คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5
บทที่ 5
คัง โซฮอนขับรถไปตามถนนหนทางมุ่งเข้าสู่ใจกลางเมืองของโซล เพราะเห็นว่าหญิงสาวที่โดยสารมาในรถกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้างชายหนุ่มจึงไม่อยากทำลายบรรยากาศนั้น จึงเลือกที่จะนั่งอยู่เงียบ ๆ และทำหน้าที่พาเธอไปสู่ที่หมาย
กว่าจะมาถึงจุดหมายปลายทางฟ้าก็มืดแล้ว แต่ยังเป็นช่วงหัวค่ำอยู่เนื่องจากเค กรุ๊ปของเขาตั้งอยู่ในบริเวณที่ค่อนข้างจะเป็นชานเมือง ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติใหญ่โต แต่คุณพ่อของเขาให้เหตุผลในการก่อตั้งว่าต้องการความเป็นส่วนตัวในการทำงาน จึงเลือกตั้งบริษัทไว้ชานเมือง และท่านแน่ใจว่าอีกหน่อยเมืองจะต้องขยายตามบริษัทของท่านออกมา ซึ่งเรื่องนี้เขาก็เห็นด้วย เพราะถึงบริษัทจะตั้งอยู่ชานเมืองแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว
“ตื่นได้แล้วครับ เจ้าหญิง” ชายหนุ่มปลุกหญิงสาวด้วยเสียงนุ่มนวล นี่เป็นอีกนิสัยหนึ่งที่เขาเป็นห่วงและไม่อยากปล่อยให้หญิงสาวไกลตา เพราะเธอชอบหลับตอนนั่งรถ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะพาเธอไปไหนต่อไหนก็เป็นได้
“หืม ถึงแล้วเหรอค้ะ” หญิงสาวใช้มือขยี้ตาทั้งสองข้าง
“ถึงแล้วครับผม”
ทันทีที่ปัณรสตื่นเต็มตาเธอก็นิ่งงันไปราวกับต้องมนต์สะกด เธอเลือกมาเกาหลีเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าบรรยากาศหน้าหนาวของที่นี่สวยมากขนาดไหน อยากจะมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต แต่ตอนนี้ภาพที่เธอเห็นตรงหน้ามันสวยยิ่งกว่ารูปภาพที่เธอเคยได้เห็นเป็นไหน ๆ สวนสาธารณะตรงหน้าสวยงามราวกับในฝัน มีบรรยากาศที่หิมะปกคลุมเหมือนในเทพนิยาย ถ้ามีชายหนุ่มสักคนมาขอแต่งงานเธอที่นี่เธอคงตอบตกลงทันที
“สวยมากเลยค่ะ”
“ที่นี่คือสวนสาธารณะนัมซานครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณไปขึ้นกระเช้าข้างบนด้วย” ชายหนุ่มสังเกตทุกอิริยาบทของหญิงสาวตั้งแต่เธอก้าวลงจากรถแล้ว เขารู้สึกพอใจอย่างมากที่เลือกที่ไม่ผิด เขาเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วสำหรับเธอ ผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในชีวิตของเขา
“เราไปเดินเล่นกันเถอะครับ” คัง โซฮอนฉวยข้อมือบางของหญิงสาวมากอบกุมไว้ แล้วจูงเธอเข้าไปในสวยสาธารณะด้วยกัน
“ค่ะ” ปัณรสตอบรับเพียงเท่านั้นก็ได้แต่เดินก้มหน้าตามชายหนุ่มไป เธอไม่ขัดขืนสัมผัสที่ได้รับ เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าอุณหภูมิและความอบอุ่นที่ฝ่ามือใหญ่ถ่ายทอดให้เธอนั้นมันช่วยทำให้อากาศหนาวรอบข้างตัวเธออบอุ่นขึ้น เธอจะปิดบังเขาได้มั้ยนะ ว่าตอนนี้ ‘เธอตกหลุมรักเขาแล้วจริง ๆ ’
“หนาวมั้ยครับ” ชายหนุ่มถามเมื่อสังเกตเห็นว่าเธอเดินห่อตัวและหน้าแดงขึ้น เขาจึงถอดเสื้อคลุมตัวนอกให้เธอ
“เอามาให้ฉันแล้วคุณไม่หนาวเหรอค้ะ”
“ผมทนได้ครับ เพื่อคุณ” ประโยคหลังชายหนุ่มโน้มหน้าลงมากระซิบชิดริมหูเพื่อให้เธอได้ยินเพียงคนเดียว
บรรยากาศยามค่ำคืนในสวนสาธารณะแห่งนี้สวยมาก สวยจนปัณรสลืมอาการเก้อเขินไปเลย แต่น่าเสียดายที่คนเยอะไปหน่อย แต่มันก็ดูคึกคักไปอีกแบบ แต่ส่วนใหญ่ที่เธอสังเกตเห็นมักจะเป็นคู่รักมาเดินเล่นกันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า คนอื่นจะมองเธอกับชายหนุ่มเป็นคู่รักกันรึเปล่านะ คิดได้แค่นั้นหญิงสาวก็หน้าซับสีเลือดขึ้นมาอีกรอบ หญิงสาวคิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อย จนลืมสังเกตไปว่า ตอนนี้เธอและชายหนุ่มเดินออกจากสวนสาธารณะแล้ว
“ผมมีที่พิเศษที่อยากพาคุณไป”
“ยังมีอีกเหรอค้ะ” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามนั้น แต่เลือกที่จะพาเธอเดินไปยังตึกสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่กลางกรุงโซล ‘Seoul Tower’ โดยปกติแล้วกระเช้าลอยฟ้าที่นี่จะมีคนมาขึ้นเยอะมาก หากเขาจะพาเธอมาในเวลาแบบนี้จะต้องต่อแถวรอยาวมาก แต่เพื่อเธอเขาจึงเหมาซื้อรอบทั้งหมดของวันนี้ไว้แล้ว เพื่อความเป็นส่วนตัวและไม่อยากให้เธอรอนาน
“นี่เหรอค้ะที่พิเศษของคุณ” หญิงสาวถามเพราะคิดว่ามันคงเหมือนกับกระเช้าที่เคยขึ้นที่เมืองไทย
“ลองขึ้นก่อนสิครับ” ชายหนุ่มพูดและผายมือเชิญให้เธอขึ้นไปก่อน
“โห สวยมากเลยค่ะ” ทันทีที่กระเช้าเริ่มเคลื่อนตัวหญิงสาวก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ โซลยามค่ำคืนในฤดูหนาวทั้งสวยและโรแมนติกมาก ๆ ในความคิดของเธอ
“ใช่ครับ สวยมาก ๆ ” ชายหนุ่มตอบรับคำพูดของเธอ แต่สิ่งที่เขาเอ่ยถึงนั้นไม่ใช่สิ่งเดียวกับเธออย่างแน่นอน ชายหนุ่มไม่ละสายตาไปจากใบหน้าสวยหวานนั้นเลย เขาไล่มองตั้งแต่หน้าผากที่โหนกนูนได้รูป คิ้วเข้มเรียวยาวของเธอ ดวงตากลมโตที่ดูมีเสน่ห์ จมูกโด่งแต่บ่งบอกความเป็นคนรั้นนิด ๆ ของเธอ ริมฝีปากบางได้รูปที่เห็นแล้วอยากจะลองชิมสักครั้ง ใบหน้าสวยหวานที่ตราติดในความทรงจำของเขามานาน แม้ในตอนนี้เธอจะมาอยู่ตรงหน้าแต่เขาก็ยังรู้สึกคิดถึงเธอเหลือเกิน
“คุณโซฮอนค้ะ มองลงไปข้างล่างแล้วแสงไฟสวยมากเลยค่ะ” หญิงสาวหันหน้ามาคุยกับชายหนุ่ม โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ชายหนุ่มข้าง ๆ ได้เผลอตัวเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เธอเสียแล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าปลายจมูกของทั้งสองชนกัน ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“ใช่ครับ สวยมาก ๆ ” ชายหนุ่มตอบแต่ยังไม่ยอมผละออกจากหญิงสาว เขาจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตทรงเสน่ห์คู่นั้น ราวกับต้องการจะสะกดเธอไว้ และในชั่วเสี้ยววินาทีนั้น เขาเลือกที่จะลองชิมความหวานจากริมฝีปากบางที่เขาโหยหามานานแสนนาน มือหนาทั้งสองข้างของเขาจับบ่าของหญิงสาวไว้แน่นเพื่อปิดกั้นทางหนีของหญิงสาวและใช้ริมฝีปากของเขาแตะลงไปที่ริมฝีปากบางของเธอเพียงบางเบาเท่านั้น ไม่ได้คิดรุกล้ำเธอจนเกินไปเพราะเขากลัวเธอจะตกใจและหนีไปจากเขาเสียก่อน
ปัณรสใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าสวยหวานเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น เธอราวกับต้องมนต์สะกดของชายหนุ่ม ไม่อาจจะผละหนีออกไปจากอ้อมกอดของเขาได้ เนิ่นนานเท่าใดไม่อาจรู้ได้จนหญิงสาวแทบจะหมดอากาศหายใจ ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยเธอเป็นอิสระจากริมฝีปากของเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมถอยออกไปห่างจากเธอ
“คุณรส ผมอยากจะขอโอกาส ให้ผมดูแลคุณได้ไหม” ชายหนุ่มกระซิบชิดริมฝีปากบาง
“คุณทำแบบนี้ทำไม” ถึงแม้ภายในใจของเธอจะโอนอ่อนไปเข้าข้างชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วแต่เธอก็ยังอยากได้คำยืนยันอยู่ดี
“ผมชอบคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณมาช่วยผม ถ้าคุณไม่รังเกียจที่จะคบกับผู้ชายที่อายุเยอะกว่าคุณ 15 ปี คุณจะให้เกียรติคบกับผมได้ไหมครับ” ชายหนุ่มผละออกและจับมือเรียบทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาจุมพิต
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับพร้อมกับก้มหน้าหนีสายตาวาบหวามของชายหนุ่ม
“ขับรถดี ๆ นะค้ะ” เสียงของปัณรสบอกคัง โซฮอนหลังจากที่เธอก้าวลงจากรถเมื่อถึงที่พักของเธอแล้วและกำลังจะเดินเข้าที่พัก
“คุณรสครับ” ชายหนุ่มเรียกเธอไว้และเขาก็รีบลงจากรถก่อนที่จะรั้งตัวเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขา มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน ไออุ่นจากร่างกายของเธอเติมเต็มสิ่งที่ของขาดหายมาตลอด
“ค้ะ” ในทีแรกเธอตกใจกับการกระทำของเขา แต่ในเมื่ออ้อมกอดนี้ไม่เคยทำร้ายเธอ และมันก็ยังรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมาก ๆ หญิงสาวจึงยิ้มและกอดเขาตอบ
“ขอบคุณมากนะครับ ที่ให้โอกาสผม”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบก่อนที่ชายหนุ่มจะผละออกจากเธอและก้มลงประทับริมฝีปากหนาของเขาลงบนริมฝีปากบางของเธอ ร่างบางเผลอเกร็งขึ้นมาทันที จูบในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง มันทั้งนุ่มนวลแต่ก็มีความเร่งเร้าและเรียกร้องแอบแฝงอยู่ หญิงสาวเคลิ้มไปกับรสจูบที่ชายหนุ่มมอบให้ หากไม่มีมือของเขาคอยประคองอยู่เธอคงทรุดลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
“กู๊ดไนท์ครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับนะครับ” ชายหนุ่มเป็นฝ่ายที่ผละออกก่อนและกระซิบบอกลาชิดริมฝีปากของเธอ ก่อนที่เขาจะดันตัวเธอให้รีบเดินเข้าที่พัก แค่ได้อยู่ใกล้เธอเขาก็แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ยิ่งได้จูบเธอ เขายิ่งไม่รู้ว่าจะห้ามความต้องการของตัวเองได้มากแค่ไหน เธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกต้องการได้มากมายขนาดนี้มาก่อน
“เธอไปไหนมาเหรอรส กลับซะดึกเชียว” วิภาดาถามหลังจากที่ปัณรสเข้ามาในห้องพัก
“อ๋อ ไปสัมภาษณ์งานหน่ะ เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวนิดหน่อยจ่ะ” ปัณรสตอบโดยที่ไม่ได้มองหน้าของวิภาดาเพราะเธอกำลังก้มเก็บของอยู่ ถ้าหากเธอเงยหน้ามองวิภาดาซักนิดคงได้เห็นแววตาผิดปกติของเพื่อนร่วมห้อง
“ไปเที่ยวกับใครมา” วิภาดาเผลอกระชากเสียงจนปัณรสจับสังเกตได้
“ก็พี่โซฮอนน่ะ เธอเป็นอะไรรึเปล่าวิ”
“อะ...เอ่อ...คือฉันแค่เป็นห่วงเฉย ๆ หน่ะ” วิภาดารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของคนทั้งสองแต่เธอไม่อยากจะเซ้าซี้มากเกินไป เพราะกลัวว่าจะถูกปัณรสรำคาญ เธอจำต้องเก็บความไม่พอใจไว้และคอยสังเกตไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า
“ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ ฉันไปอาบน้ำนอนก่อนนะ” ปัณรสเดินไปจับมือวิภาดาก่อนจะแยกไปทำธุระของตัวเอง
“ระหว่างเธอกับเขา มันก็ไม่ควรจะมีอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” วิภาดาพูดหลังจากมั่นใจแล้วว่าปัณรสเดินออกไปแล้วและปัณรสจะไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเธอ วิภาดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความเพื่อทำบางอย่างที่ยืนยันความมั่นใจของตัวเธอเอง
“วันนี้คุณรสตื่นเช้าจังเลยนะครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลัง หลังจากที่ปัณรสเดินออกจากห้องพักเพื่อจะไปรับประทานอาหารเช้า
“อ่อค่ะ พอดีวันนี้รสต้องเตรียมทำการบ้านแล้วก็เตรียมตัวสำหรับการทำงานด้วยค่ะ” เธอตอบและพยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับคุณานนท์ไว้ หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเธอก็ตีตัวออกห่างเขาอย่างชัดเจน จนเธอคิดว่ามันปลอดภัยพอแล้ว
“วันนี้ผมว่าง ไม่ทราบว่าคุณรสจะให้เกียรติไปทานอาหารกลางวันกับผมได้ไหมครับ” คุณานนท์ชวนอย่างมีความหวัง
“คงต้องขอโทษคุณนนท์ด้วยนะค้ะ รสมีนัดแล้ว” หญิงสาวตอบแบบยิ้ม ๆ
“นัดเหรอครับ ???” คุณานนท์ทำหน้าแปลกใจจนหญิงสาวสังเกตได้ชัดเจน
“ค่ะ คุณนนท์มีอะไรรึป่าวค้ะ” ปัณรสไม่ชอบใจเลยกับท่าทางแบบนี้ของเขา เธอจะมีนัดไม่ได้รึยังไงกันนะ
“อ่อ เปล่าครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มปลีกตัวออกมา ความคิดของเขาเริ่มจะเอนเอียงไปตามข้อความที่ได้รับเมื่อคืน
‘ถ้าคุณไม่อยากเสียปัณรสไป คุณต้องรีบจัดการอะไรซักอย่าง ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างปัณรสกับคัง โซฮอนจะเริ่มไม่ธรรมดาซะแล้ว’ นี่คือข้อความที่เขาได้รับเมื่อคืน และที่เขามาพบปัณรสในเช้านี้เพื่อพิสูจน์ข้อความนั้น แต่ตอนนี้เขาชักจะเริ่มเชื่อข้อความนั้นซะแล้ว
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ปัณรสก็ได้รับโทรศัพท์จากเค กรุ๊ปว่า วันนี้เธอต้องเข้าไปรายงานตัวต่อเจ้านายโดยตรงของเธอ และรับมอบหมายงานชิ้นแรกของเธอด้วย เธอเองก็ค่อนข้างแปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะเธอคิดว่าคัง มินคยูคือเจ้านายของเธอ และไม่คิดว่าจะต้องรายงานตัวอีกครั้ง แต่ก็อาจจะมีอย่างอื่นด้วยก็เป็นได้ เธอเองก็ไม่อยากคิดมาก เดี๋ยวไปก็คงจะรู้เอง หลังจากนั้นโทรศัพท์อีกสายก็คือจากหวานใจหมาด ๆ ของเธอเอง
“ตื่นรึยังครับ สาวน้อย” เสียงนุ่มทุ้มดังมาตามสัญญาณโทรศัพท์
“ตื่นนานมากแล้วค่ะ นี่ตะวันจะเลยก้นละ ถ้าไม่ตื่นก็แย่แล้วค่ะ” ปัณรสตอบอย่างอารมณ์ดี แค่เห็นเบอร์เขาขึ้นที่หน้าจอเธอก็เผลอยิ้มรับไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่เธอไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
“อ้อ พี่ลืมไปว่าเราหน่ะมันคนขยัน” หลังจากที่ตกลงจะคบกันเป็นแฟนแล้ว คำสรรพนามระหว่างเขาและเธอก็เปลี่ยนไปเป็น “พี่” กับ “รส” เรียบร้อยแล้ว
“เพิ่งรู้เหรอค้ะ อิอิ แล้วพี่โซฮอนตื่นนานแล้วเหรอค้ะ”
“ซักพักแล้วครับ คิดถึงจัง อยากเจอด้วย วันนี้จะออกไปไหนหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถาม ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ ก็เขาเองที่เป็นคนโทรสั่งการให้เลขาส่วนตัวของเขานัดเธอไปพบที่บริษัท
“เดี๋ยวช่วงบ่าย ๆ ต้องเข้าไปบริษัทค่ะ เขาเรียกให้ไปรายงานตัวและรับมอบหมายงานอย่างเป็นทางการค่ะ”
“งั้นพี่ไปรับตอน 11 โมงแล้วทานข้าวแถว ๆ บริษัทแล้วกันนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรสไปเอง เกรงใจค่ะ” เธอรู้สึกเกรงใจเขาจริง ๆ เพราะเขามาคอบรับ-ส่งเธอหลายวันแล้ว กลัวว่าเขาจะเสียงานของเขาเหมือนกัน อันที่จริงแล้วเธอก็แอบสงสัยเรื่องงานของเขาอยู่เหมือนกัน เพราะเธอรู้เรื่องของเขาน้อยมาก ๆ จนบางทียังแอบไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่า เธอตัดสินใจเร็วไปหรือเปล่า
“เกรงใจอะไรกันครับ ก็เมื่อคืนพี่ก็บอกแล้วไง ว่าพี่จะขอดูแลรสและก็มีตำแหน่งเป็นอัศวินประจำตัวเจ้าหญิงของพี่ด้วย” ชายหนุ่มยอมเป็นอัศวินของหญิงสาวตั้งแต่เมื่อ 18 ปีที่แล้วแล้ว “โอเค งั้นตกลงตามนี้นะครับ” ชายหนุ่มตกลงเองเสร็จสรรพแล้วก็กดวางสายทันที
“เฮ้อ !! วางสายไปซะแล้ว อัศวินของเจ้าหญิงงั้นเหรอ?” ปัณรสเผลอยิ้มกับคำเปรียบเทียบของชายหนุ่ม เธอรู้สึกดีกับคำ ๆ นี้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเพราะมันทำให้เธอรู้สึกว่ากลายเป็นเจ้าหญิงหรือคนพิเศษจริง ๆ หรอกนะ เพียงแต่ว่าเธอรู้สึกคุ้นเคยกับมันมากก็เท่านั้นเอง
คัง โซฮอนมาถึงก่อนเวลาเช่นเดียวกับที่ปัณรสก็เตรียมตัวเสร็จก่อนเวลาเช่นกัน ทั้งคู่จึงมีเวลาทานอาหารกลางวันด้วยกันเพิ่มอีกเกือบชั่วโมง
“ร้านนี้แล้วกันนะ สวยเหมือนคนที่พี่พามาทาน” ชายหนุ่มพูดพร้อมทำตาหวานใส่หญิงสาว
“พี่โซฮอนก็ พูดอะไรอย่างนั้นค้ะ รีบลงไปได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะมีเวลาทานน้อยลงนะค้ะ”
ความเคลื่อนไหวของสองหนุ่มสาวไม่สามารถคลาดไปจากสายตาคู่สวยอีกคู่หนึ่งที่จ้องมองอยู่ตลอดตั้งแต่เห็นรถของชายหนุ่มจอดแล้ว จึงเตรียมพร้อมทันทีที่สองหนุ่มสาวนั่งและสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย
“ตายแล้วบังเอิญจริง พี่โซฮอนก็มาทานข้าวที่นี่ด้วยเหรอค้ะ” ผู้มาใหม่เปิดฉากให้ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ตั้งใจเดินเข้ามาหาเขา และแล้วปฏิกิริยาของชายหนุ่มก็ทำให้เธอสมใจ ชายหนุ่มเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่หันมาเห็นเธอ
“อื้ม” คัง โซฮอนเลือกตอบเพียงสั้น ๆ แสดงออกชัดเจนถึงความเบื่อหน่าย
“แล้วพี่ไม่คิดจะแนะนำคนที่พี่พามาหน่อยเหรอค้ะ” หญิงสาวผู้มาใหม่ปรายตามองไปทางปัณรส ตั้งแต่เห็นรถของชายหนุ่มจอดและเห็นเขาเดินลงมาพร้อมหญิงสาวแปลกหน้าเธอก็รู้สึกหงุดหงิดภายในใจเต็มทีแล้ว ยิ่งมาเห็นท่าทางเบื่อหน่ายและปกป้องหญิงสาวอีกคนของเขาเธอยิ่งอยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครและมีความสำคัญยังไงกันแน่
“รสจ๊ะนี่ ปาร์ค เฮ ยัง เพื่อนร่วมงานของพี่จ๊ะ ส่วนนี่คุณรสแฟนของผมเอง” ชายหนุ่มแนะนำอย่างตัดความรำคาญและแสดงออกถึงความแตกต่างอย่างขัดเจน ในทีแรกปัณรสยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกันกับท่าทีไม่เป็นมิตรของหญิงสาว อีกทั้งกิริยาของหญิงสาวที่ปรายตามองเธออย่างดูถูกและไม่มีมารยาทนั่นด้วยแล้ว ถ้าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่คนรู้จักของแฟนเธอ เธอเองก็คงจะไม่ทนกับกิริยาเช่นนี้เหมือนกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณปาร์ค” ปัณรสยิ้มรับสั้น ๆ เพื่อตัดความรำคาญ
“งั้นเฮ ยังขอตัวไปทานข้าวกับเพื่อนก่อนนะค้ะพี่โซฮอน โอกาสหน้าไปที่บ้านหน่อยนะค้ะ คุณพ่อฝากมาบอกว่าคิดถึง” ปาร์ค เฮ ยังจงใจทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ชายหนุ่มโดยการเลื่อนใบหน้าสวยเฉี่ยวของเธอเข้ามาใกล้หน้าของชายหนุ่มรวมทั้งตัวเธอที่เลื่อนเข้ามาจนแทบจะแนบไปกับลำตัวของชายหนุ่ม พร้อมพูดจาแสดงความสนิทสนมและความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน แล้วเลือกที่จะเดินจากไปรอดูผลงานของตัวเองอยู่ห่าง ๆ
“เรื่องมันไม่จบง่าย ๆ แค่นี้แน่ค่ะพี่โซฮอน ฉันไม่ยอมให้ยัยหน้าจืดนั่นมาแย่งพี่ไปหรอก” ปาร์ค เฮ ยังพูดหลังจากที่เดินออกจากโต๊ะของชายหนุ่มมาแล้ว
.................................................................................................................................
ความคิดเห็น