพร้อมสายตาวิ้งๆอีกระลอก คนร่างหนากว่า ก็ยังนิ่งนานๆเข้า ปากเล็กก็ยิ่งยู่ลง จนในที่สุดก็เบะออก






    “แง้แง้แง้......................บลิ้งบลิ้งไม่สนใจฉันอ่า!!”





    เสียงเล็กตะเบ็งอย่างขัดเคือง ถึงตอนนี้จงฮยอนจึงหลุดขำเมื่อเห็นท่าทางตลกๆนั้น ทันทีที่เห็นคนตรงหน้ายิ้ม ร่างเล็กก็กระโดดลงจากตัวจงฮยอนทันที นิ้วก้อยเล็กๆ ถูกส่งตรงหน้าร่างหนาอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มน่ารักออดอ้อน




    “ดีกันนะ นะ นะ ^ ^”




    .
    .
    .
    .
    .
    .



    นิ้วก้อยหนาๆของอีกคนเกี่ยวเข้ากับนิ้วเล็กๆนั้นในที่สุด ทั้งที่ใบหน้าเข้มนั้นยังตีหน้าขรึม ร่างเล็กยิ้มกว้าง ที่การง้อสำเร็จ
    เสียงเล็กจึงเจื้อยแจ้ว อย่างมีความสุขอีกครั้ง




    .
    .
    .
    .
    .



    “บลิ้งบลิ้งรู้ป่าว..นี่ฉันมีอะไรจะเล่าด้วยล่ะ”


    “อะไร”


    “แล้วบลิ้งบลิ้งอยากฟังป่าวอ่า”


    “ไม่”


    “ง่า T^T”


    “อ่าฟังก็ฟัง”


    “เย้....นี่นะ...”




    เสียงเล็กๆที่เล่าอย่างทมีความสุข ดวงหน้าน่ารักที่ยิ้มแย้ม เมื่ออีกคนพยักหน้ากับเรื่องที่เค้าเล่า จงฮยอนมองรอยยิ้มนั้น พลางยิ้มออกมาบ้าง




    .
    .
    .
    .



    ในที่สุด...ก็ยิ้มจริงๆแล้วสินะ....





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ………………………………………………….




    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    กระจกหนึ่งใบ รอยยิ้มหนึ่งรอยยิ้ม




    .
    .
    .
    .
    .


    ร่างเล็กที่ยังง่วงงุน ขยี้ตาอันบวมเป่งของตนเองแรงๆ หัวเล็กโงนเงนไปมาเพราะความง่วง ปากเล็กหาวหวอด ทั้งที่เป็นเวลาปกติที่ควรจะตื่นนอน แต่ตอนนี้....ลีแทมินง่วงสุดๆไปเลย



    กระจกทรงกลมที่ใช้ส่องอยู่ทุกวัน สะท้อนภาพผมเผ้าอันยุ่งเหยิงและดวงตาคู่โตที่หรี่ปรือ ..ร่างเล็กกระพริบตาปริบๆใส่เงาตัวเอง ก่อนจะฉีกยิ้มแฉ่งให้กับตัวตนในกระจก



    .
    .
    .
    .

    แบบนี้สิ ยิ้มของลีแทมิน


    .
    .
    .
    .
    .
    .



    ยิ้มกว้างๆ ยิ้มที่มาจากหัวใจอย่างแท้จริง


    ยิ้ม......ที่หาเจออีกครั้ง





    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    เห็นไหมค่ะ

    ทุกอย่าง มีสองด้านให้คิดเสมอ
    อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว


    ลีแทมิน...เห็นแต่ความเจ็บปวดของตัวเอง จนลืมดูคนอื่น
    แต่ก็ไม่ได้หมายความ ลีแทมินเอง จะไม่เจ็บปวด



    ไม่ได้มีเพียงใครคนเดียว ที่เจ็บปวด
    แต่ทุกคน เจ็บปวดไม่แพ้กัน




    สำหรับฟิค...............พาร์ทนี้

    แล้วทุกคน....เข้าใจไหมค่ะ ^^



    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .




    END !!!!





    ...................................................................................






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×