ตอนที่ 54 : เมื่อคุณดูโจโจ้มากเกินไปคุณก็จะคิดวิธีการสู้เเบบอื่นไม่ออกเลยล่ะ
หลังจากต่อรองกันอยู่นานกํได้ข้อสรุปว่าข้าจะรับหน้าที่สอนหนังสือครึ่งเช้าแล้วออกไปทำกิจของจอมมาร ส่วนกรีซ่าจะรับการสอนช่วงบ่ายไป
อ่า อุตส่าห์ได้กลับมาตื่นสายได้แล้วเชียวนะช่วงนี้ สุดท้ายก็ต้องกลับมาอีหรอบเดิมจนได้ แต่ก็เอาเถอะ เมื่อไหร่ที่พวกเขามีความรู้กันมากพอ ผมก็ค่อยเลือกคนที่เก่งๆมาสอนแทนก็แล้วกัน
เหนือสิ่งอื่นใด! เวลานี้คือช่วงเวลาที่ผมจะคลาดสายตาไปไม่ได้เด็ดขาด! พวกลูกเจี๊ยบตัวน้อยของผมกำลังเข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์อสูรเพื่อการวิวัฒนาการ ผมจะประมาทไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว! ใช่แล้ว ถ้าเพื่อที่ถ้ามีอะไรจะมาทำอันตรายพวกเขาล่ะก็ ผมจะได้ไปช่วยได้ทันยังไงล่ะ
"เบเรี่ยล จัดการซะ" เสียงของกรีซ่าดังขึ้น พร้อมกับเบเรี่ยลที่พุ่งเข้ามาจับผมมัดไว้อย่างแน่นหนา...ทำบ้าอะไรของเอ็งมิทราบ!!!
"กรีซ่า...นี่แกจะทำอะไร..." ผมเค้นเสียงถามกรีซ่าที่มองมาทางผมด้วยสายตาคมกริบกับเบเรี่ยลที่มองมาที่ผมที่ถูกมัดอยู่อย่างกล้าๆกลัวๆ
"ขืนปล่อยท่านตามไปด้วยมีหวังไม่ได้ฝึกอะไรกันพอดีสิขอรับ" กรีซ่าว่าพลางสั่งให้เบเรี่ยลโยนข้าเข้าไปในห้องของข้า แล้ววางลูกแก้วถ่ายทอดภาพที่ข้าทำให้ไว้
"ดูผ่านหน้าจอไปแล้วกันนะขอรับ" มันว่าเช่นนั้นแล้วเดินจากไป
หึหึหึ กรีซ่า แกคิดว่าตำแหน่งจอมมารของข้ามีไว้ประดับรึยังไงกัน!
กะอีกแค่โซ่แค่นี้ แค่กระชากก็...อ่าวเฮ้ย ไม่ขาด?
แล้วพอผมก็จ้องมองโซ่ที่พันรอบตัวผมอยู่ก็พบว่ามีไอเวทสีดำแผ่ออกมา
"เฮ้ยๆ อย่าบอกนะว่าไอ้นี่มัน…"
‘ครับ เวทผนึกมารครับ’
“แกนะแก---------------!!!!!!!” เสียงโวยวายของผมดังไปทั่วหมู่บ้านเลยล่ะ
................
สวัสดีครับ อิจิโกะครับ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทางเดินในป่าเพื่อตามหาสัตว์อสูรเพื่อเก็บเลเวลครับ
"พี่อิจิ ได้ยินเสียงร้องมาจากทางหมู่บ้านด้วยล่ะ หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น" นิโกะถามผมอย่างหวั่น
"ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปสนใจเลย" ผมตอบกลับไปเช่นนั้น
ยังไงซะก็คงไม่พ้นไอ้พ่อบ้าเห่อนั้นกำลังโดนห้ามไม่ให้ตามมาอยู่แหงๆ นิโกะน่ะเป็นเด็กฉลาด ยังไงซะอีกไม่นานก็คงรู้ว่าไอ้สภาพสุดเท่ของไอ้หมอนั่นที่เธอเห็นน่ะเห็นมันเฟคล้วนๆ ส่วนผมน่ะรึ แค่มองตาหมอนั่นก็รู้แล้วว่ากำลังอดทนขนาดไหน ยิ่งตอนออกเดินทาง ถ้ากรีซ่าไม่ช่วยเอาไว้ล่ะก็ มีหวังหัวระเบิดตรงนั้นแหงๆ
หืม ผมฉลาดเกินก็อปลินอายุหนึ่งเดือนงั้นรึ ก็นะ อายุจริง18แล้วนี่หว่า
อ่าใช่ครับ ไอ้นั่นแหล่ะ ไอ้นั่นน่ะ
ไอ้นั่นคืออะไร? ไม่เอาน่า ทรัคซังเดริเวอรี่ไงล่ะ พวกบดผมติดถนนแล้วส่งมาเกิดต่างโลกเนี่ยแหล่ะ
พอรู้สึกตัวอีกทีก็เจอพระเจ้าตามสูตร แต่บทสนทนาดันไม่ตามสูตรนี่สิ ไม่ขอเล่าแล้วกัน เล่าไปก็อับอายตัวเองเปล่าๆ
แล้วท่านพระเจ้าก็ส่งผมมาเกิดใหม่เป็นก็อปลินล่ะนะ สกิลโกง? ของพรรณนั้นไม่มีหรอก สู้ด้วยลำแข้งของตัวเองนี่แหล่ะมันถึงจะดี ไม่ได้องุ่นเปรี้ยวนะเฟ้ย จริงๆนะ!
เอาเถอะ ยังไงซะเรื่องพวกนั้นมันก็เป็นอดีตไปแล้ว แต่ลืมตาขึ้นมาก็เจอกันจอมมารเนี่ยมันก็ตกใจอยู่เหมือนกันล่ะนะ ถึงจะยังเป็นจอมมารต๊อกต๋อยก็เถอะ แวบแรกนี่กะไว้เลยว่าต้องโดนใช่แรงงานเยี่ยงทาสแหงๆ ยิ่งรู้ว่ามาเมืองของจอมมารกำลังขาดคนอีก ก็พอเดาหน้าที่ตัวเองได้เลยล่ะ
แต่ผิดคาด ไอ้หมอนั่นเลี้ยงพวกเราดีมาก พอนานๆไปก็เลยพอเข้าใจนิสัยของหมอนั่นหน่อยๆแล้วล่ะ ก็เอาเถอะ จะยอมเรียกว่าพ่อให้ซักครั้งก็แล้วกัน
เอาล่ะ กลับมาโฟกัสกับภารกิจหลักก่อนก็แล้วกัน อย่างว่า พวกเราเข้าป่ามาเพื่อล่าสัตว์อสูร โดยแต่ละคนมีอาวุธติดตัวสองอย่าง คทาเวทกับดาบสั้น ก็นะ ไซส์พวกเราถือของแบบอื่นไม่ได้หรอกนะ ในฐานะที่อายุเยอะที่สุด ทั้งทางกายภายและจิตใจ ผมก็คงต้องเป็นผู้นำพวกเขาล่ะนะ
"พี่อิจิๆ เราควรจะเริ่มยังไงดีเหรอ" โรคุโกะถามผม
"อืม ก่อนอื่นก็ต้องกำหนดเป้าหมายให้ได้ก่อนล่ะนะ เริ่มจากการมองหาร่องรอยของสัตว์อสูรบนพื้นหรือตามต้นไม้ก่อนก็แล้วกัน"
ถึงจะชาติก่อนจะเป็นเด็กมัธยมปลาย แต่ก็พอมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้อยู่บ้างล่ะนะ
ก็นะ พอเลี้ยงลูกในGod Of *** แล้วมันดันเกิดอยากลอง ก็เลยไปลองยิงนกยิงกระต่ายกับพวกเพื่อนๆดูน่ะ ฝีมือเองก็พอใช้ได้เลยล่ะ แต่กับสัตว์อสูรนี่ไม่แน่ใจเลยให้ตายเหอะ
ว่าแล้วผมกับพวกน้องก็แยกย้ายกันหาร่องรอยของสัตว์โดยผมไม่ลืมกำชับไม่ให้ออกห่างกันมากจนเกินไปด้วย
เวลาผ่านไปซักพักนึง โคโกโร่ก็วิ่งมาหาผม
"พี่อิจิ! เจอรอยเท้าแล้วล่ะ!"
"โอ้ เยี่ยมมากโคโกโร่ ทุกคน มารวมตัวกันได้แล้ว รอยเท้าอยู่ตรงไหนเหรอโคโกโร่" ผมชมแล้วลูบหัวเขาไปด้วย
"ทางนี้! พี่อิจิ!" โคโกโร่ยิ่มดีใจแล้วรีบวิ่งไปทีต้นไม้ต้นนึงทันที ผมและพวกน้องๆที่เหลือก็วิ่งตามเขาไป
ผมจ้องมารอยเท้าบนพื้นแล้วลองแตะดู
อืม...เป็นกีบ เป็นไปได้สูงที่จะเป็นสัตว์กินพืช...รึเปล่าหว่า โลกนี้มันจะเหมือนโลกตูมั้ยหว่า เอาเถอะ เดี๋ยวลองตรวจสอบมูลด้วยก็รู้ เพราะรอยเท้ายังใหม่ๆอยู่แสดงว่ายังคงไปได้ไม่ไกล โอเค ล่าไอ้ตัวนี้ก็แล้วกัน ผมตัดสินใจเช่นนั้นแล้วบอกกับพวกน้องๆ
"งั้นเราจะตามรอยเท้าไปกันนะ"
”ครับ/ค่า” ทุกคนตอบกลับมาอยากพร้อมเพรียง อุก ชักจะเข้าใจความรู้สึกของพ่อบ้านั่นขึ้นมาแล้วสิ
.....................................
"โอ้ เจ้าอิจิโกะนี่ฉลาดสุดๆไปเลยนี่! สอนดีนี่หว่ากรีซ่า เบเรี่ยล" ผมที่ตัดใจที่จะพังโซ่เฮงซวยนี่แล้ว ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงดูถ่ายทอดสดของพวกเด็กๆผ่านทางลูกแก้ว
"ผมว่าพวกเราไม่เคยสอนอะไรแบบนั้นนา..." กรีซ่าที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆเตียงเอียงคอสงสัยพลางโยนลูกเบอร์รี่เข้าปาก เฮ้ย ไม่แบ่งกันเลยนี่หว่า
"ในนามของเจ้านายที่โดนลูกน้องโขกสับอยู่ทุกวันจนชักสงสัยในจุดยืนตัวเองขอสั่ง แบ่งไอ้นั่นให้ข้ากินซะโดยดี"
"ชื่อตำแหน่งยาวดีนะครับท่านจอมมาร ว่าแต่สภาพอย่างงั้นจะกินยังไงรึครับ" กรีซ่าถาม นั่นสินะ
"งั้นก็ปลดโซ่ให้ข้าสิ ขอสัญญาว่าจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนเลยล่ะ" แน่นอน ตูโกหก
"โกหกแหงๆครับ" กรีซ่าส่งยิ้มเย็นยะเยือกกลับมาให้ ชิ ดันรู้ทันอีก
"ก็นั่นน่ะสิน้า" ผมถอนหายใจพลางหันกลับไปดูภาพในลูกแก้วต่อ แต่อยู่ๆก็มีผลไม้มาจ่อตรงปาก
"อ้าม~" กรีซ่าเอาผลไม้มาจ่อตรงปากผมนั่นเอง แหยงเว้ย!
"ขนลุกหมดเลยว่ะกรีซ่า" ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่มีของกินมาจ่อตรงหน้าก็ต้องกินล่ะนะ
.........................................
เจอแล้ว... ผมมองไปยังหมูป่าตัวขนาดประมาณ3เมตรที่อยู่ห่างออกไปประมาณ100เมตร พลางบอกให้พวกน้องๆเงียบเสียงลง
กฎของการล่าสัตว์ข้อที่หนึ่ง จงอย่าได้ยิงจนกว่าจะมั่นใจ และถ้าเป็นไปได้ จงสังหารในนัดเดียว...ดูยังไงก็เก็บไอ้โคตรหมูป่านั่นภายในนัดเดียวไม่ได้แหงๆ งั้นเอาแพลนBก็แล้วกัน
เข้าสู่คำถาม พวกเราจะเข้าไปสู้กับมันตรงๆ หรือจะใช้การตัดกำลังมันไปเรื่อยๆดีหว่า ผมก้นหน้าครุ่นคิดวิธีการจัดการไอ้โคตรหมูป่านั้นอย่างตั้งใจ นิโกะที่เห็นผมเป็นเช่นนั้นจึงถามผมว่า
"คิดวิธีจัดการมันอยู่เหรอคะ พี่อิจิ" อ่าใช่ ดูเหมือนนิโกะจะเป็นคนสุภาพสุดๆเลยล่ะ มีหางเสียงตลอดแม้แต่กับพี่น้องอย่างพวกผมหรือพ่ออย่างเจ้านั่น แต่ในอีกแง่ก็ฟังดูห่างเหินจังเลยน้า ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้คิดอย่างนั้นก็เถอะ
"ใช่แล้วล่ะ กำลังคิดว่าจะทำกับดักหรือจะไปอัดมันตรงๆเพื่อฝึกฝนเลยดีน่ะ"
"งั้นก็ทำทั้งสองอย่างเลยสิคะ" นิโกะตอบกลับมาเช่นนั้น ทำให้หลอดไฟในหัวผมส่องแสงทันที
"สุดยอดไปเลยนิโกะ ตกลง เอาแบบนั้นแหล่ะ เอ้า เข้ามารวมหัวกันหน่อยซิ จะอธิบายแผนให้ฟัง..."
.
.
.
ผมมองหมูป่าที่หน้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง25เมตรอยู่บนต้นไม้ หลังจากมั่นใจว่าหมูป่าตัวนั้นอญุ่ในจุดที่เหมาะสมแล้วผมก็ชักดาบขึ้น
"เอาล่ะ! ทุกคน อย่าประมาทล่ะ!" แล้วผมก็พุ่งตัวลงจากต้นไม้ไปที่เจ้าหมูป่าทันที
"โอ้!" พวกเด็กที่เหลือพอได้สัญญาณจากผมก็เตรียมอาวุธของตัวเองแล้วเข้าโจมตีเจ้าหมูป่าทั้งที
ผม ซังโก โยจิแล้วก็โคโกโร่ใช้ดาบ ส่วนนิโกะกับโรคุโกะใช้เวท โดยผมรับหน้าที่ไลท์แทงค์ผลัดกับซังโก
อืม ไลท์แทงค์คือแทงค์ที่ใช้ความเร็วในการหลบหลีกน่ะ ส่วนพวกที่เหลือจะคอยโจมตีไปเรื่อยๆ
เอาล่ะ การล่าครั้งแรกในโลกใบนี้ มาสนุกกันดีกว่า! ผมคิดอย่างตื่นเต้นแล้วแทงดาบเข้าไปที่ตาซ้ายของเจ้าหมูป่า เพราะเป็นการลอบโจมตีทำให้มันไม่ทันระวัง ดาบของผมจึงปักเข้าไปในตาของมันเต็มๆ
"สวย! เอาล่ะ อย่าลืมทำตามตำแหน่งที่จัดไว้ล่ะ" ผมดึงดาบออกมาแล้วตะโกนสั่งพวกน้องๆ
"ครับ/ค่ะ" พวกเขาตอบกลับมาเช่นเดิม อืม เป็นเด็กดีกันจริงๆ
ผมหลบเขี้ยวของเจ้าหมูป่าที่พุ่งผ่านตัวไปพลางคิดเช่นนั้น
ตอนนี้ผมกับเจ้าหมูป่ายืนจ้องหน้ากันอยู่ มันมองผมด้วยความเกรี้ยวกราด ก็นะ เข้าใจอยู่หรอก แต่คงต้องขอโทษซ้ำอีกครั้ง ที่นี่ไม่มีการดวลสำหรับแกหรอก
โยจิพุ่งเข้ามาทางซ้ายที่ตาของเจ้าหมูป่าบอดไปแล้ว แล้วเสียบดาบเข้าใส่ท้องของมัน แท่ทว่าดาบกลับติดอยู่ที่แค่ชั้นผิวหนังเท่านั้น
เบาไปรึ หรือหนังหนาไป หรือทั้งสองอย่างกันหว่า คิดหาสาเหตุไปแล้วก็สั่งคำสั่งต่อไป
“ถอยออกมาโยจิ ที่เหลืออย่าเพิ่งโจมตี นิโกะ โรคุโกะ เผามันโล้ด” เป้าหมายครั้งนี้ไม่ใช่หาของกินแต่เป็นการเก็บเลเวล เพราะงั้นสภาพศพไม่ใช่ปัญหาล่ะนะ
“”ค่ะ/ค่า~”” นิโกะกับโรคุโกะ ตอบรับด้วยการส่งไฟบอลพุ่งเข้าใส่เข้าหมูป่าทันที
เมื่อไฟบอลกระทบกับร่างของเจ้าหมูป่ามันก็ระเบิดออกมาแล้วทำให้ขนทั้งตัวของเจ้าหมูป่าปกคลุมไปด้วยไฟ มันร้องอย่างทรมาณก็จะพุ่งเข้าใส่ผมเต็มเเรง
เฮ้ยๆ น่ากลัวกว่าเดิมอีกไม่ใช่รึนั่น ผมคิดพลางกระโดดหลบเจ้าหมูป่าที่พุ่งเข้ามา เพราะหมูป่านั้นมีการโจมตีแค่ไม่กี่รูปแบบแล้วการโจมตีก็เป็นเส้นตรงแทบทั้งหมด ทำให้ง่ายการต่อการฝึกฝนและไม่อันตรายจนเกินไปล่ะนะ
แต่เพราะว่าทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยเปลวไฟ ทำให้หาช่องเข้าไปโจมตีไม่ได้เลยแหะ เอาเถอะ ถือว่าประหยัดขั้นตอนกำจัดขนไปเลยก็ดีเหมือนกัน
งั้นก็ช่วยไม่ได้ ถึงจะเร็วไปหน่อย แต่เผด็จศึกเลยก็แล้วกัน
"เฮ้ ทุกคน ใช้ไอ้นั่นกันเลย"
"""รับทราบ""" หลังจากทุกคนตอบรับแล้วผมก็เริ่มออกวิ่งไปข้างหลังทันที ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าหมูป่าที่ตอนนี้ดูจะเกลียดผมมากก็วิ่งตามมาติดเช่นเดียวกัน
ก็ดีๆ ผมกระโดดข้ามธงที่ปักไว้เป็นจุดมาร์คแล้วหยุดวิ่ง เพื่อตั้งท่าเตรียมสู้กับมันต่อ
เจ้าหมูป่าเห็นผมหยุดวิ่งก็เร่งความเร็วของตัวเองมากขึ้นไปอีกแล้วพุ่งมาหาผมอย่างรวดเร็ว
"50เมตร 40เมตร 30เมตร 20 เมตร 10เมตร...เอาเลย!"
ก่อนที่เจ้าหมูจะถึงตัวผมก็ผมให้สัญญานแล้วเอี้ยวตัวหลบไปทางด้านข้างทันที
ยังไม่ทันที่เจ้าหมูจะได้คิดะไร สิ่งที่พุ่งมาแทนที่ตัวผมก็คือท่อนซุงขนาดใหญ่ที่พวกเราช่วยกันไปตัดมาก่อนที่จะเริ่มสู้กับมัน พวกเราช่วยกันเอาเชือกแขวนมันไว้บนต้นไม้แล้วเตรียมไว้เป็นกับดัก
"กะโหลกแตกไปซะเถอะ"
เสียงของเจ้าหมูที่พุ่งมาด้วยความเร็วกับมวลมหาศาลของมันปะทะเข้ากับท่อนซุงที่ถูกเหวี่ยงลงมาจากบนต้นไม้ดังสนั่นจนผมต้องเอามือขึ้นมาปิดหู
"หมดฤทธิ์ซะทีนะ" ผมมองร่างของเจ้าหมูที่แน่นิ่งไปโดยที่ส่วนหัวแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมอยู่เลย ส่วนท่อนไม้น่ะเหรอ กระเด็นไปโน้น ก็นะ เป็นกับดักแบบใช้แล้วทิ้งนี่นะ กิ่งไม้ที่ไหนมันจะไปรับน้ำหนักท่อนซุงไหว แต่ว่าอุตส่าห์เลือกที่แข็งแรงพอจะเหวี่ยงได้ชั่วขณะมาแล้วนะ ต้องบอกว่า ที่สำเร็จนี่ก็พึ่งดวงด้วยส่วนหนึ่งเลยล่ะ
"เอาล่ะ อยากจะขนกลับบ้านอยู่หรอก แต่แค่พวกเราคงไม่ไหวล่ะนะ" ผมคิดพลางเดินไปที่ศพของเจ้าหมูนั่น พลางจะหักเขี้ยวของมันไปเป็นหลักฐานซะหน่อย
"อ่อ ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวข้าขนกลับไปให้เอง" เสียงเข้มของคุณเบเรี่ยลดังขึ้น
"นี่ตามดูอยู่ตลอดเลยสินะเนี่ย"
"ก็นะ ขืนพวกเจ้าเป็นอะไรไป ท่านจอมมารหักคอข้าทิ้งแน่น่ะสิ" คุณเบเรี่ยลตอบกลับมาเช่นนั้น น่าสงสารจริงน้า ลูกน้องเนี่ย
"แต่ในฐานะที่เป็นอาจารย์ก็บอกได้เลยว่า สุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่สู้กับมันตอนแรก ถึงช่วงหลังจะเหมือนเจ้ากรีซ่าเกินไปหน่อยก็เถอะ ฮ่าฮ่าฮ่า" คุณเบเรี่ยลหัวเราะร่า แล้วแบกศพของเจ้าหมูป่าขึ้นบ่า...นั่นหมูป่าขนาดสามเมตรนะเฮ้ย
"เอ้า กลับบ้านกันเถอะ" เขาว่า ส่วนพวกเราก็ตอบกลับตามปรกติ
"ครับ/ค่ะ"
.
.
.
ทันทีที่มาถึงหน้าหมู่บ้านเจ้าพ่อบ้านั่นก็พุ่งมาหาพวกเราทันที
"ไม่เป็นอะไรกันใช่มั้ย! มีแผลตรงไหนรึเปล่า! มานาเป็นยังไงกันบ้าง!" เจ้านั่นกอดพวกเราไว้พลางยิงคำถามมารัวๆ มาทีละคำถามสิเฟ้ย แต่ก็เห็นแก่หน้าของคนเป็นพ่อจึงตอบหมอนั่นไป
"สรุปภาพรวมว่าสบายดีก็แล้วกันครับ"
"งั้นรึๆ ดีจริงๆเลย แต่เพื่อความไม่ประมาทขอเผื่อไว้ก่อน [ฮีล]"
"ขอบคุณครับ ว่าแต่มีอะไรต้องพูดอยู่ไม่ใช่รึไงครับ" ข้าถามพร้อมมองหน้าของพวกน้องๆที่เฝ้ารอคำชมจากปากคนเป็นพ่อ
"อ่า แน่นอน พวกเจ้าทุกคนเก่งมากๆเลยละ" เจ้านั่นยิ้มรับแล้วลูบหัวพวกเราทุกคน อืม ดี ไม่สิ มะ ไม่ได้ดีใจอะไรหรอกนะบอกไว้ก่อน
"อ่า ก็ไม่อยากจะขัดช่วงเวลาแสนสุขหรอกนะ" เสียงผู้หญิงดังขึ้นข้างหลังของเจ้านั่น รู้สึกจะชื่อ...คุณซาเรียสินะ
"ไหนล่ะคนงานข้า"
"ฉิบ" เจ้าพ่อบ้านั่นส่งเสียงแบบนั้นออกมาล่ะ
------------------------------
พระเจ้า: จริงๆใช้โกเลมก็ได้นะครับ
ซามาเอล : ไม่รอเมืองสร้างเสร็จก่อนค่อยบอกเลยล่ะ
wordเน่างะ....orz
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
