ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ReD CaMp ค่ายมรณะ

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่4 :: ลางร้ายที่ตอกย้ำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 101
      0
      2 พ.ค. 54

     

                บางสิ่งบางอย่างกำลังอธิบายเรื่องราวให้พวกเขาทุกคนได้รับรู้ แต่ไม่มีใครที่สามารถรับรู้ได้นอกจาก....

                    อะไรนะ! วินขี่มอเตอร์ไซด์ชนศาล!

                    เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่ยังยืนอยู่ภายในโรงเรียนตะโกนขึ้นเมื่อได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนอีกคนที่ออกไปอยู่ในเหตุการณ์นอกโรงเรียน ดูเหมือนว่าคำพูดเหล่านั้นจะดึงดูดเอาความสอดรู้สอดเห็นของพวกเด็กๆได้เป็นอย่างดี เพราะทุกคน รวมทั้งตัวเชอร์รี่เองด้วย  ทุกคนวิ่งออกไปที่ประตูหน้าโรงเรียนที่มีศาลเพียงตาตั้งอยู่ในทันที มันทำให้เด็กสาวคิดย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืน  ที่เธอได้พบกับชายแก่ปริศนา  ....เขาเป็นใคร?....  เรื่องนั้นตัวของเธอเองก็ยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้   แต่... ลางสังหรณ์ หรือ ความรู้สึกบางอย่างของเธอมันบอกว่า...  เธอกำลังจะได้รู้ในไม่ช้า

    เชอร์รี่และเพื่อนอีกกลุ่มวิ่งเข้าไปแทรกระหว่างเพื่อนผู้หญิงสองคน ทำให้แก้วน้ำในมือของเธอหล่นแตก น้ำกระจายผสมกับเถ้าสีเทาของธูปจากกระถางธูปของศาลที่หล่นร่วงลงมาพร้อมกับตุ๊กตาปั้นต่างๆที่เป็นตัวแทนของเทพที่คนทั่วไปใช้สักการบูชา  เพื่อนหญิงหนึ่งในนั้นก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกก่อนที่ตัวของเชอร์รี่จะพบว่าที่แท้จริงแล้วเธอก็ คือ...  หมิวนั่นเอง  แต่... แววตาอันไร้ประกายแบบนี้ไม่ใช่ของหมิว ....เธอเป็นอะไรไป?...  และแล้วคมของเศษแก้วก็บรรจงกรีดไปที่นิ้วมือของหมิวอย่างช้าๆจนเลือดสีแดงมากมายไหลซึมออกมา และนั่นเอง ...ประกายในแววตาของเธอก็กลับมาอีกครั้ง... เพื่อนหญิงอีกคน ก้มตัวลงมาหาหมิวแล้วโวยวายเอ็ดตะโรใหญ่โต ...ใช่... เชอร์รี่จำเสียงของเธอได้  เธอ คือ เฟิร์น แต่...

     

    ....... ทำไม? ทำไม? ทำไม? ......

     

    เชอร์รี่รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกที่พิลึกกึกกือ  ใบหน้าและร่างกายของเพื่อนๆทุกคนค่อยๆเลือนรางราวกับจะสลายหายไปเหมือนอากาศ  ณ.จุดมุมสายตาของเธอนั้นเองมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังดูพวกเธออยู่           

    ....พวกเขาเป็นใคร?.... .....มีทั้งเด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย และ......

     

    .....ชายแก่คนนั้นที่เธอเคยเจอ!!!!....

     

    .....................................................................

     

                    วินไปอะไรไหม? พริมถาม

                    สบายๆ วินพูด พลางชูสองนิ้วให้ทุกคนเห็น

                    ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว อาจารย์ธเนศบอก

                    พาวินเขา เข้าไปในโรงเรียนดีกว่าครับ มอส เด็กหนุ่มตาโตในกลุ่มไทยมุงเสนอ

                    ใช่ครับ เอาวินเข้าไปในโรงเรียนก่อนดีกว่า เอ้ เด็กหนุ่มร่างเล็ก มาดเท่ห์ที่ยืนอยู่ข้างมอสย้ำ

                    เจษฎาภรณ์ ไหวไหม?

                    สบายมากคะอาจารย์ วินตอบ แต่ท่าทางดูจะขัดกับคำพูดอย่างไรก็ไม่รู้

                    อยากฝืนเลยวิน เดี๋ยวแกก็แย่หรอกกิ๊ฟท์บอก ในขณะที่มีเสียงสนับสนุนจากพริมเพื่อนสนิทของวินที่เห็นด้วยกับความคิดนี้

                    สุดท้ายวินก็ต้องถูกหามปีกไปคนละข้างโดยที่มี  นิวและตาต้า(เจ้าเดิม)เป็นคนจัดการพาวินไปทำแผลที่ห้องพยาบาล และมีพริมกับกิ๊ฟท์ที่ทำหน้าที่เป็นลูกหาบแบกกระเป๋าสัมภาระของวินตามไป เพื่อนๆทุกคนเริ่มทยอยกันออกจากสถานที่เกิดเหตุ แต่...

     

    เชอร์รี่ยังอยู่!!!  พวกกลุ่มคนที่เธอเห็นก็ยังอยู่!!!

     

                    เด็กสาวหยุดยืนนิ่งๆจึงได้รับรู้ว่าสายลมบริเวณโดยรอบพัดเปลี่ยนทิศทางไปตามทิศต่างๆอย่างรวดเร็ว ความร้อนเริ่มเหือดหายไปเหลือเป็นแต่ไอเย็นที่ดูจะไม่มีที่สิ้นสุด กลุ่มคนแปลกประหลาดเริ่มเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ตัวเธอเรื่อยๆ  พร้อมกับจำนวนของเพื่อนๆที่หายไปอย่างหน้าใจหาย  หางตาของเธอเหลือบไปเห็นเฟิร์ทที่กำลังพยุงรถมอเตอร์ไซด์ที่วินขี่มาขึ้นจากซากของศาลเก่าอย่างช้าๆ แล้วเคลื่อนมันออกมาข้างหน้าเพื่อที่จะเอาไปไว้ในโรงเรียน

     

    ....ล้อของรถบทขยี้ตุ๊กตานางรำ 2 ตัว เงาของผู้หญิงที่เคลื่อนตัวมาก็หายไป....

     

    ....เฟิร์ทเหยียบตุ๊กตากุมาร เงาของเด็กตัวเล็กๆก็หายไปจากบริเวณนั้น….

     

    ...ยัง! ยังไม่หมดเงาของชายแก่เข้ามาใกล้ ตัวของเธอเรื่อยๆ...

     

    ...เงานั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอพร้อมกับเฟิร์ทที่เข็นมอเตอร์ไซด์ผ่านหน้าของเธอ และทะลุผ่านเงา เงานั้นไป   ใบหน้าของเขาดูเปลี่ยนไป ดวงตาสีแดงสด ริ้วรอยเหี่ยวย่นเริ่มปรากฏและหายไปทันทีที่ เฟิร์ทพ้นประตูโรงเรียนเข้าไป แต่...

     

    ...เงานั้นยังไม่หายไป!!!...

     

    ..มันกระโจนเข้ามา!!! และ...

     

    ....หายไป!!!...

     

                    เชอร์รี่ตกใจกับสิ่งที่เงานั้นกำลังจะกระทำกับตัวเธอ  แต่ก็ยังกระวนกระวายใจมากที่ไม่พบสาเหตุที่ชายแก่ปริศนาคนนั้นอุตสาห์ออกมาให้เธอเห็นถึงสองครั้งสองครา ...เขาต้องการที่จะบอกอะไรกับเธอกัน???...

                   

    เชอร์รี่!!!”

                    เสียงเรียกที่น้ำส้มเปล่งออกมาดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเธอ  ทำให้ตัวของเชอร์รี่หลุดจากภวังค์  เธอมองไปรอบๆและเห็นว่านอกจากน้ำส้มแล้วก็ยังมีไอซ์ อิ๊บและออมที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ

                    เป็นอะไรไป? ฉันเรียกตั้งนาน

                    เปล่า ไม่มีอะไรหรอกเข้าไปข้างในกันดีกว่า

                    ดีเหมือนกันรถคงใกล้จะออกแล้วล่ะ อิ๊บไปเถอะออมพูดก่อนที่จะดึงมืออิ๊บพ้นเขตประตูของโรงเรียนเข้าไป โดยที่มีน้ำส้มเดินตามหลัง และไอซ์ที่เดินอ้อมผ่านตัวของเธอเข้าไป เขากระซิบกับเธออย่างแผ่วเบาว่า...

     

                    เขาคงมาเตือนเธอ!!!  ระวังตัวไว้นะ!!!” … “เพราะพวกนั้นเขาก็มาเตือนฉันเหมือนกัน

     

                    แล้วเขาก็เดินผ่านประตูเข้าไป ทิ้งไว้แต่เพียงความเคลือบแคลงใจของเธอที่ไม่สามารถหาคำอธิบาย ทั้งสิ่งที่เธอเห็น และสิ่งที่เพื่อนหนุ่มบอกได้  แต่เท่าที่ความรู้สึกของเธอ  เธอบอกได้ว่า... เหตุการณ์ในวันนี้มันพยายามเตือนพวกเขาทุกคนอยู่  และก็ไม่รู้ว่าจะมีลางร้ายในรูปแบบไหนอีกบ้างที่เธอ ไม่สิ! พวกเธอทุกคนจะต้องพบเจอ แต่ที่รู้ๆคนที่สามารถสัมผัสกับสารเตือนจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออะไรก็แล้วแต่ นี้ได้

    ....ไม่ได้มีแค่เธอเพียงคนเดียวแน่นอน!!!...

     

    ....................................................................

     

                    วิน OK. ไหม?ตาต้าถามในขณะที่เขาถือกระเป๋าของวินไว้มือ ท่ามกลางการรวมตัวกันในหมู่เพื่อนฝูงประมาณ 9-10 คนได้

                    ไม่เป็นไรแล้วล่ะ

                    แมร่ง....ห้องพยาบาลเสือกไม่เปิดกิ๊ฟท์สบถ

                    แต่ก็ดีที่กล่องพยาบาลของส้มไม่เป็นหมัน ออมเล่นมุขฝืด แต่ก็พอที่จะทำให้เพื่อนในกลุ่มอมยิ้มได้

                    มันไม่เป็นตั้งแต่แรกแล้วล่ะ เฟิร์นขัด ก็ไอ้หมิวมันได้ใช้ไปก่อนใครแล้วหนิ

                    ไปที่รถเถอะ อิ๊บเสนอ

                    ดีเหมือนกันนะ ฉันว่านี่มันก็เลยเวลามาเยอะแล้ว พริมตอบรับ

                    เดี๋ยวส้มไปห้องน้ำก่อนนะ น้ำส้มบอก ทุกคนไปกันก่อนเลยละกัน

                    ให้ฉันไปด้วยไหม? ออมเสนอ

                    ไม่เป็นไรส้มไปแปบเดียว น้ำส้มเอามือป้องปาก แล้วกระซิบเบาๆ มีเรื่องต้องจัดการ

                    หลังจากนั้นพวกเด็กๆก็พากันเดินมาที่ตัวรถ โดยที่มีพริมกับกิ๊ฟท์ช่วยกันประคองวิน และนิวที่ กระตือรือร้นถือของอื่นๆตามมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่อาจารย์ธเนศเรียกรวมพอดี

                    เอาล่ะนักเรียนตอนนี้ก็ได้ถึงเวลาที่เราจะได้ไปเข้าค่ายกันจริงๆสักที อาจารย์เว้นช่วงเพื่อให้พวกเราเฮ! ก่อนที่จะทำให้พวกเราโห่!  ด้วยประโยคว่า แต่...ก่อนอื่นครูขอแนะนำ ลุงชิต คนขับรถของพวกเธอ

                    สวัสดีครับ/ค่ะ

                    และพี่ดนัย พี่เลี้ยงของโรงเรียนเรา ที่งานเขาส่งมาอาจารย์หนุ่มแนะนำ เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วพี่เขาจะดูแลเรื่องทุกอย่างให้พวกเรา

                    สวัสดีครับ/ค่ะ

                    เอาล่ะตอนนี้พวกเราก็พร้อมกันหมดทุกคนแล้วนะ

                    ครับ/ค่ะ

                    จัดข้าวของให้ครบนะ  เพราะพวกเราต้องไปกันอีกไกล ถ้าของครบแล้วขึ้นรถได้เลย....เป็นแถวนะ

                    ราวกับฟ้าพิโรธ ท้องฟ้าที่ดูสดใสอยู่ดีๆเมฆสีเทาเข้มก็ปรากฏบนท้องฟ้าส่อแววว่าฝนกำลังพร้อมที่จะโปรยลงมา สายลมรุนแรงพัดมาปะทะแถวของพวกเขาที่กำลังขึ้นรถพร้อมที่จะออกเดินทาง ราวกับก้อนเนื้อส่วนที่เกินมา อะไรบางอย่างยังค้างคาอยู่ในใจของรองหัวหน้าสาว  แต่เธอไม่รู้อะไรเลย ทั้งเรื่อง...

    ...ความฝันของอิ๊บ...

     

    ...อุบัติเหตุของน้ำส้ม...

     

    ...การพบเจอกับวิญญาณของไอซ์...

     

    ...ชายแก่และเงาที่เธอเจอ...

     

    ...ผีถ้วยแก้วของนิวและตาต้า...

     

    ...เศษแก้วที่บาดนิ้วของหมิว...

     

    ...หน้าของเฟิร์ทที่เปลี่ยนไป...

     

    ...ไพ่ยิปซีของต้น...

     

    ...รถชนศาลของวิน...

     

    ...หรือแม้แต่ฝนที่กำลังจะตกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย...

     

    เชอร์รี่ยืนแถวต่อจาก ดี้ ที่มี ขลุ่ย ยืนจ่อประตูอยู่ ข้างหลังของเธอก็มีอิ๊บ ออม และลูกปลาที่คุยกันอยู่ ส่วนคนต่อไปก็ คือ ไอซ์ที่ฝากกล้องถ่าย VDO ไว้ที่นิว แล้วหันมาคุยกับน้ำส้มที่อยู่ข้างหลัง   นิวซึ่งเป็นคนเกือบสุดท้ายของแถว น้ำส้มดูจะตื้นเต้นมาก เพราะสีหน้าซีดๆไป หลังจากที่เธอก็ไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาหลังจากการรวมตัวเมื่อ 10 นาทีก่อน  ระหว่างที่เชอร์รี่กำลังจะก้าวขึ้นรถอยู่นั้นเอง กระแสลมพิฆาตก็พัดมาอย่างรุนแรง คงมีแต่เธอกระมังที่สังเกตว่าลมพิฆาตนั้นพัดป้ายผ้าที่ห้อยข้างรถที่เขียนว่า เข้าค่ายลูกเสือ และยุวกาชาดแห่งชาติ ถูกละอองฝนชะจนหมึกสีแดงละลายเปรอะเปื้อนคล้ายกับถูก ...เลือดสาด

     

    …………………………………………………

     

                    พวกเด็กๆที่เหลือขึ้นมาบนรถจากทางประตูหน้าก็พบว่า เพื่อนๆเกือบทั้งหมดได้จับจองที่นั่งบนรถบัสคันนี้ไว้เกือบหมดแล้วโดยที่มีเพื่อนๆไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังไม่ได้นั่ง บาส เด็กหนุ่มผิวคล้ำ ตาโตเดินวนไปวนมาระหว่างหลังรถกับหน้ารถอยู่หลายรอบในที่สุดก็ได้ที่นั่งในแถวที่ 5 ทางขวามือที่ไอซ์กับนิวเดินเข้าไปนั่งก่อนหน้าบาสเพียงครู่เดียว เชอร์รี่และอิ๊บได้ที่นั่งแถวที่ 6 ทางขวาท้ายที่นั่งของไอซ์ นิว และบาสที่นั่งคุยกับไอซ์เรื่องวงดนตรีที่ทั้งคู่ชอบข้ามหัวของนิวที่กำลังเล่นเกม PSP อยู่

                    ขอนั่งข้างหน้าต่างได้ไหม? เชอร์รี่ถามอิ๊บ ก่อนที่อิ๊บจะตอบตกลง ทั้งคู่สลับที่นั่งกัน ไม่รู้สิ? เด็กสาวแค่คิดว่าอยากจะนอนพักสักหน่อย เพราะแต่ละเรื่องที่เจอมามันเหลือเชื่อเกินไป  การเดินทางในครั้งมันคงจะมีเรื่องให้เธอต้องใช่กำลังอีกแน่ๆ ต่อมความห้าวของเธอ จึงจะต้องพักชาร์ตพลังสักหน่อย

                    ลุงชิตชัย พี่ดนัย และอาจารย์ธเนศเดินขึ้นมาบนรถ   ลุงชิตชัย  เป็นลุงแก่ๆผิวคล้ำ ผมถูกแทรกแซมด้วยผมสีดำสีขาว ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่นบ่งบอกถึงช่วงอายุที่ตรากตรำมานาน  ลุงชิตเดินกลับเข้าไปนั่งในที่คนขับ ก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์   พี่ดนัย ไปนั่งข้างหัวหน้าห้องในแถวหน้าสุด  เขามีรูปร่างสูงโปร่งอายุประมาณยี่สิบต้นๆ  หน้าตาออกตี๋ๆนิดๆ แต่ผิวกลับคล้ำแดดเป็นสีอมแดงเหมือนนักกีฬากลางแจ้ง  ส่วนอาจารย์หนุ่มของพวกเด็กๆเดินอาดขึ้นมาบนรถ และหยุดอยู่ตรงระหว่างช่องทางเดินกลางรถ

                    สำหรับใครก็ตามที่เล่นสนุกจนเกินงาม ให้รู้ไว้ด้วยว่าครูรู้ ว่าพวกเธอทำอะไรไม่ชอบมาพากล หรือเล่นสนุกกันเกินไป  ครูยังไม่คิดบัญชี เพราะครูไม่มีหลักฐาน แต่...ถ้ามีเมื่อไหร่ ทุกคนโดนแน่ๆ! เกือบจะเด็กๆทุกคนนั่งก้มหน้า เพราะกลัวในความผิดที่ได้กระทำ ยกเว้นพวกเบล็คไนท์เท่านั้นที่แอบหัวเราะขบขันกันเองอย่างเล็กๆ จนเฟิร์ทที่นั่งอยู่ใกล้ๆต้องปราม ระวังตัวไว้ให้ดี!!!  แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนอารมณ์โกรธของอาจารย์หนุ่มจะลดลงอย่างรวดเร็วจนหน้าตกใจ ระดับเสียงของอาจารย์หนุ่มลดลง พลางฉายรอยยิ้มประหลาดที่แฝงความหมายยากเกินที่ใครจะเข้าใจ  เขาบรรจงขู่พวกเด็กๆอย่างสุภาพ  ครูจะไปรถอีกคัน พวกเธอทุกคนทำตัวดีๆนะ หัวหน้าจดชื่อคนซนด้วย  ถึงกระนั้นในใจของเขาก็คงจะรู้อยู่แล้วว่า เมื่อพวกลูกศิษย์ตัวแสบอยู่รวมกันแล้วจะไม่ซน ซ่าส์ แสบนั้นเป็นไปไม่ได้  อาจารย์หนุ่มเดินลงจากรถด้วยใบหน้าที่แสยะรอยยิ้มแฝงความหมายบางอย่างเช่นเดิม  แต่ระหว่างนั้นน้ำส้มที่เดินผ่านที่นั่งของเชอร์รี่พอดี  สายตาของน้ำส้มที่จ้องมองอาจารย์หนุ่มที่เดินลงไปที่รถของตัวเองเพื่อล่วงหน้าไปก่อนอย่างสับสนระคนหวาดกลัว จนทำให้ผู้พบเห็นอย่างเธอสงสัย  ...ทำไม???...

     

    รถบัสเริ่มเคลื่อนที่ และ ออกนอกโรงเรียน ในเวลา 9.50 น.

     

    ...........................................................................

     

                    วิน CD Player ล่ะ?

                    อ่ะ!”

                    สำหรับละครหลังข่าววันนี้ คือ ...เรื่อง สยองในโรงยิม... เชิญรับชมได้แล้วครับ

    ไอซ์พูด ก่อนที่เขาจะกลับมานั่งที่ที่นั่งของเขาตามเดิม เพื่อนๆส่วนมากชอบอกชอบใจกับพฤติกรรมการกลั่นแกล้งอาจารย์สาวอย่างสนุกสนานตามประสาเด็กๆของตัวเอง  ไอซ์ไม่ลืมที่จะนำกล้องถ่าย VDO ตัวโปรดของตนขึ้นมาถ่ายเพื่อนทุกๆที่กำลังทำหน้ามีความสุขอยู่ เขาออกมาจากที่นั่งอีกครั้งหลังจากที่หยิบกล้องที่ฝากไว้มาจากนิว  ที่ตอนนี้เลิกเล่นเกม และกลับไปอ่านหนังสือการ์ตูนของตนที่พกมาโดยลำพัง โดยที่มีบาสที่นั่งข้างๆเป็นตัวก่อกวนคอยถามเรื่องเนื้อหาต่างๆของหนังสือการ์ตูนที่อ่านเป็นระยะๆ  หลังจากที่พึ่งปิด PC Notebook ของตัวเองไป

    เชอร์รี่ลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินตามไอซ์ไปติดๆ โดยที่ปล่อยให้อิ๊บ และแชมป์  เด็กหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของห้องที่ถูกจับให้นั่งที่นั่งร่วมกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคู่ไม่มองหน้ากัน ไม่คิดจะส่งเสียงทักทายกัน หรือพูดคุยกัน อิ๊บหันหน้ามามองแชมป์ที่หันหน้ามามองประตูรถข้างหลัง อย่าโกรธเคือง แล้วละสายตาไปมองมาร์สที่นั่งอยู่แถวที่ 4 ที่นั่งฝั่งขวามือ ตรงหน้าที่นั่งของไอซ์  แล้วเธอก็รู้สึกว่าเขามองเธอกลับมาเหมือนกัน

    เชอร์รี่มาจนถึงตัวไอซ์ที่กำลังถ่ายพวกแบล๊คไนท์หัวเราะอยู่  เธอรีบวิ่งมากจนลืมไปว่า  เธออยู่บนรถบัสที่กำลังแล่นอยู่  เด็กสาวจึงเสียหลักหกล้มอย่างรุนแรง ลำตัวของเธอไปพาดอยู่กับลำตัวของอาร์มที่นั่งอยู่แถวที่ 8 ทางขวามือพอดี เบนซ์และอั้นที่นั่งอยู่ที่นั่งเดียวกับอาร์มต่างหัวเราะกันอย่างสะใจ คนทั้งรถหันมามองเหตุการณ์เมื่อสักครู่ บ้างก็หัวเราะเหมือนกับเบนซ์และอั้น  บ้างก็มีสีหน้าที่เป็นห่วงเป็นใย และไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง

    ไอซ์ และไนส์ ช่วยกันประคองรองหัวหน้าสาวขึ้นมาจากตัวของอาร์ม อันที่จริงร่างกายของเธอก็ใหญ่กว่าอาร์มนิดหน่อย เรียกได้ว่าตัวเธอใหญ่กว่าตัวของอาร์มเลยล่ะ ระหว่างที่พยุงตัวเธอขึ้นมา ไอซ์ก็กระซิบที่ข้างหูของเธอ เดี๋ยวเราเล่าให้ฟัง....เขารู้ได้อย่างไร??? ว่าเธอจะถามอะไร???.... 

    เชอร์รี่กลับมาอย่างผิดหวังเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับมาที่นั่ง แต่... ....อะไรกันว่ะ?.... อิ๊บแย่งที่นั่งข้างหน้าต่างไปเรียบร้อยแล้ว    ...หมายความว่า...เธอต้องนั่งกั้นแชมป์กับอิ๊บเหรอเนี่ย???....

     

    ...แย่ล่ะสิ!!!...

     

    ............................................................................

     

    ....คือ... ...เรื่องมันมีอยู่ว่า

    สมัยตอนที่พวกเขาอยู่ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1/1 แชมป์แอบชอบอิ๊บอยู่ ตามจีบอิ๊บสารพัดวิธี แต่...อิ๊บก็ไม่ยอมใจอ่อนให้ ....เหตุผลน่ะเหรอ?...

                    ก็เพราะว่าเธอนั้นแอบชอบมาร์ส เทพบุตรของห้องอยู่นั่นเอง!

                    ทำไมแกไม่บอกมาร์สมันไปล่ะว่าแกชอบมันน่ะ?ไอซ์ถามอิ๊บ ในขณะที่แก๊งค์ของพวกเขานั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ที่อยู่ระหว่างอาคาร 8 และอาคาร 9 ที่มีห้องน้ำหลังใหม่ตั้งอยู่ใกล้ๆ อันที่จริงตัวของเชอร์รี่ว่า... สถานที่นี้ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ทั้งบรรยากาศ และก็กลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายแหล่

                    นายเข้าใจคำว่าแอบชอบป่ะวะ ออมพูด ถ้าอิ๊บมันบอกไป เขาจะเรียกว่าแอบชอบเหรอ?

                    ไอ้ออม แกจะเอาอย่างไงกับผมครับ! วันนี้กระผมไม่ได้พูดอะไรถึงคุณเลยนะครับ

                    เออ! ๆ แล้วมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?เชอร์รี่พูด ในขณะที่ไอซ์กับออมวิ่งไล่ฟาดกันอยู่ข้างหลังของพวกเธอ

                     อยากเป็นนักสืบป่ะล่ะ?

                    ทำไมหรอ? น้ำส้มพูด พลางเหวี่ยงเจ้ากะทิใส่หัวออมที่เบียดเข้ามา

                    อิ๊บ มันก็หมายความว่า....ให้เราไปสืบเรื่องของไอ้มาร์สว่านั้นเถอะนิวขยายความ

                    ใช่!

     

    ...นั้นเดี๋ยวพวกเราจัดให้...

                   

    ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็เป็นสายสืบให้อิ๊บตลอดมา โดยที่ไม่ทำให้มาร์สรู้ตัว จนในที่สุด มาร์สกับอิ๊บ ก็เป็นกลายแฟนกัน เรื่องนี้ไม่มีเพื่อนคนใดในห้องรู้ นอกจากเชอร์รี่ ออม น้ำส้ม กิ๊ฟท์  นิว พี และไอซ์ ที่เป็นเพื่อนสนิทของอิ๊บ กับเรศ  นนท์ และต้น ที่เป็นเพื่อนสนิทของมาร์สเท่านั้นที่รู้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าทั้งคู่ ที่ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องที่เป็นแฟนกัน เกรงว่าความรักของเขาและเธอจะไม่ยืด อิ๊บและมาร์ส จึงแทบจะไม่มีอาการเลยเวลาอยู่ต่อน่าเพื่อนๆในห้อง จนในที่สุด...

                    บอกมาหน่อยสิว่าทำไม? เธอถึงไม่รับเราเป็นแฟนซักทีล่ะแชมป์ตะคอกกับอิ๊บ ในขณะที่อยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ในชั่วโมงเรียนวิชาหนึ่งที่ยังไม่มีอาจารย์เข้าสอน

                    มันจำเป็นด้วยหรอ? ที่ฉันจะต้องตอบคำถามนาย อิ๊บตะคอกกลับ จนทำให้เพื่อนๆมามุ่งดู รวมทั้งพวกเขา และก็มาร์ส ด้วย

                    จำเป็นสิ!ตอนนี้แชมป์เริ่มเข้าไปกระชากแขนของอิ๊บ ทำให้พวกเขาไม่พอใจ ใครๆก็รู้ว่าฉันชอบเธอทำไม? เธอทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้เข้าใจไหม?

    แชมป์ผลักอิ๊บจนล้มลง พวกเพื่อนสนิททุกคนพุ่งเข้าไปหาแชมป์  เพื่อจะเคลียร์เรื่องนี้ แต่ก็ไม่ทันมาร์สที่วิ่งเข้าไปชกหน้าแชมป์จนล้มคว่ำไป  สร้างความตกใจให้กับเพื่อนๆคนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างมาก

                    แล้วนายมาเกี่ยวอะไรด้วย?

                    ก็ไม่เกี่ยวหรอก! ถ้าฉันกับอิ๊บไม่ได้เป็นแฟนกัน!” คำพูดของมาร์ส สร้างความประหลาดใจในหมู่เพื่อนๆคนอื่นๆมาก ยกเว้นแต่พวกเพื่อนสนิทที่รู้แล้วเท่านั้น รู้แบบนี้แล้วก็อย่ามายุ่งกับอิ๊บอีกเข้าใจไหม?

    …………………………………………………

     

                    จากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็เลิกรากันไป เพราะทนเพื่อนที่หยอกล้อไม่ไหว ทั้งๆที่ทั้งสองก็ยังคงรักกันอยู่  และนั่นเองเป็นเหตุผลที่ทำให้อิ๊บและแชมป์ไม่ถูกกันในที่สุด และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตอนนี้บรรยากาศอึมครึมปกคลุมทั่วบริเวณนี้อีกเช่นกัน เชอร์รี่เป็นผู้ที่นั่งคั่นระหว่างทั้งคู่ไม่กล้าแม้แต่จะหันขวาไปคุยกับอิ๊บ หรือลุกไปคุยกับคนอื่น ...ให้ตายเถอะ! ใครก็ได้ช่วยขับไล่บรรยากาศแบบนี้ที... เธออึดอัดแทบจะเป็นบ้าตาย ในขณะที่ทุกคนพึ่งดู VDO ที่ถูกไอซ์ตัดต่อมาเสร็จแล้ว ไอซ์เดินไปเก็บแผ่นในขณะที่มือของเขาถือกล้องถ่ายเพื่อนไปตลอดทางเดิน เชอร์รี่แหงนหน้ามองกุล เนอส แอน และหมิว ที่เล่นกับกล้องถ่าย VDO ของไอซ์ บรรยากาศในรถเงียบสงบอีกครั้ง ...ทำไงดี? ทำไงดี?... และตอนนั้นเองที่ทุกคนได้ยินเสียงเพลงไทยเดิมดังมาจากด้านหน้าของรถ มันเป็นเสียงขลุ่ยสด ...ใครเป่านะ?...   ...เฟิร์น เฟิร์นนั่นเอง ขอบใจมาก นึกว่าจะอึดอัดตายเสียแล้ว... เชอร์รี่คิด แล้วเผลอยิ้มออกมาอย่างโล่งอกเล็กน้อย  ทุกคนต่างชะโงกหน้าเพื่อมองเฟิร์นที่นั่งอยู่แถวที่ 3 ทางซ้ายมือ ก่อนที่เธอจะหยุดเป่าขลุ่ย เพราะ...

                    เฮ้ย! หยุดเถอะว่ะ เที่ยวกันทั้งที มันต้องเพลงมันส์ๆดิ ไนส์ที่นั่งอยู่แถวที่ 9 ทางขวามือ ลุกขึ้นตะโกนในขณะที่ทุกคนในรถหันมามองเป็นสายตาเดียว ทุกคนแปลกใจในท่าทางของไนส์  เพราะปกติไนส์เป็นแฟนที่ยอมเฟิร์นตลอดเวลา นี้เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ทั้งคู่ขัดกัน  เฟิร์นมีสีหน้าฉุนเฉียวเล็กน้อย ก่อนที่ พัชชี่ เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างจะทำท่าเต้น ราวกับบอกว่า... ฉันก็อยากแดนซ์นะย่ะ

                    แล้วจะเอาแผ่นเพลงมาจากที่ไหน?แอน เด็กสาวผมยาวสลวย แต่งหน้าแต่งตาเป็นสาวเปรี้ยวโฉบเฉี่ยวนั่งอยู่แถวที่ 4 ทางซ้ายมือ เริ่มยืนหันหลังเท้าพนักพิงของที่นั่งถามด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ

                    ไอซ์ไม่มีหรอ?” ออมในที่นั่งแถวที่ 5 ทางซ้ายมือเสนอ แต่ไอซ์ก็ส่ายหัวปฏิเสธ

                    เจ้าแม่กิ๊ฟท์ไง ต้องมีแน่ๆ ใช่มั๊ยย่ะ?” พัชชี่เสนอ พร้อมกับหันไปสะกิดกิ๊ฟท์ที่นั่งอยู่ข้างหน้า

                    ไม่มีหรอกของแบบนั้นน่ะ เจ้าแม่ปฏิเสธ

                    ถามลุงชิตดูดิ นิวที่นั่งอยู่ข้างไอซ์เสนอ

                    ไม่ต้องๆ พวกแกถามพวกฉันหรือยังว่ามีแผ่นไหม?” ไนส์พูด

                    แล้วมีไหมล่ะ?

     

                    ไอ้เบียร์ ไอ้สุ จัดไป!!”

     

                    เบียร์ที่นั่งอยู่แถวที่ 10 ข้างหลังไนส์ และสุที่นั่งอยู่แถวที่ 11 แถวท้ายสุด ยืนขึ้นพร้อมกัน แล้ว

    หยิบแผ่นเพลงเกือบ 10 แผ่นออกมาจากกระเป๋าสีดำของไนส์ เบียร์รีบวิ่งเอาแผ่นเพลงที่คิดว่าเจ๋งที่สุดไปให้     ลุงชิตที่แถวหน้าสุดทันที ลุงชิตเปิดเพลงให้  พี่ดนัยที่นั่งดูอยู่หันมาถามหัวหน้าห้องที่นั่งอยู่ข้างๆ

                    อาจารย์ธเนศเขาไม่ว่าหรอ?

                    เขาคงรู้อยู่แล้วล่ะครับ...อีกอย่างพวกนี้ ต่อให้เป็นอาจารย์เองก็ห้ามไม่อยู่หรอกครับ ตั้งตอบพร้อมกับแอบอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาดูวิวที่หน้าต่าง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับจังหวะของเพลงที่เริ่มต้นขึ้น  และจบลงเมื่อเวลา 21.45 น.

    รถแล่นมาจอดสนิทอยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สมาชิกเกือบทุกคนหลับสนิทด้วยอาการอ่อนเพลีย บนรถปิดไฟมืดสนิท เพื่อนๆบางคนนอนอยู่บนที่นั่งของตนเอง บางคนก็ลงไปนอนบนพื้นทางเดินของรถ แต่ส่วนใหญ่ทุกคนก็คงจะหลับกันหมดแล้ว เชอร์รี่มองลงไปข้างล่างผ่านหน้าต่างข้างๆตัวของ อิ๊บสังเกตเห็น พี่ดนัยและลุงชิตชัยลงไปนั่งคุยกันอยู่ข้างล่าง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ เพราะเวลานี้ก็เป็นเวลานอนของเธอด้วยเหมือนกัน

    เชอร์รี่หันหน้ากลับมาเพื่อที่จะขดตัวนอนในท่าที่เธอคิดว่าจะสบายที่สุด และเธอก็สังเกตเห็นเงาของคนเดินลงจากรถ ซึ่งเธอเดาว่าเป็นตาต้า เพราะดูจากรูปร่าง และหนึ่งในที่นั่งในแถว 6 ตรงข้ามกับที่นั่งของเธอหายไป ....ต้องเป็นเขาแน่ๆ.... เด็กสาวลุกขึ้นและเดินออกจากที่นั่งโดยไม่ทำให้แชมป์ที่นอนขว้างทางตื่น

    ในที่สุดก็เธอก็ตามเขาทัน เขาเดินไปตรงห้องน้ำของปั๊มน้ำมัน ...เขาไปทำอะไรนะ?... ด้วยความช่างสงสัยของเธอ เธอจึงเดินตามตาต้าไปและแอบอยู่ตรงพุ่มไม้พุ่มหนึ่งเพื่อรอตาต้า และในขณะนั้นเอง เด็กสาวไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีใครบางคนอยู่ข้างหลังของเธอ  เขาผู้นั้นพุ่งตรงเข้ามาหาตัวเธอจากด้านหลัง  โดยที่เธอไม่ทันรู้ตัว  เธอหันหน้าไปปะทะกับคนผู้นั้นและก็....

                    เชอร์รี่ นี่แกมาทำอะไรตรงห้องน้ำชาย?

                    ไอซ์เอ่ยปากถาม ในขณะที่มีนิว ยืนอยู่ข้างๆตัวของไอซ์ด้วย และตอนนั้นเองตาต้าก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

                    มีอะไรกันหรอ? ตาต้าเอ่ยถาม

                    เชอร์รี่น่ะสิ มาทำอะไรลับๆล่อๆอยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้ นิวอธิบาย

                    ในขณะนั้นเองเหมือนสวรรค์เข้าข้างอิ๊บ ออม และน้ำส้มที่จะมาเข้าหาอะไรที่มินิมาร์ทข้างๆของห้องน้ำกินพอดี  เชอร์รี่เลยได้โอกาสหาเรื่องไหลไปเรื่อยๆ

                    คือฉันลงมารออิ๊บ ออม กับไอ้ส้มมันน่ะ ว่าจะมาหาอะไรกินกันสักหน่อยนั่นไงมาพอดีเลย เธอเฉไฉ ก่อนที่จะวิ่งไปหาพวกอิ๊บที่ทำหน้างงๆ

                    สักพักเชอร์รี่ อิ๊บ ออม น้ำส้ม ตาต้า  นิว และไอซ์ที่พึ่งเดินออกจามินิมาร์ทก็มานั่งที่โต๊ะหินข้างหน้ามินิมาร์ท เพื่อมานั่งคุยกัน ไอซ์กางหนังสือพิมพ์ที่พึ่งซื้อมาออกมาอ่าน ในขณะที่คนอื่นๆก็กำลังนั่งคุยเรื่องท่าเต้นของเพื่อนๆเมื่อตอนบ่ายกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้สึกเกรงใจเพื่อนๆที่หลับอยู่บนรถหรือลุงชิตชัยกับพี่ดนัยที่กำลังนั่งคุยกันอย่างเคร่งเครียด และตอนนั้นเอง

                    ทุกคนคือ...ส้มมีเรื่องจะบอก น้ำส้มหยุดดูปฏิกิริยาของทุกคน คือ...ส้ม ถ้าส้มพูดไปทุกคนจะเชื่อไหม?

                    ก็พูดมาก่อนสิ

                    อาจารย์ทิพย์ เขา...

                    เขาทำไม? อิ๊บทักท้วง เพราะเห็นน้ำส้มพูดอึกอัก

                    เขา...ตายแล้ว

                    โถ่! เลิกล้อเล่นเถอะส้มตาต้าพูด

                    จริงๆนะ  ฉันเห็นน้ำส้มย้ำตอนนี้เธอน้ำตาคลอเบ้า เหมือนกับว่าจะร้องไห้

                    เลิกเล่นเถอะส้ม มันไม่ใช่เรื่องเลยนะอิ๊บตวาด ก่อนที่จะหันหน้าไปชวนออม ขึ้นรถ

                    ตาเธอฝาดหรือเปล่า? แล้วรู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์ทิพย์ตายจริงๆ?นิวซัก

                    ตาส้มไม่ฝาดนะ แล้วส้มก็เห็นด้วยว่ามีคนใส่ผ้าคลุมสีดำใช้บางอย่างตีอาจารย์ในห้องน้ำหญิงน่ะน้ำส้มพูด ตอนนี้น้ำตาของเธอไหลลงมาอาบจนท่วมหน้าแล้ว

    เชอร์รี่เข้าไปโอบกอดแล้วปลอบน้ำส้ม ในขณะที่ไอซ์ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ดีๆ ก็พับหนังสือพิมพ์แล้วก็รีบวิ่งขึ้นรถไปในทันทีโดยไม่พูดอะไร กับใครเลย ไม่มีแม้แต่ถ้อยคำที่จะปลอบน้ำส้ม ทำให้เธอคิดว่า...  แม้แต่ตัวไอซ์เองก็คงหาว่าตนคิดไปเองอีกคน ทำให้เธอยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก ตาต้าและนิว พยายามช่วยกันปลอบน้ำส้ม จนในที่สุดน้ำส้มก็หยุดร้องไห้ พวกที่เหลือทั้งหมดจึงพากันเดินขึ้นรถไปโดยทิ้ง น้ำส้มที่ขออยู่คนเดียว ให้นั่งอยู่ลำพังบนโต๊ะหิน เธอดูเหมือนคนที่ครุ่นคิดเรื่องบางเรื่องอย่างหนัก

     

    จะเตือนทุกคนอย่างไงดี ว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ปลอดภัยแล้ว....

    พวกเรากำลังถูกหลอก...

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×