ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทวิธรา

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 55


    ดูแลตัวเองดี ๆ นะยัยรส  เสียงบอกลาที่แสนจะนุ่มนวลออกจากปากของร้อยโทณัฐภัทร  พี่ชายของสาวน้อยที่เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้า

                    รู้แล้วค่ะ  รสโตแล้วนะค้ะ  เรียนจบปริญญาตรีแล้วด้วยค่ะ  เสียงเจื้อยแจ้วที่ตอบออกไปด้วยความมั่นใจ  วันนี้แล้วสินะที่ปัณรสจะต้องเดินทางจากแผ่นดินเกิดที่เธอคุ้นเคยมาตลอดชีวิตเพื่อไปศึกษาต่อ

                    ไปถึงแล้วอย่าลืมส่งอีเมล์มาบอกพี่ด้วยนะยัยรส  พี่ชายสั่งเสียงเข้มด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง

                    โอเคค่ะพี่ภัทร  ไปถึงรสจะรีบส่งอีเมล์มาบอกเลยค่ะ  ฝากดูแลแม่แล้วก็ช่วยทำให้แม่หายงอนหายโกรธรสไว ๆ ด้วยนะค้ะพี่ภัทร  ปัณรสพูดอย่างอาลัย  พร้อมกับเข้าไปสวมกอดพี่ชายสุดที่รักของเธออีกครั้งก่อนที่จะผละออกมาและเตรียมตัวขึ้นเครื่องเพราะตอนนี้เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องของเที่ยวบินที่เธอกำลังจะเดินทางกำลังเตือนแล้ว

                    ไปแล้วนะค้ะ  พี่ภัทร  ปัณรสพูดได้เพียงแค่นั้นก็รีบหันหลังและลากกระเป๋าเดินทางออกไปอย่างรวดเร็ว  เพราะหากปล่อยเวลาให้นานกว่านี้อาจเป็นตัวเธอเองที่จะเปลี่ยนใจไม่ไปเอาซะได้  แต่เล็กจนโตไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะต้องไปอยู่ไกลบ้านนานขนาดนี้  อย่างมากก็แค่ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ  แต่เธอกับพี่ชายและแม่ของเธอก็ยังได้โทรหากันอยู่ทุกวัน  และก็ยังได้กลับไปเยี่ยมบ้านอย่างน้อยเดือนละครั้ง  แต่นี่ไปไกลถึงเกาหลีเธอคงต้องร้องไห้แน่ ๆ ถ้าไปถึงที่นู่นแล้ว  แต่เธอต้องใจแข็งไม่อย่างนั้นเธอจะต้องถูกจับแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รัก 

    ณัฐภัทรได้แต่ยืนมองแผ่นหลังบางของน้องสาวเดินจากไปก็ใจหายอย่างบอกไม่ถูก  แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อคิดถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เขาจะต้องแก้ต่อไป

    เฮ้อ !!  ใจแข็งพอกันเลย  ทั้งแม่ทั้งยัยรส  ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง  แล้วพาลคิดไปถึงต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวสุดที่รักของเขาต้องหนีไปเรียนต่อไกลถึงเมืองนอก

     

    สามเดือนก่อน

                    ไม่นะค้ะแม่  ยังไงรสก็ไม่แต่ง  ปัณรสปฏิเสธเสียงแข็ง

                    แม่ก็ไม่ให้แต่งเลยเสียหน่อย  เพียงแต่ให้หมั้นไว้ก่อน  หนูเรียนจบโทแล้วค่อยแต่งกับพี่เขาก็ได้  เสียงของนางจรัสพร  มารดาของเธอพยายามเกลี้ยกล่อม

                    หมั้นรสก็ไม่หมั้นค่ะ  ไม่หมั้น  ไม่แต่ง  ไม่อะไรทั้งนั้นค่ะ  ปัณรสยังคงปฏิเสธเสียงแข็งเหมือนเดิม

                    “ไม่ได้  แกต้องหมั่นแล้วก็ต้องแต่งงานกับตาดนุเดช  ลูกชายท่านผู้ว่านะ”  เมื่อลูกสาวยังปฏิเสธเสียงแข็ง  คนเป็นแม่ก็ไม่ยอมอ่อนให้เหมือนกัน  ลำบากถึงบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย

                    “ใจเย็น ๆ ก่อนครับแม่  แม่จะไปบังคับยัยรสก็ไม่ถูกนะครับ  เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง  นายดนุเดชนั่นเป็นคนยังไงเราก็ไม่รู้  แล้วจะให้ยัยรสทั้งหมั้นทั้งแต่งด้วย  เป็นผมผมก็ไม่เอาเหมือนกันครับแม่”  ร้อยโทณัฐภัทรพยายามใช้เหตุผลพูดกับมารดา  ให้ทั้งสองใจเย็นลงบ้าง  แต่ดูเหมือนความพยายามจะไม่เป็นผล

                    “ไม่รู้จักได้ยังไง  ภรรยาท่านผู้ว่าเป็นเพื่อนรักกับแม่  ตาเดชแม่ก็เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย  รู้จักนิสัยใจคอกันดี  ไม่รู้แหละ  แม่จะเลือกลูกเขยเอง  แม่จะเอาคนนี้”  นางจรัสพรยังคงยืนยันคำเดิม

                    “งั้นก็แล้วแต่แม่เถอะค่ะ”  พอได้ยินคำตอบของลูกสาวนางจรัสพรก็ยิ้มออกทันที  และในขณะที่กำลังจะเดินไปโอบกอดลูกสาวด้วยความรัก  ก็มีเหตุให้เกิดเปลี่ยนใจกะทันหันจากคำพูดต่อมาของลูกสาวสุดที่รัก

                    “ถ้าแม่จะเอาคนนี้ก็เรื่องของแม่  แต่รสไม่เอากับแม่ด้วยหรอกค่ะ”  พูดได้แค่นั้น  ปัณรสก็วิ่งขึ้นห้องและปิดประตูทันที

                    “เดี๋ยวก่อน !!! ยัยรส  ลงมาคุยกับแม่ให้รู้เรื่องก่อนนะ”  นางจรัสพรยังคงตะโกนให้ลูกสาวตัวดีลงมาคุยกัน  แต่ก็ไม่เป็นผล

     

                    ทันทีที่เข้าห้องและปิดประตูได้  หญิงสาวทิ้งตัวลงบนเตียงนอนที่ในยามปกติแล้วเธอรักมันเป็นที่สุด  แต่ในเวลานี้  เธอกลับไม่มีกะจิตกะใจที่จะสนใจสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย  ในใจก็นึกน้อยใจมารดาด้วยเหตุผลต่าง ๆ มากมาย  พร้อมกับคิดหาทางออกเรื่องที่เกิดขึ้น  ในเมื่ออยู่ที่นี่ไม่ได้  เธอก็จะหนี !!!

     

    สนามบินนานาชาติอินชอน  กรุงโซล  ประเทศเกาหลีใต้

                    ปัณรสเดินออกมาจากห้องผู้โดยสาร  และพยายามมองหาป้ายชื่อของสถานทูตไทยประจำเกาหลีใต้  แล้วสายตาเธอก็สะดุดเข้ากับร่างสูงโปร่งที่แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่ก็ยังโดดเด่น  ใบหน้าคมเข้มนั้นดูหล่อเหลาถึงแม้จะมีไรหนวดนิด ๆ ตรงปลายคางแต่ก็ยังดูคมเข้ม  เข้ากับเครื่องหน้าของชายหนุ่มอย่างพอเหมาะพอดี

                    อยากรู้จริง ๆ ว่า  ดวงตาที่อยู่ใต้กรอบแว่นตาดำนั้นจะมีเสน่ห์แค่ไหน’  ปัณรสเผลอคิดในใจ  ไม่รู้เป็นเพราะว่าปัณรสไม่อาจถอนสายตาจากร่างสูงนั้นได้หรือเพราะเธอซุ่มซ่ามเองจึงทำให้เธอชนกับชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างหน้าเธอเข้าอย่างจัง

                    “I’m  sorry.”  ปัณรสพูดออกไปโดยอัตโนมัติ

                    “I’m  OK . Do  not  mention  it.”  ชายหนุ่มคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ  แล้วสายตาของปัณรสก็เหลือบไปเห็นป้ายที่ชายหนุ่มถืออยู่เขียนว่า  สถานฑูตไทย’  ทำให้เธอถึงบางอ้อทันทีว่า  ชายหนุ่มคนนี้คงจะเป็นคนที่มารับเธอเป็นแน่

                    “สวัสดีค่ะ  ดิฉันปัณรส  สถิตคุณ  นักเรียนทุนจากรัฐบาลไทยค่ะ”  ปัณรสแนะนำตัวเองหลังจากยกมือไหว้เรียบร้อยแล้ว 

                    “ผมคุณานนท์  เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทยที่นี่ครับ”  ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม 

                    “เอ่อ  แล้วเราต้องรอใครอีกหรือเปล่าค้ะ คุณ เอ่อ”

                    “นนท์ครับ  เรียกผมว่านนท์เฉย ๆ ก็ได้ครับ”  คุณานนท์ต่อประโยคที่หญิงสาวพูดไม่จบด้วยชื่อเล่นของเขา

                    “ค่ะ  คุณนนท์แล้วเราต้องรอใครอีกหรือเปล่าค้ะ”

                    “ไม่ต้องแล้วครับ  วันนี้มีแค่คุณ...”

                    “รสค่ะ”  ปัณรสเองก็ต่อคำให้เขาเช่นกัน  คุณานนท์หัวเราะเบา ๆ กับความขี้เล่นของหญิงสาวตรงหน้า

                    “ครับคุณรส  วันนี้ไม่มีใครแล้วครับ  มีแค่คุณที่เดินทางมาคนเดียว  งั้นเดี๋ยวเชิญทางนี้เลยครับ”  คุณานนท์นำทางหญิงสาวออกจากสนามบินไปยังรถยนต์ของสถานทูตที่จอดรออยู่ด้านหน้า

     

                    บรรยากาศภายในรถค่อนข้างผ่อนคลาย  เนื่องจากปัณรสเป็นคนร่าเริงและขี้เล่น  บวกกับที่คุณานนท์เองก็เป็นหนุ่มนักการทูต  ทั้งสองคนจึงสามารถพูดคุยกันได้อย่างถูกคอทั้งที่เพิ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรก  แต่นั่นก็ทำให้ปัณรสรู้สึกดีไม่น้อย  ถึงจะมาต่างบ้านต่างเมืองแต่อย่างน้อยก็มีคุณานนท์คนหนึ่งหล่ะ  ที่ต้อนรับเธออย่างเป็นมิตร  จะด้วยความเพลียหรืออาการเจ็ทแล็กก็ไม่สามารถรู้ได้  เพราะเพียงแค่พริบตาเดียวที่คุณานนท์หันไปรับโทรศัพท์  เมื่อหันกลับมาอีกทีปัณรสก็หลับสนิทเสียแล้ว

     

                    ถ้าไม่เป็นเพราะคนที่ทำหน้าที่มารับนักเรียนทุนไปยังสถานทูตลากะทันหันเพราะมีเหตุจำเป็นแล้วล่ะก็  วันนี้คุณานนท์คงไม่ได้พบกับปัณรส  หญิงสาวที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็นเธอ  ปัณรสไม่ใช่คนสวยเด่นอย่างดาราหรือนางแบบ  แต่เธอก็มีเสน่ห์ในแบบที่เห็นแล้วต้องเหลียวหลังกลับมามอง  ยิ่งได้พูดคุยทำความรู้จัก  เขาก็ยิ่งชอบในอัธยาศัยของเธอ

                    ไม่ทันไรเลย  หลับซะแล้ว’  ชายหนุ่มคิดในใจ  แต่ก็ไม่ได้รบกวนเพราะคิดว่าปัณรสคงจะเพลียจากการเดินทางและอาการเจ็ทแล็ก

     

                    “คุณรสครับ  ตื่นเถอะครับ  ถึงสถานฑูตแล้ว”  คุณานนท์เอื้อมมือมาแตะที่ข้อศอกของปัณรส  พร้อมเขย่าเบา ๆ เพื่อปลุกให้เธอตื่น

                    “ตายจริง  รสเผลอหลับไปเหรอค้ะเนี่ย  เสียมารยาทจังเลย  ขอโทษนะค้ะคุณนนท์”  ปัณรสเอ่ยด้วยความรู้สึกผิดพร้อมส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ชายหนุ่ม

                    “ไม่เป็นไรหรอกครับ  คงจะเพลียจากการเดินทาง  เดี๋ยวเราเข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ  คุณรสจะได้ไปที่พักแล้วพักผ่อน”  คุณานนท์เดินนำหญิงสาวเข้าไปภายในสถานทูต

                    วันนี้ปัณรสไม่ต้องทำอะไรมาก  เธอเพียงแค่เข้ามารายงานตัวและรับฟังเงื่อนไขและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ระหว่างอยู่ที่นี่  โดยในช่วง  เดือนแรกที่มหาวิทยาลัยยังไม่เปิดเรียนนี้หญิงสาวจะพักอยู่ในที่พักที่สถานทูตจัดให้  เนื่องจากปัณรสเดินทางมาเร็วกว่าเวลาที่กำหนด  เธอจึงเหลือเวลาพักผ่อนก่อนที่จะต้องเริ่มเรียนภาษาและเตรียมตัวพร้อมนักเรียนทุนคนอื่นเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม  เธอจึงเริ่มวางแผนท่องเที่ยวและสำรวจเส้นทางก่อนที่เธอจะต้องเริ่มต้นเรียนอย่างจริงจังหลังจากนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×