คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ ๑ พรหมลิขิตขีด (เขี่ย?) (5)
“ก็แกน่ะเอาแต่หมกมุ่นกับลุงหน้ายักษ์ที่แก่คราวพ่อเลยนะ แกเลย...”
“เลิกพูดสักที” สาวน้อยยกมือห้าม “ฉันจะตัดใจไม่ได้เพราะแกเอาแต่ย้ำนี่แหละ”
“พี่ตำรวจคนนั้นก็หล่อดีนะ” เจ้าของเสียงเข้มพูดพลางส่งโทรศัพท์ให้ หน้าจอเปิดแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กหน้าแฟนเพจ ตำรวจหล่อขอให้บอก และเป็นรูปของธีริทธิ์พอดี
“ก็บอกว่าไม่ชอบคนในเครื่องแบบ” นวินดาส่ายหน้าจริงจัง เธอรู้จักธีริทธิ์ตอนที่ไปฝึกงานในสำนักพิมพ์เดียวกันกับอุรัสยาและตุลยดา ก็เลยเจอเขาบ้างเวลาที่เขามาหาอุรัสยาที่สำนักพิมพ์ แต่ไม่คิดว่าเขาจะถูกใจเธอ
“แกนี่มันยังไงนะเนย บ่นว่าอยากมีใครสักคน แต่พอจะมีใครเข้ามาจริงๆ แกก็เอาแต่หนี แล้วก็เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับลุงนั่น...”
“พอแล้วลีน!” เจ้าของเสียงหวานแหวลั่น ผลคือถูกมือหนาตะปบปากไว้อย่างแรง
“อย่าเรียกชื่อนี้ เข้าใจไหมยายนลินบุษบัน!”
“นังเชอลีน!”
“เฉลิมเว้ย!” วันเฉลิมดึงแก้มยุ้ยของเพื่อนอย่างมันเขี้ยว ทะเลาะกันทีไร นวินดาต้องเรียกเขาว่าเชอลีนตลอด ถามว่าชอบไหม แน่นอนว่าเขาต้องเกลียดอยู่แล้ว ถึงเขาจะเป็นไบเซ็กชวลแต่เขาก็เป็นฝ่ายรุกเท่านั้น แต่ยายเพี้ยนนี่กลับคิดว่าเขาเป็นฝ่ายรับเลยแปลงชื่อเขาเสียสาวแตกเชียว เขาจึงเอาคืนด้วยการเรียก ‘นามปากกา’ ลับที่นวินดาใช้เขียนนิยายแล้วพิมพ์ครั้งที่สี่สิบนี่อย่างไรเล่า!
“แกอย่าเรียกแบบนี้สิ เดี๋ยวน้องเขาได้ยิน” นักเขียนเงาบุ้ยใบ้ไปทางเด็กสาวที่กำลังอ่านนิยายทาสรักจอมมารเชลยอสูร ของ นลินบุษบัน ใกล้กันแค่นี้มีสิทธิ์ที่จะได้ยินสูง
“แกก็เลิกเรียกฉันว่าเชอลีนสักที ฉันชื่อเหลิมเว้ย”
“โอเคเหลิมเว้ย” สาวน้อยพยักหน้ากวนๆ ไม่สนสายตาวาววามของเพื่อน แล้วถามต่อ “สรุปยังไง แกจะทำงานให้ที่บ้านหรือว่ามาเรียนต่อ”
“ทำงานสิ”
“ว้า...”
“แต่เสาร์อาทิตย์ก็มาเรียนกับแก โง่ๆ อย่างแกไม่มีฉันคงตายอะเนย”
“ไอ้!” นวินดายกปากกาขึ้นจะตีเขาบ้าง แต่วันเฉลิมหลบทัน พอดีกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ครับพี่” เสียงของวันเฉลิมเข้มขึ้นหนึ่งระดับ ฟังดูเป็นงานเป็นการขึ้นทันที แต่นวินดาลอบทำปากเบ้ แล้วเบือนหน้าหนี
“ครับๆ ได้ครับ เดี๋ยวผมพาไอ้เนยไปด้วย”
“ใครอ้ะ” สาวน้อยถามทันทีที่เห็นเพื่อนวางสายและเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงยีน
“แกนี่เผือกเสมอต้นเสมอปลาย”
“เชอ...”
“เออๆ” หนุ่มมาดเข้มยกมือยอมแพ้ “พี่ตาลไง เจ๊แกรู้ว่าฉันเพิ่งกลับ เลยชวนไปเลี้ยงเหล้าคืนนี้สี่ทุ่ม ไปด้วยกันสิ”
“ไปดิ” ตอบพลางพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย
“เฮ้ย!” กลายเป็นวันเฉลิมเสียเองที่สะดุ้ง “ผิดศีลข้อห้าสุราเมระยะนะไอ้เนย”
เพราะเท่าที่รู้ เพื่อนจอมเพี้ยนของเขาเพิ่งเข้าวัดเข้าวาราวกับจะบวชเป็นชีอยู่แล้ว แต่ทำไมอยู่ๆ อยากผิดศีลเสียอย่างนั้น
“สุราเมกินเป็นระยะๆ ใช่มะ” นวินดาหัวเราะเสียงขื่น เธอไม่เคยดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเลยสักครั้ง และตอนที่อุรัสยาเกิดเรื่องเพราะเหล้า ก็ทำให้เธอไม่อยากแตะมันเลย แต่ตอนนี้เธอทนไม่ไหวแล้ว นึกถึงราพณ์ทีไรเสียสติทุกที แล้วนี่ถ้าพรุ่งนี้เช้าเขามาอย่างที่พูดไว้จริงๆ...
มันหลอนมาก!
สาวน้อยส่ายหน้าแรงๆ ไล่ภาพชายที่แอบรักมากว่าสี่ปีแล้วอยู่ๆ ก็มาโผล่ห้องข้างออกไป แล้วกอดคอวันเฉลิมเดินออกจากมหาวิทยาลัย...อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลานัด จึงตั้งใจชวนวันเฉลิมไปเดินสำรวจตลาดหนังสือตามประสานักเขียนเงาแต่ ‘ขี้เห่อ’ เสียหน่อย จากนั้นก็ไปดูหนังนั่งกินขนมหวานไปพลางจนกระทั่งถึงเวลานัดหมาย
นวินดาและวันเฉลิมมาถึงร้านอาหารกึ่งบาร์ที่อยู่ใจกลางย่านสถานบันเทิงยามราตรี คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ แต่ร้านนี้ดูหรูและปลอดภัยกว่า มีการตรวจค้นอาวุธก่อนเข้าเสมอ ไม่นับบอดีการ์ดมาดเท่ที่ยืนกระจายทุกมุมของร้านอีกด้วย
“แหม...เหมือนร้านของพวกมาเฟียในนิยายเปี๊ยบ”
“แกก็ถือโอกาสเก็บข้อมูลไปเขียนสิ” วันเฉลิมบอกยิ้มๆ เมื่อหันไปแล้วเห็นดวงตาเป็นประกายแพรวพราวอยากรู้อยากเห็นของนวินดา
“แน่นอน” นักเขียนมือสมัครเล่นยิ้มซนๆ
ชายหนุ่มยักไหล่เบาๆ แล้วเดินไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่หน้าบาร์ บอกชื่อและเบอร์โทรศัพท์คนที่จองไว้ แล้วถูกพาไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านใน
“เสียงดนตรีเบาๆ แต่ใจสั่นโคตรๆ” นวินดายกมือทาบอกแล้วทำตาโต “ฉันควรไปตรวจโรคหัวใจไหม”
“ควร” หนุ่มหล่อพยักหน้าจริงจัง “แกควรไปตรวจว่าทำไมใจง่ายมาก”
“ทำไมต้องแรงด้วยล่ะเหลิมเว้ย” นวินดาค้อนปะหลับปะเหลือก แล้วหันไปสั่งเครื่องดื่ม พอดีกับที่ตุลยดาส่งข้อความมาบอกว่าจะมาถึงช้าสักสิบห้านาทีเพราะรถติด
วันเฉลิมนั่งคุยเล่นกับนวินดาไปพลาง คอยปรามเพื่อนไปพลาง ไม่รู้ว่ามันไปประสบพบเจอชะตากรรมอะไรมา พอสั่งค็อกเทลดื่มไปแก้วเดียว ก็ติดใจสั่งมาอีกเป็นเหยือก จนเริ่มตาปรือพูดไม่รู้เรื่อง ทั้งยังห้ามไม่ฟังอีก
“เบาเนย...เบา” คราวนี้ไม่แค่ส่งเสียงห้ามแล้ว แต่เขาต้องดึงมือเล็กของเธอที่กำลังยกแก้วจ่อริมฝีปากไว้ก่อนที่จะเมาพับไปจริงๆ
“เหลิมเว้ยนี่” คนเมาไม่รู้ตัวยอมวางแก้วลงก็จริง แต่ยังปรายตามองค้อนเพื่อน
“แกกลุ้มใจอะไรนักหนาวะ เมาก่อนเจ๊ตาลมาแล้วจะคุยกันรู้เรื่องหรือ”
“นี่ฉันเมาหรือ” สาวน้อยจิ้มอกตัวเองอย่างงงๆ แต่พอเพื่อนพยักหน้า เธอก็พยักหน้าตอบอย่างว่าง่าย “ไม่กินแล้วก็ได้ เดี๋ยวเมา”
“ไม่ทันแล้วไอ้เนย” วันเฉลิมส่ายหน้าปลงๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถามจริง แกไปเจออะไรมา ฉันสังเกตมาทั้งวันแล้ว ต่อให้แกทำฉีกยิ้มบ้าบอจนเหมือนเด็กไม่เต็มยังไง แต่แววตาแกมันฟ้องว่าแกไม่ได้มีความสุขจริงๆ หรอก”
คำพูดของเพื่อนทำเอานวินดาชะงัก เจ็บจี๊ดที่หัวใจราวกับถูกเข็มตำ เธอมองเพื่อนด้วยสายตาซาบซึ้ง ไม่คิดว่าจะมีใครทันสังเกต แต่วันเฉลิมก็มองออก ทำเอาซึ้งน้ำตาแทบร่วง
“อย่าร้องนะไอ้เนย ฉันเป็นเพื่อนที่ดีก็จริง แต่แกไม่ต้องซึ้งขนาดนี้ก็ได้”
“เปล่า” สาวน้อยส่ายหน้าแรงๆ แล้วตอบเสียงเบลอๆ “ฉันแค่ฟังไม่รู้เรื่อง แกพล่ามอะไรออกมายืดยาวขนาดนี้วะเหลิม”
น้องจะเลิก แต่เหมือนมีคนไม่อยากให้เลิกน้าาาาา พี่คนหน้ายักษ์สมชื่อคนนั้นอะๆ ><
อ่านแล้วเป็นยังไงคุยกันบ้างน้าาาาาาาาาา
เหมือนเดิมค่ะ ฝากผลงานเรื่องอื่นๆ ด้วยนะคะ
#หากรู้สักนิดว่ารัก ((You're my smile)) #ยิ้มหวานของคุณกูร (ฐากูร+กตัญญู)
Dek-D : https://bit.ly/3xTfeLF
อยู่ๆ เด็กคนนั้นก็บอกว่าเธอ "ท้อง" กับเขา แถมมาถามหาความรับผิดชอบ แต่ให้ตายเถอะ...เขาไม่มีทาง 'กินเด็ก' แน่ๆ!
"ยิ้มท้องกับคุณกูรค่ะ แต่ถ้าไม่อยากรับผิดชอบก็ไม่เป็นไร ยิ้มหาพ่อคนใหม่ไว้ให้ลูกแล้วค่ะ!"
"ถ้าอย่างนั้นก็มาทบทวนกันหน่อยว่าฉันทำ 'ท่า' ไหนเธอถึงท้องได้!”
#อย่าไว้ใจทาง โปรดวางใจรัก (I’ ll always be by your side) (อัศวิน + กุลนิษฐ์)
Dek-D : https://bit.ly/3tqu8YH
เพราะถูกคนรักเก่าหักหลัง เธอเลยตกที่นั่งลำบาก แถมยังไปมีอะไรกับผู้ชายท่าทางประหลาด หน้าดุเหมือนโจร ปากก็ร้าย ใจก็ดำ
"คุณจะช่วยฉันใช่ไหม"
"ขึ้นเตียงสิ...แล้วผมจะให้ตามที่คุณต้องการ"
Be with You #พี่กรรณเจ้าขา (กรรณ + เจตปรียา) Dek-D : https://bit.ly/3mZAaOu
เขาเฝ้ามองเธอมาแสนนาน แต่เขาจะไม่ยอมเป็นแค่พี่ชายอีกต่อไปแล้ว
"เริ่มจากย้ายมาอยู่ด้วยกันก่อน...แล้วเจ้าขาก็ลองรียกพี่ว่า 'สามี' ดีไหม"
ความคิดเห็น