ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic hxh]The Dangerous Girl

    ลำดับตอนที่ #10 : :Dangerous 7:ล่าหมายเลข(I)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.34K
      46
      21 ม.ค. 60

    :Dangerous 7:ล่าหมายเลข(I)

    เกิดมาเพื่อการฆ่า...มีชีวิตอยู่เพื่อทำลาย

    คือสิ่งที่ไอริสได้ยินจากพ่อของเธอตั้งแต่จำความได้...เธอไม่สามารถเลือกได้...ไม่สิ...

     

    เรียกว่าไม่มีสิทธิ์เลือกมากกว่า...

     

    ไอริสเลือกที่จะหยุดความคิดนั้นเอาไว้ก่อนจะเดินไปจับแผ่นป้ายเพื่อไล่ล่าในการสอบรอบต่อไป

                หืม? นี่เธอมาอีกแล้วเหรอเนี่ยยัยเปี๊ย----อุก!”ริปโป้ ผู้คุมสอบรอบที่ 3 หรือ ผู้คุมเรือนจำเหลือกตามองเด็กหน้ายิ้มตรงหน้าทันที เพราะอยู่ดีๆเธอก็เอามือมาปิดปากผู้คุมสอบอย่างเขา

                ภารกิจลับค่ะ...ไอริสที่ปล่อยมือออกจากริปโป้เรียบร้อยกล่าวเสียงเบาหลังจากที่หยิบหมายเลขออกมา ริปโป้มองที่ไอริสอย่างเข้าใจก่อนจะหันกลับมาเก๊กเหมือนเดิม

     

    ไม่นานนักทุกคนที่ผ่านเข้ารอบก็ถูกบอกให้เปิดหมายเลขที่พวกเขาได้และหมายเลขนั้นจะเป็นเป้าหมายของคุณในการสอบรอบต่อไป

     

    ซึ่งหมายเลขที่ไอริสได้ก็คือ...

     

                หมายเลข 304?”ใบหน้าประดับรอยยิ้มเต็มไปด้วยความมึนงง เธอไม่เคยได้พบเห็นคนที่มีหมายเลขนี้เลยด้วยซ้ำ

     

    เอาเถอะ...ล่าไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอเองJ

     

                “ไอริสได้หมายเลขอะไรเหรอ?เสียงของกอร์นดังขึ้นไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่ กอร์นกับคิรัวร์มองไอริสด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่คุราปิก้าและเลโอลีโอยืนมองเงียบๆ

                “304”ไอริสตอบกลับเสียงนิ่ง

                ใครอ่ะ?คิรัวร์พูดขึ้นพร้อมทำหน้างง

                ไม่รู้สิกอร์นพูดขึ้นพร้อมทำหน้างงไม่ต่างกัน

                “ฉันก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกันคุราปิก้าตอบพร้อมเอาเอามือเท้าคางอย่างใช้ความคิด

    อาจจะเป็นพวกกระจอกจนไม่ได้สังเกตก็ได้ล่ะมั้ง ฮ่าๆๆเลโอลีโอตอบก่อนจะหัวเราะร่วนพยายามทำให้รอบข้างมีสีสัน ไอริสมองหมายเลขที่ได้ก่อนจะถูกเรียกขึ้นเรือไป

     

    ช่างมันละกัน...

     

    .  
    .  
    .  
    .  
    .  
    เนื่องจากการสอบรอบที่สี่จะให้ล่าหมายเลขดังนั้นเลยต้องพาผู้ที่สอบผ่านรอบสามทุกท่านไปปล่อย(?)เกาะเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเวลาการลงจากเรือไปยังตัวเกาะจะเว้นห่างกันคนละสองนาทีและเรียงตามลำดับจากการลงมาถึงข้างล่างจากการสอบรอบที่แล้ว  

                เชิญคนแรกเลยค่ะไกด์สาวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มผายมือข้างหนึ่งไปทางเกาะ อีกมือถือนาฬิกาจับเวลาอย่างเตรียมพร้อม

                ...ฮิโซกะเดินไปเงียบๆพร้อมกับรอยยิ้มสยองจนทำให้ไกด์สาวแอบสะดุ้งเล็กน้อย

     

    และแล้วช่วงเวลาน่าเบื่อก็ผ่านไปจนมาถึงคิวของไอริส

     

                ไปก่อนนะไอริสหันมาพูดกับกอร์น คิรัวร์ คุราปิก้า และเลโอลีโออย่างสดใส

                อื้ม! โชคดีนะ!”กอร์นพูดพลางยิ้มอวดฟันสวยๆ ไอริสยิ้มตามอย่างอดไม่ได้

                ไว้เจอกันนะ...ทุกคนไอริสพูดปิดท้ายก่อนจะเดินไปทันที

    เมื่อเธอเดินไปสักพักก็รู้สึกถึงจิตสังหารอ่อนๆที่ถูกปล่อยมา เธอหันหน้าไปมองเล็กน้อยก่อนจะพบว่ามีคนตามเธอมาจริงๆ ไอริสแสยะยิ้มร้ายอีกครั้ง สมองอันปราดเปรื่องมีแผนการเล่นกับเหยื่อเต็มหัวไปหมด ก่อนที่ไอริสเดินต่อไปเพื่อไม่ให้ใครบางคนรู้ตัวว่า ลางหายนะมาเยือนเรียบร้อย

     

    อะไร? ก็ไม่ได้บอกนี่นาว่า ห้ามฆ่า

     

    ไอริสทำทีเดินไปอยู่ในจุดพื้นที่โล่งเพื่อความสะดวกในการมองเห็นตัวใครบางคนที่ตามมา เธอหยุดเดินแล้วพูดขึ้นเสียงเบาซึ่งมันไม่ได้เบาจนคนที่ตามมาไม่ได้ยิน

                จะเล่นซ่อนแอบไปถึงไหนกันคะ?

     

    กึ่ก!

     

    ใครบางคนชะงักเล็กน้อยก่อนจะกลับมาทำตัวนิ่งเงียบเช่นเดิม ไอริสหันหลังมามองทางที่มีคนตามเธอมาอย่างไม่สบอารมณ์กับปฏิกิริยาตอบรับที่น่าหงุดหงิดแต่ก็ซ่อนไว้ภายใต้หน้าเปื้อนยิ้มได้อย่างแนบเนียน

                “ถ้าไม่เข้ามาฉันจะเข้าไปเองนะคะน้ำเสียงเย็นเยียบพร้อมการย่างสามขุมไปหาอย่างช้าๆทำให้ใครบางคนลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากก่อนจะโผล่หัวออกมาให้เธอเห็น

                ...เบื้องหน้าของไอริสคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่ดูๆแล้วน่าจะอายุมากกว่าเธอ มีเรือนผมสีน้ำเงินเข้มแซมเงินเล็กน้อย นัยน์ตาสีฟ้าครามหม่นแสงดูเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ ที่อกมีป้ายหมายเลข 201 ติดอยู่ ไอริสมองชายตรงหน้าเงียบๆอย่างพิจารณา ทั้งๆที่มีออร่าแปลกๆแต่กลับดูจืดจาง

                “ฉันคือเป้าหมายของคุณสินะคะไอริสกล่าวเสียงเรียบ ชายตรงหน้ายิ้มแหยๆเหมือนพยายามจะเจรจาต่อรองกับเธอ

                ใช่...แต่ฉันจะมาขอดีๆ ไม่ใช้กำลังเสียงทุ้มถูกเปล่งออกมาอย่างเป็นมิตร ไอริสหรี่นัยน์ตามองชายตรงหน้าอย่างฉงนใจ

                ฉันชื่อว่า มาลัส ราโลฟชายตรงหน้าพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบในขณะที่ไอริสหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ

                ...ไอริสยังคงเงียบเหมือนเช่นเดิม

                เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ...ฉันขอป้ายนั่นได้มั้ย? แล้วฉันจะไม่ทำอะไรเธอมาลัสยังคงพูดพร่ำไม่ดูสถานการณ์เช่นเดิม ไอริสยิ้มปิดตาให้กับมาลัสจนชายตรงหน้าคิดว่าเธอยอมรับข้อเสนอนี้

     

    แต่ไม่เลย...

     

                ใจกล้าดีนะคะ...ที่พูดแบบนี้ต่อหน้าฉัน...เสียงเย็นเยียบดังขึ้นจนทำให้มาลัสแอบตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

                ...งั้นคงต้องใช้กำลังสินะมาลัสกดความกลัวลงไปในส่วนลึกของจิตใจ ไอริสกรีดยิ้มพึงพอใจกับการตัดสินใจของชายตรงหน้า

                กำลังรออยู่เลย...ไอริสยิ้มหวานอีกครั้ง มาลัสพุ่งเข้าหาไอริสที่ยืนนิ่งทันทีก่อนจะฟาดดาบยาวลงมาใส่เธอ ไอริสเบี่ยงตัวหลบภายในเสี้ยววินาทีก่อนจะสวนหมัดขึ้นเสยคางของมาลัสทันที

     

    ผัวะ!

     

    มาลัสที่ประมาทไปเพียงเล็กน้อยโดนไอริสเสยคางไป ร่างสูงโปร่งเซไปเล็กน้อยกับแรงที่ต่อยของเด็กสาวตรงหน้า

     

    ผัวะ! ปัก!

     

    ไอริสที่เห็นมาลัสพลาดท่าให้ไม่รีรอที่จะจัดการประเคนหมัดและลูกเตะให้อย่างจัดเต็ม มาลัสพยายามจะกันไอริสไม่ให้ได้เปรียบในการต่อสู้ แต่ไอริสที่แรงช้างสารกว่าขนาดตัวกลับหวดขาเตะเข้าที่ข้อพับของชายตรงหน้าจนมาลัสที่รู้ตัวว่าเสียเปรียบมากเพียงใดล้มลงไปกองกับพื้นตามมาด้วยไอริสที่เอาเท้าเหยียบหัวมาลัสเอาไว้และกดลงกับพื้นอย่างแรงจนพื้นยุบลงไป

                ว้า...จบแล้วเหรอคะ?......มีอะไรจะสั่งเสียก่อนตายมั้ยคะ?ไอริสยิ้มเย็นมองสีหน้าเจ็บปวดของมาลัสอย่างผิดหวังเล็กน้อย

                อึก!...ก...แก...มาลัสเปล่งเสียงลอดไรฟันออกมาอย่างเจ็บปวด นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มวาวโรจอย่างโกรธเคือง

                หึ...สั่งเสียจบแล้วใช่มั้ยคะ...งั้นก็...บ๊ายบาย...ไอริสยิ้มเสียงเย็นอย่างผิดหวัง ก่อนจะเพิ่มแรงกดที่เท้าให้แรงขึ้นจนกะโหลกศีรษะของชายตรงหน้าแหลกละเอียด ไอริสยิ้มพึงพอใจกับผลงานของตนเองก่อนจะเหลือบมองเท้าของตนที่เปรอะเลือด

     

    ไปล้างก่อนดีกว่า

     

    ว่าจบก่อนจะเดินไปหาแหล่งน้ำเพื่อล้างคราบเลือดอย่างไม่เร่งรีบโดยไม่ลืมที่จะเอาหมายเลขของมาลัสไปด้วย

     

    เสร็จไปหนึ่งแต้ม...เหลืออีกสอง...ไม่ก็เอาป้ายเจ้าหมายเลข 304 มา

     

    เอ...จะฉกหรือจะฆ่าดีนะ J

     

    .
    .
    .
    .
    .
                “กอร์น?ไอริสกล่าวเบาๆพร้อมเลิกคิ้วมองคนตรงหน้างงๆ กอร์นเองก็ไม่ได้ต่างกันกับเธอมากนัก รายนั้นถลึงตามองเลยจ้า...

     

    แยกกันแปปเดียวก็เจอกันอีกละ...

     

                บังเอิญ...จังเนอะ...แหะๆกอร์นที่ซ้อมเหวี่ยงเบ็ดมองไอริสพร้อมยิ้มแหยๆให้พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคราบเลือดที่เหมือนผ่านมาสดๆ กอร์นมองหน้าไอริสอย่างนึกสงสัยว่าได้มายังไง ไอริสยักไหล่อย่างไม่ค่อยสนใจก่อนจะเดินไปล้างเท้าของเธอที่แม่น้ำ

                เลือดนั่น...ไอริสเหลือบมองกอร์นเล็กน้อยก่อนจะกลับมาล้างรองเท้าบูทหนังที่เปื้อนเลือดเช่นเดิมพลางตอบคำถามของกอร์นไปด้วย

                อ่า...เผลอตัวไปหน่อยน่ะไอริสยิ้มหวานให้กอร์นที่มองมาทางเธอนิ่ง เด็กสาวไม่แม้แต่จะสนใจท่าทางของกอร์นที่อยู่ใกล้ๆ แล้วลงมือล้างรองเท้าต่อไป

                ไม่ได้นะไอริส!”

     

    หมับ!

     

    กอร์นยื่นมือมาจับมือของไอริสที่นั่งอยู่ตรงโขดหินแน่น นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่ใสซื่อและเถรตรงมองเธอนิ่ง ไอริสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับการกระทำของกอร์น

                ไม่ได้? หมายความว่าไง?

                ไปฆ่าคนอื่นพร่ำเพื่อแบบนี้ไม่ได้นะทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากของกอร์น ไอริสก็สะบัดมือออกแล้วเดินไปตากรองเท้าให้แห้งพอใส่ได้โดยไม่พูดอะไรกับกอร์น

                ...

                “ไอริส...ได้ยินใช่รึเปล่า? คราวหน้าไม่ทำแบบนี้แล้วนะ มันไม่----”

                “กอร์น...รู้ตัวรึเปล่าว่านายกำลังยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรยุ่งแล้วน่ะ?เสียงเรียบนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึกของไอริสดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่อันตรธานหายไปราวกับไม่เคยมี กอร์นชะงักกับใบหน้าอีกแบบที่ไม่เคยเห็นของไอริส จิตสังหารถูกปล่อยออกมาอย่างแรงจนเกิดบรรยากาศกระอักกระอ่วนและอึดอัดใจ  

                ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน...จะฆ่าใครก็เรื่องของฉัน นาย-ไม่-เกี่ยวแม้จิตสังหารของไอริสจะรุนแรงมากแต่กอร์นก็ยังพยายามจะยืนอยู่ข้างๆเธอ แม้ไอริสจะพูดจาแบบนี้แต่กอร์นกลับไม่สะทกสะท้าน

                ...ใช่...ฉันไม่เกี่ยวหรอก...แต่เราเป็นเพื่อนกันนี่...เพื่อนก็ต้องห้ามเพื่อนสิ! เนอะ!”เมื่อสิ้นประโยคไอริสก็นิ่งค้างมองกอร์นแบบงงๆ เธอไม่เคยเข้าใจเลยว่า เพื่อนมันคืออะไร? แล้วอะไรที่เรียกว่าเพื่อน?  

                เพื่อน...เหรอ?คำพูดเลื่อนลอยถูกเปล่งออกจากปากของไอริส นัยน์ตาสีคาราเมลเข้มวูบไหวอีกครั้ง

                อื้อ!”รอยยิ้มใสซื่อของกอร์นทำให้ไอริสยิ่งรู้สึกสับสนในใจยิ่งขึ้น จิตสังหารที่เคยปล่อยออกมาได้อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว

                นี่...กอร์น...น้ำเสียงสั่นๆของไอริสดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ

                ?

                “ถ้าวันไหน...ที่ฉันทำผิด...ฉันอยากให้นายเป็นคนห้ามฉันนะ...รอยยิ้มเศร้าหมองกับคำพูดแฝงนัยอะไรบางอย่างดังขึ้นเบาๆ กอร์นกุมมือไอริสแน่นด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวประโยคต่อไปที่ทำให้ไอริสกลับมายิ้มแย้มเช่นเดิม ไม่นานเธอก็เดินออกห่างกอร์นและออกตามล่าเป้าหมายต่อไป

                อื้อ! ฉันสัญญา! วันไหนที่เธอทำผิดหรือจมดิ่งสู่ความมืดมิดไร้หนทาง...ฉันจะห้ามและฉุดเธอขึ้นมาเอง! ไม่ต้องเป็นห่วงนะ!”

     

    ขอบคุณนะ...กอร์น

     

    .
    .
    .
    .
    .
    Writer Talk

    เหลืออีกครึ่งหนึ่งงงงง แต่ไรท์ไม่ไหวแล้ววว การบ้านเยอะมากค่ะกลัวรีดเดอร์ทั้งหลายเหงาเลยมาอัพให้ค่ะแยกเป็นสองตอนซะเลย!! เม้นกันให้กำลังใจหน่อยนะคะ รักทุกคนนะ------ ซียะ!! 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×