คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะยัยรส” เสียงบอกลาที่แสนจะนุ่มนวลออกจากปากของร้อยโทณัฐภัทร พี่ชายของสาวน้อยที่เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้า
“รู้แล้วค่ะ รสโตแล้วนะค้ะ เรียนจบปริญญาตรีแล้วด้วยค่ะ” เสียงเจื้อยแจ้วที่ตอบออกไปด้วยความมั่นใจ วันนี้แล้วสินะที่ปัณรสจะต้องเดินทางจากแผ่นดินเกิดที่เธอคุ้นเคยมาตลอดชีวิตเพื่อไปศึกษาต่อ
“ไปถึงแล้วอย่าลืมส่งอีเมล์มาบอกพี่ด้วยนะยัยรส” พี่ชายสั่งเสียงเข้มด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
“โอเคค่ะพี่ภัทร ไปถึงรสจะรีบส่งอีเมล์มาบอกเลยค่ะ ฝากดูแลแม่แล้วก็ช่วยทำให้แม่หายงอนหายโกรธรสไว ๆ ด้วยนะค้ะพี่ภัทร” ปัณรสพูดอย่างอาลัย พร้อมกับเข้าไปสวมกอดพี่ชายสุดที่รักของเธออีกครั้งก่อนที่จะผละออกมาและเตรียมตัวขึ้นเครื่องเพราะตอนนี้เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องของเที่ยวบินที่เธอกำลังจะเดินทางกำลังเตือนแล้ว
“ไปแล้วนะค้ะ พี่ภัทร” ปัณรสพูดได้เพียงแค่นั้นก็รีบหันหลังและลากกระเป๋าเดินทางออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะหากปล่อยเวลาให้นานกว่านี้อาจเป็นตัวเธอเองที่จะเปลี่ยนใจไม่ไปเอาซะได้ แต่เล็กจนโตไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะต้องไปอยู่ไกลบ้านนานขนาดนี้ อย่างมากก็แค่ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ แต่เธอกับพี่ชายและแม่ของเธอก็ยังได้โทรหากันอยู่ทุกวัน และก็ยังได้กลับไปเยี่ยมบ้านอย่างน้อยเดือนละครั้ง แต่นี่ไปไกลถึงเกาหลีเธอคงต้องร้องไห้แน่ ๆ ถ้าไปถึงที่นู่นแล้ว แต่เธอต้องใจแข็งไม่อย่างนั้นเธอจะต้องถูกจับแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รัก
ณัฐภัทรได้แต่ยืนมองแผ่นหลังบางของน้องสาวเดินจากไปก็ใจหายอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อคิดถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เขาจะต้องแก้ต่อไป
“เฮ้อ !! ใจแข็งพอกันเลย ทั้งแม่ทั้งยัยรส” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง แล้วพาลคิดไปถึงต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวสุดที่รักของเขาต้องหนีไปเรียนต่อไกลถึงเมืองนอก
สามเดือนก่อน
“ไม่นะค้ะแม่ ยังไงรสก็ไม่แต่ง” ปัณรสปฏิเสธเสียงแข็ง
“แม่ก็ไม่ให้แต่งเลยเสียหน่อย เพียงแต่ให้หมั้นไว้ก่อน หนูเรียนจบโทแล้วค่อยแต่งกับพี่เขาก็ได้” เสียงของนางจรัสพร มารดาของเธอพยายามเกลี้ยกล่อม
“หมั้นรสก็ไม่หมั้นค่ะ ไม่หมั้น ไม่แต่ง ไม่อะไรทั้งนั้นค่ะ” ปัณรสยังคงปฏิเสธเสียงแข็งเหมือนเดิม
“ไม่ได้ แกต้องหมั่นแล้วก็ต้องแต่งงานกับตาดนุเดช ลูกชายท่านผู้ว่านะ” เมื่อลูกสาวยังปฏิเสธเสียงแข็ง คนเป็นแม่ก็ไม่ยอมอ่อนให้เหมือนกัน ลำบากถึงบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับแม่ แม่จะไปบังคับยัยรสก็ไม่ถูกนะครับ เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง นายดนุเดชนั่นเป็นคนยังไงเราก็ไม่รู้ แล้วจะให้ยัยรสทั้งหมั้นทั้งแต่งด้วย เป็นผมผมก็ไม่เอาเหมือนกันครับแม่” ร้อยโทณัฐภัทรพยายามใช้เหตุผลพูดกับมารดา ให้ทั้งสองใจเย็นลงบ้าง แต่ดูเหมือนความพยายามจะไม่เป็นผล
“ไม่รู้จักได้ยังไง ภรรยาท่านผู้ว่าเป็นเพื่อนรักกับแม่ ตาเดชแม่ก็เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย รู้จักนิสัยใจคอกันดี ไม่รู้แหละ แม่จะเลือกลูกเขยเอง แม่จะเอาคนนี้” นางจรัสพรยังคงยืนยันคำเดิม
“งั้นก็แล้วแต่แม่เถอะค่ะ” พอได้ยินคำตอบของลูกสาวนางจรัสพรก็ยิ้มออกทันที และในขณะที่กำลังจะเดินไปโอบกอดลูกสาวด้วยความรัก ก็มีเหตุให้เกิดเปลี่ยนใจกะทันหันจากคำพูดต่อมาของลูกสาวสุดที่รัก
“ถ้าแม่จะเอาคนนี้ก็เรื่องของแม่ แต่รสไม่เอากับแม่ด้วยหรอกค่ะ” พูดได้แค่นั้น ปัณรสก็วิ่งขึ้นห้องและปิดประตูทันที
“เดี๋ยวก่อน !!! ยัยรส ลงมาคุยกับแม่ให้รู้เรื่องก่อนนะ” นางจรัสพรยังคงตะโกนให้ลูกสาวตัวดีลงมาคุยกัน แต่ก็ไม่เป็นผล
ทันทีที่เข้าห้องและปิดประตูได้ หญิงสาวทิ้งตัวลงบนเตียงนอนที่ในยามปกติแล้วเธอรักมันเป็นที่สุด แต่ในเวลานี้ เธอกลับไม่มีกะจิตกะใจที่จะสนใจสิ่งรอบข้างเลยแม้แต่น้อย ในใจก็นึกน้อยใจมารดาด้วยเหตุผลต่าง ๆ มากมาย พร้อมกับคิดหาทางออกเรื่องที่เกิดขึ้น ในเมื่ออยู่ที่นี่ไม่ได้ เธอก็จะหนี !!!
สนามบินนานาชาติอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ปัณรสเดินออกมาจากห้องผู้โดยสาร และพยายามมองหาป้ายชื่อของสถานทูตไทยประจำเกาหลีใต้ แล้วสายตาเธอก็สะดุดเข้ากับร่างสูงโปร่งที่แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่ก็ยังโดดเด่น ใบหน้าคมเข้มนั้นดูหล่อเหลาถึงแม้จะมีไรหนวดนิด ๆ ตรงปลายคางแต่ก็ยังดูคมเข้ม เข้ากับเครื่องหน้าของชายหนุ่มอย่างพอเหมาะพอดี
‘อยากรู้จริง ๆ ว่า ดวงตาที่อยู่ใต้กรอบแว่นตาดำนั้นจะมีเสน่ห์แค่ไหน’ ปัณรสเผลอคิดในใจ ไม่รู้เป็นเพราะว่าปัณรสไม่อาจถอนสายตาจากร่างสูงนั้นได้หรือเพราะเธอซุ่มซ่ามเองจึงทำให้เธอชนกับชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างหน้าเธอเข้าอย่างจัง
“I’m sorry.” ปัณรสพูดออกไปโดยอัตโนมัติ
“I’m OK . Do not mention it.” ชายหนุ่มคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ แล้วสายตาของปัณรสก็เหลือบไปเห็นป้ายที่ชายหนุ่มถืออยู่เขียนว่า ‘สถานฑูตไทย’ ทำให้เธอถึงบางอ้อทันทีว่า ชายหนุ่มคนนี้คงจะเป็นคนที่มารับเธอเป็นแน่
“สวัสดีค่ะ ดิฉันปัณรส สถิตคุณ นักเรียนทุนจากรัฐบาลไทยค่ะ” ปัณรสแนะนำตัวเองหลังจากยกมือไหว้เรียบร้อยแล้ว
“ผมคุณานนท์ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตไทยที่นี่ครับ” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ แล้วเราต้องรอใครอีกหรือเปล่าค้ะ คุณ เอ่อ”
“นนท์ครับ เรียกผมว่านนท์เฉย ๆ ก็ได้ครับ” คุณานนท์ต่อประโยคที่หญิงสาวพูดไม่จบด้วยชื่อเล่นของเขา
“ค่ะ คุณนนท์แล้วเราต้องรอใครอีกหรือเปล่าค้ะ”
“ไม่ต้องแล้วครับ วันนี้มีแค่คุณ...”
“รสค่ะ” ปัณรสเองก็ต่อคำให้เขาเช่นกัน คุณานนท์หัวเราะเบา ๆ กับความขี้เล่นของหญิงสาวตรงหน้า
“ครับคุณรส วันนี้ไม่มีใครแล้วครับ มีแค่คุณที่เดินทางมาคนเดียว งั้นเดี๋ยวเชิญทางนี้เลยครับ” คุณานนท์นำทางหญิงสาวออกจากสนามบินไปยังรถยนต์ของสถานทูตที่จอดรออยู่ด้านหน้า
บรรยากาศภายในรถค่อนข้างผ่อนคลาย เนื่องจากปัณรสเป็นคนร่าเริงและขี้เล่น บวกกับที่คุณานนท์เองก็เป็นหนุ่มนักการทูต ทั้งสองคนจึงสามารถพูดคุยกันได้อย่างถูกคอทั้งที่เพิ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรก แต่นั่นก็ทำให้ปัณรสรู้สึกดีไม่น้อย ถึงจะมาต่างบ้านต่างเมืองแต่อย่างน้อยก็มีคุณานนท์คนหนึ่งหล่ะ ที่ต้อนรับเธออย่างเป็นมิตร จะด้วยความเพลียหรืออาการเจ็ทแล็กก็ไม่สามารถรู้ได้ เพราะเพียงแค่พริบตาเดียวที่คุณานนท์หันไปรับโทรศัพท์ เมื่อหันกลับมาอีกทีปัณรสก็หลับสนิทเสียแล้ว
ถ้าไม่เป็นเพราะคนที่ทำหน้าที่มารับนักเรียนทุนไปยังสถานทูตลากะทันหันเพราะมีเหตุจำเป็นแล้วล่ะก็ วันนี้คุณานนท์คงไม่ได้พบกับปัณรส หญิงสาวที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็นเธอ ปัณรสไม่ใช่คนสวยเด่นอย่างดาราหรือนางแบบ แต่เธอก็มีเสน่ห์ในแบบที่เห็นแล้วต้องเหลียวหลังกลับมามอง ยิ่งได้พูดคุยทำความรู้จัก เขาก็ยิ่งชอบในอัธยาศัยของเธอ
‘ไม่ทันไรเลย หลับซะแล้ว’ ชายหนุ่มคิดในใจ แต่ก็ไม่ได้รบกวนเพราะคิดว่าปัณรสคงจะเพลียจากการเดินทางและอาการเจ็ทแล็ก
“คุณรสครับ ตื่นเถอะครับ ถึงสถานฑูตแล้ว” คุณานนท์เอื้อมมือมาแตะที่ข้อศอกของปัณรส พร้อมเขย่าเบา ๆ เพื่อปลุกให้เธอตื่น
“ตายจริง รสเผลอหลับไปเหรอค้ะเนี่ย เสียมารยาทจังเลย ขอโทษนะค้ะคุณนนท์” ปัณรสเอ่ยด้วยความรู้สึกผิดพร้อมส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คงจะเพลียจากการเดินทาง เดี๋ยวเราเข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ คุณรสจะได้ไปที่พักแล้วพักผ่อน” คุณานนท์เดินนำหญิงสาวเข้าไปภายในสถานทูต
วันนี้ปัณรสไม่ต้องทำอะไรมาก เธอเพียงแค่เข้ามารายงานตัวและรับฟังเงื่อนไขและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ระหว่างอยู่ที่นี่ โดยในช่วง 1 เดือนแรกที่มหาวิทยาลัยยังไม่เปิดเรียนนี้หญิงสาวจะพักอยู่ในที่พักที่สถานทูตจัดให้ เนื่องจากปัณรสเดินทางมาเร็วกว่าเวลาที่กำหนด เธอจึงเหลือเวลาพักผ่อนก่อนที่จะต้องเริ่มเรียนภาษาและเตรียมตัวพร้อมนักเรียนทุนคนอื่นเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม เธอจึงเริ่มวางแผนท่องเที่ยวและสำรวจเส้นทางก่อนที่เธอจะต้องเริ่มต้นเรียนอย่างจริงจังหลังจากนี้
ความคิดเห็น