คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 2 สถานที่เกิดเหตุ (4)+e-book มาแล้วค่ะ
ยามราตรีดึกสงัด สายลมทะเลพัดเอื่อยยิ่งทำให้อากาศยามค่ำคืนเย็นลงเรื่อยๆ ดวงจันทร์ที่ส่องสว่างเต็มดวงเผยให้เห็นน้ำทะเลที่ขึ้นมาจนเกือบถึงระเบียงหลังบ้านพักที่ติดทะเล มองไม่เห็นชายหาดอีกแล้ว แต่ก็ทำให้บรรยากาศ
โรแมนติกเหลือเกินยามได้มองดวงหน้านวลเนียนใต้แสงจันทร์
คงจะดีกว่านี้...ถ้าเธอไม่เรอออกมาเสียก่อน
“เออะ...”
เชษฐาหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง บรรยากาศหวานซึ้งเมื่อครู่ถูกตุลยดา
ทำลายลงไม่มีเหลือ โดยที่ ‘หมาน้อย’ ตัวดีของเขายังไม่รู้ตัวเลยสักนิด แม้จะถูกเขาอุ้มเข้ามาในห้องนอนที่เปิดประตูออกสู่ทะเลได้ก็ตาม
“ตาล” หนุ่มหน้าหวานเรียกเพื่อนสนิท ปลายนิ้วกร้านแตกลงบนผิวแก้มเนียนละเอียดของสาวตรงหน้า ไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้น
“เช้าแล้วหรือ”
“ยัง...แต่นี่ก็ตีสามแล้ว แก่ควรไปล้างหน้าล้างตาแล้วนอน”
“อ้าวเหรอ” ตุลยดาถามเสียงงัวเงีย สองมือยกขึ้นเกาศีรษะจนเรือนผมยาวสลวยยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เธอพยายามยันกายลุกขึ้น แต่เดินไปได้สองก้าวก็ล้มไม่เป็นท่า
“โอ๊ย!”
“เอาเข้าไป” เชษฐาส่ายหน้าเล็กน้อย มองสาวตัวเล็กบางที่พอล้มก็นั่งฟุบหน้ากองกับพื้น ไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย จึงต้องเรียกเธออีกครั้ง
“ตาล...ไป จะพาไปเข้าห้องน้ำ”
“อื้อๆ” คนเมาเงยหน้าแล้วยิ้มหวานเยิ้ม “ขอบใจเอื้อย แกนี่น่ารัก”
“ก็บอกว่าฉันคือเชษ!” ถูกมองข้ามแรกๆ ก็พอทำเนา แต่เจอบ่อยครั้งเข้าก็ไม่ไหว โดยเฉพาะกับตุลยดา คนที่เขาอยากมีตัวตนด้วยมากที่สุด แต่ถึงจะถูกมองข้ามอย่างไร แต่เขาก็ใจแข็งกับเธอไม่ลงเสียที สุดท้ายเชษฐาก็ประคองร่างบอบบางขึ้นแล้วอุ้มไปส่งถึงในห้องน้ำแต่โดยดี
“อ่า...โทษทีเชษ”
“แกต้องบอกว่า ‘ขอบใจ’ ไม่ใช่ ‘โทษที’ เข้าใจไหม”
“เข้าใจ” ตุลยดารับคำสั่งแล้วขยับตัวเตรียมถอดเสื้อผ้าหน้าตาเฉย
“ตาล!” เชษฐาร้องเสียงดัง พยายามเรียกสติคนเมาที่ตอนนี้ไม่รับรู้สติอะไรอีกแล้ว จนสุดท้ายเขาต้องเป็นฝ่ายถอย แต่ก่อนออกไปก็มิวายกำชับ “อย่าล็อกห้องนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกฉัน”
“ขอโทษเอื้อย” เธอตอบเสียงยานคาง
“แกต้องบอกว่า ‘ขอบใจเชษ’ ต่างหาก!” หนุ่มหน้าหวานส่ายหน้าเบาๆ แล้วปิดประตู แต่ก็ไม่ยอมห่างไปไหน เขาคอยเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง ฟังและสังเกตว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ คอยเรียกชื่อให้เธอขานรับ เผื่อว่า ‘ไอ้หมาน้อย’ ของเขาจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน
เสียงสายน้ำไหลตกกระทบพื้นกระเบื้องดังเคล้าเสียงเพลงดัง
หงุงหงิงตลอดเวลา บ่งบอกว่าคนด้านในคงกำลังอาบน้ำสบายใจ จนกระทั่งเสียงน้ำและเสียงร้องเพลงหยุดลง ก็ทำเอาคนที่รออยู่ด้านนอกใจเสียเล็กน้อย เชษฐารีบเดินไปชิดประตูห้องน้ำแล้วออกปากเรียกทันที
“ตาล...ทำอะไรอยู่ ฉันเข้าไปได้ไหม”
ไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน ทุกอย่างเงียบเสียจนเชษฐาใจคอไม่ดี มือหนาคว้าลูกบิดประตูเตรียมจะเปิดเข้าไป แต่ก็ไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจคิด อยู่ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดเสียก่อน ทำเอาร่างสูงที่เตรียมโถมตัวเข้าไปถึงกับเสียหลัก เซไปชนกับสาวร่างเล็กที่อยู่ด้านในจนล้มลงไปทั้งคู่
และทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ ถ้าตุลยดาสวมเสื้อผ้าครบแล้ว ไม่ใช่มีแค่ชุดชั้นในและผ้าเช็ดตัวสีขาวเพียงผืนเดียวเท่านั้น!
“ตาล...” สภาพของหญิงสาวในอ้อมกอดทำเอาเชษฐากลืนน้ำลายฝืดคอ จริงอยู่ที่เขาคิดไม่ซื่อ แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะคิดเอาเปรียบตอนที่เธอไม่ได้สติอย่างตอนนี้
“เอื้อย...”
“จะให้บอกอีกกี่ทีว่าฉันคือเชษ!” คนไม่สำคัญได้แต่ทอดถอนใจ สองมือจับชายผ้าเช็ดตัวทั้งสองข้างให้พันรอบลำตัวบอบบางไว้ แล้วประคองคนเมาจนเพี้ยนขึ้นแล้วพากลับไปที่เตียง
“เชษๆ”
“อะไร”
“แกว่าฉันสวยไหม...” ถามแล้วก็ไม่รอคำตอบเลยสักนิด รีบตัดพ้อ
เสียงดัง “แกว่าไม่สวยเหรอ”
“ยังไม่ได้ตอบ” เป็นอีกครั้งที่เชษฐาถอนหายใจ เขากดไหล่เมรีขี้เมาให้นั่งลงกับเตียง จากนั้นจึงมองหากระเป๋าเดินทางของตุลยดา ต้องหาเสื้อผ้าชุดนอนให้เธอสวมก่อนที่จะตัวเขาเองนี่แหละที่จะอดใจไม่ไหว
“มีแต่คนบอกว่าฉันไม่สวย ปากก็กว้าง ไม่มีความเป็นผู้หญิง...เฮ้อ”
“แกสวยสำหรับฉันเสมอน่าตาล” หนุ่มหน้าหวานตอบทั้งที่ยังไม่มองหน้า เพราะมัวแต่เปิดกระเป๋าเดินทางของสาวเจ้า
“แกก็เคยบอกว่าฉันไม่สวยนะเอื้อย”
“เฮ้อ...” คนถูกเข้าใจว่าเป็นแฝดน้องก็คร้านจะเถียงกับเธอแล้ว จึงจำใจยอมรับสภาพ สวมรอยเป็นน้องสาวฝาแฝดไปก่อน แล้วตอบเสียงเครียด “ถ้าฉันบอกว่าแกสวย แกได้หาเรื่องเยาะเย้ยฉันน่ะสิตาล”
“แต่ตอนนี้สวยใช่ไหม”
“อือ” เชษฐาตอบส่งๆ แล้วหันกลับมาหาโดยมีชุดนอนเสื้อกล้ามกับกางเกงขายาวผ้าพลิ้วสีเหลืองลายอุลตราแมนของเธอติดมือมาด้วย แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นว่าคนห่วงไม่สวยกำลังแต่งหน้าตัวเองอยู่เสียอย่างนั้น “ตาล!”
“หือ” คนเมาแล้วรั่วรับคำเสียงเลื่อนลอย
“วางลิปสติกของแกลงเดี๋ยวนี้ นี่มันตีสาม แกต้องนอน”
“ไม่ใช่จะเช้าหรือ”
“จะเช้าน่ะใช่ แต่แกต้องนอน ตอนนี้แกอยู่ทะเล พรุ่งนี้ไม่ต้องทำงาน” พูดแล้วยื่นชุดนอนให้ “สวมเดี๋ยวนี้ แล้วนอนไปเลย ฉันจะเช็ดหน้าให้”
“ก็ได้” ตุลยดารับคำ เธอโยนทั้งลิปสติก แป้ง อายไลเนอร์และดินสอเขียนคิ้วที่เป็นดังอวัยวะที่สามสิบสามทิ้งไว้บนเตียงแล้วล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย
เห็นคนเมายอมสงบปากสงบคำแล้ว เชษฐาก็ค่อยโล่งใจ เขาคบกับเธอมานานพอที่จะรู้ว่าเวลาตุลยดาเมาเธอจะไม่อาละวาด ไม่โวยวาย อย่างดีก็แค่พูดมาก พูดไปเรื่อยเปื่อย เพ้อเจ้อไปเรื่อย แต่ไม่ทำอะไรแผลงๆ อย่างคราวนี้ก็เช่นกัน แค่บอกดีๆ เธอก็เข้าใจและทำตามอย่างไม่อิดออด
แต่หลับไปเลยจะดีที่สุด...
เชษฐาคิดแล้วเดินกลับไปรื้อกระเป๋าเดินทางของตุลยดา ดีที่มีน้องสาว เขาจึงรู้ว่าอะไรคือคลีนซิงลบเครื่องสำอางของพวกผู้หญิง และรู้ว่าต้องทำอย่างไร เพียงไม่นานเขาก็หาได้ทั้งสำลีและคลีนซิง รวมทั้งเตรียมผ้าขนหนูชุบน้ำบิดให้พอหมาดจนเรียบร้อย จากนั้นจึงเดินกลับไปหาตุลยดา
“ไอ้หมาน้อยเอ๊ย” เจ้าของเสียงเข้มบ่นเบาๆ ยามมองคนอยากสวยที่แต่งหน้าเสียดูไม่ได้ ทั้งที่ปกติก็เวลาเธอแต่งหน้าก็แต่งออกมาไม่มากไม่น้อยเรียกได้ว่าสวยกำลังดี แต่พอเมาเข้าไปแล้วก็แทบเป็นงิ้วทีเดียว
เชษฐาบรรจงเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้านวลเนียนของสาวเจ้าอย่างเบามือ จนกระทั่งสะอาดเรียบร้อยแล้ว จึงใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำที่เตรียมไว้เช็ดหน้าให้เธออีกที
“เชษ...” เสียงหวานดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะลืมตาขึ้นมองเขา
การที่อยู่ๆ คนที่คิดว่าหลับไปแล้วก็ลืมตาขึ้นแล้วมองด้วยสายตาหวานเยิ้มส่งผลกับเชษฐาอย่างจัง ราวกับรอยยิ้มของเธอค่อยๆ กัดเซาะกำแพงแห่งความยับยั้งชั่งใจของเขาให้พังทลายลงทีละน้อย
“จำได้แล้วหรือว่าฉันคือเชษ ฉันก็เพื่อนแก...ไม่ได้มีแค่ไอ้เอื้อยเสียหน่อย”
โถถถถถถถถถถถถถถถ
พ่อคู้นนนนนนนนนนนนนนนนนน
น้อยใจจจจ อยากมีตัวตนในสายตาตาล ก็อย่าไปกวนตีนสาวสิเชษ!!!
อบอุ่นมาก อบอุ่นตอนสาวหลับมันไม่ได้อะไรโว้ยยย
ความคิดเห็น