คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Chapter IV - Episode 2
( * จากที่ผมดูมาเเล้ว เสียงส่วนมากเหมือนจะเลือกสองกันครับ
ขอขอบคุณสำหรับคำตอบของทุกคนครับ ซึ่งแน่นอนว่าผมจะพยายามไม่ให้หลุดคอนเซ็ปต์ความเป็นไรเดนไปจากเดิมให้ได้มากที่สุดครับ )
___________________________
“ เจ้านี่อีกเเล้วเหรอ... ”
ทุกคนมองหน้าชายเจ้าของนามฟ็อกซี่.. ในขณะที่นามิพูดขึ้นอย่างคนฉงนใจ
...เมื่อสักครู่นี้น่านน้ำได้เกิดพายุขนาดเล็กพัดพาให้เรือแมรี่โคลงตามกระเเสคลื่น เป็นเหตุบังเอิญให้พวกเราได้เจอเข้ากับเรือลำเล็กของฟ็อกซี่อย่างพอดิบพอดี ผู้ซึ่งเสียเรือเเละกำลังพลไปมากกว่าห้าร้อยนายในศึกเดวี่แบ็คไฟต์เมื่อไม่นานมานี้
เห็นแล้วว่าเรือลำนั้นต้องไม่รอดจากพายุเเละคลื่นที่พัดสูงกว่าลำเรือเเน่ๆ ลูฟี่จึงได้ตัดสินใจยื่นมือเข้าไปช่วยเจ้าตัวขึ้นมาจากเรือ พร้อมกับลูกน้องติดไม้ติดมือมาด้วยอีกสองชีวิต
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความใจดีเชื่อคนง่าย หรือเป็นเพราะความเลือดร้อนต้องการจะปะทะของกัปตันเรือพวกเรา ..เมื่อทุกคนเจอเข้ากับเรือขนาดใหญ่ของกลุ่มโจรสลัดฟ็อกซี่ในเวลาต่อมา ที่ตอนนี้ถูกยึดไปโดยโจรสลัดกลุ่มอื่น ลูฟี่จึงได้เข้าไปช่วยต่อสู้เพื่อแย่งชิงเรือฟ็อกซี่กลับคืนมา เพียงเพราะคำพูดสุดเท่ของเจ้าคนที่ดูยังไงก็ต้มตุ๋นหลวกลวงชัดๆ
โครม! ตู้ม !!
เฮ !!
ไรเดน โรซินันเต้ ช็อปเปอร์เเละโรบินรออยู่บนเรือโกอิ้งแมรี่ในขณะที่ทุกๆคนกำลังคึกคักกันอยู่บนเรือขนาดใหญ่นั่น พวกเราทั้งสี่ทำกิจกรรมต่างๆนาๆไปเรื่อยเป็นการฆ่าเวลารอให้พวกนั้นกลับมา
“ 20 ล้านเบรี ” ไรเดนพูดเสียงเรียบ
“ อะไรนะ! เกาะเล็กๆแค่นี้น่ะเหรอ !? ”
โรซินันเต้ตอบกลับด้วยท่าทางหัวเสีย ภายใต้หน้ากากสีขาวดำนั้นชัดเจนแล้วว่าต้องทำสีหน้าไม่พอใจอย่างแน่นอน ทว่าถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ยังยอมควักแบงค์ออกมายื่นให้เเต่โดยดี
“ ตาฉันเเล้วสินะ ” โรบินหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหยิบลูกเต๋าขึ้นมาทอย
แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเรากำลังเล่นอยู่นั่นก็คือเกมเศรษฐี และซึ่งคนที่เข้าเคล้ากับคำว่าเศรษฐีมากที่สุดก็คงไม่พ้นไรเดนที่มีเงินอยู่ในมือมากถึงสามร้อยล้านเบรี โรบินที่มีอยู่หนึ่งร้อยยี่สิบล้านเบรี กับโรซินันเต้ที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่สองพันเบรีเท่านั้น(แบงค์ปลอมน่ะ)
นึกว่าจะซุ่มซ่ามเป็นอย่างเดียว ที่แท้ยังรวมถึงเรื่องของการดวงซวยด้วย... โรบินคิดอย่างตลกๆ
“ เหวอ.. ! ”
ในขณะที่พวกเรากำลังหฤหรรษ์กับเกมกันนั้น อยู่ๆช็อปเปอร์ก็ได้ส่งเสียงร้องออกมา ร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยขนสีน้ำตาลชี้โด่ชี้เด่ขึ้นอย่างผิดปกติ ทำให้ทั้งสามจำต้องหันไปมองอย่างสงสัย
“ เป็นอะไรไป? คุณหมอ ” โรบินถาม
“ ป เปล่า.. เเค่อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาน่ะ... ”
เมื่อไม่มีอะไรให้ต้องกังวล พวกเราจึงหันกลับมามองที่เกมกันต่อ ส่วนช็อปเปอร์ก็ก้มลงไปบดยาของตนเอง
ตอนนี้บนเรือฟ็อกซี่เริ่มที่จะเงียบสงบลงบ้างเเล้ว...
...ไม่นานนักหลังจากความวุ่นวายขนาดหย่อม ทุกๆคนก็กลับลงมาที่เรือแมรี่กันจนครบ โดยที่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ด้านบนนั้นจะเป็นไปได้ด้วยดี ลูฟี่โบกมือลาให้กับฟ็อกซี่ก่อนที่เจ้าตัวเเละลูกน้องจะพากันเเล่นเรือออกไป พวกเราจึงได้เริ่มเดินทางกันต่อ
นามิเล่าว่าพวกเราช่วยฟ็อกซี่จากโจรสลัดกลุ่มนั้นเอาไว้ได้ แต่ก็โดนเจ้านั่นหักหลังมานิดหน่อย เลยถล่มเรือลำนั้นไปส่วนหนึ่ง สุดท้ายจึงคืนดีกันได้(ที่ไม่รู้ว่าคืนดีกันได้จริงรึเปล่า)
ล่องเรือกันมาได้สักพัก พวกเราก็พบเข้ากับเกาะเเห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเกาะร้างไร้ผู้คน ..บรรยากาศทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เเละหุบเขานั้นเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นที่หาเสบียงเเละที่พำนักพักพิงให้แก่พวกเรา
เรือลำกลางจอดเทียบท่าอยู่บนชายฝั่งอย่างเช่นเคย ทุกๆคนต่างเเยกย้ายกันออกไปหาเสบียงอาหารตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายกัน ในขณะที่ไรเดนและซันจิคอยเป็นคนก่อกองไฟเเละเตรียมที่สำหรับทำอาหารสองคน
เสียงไม้ลั่นของกองเพลิงเป็นหนึ่งในบรรยากาศในตอนนี้ ท้องฟ้าสีครามเริ่มเข้าสู่ยามเย็นสีส้มตามกาลเวลา ชายหนุ่มเเละหญิงสาวนั่งอยู่บนโขดหินใกล้ๆเพื่อรอการกลับมาของเพื่อนๆ ..ขณะเดียวกันนั้น ไรเดนกำลังมองออกไปด้านนอกทะเลอย่างว่างเปล่าโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ในขณะที่สายตาของซันจิกลับจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอ
แน่นอนว่าหากจะให้ร่างบางเป็นคนเปิดบทสนทนาก็คงจะเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งเขาเองก็ไม่อยากจะปล่อยให้ความเงียบกลืนกินแบบนี้ไปเรื่อยๆ แม้การได้มองใบหน้าเรียบเนียนของหญิงสาวแสนสวยจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมอันน่าภิรมย์สำหรับเขาก็ตาม
“ เอย์ซังกับคนคนนั้นดูเหมือนจะสนิทกันมากเลยทีเดียวนะครับ ”
ซันจิหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ นึกภาพชายร่างสูงที่อยู่ๆก็โผล่มาพร้อมกับไรเดนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เจ้านั่นเป็นผู้ชายตัวสูงผิดปกติเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดา ใบหน้าที่ออกจะดูสะอาดสะอ้านจนน่าแปลกใจกับผมสีเหลืองทองเหมือนกันเขา ซึ่งมาพร้อมกับความซุ่มซ่ามที่น่าปวดหัว
อาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองคนรู้จักกัน ก็เลยดูเหมือนว่าจะสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆ บ่อยนักที่ไรเดนเเละโรซินันเต้จะอยู่ด้วยกัน
ไม่สิ.. หากจะพูดให้ถูกคงต้องบอกว่าหมอนั่นตามติดหญิงสาวไปเกือบทุกที่จะดีกว่า
ไรเดนเงยหน้าขึ้นมามองซันจิ ฉงนว่าทำไมเขาถึงได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
“ ไม่ไว้ใจอย่างงั้นเหรอ ” เธอกล่าว สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนไปไหน
...ซันจิปล่อยควันมลพิษจากบุหรี่ออกมาเบาๆ นิ้วคีบบุหรี่มวลเล็กออกจากปากมาถือไว้
“ แหม.. ผมจะกล้าไม่ไว้ใจคนที่เอย์ซังพามาได้ยังไงล่ะครับ~♡ ” เขาประกบนิ้วเข้าด้วยกัน ก่อนจะหันมาเจ้าชู้ใส่เธออย่างเต็มที่
แน่นอนว่าเขาโกหก
คนที่ตรวจสอบอะไรไม่ได้ เเถมยังมาขอให้ปิดบังตัวตนให้แบบนี้ ใครมันจะไปกล้าไว้ใจลง
อย่างน้อยก็เพราะคำยืนยันจากไรเดน และเจ้าตัวที่ไม่ได้ทำอะไรแปลกๆนอกจากการสร้างความเสียหายเล็กๆจากความซุ่มซ่ามบนเรือ นั่นจึงทำให้โรซินันเต้ยังคงสามารถยืนหยัดอยู่บนเรือลำนี้ได้โดยไม่มีเสียงคัดค้านของแต่ละคนออกมา
ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของโรซินันเต้เลยนอกจากตัวของไรเดนเอง ขนาดโรบินที่ก็ยังพอรู้ว่าเป็นหนึ่งในอดีตศัตรู และได้รับการซักไซร้ประวัติมาเเล้วเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนได้ยินตรงกัน
“ ไม่ไว้ใจสินะ ” หญิงสาวกล่าวอย่างรู้ทัน
ซันจิส่งยิ้มแห้งให้ เขาหันกลับมาสูบบุหรี่เอาควันเข้าปอดอีกครั้ง ไม่ไว้ใจก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง
...แต่ทว่าอีกส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจมันดันเป็นความไม่พอใจอยู่ลึกๆ ซึ่งเขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันเป็นความไม่พอใจแบบไหน
บางทีอาจจะเป็นความหึงหวง ? แต่เขาคิดว่าเขาไม่ได้มีความรู้สึกต่อไรเดนมากพอที่จะเป็นแบบนั้น อย่างน้อยเขาก็รู้สึกผูกพันกับผู้หญิงคนอื่นที่เข้าถึงง่ายมากกว่าเธอ หรือบางทีมันอาจจะเป็นความอิจฉา ? นั่นก็มีความเป็นไปได้ หญิงสาวที่ตนเองคลั่งไคล้ไปอยู่กับชายอื่นมากกว่าปกติที่เป็นอยู่ เหมือนสถานการณ์ที่ผู้หญิงเข้าหาลูฟี่แทนที่จะเป็นเขา นั่นจึงทำให้เขาเกิดความริษยาขึ้นมา
ไม่ล่ะ.. มันไม่เหมือนกัน
จะเอาไรเดนไปเทียบกับสถานการณ์พวกนั้นได้ยังไง แค่ความรู้สึกก็ต่างกันเเล้ว
“ ชิ.. ”
ซันจิลอบสบถออกมาเบาๆ ความคิดในหัวตีกันยุ่งเหยิงไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ความคิดจากก้นบึ้งของหัวใจก็บอกว่าเขาไม่ชอบใจที่ไรเดนไปสนิทกับโรซินันเต้คนนั้นจนดูสะดุดตา
“ โย่ว ! พวกเราหาเสบียงมาได้เยอะเเยะเลยล่ะซันจิ เอย์ ชิชิชิ !! ”
เหมือนระฆังดังก้องเข้ามาในหัว ตัวการที่ทำให้เขาหยุดคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้โผล่มาเสียที ทั้งสองมองทุกคนซึ่งมาพร้อมกับวัตถุดิบอาหารหลายอย่างเต็มไม้เต็มมือไปหมด ลูฟี่ยิ้มร่าเริงให้กับพวกเรา ไม่รอช้าที่จะยื่นเสบียงให้ซันจินำมันไปทำเป็นอาหารในวันนี้
ในขณะที่พวกเรากำลังกินอาหารอยู่นั้น ก็ได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย เมื่อเจ้าฟ็อกซี่ที่ยังไม่เลิกรามือจากลูฟี่พยายามโผล่เข้ามาปั่นป่วนทุกคน ทว่าก็โดนลูฟี่จัดการไปตามระเบียบ นั่งเเหมะมองดูพวกเรากินอาหารอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลมากนัก
โคร๊ก..
หญิงสาวหนึ่งในนั้นท้องร้องประท้วงขึ้นมา เธอบ่นกับฟ็อกซี่ผู้เป็นหัวหน้าว่าหิวขนาดไหน เป็นโอกาสอันดีให้ซันจิได้ฉายเเสงในทันที โดยการที่เขานำอาหารส่วนหนึ่งไปมอบให้กับเธอด้วยความยินดี ใบหน้าท่าทางเตรียมพร้อมที่จะส่งขนมจีบไปให้เธออย่างเต็มที่
และแม้จะเป็นแบบนั้น ..แต่ภายในใจของเขากลับยังคงคิดถึงเรื่องของไรเดนไม่หาย
หลังช่วงเวลาอาหารเสร็จสิ้นไป พวกเราก็คิดที่จะเข้าป่าไปหาอาหารมาตุนกันต่อ ซึ่งในระหว่างที่เดินป่าพร้อมกับเสบียงเต็มไม้เต็มมืออยู่นั้น หลายคนก็สังเกตได้เห็นรอยแปลกๆบางอย่างตามพื้นดิน เป็นรอยขีดตรงราวกับรอยล้อขนาดเล็กที่ขับขี่ไปทางด้านหน้า
“ ดูเหมือนรอยจักรยานหรืออะไรเทือกนั้นผ่านไปเลยเเฮะ ” อูซปตั้งข้อสังเกต
แต่นี่มันเป็นเกาะร้างไม่ใช่หรืออย่างไร ?
“ ทั้งๆที่ไม่มีคนอยู่ จะไปมีรอยล้อจักรยานได้ยังไง ” ซันจิกล่าวค้าน
ในที่สุดทุกคนก็พับเก็บเรื่องนี้กันลงไป สงสัยไปอย่างไรสุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องให้ความสนใจในตอนนี้ด้วย ในเมื่อพวกเรากำลังจะออกจากป่ากันเเล้ว
“ โอ๊ะ.. โผล่มาที่ลานกว้างเฉยเลย... ” ลูฟี่กล่าวอย่างงงๆ
เมื่อโผล่พ้นออกมาจากป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ตรงหน้าของพวกเราปรากฏลานกว้างของทุ่งหญ้าขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ ...ดูเหมือนว่านี่จะเป็นอีกส่วนหนึ่งของเกาะเเห่งนี้ และช็อปเปอร์ที่สังเกตเห็นอะไรบางอย่างได้รีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความสนใจทันที
“ อะไรน่ะ ช็อปเปอร์ ? ”
ตรงโขดหินขนาดใหญ่ปรากฏอะไรบางอย่างอยู่ด้านหลัง มันเป็นเหมือนพุ่มสีดำๆทรงคล้ายๆเห็ดตั้งตรง ลูฟี่นึกเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นเห็ดขนาดใหญ่จึงได้รีบตรงดิ่งตามคุณหมอประจำกลุ่มเข้าไปอย่างติดๆ ปากก็กร่นด่าช็อปเปอร์ที่คิดจะครอบครองเห็ดขนาดใหญ่นั้นไว้ตัวคนเดียวด้วยความโมโห
ความหิวไม่เข้าใครออกใคร
แต่ทว่าไรเดนกลับรู้สึกแปลกๆ...
โซโรเองก็เช่นกัน “ ตรงนั้นเหมือนมีอะไรบางอย่างล่ะ ไปกันเถอะ ” เขากล่าว
ว่าเเล้วชายหัวเขียวก็วิ่งไป พร้อมกับไรเดนที่ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้มากความ กับซันจิที่เหมือนจะขาดไปไม่ได้เลยเมื่อพูดถึงโซโร ทั้งสามวิ่งตามกัปตันเรือไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยที่เหลือซึ่งต้องหยุดตัวกับหนุ่มซุ่มซ่ามประจำเรือซะก่อน ตอนนี้กำลังหน้าคมำลงไปกับพื้นจนหน้ากากแทบจะหลุดออกมา
“ โถ่ เจ้าบ้าเอ้ย ! ” นามิบ่นเล็กน้อย แต่เธอกับอูซปก็ช่วยเจ้าตัวให้ลุกขึ้นมาอยู่ดี
หลังโขดหินปรากฏชายร่างสูงพอๆกับโรซินันเต้อยู่คนหนึ่ง เขาเป็นชายชุดสีขาวผมสีดำที่หัวคาดที่ปิดตาสำหรับนอนอยู่หนึ่งอัน ..ลูฟี่ที่เห็นว่าไม่ใช่เห็ดเเต่อย่างใดก็เกิดอาการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่รอช้าที่จะถามชายคนนั้นไปด้วยความสงสัย
“ นายเป็นใครน่ะ! ”
ทุกๆคนที่ตามลูฟี่มาจนถึงที่หมายจ้องชายคนนั้นด้วยความตกตะลึง ...โรซินันเต้ที่ได้เห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจนเกิดอาการชะงักตัวไปอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าภายใต้หน้ากากปรากฏเหงื่อเม็ดเล็กผุดย้อยลงมาตามกรอบหน้า กับสีหน้าที่ไม่รู้ว่าควรจะทำแบบไหนในสถานการณ์แบบนี้
เขารู้จักคนๆนี้...
“ เจ้ายักษ์ที่เหมือนโรซี่นี่มันใครกันน่ะ !? ” อูซปพูดออกมาอย่างอึ้งๆ เดี๋ยวนี้เขาชักจะเจอคนที่ตัวสูงบ่อยเกินไปแล้ว
แต่ดูเหมือนทุกคนในนี้จะไม่รู้จัก..
แย่แล้วล่ะ
ตุบ !
โรบินล้มลงกองกับพื้น ทำให้ทุกคนหันไปมองเธอที่กำลังอยู่ในสีหน้าหวาดผวาผิดเคล้าจากปกติ เธอหอบหายใจสั่นตัวเเข็งค้างพร้อมทั้งเหงื่อที่ขึ้นเต็มใบหน้า ชายคนนั้นที่พวกเราพึ่งเจอดูเหมือนจะมีผลต่อหญิงสาวเป็นอย่างมาก
ไรเดนจับเข้าที่ง้าวด้านหลังของตนเอง ในขณะที่เพื่อนๆต่างก็ถามไถ่อาการเธอด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่พวกนั้นจะหันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่นัก
“ อาระๆ ทำไมบรรยากาศมันตึงเครียดอย่างนั้นล่ะพี่ชาย ? ” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น
ท่าทางของเขาใจเย็นเเละเรียบง่ายเกินกว่าที่จะเป็นคนหาเรื่องใครได้
เขากล่าวต่อ “ ฉันไม่ได้มาเพราะว่าได้รับคำสั่งหรืออะไรหรอกนะ แค่วันนี้อากาศดี เลยออกมาเดินเล่นเฉยๆ ”
ไม่รู้ว่าทำไม.. แต่ไรเดนรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเขาอย่างน่าประหลาด เหมือนเคยเจอในหนังสือพิมพ์ฉบับไหนซักฉบับมาก่อน
เเละเเล้วเธอก็ได้รู้คำตอบ เมื่อโรบินอธิบายว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
ทหารเรือ คู่ปรับคู่เเค้นของโจรสลัดมาอย่างช้านาน เเถมยังเป็นคู่ปรับตัวฉกาจอีกด้วย กองกำลังที่เเข็งแกร่งที่สุดของรัฐบาลโลก
พลเรือเอก อาโอคิจิ แห่งกองทัพเรือ ซึ่งมีเพียงเเค่สามตำเเหน่งเท่านั้น ส่วนคนที่อยู่สูงกว่านั้น ก็มีเเต่จอมพลเซ็นโงคุที่คอยสั่งการกองทัพ
อาโอคิจิยิ้มให้กับคำตอบของโรบิน
“ อาระๆ.. เธอโตมาเป็นผู้หญิงที่ดีเลยนะ นิโค โรบิน ”
ชัดเจนเเล้วว่าเขารู้จักกับโรบิน
✿
(จริงๆ อาระๆ มันก็มีความหมายแปลในแบบไทยๆอยู่นั่นเเหละครับ เเต่ผมชอบ เลยเอามาใส่แบบทับศัพท์ไปเลย)
ความคิดเห็น