คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : :Dangerous 9: สอบถามและการสอบรอบสุดท้าย
:Dangerous 9: สอบถามและการสอบรอบสุดท้าย
ตึก...ตึก...ตึก...ตึก...
เสียงการย่ำเท้าลงบนพื้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คิรัวร์กับคุราปิก้าและเลโอลีโอมองตรงไปที่ไอริสที่เดินหนีกอร์นในขณะที่เด็กชายผมตั้งเดินตามไม่ห่างมาทั้งชั่วโมง
ซึ่งการกระทำของทั้งสองคนมันดูน่าเอ็นดูแปลกๆ
“เดินตามฉันทำไมคะ?”คำพูดสุภาพและดูห่างเหินทำให้กอร์นที่เดินตามแอบสะอึกเล็กน้อย
“ก็อยากรู้นี่นาว่าไอริสโกรธอะไรฉันรึเปล่า”กอร์นมองไอริสหงอยๆ
เด็กสาวมองนิ่งๆก่อนจะจับหมับเข้าที่หน้าของกอร์นจนทุกคนที่ดูอยู่สะดุ้งสุดตัว
หมับ!
“ไม่ได้โกรธหรอกนะคะ...แต่คุณพูดเองรึเปล่าว่าจะช่วยห้ามฉัน...แล้วรอยช้ำที่หน้านี่มันอะไร?
ตอบดีๆแล้วฉันจะคุยด้วยแบบปกติ”คำพูดราวกับคำขู่ของไอริสดังขึ้นพร้อมกับการยิ้มแบบตาปิดและปล่อยออร่าหลอนๆออกมา
นั่นทำให้กอร์นที่ไม่รู้จะพูดอะไรหน้าซีดยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“เอ่อ...”กอร์นถึงกับอึกอักพูดไม่ออกทันที
ถึงแม้ว่าจะแค้นใจที่ฮิโซกะต่อยมากเพียงใดแต่ถ้าไอริสที่เดาการกระทำไม่ได้รู้ว่าตนเองถูกฮิโซกะต่อยหน้าชาไป
คงมีมวยแน่ๆล่ะคราวนี้...
“จากนี้ไปจะเป็นการสัมภาษณ์โดยประธานเนเทโล่
หมายเลขที่ถูกเรียกให้ไปยังห้องรับรองที่ 1 เริ่มที่หมายเลข 400
เลยครับ”เสียงประกาศการสัมภาษณ์ก่อนการสอบดังขึ้นราวกับช่วยชีวิตของกอร์นเอาไว้
ไอริสปล่อยมือออกจากหน้าของกอร์นก่อนจะเดินไปเตรียมตัวทันที โดยที่ไม่ลืมทิ้งท้ายให้กอร์นน้ำตาตกใน
“ถ้าสัมภาษณ์เสร็จต้องหาคำตอบมาให้ฉันให้ได้นะคะ”
กอร์นอยากจิครายยยยยยย TVT
.
.
.
.
.
“ขออนุญาตค่ะท่านปู่”เสียงไอริสดังขึ้นพร้อมกับการเปิดประตูเข้าไปในห้องรับรองที่
1 ภายในมีประธานสมาคมฮันเตอร์นั่งอยู่
“โอ้ มาแล้วเรอะ
นั่งก่อนสิปู่มีเรื่องต้องถามหลานเยอะแยะเลย...”เนเทโล่ว่าพลางผายมือไปทางเก้าอี้
ไอริสพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะนั่งลง
“เริ่มเลยแล้วกัน...ทำไมถึงมาสอบฮันเตอร์ล่ะ?”คำถามนั้นทำให้ไอริสนิ่วหน้าลงอย่างเบื่อหน่าย
“จำเป็นต้องตอบด้วยมั้ยคะ?”
“ตอบๆไปเถอะ...มันเป็นคำถามที่คิดขึ้นเพื่อการสอบรอบสุดท้าย”เนเทโล่มองเด็กสาวยิ้มๆอย่างเจ้าเล่ห์
ใบหน้ายิ้มแย้มหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
“...มาสอบเพราะคนบางคนให้มาทำงานค่ะ”
ฉึ่ก!
“...อืม...แล้วสนใจใครเป็นพิเศษนอกจากตัวเองรึเปล่าล่ะ?”เนเทโล่ถึงกับยิ้มค้างให้ไอริส ก่อนจะตัดสินใจเก๊กหน้านิ่งเหมือนเดิมแล้วถามคำถามต่อไป
“ก็...กอร์นกับคิรัวร์ล่ะมั้งนะ?”ไอริสพูดเสียงอ้อมแอ้ม
“หืม? ทำไมถึงสนใจล่ะ?”ชายชราถามซอกแซก
นัยน์ตาสีคาราเมลของไอริสหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจ
“ความสามารถน่าสนใจดี...เหมาะเป็นของเล่นของฉันพอดีค่ะ”
“...แล้วอยากจะสู้หรือไม่อยากสู้กับใครเป็นพิเศษรึเปล่าล่ะ?”คำถามนั้นทำให้ไอริสเงียบไป
“ไม่ค่ะ...เพราะฉันมาทำแค่งานที่ท่านปู่มอบให้เท่านั้นค่ะ”
“โฮะๆๆ บางทีปู่ก็อยากให้หลานสนุกกับภารกิจที่ปู่ให้บ้างนะ”ไอริสมองหน้าปู่ของเธอนิ่งๆก่อนจะยิ้มบางๆให้
“ความสุขในชีวิตของฉันหายไปตั้งแต่มีคำทำนายนั้นแล้วล่ะค่ะ”
“...”บรรยากาศในห้องเงียบลงอย่างกะทันหัน
เนเทโล่หุบยิ้มลงก่อนจะตัดสินใจถามคำถามสุดท้าย
“แล้วเรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว”
“ไม่มีความคืบหน้าค่ะ...แต่ไม่นาน...ก็คงเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ...”ไอริสตอบพลางนิ่วหน้าลง
ก่อนที่จะเดินออกจากห้องรับรองไปเพราะหมดคำถามแล้ว
.
.
.
.
.
เมื่อผู้เข้าสอบทั้ง 10 คนเข้าไปสัมภาษณ์เรียบร้อยไอริสก็มุ่งตรงเข้าไปหากอร์นทันทีเพื่อฟังคำตอบ
“คงหาคำตอบให้ฉันได้แล้วใช่มั้ยคะ?”
“อืม! แต่ไปเล่าที่อื่นได้มั้ย?”กอร์นพูดตอบด้วยรอยยิ้ม ไอริสพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะถูกกอร์นจูงมือไปทางอื่น
แล้วไม่นานกอร์นก็พาไอริสมาหยุดอยู่ตรงทางเดินที่ไม่มีใครเดินผ่าน
กอร์นหันหน้ามามองไอริสก่อนจะกุมมือทั้งสองข้างของเด็กสาวแน่น
เด็กสาวตัวสูงกว่ามองหน้าเด็กชายตรงหน้านิ่งๆ รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าของเธอปรากฏขึ้นอีกครั้งเพื่อให้เขาสบายใจ
กอร์นมองใบหน้าของไอริสแล้วค่อยๆเล่าทุกอย่างออกมาให้เธอฟังทีละนิด
“ฉัน...จับได้ป้ายของฮิโซกะ...”ไอริสมองหน้ากอร์นนิ่งๆรอยยิ้มบางๆยังคงแต่งเติมใบหน้าให้เด็กชายสบายใจที่จะเล่าต่อ
เธอพยักหน้ารับเล็กน้อยเป็นผู้ฟังที่ดี
“ฉันพยายามจะชิงป้ายของฮิโซกะมาตอนที่ฮิโซกะเผลอ...แต่พอฉันชิงป้ายของฮิโซกะมาได้...ก็มีคนมาเอาป้ายทั้งหมดของฉันไป...แล้วต่อจากนั้น...ฮิโซกะก็จัดการเอาป้ายของตัวเองกับของฉันมาให้ฉัน...พร้อมตั๊นหน้าฉันแล้วบอกว่า
‘ฉันฝากป้ายนั่นเอาไว้ก่อน เมื่อไหร่ที่นายตั๊นหน้าฉันกลับให้ได้เหมือนที่ฉันตั๊นหน้านายค่อยเอามาคืน’…”กอร์นก้มหน้าลงไม่สบสายตากับไอริส
เด็กสาวสังเกตเห็นว่ามือของตนมีหยดน้ำสีใสร่วงเผาะลง
กอร์นกุมมือของไอริสแน่นขึ้นจนเด็กสาวนิ่วหน้าลงเล็กน้อย
เจ็บ...
“มันทำให้ฉัน...แค้นใจที่สุด!”กอร์นจับมือไอริสแน่นจนเด็กสาวส่งเสียงในลำคอเล็กน้อย
“อึก...”ไอริสตัดสินใจกลืนเสียงความเจ็บนั้นลงคอก่อนจะเอื้อมมือมากอดเด็กชายตรงหน้าให้อารมณ์เย็นลง
“ฮึก!...ขอบคุณนะ...ไอริส”กอร์นกอดไอริสแน่นขึ้น
เด็กชายสะอื้นเล็กน้อยในอ้อมกอดของเด็กสาว
“นายไม่ต้องขอบคุณหรอกนะ...”
เพราะคนที่ต้องขอบคุณ...มันควรเป็นฉันมากกว่า...
.
.
.
.
.
พรึ่บ!
รอยยิ้มของไอริสหม่นลงทันทีที่เห็นการจับคู่ในการสอบรอบสุดท้าย
อาจจะเป็นเพราะเธอตอบว่าไม่อยากจะสู้กับใครเลยล่ะมั้ง...
ตาแก่นั่นถึงให้ฉันสอบแยกกับคนที่จัดหามาให้...
ไอริสส่งสายตามองแรงไปให้เนเทโล่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักก่อนจะพึมพำกับตัวเอง
“ร้ายนักนะตาแก่...”แน่นอนว่าได้รับคำตอบเพียงเสียงหัวเราะจากชายชราตรงหน้า
เอาเถอะ...ยังไงก็ไม่คิดอยากจะสอบผ่านอยู่แล้วด้วย...
“เดี๋ยวสิ! ทำไมจัดคู่ไม่ยุติธรรมแบบนี้ล่ะ!?”เลโอลีโอแว้ดขึ้นเสียงดังในขณะที่คนอื่นๆก็พยักหน้าเห็นด้วย
ก่อนจะมีเสียงของผู้เข้าสอบคนอื่นแย้งขึ้นเช่นกัน
“นั่นสิ! อย่างนี้หมายเลข 405 กับหมายเลข
294 ก็มีโอกาสสอบผ่านมากกว่าคนอื่นๆน่ะสิ!”
“ไม่ลำเอียงไปหน่อยรึไง!?”
และอีกหลายๆเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของประธานสมาคม
ชายแก่มองทุกคนนิ่งๆพร้อมบอกว่าตัดสินจากอะไรจนทุกคนเงียบเสียงไป
“ตัดสินมาจากการสอบรอบผ่านๆมาไงล่ะ”จบลงด้วยเสียงหัวเราะตามแบบของเจ้าตัว
ตาแก่จอมลำเอียง!!
“ในการต่อสู้จะสู้กันไปเรื่อยๆและจะมีคนที่ตกรอบเพียงคนเดียว
จะใช้อาวุธสู้ด้วยก็ได้ แต่ถ้าลงมือฆ่าผู้เข้าสอบคนอื่นจะถูกปรับให้สอบตกทันที
ทำให้คู่ต่อสู้พูดว่า ยอมแพ้ ให้ได้ก็ถือว่าสอบผ่าน”เนเทโล่ชี้แจงกติกาให้เข้าใจทั่วกัน
ผู้เข้าสอบทุกคนพยักหน้าเข้าใจ
และไม่นานการต่อสู้รอบแรกก็มาถึง
กอร์นหันหน้ามามองไอริสที่อยู่ข้างๆพร้อมยิ้มโชว์ฟัน
ซึ่งนั่นทำให้ไอริสยิ้มตามอย่างเอ็นดูพลางยื่นมือมาขยี้กลุ่มผมตั้งๆนั่นจนยุ่ง
กอร์นพองแก้มเล็กน้อยและเดินออกไปสู้กับฮันโซ ไอริสมองกอร์นที่เดินไปสู้เป็นคู่แรกอย่างไม่ละสายตา
ในใจรู้สึกไม่ดีแบบแปลกๆ
“หึๆ...จ้องจนตาค้างเชียวนะยัยเด็กหน้ายิ้ม”แต่ไม่นานเสียงกวนประสาทก็ดังขึ้นข้างตัว
นัยน์ตาสีคาราเมลเหลือบมองฮิโซกะอย่างไม่ชอบใจ
“ไม่เกี่ยวกับคุณค่ะตัวตลกโรคจิต”คำตอบของไอริสทำให้ฮิโซกะหัวเราะชอบใจอย่างทุกที
ซึ่งนั่นไม่ทำให้ไอริสสนใจแม้แต่น้อย
เพราะไม่นานไอริสก็กลับไปสนใจการต่อสู้ของกอร์นแทบจะทันทีที่เสียงสัญญาณต่อสู้ดังขึ้น
คู่แรก ฮันโซ VS กอร์น
การต่อสู้เริ่มขึ้นโดยการที่กอร์นเคลื่อนไหวไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว
“มั่นใจในฝีเท้าของตัวเองไม่น้อยเลยทีเดียวนะ...ฉันตรวจสอบมาเรียบร้อยแล้วล่ะ”แน่นอนว่าความเร็วเพียงเท่านั้นของกอร์นไม่เร็วพอที่จะใช้กับนินจาอย่างชายหัวโล้นตรงหน้า
ผัวะ!
ฮันโซจัดการฟาดสันมือลงที่คอของกอร์นทันที
ไอริสกำมือแน่นจนเลือดแทบซึมออกจากมือแต่ก็พยายามจะสงบจิตสงบใจไม่ให้เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้เพราะหากเธอเข้าไปยุ่งกอร์นอาจจะเกลียดเธอก็ได้
เพื่อตัวเด็กคนนั้นเอง...ฉันจะต้องไม่เข้าไปยุ่ง...
แต่หลังจากนั้นฮันโซก็ทรมาณกอร์นไปเรื่อยๆ
หากแต่เด็กปากหนักและมุ่งมั่นอย่างกอร์นไม่ยอมปริปากพูดคำว่า ยอมแพ้ ง่ายๆและยืนยันอยู่เพียงคำเดียว
“ใครจะไปยอมพูดกันเล่า!”
เพี๊ยะ!!
เสียงตบขมับดังทั่วห้อง กอร์นไอค่อกแค่กกับอาการหัวหมุนตรงหน้า
เมื่อพยายามจะยืนขึ้นก็โดนสวนหมัดเข้าที่ท้องอย่างแรง
“อุก!”
“พอเถอะกอร์น! อย่าฝืนต่อไปเลย! ยังมีรอบต่อไปอีกนะ!”เลโอลีโอที่ทนดูไม่ไหวตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด
“หยุดนะเลโอลีโอ! กอร์นทำมาถึงขั้นนี้แล้วนายจะให้ยอมแพ้ง่ายๆงั้นเหรอ!”คุราปิก้าแย้งทั้งๆที่ตนเองก็ทนดูต่อไปแทบไม่ไหว
“ถ้าเกิดตายไปแล้วมันคุ้มรึไง!!”เลโอลีโอยังตะโกนอย่างเหลืออดเช่นเดิม
ไอริสที่มองอยู่แทบจะเดินเข้าไปเตะหัวโล้นๆนั่นให้จมดินถ้าไม่คิดว่าอยากให้กอร์นชนะด้วยตัวเอง
หงุดหงิดจริงๆ! ไอ้โล้นนั่นน่าหงุดหงิดชะมัด! มีสิทธิ์อะไรมาทำให้ของเล่นของเธอมีรอยขีดข่วนกัน!
ไอริสคิดในใจพลางปล่อยรังสีอำมหิตออกมาอย่างไม่ลดละ
แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มแค่ไหนแต่มันก็ไม่สามารถที่จะกลบความอาฆาตของเธอได้เลยแม้แต่น้อย
นั่นทำให้เม็นจิ บูฮาร่าและซาร์ทอตแอบเหงื่อตกเพราะกลัวยัยเด็กตัวดีลงมือฆาตกรรมนินจาโล้นอย่างเลือดเย็น
“โฮะๆ
หวงของไม่เปลี่ยนเลยนะ...ยัยหลานตัวดี”เนเทโล่กล่าวพลางมองไอริสที่ยิ้มแย้มแต่แววตาวาวโรจอย่างโกรธเคืองและพร้อมที่จะเข่นฆ่าฮันโซได้ทุกเมื่อ
.
.
.
.
.
ดูเหมือนโชคจะยังคงเข้าข้างฮันโซอยู่บ้างเพราะเจ้าตัวทนความดื้อด้านของกอร์นไม่ไหวจึงตัดสินใจยอมแพ้ไปก่อนที่ไอริสจะหมดความอดทนจนลงมือเชือดนินจาหัวโล้น
ถึงแม้ว่าเด็กสาวจะชกเข้าที่หน้าของเขาจนบวมช้ำไปแล้วก็ตามที...
แน่นอนว่าหลังจากที่ไอริสชกหน้าของฮันโซไปแล้ว
มันก็ยังไม่เทียบเท่ากับที่เขาทำกับของเล่นของเธอ จนเกือบจะกระทืบเขาจนปางตายถ้าไม่มีคุราปิก้าและเลโอลีโอมาล็อคแขนล็อคแล้วแบกกลับที่
แล้วการสอบก็ดำเนินไปเรื่อยๆ
จนมาถึงการต่อสู้ของคิรัวร์กับกีตาราเคิล ซึ่งมันทำให้คิรัวร์รับรู้ว่า
ตนเองคิดผิดอย่างมหันต์
“ไม่เจอกันนานนะ
คิล”เสียงที่ไร้ความตะกุกตะกักอย่างเช่นเคยของกีตาราเคิลดังขึ้น เขาดึงเข็มออกจากตัวจนหมดทุกเล่นจนเค้าโครงหน้าเปลี่ยนแปลงไป
“พ...พี่เหรอ”
“ไง...”เจ้าของเรือนผมสีดำยาวและดวงตากลมโตสีเดียวกับผมมองตรงมาที่คิรัวร์
ไอริสมองอิรูมิเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก
ถึงว่า...เหมือนเคยเห็นที่ไหน...ที่แท้ก็พวกโซลดิ๊กส์นี่เอง
“ได้ยินว่านายแทงแม่กับมิลกี้”อิรูมิพูดพลางหรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย
“ก็นะ...”
“แม่ถึงกับร้องไห้เลยนะ”อิรูมิพูดพลางเอียงคอมองน้องชายเล็กน้อย
“ก็แหงอยู่แล้วล่ะ
โดนลูกชายตัวเองทำด้วยความโหดเหี้ยมแบบนั้น”เลโอลีโอพูดออกมาเบาๆราวกับรับรู้สถานการณ์
“เป็นปลื้มสุดๆเลย”
โครม!
เลโอลีโอล้มหัวทิ่มพื้นทันทีที่ได้ยินความจริงจากปากของอิรูมิพลางคิดว่า
บ้านนี้จะช่วยมีคนปกติหน่อยได้มั้ยเนี่ย!!
“ฉันดีใจที่เด็กคนนั้นโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว
แม่ว่างั้น แต่ก็ยังเป็นกังวลที่จะปล่อยออกไปข้างนอก ฉันก็เลยถูกไหว้วานให้มาคอยจับตาดูนาย
บังเอิญจังเลยนะ...”
“...”
“...ไม่นึกมาก่อนเลยว่า...คิลจะอยากเป็นฮันเตอร์ด้วย...ที่จริงฉันเองก็อยากได้ใบอนุญาตเพราะมันจำเป็นสำหรับงานชิ้นถัดไปน่ะ...”
“เปล่าเลย...ไม่ได้อยากเป็นขนาดนั้นสักหน่อย...ก็แค่มาลองสอบดูเท่านั้นเองน่ะแหละ”คิรัวร์พูดพลางหลบตาอิรูมิเล็กน้อย
“งั้นเหรอ...ค่อยโล่งใจหน่อย...”ชายหนุ่มพูดกับน้องชายก่อนที่จะเกิดบรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนใจขึ้น
ไอริสมองภาพตรงหน้างงๆ
ออร่าแบบนี้...เหมือนของท่านพ่อเลย...มันคืออะไรกันแน่?
“ฉันจะได้เตือนนายได้อย่างวางใจ...นายน่ะห้ามเป็นฮันเตอร์...”อิรูมิกล่าวเสียงเย็น
“อึก!...”
“อาชีพที่เหมาะกับนายน่ะคือ...”
“นักฆ่าต่างหาก”
“นายเป็นตุ๊กตาแห่งความมืด...ไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์ความรู้สึก
ไร้ซึ่งความต้องการและความปรารถนาของตน...สิ่งที่น่ายินดีเพียงสิ่งเดียวสำหรับนายที่อยู่ในเงามืดก็คือ...วินาทีที่ปลิดชีวิตคน...พ่อกับฉันเลี้ยงนายมาแบบนั้น...แบบนั้นแล้วถ้านายเป็นฮันเตอร์นายจะได้อะไรล่ะ?”แววตาของคิรัวร์สั่นไหวไปด้วยความหวาดกลัว
อิรูมิยังคงพูดต่อจนไอริสที่อยู่ไม่ไกลมองพวกเขาแทบไม่ละสายตา
คิรัวร์น่ะเหรอ...ตุ๊กตา?
คิรัวร์น่ะเหรอ...ไร้ความรู้สึก?
คิรัวร์น่ะเหรอ...ที่ยินดีกับการตายของคนอื่น?
บ้าบอสิ้นดี!!
“จริงอยู่...ที่ฉันไม่คิดอยากจะเป็นฮันเตอร์เลย...แต่ว่า...ฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องการอยู่...”
“ไม่มีหรอก”
“มีสิ!! ตอนนี้ฉันมีสิ่งที่ต้องการแล้ว!!”คิรัวร์เอ่ยขึ้นทันควันในขณะที่อิรูมิชะงักค้างไปเล็กน้อย
“หืม...ไหนบอกมาสิ...ว่านายต้องการอะไรล่ะ?”อิรูมิพูดขึ้นนั่นทำให้คิรัวร์เงียบก้มหน้างุดลงไป
“เป็นอะไร...จริงแล้วนายไม่มีสิ่งที่ต้องการใช่มั้ยล่ะ?”
“ไม่ใช่!!!”คิรัวร์พูดขึ้นเสียงดังก่อนจะกล่าวประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“ฉันอยาก...เป็นเพื่อนกับกอร์น...ฉันไม่อยาก...จะฆ่าคนอีกต่อไปแล้ว
อยากเป็นเพื่อนกับกอร์นแล้วเที่ยวเล่นกันแบบเด็กทั่วไป!”
“ไม่ได้หรอก...ใครจะอยากมาเป็นเพื่อนกับนายกันเล่า?”อิรูมิพูดขัดด้วยสีหน้านิ่งๆ
คิรัวร์กัดฟันแน่นกับคำพูดของชายหนุ่ม
“...นายตัดสินเองไม่ได้หรอก...ว่ามนุษย์คนไหนฆ่าได้คนไหนฆ่าไม่ได้...เพราะนายถูกฝึกมาแบบนั้นนี่...”แววตาของคิรัวร์สั่นระริกมองหน้าพี่ชายเงียบๆ
“ตัวนายในตอนนี้ก็แค่แยกแยะไม่ออกว่ากอร์นั้นสว่างเกินไปในสายตานาย...ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับกอร์นสักหน่อย”
“ไม่ใช่นะ...”คิรัวร์พึมพำเบาๆ
“ถ้าอยู่ใกล้เขาสักวันนายนั่นแหละจะฆ่าเขาเอง...นายจะสงสัยว่าฆ่าได้มั้ย?
หรือฆ่าไม่ได้? ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะนายเป็นนักฆ่าโดยสายเลือดยังไงล่ะ”ร่างของคิรัวร์สั่นเทาไปด้วยความกลัว
แววตาสั่นระริก
“คิรัวร์!! จะเป็นพี่นายหรือใครก็ไม่รู้แหละ! ขอฉันพูดหน่อยเถอะน่า!!”เลโอลีโอส่งเสียงตะโกนอย่างเหลืออดอีกครั้ง
อิรูมิส่งสายตามองมาที่เขาอย่างเฉยชา
“แต่หมอนั่นน่ะ! มันก็แค่ไอ้บ้าตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ! ไม่ต้องไปฟังมัน!จัดการผเด็จศึกเหมือนทุกทีแล้วก็สอบผ่านไปซะเลย!
อยากเป็นเพื่อนกับกอร์นเหรอ!?”เลโอลีโอร่ายยาวอย่างอารมณ์เสียก่อนจะชี้มาทางคิรัวร์ที่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ละเมออยู่รึไง?
นายเป็นเพื่อนกับเขาและพวกเราตั้งนายแล้วเฟ้ย!!! แม้ไม่ค่อยสนิทแต่กอร์นต้องคิดแบบเดียวกันแน่ๆ!!”
“อึก!”คิรัวร์สะดุ้งเล็กน้อยให้กับคำพูดของเลโอลีโอ
“งั้นหรอกเหรอ?”อิรูมิกล่าวเรียบๆพลางมองหน้าน้องชายสลับกับเลโอลีโอ
“แหงอยู่แล้วสิเจ้าบ้า!!”
“งั้นเหรอ?
ยอมรับแล้วเหรอ? ทางนั้นก็คิดว่าเป็นเพื่อนกันและนี่เอง...”อิรูมิพูดพลางเท้าคางให้ความคิดเล็กน้อยก่อนจะทำถ้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก
“ดีล่ะ! งั้นฉันจะฆ่ากอร์นซะ”เมื่อสิ้นเสียงนั้นอิรูมิก็หยิบเข็มออกมาพลางพึมพำอะไรบางอย่างกับคิรัวร์
ซึ่งแน่นอนว่าไอริสที่จมสู่ความโกรธไม่ได้ยินสิ่งที่พูดเลย
ตึง!!
เสียงบางอย่างกระทบเข้ากับผนังอย่างแรงดังขึ้นแทบจะทันทีที่อิรูมิกล่าวจบ
ทุกสายตามองตรงไปที่เด็กสาวผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มที่ตอนนี้ได้อยู่ในอารมณ์ที่โกรธถึงขีดสุด
“ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะเลิกพล่ามอะไรไร้สาระสักทีกันคะ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธดังขึ้นมาจากเด็กสาว
อิรูมิมองไอริสเล็กน้อยก่อนจะทำถ้าเดินหนีออกไป
“...จะไปไหนกันคะ?”เด็กสาวมองตามชายหนุ่มผมยาวที่เดินไปทางประตู
“ก็...ไปฆ่ากอร์นไง”กล่าวจบอิรูมิก็ทำท่าจะเดินต่อทันที
“ถึงแม้ว่าน้องชายสุดที่รักจะสอบผ่านเป็นฮันเตอร์น่ะเหรอ?”คำพูดนั่นทำให้ชายหนุ่มผมยาวชะงักลงแล้วหันกลับมา
“เธอหมายความว่าไง? คิลน่ะเหรอเป็นฮันเต----”
ฝึ่บ!
“ฉันขอถอนตัวจากการสอบ...ในฐานะที่ฉันเป็นผู้คุมสอบรอบนอก
ขอตัดสินให้ทุกท่านผ่านเป็นฮันเตอร์ค่ะ เท่านี้ทุกคนก็สอบผ่านใช่มั้ยคะท่านปู่?”ไอริสพูดพลางหยิบใบอนุญาตฮันเตอร์มาให้ทุกคนดูเป็นขวัญตา
ทุกคนตะลึงงันอย่างรุนแรง
ไอริสเป็นฮันเตอร์อยู่แล้วงั้นเหรอ!!? แล้วท่านปู่นี่คือ!!??
“โฮะๆๆ ก็ตามนั้นแหละนะ...แต่เจ้าไม่กลัวโดนแคสเซียสลงโทษรึไง...ที่ทำแบบนี้น่ะ”เนเทโล่ชายตามองหลานสาวที่ดูเหมือนจะได้รับรู้อะไรหลายๆอย่าง
ไอริสส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสดใส
“ไม่หรอกค่ะ...ฉันชินแล้ว”เมื่อพูดจบไอริสก็เดินไปทางประตูทันที
“ไอริส...”เสียงของคิรัวร์ดังขึ้นไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่
เด็กสาวยิ้มให้พวกเขาอย่างสดใส
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก...พวกเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ”เธอเดินเข้าไปใกล้ๆกับคิรัวร์และพูดอะไรบางอย่างก่นจะเดินออกจากสถานที่นั้นไป
“ฝากบอกกอร์นด้วยนะ...ว่าฉันดีใจที่ได้เจอนาย...แต่เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว...ขอบคุณและขอโทษนะ”
“หมายเลข 400 หมดสิทธิ์สอบ ผู้เข้าสอบทั้งหมด 9 คนผ่านการสอบฮันเตอร์ครับ!!”
.
.
.
.
.
Writer Talk
จบตอนจ้า----!! ไอริสเป็นฮันเตอร์อยู่แล้วนะคะ พีคมั้ย?
ไม่พีคเนอะ 555 ตอนต่อไปไอริสจะโดนลงโทษครับคุณณณณ
สำหรับคำถามที่ถามไปเมื่อตอนที่แล้ว สรุปว่าไอริสจะไม่ตายค่ะ
แต่ไรท์จะแต่งตอนใกล้จบให้ทุกคนงงเล่น ไม่บอกหรอกนะคะว่ายังไง
ยังไงไอริสก็ไม่ตายแล้ว โหวตพระเอกเลยดีไหมนะ? เปิดโหวตเลยแล้วกันเนอะ! ปิดก่อนวันวาเลนไทน์นะคะ งั้นก็ซียะ!!
ความคิดเห็น