ตอนนี้ผมก็ผมก็พวกอัลโต้ยืนอยู่หน้าป่าใหญ่ที่ดูลึบลับไปจนถึงหน้ากลัว ถ้าว่ากันตามตรงผมควรจะตื่นเต้นกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเจออยู่หรอกนะ เเต่ว่านา...เจ็บก้นสุดๆเลยอะ
'วิตถาร'
วิตถารสวรรค์เอ็งดิ
เนื่องจากเป็นการเดินทางที่ต้องการความรวดเร็ว ทำให้พวกเราทุกคนนั่งบนหลังม้าเเล้วควบมาอย่างรวดเร็ว...ทั้งวันอะนะ เพราะถ้าเดินทางด้วยรถม้าจะต้องใช้เวลาสามวัน เเค่ถ้าควบม้ามาล่ะก็จะสามารถถึงได้ภายในวันเดียว เเต่พอเอาอานม้าเเข็งๆมาใช้คู๋กับเกราะเหล็กเเข็งๆมันก็นะ...การทรมาณรูปเเบบใหม่รึไงฟะ!!!
ส่วนเจ้าพวกนั้นคงชินเเล้วเลยไม่มีใครบ่นอะไรซักคน
"นี่หน่ะคือป่าอาถรรพ์น่ะ เป็นป่าที่มีตำนานน่ากลัวอย่างมีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวอยู่ข้างในล่ะ" คุณเอ็คการ์ดเมื่อเห็นผมเหม่อไปก็เข้ามาหาเเล้วอธิบายให้ คงคิดว่าผมไม่รู้สินะ เออ คิดถูกเเล้ว ผมไม่รู้ เนื่องจากอีกสามคนกำลังเช็คอุปกรณ์ครั้งสุดท้ายกันอยู่ ผมจึงมาคุยกับคุณเอ็ดการ์ด
"มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นเยอะเเยะเลยรู้มั้ย เมื่อ40ปีก่อนทางอาณาจักรเคยส่งคนไปสำรวจครั้งใหญ่อยู่ทีนึง เเต่ก็เกิดเหตุประหลาดๆตลอดการเดินทางเลยล่ะ ของหายเอย เเผ่นที่ถูกสับเปลี่ยนเอย เเหม่ ลำบากเเทบเเย่"
เรื่องผีรึไงฟะ เเต่ตรงประโยคสุดท้ายนี่...
"ท่านเอ็ดการ์ดก็เข้าร่วมด้วยสินะ" ผมถาม เเต่ก็ถูกมองเเบบตำหนิหน่อยๆ ผมพูดไรผิดฟะ
"เรียกคุณเอ็ดการ์ดเหมือนเจ้าพวกนั้นก็ได้ เรียกท่านเเล้วมันจักจี้ยังไงไม่รู้"
"เข้าใจเเล้วครับ"
"ตอนนั้นข้ายังหนุ่มยังเเน่น เเต่ก็ยังเป็นเเค่นักเวทสามัญธรรมดาๆ ถึงจะมีเรื่องประหลาดๆเกิดขึ้นเยอะเเยะ เเต่ข้าก็คิดว่าคนทำคงไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรหรอก เเค่ไม่ต้องการให้ใครเข้าไปในนั้นเเค่นั้นเอง" เขาพูดเเล้วยิ้มบางๆ
"อะไรทำให้คิดอย่างนั้นล่ะครับ" ผมเอียงคอสงสัย
"ตอนนั้นข้ากับปาร์ตี้ในสมัยนั้นออกไปเป็นกองสำรวจ พวกข้าไปเจอลูกนกที่ตกจากรังน่ะ พวกข้าก็เลยช่วยทำเเผลเเล้วพาไปส่งที่รัง เจ้านักดาบน่ะโดนจิกใหญ่เลยล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
เกี่ยวกันยังไงฟะนั้น
"คิดอยู่ล่ะซี่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับที่ข้าพูดเมื่อกี้" เขามองผมเเล้วถามมา
พระเจ้า!!! ตกลงนี่ตูมีบอลลูนความคิดเเปะบนหัวรึไงฟะ!!!
"เรื่องสำคัญหน่ะมันหลังจากนี่ต่างหาก หลังจากที่พวกข้ากลับค่ายไป คืนนั้นก็การเเกล้งคนทั้งค่ายอีกเหมือนเคย เเต่ว่าวันนั้นเต็นท์ของพวกข้าไม่โดนอะไรเลย เเถมตอนเช้ายังมีใบไม้ตกอยู่ใบนึง เเล้วก็มีตัวอักษรที่ข้าไม่รู้จักเขียนไว้ด้วยล่ะ"
"เห อักษรนั่นเขียนว่าไงเหรอครับ" ผมลองถามดู
เขาทำทางครุ่นคิดก่อนจะตอบว่า"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันล่ะนะ เเต่ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเขียนเเบบนี้นี้นะ" เขาว่าเเล้วก้มลงไปเขี่ยดินจนเป็นตัวอักษรเเปลกๆ เนื่องด้วยสกิลเเปลภาษาของผมเลยทำให้อ่านมันได้
"[ขอบคุณ] มันเขียนไว้ว่าอย่างนี้น่ะครับ" ผมบอกเขา
เขาหันมาหาผมด้วยอารมณ์ตกใจ
"นี่เจ้าอ่านออกด้วยหรือเนี่ย! โอ้ ขอบใจมากจริงๆ ข้าติดใจมา40กว่าปีเเล้วว่าข้อความนี่มันบอกว่าอะไรกันเเน่" เขาพูดเเล้วยิ้มอย่างยินดี
"โฮ่ย~ จะไปกันเเล้วน้า~"
เจ้าหนูอัลเรียกเเล้วเเฮะ ไปกันได้เเล้ว
"เข้าใจเเล้วครับ" ผมเดินตามคุณเอ็ดการ์ดไปสมทบกันพวกอัลโต้ทันที พลางคิดในใจว่า...
จะมีเรื่องอะไรตื่นเต้นบ้างมั้ยนะ....ซึ่งผมผิดหวังครับ...ในตอนเเรกน่ะนะ
.
.
.
.
.
"ฮ่าห์!!!" อัลโต้สะบัดดาบผ่านหัวของเสือดาววหนึ่ง ชเเละสังหารมันในดาบเดียว
ก็นี่มันพวกเเรงค์Aนี่เนอะ ผมได้เเต่บ่นกับตัวเองเบาๆ
ตั้งเเต่เข้าป่ามานี่พวกเราได้เเค่สลับกันปราบสัตว์อสูรไปเรื่อยเพื่อประหยัดเเรงไว้ เพราะสัตว์อสูรที่ออกมาไม่ได้เหลือบ่ากว่าเเรงพวกเราเลย ถึงผมจะหวังการต่อสู้สนุกๆไว้เเต่คงต้องยอมซะเเล้วล่ะ
"นี่มันเเปลกๆอยู่นะ" อัลโต้มองศพของเสือดาวเเล้วพูดขึ้นมา
"ยังไงเหรอครับ" อลันเอียงคอสงสัย
"ปรกติเสือดาวพวกนี้มันจะไม่จู่โจมสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่าไม่ใช่รึไง" เขาถาม
ผมหันไปมองอัลเบิร์ต...ตัวใหญ่กว่าเสือดาวจริงๆเเฮะ
อืม... ทุกคนต่างก้มหน้าครุ่นคิด ส่วนผมก็กำลังจะลองค้นgxxgxxดูซักหน่อย
'เรียกผมซะเสียเลยนะครับเนี่ย'
ช่างเหอะน่า เอ้า พอจะใบ้อะไรได้มั้ย
'ได้ครับผม~' ผมเจ้าตอบเสียงใส
หา? ผมลากเสียงยาวในใจ อย่างเอ็งน่ะเรอะจะยอมบอกอะไรตูดีๆ
'เพราะผมบอกไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นไงครับ'
ตูเกลียดเอ็งจริงๆเลยว่ะ
'เเหม่~ พูดงี้ก็เขินเเย่สิคร้าบ~'
ไหงงั้นฟะ!!! เเล้วตกลงมีอะไรจะบอกล่ะ
'เปลี่ยนอารมณ์ไวดีเนอะครับ เอาเถอะ ลองจับสัมผัสชีวิตดูก็รู้เองล่ะครับ' พระเจ้าบอกไว้เเค่นี้เเล้วก็หายไป
จับสัมผัสชีวิตงั้นเหรอ...ผมลองเเผ่พลังเวทเเล้วหาพลังชีวิตดูพลางบ่นไปเรื่อยๆ
ไอ้นี่มันตายเเล้วไม่ใช่เรอะ มันจะไปจับสัมผัสอะไรได้ฟะ....
"หา?" เสียงประหลาดใจของผมดังออกมา เรียกความสนใจทั้งหมดของทุกคนให้หันมาทางผม
"มีอะไรงั้นเหรอครับ คุณซามาเอล" อลันถามผม
"จับสัมผัสชีวิตได้....?" ผมพูดออกมาอย่างไม่เชื่อปากตัวเอง เเต่มันจับได้จริงนี่หว่า
"หือ งั้นเหรอ ไหงข้าลองหน่อยซิ......มีชีวิตหลงเหลืออยู่ในร่างนี่จริงๆด้วยเเฮะ?" คุณเอ็ดการ์ดเองก็เเปลกใจไม่เเพ้กับผม
ผมเอื้อมมือไปหยิบมีดสั้นที่เหน็บไว้เเล้วค่อยๆผ่าร่างของเสือดาวเคราห์ร้ายตัวนั้น
"ไหนดูซิ กระเพาะไม่มีอะไร...หัวใจปอดไม่มีอะไร...ตับม้ามก็ไม่มี...อยู่ไหนกันหว่า" ผมค่อยๆไล่หาไปทีละส่วนถึงสัญญานชีวิตปริศนานั้น
"สยองอะ/โหดร้ายดีนะเจ้าเนี่ย/อยู่มาจนป่านนี้ยังรับไม่ค่อยได้เลยน้า/ขอองค์เทพีโปรดให้อภัย"
ทั้งสี่คนต่างยิ้มเจื่อนกับการกระทำของผม เเต่ก็ยังสามารถมองดูได้อย่างไม่สะทกสะท้าน สมเป็นมืออาชีพล่ะนะ ว่าก็ว่าเถอะ ถ้าเป็นผมสมัยก่อนนี่ก็คงรับไม่ได้เหมือนกันล่ะ เเต่ตั้งเเต่มานี่ผมคงกลายเป็นพวกตายด้านไปซะเเล้วล่ะมั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า
"เอาล่ะที่สุดท้ายละ ตรงลำไส้สินะ" ผมพูดเเล้วค่อยๆกดมีดลงไปบนลำไส้ของเจ้าเสือดาวตัวนั้น
ทันทีที่มีดของผมทะลุผ่านลำไส้ของเจ้าเสือดาวไป...
"นี่มันบ้าอะไรละเนี่ย..."
มีไข่ของตัวอะไรบางอย่างเกาะอยู่เต็มลำไส้ของเจ้าเสือดาวจนเเน่นไปหมด
คงโดนเเย่งอาหารจนหิวเลยโจมตีทุกอย่างสินะ น่าสงสารจริงๆ
"ขยะเเขยงสุดๆไปเลยอะ/อะไรฟะนั่น/ดูเหมือนไข่ของเเมลงล่ะนะ/อะไรล่ะครับนั่นหน่ะ"
ทั้งสี่คนต่างมีปฏิกิริยาต่างกันไป ผมจึงลุกไปหาคนที่น่าจะมีความรู้ที่สุด
"คิดว่ายังไงกับเรื่องนี้บ้าง คุณเอ็ดการ์ด"
"ข้าว่าน่าจะมีเเมลงนางพญาซักตัวมาวางไข่ในร่างของเจ้าสัตว์พวกนี้เเหล่ะนะ เเต่มันก็ไม่น่าใช่เหตุผลที่ทำให้สัตว์อสูรจำนวนมากอาละวาดนี่นา เเถมปรกติพวกนางพญาก็วางไข่เเค่ไม่กี่ครั้งเอง นอกเสียจากว่า..." เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"นอกเสียจากว่าอะไรครับ"
"จะมีนางพญาที่เเข็งเเกร่งพอที่จะวางไข่ได้เรื่อยๆล่ะนะ"
เรื่องนั้นใครก็คิดได้ครับท่าน อยากรู้ว่ามันเป็นตัวอะไรต่างหากครับ
"ซึ่งเท่าที่ข้ารู้นะ เผ่าเเมลงปีศาจที่สามารถวางไข่จำนวนมหาศาลได้เห็นจะมีเเต่...พวกเเมงมุมเท่านั้นเเหล่ะนะ" เขาพูด ทั้งสามคนที่เหลือต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะอัลโต้ที่หน้าซีดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
"เผ่าเเมงมุมที่สามารถทำให้สัตว์ทั้งป่าต้องหวาดกลัวอย่างเหรอ...น่ากลัวว่าอาจจะเป็นอารัคเน่ก็ได้เเฮะ" อัลเบิร์ตพูดอย่างเป็นกังวล
"นั่นสินะ ที่ออกมาครั้งก่อนต้องเกณฑ์คนไปทั้งกิลด์เลยนี่นะ"
"เอาไงดีล่ะ เพราะยังยืนยันชนิคที่เเน่ชัดไม่ได้จะกลับไปเเจ้งทางกิลด์เลยมั้ยครับ" อลันถาม
"นั่นเป็นสิ่งที่ควรทำล่ะนะ" เอ็ดการ์ดว่า
ในตอนที่ทุกคนกำลังประชุมกันอยู่ อัลโต้ก็พูดขึ้นมา
"ขอโทษนะทุกคน...เเต่ข้าขอไม่กลับไปเเจ้งที่กิดล์" เขาพูดด้วยเสียงสั่นครือ
"นี่เจ้า..." ทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก อัลโต้ยังคงพูดต่อไป
"ข้ารู้ดีว่าข้ามันเอาเเต่ใจ...เเต่ว่าข้า...ไม่อยากจะเสียเธอไป"
"คิดจะฆ่าตัวตายรึไงเจ้าหนู" เอ็ดการ์ดพูดด้วยเสียงเข้มเพื่อย้ำเขา
"ข้าเข้าใจ เเต่ยังไงข้าก็จะไปช่วยเธอ หรืออย่างน้อยข้าก็ต้องรู้ว่าเธอปลอดภัยเเล้ว"
"เฮ้อ...นี่เเหล่ะน้า คนหนุ่ม" เอ็ดการ์ดถอนหายใจเเบบปลงๆเดินไปเอาเต็นท์ที่อัลโต้ถืออยู่มา
"เเกก็เป็นซะอย่างเนี่ย" อัลเบิร์ตพูดพลางเดินไปหาที่กางเต็นท์
"ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีเลยล่ะครับ" อลันที่เพิ่งฝังเจ้าเสือดาวตัวนั้นเสร็จเดินมาหยิบสัมภาระของอัลโต้ไป
"นี่ก็เริ่มมืดเเล้วสิ ช่วยไม่ได้สินะ" คุณเอ็ดการ์ดกล่าวเเบบเหนื่อยหน่าย
อัลโต้ได้เเต่ก้มหน้ารอรับคำตำหนิ
เฮ้ยๆ จะไล่ไปเลยเหรอ คงไม่ดีมั้ง... เเต่ก่อนที่ผมจะออกตัวช่วยพูดให้อัลโต้นั้นเอง...
"""เพราะฉะนั้นวันนี้เเกไปตักน้ำซะ! พรุ่งนี้ต้องเข้าป่าต่อนะเฟ้ย!""" ทั้งสามคนยิ้มเเล้วพูดออกมาเป็นเสียงเดียว
""เอ๋!?!?"" ผมกับอัลโต้ก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวเหมือนกัน
"ขะ ขอบคุณมากนะ! ทุกคน!" อัลโต้กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าเเล้วรีบวิ่งออกไป คงไม่อยากให้ใครเห็นตอนร้องไห้สินะ
"ฆ่าตัวตายนะ?" ผมถามทั้งสามคนที่เหลือ
"""ก็ช่างมันปะไร!""" พวกนายนี่สนิทกันดีจริงๆ ผมอมยิ้มเเล้วเดินไปตัดฟืน
.
.
.
"นี่ๆ มีพวกมนุษย์เข้ามาในป่าอีกเเล้วอะ"
"จัดการเหมือนเดิมมั้ยล่ะ"
"เเต่พวกเราอยากให้พวกเค้าช่วยนะ"
"เเต่พวกนั้นก็มองไม่เห็นไม่ใช่รึไง จะไปช่วยอะไรได้"
"เอาเป็นว่าคืนนี้เราจะลองไปหาพวกเค้าดูเเล้วกัน"
''ตามใจเจ้าสิ''
_____________________________
ไรต์ : เอ้า! ผมลงให้อีกตอนละนะ! อ่านมาซักพักสังเกตรสนิยมผมออกกันมั้ยเอ่ย~
ซามาเอล : โอจิค่อนหน่ะเรอะ
ไรต์ : ช่าย~~ คุณลุงเท่ๆนี่เเหล่ะสุดยอด~
ปล.นิยายเเปลที่อ่านไว้เลิกเเปลตั้งเยอะอ่า T T
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เดี๋ยวนะ ไรท์ชายหรือหญิง????