ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์หวานรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : บทนำ (3)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.68K
      41
      3 มี.ค. 64

                    “หานี่อยู่หรือเปล่า”

                    อนินทิตาหันขวับ แล้วก็พบว่าของที่หาอยู่นานบัดนี้อยู่ในมือรามเสียแล้ว...เขาเอาไปตั้งแต่ตอนไหนกัน

                    “นี่คุณ” เธอพยายามคว้ามันคืนมา แต่รามเอาหลบไว้ได้อย่างรวดเร็วแล้วยัดมันใส่กระเป๋ากางเกงยีนของตัวเอง

                    “ถ้าอยากได้ก็มาเช็ดตัวเอาคราบเลือดพวกนี้ออกให้หน่อย ผมเหนื่อย อาบน้ำไม่ไหวหรอก”

                    “ว่าไงนะ!

                    “จะให้พูดซ้ำไหม” เขาถามทั้งที่ยังนอนอยู่อย่างนั้น ทำราวกับมองเห็นทั้งที่ก็นอนหลับตาอยู่แท้ๆ

                    นักจิตวิทยาอาชญากรสาวหรี่ตามองผู้ชายที่นอนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาไม่ไว้ใจ เธอทำงานมาก็เยอะ เจอคนมาก็มาก แต่ไม่เคยเจอใครประหลาดและรู้ทันเธอเท่ารามมาก่อน

                    “คุณไม่เข้าใจอะไรเลยใช่ไหม ฉันไม่รู้จักคุณไปมากกว่ารู้ว่าคุณชื่อราม เราไม่ใช่คนรู้จักกันด้วยซ้ำ คุณจะมาทำตัวเอาแต่ใจที่บ้านของฉันไม่ได้”

                    “ผมชื่อราม”

                    “แต่...”

                    “นามสกุลผมคือรามิเรซ” เขาตอบกวนๆ และ...นอนต่อ

                    ความหน้าด้านระดับสิบเต็มสิบของเขาทำให้อนินทิตาทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังโทรศัพท์บ้านที่อยู่ห่างจากเดย์เบดแค่เอื้อมมือเท่านั้น ทว่า...

                    “คิดให้ดีคนสวย” เสียงรามขู่มาอีกแล้ว และไม่ได้มีแค่คำพูดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเล็งปืนมาที่เธออีกด้วย

                    คนที่ห่วงตายศพไม่สวยยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดได้แต่กลืนน้ำลาย ใจหนึ่งนึกอย่างลองกล่อมเขา ลองเล่นเกมจิตวิทยากันสักรอบ แต่หลังจากพูดคุยด้วยกันมาสักระยะ เธอคิดว่าคนอย่างรามรู้ทันเธอแน่นอน ดังนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือทำตามที่เขาบอกไปก่อนแล้วกัน

     

    ทั้งที่เป็นวันหยุดสิ้นปี แต่กลับมีงานล้นมือเสียจนไม่ได้หยุดอย่างคนอื่นเขา ต้องขับรถกลับบ้านท่ามกลางการเฉลิมฉลองขึ้นปีใหม่ของผู้คนรอบข้างแค่นี้ก็หนักหนาสาหัสพอแล้วสำหรับอนินทิตา แต่วันนี้ไม่ใช่วันของเธอ เพราะนอกจากจะต้องเผชิญกับงานที่หนักหน่วงมาตลอดทั้งวันแล้ว เธอยังต้องมาเผชิญคนบ้าที่รู้ทันเธอทุกอย่าง ทำเอาเธอแทบประสาทเสียทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงชั่วโมง

                    อนินทิตาเป็นผู้หญิงแปลกคนหนึ่ง เธอมักทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง อย่างเช่นเคยเห็นผู้ชายถูกยิงบาดเจ็บจนเกือบตายถูกทิ้งไว้กลางทะเลทรายเนเวดาและช่วยชีวิตมาแล้ว จนตอนหลัง สเปนเซอร์ ไวด์ มาช่วยเธอทำงาน ฝีมือเขาใช้ได้ ท่าทางผ่านงานบอดีการ์ดหรือไม่ก็งานลับมาอย่างโชกโชน เธอเสียดายฝีมือเขา พยายามเสนอให้เขามาทดสอบที่สำนักงานของเธอ แต่เขากลับปฏิเสธแล้วก็หายไปราวกับไม่มีตัวตน

                    ดังนั้นตัดเรื่องกลัวคนแปลกหน้าไปได้เลย เธอไม่เคยมีปัญหากับการรับมือคนแปลกหน้า แต่กับรามนั้นต่างไป เขาไม่ได้มีท่าทางลึกลับอันตรายอย่างสเปนเซอร์ แต่กลับกวนโทสะ ยั่วให้หมดความอดทนและเผยตัวตนออกมาทีละนิด ไม่แสดงท่าทีเอาแต่ใจ ไม่ขึงตาวางอำนาจแบบที่พวกผู้ชายทั่วไปชอบทำกัน แต่น้ำเสียงเรียบเรื่อย รอยยิ้มหวานขัดกับดวงตาวาววับคู่นั้นต่างหากที่ทำให้คนถูกมองหายใจไม่ทั่วท้อง ราวกับว่าภายใต้ท่าทางสบายๆ เหมือนสายลมเย็นๆ พัดผ่านนั้นซ่อนอะไรไว้มากมายเสียจนเธอเองยังมองไม่ออก แล้วจะไม่ให้กลัวได้อย่างไร

                    สาวเจ้าของบ้านเดินออกมาจากห้องน้ำ ในมือถือภาชนะใส่น้ำอุ่นและผ้าขนหนูสะอาด ทว่าตากลับลอบมองเขาอย่างระแวดระวังตลอดเวลา จนกระทั่งเดินมาใกล้ๆ แต่รามก็ยังไม่ขยับ เขาทำเหมือนหลับจริงๆ แต่กลับทำให้คนมองคิดระแวงไปได้ต่างๆ นานา

                    จะมีคนประหลาดสักกี่คนกันที่มีบุคลิกแบบนี้...  

                    ขณะค่อยๆ เช็ดตัวให้เขา นักจิตวิทยาอาชญากรสาวก็ลอบสำรวจผู้ชายตรงหน้าด้วยความสนใจ เท่าที่จำได้...ตอนเจอกันครั้งแรก ราม รามิเรซ มีบุคลิกหลุกหลิก ทั้งยังดูผอมเก้งก้าง แต่งกายด้วยเสื้อผ้ามอซอต่างกับ เชสก์ อะลอนโซ ซีอีโอบริษัทข้ามชาติที่หล่อรวย แต่งกายเนี้ยบไปทุกกระเบียด

                    สาบานได้เลยว่าเธอไม่มีเจตนา ลวนลาม คนเจ็บด้วยสายตาเลยสักนิด แต่การมีผู้ชายมานอนเปลือยอกอยู่ในบ้าน จะไม่ดูก็กระไรอยู่

                    ดวงตากลมโตไล่มองตั้งแต่ใบหน้าคมเข้มที่ยังมีรอยเลือดเปื้อนอยู่เล็กน้อย ถือโอกาสมองขนตาดกหนายาวงอนเสียจนผู้หญิงอย่างเธอยังอาย นึกสงสัยว่าแอบติดขนตาปัดมาสคารามาหรือเปล่า จนมีความคิดอยากกระชากขนตาเขาออกแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้ แต่คิดไปคิดมา...อย่าดีกว่า เธอยังไม่อยากตายทั้งที่ตัวยังมีกลิ่นคาวเลือดอย่างนี้

                    “ราม” เธอลองกระซิบเบาๆ ทดสอบว่าเขาหลับจริงหรือไม่ แต่เขาก็ยังเงียบ ไร้สัญญาณตอบรับใดๆ

                    แต่เธอไม่เชื่อ...

                    ไม่กี่ชั่วโมงที่เจอกันแต่ถูกเขาดักทางเธอได้ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ไม่ให้เธอเชื่อคนมากเล่ห์ตรงหน้า จึงลองโบกมือตรงหน้าเขา ยิ่งเขาเงียบ เธอก็ยิ่งชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วลองเรียกอีกครั้ง

                    “ราม คุณหลับจริงๆ หรือ...ว้าย!” 

                    “ราม คุณหลับจริงๆ หรือ...ว้าย!” อนินทิตาร้องเสียงหลง ยังถามไม่ทันจบก็ถูกคนมือไวกดท้ายทอยให้ก้มลงไปหาแล้วจูบเธอ ทำเอาหญิงสาวลืมตาโพลง ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ปล่อยให้คนบ้าฉวยโอกาสกดจูบลงแนบแน่นยิ่งขึ้น มืออีกข้างของเขาเลื่อนไล้ไปตามสีข้างเบาๆ พอเธอตั้งสติได้ก็ผลักอกเขาเต็มแรงจนพ้นมือเขาได้ในที่สุด

                    “ทำบ้าอะไรน่ะ!” เจ้าของบ้านลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วขึงตาใส่คนที่ยังนอนหนุนแขนตัวเองด้วยท่าทางสบายๆ แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

                    “ก็คุณแอบมองผมตั้งนาน แถมยื่นหน้ามาใกล้ๆ อีก ก็คิดว่าอยากจูบน่ะสิ”
                    “ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณหลับไปแล้วหรือยัง”

                    “จะขโมยโทรศัพท์หรือ” คิ้วเข้มเหนือดวงตาคมดุเลิกขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทางกวนประสาท

                    สายตาเป็นประกายแพรวพราวของเขาทำเอาอนินทิตาเย็นสันหลังวาบ เธอไม่ตอบ แต่เดินเลี่ยงออกไปอีกทาง

                    “จะไปไหนล่ะ ยังไม่เช็ดตัวให้ผมเลยนะ”

                    “ออกไปจากบ้านฉันเดียวนี้” เจ้าของบ้านทำเสียงดุ พอกันที...เธอทนให้เขาอยู่ในบ้านไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

                    ทั้งที่ถูกไล่แทบจะทุกห้านาที แต่รามก็ยังคงความหน้าหนาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เขาทำไม่รู้ไม่ชี้ นอนผิวปากสบายๆ แต่กลับเอื้อมมือไปคว้าปืนมาถือไว้เสียอย่างนั้น

                    “ขอนอนที่นี่สักคืนแล้วกัน”

                    “ฉันจะแจ้งความ”

                    “คิดว่าทำได้หรือ”  

                    สาวเจ้าของบ้านลอบมองอาวุธในมือรามแล้วก็กลืนน้ำลายฝืดคอ

                    รามหัวเราะหึๆ ก่อนจะผิวปากเป็นทำนองกวนประสาท และยังคงยึดเดย์เบดภายในห้องนั่งเล่นของเธอเป็นของตัวเอง

                    อนินทิตาไม่ทนอีกแล้ว ในเมื่ออยากยึดโทรศัพท์เธอก็ยึดไป แต่กุญแจรถยังอยู่ เธอมองผู้บุกรุกหน้าหนาด้วยสายตาอาฆาต แล้วเดินผ่านหน้าเขาไปหยิบกุญแจรถ น่าแปลกที่คราวนี้เขาไม่ห้ามเธอ ทั้งยังยิ้มให้อีกด้วย

                    นี่สรุปใครเป็นเจ้าของบ้านกันแน่

                    สาวเจ้าของบ้านตัวจริงคิดอย่างกรุ่นๆ เดินกระแทกเท้าไปที่ประตูแล้วชะงักเล็กน้อย รอฟังว่ารามจะห้ามเธอหรือไม่ แต่เขาก็ยังเงียบ ทั้งๆ ที่ยึดมือถือเธอไป แต่กลับปล่อยเธอเดินออกนอกบ้านเนี่ยนะ ไม่กลัวเธอไปแจ้งความให้ตำรวจลากคอเขาเข้าคุกหรือ         

                    อนินทิตาขมวดคิ้ว หันกลับมามองรามก็พบว่าเขาปลดล็อกสมาร์ตโฟนของเธอได้ ทั้งยังนอนเล่นเกมหน้าตาเฉย

                    นี่มันจะเกินไปแล้ว!

                    หญิงสาวเปิดประตูบ้านแล้วก้าวออกไปด้วยอารมณ์กรุ่นๆ แต่กลับต้องชะงักเมื่อเห็นว่าหน้าบ้านยังมีผู้ชายชุดดำท่าทางไม่น่าไว้ใจสองคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ไม่ห่างจากบ้านของเธอ และที่สำคัญ...กำลังจะหันมาอีกด้วย

                    ไม่ต้องรอให้ใครบอก อนินทิตาก็รีบถอยหลังกลับเข้าบ้าน ปิดประตูอย่างรวดเร็วแล้วหันกลับมามองคนเจ็บด้วยสายตาคาดคั้น

                    “คนพวกนั้นใคร”

                    “คนที่มีเรื่องกับผมไง”

                    “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ออกไป”

                    “ผมเจ็บอยู่” เขาตอบสั้นๆ สายตาจดจ่อกับเกมในโทรศัพท์มือถือของเธอ

                    น้ำเสียงสบายๆ ของหนุ่มมาดเข้มยั่วยุให้อนินทิตาหมดความอดทน เธอก้าวพรวดเข้าไปหารามหมายจะเอาโทรศัพท์คืน แต่เขาก็เอาหลบไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังจับมือเธอไว้อีกด้วย

    “ผมจะอยู่ที่นี่” ไม่ใช่คำขออนุญาต แต่มันคือคำบอกเล่าด้วยสายตามุ่งมั่น บ่งบอกว่าเขาไม่ไปไหน

                    ปกติแล้วอนินทิตาไม่ใช่คนใจร้อน การทำงานกับผู้ป่วยที่เป็นอาชญากรทำให้เธอเป็นคนใจเย็นและมีสติเสมอ แต่รามเป็นคนเดียวที่ทำให้ความอดทนเธอขาดสะบั้นลงทุกครั้งที่คุยกัน

                    มือเล็กกำแน่น พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ลงมือกับเขา อย่างไรเสียเธอก็เป็นผู้หญิง ส่วนเขาเป็นผู้ชายตัวสูงที่มีอาวุธในมือ สู้ไปมีแต่แพ้ ดีไม่ดีอาจตายศพไม่สวยอย่างที่กลัวมาตลอด แต่รามกลับไม่ให้ความร่วมมือเลย ยิ่งเธอพยายามข่มใจ เขาก็ยิ่งยิ้มกวนตะกอนอารมณ์ของเธอให้ขุ่นเพิ่มขึ้นจนเธอทนไม่ไหวอีกแล้ว

                    อนินทิตาหันไปมองปืนที่เขาวางไว้ข้างตัวแล้วพุ่งตัวไปคว้ามันด้วยความเร็วที่มั่นใจว่ารามขัดขวางเธอไม่ทันแน่ๆ แต่เขาก็ไวเหลือเชื่อ ทั้งที่นอนเจ็บ ทั้งยังเล่นโทรศัพท์อยู่แท้ๆ แต่กลับคว้ามือเธอไว้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังออกแรงบีบเสียจนอนินทิตาร้องเสียงหลง

                    “โอ๊ย!” เธอทิ้งปืนในมือทันทีเพราะทนความเจ็บไม่ไหว ผู้ชายบ้าอะไรใจร้ายกับผู้หญิงสวยอย่างเธอได้ลงคอ

                    “เจ็บหรือคนดี” หนุ่มมาดเข้มยังฉีกยิ้มกวนประสาท สุ้มเสียงดูใจดีมีเมตตา แต่ดวงตาวาววับเอาเรื่อง “ผู้หญิงไม่ควรแตะอาวุธนะจ๊ะ”

                    “ปล่อยฉัน”

                    “เราคงคุยกันดีๆ ไม่ได้แล้วละ” รามบอกเสียงเหี้ยม แล้วหยิบกุญแจมือจากกระเป๋ากางเกงยีนด้านหลังมาคล้องข้อมือของอนินทิตา อีกข้างคล้องมือตัวเองไว้

                    “นี่!” หญิงสาวทำตาโต มองกุญแจมือบนข้อมือสลับกับตัวต้นเรื่องแล้วก็อยากจะกรี๊ดใส่หน้าเขาเหลือเกิน “ทำบ้าอะไรของคุณ!

                    “เดี๋ยวคุณลอบทำร้ายตอนผมหลับ”

                    “ฉันไม่ได้พูดสักคำว่าจะให้อยู่ คุณต้องออกไปเดี๋ยว...”

                    “ก็ผมจะอยู่” รามทำเสียงรำคาญ ขยี้หูตัวเองแรงๆ ปิดโสตประสาทไม่ยอมฟังสิ่งที่เธอพูด 


    ม่มีแบบหนังสือนะคะ 

    E-book มาแล้วค่า 
    รักร้ายอุบายมาร (เชสก์+ผักหวาน) มาแล้ว จิ้มเลยยยย https://bit.ly/2Xe7R0P

    E-book กับดักรักล้อมใจ (วูล์ฟ+นิมา) มาแล้ว จิ้มเลยยยย https://bit.ly/3oIyR5e

    เรื่องแสนรักซ่อนใจ (อัลเบอร์โตxหนูนา) มีวางขายแล้วค่า

    E-book มาแล้ว จิ้มเลยยยย https://bit.ly/2DnWxc6


    E-book ร้ายหวงรัก (ธิติ+คะนึงนิจ) จิ้มเลย https://bit.ly/33g2aC6
     ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×