คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter IV - Episode 4
ภาพเกาะที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกเราสร้างความตื่นตะลึงให้แก่พวกของลูฟี่เป็นอย่างมาก
วอเตอร์เซเว่น เมืองหลวงเเห่งน้ำนั้นสมกับชื่อเรียกขานของมันจริงๆ น้ำพุขนาดใหญ่ใจกลางเกาะที่พุ่งทะยานขึ้นสูงเเละกระจายลงเป็นวงกว้างตามเเรงโน้มถ่วง ไหลลงมาเรื่อยๆจนถึงพื้นทะเลส่วนล่าง บวกกับรอบเกาะที่ประกอบไปด้วยบ้านเรือนซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยปูนสีเทา กับหลังคาสีเเดงสดเป็นซะส่วนใหญ่
เรือเเมรี่ไม่รอช้าที่จะเเล่นเข้าไปยังถิ่นที่ตั้งของเกาะ โดยหวังว่าการมาในครั้งนี้จะทำให้พวกเราได้พบกับช่างต่อเรือดีๆสักคนเป็นพรรคพวก ..คนที่บ้าพอจะเป็นโจรสลัดร่วมเดินทางไปในเเกรนด์ไลน์ด้วยกัน
นามิ ลูฟี่เเละอูซปขนทองคำสมบัติที่ได้มาจากเกาะเเห่งท้องฟ้าลงเรือไปเพื่อเเลกกับเงิน เเละส่งจดหมายให้กับคุณไอซ์เบิร์กในทีเดียว ส่วนไรเดนนั้นในฐานะที่เป็นคนดูเเลโรซินันเต้มาตลอดเส้นทาง แม้ว่าคนบนเรือเองก็เริ่มที่จะสนิทกับชายหนุ่มขึ้นมาบ้างเเล้วก็ตาม
เธอลงเรือไปเพื่อที่จะพาเขาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้จำเป็น เพราะนอกจากสิ่งต่างๆที่สามารถใช้ร่วมกันบนเรือได้เเล้ว ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่นเสื้อผ้า แน่นอนว่าคนตัวใหญ่เเละตัวสูงอย่างโรซินันเต้นั้นไม่สามารถใช้เสื้อผ้าของผู้ชายคนอื่นบนเรือได้ ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่ในเสื้อผ้าแบบเดิมของตนเองตลอด เวลาจะซักใส่เเต่ละทีนั้นช่างลำบากยากเย็นเเสนเข็นเสียเหลือเกิน มีครั้งหนึ่งที่เขาต้องเจียดตัวเองเพื่อไปขอชุดกระโปรงยืดได้ของโรบินมาคลุมตัวเอาไว้ก่อน
เเม้จะไม่มีใครล้อ เเต่มันก็ค่อนข้างน่าอาย
ดังนั้นเมื่อมาถึงเมืองวอเตอร์เซเว่นเเล้ว ก็เป็นโอกาสอันดีที่โรซินันเต้จะได้ซื้อข้าวของเครื่องใช้ของตนเองไว้
แน่นอนว่าเป็นเงินยืมไรเดน
เขามาตัวเปล่า ดังนั้นจะมีเงินติดตัวได้อย่างไร ?
ก็อยากจะเกรงใจอยู่หรอกนะ แต่อย่าลืมซะล่ะว่าไรเดนนั้นรวยมาก
มากถึงขนาดที่ว่าต่อให้สร้างเรือแมรี่ซักสิบลำ ขนหน้าเเข้งก็ไม่มีทางร่วงได้...
...อย่างไรก็ตาม ที่นี่เป็นเมืองเเห่งน้ำ ผู้คนส่วนใหญ่เดินทางกันทางลำคลองซึ่งเปรียบเสมือนถนนยาวครอบคลุมไปทั่วทั้งเกาะ เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม ด้วยความจำเป็น ดังนั้นพวกเราจึงต้องเดินทางกันด้วยเรืออานขนาดเล็กค่อนกลางที่เช่ามา ซึ่งถูกชักจูงโดยสัตว์ทะเลลักษณะคล้ายม้าผสมแมวน้ำตัวหนึ่ง
มันคือบูล
ทั้งสองเลือกซื้อข้าวของจำเป็นสำหรับโรซินันเต้กันก่อน ก่อนจะเเวะหาของกินตามข้างทางในย่านการค้าอีกซักเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็นั่งเรือชมเมืองไปรอบๆด้วยความสนใจ
อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเกาะที่เเปลก เพราะมันดูเหมือนว่ากำลังจะจมลงไปในทะเลได้ทุกเมื่อ สิ่งปลูกสร้างทุกอย่างล้วนสร้างอยู่บนน้ำ ส่วนประกอบส่วนใหญ่ล้วนมีน้ำเป็นตัวพึ่งพา แต่ถึงอย่างนั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันงดงามมากแค่ไหน
อีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ เกาะเเห่งนี้ค่อนข้างครึกครื้นกันเป็นพิเศษ ผู้คนเอ่ยทักทายกันด้วยสีหน้าท่าทางเเจ่มใส ต้อนรับทุกคนที่เดินผ่าทางมา ไม่มีร่องรอยของความกังวล ไม่มีร่องรอยของความลังเลใจ เเละมีบ้างที่พวกเราจะถูกทักเเซวเพราะความโดดเด่นอันแสนแปลกตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายร่างสูงที่สวมหน้ากากเอาไว้อย่างโรซินันเต้ กับหญิงสาวที่พกง้าวเล่มใหญ่กว่าตัวอย่างไรเดน
ทั้งสองใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการชมวิวรอบเมือง ขณะรอพวกลูฟี่ไปหาช่างต่อเรือ ก็มีเวลามากมายให้ได้เที่ยวเล่นตามใจชอบ โรซินันเต้เกือบจะลืมพวกพ้องไปชั่วขณะแต่ก็ถูกไรเดนฉุดเอาไว้ได้ พวกเราจึงรีบเที่ยวรีบกลับ
ในระหว่างนั้นก็ได้เจอกับนักล่าค่าหัวกลุ่มหนึ่งที่มาจากตระกูลแฟรงค์กี้...
พวกมันต้องการค่าหัวของไรเดนที่สูงถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเบรี แต่ทว่ายังไม่ทันให้ได้ถึงตัว ก็โดนด้ามง้าวเล่มยาวของเธอฟาดเข้าให้ซะก่อน จนพวกนั้นกระเด็นปลิวออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องออกแรงให้มากความ
เมื่อไม่มีตัวขวางทาง ก็ได้เวลาที่ทั้งสองคนจะต้องกลับ
ก่อนที่พวกเธอจะได้เจอกับเรื่องที่น่าปวดหัวตามมา...
แน่นอนว่าตามสไตล์หลักของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ไม่มีที่ไหนที่ไปแล้วไม่ได้เรื่องกลับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างวีรกรรมสุดน่าจดจำในแต่ละที่บนเกาะ
อย่างเเรกเลย เรือโกอิ้งเเมรี่ไม่สามารถซ่อมได้อีกต่อไปแล้ว.. ความเสียหายของมันมากเกินกว่าที่ช่างซ่อมเรือของที่นี่จะรักษาได้โดยยังเหลือเคล้าเดิมเอาไว้
จำเป็นต้องบอกลาสถานเดียว ..
ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจของลูฟี่ ความต้องการของกัปตันเรือของพวกเรา และไรเดนก็ไม่มีอะไรที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเธอเข้าใจมันดี คนอื่นๆก็เช่นกัน
พวกเราไม่มีใครเห็นต่าง แม้จะผูกพัน แต่ความจริงก็เป็นสิ่งที่น่าเจ็บปวดใจ
ในฐานะผู้นำ คำพูดกัปตันถือเป็นคำขาด
จะยกเว้นก็เพียงแต่อูซป ...รายนั้นเขาคัดค้านเกี่ยวกับแนวคิดของลูฟี่หัวชนฝา ในบรรดาทุกคนบนเรือ เขาเป็นผู้ที่ผูกพันกับเรือลำนี้มากที่สุด คอยซ่อมคอยดูเเลทนุถนอมแมรี่เสมอมาแม้จะเผชิญหน้ากับอะไรก็ตาม ทำให้ทั้งสองเกิดการทะเลาะกันยกใหญ่
ใหญ่ถึงขนาดที่ว่าอูซปนั้นได้ขอออกจากกลุ่มโจรสลัดไปเลยด้วยความน้อยใจ
ไม่นานนักทั้งสองก็ได้ท้าประลองกัน โดยที่อูซปเป็นคนขอท้าสู้ ใครที่ชนะจะเป็นคนได้เรือแมรี่ไป
ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน ฝีมือของลูฟี่เเละอูซปนั้นต่างกันเกินไป ไม่ต้องเดาผลก็รู้คำตอบว่ากัปตันของเรือจะต้องเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะไปอย่างแน่นอน
และถึงแม้ว่าลูฟี่จะชนะ เขาก็ไม่ต้องการเรือแมรี่อีกต่อไป เต็มใจยกให้อูซปแต่โดยดี ก่อนจะเดินจากมา..
บรรยากาศรอบกลุ่มดิ่งลงถึงจุดต่ำสุด ไม่เว้นเเม้เเต่โรซินันเต้เองที่ซึ่งพึ่งเข้ากลุ่มมาได้ไม่นานนี้
และอย่างที่สอง... โรบินได้ลอบสังหารนายกเทศมนตรีของเมืองวอเตอร์เซเว่น ไอซ์เบิร์ก .
ข่าวนี่น่าตกใจนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้กับโรซินันเต้เเละไรเดนเป็นอย่างมาก ความโกลาหลได้แพร่กระจายไปสู่สังคมวงกว้างอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไอซ์เบิร์กนั้นเป็นตัวตนที่สำคัญสำหรับชาวเมืองวอเตอร์เซเว่นทุกคนเป็นทุนเดิม
เเรงจูงในของโรบินคืออะไร ? ทำไมเธอถึงได้ลงมือกระทำอุกอาจเช่นนี้ เธอกำลังทรยศกลุ่มงั้นเหรอ ?
และเนื่องจากที่โรบินนั้นเป็นสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ความผิดทั้งหมดจึงตกมาที่พวกเราในทันทีที่ข่าวถูกประกาศออกมา ทุกความเกลียดชังพุ่งตรงมายังทุกคนที่อยู่ในกลุ่ม พวกเราจึงไม่มีพื้นที่สำหรับเกาะเเห่งนี้อีกต่อไป
ลูฟี่ไม่เชื่อว่าโรบินจะทำอะไรแบบนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงมุ่งตรงไปยังสถานที่ที่ไอซ์เบิร์กอยู่ในทันที ทั้งนี้ก็เพื่อค้นหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ กับเป้าหมายคือการตามหาโรบินให้เจอ โดยที่ลูฟี่นั่งบูลกับนามิไป ส่วนคนอื่นๆก็เเยกทางกัน
ทว่าในขณะที่พวกเรากำลังเเล่นบนน้ำอยู่นั้น แฟรงค์กี้ หัวหน้าของพวกที่มาหาเรื่องไรเดนในครั้งก่อนก็ได้มาเจอกับลูฟี่
ด้วยการพูดคุยของสองคนนี้ กับบรรยากาศที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ไม่นานนักทั้งคู่ก็ต่อสู้กันในที่สุด
ตู้มม !!
แฟรงค์กี้ทำลายบูลของลูฟี่เเละนามิจนพังยับเยิน ทั้งคู่ลอยขึ้นฟ้าไปและเตรียมที่จะตกลงมาบนน้ำ นามิไม่เป็นไรเเต่ลูฟี่นั้นน่าเป็นห่วง เมื่อเห็นท่าไม่ดีไรเดนจึงกระโดดเข้าไปช่วยกัปตันเเละคุณต้นหนเรือในทันที ก่อนจะหมุนตัวหลบการโจมตีอีกระรอกของไซบอร์กตรงหน้า
เธอวางทั้งคู่ลงกับพื้นอย่างปลอดภัย นามินั่งแหมะบนพื้นปูน ส่วนลูฟี่นั้นยืนขึ้นตั้งท่าเตรียมต่อสู้อย่างรวดเร็ว ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายเเข็งกร้าวเนื่องจากอะไรบางอย่าง และไรเดนก็พอจะเข้าใจสถานการณ์
“ คนที่ทำร้ายอูซปเเละขโมยเงิน 200 ล้านเบรีไป ! ”
แม้ว่าจะเเยกทางกับอูซปไปแล้ว เเต่ยังไงพวกพ้องก็ยังคงเป็นพวกพ้องอยู่เช่นเดิม ก่อนหน้านั้นที่จะเกิดเรื่องการทะเลาะเบาะเเว้งขึ้น กลุ่มแฟรงค์กี้ได้เข้ามาขโมยเงินที่ได้จากการเเลกเปลี่ยนทองคำจำนวนสามร้อยล้านเบรีไปสองในสามส่วน ก่อนที่จะทำร้ายอูซปจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่เเปลกที่ลูฟี่จะโกรธเเค้นพวกของตระกูลแฟรงค์กี้มาก
...ด้วยการทะเลาะของทั้งสองคน ผลกระทบจากการต่อสู้จึงตีแผ่ออกเป็นวงกว้าง อู่ซ่อมเรือพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี
โครมม !! ตู้มมม !!!
ในส่วนของทางด้านไรเดนนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือโรบิน ซึ่งเพื่อนๆกำลังตามหาตัวเธอกันอยู่ การต่อสู้ของลูฟี่นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถขัดได้ โดยเฉพาะลูฟี่ที่กำลังโกรธจัด หากเขาไม่ได้สะสางปัญหาของตนเองให้จบสิ้น ความหงุดหงิดจะเข้ามาเเทนที่อย่างแน่นอน
ปล่อยให้เขาต่อสู้กับแฟรงค์กี้ไปน่ะดีเเล้ว ในส่วนของเรื่องนี้ เธอเเละทุกคนที่เหลือจะจัดการให้เอง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ บางที... เป้าหมายอีกอย่างหนึ่งที่ควรเล็งไป
ผู้เสียหาย ไอซ์เบิร์ก
หากลอบเข้าไปค้นหาคำให้การจากปากของเจ้าตัวได้ ไม่เเน่ว่าอาจจะมีเบาะเเสอะไรบางอย่างก็เป็นได้
ในระหว่างที่ทางด้านลูฟี่กำลังวุ่นวายกันอยู่ ไม่เเน่พวกของไอซ์เบิร์กอาจจะไปที่นั้นกันในทันทีเลยก็ได้ เนื่องจากประเด็นของกลุ่มหมวกฟางที่เป็นที่ต้องสงสัยเรื่องการลอบฆ่าไอซ์เบิร์ก
เธอต้องใช้จังหวะนี้เข้าไป...
“ คุณไอซ์เบิร์กคะ ดิฉันขออนุญาตออกไปทำธุระสักครู่นะคะ ในระหว่างนี้ก็อย่าขยับตัวมากล่ะ ”
หญิงสาวผมสีทองในมาดเลขาดันเเว่นขึ้นเบาๆ เธอยืนขึ้นจากเก้าอี้ไม้ข้างเตียงเต็มความสูงง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องเมื่อได้รับคำตอบรับเบาๆจากไอซ์เบิร์ก
เธอคนนี้คือคาลิฟา เลขาสาวคนสนิทของนายกเทศมนตรีแห่งเมืองวอเตอร์เซเว่น
แกร๊ก..กก..
ตึก ตึก ตึก.. ตึก....
หลังจากที่ปิดประตูเรียบร้อยพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินจากไป ...บางอย่างที่ผิดปกติก็ได้เกิดขึ้นภายในห้องทันทีราวกับกำลังรอเวลา จากเดิมที่ควรมีบุคคลเพียงเเค่คนเดียวที่นอนอยู่ ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามีร่างของใครบางคนมายืนใกล้กับหน้าต่างบานใหญ่ หลบมุมกำแพงห้องอยู่พอสมควร เเขนทั้งสองข้างกอดอกเอาไว้อย่างหลวมๆ
“ คราวก่อนที่นิโค โรบินมา ...คราวนี้ก็เป็นเธองั้นเหรอ ”
ไอซ์เบิร์กพูดกับบุคคลปริศนาตรงหน้า
“ เงียบเเล้วฟังให้ดี ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ไรเดนจ้องมองชายวัยกลางคนที่นอนรักษาตัวอยู่บนเตียง ท่าทางของเขาไม่ได้นิ่งสงบเท่าที่ควรนักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ตะโกนโหวกเหวกโวยวายออกไปเเต่อย่างใด
“ ฉันเเค่มาถามข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนของฉัน ” หญิงสาวกล่าว
“ เพื่อนงั้นเหรอ ? มาถามจากคนที่ถูกเพื่อนของเธอลอบสังหารเมื่อวานนี้เหรอ ช่างเป็นกลุ่มคนที่แปลกเสียจริง... ” ราวกับกำลังประชดประชัน
ไรเดนไม่ได้เเสดงท่าทีหรือความเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอพูดต่อโดยไม่สนใจ
“ รู้อะไรไหม.. ฉันสามารถฆ่านายตอนนี้จากระยะนี้ได้ไม่ยาก หากพวกเราต้องการฆ่านายจริงๆ จะเสียเวลาโรบินมาทำไม ”
ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ทำให้เธอราวกับเพชรฆาตที่พร้อมจะสังหารเหยื่อตรงหน้าได้ทุกเมื่อ
และเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไอซ์เบิร์กก็ไม่รอช้าที่สวนกลับขึ้นมาทันที
“ คำขู่แบบนั้นฉันได้ยินมันมานักต่อนักแล้วล่ะ ไม่ใช่เพราะว่าพวกเธอต้องการบางสิ่งบางอย่างจากฉันหรอกเหรอ ? ยังไงก็ตามคนตายมันพูดไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ”
“ ความต้องการของพวกเรามีเเค่การซ่อมเรือโกอิ้งเเมรี่เท่านั้น.. เมื่อมันไม่สามารถซ่อมได้อีก พวกเราเพียงเเค่ต้องถอดใจและหาเรือลำใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าคุณมีอะไรในมือ และถึงมี.. พวกเราก็ไม่ได้สนใจ ” ไรเดนพูดต่อโดยไม่ต้องคิด
“ จะให้ฉันเชื่อได้อย่างไร ? ไม่เเน่ว่าพวกเธออาจจะเกี่ยวข้องกับรัฐบาลโลกก็ได้ ”
“ พวกเราเป็นโจรสลัด และโจรสลัดเป็นศัตรูของรัฐบาลโลก ..อย่างไรก็ตาม โรบินหายไปตั้งเเต่วันเเรกที่พวกเราขึ้นเกาะมา ดังนั้นพวกเราจึงต้องการข้อมูลของเธอ ส่วนเรื่องของนายน่ะ โจรสลัดย่อมมีชื่อเสียงที่ไม่ดี ไม่ว่าจะถูกกล่าวหาว่าอย่างไรก็ตาม พวกเราไม่ได้สนใจ ”
ไอซ์เบิร์กเงียบไป.. เขาเริ่มใช้ความคิดในหัวอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าหากว่าสิ่งที่ไรเดนพูดมานั้นเป็นความจริงทั้งหมดแล้วละก็ หมายความว่าโรบินนั้นได้หายออกจากกลุ่มไปก่อนหน้านั้น ก่อนจะไปร่วมมือกับใครสักคนที่ต้องการของบางอย่างจากเขา หรือไม่ก็ต้องการที่จะสังหารเขา
ของบางอย่าง...
แบบแปลนพลูตัน
เเละในไม่นานมานี้ มันเป็นของที่รัฐบาลต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจากอานุภาพของมัน ที่สามารถทำลายเกาะๆหนึ่งได้ด้วยการยิ่งเพียงเเค่นัดเดียว เเละเพื่อความปลอดภัยของพวกพ้อง โรบินจึงจำใจต้องเข้าร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพื่อไม่ให้รัฐบาลทำร้ายพวกเขา เเละนั้นก็สมเหตุสมผลเเล้ว
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง.. กลุ่มหมวกฟางก็เเค่เเพะรับบาป เขาเป็นแค่กลุ่มโจรสลัดธรรมดา ที่มีบุคคลอันตรายอย่างนิโค โรบินอยู่ในทีม
เเต่ถึงอย่างนั้น.. พวกเขาก็ยังคงให้ความสำคัญกับเธอ
หากตัดมุมมองบางอย่างออกไป ถือว่าเธอเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่ง ที่อย่างน้อยก็ยังมีคนคอยอยู่เคียงข้างเธอ
นิโค โรบินในตอนนี้ บางทีอาจจะไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดเเล้วก็ได้
เป็นเวลากว่าหลายนาทีที่ไอซ์เบิร์กจมอยู่กับความคิด
และในที่สุด.. เขาก็เปิดปากพูดอีกครั้ง....
ขณะเดียวกัน.. ไรเดนก็ได้รู้บางสิ่งจากปากของไอซ์เบิร์ก เขาพูดเกี่ยวกับอะไรบางอย่างให้เธอฟังจนเธอได้เข้าใจอย่างถ่องเเท้ แบบเดียวกับที่ไอซ์เบิร์กเองก็ได้รู้บางสิ่งจากปากของเธอเช่นกัน ...
เเอ๊ดด...
“ ฉันกลับมาเเล้วค่ะ.. คุณไอซ์เบิร์ก ”
คาลิฟาเปิดประตูเข้ามา เธอกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ตรวจสอบคววามผิดปกติที่อาจจะเกิดในขณะที่เธอไม่อยู่ ทั้งสถานที่ตั้งของสิ่งของ ร่องรอยอะไรก็ตามที่อาจจะหลงเหลืออยู่ แต่เมื่อเช็คดูอย่างละเอียดเเล้ว ก็ไม่พบกับสิ่งผิดปกติเลยเเม้เเต่น้อย ดังนั้นเธอจึงนั่งลงกับเก้าอี้ไม้ดังเดิม คอยเฝ้าดูอาการของไอซ์เบิร์กต่อไป
ชายวัยกลางคนเหลือบมองเลขาสาวข้างกาย
“ บางที.. นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่ ”
“ หืม ? ” คาลิฟาส่งเสียงสงสัย งุนงงในคำพูดของเขาเล็กน้อย
หมายถึงกลุ่มหมวกฟางนิโคโรบินที่ลอบเข้ามาทำร้ายงั้นเหรอ ?
ในขณะที่ไรเดนกำลังเดินเลียบเคียงตามซอกซอยของเมืองอยู่นั้น ในหัวเธอก็คิดถึงเรื่องที่ไอซ์เบิร์กพูดให้ฟังเมื่อสักครู่นี้ ก่อนจะเธอจะออกมาอย่างเงียบๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้เเล้ว ก็มีอยู่เรื่องเดียวที่เธอต้องทำในตอนนี้...
ต้องไปชิงมันมา
แบบแปลนพลูตัน
✿
(เดี๋ยวเจ๊! ไปชิงเลยเหรอ เจ๊คิดไรก่อน)
ความคิดเห็น