คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 3 คู่ (เวร) กรรม (3)
“อิบ้าเชษ!” ตุลยดาร้องลั่น และชกแขนกำยำเต็มแรง
“โอ๊ย! เบาสิตาล แรงแกไม่ใช่น้อยๆ นะเว้ย”
“แกจะหลอกฉันอีกนานไหม”
“แต่รู้ว่าหลอกก็เต็มใจให้หลอกนี่จ๊ะว่าที่เมียจ๋า” ผลของการเล่นไม่เลิก คือถูกตุลยดาชกเข้าอีกที
“หุบปากแกไปเลย ฉันจะขายไม่ออกเพราะแกนี่แหละ” เรียกได้ว่าตั้งแต่เหยียบย่างลงที่เกาะแห่งนี้ เธอก็ถูกเชษฐาล้อเลียนเรื่องคำสัญญาทั้งยังเรียกว่า ‘เมียจ๋า’ จนคนจะได้ยินไปทั้งเกาะอยู่แล้ว ถ้าเธอสามสิบแล้วยังไม่ได้ลงจากคานจริงๆ เธอจะวางยาไอ้เพื่อนบ้านี่เป็นคนแรก!
“ก็บอกว่าฉันซื้อเอง ซื้อมานั่งบนคาน เลี้ยงหลานให้ฉันไง”
“พูดถึงหลาน...เด็กๆ เป็นยังไงบ้างล่ะ ฉันไม่ได้เจอนานมาก แม้แต่น้ำรินยังไม่มีเวลาไปหาเลย” ตุลยดาไม่ถือคนบ้าที่พูดไปเรื่อยอย่างเชษฐา แต่กลับถามไปถึงเด็กๆ แทน แฝดเอพริลกับอิสตันอยู่กับอุรัสยาที่อังกฤษ ต้องสบายดีอยู่แล้ว เพราะมีทั้งแม่ทั้งพี่เลี้ยง ไหนจะครอบครัวของเฮคเตอร์ที่เห่อหลานได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย และอีกอย่างเธอก็วิดีโอคอลคุยกับอุรัสยาบ้างสัปดาห์ละครั้ง แต่กับนวินดาแม่ของยายหนูน้ำรินหรือเด็กหญิงรวินทร์นิภาที่อยู่ไทยแท้ๆ แต่กลับไม่ค่อยคุยกันเลย
“ทำไมแกไม่ไปที่บ้านล่ะ ทำเหมือนไม่เคยไปไปได้” หนุ่มหน้าหวานเท้าคางถาม
“ก็แหม...” ตุลยดาทำหน้าปั้นยาก ใช้มือเกาต้นคอเบาๆ แล้วตอบเสียงเบา “ไม่รู้สิ ฉันไปบ้านแกบ่อยๆ ตั้งแต่เด็กจนจะแก่ ไปจนแทบจะเป็นบ้านตัวเองก็จริง แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนก่อนนี่หว่า”
“ยังไง”
“เอื้อยก็ไม่อยู่ แกก็ไม่อยู่ อยู่แค่พี่ราพณ์ ไอ้เนย ยายหนูน้ำริน...มันก็แปลกๆ นะ”
“กลัวพี่ราพณ์ละสิ”
“เออ” หญิงสาวรับคำตามตรง “กลัวมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้นี่แหละ”
“แกไปดูใหม่ พี่ชายฉันออกจะใจดี ตามใจลูกเมียจนเสียคน แต่มาเขี้ยวกับฉันเนี่ย” หนุ่มหน้าหวานได้ทีก็บ่นพี่ชายให้ฟังทันที
“ก็แกมันแบบนี้ แกน่ะสามสิบแล้วนะเชษ ไม่เห็นได้เรื่องได้ราว แกดูพี่ราพณ์สิ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุเท่าไหร่ เลี้ยงดูพวกแกฝาแฝดจนได้ดีขนาดนี้ ลองเทียบอายุตอนนี้ของแกกับพี่ราพณ์ดู”
“ถ้าไม่รู้อะไรก็เงียบไปก่อนหนูน้อย” หนุ่มหน้าหวานหัวเราะหึๆ นัยน์ตาคมหวานเป็นประกายแปลกๆ ชวนขนลุก
“อะไรของแก”
“เปล๊า!” เพียงครู่เดียวเท่านั้น เชษฐาก็กลับมาเป็นคนไร้สาระเหมือน
เดิม ดีที่ติ่มซำมาเสิร์ฟเสียก่อน จึงเบี่ยงประเด็นได้ทัน “ติ่มซำมาแล้ว กินเยอะๆ ไอ้ตาล ฉันว่าช่วงนี้แกเอาแต่นอนจนผอมหัวโตหมดแล้ว”
“เขาเรียกหุ่นดีย่ะ!” หญิงสาวตวัดตามองค้อน แล้วส่งแก้วน้ำดื่มให้เขาบ้าง
“หุ่นไม้เสียบผีน่ะสิ ตัวแกจะขาดกลางอยู่แล้วไอ้ตาล กินๆ เข้าไปเถอะ ให้อวบกว่านี้สักหน่อย จะได้...” เจ้าของเสียงเข้มหยุดตัวเองได้ทันก่อนที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในก้นบึ้งในหัวใจออกมา
“อะไร” มีหรือที่จะปิดบังคนอย่างตุลยดาได้ ในเมื่อรู้จักกันมาตั้งแต่วัยรุ่น คุ้นเคยกันมาจนรู้ไส้รู้พุงกันทุกขดเลยก็ว่าได้
“เปล่า...แค่จะบอกว่าถ้าอวบกว่านี้สักหน่อยก็กำลังสวยเลย”
“ตอนนี้ฉันก็สวยนะ” หญิงสาวตอบหน้าตาเฉย
คนฟังไม่เถียงต่อ แต่ทำเพียงหัวเราะหึๆ ยามนึกไปถึงเมื่อคืนที่อยู่ๆ
ตุลยดาก็ลุกขึ้นมาแต่งหน้าเสียเลอะเทอะไปหมดเพราะคิดว่าตัวเองไม่สวย
ไม่หรอก...
เชษฐาหัวเราะและส่ายหน้าเบาๆ ผลคือถูกสาวเจ้าตบบ่าอีกตามเคยเพราะคิดว่าเขาไม่เห็นด้วยกับความ ‘สวย’ ของเธอ โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าสำหรับเขาแล้ว...ตุลยดามีมากกว่าความสวย
“อ้ะตาล...แกชอบฮะเก๋าไม่ใช่หรือ” ไม่แค่พูดอย่างเดียวเท่านั้น แต่เชษฐายังยื่นทั้งเข่งฮะเก๋าและขนมจีบปูให้เพื่อน เพราะจำได้ดีว่ามันคือของโปรดเธอ
“แท้งกิ้ว” เจ้าของเสียงหวานตอบด้วยความเคยชิน เพราะเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเชษฐาก็มักบริการเธออยู่แล้วไม่ทันสังเกตความเอาใจใส่ของเขา
“แล้วนี่พอแกกินหรือ ทำไมแกชอบตามใจฉัน ไม่คิดเองเลยว่าอยากกินอะไร”
“ฉันกินได้หมดแหละน่า” เชษฐาตอบขอไปที แล้วยักคิ้วหลิ่วตากวนประสาทเธอต่อ ผลคือถูกสาวเจ้ามองค้อนเข้าวงใหญ่ แต่ก็นอกจากไม่ถือแล้ว ยังเรียกเสียงหัวเราะจากเชษฐาได้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก เพราะยิ่งเขาแกล้ง ยิ่งเธองอนและมีปฏิกิริยากลับ นั่นหมายความว่าเธอยังใส่ใจและเห็นเขาอยู่ในสายตาเช่นกัน ถึงวิธีการจะทำให้เธอหงุดหงิดไปหน่อยนิดก็ตาม
หนุ่มสาวนั่งกินต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งสังเกตเห็นผู้คนมากมายทั้งชาวบ้าน นักท่องเที่ยว หรือไม่แต่คนในร้านเองที่ละมือจากตะเกียบและอาหารตรงหน้าไปออกันที่หน้าร้าน
“อะไรกันน่ะ” สาวร่างแบบบางลุกพรวด เธอคงออกไปเป็นหนึ่งใน ‘ไทยมุง’ แล้ว ถ้าเชษฐาไม่คว้ามือไว้ก่อน
“จะไปไหนน่ะ”
“ไปดูว่าเขามีอะไรกันน่ะสิ” ตุลยดาตอบรัวเร็ว ถึงจะทำข่าวกีฬา เพราะงานข่าวที่ทำมานานทำให้เป็นคนหูตาไว พร้อมที่จะทำงานเสมอ ต่อให้ทั้งตัวจะมีแค่โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวก็ตาม
“พักเลยตาล แกมาเที่ยวหรือมาทำงานเนี่ย แล้วอีกอย่างนะ ตอนนี้แกไม่ได้เป็นนักข่าวแล้ว”
“เออว่ะ” อดีตนักข่าวสาวพยักหน้ากับตัวเอง ยอมรับว่าลืมตัวไปเช่นกัน แต่พอจะนั่งลงกินต่อก็กินไม่ได้แล้ว
“เออว่ะแล้วก็นั่งลงสิวะตาล”
“ขอนิดนึงน่า ไม่อย่างนั้นคาใจ แกไม่เป็นฉันแกไม่เข้าใจหรอก”
“สรุปนี่นิสัยนักข่าวหรือเพราะแกมันชอบขุดเผือก”
“ฉันคิดว่าอย่างหลัง” หญิงสาวตอบแล้วหัวเราะเบาๆ แล้วคว้าโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว “ไปนะ ขอห้านาที เดี๋ยวมารายงาน”
“ตาล!” เจ้าของเสียงเข้มร้องเรียก เพราะโทรศัพท์ที่เธอถือไปไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นของเขาต่างหาก
แต่ก็ดี...ขอดูความลับหน่อยแล้วกัน
ปลายนิ้วเรียวของหนุ่มหน้าหวานจิ้มลงบนหน้าจอสมาร์ตโฟนของตุลยดา และเจอเข้ากับด่านแรกคือต้องกรอกรหัส แต่แค่เรื่องแค่นี้ไม่เกินความสามารถของเชษฐา ไม่ใช่เพราะเขาแฮ็กมือถือเธอได้ แต่เพราะรู้ดีว่าตุลยดาเป็นคนง่ายๆ เธอมักตั้งรหัสทุกอย่างเป็นวันเกิดหรือไม่ก็เวลาเกิดของเธอทั้งนั้น
แล้วก็จริงดังคาด...แค่ใส่ตัวเลขวันเดือนปีเกิดของตุลยดาเข้าไป ก็สามารถ
ปลดล็อกโทรศัพท์ของเธอได้อย่างง่ายดาย
ว่าแล้วเชียว!
เชษฐายิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วส่ายหน้าเบาๆ อ่อนใจกับการทำตัวตามสบายไม่คิดจะระวังระแวงเลยสักนิดของตุลยดา เขาเข้าไปดูแอปพลิเคชันสื่อโซเชียลทั้งหมดของตุลยดาอย่างต้องการจับผิด จนกระทั่งเจอเข้ากับชื่อของ ‘ไอ้หน้าปลาตีนสำลักโคลน’ นั่น
ปราณต์...
ไหนว่าไม่ได้ติดต่อกันแล้วไง!
เพียงแค่เห็นชื่อผู้ชายเพียงคนเดียวที่เคยทำให้ตุลยดาเสียน้ำตาจะเป็นจะตายตั้งแต่วัยรุ่น ในใจเชษฐาก็เดือดดาลขึ้นมาทันที เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อ ‘จัดการ’ ให้หมอนั่นออกไปจากชีวิตของเธอให้เร็วที่สุด ในเมื่อหมอนั่นคือหนังสือเล่มเดิม...แน่นอนว่ามันก็ต้องจบแบบเดิมเช่นกัน
อาาาาาาาาาาาาา
เมียจ๋าของเชษยังติดต่อแฟนเก่าอยู่
มันยังไงกันเนี่ยยยยยย
เชษยอมได้เหรออออออออออ ><
ความคิดเห็น