NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ ONE PIECE ] My name's Raiden Ei

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter IV - Episode 6

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 65





    แฟรงค์กี้เเละไรเดนเลือกที่จะเเยกทางกันเพื่อไม่ให้ถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับทั้งสองแก่พวกสายลับที่ต้องการแบบแปลน โดยที่เเฟรงค์กี้นั้นจะเป็นตัวล่อในการล่อให้พวกศัตรูเข้ามาหาตัวเองเมื่อพวกนั้นรู้ว่าแบบแปลนอยู่ที่เขา ส่วนไรเดนก็ต้องมุ่งหน้าไปหาไอซ์เบิร์กเพื่อทำการช่วยเหลือสมทบกับพวกลูฟี่ 



    จากสัมผัสพลังที่เธอเคยใส่ไว้ในครั้งเเยกทางกับพวกพ้อง  ตอนนี้ลูฟี่อยู่ที่คฤหาสน์ของไอซ์เบิร์กร่วมกับนามิ ช็อปเปอร์เเละโซโร  เช่นเดียวกับโรซินันเต้เเละซันจิ ซึ่งอยู่ด้วยกันเเต่เป็นคนละที่  



    ส่วนอูซป... ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่เรือแมรี่ 



    บางทีถ้าไม่เกิดเรื่องอะไรเเบบนี้ขึ้น พวกเราก็คงได้ปรับความเข้าใจกันเเล้ว 



    ไรเดนใช้ความสามารถสายฟ้าของตนเองเพิ่มความเร็วเพื่อที่จะย่นระยะเวลาการเดินทาง  ..ในยามค่ำคืนเเบบนี้ สายฟ้าสีม่วงเเลบผ่านไปตามซอกซอยรวมถึงผิวน้ำ สร้างความสว่างจนผิดสังเกต 










    ส่วนทางด้านของพวกลูฟี่นั้น ตอนนี้พวกเขาได้เผชิญหน้ากับเหล่า CP9 ซึ่งมีโรบินรวมทีมอยู่ด้วย โดยมีคุณไอซ์เบิร์กเเละพาวลี่ ช่างต่อเรืออีกคนที่ไม่ได้เป็นผู้ทรยศร่วมกับคนที่เหลือ ท่าทางบาดเจ็บกันทั้งคู่  ...ทั้งสองฝ่ายปะทะกันแต่ก็ดูเหมือนว่าฝ่ายของลูฟี่จะเสียเปรียบกว่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากความเหนือมนุษย์ของเหล่าซีพี ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี 



    อีกอย่างหนึ่ง CP9ต้องการที่จะเผาคฤหาสส์หลังนี้ในอีกสองนาที ไฟพวกนั้นจะค่อยๆลุดกลามมายังชั้นบนอย่างช้าๆ และพวกเขาไม่คิดที่จะปล่อยพวกเราออกไปอย่างแน่นอน ดังนั้นมีทางเดียวก็คือต้องสู้ 



    เมื่อเสียเปรียบ บวกกับผู้บาดเจ็บอีกสองคน เเถมยังมาต้องกังวลเกี่ยวกับโรบินเเละคฤหาสน์ที่กำลังจะโดนเผานี่อีก สถานการณ์ที่น่าปวดหัวเช่นนี้ มีเพียงอย่างเดียวที่พวกเราต้องพึ่งนั่นก็คือปาฏิหาริย์เเล้วล่ะ 



    กลุ่มหมวกฟางนักสร้างปาฏิหาริย์งั้นเหรอ ? 



    ของแบบนั้น—  



    เพล้ง !!  โครมม !!



    ทุกๆคนหลบเศษกระจกของหน้าต่างที่เเตกกระจายออกมาในทันทีที่ความงงงวยเองก็เกิดขึ้นในใจ ร่วมกับผนังปูนที่พังทลายลงมาอย่างไม่เหลือชิ้นดี สร้างควันฝุ่นสีเทาตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ จนบางคนต้องเอาเเขนเสื้อขึ้นมาบังใบหน้าเอาไว้เพื่อกันสิ่งแปลกปลอมเข้าตา 



    เกิดอะไรขึ้น !? 



    ใช้เวลาเล็กน้อยกว่าที่ควันจะจางหายไป ปรากฏเป็นร่างของหญิงสาวร่างสูงคนหนึ่งที่ยืนเเทนที่หน้าต่างซึ่งถูกทำลายไปในคราเเรก  ...ทุกคนในห้องมองที่เธอด้วยสีหน้าตื่นตะลึงชั่วขณะ โดยเฉพาะไอซ์เบิร์กที่เเสดงสีหน้าตกใจออกมามากที่สุด เขาไม่นึกว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีกหลังจากได้แบบแปลนไป  



    ก่อนจะเป็นลูฟี่ที่ตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยินดี 



    “ เอย์ !! ”  ชายหนุ่มกระโดดหยองด้วยความดีใจ 



    ลุจจิสังเกตผู้มาใหม่เล็กน้อย เขาไม่ได้เเสดงความเเปลกใจออกมาเเต่อย่างใด โดยรู้อยู่เเล้วว่าในกลุ่มหมวกฟางนั้นมีใครบ้าง 



    “ ถึงจะเพิ่มมาอีกหนึ่งคนก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก ”  ลุจจิพูดด้วยความใจเย็น 



    โรบินที่ได้ยินเก็บความตกใจเอาไว้ เธอรีบประสานมือเข้าด้วยกันทันที ก่อนจะตะโกนโพล่งใส่หน้าไรเดนด้วยความไม่พอใจปนกระวนกระวายใจ



    “ อย่ามาขวางนะ ! เอย์ ! ” 



    มือมากมายผุดขึ้นมาตามร่างกายของหญิงสาวเกศาสีม่วงราวกับดอกเห็ด เตรียมพร้อมสำหรับหยุดอะไรก็ตามตามคำสั่งของผู้ใช้พลังผลปีศาจ เเต่ทว่ายังไม่ทันให้พวกมันได้ประทุษร้ายอะไรใส่เธอ มันก็โดนง้าวเล่มหนาประจำกายตวัดฟันเข้าจนขาดไปซะก่อน  



    ไรเดนมองโรบินเเละคนอื่นๆด้วยสายตาหน้ากลัว ทำให้สาวผมดำชะงักตัวไปเล็กน้อย คิดว่าไรเดนกำลังโกรธที่เธอทรยศออกจากกลุ่มไป  เเละหมายจะฆ่าเธอในทันทีแน่ๆ 



    ..ทั้งนี้ความจริงแล้วไม่ใช่เพราะว่าไรเดนกรุ่นโกรธหรือเคียดเเค้นอะไรโรบินเเต่อย่างใด  มันเป็นเพราะว่าเธอกำลังพยายามระงับอารมณ์ของตนเองเอาไว้อยู่ 



    อารมณ์ที่อยากจะกำจัดคนที่ทำร้ายพวกพ้องเธอ หรือคนที่ทำให้พวกพ้องของเธอต้องเดินเส้นทางอื่น 



    ดวงตาของโรบิน... มันกลับมาไร้ชีวิตอีกครั้ง.... 



    เเละตอนนี้เธอเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างเเล้ว 



    ซึ่งถ้าหากไรเดนไม่ระงับอารมณ์ตนเองเอาไว้จนปลดปล่อยพลังออกมา พายุได้เข้าซัดเมืองหลวงแห่งน้ำแห่งนี้จนมันจมลงสู่ก้นทะเลเเน่ๆ  เพราะเมืองนี้ส่วนใหญ่เเล้วประกอบไปด้วยน้ำมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นถ้าหากมันเจอเข้ากับฝนพายุขนาดมหึมาละก็ มีหายนะตามมาเป็นระนาวเเน่ 



    อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ให้ความสนใจแก่ไอซ์เบิร์กเป็นอันดับเเรก เพราะถ้าหากเธอมุ่งตรงไปยังไอซ์เบิร์กซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มากมายกับกลุ่มหมวกฟาง ความสงสัยจะถูกตั้งตรงมายังเธอทันที 



    แม้คนธรรมดาอาจจะมองข้าม เเต่สายลับระดับสูงอย่างพวกเขาไม่มีทางที่จะมองข้ามมันไปอย่างแน่นอน 



    อย่าให้พวกเขารู้ว่าเธอเป็นผู้ถือครองเเบบเเปลนคนปัจจุบันเร็วเกินไปนัก ไม่อย่างนั้นเเผนมันก็จะเสียเปล่าหมด 



    “ เอย์ ! คนพวกนี้เเข็งเเกร่งมาก ระวังด้วยนะ ! ”  นามิตะโกนบอกเพื่อนสาว 



    ไม่รอให้ไรเดนได้ทันตั้งตัว ลุจจิรีบพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับใช้ท่าดัชนีของตนเองโจมตีใส่ไรเดนทันที อานุภาพของมันสามารถเจาะทำลายกายเนื้อที่ไร้ความเเข็งเเกร่งได้อย่างง่ายดาย  เเต่ทว่าด้วยความระเเวดระวังตัวเป็นทุนเดิมของเธอเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ทำให้หญิงสาวสามารถหลบมันได้อย่างรวดเร็ว 



    ค่อนข้างอันตราย.. เธอประเมิน .



    แม้จะพลาดเป้า เเต่ลุจจิก็ไม่ได้ใส่ใจ เขามุ่งตรงโจมตีร่างบางต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน ยังไงซะตัวอันตรายที่สุดในนี้ก็คือไรเดน เขาต้องกำจัดเธอออกไปก่อนเป็นอันดับเเรก ส่วนพวกที่เหลือไม่ว่าอย่างไรก็ค่อยไว้จัดการทีหลัง 



    ไรเดนหลบหลีกการโจมตีของลุจจิได้ทุกท่วงท่า ความเร็วของชายตรงหน้ามีมากพอๆกับเธอซึ่งมีพลังสายฟ้าเป็นตัวช่วย  ...เพราะนอกจากการทำลายล้างระดับพกาฬของสายฟ้าเเล้ว ความเร็วก็ถือเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่งของเธอเช่นกัน 



    โรบินที่ยืนอยู่เตรียมตัวที่จะหลบออกไป สถานที่นี้ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่ 



    “ หนอยเเน่ !! ไม่ยอมให้ทำร้ายเอย์หรอก ! ” 



    ลูฟี่ผู้เลือดร้อนวิ่งเข้าใส่ลุจจิที่ยังคงง่วนอยู่กับการต่อสู้กับไรเดนทันที ทว่าก็โดนบรูโน หนึ่งในCP9ขวางเอาไว้ซะก่อน ทั้งสองจึงเกิดการปะทะกัน แต่ก็ตามฉบับเดิม ลูฟี่ไม่สามารถสู้กับพวกเขาเหล่านี้ได้ในตอนนี้ จึงโดนซัดออกไปอย่างรวดเร็ว ร่วมกับนามิ ช็อปเปอร์เเละโซโรที่เเทบจะโดนลูกหลงไปด้วย 



    ความเหนือมนุษย์ของCP9ไม่ใช่อะไรที่จะมองข้ามได้  ในระหว่างนั้น ความเร็วที่ราวกับสายลม กับความเร็วที่ราวกับสายฟ้าได้เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด สร้างเอฟเฟกต์เสียดสีกันเบาๆ ไรเดนควงง้าวทั้งโจมตีเเละตั้งรับไปมาอย่างอิสระ 



    ดูจากสถานการณ์ของทั้งคู่เเล้ว ลุจจิเหมือนจะได้เเผลจากคมง้าวของไรเดนมาบางจุด ไม่ว่าจะขา เเขนหรือลำตัว ใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนเเรกมีเเต่ความนิ่งเรียบเริ่มที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาหน่อยๆ 



    ไรเดนสามารถต่อสู้ได้เรียบเคียงกับลุจจิที่ฝึกฝนร่างกายมาอย่างหนักหน่วง... 



    สู้กันหนึ่งๆต่อไปก็มีเเต่จะเสียเปรียบ เพื่อความรวดเร็วเเละเเม่นยำของเเผนการ ดังนั้นคาคุจึงเข้ามาสมทบกับลุจจิ กลายเป็นสองต่อหนึ่งอย่างเสียศักดิ์ศรี โดยการใช้เท้าวายุของตนเองเตะเข้าที่สีข้างของไรเดน บวกกับดัชนีของลุจจิที่กำลังจะส่งตรงถึงกลางอกของเธอ 



    เคร้ง !! 



    หญิงสาวใช้ง้าวของตนเองกันทั้งลูกเตะเเละนิ้วของทั้งคู่เอาไว้  ...ในขณะเดียวกัน สายฟ้าสีม่วงก็ได้ลาดผ่านเข้าสู่ร่างกายของอีกฝ่ายจนคาคุเเละลุจจิต้องถอยตัวออกมา 



    ด้านของไรเดนเอง เธออยากจะระเบิดพลังใช้การโจมตีวงกว้างใส่พวกของศัตรูทั้งหมดในคราวเดียวเหมือนครั้งก่อนที่ถล่มคุกหินไคโรของคร็อกโคไดล์ ...เเต่ทว่าคราวนี้มันมีผู้บาดเจ็บอยู่มากเกินไป หากทำอะไรอุกอาจละก็ พวกเขาอาจจะตายได้ 



    ในขณะเดียวกัน.. เธอก็หันไปมองโรบินที่กำลังจะก้าวเท้ากระโดดออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ 



    “ หยุด ” 



    โรบินชะงักเท้าของเธอเอาไว้ทันทีที่คำประกาศิตถูกส่งมา เธอรู้สึกเหมือนว่าจะเคยได้ยินคำๆนี้มาจากที่ไหนสักที่มาก่อน ดังนั้นหัวจึงพยายามนึกย้อนกลับไป



    จำได้เเล้ว... ไรเดนเคยพูดกับเธอในอลาบัสต้านี่เอง



    เเต่ทว่าคราวนี้ดูเหมือนจะเเตกต่างออกไปซักหน่อย ตรงที่ว่าไม่มีง้าวเล่มใหญ่มาจ่ออยู่ที่กลางลำคอของเธอ หรือน้ำเสียงข่มขู่ชวนสยดสยองจากริมฝีปากบาง 



    และอีกอย่างหนึ่ง.. คือเธอไม่ได้หยุดตามคำสั่งของหญิงสาว 



    ตึก.. 



    “ โรบิน !! ”  ทุกๆคนร้องเรียกเธอ 



    แต่ก็ไม่ทันการ  โรบินได้จากไปแล้ว... 



    ลุจจิละเลิกที่จะต่อสู้กับเธอต่อ เนื่องจากตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เครื่องจุดไฟจะทำงานสำหรับเผาคฤหาสน์หลังนี้เเล้ว เขาไม่ประมาทอีกต่อไป เเละคิดที่จะจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว 



    “ ไหนๆก็ไหนๆเเล้ว.. จะให้ดูอะไรดีๆเป็นการส่งท้ายก็เเล้วกัน ” 



    ในไม่ช้า.. ร่างกายของเขาก็เกิดการเปลี่ยนเเปลงบางอย่าง 



    ขนาดลำตัวที่ใหญ่ขึ้นจากปกติ ร่างกายที่ควรจะเป็นของมนุษย์เปลี่ยนเเปลงไปทีละน้อยๆ กลับกลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เหนือความเข้าใจ 



    ผลปีศาจ...  สายโซออน 



    ลุจจิกลายเป็นเสือดาวในร่างมนุษย์ เเละขนาดมันใหญ่โตขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า 



    ไรเดนเผชิญหน้ากับลุจจิ เธอเงยขึ้นไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งเรียบ ไม่มีวี่เเววความหวาดหวั่นอยู่ในนั้น ขณะเดียวกันลุจจิก็ก้มลงมามองเธอ 



    “ ช่างต่อเรือ พาหัวหน้าของนายออกไป ”  เธอพูดกับพาวลี่ ซึ่งพาวลี่ก็รีบไปพยุงตัวของไอซ์เบิร์กออกมาทันที 



    นี่เเหละถึงจะเป็นการต่อสู้ที่เเท้จริง... 



    “ คงไม่ได้หรอกค่ะ.. ในสถานการณ์แบบนี้ จะมีใครออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ”  คาลิฟามาขวางเอาไว้ 



    ไรเดนควงง้าวของตนเองเป็นวงกลม เธอถีบส่งหญิงสาวออกไปทันที เเต่คาลิฟาก็สามารถกระโดดหลบออกไปได้ 



    ในตอนนี้เธอยืนเผชิญหน้ากับCP9ทุกคน กลายเป็นหนึ่งต่อสี่ 



    “ ถ้าอย่างงั้นก็ลองขวางดู ” ไรเดนกล่าวเสียงเย็น 



    เสียงลุกไหม้ที่ดังขึ้นไม่ได้สร้างความกระวนกระวายใจเเต่อย่างใด 



    ชิ้ง ! 



    คมมีดของคาตานะปรากฏสู่สายตาของหญิงสาว โซโรเดินเข้ามาขนาบข้างเธอ เขาเป็นอีกคนที่สามารถต่อสู้ได้ในตอนนี้ ส่วนลูฟี่นั้นค่อนข้างที่จะโดนเข้าไปจนอ่วมเลยล่ะ ช็อปเปอร์เเละนามิดูคนเจ็บอยู่ด้านหลัง 



    ลุจจิขมวดคิ้ว 



    เขายกขาขึ้น ใช้เท้าวายุตวัดเตะอากาศหนึ่งครั้ง สร้างเเรงลมมหาศาลจนทำให้พื้นที่เเห่งถูกตัดออกจากกันทันที เพดานด้านบนถล่มลงมาจนนามิเเละคนอื่นๆต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น 



    คาลิฟาเเละคาคุใช้จังหวะนี้ในการจะไล่ตามไอซ์เบิร์กไป แต่ก็โดนไรเดนเเละโซโรสกัดเอาไว้ก่อน 



    ลูฟี่ที่เหมือนจะตั้งสติได้อีกครั้ง  รีบพุ่งเข้ามาสมทบกับเพื่อนๆในทันที เเละคู่ต่อสู้หลักของเขาก็คือลุจจิที่กลายร่างเป็นเสือดาว 



    ลูฟี่ที่สู้ลุจจิในร่างคนไม่ได้ ยิ่งในร่างเสือดาวแล้วละก็แทบไม่ต้องพูดถึง เขาถูกลุจจิใช้ปืนดัชนีเจาะเข้าที่ท้องเต็มๆจนทะลุไปด้านหลัง ก่อนจะโดนลุจจิขว้างออกจากคฤหาสน์ไปไกลหลายเมตร 



    “ ลูฟี่ ! ” โซโรเเละไรเดนพูดขึ้นมาพร้อมกัน 



    โซโรเเสดงความโกรธโดยการเข้าไปโจมตีใส่มนุษย์เสือดาวตรงหน้า เเต่ก็เป็นเเบบเดียวกันกับลูฟี่ในตอนเเรก โดนลุจจิใช้กายาเหล็กฟาดเข้าที่ท้องไปหนึ่งครั้ง จนกระเด็นออกไปในระยะเดียวกัน 



    “ โซโร ! ”  นามิอุทาน 



    ลุจจิหันกลับมามองที่ไรเดน  ...ตอนนี้ด่านหน้าก็เหลือเพียงเเค่เธออยู่คนเดียวเเล้ว 



    ซันจิกับโรซินันเต้ก็ไม่อยู่ที่นี่ กลายเป็นว่าไรเดนต้องได้รับศึกหนักจากทั้งสี่คนที่เหลือแทน



    ไรเดนมองบุคคลตรงหน้า เธอนิ่งสงบผิดปกติไปจากเดิม 



    คราวนี้เธอคงต้องใช้เเผนนั้น 



    ในไม่ช้า พื้นที่รอบข้างนามิเเละคนอื่นๆที่ไม่ใช่CP9ก็ได้เเตกกระจายลงอย่างรวดเร็ว สร้างความตกใจให้เเก่พวกนามิเป็นอย่างมาก 



    หลังจากนั้นไม่นาน.. ทั้งหมดก็หายออกไปจากสถานที่นี้ราวกับไม่เคยมีตั้งเเต่เเรก หากไม่มีรอยเลือดเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงการคงอยู่ของพวกที่เหลือเมื่อสักครู่ เหลือเพียงเเต่ไรเดนที่ยังยืนอยู่เท่านั้น 



    มันคืออะไร ? และทำได้ยังไง ?  



    หรือจะคล้ายกันกับผลปีศาจประตู ? 



    หญิงสาวไม่รอให้พวกนั้นได้คิด เธอเก็บง้าวเเละเตรียมเเผนหลบหนีออกไปทันที โดยการกระโดดออกจากตึกไป 



    “ ตามไป อย่าพวกนั้นรอดไปได้ ” ลุจจิสั่งการ 



    ดังนั้นแผนการไล่ล่าจึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ  





    (ติดสปีดดดด)

    (เนื้อเรื่องบางส่วนถ้าเเปลกไปไม่ใช่เพราะว่าผมเปลี่ยนเเปลงเนื้อเรื่องนะครับ จริงๆเเล้วผมจำไม่ได้ 5555)



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×