คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : :Dangerous 7:ล่าหมายเลข(I)
:Dangerous 7:ล่าหมายเลข(I)
‘เกิดมาเพื่อการฆ่า...มีชีวิตอยู่เพื่อทำลาย’
คือสิ่งที่ไอริสได้ยินจากพ่อของเธอตั้งแต่จำความได้...เธอไม่สามารถเลือกได้...ไม่สิ...
เรียกว่าไม่มีสิทธิ์เลือกมากกว่า...
ไอริสเลือกที่จะหยุดความคิดนั้นเอาไว้ก่อนจะเดินไปจับแผ่นป้ายเพื่อไล่ล่าในการสอบรอบต่อไป
“หืม? นี่เธอมาอีกแล้วเหรอเนี่ยยัยเปี๊ย----อุก!”ริปโป้ ผู้คุมสอบรอบที่ 3 หรือ ผู้คุมเรือนจำเหลือกตามองเด็กหน้ายิ้มตรงหน้าทันที
เพราะอยู่ดีๆเธอก็เอามือมาปิดปากผู้คุมสอบอย่างเขา
“ภารกิจลับค่ะ...”ไอริสที่ปล่อยมือออกจากริปโป้เรียบร้อยกล่าวเสียงเบาหลังจากที่หยิบหมายเลขออกมา
ริปโป้มองที่ไอริสอย่างเข้าใจก่อนจะหันกลับมาเก๊กเหมือนเดิม
ไม่นานนักทุกคนที่ผ่านเข้ารอบก็ถูกบอกให้เปิดหมายเลขที่พวกเขาได้และหมายเลขนั้นจะเป็นเป้าหมายของคุณในการสอบรอบต่อไป
ซึ่งหมายเลขที่ไอริสได้ก็คือ...
“หมายเลข 304?”ใบหน้าประดับรอยยิ้มเต็มไปด้วยความมึนงง
เธอไม่เคยได้พบเห็นคนที่มีหมายเลขนี้เลยด้วยซ้ำ
เอาเถอะ...ล่าไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอเองJ
“ไอริสได้หมายเลขอะไรเหรอ?”เสียงของกอร์นดังขึ้นไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่
กอร์นกับคิรัวร์มองไอริสด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่คุราปิก้าและเลโอลีโอยืนมองเงียบๆ
“304”ไอริสตอบกลับเสียงนิ่ง
“ใครอ่ะ?”คิรัวร์พูดขึ้นพร้อมทำหน้างง
“ไม่รู้สิ”กอร์นพูดขึ้นพร้อมทำหน้างงไม่ต่างกัน
“ฉันก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน”คุราปิก้าตอบพร้อมเอาเอามือเท้าคางอย่างใช้ความคิด
“อาจจะเป็นพวกกระจอกจนไม่ได้สังเกตก็ได้ล่ะมั้ง
ฮ่าๆๆ”เลโอลีโอตอบก่อนจะหัวเราะร่วนพยายามทำให้รอบข้างมีสีสัน
ไอริสมองหมายเลขที่ได้ก่อนจะถูกเรียกขึ้นเรือไป
ช่างมันละกัน...
.
.
.
.
.
เนื่องจากการสอบรอบที่สี่จะให้ล่าหมายเลขดังนั้นเลยต้องพาผู้ที่สอบผ่านรอบสามทุกท่านไปปล่อย(?)เกาะเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
ซึ่งเวลาการลงจากเรือไปยังตัวเกาะจะเว้นห่างกันคนละสองนาทีและเรียงตามลำดับจากการลงมาถึงข้างล่างจากการสอบรอบที่แล้ว
“เชิญคนแรกเลยค่ะ”ไกด์สาวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มผายมือข้างหนึ่งไปทางเกาะ
อีกมือถือนาฬิกาจับเวลาอย่างเตรียมพร้อม
“...”ฮิโซกะเดินไปเงียบๆพร้อมกับรอยยิ้มสยองจนทำให้ไกด์สาวแอบสะดุ้งเล็กน้อย
และแล้วช่วงเวลาน่าเบื่อก็ผ่านไปจนมาถึงคิวของไอริส
“ไปก่อนนะ”ไอริสหันมาพูดกับกอร์น
คิรัวร์ คุราปิก้า และเลโอลีโออย่างสดใส
“อื้ม! โชคดีนะ!”กอร์นพูดพลางยิ้มอวดฟันสวยๆ ไอริสยิ้มตามอย่างอดไม่ได้
“ไว้เจอกันนะ...ทุกคน”ไอริสพูดปิดท้ายก่อนจะเดินไปทันที
เมื่อเธอเดินไปสักพักก็รู้สึกถึงจิตสังหารอ่อนๆที่ถูกปล่อยมา
เธอหันหน้าไปมองเล็กน้อยก่อนจะพบว่ามีคนตามเธอมาจริงๆ ไอริสแสยะยิ้มร้ายอีกครั้ง
สมองอันปราดเปรื่องมีแผนการเล่นกับเหยื่อเต็มหัวไปหมด
ก่อนที่ไอริสเดินต่อไปเพื่อไม่ให้ใครบางคนรู้ตัวว่า ลางหายนะมาเยือนเรียบร้อย
อะไร? ก็ไม่ได้บอกนี่นาว่า ห้ามฆ่า
ไอริสทำทีเดินไปอยู่ในจุดพื้นที่โล่งเพื่อความสะดวกในการมองเห็นตัวใครบางคนที่ตามมา
เธอหยุดเดินแล้วพูดขึ้นเสียงเบาซึ่งมันไม่ได้เบาจนคนที่ตามมาไม่ได้ยิน
“จะเล่นซ่อนแอบไปถึงไหนกันคะ?”
กึ่ก!
ใครบางคนชะงักเล็กน้อยก่อนจะกลับมาทำตัวนิ่งเงียบเช่นเดิม
ไอริสหันหลังมามองทางที่มีคนตามเธอมาอย่างไม่สบอารมณ์กับปฏิกิริยาตอบรับที่น่าหงุดหงิดแต่ก็ซ่อนไว้ภายใต้หน้าเปื้อนยิ้มได้อย่างแนบเนียน
“ถ้าไม่เข้ามาฉันจะเข้าไปเองนะคะ”น้ำเสียงเย็นเยียบพร้อมการย่างสามขุมไปหาอย่างช้าๆทำให้ใครบางคนลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากก่อนจะโผล่หัวออกมาให้เธอเห็น
“...”เบื้องหน้าของไอริสคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่ดูๆแล้วน่าจะอายุมากกว่าเธอ
มีเรือนผมสีน้ำเงินเข้มแซมเงินเล็กน้อย
นัยน์ตาสีฟ้าครามหม่นแสงดูเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ ที่อกมีป้ายหมายเลข 201 ติดอยู่ ไอริสมองชายตรงหน้าเงียบๆอย่างพิจารณา ทั้งๆที่มีออร่าแปลกๆแต่กลับดูจืดจาง
“ฉันคือเป้าหมายของคุณสินะคะ”ไอริสกล่าวเสียงเรียบ ชายตรงหน้ายิ้มแหยๆเหมือนพยายามจะเจรจาต่อรองกับเธอ
“ใช่...แต่ฉันจะมาขอดีๆ ไม่ใช้กำลัง”เสียงทุ้มถูกเปล่งออกมาอย่างเป็นมิตร
ไอริสหรี่นัยน์ตามองชายตรงหน้าอย่างฉงนใจ
“ฉันชื่อว่า มาลัส ราโลฟ”ชายตรงหน้าพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบในขณะที่ไอริสหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ
“...”ไอริสยังคงเงียบเหมือนเช่นเดิม
“เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ...ฉันขอป้ายนั่นได้มั้ย?
แล้วฉันจะไม่ทำอะไรเธอ”มาลัสยังคงพูดพร่ำไม่ดูสถานการณ์เช่นเดิม
ไอริสยิ้มปิดตาให้กับมาลัสจนชายตรงหน้าคิดว่าเธอยอมรับข้อเสนอนี้
แต่ไม่เลย...
“ใจกล้าดีนะคะ...ที่พูดแบบนี้ต่อหน้าฉัน...”เสียงเย็นเยียบดังขึ้นจนทำให้มาลัสแอบตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
“...งั้นคงต้องใช้กำลังสินะ”มาลัสกดความกลัวลงไปในส่วนลึกของจิตใจ
ไอริสกรีดยิ้มพึงพอใจกับการตัดสินใจของชายตรงหน้า
“กำลังรออยู่เลย...”ไอริสยิ้มหวานอีกครั้ง
มาลัสพุ่งเข้าหาไอริสที่ยืนนิ่งทันทีก่อนจะฟาดดาบยาวลงมาใส่เธอ
ไอริสเบี่ยงตัวหลบภายในเสี้ยววินาทีก่อนจะสวนหมัดขึ้นเสยคางของมาลัสทันที
ผัวะ!
มาลัสที่ประมาทไปเพียงเล็กน้อยโดนไอริสเสยคางไป
ร่างสูงโปร่งเซไปเล็กน้อยกับแรงที่ต่อยของเด็กสาวตรงหน้า
ผัวะ! ปัก!
ไอริสที่เห็นมาลัสพลาดท่าให้ไม่รีรอที่จะจัดการประเคนหมัดและลูกเตะให้อย่างจัดเต็ม
มาลัสพยายามจะกันไอริสไม่ให้ได้เปรียบในการต่อสู้
แต่ไอริสที่แรงช้างสารกว่าขนาดตัวกลับหวดขาเตะเข้าที่ข้อพับของชายตรงหน้าจนมาลัสที่รู้ตัวว่าเสียเปรียบมากเพียงใดล้มลงไปกองกับพื้นตามมาด้วยไอริสที่เอาเท้าเหยียบหัวมาลัสเอาไว้และกดลงกับพื้นอย่างแรงจนพื้นยุบลงไป
“ว้า...จบแล้วเหรอคะ?......มีอะไรจะสั่งเสียก่อนตายมั้ยคะ?”ไอริสยิ้มเย็นมองสีหน้าเจ็บปวดของมาลัสอย่างผิดหวังเล็กน้อย
“อึก!...ก...แก...”มาลัสเปล่งเสียงลอดไรฟันออกมาอย่างเจ็บปวด
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มวาวโรจอย่างโกรธเคือง
“หึ...สั่งเสียจบแล้วใช่มั้ยคะ...งั้นก็...บ๊ายบาย...”ไอริสยิ้มเสียงเย็นอย่างผิดหวัง ก่อนจะเพิ่มแรงกดที่เท้าให้แรงขึ้นจนกะโหลกศีรษะของชายตรงหน้าแหลกละเอียด
ไอริสยิ้มพึงพอใจกับผลงานของตนเองก่อนจะเหลือบมองเท้าของตนที่เปรอะเลือด
ไปล้างก่อนดีกว่า
ว่าจบก่อนจะเดินไปหาแหล่งน้ำเพื่อล้างคราบเลือดอย่างไม่เร่งรีบโดยไม่ลืมที่จะเอาหมายเลขของมาลัสไปด้วย
เสร็จไปหนึ่งแต้ม...เหลืออีกสอง...ไม่ก็เอาป้ายเจ้าหมายเลข
304 มา
เอ...จะฉกหรือจะฆ่าดีนะ
J
.
.
.
.
.
“กอร์น?”ไอริสกล่าวเบาๆพร้อมเลิกคิ้วมองคนตรงหน้างงๆ
กอร์นเองก็ไม่ได้ต่างกันกับเธอมากนัก รายนั้นถลึงตามองเลยจ้า...
แยกกันแปปเดียวก็เจอกันอีกละ...
“บังเอิญ...จังเนอะ...แหะๆ”กอร์นที่ซ้อมเหวี่ยงเบ็ดมองไอริสพร้อมยิ้มแหยๆให้พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคราบเลือดที่เหมือนผ่านมาสดๆ
กอร์นมองหน้าไอริสอย่างนึกสงสัยว่าได้มายังไง
ไอริสยักไหล่อย่างไม่ค่อยสนใจก่อนจะเดินไปล้างเท้าของเธอที่แม่น้ำ
“เลือดนั่น...”ไอริสเหลือบมองกอร์นเล็กน้อยก่อนจะกลับมาล้างรองเท้าบูทหนังที่เปื้อนเลือดเช่นเดิมพลางตอบคำถามของกอร์นไปด้วย
“อ่า...เผลอตัวไปหน่อยน่ะ”ไอริสยิ้มหวานให้กอร์นที่มองมาทางเธอนิ่ง
เด็กสาวไม่แม้แต่จะสนใจท่าทางของกอร์นที่อยู่ใกล้ๆ แล้วลงมือล้างรองเท้าต่อไป
“ไม่ได้นะไอริส!”
หมับ!
กอร์นยื่นมือมาจับมือของไอริสที่นั่งอยู่ตรงโขดหินแน่น
นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่ใสซื่อและเถรตรงมองเธอนิ่ง
ไอริสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับการกระทำของกอร์น
“ไม่ได้? หมายความว่าไง?”
“ไปฆ่าคนอื่นพร่ำเพื่อแบบนี้ไม่ได้นะ”ทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากของกอร์น
ไอริสก็สะบัดมือออกแล้วเดินไปตากรองเท้าให้แห้งพอใส่ได้โดยไม่พูดอะไรกับกอร์น
“...”
“ไอริส...ได้ยินใช่รึเปล่า?
คราวหน้าไม่ทำแบบนี้แล้วนะ มันไม่----”
“กอร์น...รู้ตัวรึเปล่าว่านายกำลังยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรยุ่งแล้วน่ะ?”เสียงเรียบนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึกของไอริสดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่อันตรธานหายไปราวกับไม่เคยมี
กอร์นชะงักกับใบหน้าอีกแบบที่ไม่เคยเห็นของไอริส จิตสังหารถูกปล่อยออกมาอย่างแรงจนเกิดบรรยากาศกระอักกระอ่วนและอึดอัดใจ
“ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน...จะฆ่าใครก็เรื่องของฉัน นาย-ไม่-เกี่ยว”แม้จิตสังหารของไอริสจะรุนแรงมากแต่กอร์นก็ยังพยายามจะยืนอยู่ข้างๆเธอ
แม้ไอริสจะพูดจาแบบนี้แต่กอร์นกลับไม่สะทกสะท้าน
“...ใช่...ฉันไม่เกี่ยวหรอก...แต่เราเป็นเพื่อนกันนี่...เพื่อนก็ต้องห้ามเพื่อนสิ!
เนอะ!”เมื่อสิ้นประโยคไอริสก็นิ่งค้างมองกอร์นแบบงงๆ
เธอไม่เคยเข้าใจเลยว่า เพื่อนมันคืออะไร? แล้วอะไรที่เรียกว่าเพื่อน?
“เพื่อน...เหรอ?”คำพูดเลื่อนลอยถูกเปล่งออกจากปากของไอริส
นัยน์ตาสีคาราเมลเข้มวูบไหวอีกครั้ง
“อื้อ!”รอยยิ้มใสซื่อของกอร์นทำให้ไอริสยิ่งรู้สึกสับสนในใจยิ่งขึ้น
จิตสังหารที่เคยปล่อยออกมาได้อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว
“นี่...กอร์น...”น้ำเสียงสั่นๆของไอริสดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
“?”
“ถ้าวันไหน...ที่ฉันทำผิด...ฉันอยากให้นายเป็นคนห้ามฉันนะ...”รอยยิ้มเศร้าหมองกับคำพูดแฝงนัยอะไรบางอย่างดังขึ้นเบาๆ
กอร์นกุมมือไอริสแน่นด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวประโยคต่อไปที่ทำให้ไอริสกลับมายิ้มแย้มเช่นเดิม
ไม่นานเธอก็เดินออกห่างกอร์นและออกตามล่าเป้าหมายต่อไป
“อื้อ! ฉันสัญญา! วันไหนที่เธอทำผิดหรือจมดิ่งสู่ความมืดมิดไร้หนทาง...ฉันจะห้ามและฉุดเธอขึ้นมาเอง!
ไม่ต้องเป็นห่วงนะ!”
ขอบคุณนะ...กอร์น
.
.
.
.
.
Writer Talk
เหลืออีกครึ่งหนึ่งงงงง
แต่ไรท์ไม่ไหวแล้ววว การบ้านเยอะมากค่ะกลัวรีดเดอร์ทั้งหลายเหงาเลยมาอัพให้ค่ะแยกเป็นสองตอนซะเลย!! เม้นกันให้กำลังใจหน่อยนะคะ
รักทุกคนนะ------ ซียะ!!
ความคิดเห็น