ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic hxh]The Dangerous Girl

    ลำดับตอนที่ #9 : :Dangerous 6:บทบรรเลงสีเลือด

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 60


    :Dangerous 6:บทบรรเลงสีเลือด

                ฮ้าวววไอริสป้องปากหาวเล็กน้อยอย่างง่วงงุน พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกอร์นที่มองมาทางเธอด้วยความเกร็งและอึดอัด

     

    คงอยากคุยด้วยสินะ...

     

                ฉันไม่ได้โกรธนายหรอก...คุยเหมือนเดิมเถอะรอยยิ้มของไอริสสร้างความสบายใจให้กับกอร์นมากทีเดียว เขาจึงกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม

                “อื้ม!”

     

    เหมือนหมาเลย...

     

                “งั้นฉันก็คุยได้สินะ!”คิรัวร์ที่อยู่ๆก็แทรกขึ้นมามองไอริสอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ก็โดนตอกกลับจนกัดฟันกรอดๆไปอย่างเจ็บแค้น

                คุยด้วยอะไร? นายเกี่ยวอะไรด้วย?

     

    ฮึ่ย! ใช่สิ! ฉันไม่ใช่ไอ้หัวตั้งข้างๆเธอนี่!!

     

                ถึงแล้วล่ะ!”เสียงของกอร์นดังขึ้นเรียกความสนใจของใครหลายคนเป็นอย่างดี

    ........................................................................................................................................

    เมื่อลงจากเรือเหาะแล้ว สไลม์สีเขียวก็พูดอธิบายสนามสอบรอบที่สามทันที ซึ่งไอริสที่ดูเหมือนวันนี้จะนอนน้อยกว่าปกติไม่ได้คิดสนใจจะฟัง แถมเกือบจะลงไปกองกับพื้นอยู่หลายทีถ้าไม่มีคุราปิก้าที่อยู่ใกล้ๆคอยตามคว้าตัวเอาไว้

     

    นี่ไอริสหรือสล๊อตวะ!? ทำไมมันจะแบตหมดง่ายขนาดนี้!!?

     

                ขอโทษทีนะคุราปิก้า...วันนี้มันง่วงๆไปหน่อยนึงน่ะ...เดี๋ยวมันจะ...วูบ...ฟี้...ไอริสที่พูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆมองคุราปิก้าตาลอยก่อนจะเตรียมน็อคลงกับพื้นอีกหน

                เห้ย!? ฉันว่านี่มันไม่หน่อยแล้วมั้ง!!?”คุราปิก้าคว้าตัวไอริสอีกครั้งก่อนที่เลโอลีโอจะร้องเสียงหลงและกล่าวว่าสาวหน้ายิ้มที่ดูเหมือนแบตหมดไม่ได้ชาร์ตมาหลายปี

                งืม...ขอโทษทีนะ...พอดีเมื่อคืนมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ...เลยแทบไม่ได้หลับได้นอนเลย...ห...ฮ้าว...ไอริสยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะหาวอย่างง่วงๆอีกครั้ง แต่ก็เริ่มหันมาสนใจการสอบตรงหน้าอย่างจริงจัง

     

    ครึ่ก!

     

    ไอริสที่ก้มมองแผ่นหินที่ตนเองยืนอยู่สักพัก ก้มตัวลงคุกเข่าและลองกดแผ่นหินด้วยมือดู ปรากฏว่ามันเป็นประตูลับที่จะทำให้ลงไปด้านล่างได้...

     

    มีหลายบานรอบๆเลยนี่นา...

     

                นี่...มาดูนี่สิ...ไอริสกล่าวกับพวกกอร์นที่รวมหัวกันมองอะไรก็ไม่รู้ให้มาดูสิ่งที่เธอหาเจอ

                อะไรเหรอ?กอร์นกับคิรัวร์พูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ไอริสจะกดแผ่นหินแสดงให้เห็นว่านี่เป็นประตูลับ

     

    ครึ่ก!

     

    ว้าว!”ทุกคนทำตาลุกวาวอย่างตื่นตาตื่นใจ มองแผ่นหินหลากหลายบานที่อยู่รอบๆอย่างตื่นเต้นกับการสอบ

    ครอก!”ยกเว้นเสียแต่ไอริสที่เริ่มสัปหงกอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทุกคนรับตัวเด็กสาวไม่ทัน หล่นไปทับแผ่นหินจนมันเริ่มทำงานจึงทำให้เธอหล่นลงไปก่อนใครพวก

    เห้ย!!!!!”โดยมี กอร์น คิรัวร์ คุราปิก้า และเลโอลีโอ ร้องเสียงหลงราวกับบอกลา

     

    แล้วไอริสก็แยกทางกับพวกกอร์นไปในการสอบรอบนี้...

     

    .
    .
    .
    .
    .
               
    อืม...ไอริสที่เพิ่งตื่นขึ้นมาจากการหลับแล้วหล่นลงมาในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง กะพริบตาปริบๆปรับโฟกัสภาพตรงหน้า เธออยู่ในอาการงุนงงเพราะเพิ่งตื่นเต็มตา ไอริสมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ตรงหน้าอย่างโดดเด่นเป็นสง่า พลางแอบเบิกตาโพล่งเพราะเวลาที่อยู่ในนาฬิกา

     

    เหลือเวลาอีกแค่ 40 ชั่วโมงกับอีก 12 นาที!! บ้าไปแล้ว! นี่เธอหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!?

     

    นึกแล้วก็รีบหยิบนาฬิกานั่นมาใส่ทันที ก่อนจะมีคำถามขึ้นมาว่า

                เปิดประตูบานนี้กด O ไม่เปิดกด X”

     

    คำถามบ้าไรวะ? มันก็ต้องเปิดอยู่แล้วปะ?

     

    ว่าแล้วก็กด O อย่างไม่รีรอ เมื่อกด O เพื่อเปิดประตูเรียบร้อยประตูหินก็เลื่อนเปิดออกให้เห็นทางเดินต่อไปทันที ไอริสรีบเดินจ้ำอ้าวไปต่ออย่างเร่งรีบ

     

    ที่รีบไม่ใช่กลัวไม่ผ่าน...แต่กลัวกอร์นรอมากกว่า...ให้เธอไปรอยังดีกว่าให้พวกนั้นมารออีกเยอะ...

     

    และแล้ว...ด่านแรกของเธอก็มาถึง...

     

                อะไรกัน...นึกว่าจะได้เจอคู่ต่อสู้เก่งๆซะอีก...ก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆเองนี่หว่า...ชายฉกรรจ์ผู้มีรอยแผลเป็นตั้งแต่ดวงตาจนถึงคางมองมาที่ไอริสอย่างเหยียดหยาม ไอริสมองนักโทษชายตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า

    เก็บคำพูดนั้นเอาไว้ตอนชนะฉันได้เถอะค่ะใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสกรีดยิ้มร้ายกาจเมื่อชายตรงหน้าเริ่มหยิบอาวุธขึ้นมาเพื่อเตรียมสู้กับเธอ เด็กสาวเลียริมฝีปากตนเองเล็กน้อยก่อนจะเตรียมตัวเล่นกับชายตรงหน้าบ้าง

                ปากดีนักนะนังหนู!!”

                “เข้ามาเลย<3”

    ........................................................................................................................................

                ...เก่งแต่ปากไอริสพูดพลางเหยียบก้อนกลมๆที่เรียกว่า ศีรษะ ของชายคนนั้นก่อนจะเตะมันออกไปไกลๆตัวด้วยความรังเกียจ และเริ่มเดินทางไปด่านต่อไปพลางบ่นพึมพำกับตัวเองเล็กน้อยว่า เกลียดนิสัยการเล่นกับเหยื่อของตัวเองจริงๆ  

                ไปทางซ้ายกด O ไปทางขวากด X”เด็กสาวผู้มีเหตุมีผลจึงตัดสินใจโดยใช้หลักการความคิดอันสุดจะพิลึกพิลั่นกว่าคนทั่วไปด้วยเหตุผลที่ว่า หากคิดถึงทางใดทางหนึ่งก่อนแสดงว่าทางนั้นคือทางที่ดีที่สุด ซึ่งทางที่คิดถึงทางแรกคือ

                ทางขวาไอริสพึมพำพลางกดกากบาทประตูหินทางด้านขวามือจึงเปิดออกให้เธอเดินต่อไปทันที

     

    เมื่อไอริสเดินไปทางด้านขวาก็พบว่าตนเองได้เข้ามาอยู่ในห้องทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ๆห้องหนึ่ง เด็กสาวกวาดสายตามองไปรอบๆห้องเพื่อหาบุคคลผู้ซึ่งต้องมาทดสอบตัวเธอก่อนจะไปด่านถัดไป นัยน์ตาสีคาราเมลเข้มเหลือบมองไปเห็นร่างของใครบางคน คนๆนั้นเดินเข้ามาใกล้กับที่ๆเธออยู่เรื่อยๆ เด็กสาวพยายามเพ่งมองไปที่ร่างของใครบางคนในมุมอับก่อนจะเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ

                ท่าน...พ่อ

                “ไม่เจอกันนานนะ...ไอร์เสียงทรงอำนาจถูกเปล่งออกมาจากชายวัยกลางคนผู้มีใบหน้าที่เย็นชา ไอริสมองพ่อของตนด้วยแววตาตื่นตกใจเพียงเล็กน้อยก่อนจะสะกิดใจอะไรบางอย่าง ไอริสมองกำแพงรอบกายก่อนจะแสยะยิ้มเล็กน้อย

     

    ตู้ม!!!

     

    ก่อนจะเหวี่ยงหมัดใส่อะไรบางอย่างจนกระแทกกับกำแพงด้านขวามือจนแตกเป็นรอยร้าวแทบจะพังอยู่รอมร่อ

                แก...รู้...ได้ยัง...ไง...แค่ก!”เสียงแสบหูดังขึ้นตรงข้างกำแพงที่เป็นรอยก่อนจะปรากฏตัวของหญิงสาววัยกลางคนที่ทรุดนั่งอยู่กับพื้น

                คนๆนั้นไม่เรียกฉันว่า ไอร์ หรอกนะคะภาพลวงตาตรงหน้าของเธอหายไปเรียบร้อย แค่ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของหญิงสาวตรงหน้า รอยยิ้มหวานหยดย้อยแต่ดูสยองสุดขีดของไอริสปรากฏสู่สายตาของคนอื่นอีกครั้ง เป็นสัญญาณกลายๆว่า เธอจะเล่นสนุกอีกครั้ง

                มาจบเรื่องนี้เลยดีกว่านะคะ<3”และแล้วบทเพลงสีเลือดก็บรรเลงขึ้นอีกครั้ง...อย่างยากที่จะหยุด และทุกครั้งที่ไอริสยิ้มหวานแล้วจัดการกับหญิงตรงหน้าจะมีเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นเป็นครั้งคราวสร้างความสำราญใจให้ไอริสได้มากทีเดียว

     

    การสอบฮันเตอร์ก็ไม่ได้น่าเบื่อเสมอไป...เนอะ<3

     

    .
    .
    .
    .

    .

    กว่าไอริสจะลงมาถึงข้างล่างได้ก็ใช้เวลาไปมากพอสมควร เพราะเธอมัวแต่เล่นกับเหยื่ออย่างสนุกสนานเพลิดเพลินจนลืมเวลา ไอริสมองหาพวกกอร์นไปทั่วห้องที่ลงมาถึงแต่ไม่พบแสดงว่าพวกเขายังมาไม่ถึง

     

    ก็ดีกว่ามาทีหลังล่ะนะ...

     

    ไอริสมองหาที่สงบและนั่งลงเพื่อรอพวกกอร์นทันที

                มาช้านะยัยเด็กหน้ายิ้ม...และมันจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีตัวตลกบ้าๆหนึ่งตัวมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ

                เรื่องของฉันค่ะไอริสตอบกลับยิ้มต่างกับน้ำเสียงอันเรียบนิ่งและส่อแววรำคาญเต็มทน ฮิโซกะหัวเราะอย่างชอบใจที่สามารถกวนประสาทเด็กตรงหน้าได้ดังที่หวังก่อนจะยอมปลีกตัวหนีไปไกลๆไอริสอย่างที่เธอต้องการ

     

    ที่เขาไม่เอาเรื่องเพราะเมื่อคืนเขาเอาคืนเด็กนั่นอย่างสาสมแล้วล่ะ

     

    ย้อนกลับไปเมื่อคืน

     

    ไอริสที่เดินหาห้องเพื่อพักผ่อนจากการสอบมาทั้งวัน เธอเดินไปเรื่อยๆจนพบเข้ากับห้องๆหนึ่งที่ปลอดจากสายตาของผู้คนพอสมควร

     

    เอาห้องนี้แล้วกันเงียบดี...

     

    เมื่อคิดได้ดังนั้นมือบางก็จับลูกบิดและเปิดประตูเข้าไปทันที ก่อนที่เธอจะพบกับตัวตลกกำลังสร้างปราสาทไพ่อยู่

    ...ไอริสยืนยิ้มค้างจับลูกบิดก่อนจะปิดลงเงียบๆท่ามกลางสายตาของฮิโซกะที่มองมาที่ประตู

     

    หลังจากนั้น 3 วิ ฮิโซกะก็วิ่งมาไล่ฆ่าไอริสทันที

     

    นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ไอริสนอนไม่พอจนไม่เป็นอันสอบ...

     

    แต่ที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ ตัวตลกที่เป็นต้นเหตุดันทำหน้าระรื่นชื่นบานถามเธออย่างไม่รู้สึกรู้สานี่แหละ

     

                “เห้อ...ไอริสถอนหายใจเบาๆอยู่คนเดียวก่อนจะหลับตาลงเพื่อเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการพักผ่อนโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาบางคู่จับจ้องมองมาทางเธอตลอดเวลา

    ........................................................................................................................................

    เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง

     

    ไอริสมองเวลาอยู่เงียบๆทั้งที่ในใจกังวลเรื่องของพวกกอร์นจนแทบจะไปตามหาถ้าไม่ติดที่ว่าอยากให้พวกเขามาเองและไม่อยากสอบตก 

     

    ครึ่ก!

     

    ไอริสหันไปมองทางแผ่นหินบานหนึ่งที่เปิดออกมาด้วยความรวดเร็วเมื่อคิดว่าเป็นพวกกอร์น

     

    แต่เธอคิดผิด...

     

    เพราะคนที่ออกมาคือผู้ชายที่ร่างกายบอบช้ำ มีบาดแผลเต็มตัว ก่อนจะล้มลงและสิ้นใจไปในที่สุด

      

    ซึ่งนั่นทำให้ไอริสอารมณ์ขึ้นๆลงๆมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

      

    จนเวลาล่วงเลยผ่านไปก็ยังไม่มีใครออกมา เหลือเวลาอีกแค่ 1 นาที

      

    ครึ่ก!

      

    เสียงแผ่นหินเลื่อนเปิดดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้ไอริสไม่เร่งรีบมองเหมือนครั้งก่อน เธอได้กลิ่นทุ่งหญ้าอ่อนๆมาจากทางเดิน เธอแน่ใจ...

                “กอร์น...รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของไอริสอีกครั้ง เธอรีบวิ่งไปหาเด็กชายหัวตั้งที่ยิ้มหน้าบานเมื่อพบเธอเช่นกัน

                ฮะๆ ไอริสมาถึงก่อนจริงๆด้วย!”กอร์นโบกมือเรียกเด็กสาวหน้ายิ้มที่วิ่งมาก่อนที่การสอบรอบนี้จะจบลงไป

                มาช้าจังนะ...หลงทางเหรอ?ไอริสถามคุราปิก้าโดยที่ตัวเองพุ่งเข้าไปกอดเด็กหัวตั้งเรียบร้อย

                ก็...ไม่ใช่ซะทีเดียว...แต่ก็ได้รับคำตอบที่คลุมเครือกลับมา แต่ไอริสก็ไม่คิดจะเซ้าซี้ถามต่อเธอหันมาสนใจเด็กหัวตั้งที่ถูกเธอกอดรัดอย่างคิดถึง โดยมีคิรัวร์และคุราปิก้ามองอย่างเอือมๆ ในขณะที่เลโอลีโอกำลังกัดกับทอมป้าอย่างเอาจริงเอาจัง

     

    รอบต่อไปจะมีอะไรรออยู่กันแน่นะ...

     

    .
    .
    .
    .
    .
    Writer Talk

    จบตอนครับ เห็นได้ชัดเจนมากๆว่าไอริสห่วงกอร์นสุดขีด ไม่ใช่เพราะว่าเธอชอบกอร์นนะคะ แต่เพราะนานๆทีไอริสจะมีของเล่นที่น่าสนใจ แต่ไม่อยากให้ยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวของตนเองเกินไปค่ะ ตอนต่อไปจะเป็นยังไงติดตามเอาเลยค่ะ------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×