ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic hxh]The Dangerous Girl

    ลำดับตอนที่ #12 : :Dangerous 9: สอบถามและการสอบรอบสุดท้าย

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 60


    :Dangerous 9: สอบถามและการสอบรอบสุดท้าย

     

    ตึก...ตึก...ตึก...ตึก...

     

    เสียงการย่ำเท้าลงบนพื้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิรัวร์กับคุราปิก้าและเลโอลีโอมองตรงไปที่ไอริสที่เดินหนีกอร์นในขณะที่เด็กชายผมตั้งเดินตามไม่ห่างมาทั้งชั่วโมง ซึ่งการกระทำของทั้งสองคนมันดูน่าเอ็นดูแปลกๆ

                “เดินตามฉันทำไมคะ?คำพูดสุภาพและดูห่างเหินทำให้กอร์นที่เดินตามแอบสะอึกเล็กน้อย

                ก็อยากรู้นี่นาว่าไอริสโกรธอะไรฉันรึเปล่ากอร์นมองไอริสหงอยๆ เด็กสาวมองนิ่งๆก่อนจะจับหมับเข้าที่หน้าของกอร์นจนทุกคนที่ดูอยู่สะดุ้งสุดตัว

     

    หมับ!

     

                ไม่ได้โกรธหรอกนะคะ...แต่คุณพูดเองรึเปล่าว่าจะช่วยห้ามฉัน...แล้วรอยช้ำที่หน้านี่มันอะไร? ตอบดีๆแล้วฉันจะคุยด้วยแบบปกติคำพูดราวกับคำขู่ของไอริสดังขึ้นพร้อมกับการยิ้มแบบตาปิดและปล่อยออร่าหลอนๆออกมา นั่นทำให้กอร์นที่ไม่รู้จะพูดอะไรหน้าซีดยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว  

                เอ่อ...กอร์นถึงกับอึกอักพูดไม่ออกทันที ถึงแม้ว่าจะแค้นใจที่ฮิโซกะต่อยมากเพียงใดแต่ถ้าไอริสที่เดาการกระทำไม่ได้รู้ว่าตนเองถูกฮิโซกะต่อยหน้าชาไป

     

    คงมีมวยแน่ๆล่ะคราวนี้...

     

                จากนี้ไปจะเป็นการสัมภาษณ์โดยประธานเนเทโล่ หมายเลขที่ถูกเรียกให้ไปยังห้องรับรองที่ 1 เริ่มที่หมายเลข 400 เลยครับเสียงประกาศการสัมภาษณ์ก่อนการสอบดังขึ้นราวกับช่วยชีวิตของกอร์นเอาไว้ ไอริสปล่อยมือออกจากหน้าของกอร์นก่อนจะเดินไปเตรียมตัวทันที โดยที่ไม่ลืมทิ้งท้ายให้กอร์นน้ำตาตกใน

                ถ้าสัมภาษณ์เสร็จต้องหาคำตอบมาให้ฉันให้ได้นะคะ

     

    กอร์นอยากจิครายยยยยยย TVT

     

    .
    .
    .
    .
    .
               
    ขออนุญาตค่ะท่านปู่เสียงไอริสดังขึ้นพร้อมกับการเปิดประตูเข้าไปในห้องรับรองที่ 1 ภายในมีประธานสมาคมฮันเตอร์นั่งอยู่

                โอ้ มาแล้วเรอะ นั่งก่อนสิปู่มีเรื่องต้องถามหลานเยอะแยะเลย...เนเทโล่ว่าพลางผายมือไปทางเก้าอี้ ไอริสพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะนั่งลง

                เริ่มเลยแล้วกัน...ทำไมถึงมาสอบฮันเตอร์ล่ะ?คำถามนั้นทำให้ไอริสนิ่วหน้าลงอย่างเบื่อหน่าย

                จำเป็นต้องตอบด้วยมั้ยคะ?

                “ตอบๆไปเถอะ...มันเป็นคำถามที่คิดขึ้นเพื่อการสอบรอบสุดท้ายเนเทโล่มองเด็กสาวยิ้มๆอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้ายิ้มแย้มหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด

                ...มาสอบเพราะคนบางคนให้มาทำงานค่ะ

     

    ฉึ่ก!

     

                “...อืม...แล้วสนใจใครเป็นพิเศษนอกจากตัวเองรึเปล่าล่ะ?เนเทโล่ถึงกับยิ้มค้างให้ไอริส ก่อนจะตัดสินใจเก๊กหน้านิ่งเหมือนเดิมแล้วถามคำถามต่อไป

                ก็...กอร์นกับคิรัวร์ล่ะมั้งนะ?ไอริสพูดเสียงอ้อมแอ้ม

                หืม? ทำไมถึงสนใจล่ะ?ชายชราถามซอกแซก นัยน์ตาสีคาราเมลของไอริสหรี่ลงอย่างไม่ไว้ใจ

                “ความสามารถน่าสนใจดี...เหมาะเป็นของเล่นของฉันพอดีค่ะ

                ...แล้วอยากจะสู้หรือไม่อยากสู้กับใครเป็นพิเศษรึเปล่าล่ะ?คำถามนั้นทำให้ไอริสเงียบไป

                ไม่ค่ะ...เพราะฉันมาทำแค่งานที่ท่านปู่มอบให้เท่านั้นค่ะ

                “โฮะๆๆ บางทีปู่ก็อยากให้หลานสนุกกับภารกิจที่ปู่ให้บ้างนะไอริสมองหน้าปู่ของเธอนิ่งๆก่อนจะยิ้มบางๆให้

                ความสุขในชีวิตของฉันหายไปตั้งแต่มีคำทำนายนั้นแล้วล่ะค่ะ

                ...บรรยากาศในห้องเงียบลงอย่างกะทันหัน เนเทโล่หุบยิ้มลงก่อนจะตัดสินใจถามคำถามสุดท้าย

                “แล้วเรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว”

                “ไม่มีความคืบหน้าค่ะ...แต่ไม่นาน...ก็คงเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ...”ไอริสตอบพลางนิ่วหน้าลง ก่อนที่จะเดินออกจากห้องรับรองไปเพราะหมดคำถามแล้ว

    .
    .
    .
    .
    .
    เมื่อผู้เข้าสอบทั้ง
    10 คนเข้าไปสัมภาษณ์เรียบร้อยไอริสก็มุ่งตรงเข้าไปหากอร์นทันทีเพื่อฟังคำตอบ

                คงหาคำตอบให้ฉันได้แล้วใช่มั้ยคะ?

                “อืม! แต่ไปเล่าที่อื่นได้มั้ย?”กอร์นพูดตอบด้วยรอยยิ้ม ไอริสพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะถูกกอร์นจูงมือไปทางอื่น

     

    แล้วไม่นานกอร์นก็พาไอริสมาหยุดอยู่ตรงทางเดินที่ไม่มีใครเดินผ่าน กอร์นหันหน้ามามองไอริสก่อนจะกุมมือทั้งสองข้างของเด็กสาวแน่น เด็กสาวตัวสูงกว่ามองหน้าเด็กชายตรงหน้านิ่งๆ รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าของเธอปรากฏขึ้นอีกครั้งเพื่อให้เขาสบายใจ กอร์นมองใบหน้าของไอริสแล้วค่อยๆเล่าทุกอย่างออกมาให้เธอฟังทีละนิด

                “ฉัน...จับได้ป้ายของฮิโซกะ...”ไอริสมองหน้ากอร์นนิ่งๆรอยยิ้มบางๆยังคงแต่งเติมใบหน้าให้เด็กชายสบายใจที่จะเล่าต่อ เธอพยักหน้ารับเล็กน้อยเป็นผู้ฟังที่ดี

                “ฉันพยายามจะชิงป้ายของฮิโซกะมาตอนที่ฮิโซกะเผลอ...แต่พอฉันชิงป้ายของฮิโซกะมาได้...ก็มีคนมาเอาป้ายทั้งหมดของฉันไป...แล้วต่อจากนั้น...ฮิโซกะก็จัดการเอาป้ายของตัวเองกับของฉันมาให้ฉัน...พร้อมตั๊นหน้าฉันแล้วบอกว่า ฉันฝากป้ายนั่นเอาไว้ก่อน เมื่อไหร่ที่นายตั๊นหน้าฉันกลับให้ได้เหมือนที่ฉันตั๊นหน้านายค่อยเอามาคืน’…”กอร์นก้มหน้าลงไม่สบสายตากับไอริส เด็กสาวสังเกตเห็นว่ามือของตนมีหยดน้ำสีใสร่วงเผาะลง กอร์นกุมมือของไอริสแน่นขึ้นจนเด็กสาวนิ่วหน้าลงเล็กน้อย

     

    เจ็บ...

     

                “มันทำให้ฉัน...แค้นใจที่สุด!”กอร์นจับมือไอริสแน่นจนเด็กสาวส่งเสียงในลำคอเล็กน้อย

                “อึก...”ไอริสตัดสินใจกลืนเสียงความเจ็บนั้นลงคอก่อนจะเอื้อมมือมากอดเด็กชายตรงหน้าให้อารมณ์เย็นลง

                “ฮึก!...ขอบคุณนะ...ไอริส”กอร์นกอดไอริสแน่นขึ้น เด็กชายสะอื้นเล็กน้อยในอ้อมกอดของเด็กสาว

                “นายไม่ต้องขอบคุณหรอกนะ...”

     

    เพราะคนที่ต้องขอบคุณ...มันควรเป็นฉันมากกว่า...

     

    .
    .
    .
    .
    .
    พรึ่บ
    !

     

    รอยยิ้มของไอริสหม่นลงทันทีที่เห็นการจับคู่ในการสอบรอบสุดท้าย อาจจะเป็นเพราะเธอตอบว่าไม่อยากจะสู้กับใครเลยล่ะมั้ง...

      

    ตาแก่นั่นถึงให้ฉันสอบแยกกับคนที่จัดหามาให้...

      

    ไอริสส่งสายตามองแรงไปให้เนเทโล่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักก่อนจะพึมพำกับตัวเอง

    ร้ายนักนะตาแก่...แน่นอนว่าได้รับคำตอบเพียงเสียงหัวเราะจากชายชราตรงหน้า

     

    เอาเถอะ...ยังไงก็ไม่คิดอยากจะสอบผ่านอยู่แล้วด้วย...

     

                “เดี๋ยวสิ! ทำไมจัดคู่ไม่ยุติธรรมแบบนี้ล่ะ!?”เลโอลีโอแว้ดขึ้นเสียงดังในขณะที่คนอื่นๆก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะมีเสียงของผู้เข้าสอบคนอื่นแย้งขึ้นเช่นกัน

                “นั่นสิ! อย่างนี้หมายเลข 405 กับหมายเลข 294 ก็มีโอกาสสอบผ่านมากกว่าคนอื่นๆน่ะสิ!

                “ไม่ลำเอียงไปหน่อยรึไง!?

    และอีกหลายๆเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของประธานสมาคม ชายแก่มองทุกคนนิ่งๆพร้อมบอกว่าตัดสินจากอะไรจนทุกคนเงียบเสียงไป

                “ตัดสินมาจากการสอบรอบผ่านๆมาไงล่ะ”จบลงด้วยเสียงหัวเราะตามแบบของเจ้าตัว

     

    ตาแก่จอมลำเอียง!!

     

                “ในการต่อสู้จะสู้กันไปเรื่อยๆและจะมีคนที่ตกรอบเพียงคนเดียว จะใช้อาวุธสู้ด้วยก็ได้ แต่ถ้าลงมือฆ่าผู้เข้าสอบคนอื่นจะถูกปรับให้สอบตกทันที ทำให้คู่ต่อสู้พูดว่า ยอมแพ้ ให้ได้ก็ถือว่าสอบผ่านเนเทโล่ชี้แจงกติกาให้เข้าใจทั่วกัน ผู้เข้าสอบทุกคนพยักหน้าเข้าใจ

     

    และไม่นานการต่อสู้รอบแรกก็มาถึง

     

    กอร์นหันหน้ามามองไอริสที่อยู่ข้างๆพร้อมยิ้มโชว์ฟัน ซึ่งนั่นทำให้ไอริสยิ้มตามอย่างเอ็นดูพลางยื่นมือมาขยี้กลุ่มผมตั้งๆนั่นจนยุ่ง กอร์นพองแก้มเล็กน้อยและเดินออกไปสู้กับฮันโซ  ไอริสมองกอร์นที่เดินไปสู้เป็นคู่แรกอย่างไม่ละสายตา ในใจรู้สึกไม่ดีแบบแปลกๆ

                “หึๆ...จ้องจนตาค้างเชียวนะยัยเด็กหน้ายิ้มแต่ไม่นานเสียงกวนประสาทก็ดังขึ้นข้างตัว นัยน์ตาสีคาราเมลเหลือบมองฮิโซกะอย่างไม่ชอบใจ

                ไม่เกี่ยวกับคุณค่ะตัวตลกโรคจิตคำตอบของไอริสทำให้ฮิโซกะหัวเราะชอบใจอย่างทุกที

     

    ซึ่งนั่นไม่ทำให้ไอริสสนใจแม้แต่น้อย

     

    เพราะไม่นานไอริสก็กลับไปสนใจการต่อสู้ของกอร์นแทบจะทันทีที่เสียงสัญญาณต่อสู้ดังขึ้น

     

    คู่แรก ฮันโซ VS กอร์น

     

    การต่อสู้เริ่มขึ้นโดยการที่กอร์นเคลื่อนไหวไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว

                “มั่นใจในฝีเท้าของตัวเองไม่น้อยเลยทีเดียวนะ...ฉันตรวจสอบมาเรียบร้อยแล้วล่ะแน่นอนว่าความเร็วเพียงเท่านั้นของกอร์นไม่เร็วพอที่จะใช้กับนินจาอย่างชายหัวโล้นตรงหน้า

     

    ผัวะ!

     

    ฮันโซจัดการฟาดสันมือลงที่คอของกอร์นทันที ไอริสกำมือแน่นจนเลือดแทบซึมออกจากมือแต่ก็พยายามจะสงบจิตสงบใจไม่ให้เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้เพราะหากเธอเข้าไปยุ่งกอร์นอาจจะเกลียดเธอก็ได้

     

    เพื่อตัวเด็กคนนั้นเอง...ฉันจะต้องไม่เข้าไปยุ่ง...

     

    แต่หลังจากนั้นฮันโซก็ทรมาณกอร์นไปเรื่อยๆ หากแต่เด็กปากหนักและมุ่งมั่นอย่างกอร์นไม่ยอมปริปากพูดคำว่า ยอมแพ้ ง่ายๆและยืนยันอยู่เพียงคำเดียว

    ใครจะไปยอมพูดกันเล่า!”  

      

    เพี๊ยะ!!

      

    เสียงตบขมับดังทั่วห้อง กอร์นไอค่อกแค่กกับอาการหัวหมุนตรงหน้า เมื่อพยายามจะยืนขึ้นก็โดนสวนหมัดเข้าที่ท้องอย่างแรง  

    “อุก!”  

    “พอเถอะกอร์น! อย่าฝืนต่อไปเลย! ยังมีรอบต่อไปอีกนะ!”เลโอลีโอที่ทนดูไม่ไหวตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด

    “หยุดนะเลโอลีโอ! กอร์นทำมาถึงขั้นนี้แล้วนายจะให้ยอมแพ้ง่ายๆงั้นเหรอ!”คุราปิก้าแย้งทั้งๆที่ตนเองก็ทนดูต่อไปแทบไม่ไหว

    “ถ้าเกิดตายไปแล้วมันคุ้มรึไง!!”เลโอลีโอยังตะโกนอย่างเหลืออดเช่นเดิม

     

    ไอริสที่มองอยู่แทบจะเดินเข้าไปเตะหัวโล้นๆนั่นให้จมดินถ้าไม่คิดว่าอยากให้กอร์นชนะด้วยตัวเอง

     

    หงุดหงิดจริงๆ! ไอ้โล้นนั่นน่าหงุดหงิดชะมัด! มีสิทธิ์อะไรมาทำให้ของเล่นของเธอมีรอยขีดข่วนกัน!

     

    ไอริสคิดในใจพลางปล่อยรังสีอำมหิตออกมาอย่างไม่ลดละ แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มแค่ไหนแต่มันก็ไม่สามารถที่จะกลบความอาฆาตของเธอได้เลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เม็นจิ บูฮาร่าและซาร์ทอตแอบเหงื่อตกเพราะกลัวยัยเด็กตัวดีลงมือฆาตกรรมนินจาโล้นอย่างเลือดเย็น

                “โฮะๆ หวงของไม่เปลี่ยนเลยนะ...ยัยหลานตัวดี”เนเทโล่กล่าวพลางมองไอริสที่ยิ้มแย้มแต่แววตาวาวโรจอย่างโกรธเคืองและพร้อมที่จะเข่นฆ่าฮันโซได้ทุกเมื่อ

    .

    .
    .
    .
    .
    ดูเหมือนโชคจะยังคงเข้าข้างฮันโซอยู่บ้างเพราะเจ้าตัวทนความดื้อด้านของกอร์นไม่ไหวจึงตัดสินใจยอมแพ้ไปก่อนที่ไอริสจะหมดความอดทนจนลงมือเชือดนินจาหัวโล้น

     

    ถึงแม้ว่าเด็กสาวจะชกเข้าที่หน้าของเขาจนบวมช้ำไปแล้วก็ตามที...

     

    แน่นอนว่าหลังจากที่ไอริสชกหน้าของฮันโซไปแล้ว มันก็ยังไม่เทียบเท่ากับที่เขาทำกับของเล่นของเธอ จนเกือบจะกระทืบเขาจนปางตายถ้าไม่มีคุราปิก้าและเลโอลีโอมาล็อคแขนล็อคแล้วแบกกลับที่

     

    แล้วการสอบก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนมาถึงการต่อสู้ของคิรัวร์กับกีตาราเคิล ซึ่งมันทำให้คิรัวร์รับรู้ว่า

     

    ตนเองคิดผิดอย่างมหันต์

     

                “ไม่เจอกันนานนะ คิล”เสียงที่ไร้ความตะกุกตะกักอย่างเช่นเคยของกีตาราเคิลดังขึ้น เขาดึงเข็มออกจากตัวจนหมดทุกเล่นจนเค้าโครงหน้าเปลี่ยนแปลงไป

                “พ...พี่เหรอ”

                “ไง...”เจ้าของเรือนผมสีดำยาวและดวงตากลมโตสีเดียวกับผมมองตรงมาที่คิรัวร์ ไอริสมองอิรูมิเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก

     

    ถึงว่า...เหมือนเคยเห็นที่ไหน...ที่แท้ก็พวกโซลดิ๊กส์นี่เอง

     

                “ได้ยินว่านายแทงแม่กับมิลกี้”อิรูมิพูดพลางหรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย

                “ก็นะ...”

                “แม่ถึงกับร้องไห้เลยนะ”อิรูมิพูดพลางเอียงคอมองน้องชายเล็กน้อย

                “ก็แหงอยู่แล้วล่ะ โดนลูกชายตัวเองทำด้วยความโหดเหี้ยมแบบนั้น”เลโอลีโอพูดออกมาเบาๆราวกับรับรู้สถานการณ์

                “เป็นปลื้มสุดๆเลย”

     

    โครม!

     

    เลโอลีโอล้มหัวทิ่มพื้นทันทีที่ได้ยินความจริงจากปากของอิรูมิพลางคิดว่า บ้านนี้จะช่วยมีคนปกติหน่อยได้มั้ยเนี่ย!!   

                “ฉันดีใจที่เด็กคนนั้นโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว แม่ว่างั้น แต่ก็ยังเป็นกังวลที่จะปล่อยออกไปข้างนอก ฉันก็เลยถูกไหว้วานให้มาคอยจับตาดูนาย บังเอิญจังเลยนะ...

                “...

    ...ไม่นึกมาก่อนเลยว่า...คิลจะอยากเป็นฮันเตอร์ด้วย...ที่จริงฉันเองก็อยากได้ใบอนุญาตเพราะมันจำเป็นสำหรับงานชิ้นถัดไปน่ะ...

                “เปล่าเลย...ไม่ได้อยากเป็นขนาดนั้นสักหน่อย...ก็แค่มาลองสอบดูเท่านั้นเองน่ะแหละ”คิรัวร์พูดพลางหลบตาอิรูมิเล็กน้อย

                “งั้นเหรอ...ค่อยโล่งใจหน่อย...”ชายหนุ่มพูดกับน้องชายก่อนที่จะเกิดบรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนใจขึ้น ไอริสมองภาพตรงหน้างงๆ

     

    ออร่าแบบนี้...เหมือนของท่านพ่อเลย...มันคืออะไรกันแน่?

     

                “ฉันจะได้เตือนนายได้อย่างวางใจ...นายน่ะห้ามเป็นฮันเตอร์...”อิรูมิกล่าวเสียงเย็น

                “อึก!...”

                “อาชีพที่เหมาะกับนายน่ะคือ...”

                “นักฆ่าต่างหาก”

                “นายเป็นตุ๊กตาแห่งความมืด...ไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์ความรู้สึก ไร้ซึ่งความต้องการและความปรารถนาของตน...สิ่งที่น่ายินดีเพียงสิ่งเดียวสำหรับนายที่อยู่ในเงามืดก็คือ...วินาทีที่ปลิดชีวิตคน...พ่อกับฉันเลี้ยงนายมาแบบนั้น...แบบนั้นแล้วถ้านายเป็นฮันเตอร์นายจะได้อะไรล่ะ?”แววตาของคิรัวร์สั่นไหวไปด้วยความหวาดกลัว อิรูมิยังคงพูดต่อจนไอริสที่อยู่ไม่ไกลมองพวกเขาแทบไม่ละสายตา

     

    คิรัวร์น่ะเหรอ...ตุ๊กตา?

    คิรัวร์น่ะเหรอ...ไร้ความรู้สึก?

    คิรัวร์น่ะเหรอ...ที่ยินดีกับการตายของคนอื่น?

    บ้าบอสิ้นดี!!

      

                “จริงอยู่...ที่ฉันไม่คิดอยากจะเป็นฮันเตอร์เลย...แต่ว่า...ฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องการอยู่...”

                “ไม่มีหรอก

                “มีสิ!! ตอนนี้ฉันมีสิ่งที่ต้องการแล้ว!!”คิรัวร์เอ่ยขึ้นทันควันในขณะที่อิรูมิชะงักค้างไปเล็กน้อย

                “หืม...ไหนบอกมาสิ...ว่านายต้องการอะไรล่ะ?”อิรูมิพูดขึ้นนั่นทำให้คิรัวร์เงียบก้มหน้างุดลงไป

                “เป็นอะไร...จริงแล้วนายไม่มีสิ่งที่ต้องการใช่มั้ยล่ะ?”

                “ไม่ใช่!!!”คิรัวร์พูดขึ้นเสียงดังก่อนจะกล่าวประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

                “ฉันอยาก...เป็นเพื่อนกับกอร์น...ฉันไม่อยาก...จะฆ่าคนอีกต่อไปแล้ว อยากเป็นเพื่อนกับกอร์นแล้วเที่ยวเล่นกันแบบเด็กทั่วไป!

                “ไม่ได้หรอก...ใครจะอยากมาเป็นเพื่อนกับนายกันเล่า?”อิรูมิพูดขัดด้วยสีหน้านิ่งๆ คิรัวร์กัดฟันแน่นกับคำพูดของชายหนุ่ม

                “...นายตัดสินเองไม่ได้หรอก...ว่ามนุษย์คนไหนฆ่าได้คนไหนฆ่าไม่ได้...เพราะนายถูกฝึกมาแบบนั้นนี่...แววตาของคิรัวร์สั่นระริกมองหน้าพี่ชายเงียบๆ

                “ตัวนายในตอนนี้ก็แค่แยกแยะไม่ออกว่ากอร์นั้นสว่างเกินไปในสายตานาย...ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับกอร์นสักหน่อย”

                “ไม่ใช่นะ...”คิรัวร์พึมพำเบาๆ 

                “ถ้าอยู่ใกล้เขาสักวันนายนั่นแหละจะฆ่าเขาเอง...นายจะสงสัยว่าฆ่าได้มั้ย? หรือฆ่าไม่ได้? ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะนายเป็นนักฆ่าโดยสายเลือดยังไงล่ะ”ร่างของคิรัวร์สั่นเทาไปด้วยความกลัว แววตาสั่นระริก

                “คิรัวร์!! จะเป็นพี่นายหรือใครก็ไม่รู้แหละ! ขอฉันพูดหน่อยเถอะน่า!!”เลโอลีโอส่งเสียงตะโกนอย่างเหลืออดอีกครั้ง อิรูมิส่งสายตามองมาที่เขาอย่างเฉยชา

                “แต่หมอนั่นน่ะ! มันก็แค่ไอ้บ้าตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ! ไม่ต้องไปฟังมัน!จัดการผเด็จศึกเหมือนทุกทีแล้วก็สอบผ่านไปซะเลย! อยากเป็นเพื่อนกับกอร์นเหรอ!?”เลโอลีโอร่ายยาวอย่างอารมณ์เสียก่อนจะชี้มาทางคิรัวร์ที่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

                “ละเมออยู่รึไง? นายเป็นเพื่อนกับเขาและพวกเราตั้งนายแล้วเฟ้ย!!! แม้ไม่ค่อยสนิทแต่กอร์นต้องคิดแบบเดียวกันแน่ๆ!!

                “อึก!”คิรัวร์สะดุ้งเล็กน้อยให้กับคำพูดของเลโอลีโอ

                “งั้นหรอกเหรอ?อิรูมิกล่าวเรียบๆพลางมองหน้าน้องชายสลับกับเลโอลีโอ

                “แหงอยู่แล้วสิเจ้าบ้า!!

                “งั้นเหรอ? ยอมรับแล้วเหรอ? ทางนั้นก็คิดว่าเป็นเพื่อนกันและนี่เอง...”อิรูมิพูดพลางเท้าคางให้ความคิดเล็กน้อยก่อนจะทำถ้าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก

                “ดีล่ะ! งั้นฉันจะฆ่ากอร์นซะ”เมื่อสิ้นเสียงนั้นอิรูมิก็หยิบเข็มออกมาพลางพึมพำอะไรบางอย่างกับคิรัวร์ ซึ่งแน่นอนว่าไอริสที่จมสู่ความโกรธไม่ได้ยินสิ่งที่พูดเลย

     

    ตึง!!

     

    เสียงบางอย่างกระทบเข้ากับผนังอย่างแรงดังขึ้นแทบจะทันทีที่อิรูมิกล่าวจบ ทุกสายตามองตรงไปที่เด็กสาวผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มที่ตอนนี้ได้อยู่ในอารมณ์ที่โกรธถึงขีดสุด

                “ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะเลิกพล่ามอะไรไร้สาระสักทีกันคะ?”เสียงที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธดังขึ้นมาจากเด็กสาว อิรูมิมองไอริสเล็กน้อยก่อนจะทำถ้าเดินหนีออกไป

                “...จะไปไหนกันคะ?”เด็กสาวมองตามชายหนุ่มผมยาวที่เดินไปทางประตู

                “ก็...ไปฆ่ากอร์นไง”กล่าวจบอิรูมิก็ทำท่าจะเดินต่อทันที

                “ถึงแม้ว่าน้องชายสุดที่รักจะสอบผ่านเป็นฮันเตอร์น่ะเหรอ?คำพูดนั่นทำให้ชายหนุ่มผมยาวชะงักลงแล้วหันกลับมา

                “เธอหมายความว่าไง? คิลน่ะเหรอเป็นฮันเต----”

     

    ฝึ่บ!

     

                “ฉันขอถอนตัวจากการสอบ...ในฐานะที่ฉันเป็นผู้คุมสอบรอบนอก ขอตัดสินให้ทุกท่านผ่านเป็นฮันเตอร์ค่ะ เท่านี้ทุกคนก็สอบผ่านใช่มั้ยคะท่านปู่?”ไอริสพูดพลางหยิบใบอนุญาตฮันเตอร์มาให้ทุกคนดูเป็นขวัญตา ทุกคนตะลึงงันอย่างรุนแรง

     

    ไอริสเป็นฮันเตอร์อยู่แล้วงั้นเหรอ!!? แล้วท่านปู่นี่คือ!!??

     

                “โฮะๆๆ ก็ตามนั้นแหละนะ...แต่เจ้าไม่กลัวโดนแคสเซียสลงโทษรึไง...ที่ทำแบบนี้น่ะเนเทโล่ชายตามองหลานสาวที่ดูเหมือนจะได้รับรู้อะไรหลายๆอย่าง ไอริสส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสดใส

                “ไม่หรอกค่ะ...ฉันชินแล้ว”เมื่อพูดจบไอริสก็เดินไปทางประตูทันที

                “ไอริส...”เสียงของคิรัวร์ดังขึ้นไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่ เด็กสาวยิ้มให้พวกเขาอย่างสดใส

                “ไม่ต้องขอบคุณหรอก...พวกเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ”เธอเดินเข้าไปใกล้ๆกับคิรัวร์และพูดอะไรบางอย่างก่นจะเดินออกจากสถานที่นั้นไป

                “ฝากบอกกอร์นด้วยนะ...ว่าฉันดีใจที่ได้เจอนาย...แต่เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว...ขอบคุณและขอโทษนะ”

     

     

    “หมายเลข 400 หมดสิทธิ์สอบ ผู้เข้าสอบทั้งหมด 9 คนผ่านการสอบฮันเตอร์ครับ!!

    .
    .
    .
    .
    .
    Writer Talk

    จบตอนจ้า----!! ไอริสเป็นฮันเตอร์อยู่แล้วนะคะ พีคมั้ย? ไม่พีคเนอะ 555 ตอนต่อไปไอริสจะโดนลงโทษครับคุณณณณ สำหรับคำถามที่ถามไปเมื่อตอนที่แล้ว สรุปว่าไอริสจะไม่ตายค่ะ แต่ไรท์จะแต่งตอนใกล้จบให้ทุกคนงงเล่น ไม่บอกหรอกนะคะว่ายังไง ยังไงไอริสก็ไม่ตายแล้ว โหวตพระเอกเลยดีไหมนะ? เปิดโหวตเลยแล้วกันเนอะ! ปิดก่อนวันวาเลนไทน์นะคะ งั้นก็ซียะ!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×