ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทวิธรา

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 56


    บทที่  5

     

                    คัง  โซฮอนขับรถไปตามถนนหนทางมุ่งเข้าสู่ใจกลางเมืองของโซล  เพราะเห็นว่าหญิงสาวที่โดยสารมาในรถกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้างชายหนุ่มจึงไม่อยากทำลายบรรยากาศนั้น  จึงเลือกที่จะนั่งอยู่เงียบ ๆ และทำหน้าที่พาเธอไปสู่ที่หมาย

                    กว่าจะมาถึงจุดหมายปลายทางฟ้าก็มืดแล้ว  แต่ยังเป็นช่วงหัวค่ำอยู่เนื่องจากเค  กรุ๊ปของเขาตั้งอยู่ในบริเวณที่ค่อนข้างจะเป็นชานเมือง  ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติใหญ่โต  แต่คุณพ่อของเขาให้เหตุผลในการก่อตั้งว่าต้องการความเป็นส่วนตัวในการทำงาน  จึงเลือกตั้งบริษัทไว้ชานเมือง  และท่านแน่ใจว่าอีกหน่อยเมืองจะต้องขยายตามบริษัทของท่านออกมา  ซึ่งเรื่องนี้เขาก็เห็นด้วย  เพราะถึงบริษัทจะตั้งอยู่ชานเมืองแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว

                    “ตื่นได้แล้วครับ  เจ้าหญิง”  ชายหนุ่มปลุกหญิงสาวด้วยเสียงนุ่มนวล  นี่เป็นอีกนิสัยหนึ่งที่เขาเป็นห่วงและไม่อยากปล่อยให้หญิงสาวไกลตา  เพราะเธอชอบหลับตอนนั่งรถ  ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะพาเธอไปไหนต่อไหนก็เป็นได้

                    “หืม  ถึงแล้วเหรอค้ะ”  หญิงสาวใช้มือขยี้ตาทั้งสองข้าง

                    “ถึงแล้วครับผม”

                    ทันทีที่ปัณรสตื่นเต็มตาเธอก็นิ่งงันไปราวกับต้องมนต์สะกด  เธอเลือกมาเกาหลีเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าบรรยากาศหน้าหนาวของที่นี่สวยมากขนาดไหน  อยากจะมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต  แต่ตอนนี้ภาพที่เธอเห็นตรงหน้ามันสวยยิ่งกว่ารูปภาพที่เธอเคยได้เห็นเป็นไหน ๆ สวนสาธารณะตรงหน้าสวยงามราวกับในฝัน  มีบรรยากาศที่หิมะปกคลุมเหมือนในเทพนิยาย  ถ้ามีชายหนุ่มสักคนมาขอแต่งงานเธอที่นี่เธอคงตอบตกลงทันที

                    “สวยมากเลยค่ะ”

                    “ที่นี่คือสวนสาธารณะนัมซานครับ  เดี๋ยวผมจะพาคุณไปขึ้นกระเช้าข้างบนด้วย”  ชายหนุ่มสังเกตทุกอิริยาบทของหญิงสาวตั้งแต่เธอก้าวลงจากรถแล้ว  เขารู้สึกพอใจอย่างมากที่เลือกที่ไม่ผิด  เขาเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วสำหรับเธอ  ผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในชีวิตของเขา

                    “เราไปเดินเล่นกันเถอะครับ”  คัง  โซฮอนฉวยข้อมือบางของหญิงสาวมากอบกุมไว้  แล้วจูงเธอเข้าไปในสวยสาธารณะด้วยกัน

                    “ค่ะ”  ปัณรสตอบรับเพียงเท่านั้นก็ได้แต่เดินก้มหน้าตามชายหนุ่มไป  เธอไม่ขัดขืนสัมผัสที่ได้รับ  เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก  รู้สึกว่าอุณหภูมิและความอบอุ่นที่ฝ่ามือใหญ่ถ่ายทอดให้เธอนั้นมันช่วยทำให้อากาศหนาวรอบข้างตัวเธออบอุ่นขึ้น  เธอจะปิดบังเขาได้มั้ยนะ  ว่าตอนนี้ เธอตกหลุมรักเขาแล้วจริง ๆ

                    “หนาวมั้ยครับ”  ชายหนุ่มถามเมื่อสังเกตเห็นว่าเธอเดินห่อตัวและหน้าแดงขึ้น  เขาจึงถอดเสื้อคลุมตัวนอกให้เธอ

                    “เอามาให้ฉันแล้วคุณไม่หนาวเหรอค้ะ” 

                    “ผมทนได้ครับ  เพื่อคุณ”  ประโยคหลังชายหนุ่มโน้มหน้าลงมากระซิบชิดริมหูเพื่อให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว

                    บรรยากาศยามค่ำคืนในสวนสาธารณะแห่งนี้สวยมาก  สวยจนปัณรสลืมอาการเก้อเขินไปเลย  แต่น่าเสียดายที่คนเยอะไปหน่อย  แต่มันก็ดูคึกคักไปอีกแบบ  แต่ส่วนใหญ่ที่เธอสังเกตเห็นมักจะเป็นคู่รักมาเดินเล่นกันเป็นส่วนใหญ่  ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า  คนอื่นจะมองเธอกับชายหนุ่มเป็นคู่รักกันรึเปล่านะ  คิดได้แค่นั้นหญิงสาวก็หน้าซับสีเลือดขึ้นมาอีกรอบ  หญิงสาวคิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อย  จนลืมสังเกตไปว่า  ตอนนี้เธอและชายหนุ่มเดินออกจากสวนสาธารณะแล้ว

                    “ผมมีที่พิเศษที่อยากพาคุณไป”

                    “ยังมีอีกเหรอค้ะ”  ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามนั้น  แต่เลือกที่จะพาเธอเดินไปยังตึกสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่กลางกรุงโซล  ‘Seoul Tower’  โดยปกติแล้วกระเช้าลอยฟ้าที่นี่จะมีคนมาขึ้นเยอะมาก  หากเขาจะพาเธอมาในเวลาแบบนี้จะต้องต่อแถวรอยาวมาก  แต่เพื่อเธอเขาจึงเหมาซื้อรอบทั้งหมดของวันนี้ไว้แล้ว  เพื่อความเป็นส่วนตัวและไม่อยากให้เธอรอนาน

                    “นี่เหรอค้ะที่พิเศษของคุณ”  หญิงสาวถามเพราะคิดว่ามันคงเหมือนกับกระเช้าที่เคยขึ้นที่เมืองไทย

                    “ลองขึ้นก่อนสิครับ”  ชายหนุ่มพูดและผายมือเชิญให้เธอขึ้นไปก่อน

                   

                    “โห สวยมากเลยค่ะ”  ทันทีที่กระเช้าเริ่มเคลื่อนตัวหญิงสาวก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่  โซลยามค่ำคืนในฤดูหนาวทั้งสวยและโรแมนติกมาก ๆ ในความคิดของเธอ

                    “ใช่ครับ  สวยมาก ๆ ”  ชายหนุ่มตอบรับคำพูดของเธอ  แต่สิ่งที่เขาเอ่ยถึงนั้นไม่ใช่สิ่งเดียวกับเธออย่างแน่นอน  ชายหนุ่มไม่ละสายตาไปจากใบหน้าสวยหวานนั้นเลย  เขาไล่มองตั้งแต่หน้าผากที่โหนกนูนได้รูป  คิ้วเข้มเรียวยาวของเธอ  ดวงตากลมโตที่ดูมีเสน่ห์  จมูกโด่งแต่บ่งบอกความเป็นคนรั้นนิด ๆ ของเธอ  ริมฝีปากบางได้รูปที่เห็นแล้วอยากจะลองชิมสักครั้ง  ใบหน้าสวยหวานที่ตราติดในความทรงจำของเขามานาน  แม้ในตอนนี้เธอจะมาอยู่ตรงหน้าแต่เขาก็ยังรู้สึกคิดถึงเธอเหลือเกิน

                    “คุณโซฮอนค้ะ  มองลงไปข้างล่างแล้วแสงไฟสวยมากเลยค่ะ”  หญิงสาวหันหน้ามาคุยกับชายหนุ่ม  โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ชายหนุ่มข้าง ๆ ได้เผลอตัวเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เธอเสียแล้ว  ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าปลายจมูกของทั้งสองชนกัน  ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น

                    “ใช่ครับ  สวยมาก ๆ ”  ชายหนุ่มตอบแต่ยังไม่ยอมผละออกจากหญิงสาว  เขาจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตทรงเสน่ห์คู่นั้น  ราวกับต้องการจะสะกดเธอไว้  และในชั่วเสี้ยววินาทีนั้น  เขาเลือกที่จะลองชิมความหวานจากริมฝีปากบางที่เขาโหยหามานานแสนนาน  มือหนาทั้งสองข้างของเขาจับบ่าของหญิงสาวไว้แน่นเพื่อปิดกั้นทางหนีของหญิงสาวและใช้ริมฝีปากของเขาแตะลงไปที่ริมฝีปากบางของเธอเพียงบางเบาเท่านั้น  ไม่ได้คิดรุกล้ำเธอจนเกินไปเพราะเขากลัวเธอจะตกใจและหนีไปจากเขาเสียก่อน

                    ปัณรสใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  ใบหน้าสวยหวานเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น  เธอราวกับต้องมนต์สะกดของชายหนุ่ม  ไม่อาจจะผละหนีออกไปจากอ้อมกอดของเขาได้  เนิ่นนานเท่าใดไม่อาจรู้ได้จนหญิงสาวแทบจะหมดอากาศหายใจ  ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยเธอเป็นอิสระจากริมฝีปากของเขา  แต่เขาก็ยังไม่ยอมถอยออกไปห่างจากเธอ

                    “คุณรส  ผมอยากจะขอโอกาส  ให้ผมดูแลคุณได้ไหม”  ชายหนุ่มกระซิบชิดริมฝีปากบาง

                    “คุณทำแบบนี้ทำไม”  ถึงแม้ภายในใจของเธอจะโอนอ่อนไปเข้าข้างชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วแต่เธอก็ยังอยากได้คำยืนยันอยู่ดี

                    “ผมชอบคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณมาช่วยผม  ถ้าคุณไม่รังเกียจที่จะคบกับผู้ชายที่อายุเยอะกว่าคุณ 15 ปี  คุณจะให้เกียรติคบกับผมได้ไหมครับ”  ชายหนุ่มผละออกและจับมือเรียบทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาจุมพิต

                    “ค่ะ”  หญิงสาวตอบรับพร้อมกับก้มหน้าหนีสายตาวาบหวามของชายหนุ่ม 

                    “ขอบคุณมากครับ”  ชายหนุ่มดีใจจนหัวใจแทบจะออกมาเต้นอยู่นอกอก  เขารวบหญิงสาวเข้ามาในอ้อมอกและกอดเธอไว้แน่น  สิ่งที่เขาเพียรพยายามเพื่อเธอมันไม่ได้ไร้ความหมาย  เธอตอบรับความหวังดีของเขาแล้ว        


                    “ขับรถดี ๆ นะค้ะ”  เสียงของปัณรสบอกคัง  โซฮอนหลังจากที่เธอก้าวลงจากรถเมื่อถึงที่พักของเธอแล้วและกำลังจะเดินเข้าที่พัก

                    “คุณรสครับ”  ชายหนุ่มเรียกเธอไว้และเขาก็รีบลงจากรถก่อนที่จะรั้งตัวเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขา  มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน  ไออุ่นจากร่างกายของเธอเติมเต็มสิ่งที่ของขาดหายมาตลอด

                    “ค้ะ”  ในทีแรกเธอตกใจกับการกระทำของเขา  แต่ในเมื่ออ้อมกอดนี้ไม่เคยทำร้ายเธอ  และมันก็ยังรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมาก ๆ หญิงสาวจึงยิ้มและกอดเขาตอบ

                    “ขอบคุณมากนะครับ  ที่ให้โอกาสผม”

                    “ค่ะ”  หญิงสาวยิ้มตอบก่อนที่ชายหนุ่มจะผละออกจากเธอและก้มลงประทับริมฝีปากหนาของเขาลงบนริมฝีปากบางของเธอ  ร่างบางเผลอเกร็งขึ้นมาทันที  จูบในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง  มันทั้งนุ่มนวลแต่ก็มีความเร่งเร้าและเรียกร้องแอบแฝงอยู่  หญิงสาวเคลิ้มไปกับรสจูบที่ชายหนุ่มมอบให้  หากไม่มีมือของเขาคอยประคองอยู่เธอคงทรุดลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว

                    “กู๊ดไนท์ครับ  พรุ่งนี้ผมจะมารับนะครับ”  ชายหนุ่มเป็นฝ่ายที่ผละออกก่อนและกระซิบบอกลาชิดริมฝีปากของเธอ  ก่อนที่เขาจะดันตัวเธอให้รีบเดินเข้าที่พัก  แค่ได้อยู่ใกล้เธอเขาก็แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว  ยิ่งได้จูบเธอ  เขายิ่งไม่รู้ว่าจะห้ามความต้องการของตัวเองได้มากแค่ไหน  เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง  ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกต้องการได้มากมายขนาดนี้มาก่อน

     

                    “เธอไปไหนมาเหรอรส  กลับซะดึกเชียว”  วิภาดาถามหลังจากที่ปัณรสเข้ามาในห้องพัก

                    “อ๋อ  ไปสัมภาษณ์งานหน่ะ  เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวนิดหน่อยจ่ะ”  ปัณรสตอบโดยที่ไม่ได้มองหน้าของวิภาดาเพราะเธอกำลังก้มเก็บของอยู่  ถ้าหากเธอเงยหน้ามองวิภาดาซักนิดคงได้เห็นแววตาผิดปกติของเพื่อนร่วมห้อง

                    “ไปเที่ยวกับใครมา”  วิภาดาเผลอกระชากเสียงจนปัณรสจับสังเกตได้

                    “ก็พี่โซฮอนน่ะ  เธอเป็นอะไรรึเปล่าวิ” 

                    “อะ...เอ่อ...คือฉันแค่เป็นห่วงเฉย ๆ หน่ะ”  วิภาดารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของคนทั้งสองแต่เธอไม่อยากจะเซ้าซี้มากเกินไป  เพราะกลัวว่าจะถูกปัณรสรำคาญ  เธอจำต้องเก็บความไม่พอใจไว้และคอยสังเกตไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า

                    “ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ  ฉันไปอาบน้ำนอนก่อนนะ”  ปัณรสเดินไปจับมือวิภาดาก่อนจะแยกไปทำธุระของตัวเอง

                    “ระหว่างเธอกับเขา  มันก็ไม่ควรจะมีอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”  วิภาดาพูดหลังจากมั่นใจแล้วว่าปัณรสเดินออกไปแล้วและปัณรสจะไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเธอ  วิภาดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความเพื่อทำบางอย่างที่ยืนยันความมั่นใจของตัวเธอเอง

     

                    “วันนี้คุณรสตื่นเช้าจังเลยนะครับ”  เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลัง  หลังจากที่ปัณรสเดินออกจากห้องพักเพื่อจะไปรับประทานอาหารเช้า

                    “อ่อค่ะ  พอดีวันนี้รสต้องเตรียมทำการบ้านแล้วก็เตรียมตัวสำหรับการทำงานด้วยค่ะ”  เธอตอบและพยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับคุณานนท์ไว้  หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเธอก็ตีตัวออกห่างเขาอย่างชัดเจน  จนเธอคิดว่ามันปลอดภัยพอแล้ว

                    “วันนี้ผมว่าง  ไม่ทราบว่าคุณรสจะให้เกียรติไปทานอาหารกลางวันกับผมได้ไหมครับ”  คุณานนท์ชวนอย่างมีความหวัง

                    “คงต้องขอโทษคุณนนท์ด้วยนะค้ะ  รสมีนัดแล้ว”  หญิงสาวตอบแบบยิ้ม ๆ

                    “นัดเหรอครับ ???”  คุณานนท์ทำหน้าแปลกใจจนหญิงสาวสังเกตได้ชัดเจน

                    “ค่ะ  คุณนนท์มีอะไรรึป่าวค้ะ”  ปัณรสไม่ชอบใจเลยกับท่าทางแบบนี้ของเขา  เธอจะมีนัดไม่ได้รึยังไงกันนะ

                    “อ่อ  เปล่าครับ  งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”  ชายหนุ่มปลีกตัวออกมา  ความคิดของเขาเริ่มจะเอนเอียงไปตามข้อความที่ได้รับเมื่อคืน

                    ถ้าคุณไม่อยากเสียปัณรสไป  คุณต้องรีบจัดการอะไรซักอย่าง  ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างปัณรสกับคัง  โซฮอนจะเริ่มไม่ธรรมดาซะแล้ว’  นี่คือข้อความที่เขาได้รับเมื่อคืน  และที่เขามาพบปัณรสในเช้านี้เพื่อพิสูจน์ข้อความนั้น  แต่ตอนนี้เขาชักจะเริ่มเชื่อข้อความนั้นซะแล้ว

     

                    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว  ปัณรสก็ได้รับโทรศัพท์จากเค  กรุ๊ปว่า  วันนี้เธอต้องเข้าไปรายงานตัวต่อเจ้านายโดยตรงของเธอ  และรับมอบหมายงานชิ้นแรกของเธอด้วย  เธอเองก็ค่อนข้างแปลกใจอยู่เหมือนกัน  เพราะเธอคิดว่าคัง  มินคยูคือเจ้านายของเธอ  และไม่คิดว่าจะต้องรายงานตัวอีกครั้ง  แต่ก็อาจจะมีอย่างอื่นด้วยก็เป็นได้  เธอเองก็ไม่อยากคิดมาก  เดี๋ยวไปก็คงจะรู้เอง  หลังจากนั้นโทรศัพท์อีกสายก็คือจากหวานใจหมาด ๆ ของเธอเอง  

                    “ตื่นรึยังครับ  สาวน้อย”  เสียงนุ่มทุ้มดังมาตามสัญญาณโทรศัพท์

                    “ตื่นนานมากแล้วค่ะ  นี่ตะวันจะเลยก้นละ  ถ้าไม่ตื่นก็แย่แล้วค่ะ”  ปัณรสตอบอย่างอารมณ์ดี  แค่เห็นเบอร์เขาขึ้นที่หน้าจอเธอก็เผลอยิ้มรับไปเรียบร้อยแล้ว  ทั้งที่เธอไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน

                    “อ้อ  พี่ลืมไปว่าเราหน่ะมันคนขยัน”  หลังจากที่ตกลงจะคบกันเป็นแฟนแล้ว  คำสรรพนามระหว่างเขาและเธอก็เปลี่ยนไปเป็น “พี่” กับ “รส” เรียบร้อยแล้ว

                    “เพิ่งรู้เหรอค้ะ อิอิ แล้วพี่โซฮอนตื่นนานแล้วเหรอค้ะ” 

                    “ซักพักแล้วครับ  คิดถึงจัง  อยากเจอด้วย  วันนี้จะออกไปไหนหรือเปล่าครับ”  ชายหนุ่มถาม  ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ  ก็เขาเองที่เป็นคนโทรสั่งการให้เลขาส่วนตัวของเขานัดเธอไปพบที่บริษัท

                    “เดี๋ยวช่วงบ่าย ๆ ต้องเข้าไปบริษัทค่ะ  เขาเรียกให้ไปรายงานตัวและรับมอบหมายงานอย่างเป็นทางการค่ะ”

                    “งั้นพี่ไปรับตอน 11 โมงแล้วทานข้าวแถว ๆ บริษัทแล้วกันนะครับ”

                    “ไม่เป็นไรค่ะ  เดี๋ยวรสไปเอง  เกรงใจค่ะ”  เธอรู้สึกเกรงใจเขาจริง ๆ เพราะเขามาคอบรับ-ส่งเธอหลายวันแล้ว  กลัวว่าเขาจะเสียงานของเขาเหมือนกัน  อันที่จริงแล้วเธอก็แอบสงสัยเรื่องงานของเขาอยู่เหมือนกัน  เพราะเธอรู้เรื่องของเขาน้อยมาก ๆ จนบางทียังแอบไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่า  เธอตัดสินใจเร็วไปหรือเปล่า

                    “เกรงใจอะไรกันครับ  ก็เมื่อคืนพี่ก็บอกแล้วไง  ว่าพี่จะขอดูแลรสและก็มีตำแหน่งเป็นอัศวินประจำตัวเจ้าหญิงของพี่ด้วย”  ชายหนุ่มยอมเป็นอัศวินของหญิงสาวตั้งแต่เมื่อ  18  ปีที่แล้วแล้ว  “โอเค  งั้นตกลงตามนี้นะครับ”  ชายหนุ่มตกลงเองเสร็จสรรพแล้วก็กดวางสายทันที

                    “เฮ้อ !! วางสายไปซะแล้ว  อัศวินของเจ้าหญิงงั้นเหรอ?”  ปัณรสเผลอยิ้มกับคำเปรียบเทียบของชายหนุ่ม  เธอรู้สึกดีกับคำ ๆ นี้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่ากลายเป็นเจ้าหญิงหรือคนพิเศษจริง ๆ หรอกนะ  เพียงแต่ว่าเธอรู้สึกคุ้นเคยกับมันมากก็เท่านั้นเอง

     

                    คัง  โซฮอนมาถึงก่อนเวลาเช่นเดียวกับที่ปัณรสก็เตรียมตัวเสร็จก่อนเวลาเช่นกัน  ทั้งคู่จึงมีเวลาทานอาหารกลางวันด้วยกันเพิ่มอีกเกือบชั่วโมง 

                    “ร้านนี้แล้วกันนะ  สวยเหมือนคนที่พี่พามาทาน”  ชายหนุ่มพูดพร้อมทำตาหวานใส่หญิงสาว

                    “พี่โซฮอนก็  พูดอะไรอย่างนั้นค้ะ  รีบลงไปได้แล้วค่ะ  เดี๋ยวจะมีเวลาทานน้อยลงนะค้ะ”

     

                    ความเคลื่อนไหวของสองหนุ่มสาวไม่สามารถคลาดไปจากสายตาคู่สวยอีกคู่หนึ่งที่จ้องมองอยู่ตลอดตั้งแต่เห็นรถของชายหนุ่มจอดแล้ว  จึงเตรียมพร้อมทันทีที่สองหนุ่มสาวนั่งและสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย

                    “ตายแล้วบังเอิญจริง  พี่โซฮอนก็มาทานข้าวที่นี่ด้วยเหรอค้ะ”  ผู้มาใหม่เปิดฉากให้ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ตั้งใจเดินเข้ามาหาเขา  และแล้วปฏิกิริยาของชายหนุ่มก็ทำให้เธอสมใจ  ชายหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่หันมาเห็นเธอ

                    “อื้ม”  คัง  โซฮอนเลือกตอบเพียงสั้น ๆ แสดงออกชัดเจนถึงความเบื่อหน่าย

                    “แล้วพี่ไม่คิดจะแนะนำคนที่พี่พามาหน่อยเหรอค้ะ”  หญิงสาวผู้มาใหม่ปรายตามองไปทางปัณรส  ตั้งแต่เห็นรถของชายหนุ่มจอดและเห็นเขาเดินลงมาพร้อมหญิงสาวแปลกหน้าเธอก็รู้สึกหงุดหงิดภายในใจเต็มทีแล้ว  ยิ่งมาเห็นท่าทางเบื่อหน่ายและปกป้องหญิงสาวอีกคนของเขาเธอยิ่งอยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครและมีความสำคัญยังไงกันแน่

                    “รสจ๊ะนี่  ปาร์ค  เฮ  ยัง  เพื่อนร่วมงานของพี่จ๊ะ  ส่วนนี่คุณรสแฟนของผมเอง”  ชายหนุ่มแนะนำอย่างตัดความรำคาญและแสดงออกถึงความแตกต่างอย่างขัดเจน  ในทีแรกปัณรสยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกันกับท่าทีไม่เป็นมิตรของหญิงสาว  อีกทั้งกิริยาของหญิงสาวที่ปรายตามองเธออย่างดูถูกและไม่มีมารยาทนั่นด้วยแล้ว  ถ้าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่คนรู้จักของแฟนเธอ  เธอเองก็คงจะไม่ทนกับกิริยาเช่นนี้เหมือนกัน

                    “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณปาร์ค”  ปัณรสยิ้มรับสั้น ๆ  เพื่อตัดความรำคาญ

                    “งั้นเฮ  ยังขอตัวไปทานข้าวกับเพื่อนก่อนนะค้ะพี่โซฮอน  โอกาสหน้าไปที่บ้านหน่อยนะค้ะ  คุณพ่อฝากมาบอกว่าคิดถึง”  ปาร์ค  เฮ  ยังจงใจทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ชายหนุ่มโดยการเลื่อนใบหน้าสวยเฉี่ยวของเธอเข้ามาใกล้หน้าของชายหนุ่มรวมทั้งตัวเธอที่เลื่อนเข้ามาจนแทบจะแนบไปกับลำตัวของชายหนุ่ม  พร้อมพูดจาแสดงความสนิทสนมและความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน  แล้วเลือกที่จะเดินจากไปรอดูผลงานของตัวเองอยู่ห่าง ๆ

                    “เรื่องมันไม่จบง่าย ๆ แค่นี้แน่ค่ะพี่โซฮอน  ฉันไม่ยอมให้ยัยหน้าจืดนั่นมาแย่งพี่ไปหรอก”  ปาร์ค  เฮ  ยังพูดหลังจากที่เดินออกจากโต๊ะของชายหนุ่มมาแล้ว 

    .................................................................................................................................


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×