NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ ONE PIECE ] My name's Raiden Ei

    ลำดับตอนที่ #21 : Chapter IV - Episode 5

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 65





    ไรเดนรีบมุ่งตรงไปยังสถานที่ที่แฟรงค์กี้ หรืออีกชื่อก็คือคัตตี้ แฟรมอยู่ในทันที  โดยที่เป้าหมายของเธอนั้นคือการนำแบบแปลนอาวุธโบราณพลูตันมาไว้ในครอบครอง เนื่องจากเหตุผลบางอย่างเเละสถานการณ์ที่ได้รับรู้มา อาวุธโบราณทรงอานุภาพที่สามารถสร้างความหายนะต่อโลกใบนี้ได้ 



    ไอซ์เบิร์กบอกว่าเขานั้นได้ส่งต่อแบบแปลนอาวุธไปให้กับแฟรงค์กี้เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ซึ่งถ้าหากมันยังอยู่ในมือของเขา เเล้วถูกรัฐบาลหรือผู้ประสงค์ร้ายใดๆก็ตามเจอเข้า โลกใบนี้จะต้องปั่นป่วนขึ้นอย่างแน่นอน 



    ความอันตรายระดับนี้ สมควรทำลายทิ้งอย่างเดียว 



    ทว่า.. ทั้งนี้ที่ยังคงเก็บแบบแปลนนั่นเอาไว้อยู่ ก็เพราะนิโค โรบิน หญิงสาวที่สามารถปลุกปีศาจให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลได้  อาวุธโบราณเพียงชิ้นเดียวในโลก ร่วมกับโพไซดอนเเละยูเรนัส  ถ้าหากมันปรากฏขึ้นมาบนผืนแผ่นดินนี้ละก็  ก็ยากที่จะหาสิ่งอื่นมาต้านทานได้ 



    แบบแปลนใบนั้นจึงเป็นหลักประกัน 



    ไรเดนไม่ใช่คนดี เธอยอมรับว่าอาวุธโบราณตัวนั้นเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจเสมอ  แต่เธอก็ไม่ใช่คนเลวถึงขนาดที่จะสร้างหรือค้นหาอาวุธชิ้นนั้นขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ใดๆก็ตาม 



    เหตุผลของการกระทำของเธอทั้งหมดนี้ก็เพื่อความปลอดภัย ทั้งตัวของพวกพ้องเเละตัวของเธอเอง..



    ดังนั้นเธอจึงคิดแผนบางอย่างขึ้นมา  






    ไม่นานนักไรเดนก็เจอเข้ากับชายร่างสูงผมสีฟ้าในชุดฮาวายกางเกงในสีดำแถวๆแฟรงค์กี้เฮ้าส์ แขนทั้งสองข้างของเขาสลักเป็นรูปดาวสีฟ้าซึ่งใหญ่โตผิดปกติจากการดัดแปลงของร่างกาย ใบหน้าเเละจมูกที่แปลกประหลาดบ่งบอกถึงลักษณะเด่นของแฟรงค์กี้ เป้าหมายของเธอ 



    หญิงสาวกระโดดลงไปยืนอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม  อีกฝ่ายตกใจกับการปรากฏกายของเธอเล็กน้อย ก่อนจะรู้ได้ในทันทีว่าเธอเป็นใครมาจากไหน เมื่อสังเกตดูใบหน้าอย่างชัดๆ 



    “ โอ้.. คุณพี่สาวจากกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางนี่เอง มาให้จับถึงที่เลยนี่ ...ดีเลย ฉันมีสิ่งที่ยังติดค้างกับเจ้านั่นยู่พอดี ” 



    แฟรงค์กี้ยิ้มทะเล้น เขายกเเว่นขึ้นนิดหน่อย เผยให้เห็นดวงตากวนๆของอีกฝ่าย ความคิดในตอนนี้คือต้องการจับเธอไปเป็นตัวประกันเอาไว้ก่อน รอให้หมวกฟางลูฟี่คนนั้นโผล่มาอีกครั้งเเล้วค่อยคิดบัญชีปิดท้าย



    ไรเดนไม่ตอบเขา เธอรีบพูดในธุระของตนเองทันที 



    “ ฉันต้องการแบบแปลนของอาวุธโบราณพลูตัน ” 



    แฟรงค์กี้คิ้วกระตุกทันทีที่ได้ยิน รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เธอพูดขึ้นมาเล็กน้อย  และเมื่อพูดเรื่องนี่ ริมฝีปากของเขาก็โค้งต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่



    “ แบบแปลนอะไร ? ของเเบบนั้นฉันมีที่ไหน ” 



    “ ถ้ามันยังอยู่ในมือของนาย จะเป็นอันตราย ” ไรเดนยังคงคุมโทนเสียงของตนเองเอาไว้เป็นอย่างดี 



    แฟรงค์กี้ส่งเสียงขึ้นจมูกทันที เขาไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของไรเดนเท่าไหร่นัก  “ เหอะ ! อันตรายอะไรกัน ฉันกลัวที่ไหน ”  



    “ นายกับไอซ์เบิร์กไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับโรบิน ..หรือถ้ายังกังวล ก็เก็บมันไว้ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เพียงพอ

    และฉันทำได้.. ” 



    ไม่คิดว่าเธอจะเหนื่อยกับการสาธยายอะไรยืดยาวมากขนาดนี้ โดนเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับไอซ์เบิร์กหรือแฟรงค์กี้  เพราะโดยปกติแล้วมันไม่ใช่เเนวทางของเธอเลย  



    แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆทั่วๆไปอย่างที่เคยเป็นมา เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของโลก เเละยอมรับไม่ได้เลยว่าพวกของเธอได้ก้าวเข้ามาในเขตเเดนที่ไม่ควรก้าวเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว  ทางเลือกมีเพียงเเค่ต้องถอยห่าง หรือไม่ก็เดินหน้าต่อไปเท่านั้น 



    เเละเธอรู้นิสัยของพวกพ้องดี โดยเฉพาะกับลูฟี่ 



    บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย 



    สำหรับพวกตัวละครเอกก็เป็นได้ 



    เเฟรงค์กี้ชะงักกับคำพูดของไรเดน  เขากำลังจะโพล่งปากต่อว่าว่าพูดอะไรของเธอ แต่ก็ต้องสตั้นตกใจกับสถานที่ที่เริ่มจะเเตกออกจากกันซะก่อน 



    เหมือนกับกระจกที่กำลังเเสดงรอยร้าว 



    ...อากาศโดยรอบปริกระจายออกไปราวกับว่าโลกทั้งใบนั้นเป็นเพียงเเค่ภาพมายา  ...กลับกลายเป็นสถานที่บางสิ่งบางอย่างซึ่งมีเเต่ความอ้างว้างสุดลูกหูลูกตาแทน



    สิ่งปลูกสร้าง กองเงินกองทองมากมาย เเละสมบัติอันล้ำค่าทั่วบริเวณ กับพื้นที่เรียบกว้างตรงกลาง มองออกไปสุดลูกหูลูกตาก็พบกับพื้นที่แปลกประหลาดชวนขนลุก ไอพลังงานระดับสูงแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ตลบอบอวลจนสร้างความกดอากาศหน่อยๆ 



    รวมๆเเล้ว ที่นี่เป็นที่ที่ไม่ควรย่างกรายเข้ามาอย่างยิ่ง 



    เมื่อมองตรงไปยังร่างของไรเดนที่ยืนอยู่ ราวกับว่าที่เเห่งนี้ทั้งหมดอยู่ภายใต้การบงการของเธอ ..ไม่เว้นเเม้เเต่ตัวของเขาเองก็ตาม 



    “ ที่นี่... ที่นี่คือที่ไหน ? ”  แฟรงค์กี้มองไปรอบๆ ปากก็ถามไรเดน 



    “ มิติจิตใต้สำนึก จะบอกว่าเป็นจิตใจก็ได้ ” 



    ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาว สีหน้าเต็มไปด้วยคำถามที่ต้องการคำตอบ 



    “ ไม่มีใครสามารถเข้ามาที่นี่ได้ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากฉัน 



    ที่นี่จะเป็นที่เก็บแบบเเปลน... ”  ไรเดนอธิบายต่อ 



    แฟรงค์กี้ที่ได้ยินรีบพูดขวางทันที  “ เฮ้ พี่สาว ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะให้น่ะ ”  



    และไรเดนก็ได้กล่าวเสริม  “ ในขณะเดียวกัน ถ้าฉันไม่อนุญาตให้ออก ต่อให้ฉันตายก็จะไม่มีใครสามารถออกไปได้ ”  



    นี่เธอกำลังขู่เขางั้นเหรอ ?  



    กร๊อบ.. กร๊อบ... 



    “ แหมๆ ไม่ลองเเล้วจะไปรู้ได้ไงล่ะ ?  ถ้ายังไม่อยากเจ็บตัวก็รีบปล่อยฉันออกไปซะ ” 



    ร่างสูงหักนิ้วตัวเองทีละข้างๆ สีหน้าท่าทางข่มขู่หาเรื่องอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ทว่าไม่เพียงเเต่ไรเดนจะไม่กลัวเท่านั้น เธอยังคงมองเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 



    หญิงสาวหรี่ตาลง ดวงตาสีม่วงเรืองเเสงขึ้นหน่อยๆ 



    “ นายอยากให้พลูตันโผล่ขึ้นมาบนโลกใบนี้อย่างงั้นเหรอ ”  



    “ จะโผล่หรือไม่โผล่ก็ช่าง ฉันเป็นคนตัดสินใจ ” 



    “ ต่อให้ไอซ์เบิร์กจะโดนฆ่าในวันนี้ก็ตาม ? ” 



    แฟรงค์กี้ที่กำลังจะก้าวเท้าเข้ามาโจมตีชะงักตัวไป เขาเงยหน้ามองไรเดนด้วยความไม่เข้าใจ หมายความว่ายังไงที่ไอซ์เบิร์กจะโดนฆ่า ?  เขารู้ว่าไอซ์เบิร์กนั้นโดนลอบทำร้ายมา เเต่เพราะเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเขาควรจะได้รับการคุ้มกันที่ดีขึ้นหรอกเหรอ 



    “ พวกแก.. เพื่อแบบแปลนแล้ว จะฆ่าเขางั้นเหรอ... ”  แฟรงค์กี้ขบฟัน 



    “ ใช่  ”  ไรเดนพูด และเธอก็ได้พูดต่อ  “ แต่ไม่ใช่พวกเรา ”  



    “ แล้วใคร ? ”  



    “ ไม่รู้ แต่เท่าที่ฉันรู้  พวกนั้นจะต้องรู้ว่าเเบบเเปลนอยู่ในมือนายไม่ช้าก็เร็ว เเละเราจะใช้สถานการณ์นี้เพื่อช่วยเขา  ” 



    ชายหนุ่มคราวนี้เริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง เขามองเธอนิ่งๆอย่างช่างใจ ...ถึงเขาเเละไอซ์เบิร์กจะเเยกทางกันเเล้ว แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังคงเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน มันคงจะเเย่ถ้าปล่อยให้ไอซ์เบิร์กตายเพราะเเบบเเปลนเล่มเดียว 



    เเละคุณทอมจะต้องไม่ต้องการสิ่งนี้เเน่... 



    ปล่อยให้ความเงียบผ่านไปเรื่อยๆก็เปล่าประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงต้องตัดสินใจเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว จากนั้นจึงค่อยรีบไปช่วยไอซ์เบิร์ก 



    ....... 



    จะทำยังไงดี.. ไว้ใจเธอคนนี้ได้อย่างนั้นเหรอ ? 



    เเต่เธอรู้เเล้วนี่ว่าเเบบเเปลนอยู่ที่เขา ถ้าเธอเป็นพวกเดียวกับคนที่จ้องจะทำร้ายเเละเอาเเบบเเปลนไปจริง เธอจะมาบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำไม ? เเค่จับเขาไปแล้วสอบปากคำก็สิ้นเรื่อง 



    หรือนี่จะเป็นแผนการซ้อนมาอีกที ? 



    “ .... ” 



    แฟรงค์กี้จ้องหน้าไรเดนเงียบๆ เธอไม่ได้เเสดงท่าทีอะไรออกมาเป็นพิเศษ ความโลภ ? ความต้องการ ? ความตื่นเต้น ?  ราวกับว่าเธอไม่ได้สนใจเเบบเเปลนอะไรนี่ด้วยซ้ำ 



    บางทีอาจจะเป็นเเค่เพราะคำขอของไอซ์เบิร์ก เธอเลยมาช่วย ? หรือไม่ก็เพราะโรบินที่เป็นพวกพ้อง ... 





    แฟรงค์กี้หยิบปึกกระดาษบางอย่างออกมาจากที่ซ่อนภายในตัวของตัวเอง ชื่อของมันเเละส่วนประกอบต่างๆเล็ดลอดออกมาจากกระดาษให้เธอได้เห็นเล็กน้อย พลูตัน  ...ของสิ่งนี้มันคือกระดาษที่มีไว้ชี้ชะตาคนทั้งโลก เชื่อไม่ได้ว่าเพียงเเค่กระดาษพวกนี้ ก็ทำให้สถานการณ์มันปั่นป่วนได้มากถึงขนาดนี้ 



    ร่างสูงยื่นมันไปให้กับไรเดน 



    “ เอาล่ะ... ต่อไปทำยังไงต่อ ”  



    ไม่ว่าจะคิดถูกหรือคิดผิด  ...แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ 










    “ แบบแปลนของพลูตันอยู่ที่คนอื่นสินะ ” 



    ชายร่างสูงสวมหมวกทรงสูง นกพิราบสีขาวสวมเน็กไทที่ยืนอยู่บนไหล่ ร็อบ ลุจจิ  พูดคุยกับไอซ์เบิร์กที่ถูกคุมตัวโดยคาคุ กับข้างกายของเขา คาลิฟา เเละอีกคน นิโค โรบิน 



    ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสายลับที่เเฝงตัวเข้ามาเก็บเกี่ยวข้อมูลเกี่ยวกับเเบบแปลนพลูตันเป็นระยะเวลาห้าปี คนที่ไอซ์เบิร์กให้ความไว้ใจอย่างสุดซึ้ง พวกเขาเหล่านี้คือคนของรัฐบาลโลก องค์กรลับที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาล CP9 หนึ่งในกลุ่มขององค์กร CP ตั้งเเต่ 0 - 9 



    ไอซ์เบิร์กรู้สึกเจ็บใจไม่น้อยที่คนสนิทของกลายมาเป็นศัตรูได้ภายในชั่วข้ามคืน  แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ค่อนข้างพอใจที่อย่างน้อยตนเองก็ไม่ได้เลือกคนผิด 



    ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับลุจจิที่ยืนอยู่ตรงหน้า 



    “ ใช่เเล้ว.. ตอนนี้เเบบเเปลนอยู่กับคนอื่น ไม่ใช่ฉัน ...แต่ต่อให้นายจะหาเขาจนเจอ แบบเเปลนอันนั้นก็คงไม่ได้อยู่กับเขาอีกต่อไป ” 



    “ แสดงว่าเเบบเเปลนถูกส่งต่อไปอีกทอดหนึ่งหลังจากที่คุณส่งออกไปสินะ ”  ลุจจิอนุมาน 



    เเละไม่ต้องให้เขาเดาไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมาย ไอซ์เบิร์กก็ได้ให้คำตอบแก่ลุจจิเเต่โดยดี 



    “ ถูกต้อง.. เเละต่อให้พวกนายเจอคนถือแบบแปลนที่เเท้จริง  เมื่อถึงตอนนั้นพวกนายก็ไม่สามารถได้แบบแปลนอันนั้นอีกต่อไปแล้วล่ะ ” 



    คำพูดของไอซ์เบิร์กทำให้ลุจจิขมวดคิ้วด้วยความสงสัย 



    ที่ว่าไม่ได้แบบแปลนอีกต่อไป  เพราะมันจะหายออกไปจากโลกใบนี้ตลอดกาล ตราบใดที่ผู้ถือครองไม่คิดที่จะนำมันออกมาอีก... 



    เมื่อเข้าตาจนจริงๆ นิโคโรบินสามารถปลุกอาวุธโบราณพลูตันขึ้นมาได้จริงๆ แบบเเปลนเล่มนั้นอาจจะมีประโยชน์ขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นได้ 



    ถึงตอนนั้นแบบแปลนก็อาจจะปรากฏขึ้นมา 



    ไอซ์เบิร์กหลับตาลง นึกถึงใบหน้าของบุคคลที่ได้พูดคุยกับเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ หญิงสาวที่ยื่นข้อเสนอจะดูเเลแบบแปลนให้ จะเป็นปาฏิหาริย์อย่างที่พูดจริงๆรึเปล่านะ 



    ถึงอย่างไรก็ตาม... แต่ก็..



    ‘ ฝากด้วยล่ะ.. ไรเดน เอย์แห่งกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง... ’ 



    ร็อบ ลุจจิเค้นถามข้อมูลจากไอซ์เบิร์กอีกซักเล็กน้อย พยายามหาต้นตอจากปากของไอซ์เบิร์กให้ได้มากที่สุด ก่อนจะรู้ว่าแบบแปลนได้ถูกส่งต่อไปยังเเฟรงค์กี้ซึ่งเป็นผู้ถือครองคนที่สอง ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวผู้ถือครองคนที่สามจะต้องอยู่ในปากของเขาเป็นแน่ 



    เมื่อไม่มีข้อมูลอะไรที่ตกหล่นอีก เขาก็ตั้งใจที่จะทำตามเเผนเดิมในทันที นั่นก็คือการเผาคฤหาสน์ของไอซ์เบิร์ก เเละโยนความผิดทั้งหมดให้กับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง 





    ในขณะเดียวกัน แฟรงค์กี้เเละไรเดนก็ได้กลับสู่โลกเเห่งความเป็นจริงอีกครั้ง






    (ลุจจิหล่ออ่ะ ไม่รู้ทำไม)

    (ทั้งคู่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของโรบิน เลยเก็บแบบแปลนเอาไว้ก่อน เผื่อยามคับขัน ยังไม่คิดทำลายครับ)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×