คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : กัดกินครั้งที่ 3 DEEP TOUCH. [100%]
กัดกินครั้งที่ 3
DEEP TOUCH.
'แต่นี่มันในชีวิตจริง'
หลังจากที่เหตุการณ์เส้นยาเเดงผ่าเเปดได้ผ่านไปเเล้ว
ซอกจินและจองกุกก็ได้สังเกตท่าทีของซอมบี้ที่เดินวนอยู่ภายในห้องๆนี้นานพอสมควร
เเละข้อสรุปของมันก็คือ..
มันได้ยินเสียง... เเต่มองไม่เห็น
เเถมยังได้กลิ่นอีกด้วย เเละที่สำคัญ
ถ้าเป็นกลิ่นของจองกุก พวกมันจะไม่ทำอะไร
เเต่ถ้าเป็นกลิ่นของเขา หรือกลิ่นของคนปกติ เสื้อผ้าที่ยังมีกลิ่นเหงื่อ
กลิ่นน้ำหอม หรือเเม้เเต่อุณหภูมิร่างกายติดอยู่ มันก็จะตอบสนอง
ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น
เเต่ทำไมจองกุกถึงไม่เป็นอะไร ? ทั้งๆที่ร่างกายของจองกุก
ก็ปกติดีทุกอย่าง
"ขอฉันลองแตะข้อมือของนายดูหน่อยได้มั๊ย?"
จองกุกไม่ได้ตอบอะไร
ซอกจินเลยปรี่เข้าไปจับโดยไม่รอเจ้าของข้อมือได้เอ่ยอนุญาต ...
ไม่เย็นชืด... เเต่ก็ไม่อุ่นเท่ากับคนทั่วไป
*ฟืด*
ซอกจินกดจมูกลงไปบนคอเสื้อของจองกุกจนเเทบจะจรดติดกับต้นคอขาว
...
...ไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนผิวเน่าๆของซอมบี้
มีกลิ่นน้ำหอมผู้ชายติดอยู่ด้วยซ้ำ.
"นี่คุณทำอะไร ? ทำท่าทางอย่างกับหนูนักสืบโคนัน"
จองกุกท้วง ทันทีที่ซอกจินทำการพิสูจน์กลิ่นใกล้กับต้นคอของเขาอย่างฉาบฉวย
คนถูกท้วงเงยหน้าขึ้นช้าๆแล้วยิ้มมุมปาก...
ยังจะมีหน้ามายิ้มให้อีก...
"นั่นสิ
ฉันลาออกจากมหาวิทยาลัยไปเรียนเป็นนักสืบเลยดีมั๊ย?"
เสียงพูดสุดเเสนจะทะเล้นออกมาจากริมฝีปากอิ่ม
จองกุกส่ายหน้าหน่ายๆกับท่าทางเหล่านั้นของซอกจิน
ที่ตอนนี้กำลังรอจังหวะให้ซอมบี้ตัวนั้นเดินอืดอาดออกจากห้อง
โดยที่เอาเศษเสื้อกาวน์ตัวเดิมโยนออกนอกประตูเพื่อล่อให้มันออกไป
*ครืด*
ซอกจินดันประตูให้ปิดลง หลังจากที่ตอนนี้เข้าสู่ความปกติ
"ไฟ... อา... เเย่จัง
ไฟทั้งตึกถูกตัดไปเเล้วนี่นะ... ฉันจะทำเเผลให้ก่อน จองกุก
นายไปนั่งรอที่เตียงคนไข้ก่อน
เดี๋ยวฉันจะออกไปหาไฟฉายกับอุปกรณ์เย็บแผลข้างนอก"
จองกุกขมวดคิ้วมองคนเงอะงะเสียยิ่งกว่าอะไรเอ่ยปากขอออกไปข้างนอกคนเดียว
ก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่าซากศพเดินได้นั้นจ้องจะเขมือบเขา ยังจะทำมาเป็นอวดดีอีก
"สิ่งมีชีวิตที่เงอะๆงะๆเเบบคุณน่ะเหรอ?
ที่จะออกไปข้างนอกคนเดียว เชื่อเถอะ
ว่ากลับมาไม่เเขนก็ขาล่ะที่จะขาด"
เมื่อนักเรียนตำรวจหนุ่มอย่างจองกุกพูดจบ
นักศึกษาแพทย์คิม ซอกจินที่ถูกดูเเคลนนั้นก็หันมาสบตาเข้ากับจองกุก
รอยยิ้มท้าทายก็ปรากฏเเก่สายตา ก่อนจะพูดต่อสั้นๆง่ายๆ
"หล่อ รอดได้"
"ทุกๆวัน ...คุณกินอะไรเป็นมื้อเช้า?
ถึงได้มั่นหน้าถือตาขนาดนี้"
"ก็ไม่มีอะไรมาก ขนมปังปิ้งกับเเยมส้ม
นมอีกหนึ่งแก้วแล้วก็...ไข่ต้มสองฟอง"
จองกุกกำลังจะขยับริมฝีปากพูดขัด
เเต่ดูเหมือนซอกจินจะนึกอะไรขึ้นได้ก่อน จึงพูดขัดขึ้นมา
"...อ่าาา...ลืมบอกไป ฉันเป็นพวกที่
ชอบกลิ่นสตรอเบอร์รี่ เเต่ไม่ชอบกิน ที่สำคัญแยมส้มที่ฉันกินกับขนมปังจะต้องไม่หวานจนเกินไป
เพราะมันจะส่งผลต่อความจำของสมอง เลยต้องบำรุงด้วยไข่ที่ดีต่อความจำทุกๆเช้า
เพราะใช่ว่าเเยมส้มทุกยี่ห้อจะไม่ใส่น้ำตาล"
"พูดอย่างกับจะสั่งเสียอะไร
รีบไปได้เเล้ว"
"............."
"............."
"...ไม่คิดจะอวยพรหรือบอกลาอะไรหน่อยเหรอ?"
"...ไม่มี"
ซอกจินลอบถอนหายใจ
มุมปากได้รูปยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ
ก็เพิ่งจะรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเองนี่? เเค่คิดว่าออกไปเเล้วจะเจอเเต่ซอมบี้
เจอเเต่ศพที่คิดจะทำอันตรายเขา เขาอาจจะไม่ได้กลับมา...
...เขาก็ไม่อยากจะให้มันเป็นเเบบนั้น
อยากจะกลับมามองหน้า มาถกเถียง มาเขม่นกับเด็กน้อยคนนี้เหมือนเคย
ซอกจินขยับมือปลดเนคไทด์คลายออกจากลำคอเเกร่งของเขา
วางไว้ที่โต๊ะตัวเตี้ยพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตสีขาวสะอาดออก
รวมทั้งเข็มขัดเเละกางเกงสแล็คสีดำ เเต่ยังไม่ทันที่จะได้ถอดออกจากร่างกาย
ก็หันกลับไปมองหนุ่มหน้าละอ่อนที่กำลังนั่งเท้าคางจ้องเขาอยู่
"รู้ว่าอยากจะเห็น แต่อดใจหน่อย"
"ห้องมันมีพื้นที่อยู่เเค่นี้
ผมจะมองอะไรมันก็ไม่ผิด"
"อาๆ รู้เเล้ว
เเต่ข้างหลังนายมีโครงกระดูกหน้าตาน่ารักๆอยู่ด้วยนะ ฉันว่ามันน่าสนใจกว่า
หันไปทางนั้นเถอะ"
จองกุกไหวไหล่
ยอมหันหลังเข้ากับหุ่นโครงกระดูกจำลอง เห็นอย่างนั้นซอกจินก็ถอนหายใจโล่ง
รีบเปลี่ยนเป็นชุดผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพื่อไล่กลิ่นน้ำหอม หรือกลิ่นเหงื่อที่มีอยู่ตามตัวออกไปให้ได้มากที่สุด
ความจริงเขาก็ไม่ได้อายอะไรหรอกนะ
เเต่ด้วยความที่ยังมียางอายบ้างเลยต้องสะดิ้งเเบบนี้
“อายเหมือนสาวน้อยไปได้นะ คุณน่ะ”
อื้ม นั่นไง... ถ้าย้อนเวลากลับไปได้...
พี่จินคนเเมนจะเเก้ผ้าโชว์เลย สาบาน...
"ฉันไปก่อนเเล้วกัน
ล็อคประตูด้วยก็..."
"...โชคดี"
".........."
"อย่าขาขาด เเขนขาด หัวหาย
หรือกลายเป็นซอมบี้มาหาผมก็พอ"
".........."
จองกุกเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป
คิดว่าคงจะออกไปเเล้ว ก็หันหลังกลับไปเเต่ยังพบกับร่างสูงของซอกจิน
ใบหน้าหล่อยังคงจ้องเขานิ่งที่ตอนนี้ ยืนชิดเเนบกับเเผ่นหลังของเขา
ดวงตาคมจ้องเข้าไปในดวงตาของจองกุกราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงสมอง
ค้นหาว่ากำลังคิดอะไรอยู่...
เเต่
ใบหน้าทั้งสองกลับเคลื่อนหากันมากขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับเป็นเเม่เหล็กต่างขั้วที่ดึงดูดเข้าหากัน
ซอกจินไม่รู้ว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ เช่นเดียวกับจองกุก
หัวสมองตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรอีกเเล้ว มีเเต่ภาพตรงหน้าที่ถูกจับโดยดวงตา
อคติที่มี ละลายหายไปกับตา เมื่อจองกุกเป็นฝ่ายฉกฉวยประทับริมฝีปากบางเฉียบลงไปบนริมฝีปากอิ่มของร่างสูง
การกระทำนั้นซอกจินไม่ปฎิเสธหรือขัดขืน เพียงเเต่สัมผัสตอบเบาๆอย่างนุ่มนวล
...ก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากอิ่มจากริมฝีปากบางลากไล้ไปอยู่บนเเก้มเนียนที่เต็มไปด้วยคราบฝุ่นไคล
เเต่ยังคงความนุ่มนิ่มเเบบเด็กวัยใสเอาไว้รวมทั้งกลิ่นหอมกรุ่นของแป้งเด็ก
บ่งบอกว่าใช้เป็นประจำ
ซอกจินเปิดเปลือกตามองตอบดวงตากลมที่จับจ้องการกระทำของเขาเงียบๆอยู่เเล้ว
จองกุกไม่รอช้าที่จะสัมผัสเข้ากับริมฝีปากของซอกจิน เริ่มที่จะกดลงไปหนักๆ
เป็นฝ่ายรั้งท้ายทอยของร่างสูงกดลงมา มอบรสจูบหนักหน่วงที่เหมือนจะตอกย้ำไม่ให้ลืมง่ายๆ
เเต่ไม่ได้มีการรุกล้ำ มีเเต่กลีบปากที่บดเบียดเข้าหากันอย่างไม่บันยะบันยัง
บดขยี้ลงไปจนคิดว่ากลีบปากของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคงจะปริเเตกเเล้วเป็นเเน่
แล้วมันก็กลายเป็นความจริง เมื่อคนถูกกระทำ คือซอกจิน
ซอกจินผละออกจากร่างกายแกร่งเเต่ก็บางกว่าเขา
ยกมือขึ้นเเตะริมฝีปากที่ปริเเตกจนต้องนิ่วหน้า ต่างจากจองกุกที่นั่งอยู่เฉยๆ
เลียริมฝีปากเก็บรสเลือดที่ติดอยู่กับกลีบปากของตัวเอง
*ตึก ตัก ตึก ตัก*
คิม
ซอกจินรู้สึกถึงก้อนเนื้อในอกของจองกุกที่กำลังเต้นตุบอยู่ในมืออีกข้างของเขาที่วางทาบเอาไว้เมื่อครู่จนเเทบจะหลุดออกมาอย่างเเปลกใจ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ได้หยุดเต้นไปเเล้วเเท้ๆ
เเต่ไม่ลืมหรอกเรื่องปากเเตกเนื่ย...
"รุนเเรงจริงๆนะ...ย่าห์!...ปากฉันเเตกหมดเเล้ว"
"คนยื่นหน้ามาให้ผมทำ ก็คุณเองนะ"
น้ำเสียงของจองกุกขุ่นเคืองอยู่หน่อยๆ คงจะยังสับสนกับตัวเอง
กลิ่นน้ำหอมของซอกจินยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูก
รวมถึงความร้อนบนเเก้มโดยเฉพาะบนริมฝีปาก
ซอกจินพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
จึงยิ้มออกมา
"เป็นแค่เด็ก เอาไปเท่านั้นก่อนเเล้วกัน
เดี๋ยวกลับมาครบ 32 เมื่อไหร่ จะมาขอรางวัลนะครับ"
"ชอบปากเเตกเหรอครับ?"
จองกุกประชด เเล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงผู้ป่วย
โบกไม้โบกมือไล่ร่างสูงให้ออกไปได้เเล้ว
....ท่าทีน่ารักน่าขยี้เมื่อกี้มันหายไปไหน...
บอกพี่ซอกจินคนนี้ทีเถอะ
ซอกจินไม่ได้รังเกียจหรืออะไรกับจองกุกหรอกนะ
เพียงเเต่นึกขึ้นมาได้ว่าจองกุกอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อ แต่กว่าจะหลุดออกจากภวังค์ก็ตอนที่เจ้าตัวขยี้ริมฝีปากของเขาจนปริเเตกนี่แหละ
อีกอย่าง ที่จูบกันเมื่อกี้ ไม่สิ ต้องเรียกว่าปากขยี้ปากน่าจะถูก...
อาจจะเป็นเพราะพวกเขามีอะไรที่ดึงดูดเข้าหากันโดยที่ไม่ได้รู้ตัว ไม่ถามถึงเหตุผลว่าทำไม
เพราะรู้อยู่แค่ว่าอารมณ์มันพาไปล้วนๆนั่นแหละ
"ไม่ไปเเล้วได้มั๊ย?"
"ตลกเถอะ...ผมไม่ยอมเสียจูบฟรีๆหรอกนะ"
"นั่นเรียกจูบหรืออะไรกันเเน่? ให้พูดใหม่"
ซอกจินขมวดคิ้วเมื่อปลายนิ้วมือสัมผัสเข้ากับเเผลบนริมฝีปากที่ยังมีเลือดซิบเเละก็นิ่วหน้าอีกครั้ง
ไม่เถียงกับคนอารมณ์บูดให้เสียเวลา
เดินออกมาจากกรอบประตู
โผล่หน้าออกไปสำรวจเส้นทางการเดินว่าปลอดภัยดีมั๊ย เพราะว่า
เป้าหมายของเขาตอนนี้ก็คือ ห้องผ่าตัดที่อยู่ชั้นแรก นั่นก็แปลว่า
จะต้องรับศึกหนักกับฝูงซอมบี้นับสิบๆตัวที่เดินตาลอยอยู่ด้านล่าง
เฮ้อ...
แล้วจะยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่างคอยสังเกตุ
ระวังตัวไปก่อนหน้านี้เพื่ออะไรล่ะ คิมซอกจิน...?
เท้าเปล่าของร่างสูงโปร่งก้าวเดินเร็วๆเพื่อไปที่ประตูบันไดหนีไฟไม่ทันไร
เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นตามมาจากข้างหลังของเขา
*กึก*
ซอกจินหยุดชะงัก ค่อยๆหันหน้าไปมองต้นเสียง
ก็พบกับ...
ซอมบี้ 5 ตัว... ข้างหลัง...
*แอ๊ด*
กับอีก 6 ตัว
ทางบันไดหนีไฟ...
..................
ฮัลโหล...! คิม ซอกจิน นักศึกษาเเพทย์ชั้น ป.โท
มาหาทุกคนเเล้วนะครับผม...
จะเสียเวลาโปรโมตตัวเองไปเพื่ออะไรกันล่ะ ? วิ่ง!!!!
กัดกินครั้งต่อไป Loading...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk.
มาต่อตอนที่ 3 ให้เเล้วค่ะ ไม่รอช้า 555
เดินเรื่องช้าสักหน่อยนะคะ เพราะว่าตัวละครหลักคนที่ 3 ยังอยู่ในโรงพยาบาล...
ลองเดากันซิว่าใครเอ่ย ? 555555555.
คู่ชิพ วีมิน ไม่นานเกินรอเเน่นอนค่ะ จะมาเเล้วนะ ตอนนี้ขอแต่งจินกุกหวานๆ(?)
สักตอน เเล้วจะเริ่มเข้าสู่เนื้อเรื่องตึงเครียดกันเเล้วค่ะ
(เเน่นอนว่าจินฮยองคนเงอะงะสามารถสร้างความพีคได้เสมอไม่ว่าจะเครียดหรือไม่เครียดก็ตาม...)
อาการของน้องจองกุกจะค่อยๆเปิดเผยนะคะ ว่าต่างจากซอมบี้ธรรมดายังไง ติดตามตอนต่อไปน้าา
สามตอนที่ลงไป รู้สึกจะสั้นมาก 15 หน้า word เองค่ะ ตั้งเเต่ตอนที่ 4 เป็นต้นไปจะยาวไปจนถึง 20 อัพเลยก็เป็นได้ แบบว่าจุใจ ...
เจอกันในตอนหน้าค่ะ บั๊ยบายยย
twitter #โกลเด้นซอมบี้ของพี่จิน
@senrizeki
ความคิดเห็น