คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter III - Episode 3
เมื่อพูดถึงเเกรนด์ไลน์ จะบอกว่ามีอะไรแปลกๆมากมายก็คงไม่ผิดนัก
ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ ที่มีร่างใหญ่โตของชายคนหนึ่งนอนเกยตื้นอยู่บนชายหาด สลบสไลไม่ได้สติอยู่บนพื้นทรายของเกาะซึ่งเป็นจุดเเวะพักอีกเเห่งของไรเดนในการเดินทาง
หญิงสาวออกจากเกาะจายามานานเเล้ว พร้อมกับสเบียงในกระเป๋าที่เก็บเอาไว้กินตลอดเส้นทาง มุ่งหน้าตามหาลูฟี่เเละเพื่อนๆต่อไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็ฝึกฝนขัดเกลาฝีมือของตนเองพลางๆ
ชายคนนี้มีผิวสีซีด ผมสีทองอร่ามสั้นยาวพอประมาณ เเละความสูงที่มากกว่าเธอเป็นสองเท่าตัว ร่างกายที่เปียกปอนสวมชุดสีเเดงลายขาว เเละกางเกงยีนส์สีเทาขาดๆ
ไรเดนมองชายคนนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง คิดว่าจะเดินผ่านไปเลยดีรึเปล่า เเต่ทว่าจิตใต้สำนึกของเธอกลับบอกว่าควรจะเก็บชายคนนี้เอาไว้ อย่างน้อยก็ด้วยความสงสารระหว่างเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกคนหนึ่ง
มือบางหยิบง้าวขึ้นมาใช้ปลายด้ามเขี่ยๆร่างนั้นเล็กน้อย ลมหายใจที่กระเพื่อมขึ้นลงบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่ เธอนิ่งไปสักพัก สมองประมวลผลใช้ความคิดอยู่สักระยะหนึ่ง
เห้อ..
จะปล่อยเอาไว้ตรงนี้ก็คงไม่ได้ ว่าเเล้วเธอก็ย่อตัวลงไปยกร่างร่างนั้นขึ้นมาพาดบ่า แม้จะทุรักทุเรจากขนาดร่างกายที่เกินไหล่ของเธอไป เเต่เรื่องความหนักของตัวไม่ทำให้ไรเดนลำบากเเต่อย่างใด
อย่างน้อยก็เพราะว่าเธอเเข็งเเกร่ง
หญิงสาวหาที่พักเหมาะๆซึ่งอาจจะใช้พักเเรมในคืนนี้ได้ ใต้ต้นไม้ใหญ่เป็นจุดเเลนด์มาร์กที่ดีสำหรับความต้องการของเธอ ไรเดนวางชายคนนั้นให้นอนเเหมะลงกับพื้นดิน จัดท่าทางให้เขานอนหงายให้เรียบร้อย มองดูใบหน้าซีดเผือดที่หลับพริ้มไม่ได้สติอยู่ครู่หนึ่ง
เธอไม่ใช่หมอ.. อย่างน้อยในตอนนี้ที่เธอทำได้ก็คือการก่อกองไฟ หวังให้ความร้อนส่งถึงร่างที่หนาวเหน็บจากน้ำทะเลของเขา เเละภาวนาไม่ให้เขาตายจากพิษไข้ซะก่อน
ไม่อย่างนั้นเกาะนี้อาจจะได้มีหลุมฝังศพฝังอยู่หลุมหนึ่ง
...ไม่นานนักก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงบางอย่าง ดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นๆค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ปรากฏนัยน์ตาสีน้ำตาลอมเเดงคู่เล็กส่อเเววงงงวย เขากระพริบตาปริบๆปรับโฟกัสภาพตรงหน้า กวาดสายตามองดูสิ่งรอบกายก่อนจะสะดุดอยู่ที่ร่างเล็กของหญิงสาว ซึ่งนั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่อีกฝั่งของกองไฟ
ชายหนุ่มอึ้งเล็กน้อย พยายามประมวลผลบางอย่างในหัวอย่างรวดเร็ว ที่นี่ที่ไหน? เเล้วเขามาอยู่ได้อย่างไร.. เมื่อรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ เขาก็ค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง
ไรเดนลืมตาขึ้นมามองอีกฝ่ายที่จ้องเขม็งมาทางตน มีความหวาดระเเวงเเละความไม่ไว้วางใจวูบไหวผ่านนัยน์ตาสีเข้มของเขา ..ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้โง่พอที่จะเเสดงความเป็นปฏิปักษ์กับเธอตรงหน้าในตอนนี้
อย่างน้อยก็เพราะเธอเป็นคนช่วยเขาเอาไว้
“ ธ เธอคือ.. ? ” เขาหยั่งเชิงเล็กน้อย
“ นายเป็นใคร ”
ชายหนุ่มชะงักกับคำถามที่ตอบกลับด้วยคำถาม ไม่รู้ว่าควรจะไปต่อในทางไหนดี ท่าทางของคนตรงหน้าช่างเย็นชาเสียจนเขาไม่กล้าจะทำอะไรมากมาย บรรยากาศรอบกายเองก็บ่งบอกถึงความอันตรายอย่างมหาศาล กดดันอากาศเสียจนเขาหายใจเเทบไม่ออก
“ ฉัน... ”
ร่างสูงก้มหน้าลงเล็กน้อย ท่าทางเหมือนคนที่กำลังพยายามนึกบางสิ่งบางอย่างให้ออก แต่ก็นึกไม่ออกซักที
“ ฉัน..จำไม่ได้ ... ” นี่คือคำตอบที่เขาสามารถให้ได้ในตอนนี้
ไรเดนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย ดวงตาคู่สวยจ้องมองตรงเข้าไปราวกับจะทะลุผ่านจิตใจของเขา
เธอหันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ อาหารอยู่ตรงนั้น กินซะ ”
เขาหันไปมองตามคำพูดของเธอ ก็เจอกับอาหารที่ถูกวางเรียบร้อยเอาไว้ข้างกาย ไม่รู้ว่าควรจะหยิบมันขึ้นมาดีหรือไม่ บางทีมันอาจจะใส่ยาพิษหรือของแปลกๆที่อาจจะเป็นอันตราย? งั้นแล้วถ้าใส่จริงๆคนตรงหน้าจะช่วยเขาตั้งเเต่เเรกทำไม ?
ไม่ว่าจะคิดอย่างไร เเต่ร่างกายของเขากลับซื่อตรงต่อสภาพที่เป็นอยู่
โครกก..
ไรเดนยังคงท่าทีนิ่งสงบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เธอไม่ได้ขำหรือเเสดงสีหน้าล้อเลียนเยาะเย้ยออกมาแต่อย่างใด ทว่ายิ่งเป็นเเบบนั้น เขาก็ยิ่งรู้สึกอับอาย
ชายหนุ่มหยิบอาหารขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เเดงก่ำเล็กน้อย หลับหูหลับตาตั้งใจกินมันไปอย่างเงียบๆ ขณะเดียวกับก็เฝ้ามองอากัปกริยาของไรเดนไปพลาง พร้อมตั้งข้อสังเกตในใจ
เธอเป็นผู้หญิงที่พกง้าวเล่มใหญ่สีม่วง(จริงๆก็ม่วงทั้งร่างกาย) กลิ่นอายความเเข็งแกร่งประทุขึ้นมาอย่างชัดเจนจนเขารู้สึกได้ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม เขาไม่เคยเห็นเธอในหน้าหนังสือพิมพ์หรืออย่างอื่นมาก่อนเลย คนที่เเข็งเเกร่งระดับนี้อย่างน้อยก็น่าจะมีชื่อบ้าง
พูดก็พูดไป เขาไม่ได้ตามข่าวหนังสือพิมพ์มาหลายเดือนเเล้วเหมือนกัน
หลังทานอะไรอิ่มเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำความรู้จักกัน(สำหรับเขาคนเดียว) ชายหนุ่มเผชิญหน้ากับหญิงสาวสุดเเสนอันตรายคนนี้ พยายามคิดคำถามที่ไม่ก้าวก่ายให้ได้มากที่สุด เผื่อเธอจะโมโหแล้วจะฟันเขาทิ้งซะก่อน ขอเเค่รู้ที่มาที่ไปของเธอก็เพียงพอแล้ว
“ เอ่อ.. ขอบคุณนะ ”
ร่างสูงก้มหัวขอบคุณเธอเป็นอย่างเเรก สิ่งนี้ก็เพื่อสำหรับการช่วยเหลือเเละที่ให้อาหาร ไรเดนหันมามองเล็กน้อย พยักหน้าเบาๆจนเเหมือนเป็นการก้มหน้า ทว่าเท่านี้ก็เพียงพอที่จะให้ไปต่อได้เเล้ว ชายหนุ่มยิ้ม
“ เเล้ว.. ว่าเเต่เธอเป็นใครงั้นเหรอ? —อ๊ะ ขอเเค่ชื่อก็ได้นะ ! ”
ฟุบ !
ไรเดนโยนอะไรบางอย่างให้กับเขา ซึ่งเขาก็รับมันมาเเบบงงๆและมองดูมันเล็กน้อย ..สิ่งที่อยู่ในมือมันคือกระดาษที่ถูกพับเก็บเอาไว้สองทบ มือหนาคลี่ออกเพื่อดูด้านใน ก่อนจะอ้าปากกว้างดวงตาถลนออกมาจากเบ้าเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น
จ.. โจรสลัด !?
สิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือกระดาษค่าหัวของโจรสลัดคนหนึ่ง เพียงเเค่ใบนี้ใบเดียวก็ทำให้เขากระจ่างเเจ้งได้อย่างเเจ่มชัด ไม่ต้องมีคำพูด ไม่ต้องเอ่ยเเนะนำตัวให้เสียเวลา เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงชื่อเสียงเรียงนามเเละที่มาที่ไปของเธออย่างชัดเจน
ได้ใครช่วยไม่ช่วย ดันมาได้โจรสลัดช่วยเหลือ
ชายหนุ่มลอบน้ำตานอง หากเขาทำอะไรให้เธอไม่พอใจจริงๆละก็ มีหวังได้ถูกจับย่างเนื้อหมกเกลือแหง
“ ถึงคราวนายเเล้ว ” ไรเดนกล่าวเสียงเรียบ ฉุดให้เขาหลุดออกจากภวังค์
“ อ่า.. ฉันจำไม่ได้หรอก— ”
“ ฉันไม่ชอบคนโกหก ”
ร่างสูงหุบริมฝีปากลง มุมปากเหยียดตรงไม่ปรากฏรอยยิ้มเหมือนอย่างเก่า ดวงตาของเขาเเข็งขึ้นเล็กน้อย สบสายตาเข้ากับหญิงสาวตรงหน้าที่จ้องมาทางเขาด้วยความกดดัน
เธอรู้อยู่เเล้วสินะ..
เขาหลุบตามองลงต่ำอย่างช่างใจ ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมามองเธออีกครั้ง
“ ฉัน โรซินันเต้ ” เขายอมบอกชื่อ
ไรเดนเงียบอย่างเป็นผู้ฟังที่ดี ร่างสูงยอมบอกเกี่ยวกับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเกิด ฐานันดร หรือแม้เเต่สถานการณ์ที่ตนเองได้เผชิญมา แต่เขาก็ไม่ได้บอกลึกถึงขนาดว่ามีพ่อเเม่เป็นใคร ครอบครัวเป็นยังไง เเละมีความสามารถอะไร
“ ฉันเป็นคนจากเผ่ามังกรฟ้าที่มาใช้ชีวิตนอกมารีจัวร์ เคยเกือบตายมาเเล้วครั้งหนึ่ง หลังรอดมาได้ก็ปลีกตัวออกมาใช้ชีวิตของตัวเอง ”
หลังพูดจบ หญิงสาวมองโรซินันเต้อย่างพิจารณา เมื่อพบเเล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหกจึงละสายตาจากเขา หันไปทำธุระส่วนตัวของตนเองโดยการหยิบง้าวขึ้นมาเช็ดที่ใบดาบ ปากก็พูดต่อ
“ จะนอนกันที่นี่ พรุ่งนี้จะไป ”
โรซินันเต้พยักหน้า “ เธอเป็นโจรสลัดคงมีเรือสินะ แล้วพวกพ้องล่ะ ? ”
ไรเดนหันมามองเขาด้วยสีหน้าเรียบๆ ทำเอาร่างสูงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยสักเท่าไหร่
“ ไม่มีเรือ ”
ชายหนุ่มแข็งค้าง เขาอ้าปากอย่างตกตะลึง หมายความว่ายังไงที่ว่าไม่มีเรือ ไม่ว่าเรือจะเล็กหรือใหญ่อย่างน้อยก็ต้องมีไม่ใช่เหรอ ในทะเลอันกว้างใหญ่แบบนี้เรือถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆเลยนะจะบอกให้
ไม่มีเเล้วเดินทางยังไง คงไม่ใช่ว่าเธอวิ่งบนน้ำหรอกนะ
และแล้วเขาก็ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นถูกเผง ซึ่งนั่นทำเขาช็อคไปเลย..
โรซินันเต้ขอไรเดนนั่งต่อเรือแบบง่ายอยู่ประมาณสามสี่วัน เพราะยังไงซะเขาก็ไม่คิดจะวิ่งบนน้ำแบบเธออย่างแน่นอน ของบ้าบิ่นเเบบนั้นใครจะไปทำตาม แถมเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปเดินแบบนั้นได้ยังไง เป็นความสามารถที่เฉพาะแบบเรียกได้ว่าเฉพาะสุดๆ
จะสุดยอดอะไรขนาดนั้น.. แกรนด์ไลน์ใช่น่านน้ำนิ่งๆที่สามารถเดินได้อย่างสบายใจเฉิบที่ไหนกัน ขนาดทะเลที่อ่อนแอที่สุดอย่างอีสต์บลูก็ยังมีคลื่นหรือพายุฝนตามที่ต่างๆเลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าพวกเราจะเเยกย้ายกันออกไปก็ได้ ไรเดนความจริงเเล้วสามารถเดินทางด้วยตัวเองต่อไปได้เลย ทว่าโรซินันเต้ที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ได้เอ่ยปากขอร่วมทางไปด้วยซะอย่างงั้น
หญิงสาวในตอนเเรกปฏิเสธทันทีอย่างไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เธอไม่อยากจะร่วมทางกับคนที่พยายามปกปิดตัวตนของตัวเองราวกับเป็นความลับหนักหนา แต่เมื่อเขาบอกเหตุผลว่าถ้าเขาเอาตัวเองไปปล่าวประกาศมั่วซั่ว เขาคงจะไม่ได้มีชีวิตมาเจอเธอจนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อเขาไว้ใจ เขาก็จะบอกเธอเอง
แค่นั้นแหละ
โรซินันเต้มองกระดาษหนังสือพิมพ์ด้วยรอยยิ้ม เป็นครั้งเเรกที่เธอเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมาจากใบหน้าของเขา ด้วยความที่ทุนเดิมร่างสูงก็ไม่ใช่คนที่หน้าตาไม่ดีอะไร ทำให้องค์ประกอบส่วนนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว กลายเป็นใบหน้าที่ดูดีขึ้นหลายระดับ
ไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่ออยู่ภายใต้รอยยิ้มที่สดใสก็ต้องดูดีเป็นธรรมดา
เหลือบเข้าไปมองในหนังสือพิมพ์เล็กน้อย ก็พบกับใบหน้าของชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นโจรสลัดรุ้กกี้หน้าใหม่ที่มีค่าหัวอยู่พอประมาณ
เป็นชายท่าทางถือดี ใบหน้าหล่อเหลาแซมเคล้าด้วยเคลาดำคล้ายกับซันจิ สวมหมวกขาวลายจุดแปลกๆและพกดาบเล่มยาว ฉายาคือศัลยแพทย์แห่งความตาย กัปตันเรือและหมอประจำกลุ่มโจรสลัดฮาร์ต
อาจจะเป็นคนรู้จัก หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกันทางใดทางหนึ่ง
ไรเดนอนุมานเล็กน้อย ก่อนจะละเลิกความสนใจไป หยิบยกกระเป๋าสะพายของตนเองขึ้นมา เตรียมออกเดินทางจากเกาะเเห่งนี้เมื่อตุนเสบียงได้มากพอ
โรซินันเต้สังเกตเห็นเธอ เมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะไปก็ลุกขึ้นยืนตาม ตรวจสอบสิ่งของอะไรให้เสร็จสรรพกันลืม ก้าวเท้าเข้ามาหาได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกได้ถึงความเคว้งคว้างของอากาศแปลกๆ
โครม !!
ร่างสูงโย่งตระเนงล้มลงกับพื้นทรายจนเกิดเสียงดัง เสียงทุ้มโอดครวญเจ็บปวดอยู่ด้านล่างพลางลูบก้นของตนเองปอยๆ ทั้งๆที่ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดแท้ๆแต่กลับสะดุดล้มซะได้ ไรเดนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า
หรือควรจะบอกว่าชินแล้วดีล่ะ
นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกของโรซินันเต้จอมซุ่มซ่ามที่เธอได้ประสบพบเจอ หากนับตั้งเเต่รู้จักกันมาจนเกือบหนึ่งอาทิตย์ นี่ก็น่าจะเป็นรอบที่สิบได้แล้วที่เขาเป็นเช่นนี้
หกล้ม สะดุดขา เผาตัวเอง หรือแม้เเต่เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างการเดิน และหลากหลายอย่างอีกมากมาย
บางทีเขาอาจจะมีปัญหาที่สมองส่วนใดซักที่ก็ได้ น่าจะให้ช็อปเปอร์ตรวจสอบดูซะหน่อย
เมื่อจัดเเจงความคิดอะไรเสร็จสรรพ เธอก็หันหน้าเดินต่อไปในทันที จะเสียเวลามากกว่านี้ไม่ได้เเล้ว เพราะต้องสร้างเรือที่ไม่รู้ว่าจะพังตอนไหนเวลาออกทะเลก็ปาไปสี่วัน ป่านนี้ไม่รู้ว่าพวกเพื่อนๆของเธอจะกำลังทำอะไรกันอยู่
อยากไปเจอเร็วๆ
✿
(ขออภัยในความบิดเบือนเนื้อเรื่องหลักด้วยนะครับ แค่ผมรู้สึกว่าอยากจะเก็บโคราซอนเอาไว้ ไม่โกรธกันนะครับ ฮรึกฮือ..ʕ´• ᴥ•̥`ʔ )
(ถ้าเรือพังขึ้นมาก็อย่าลืมช่วยโรซี่ด้วยนะเจ๊5555 สี่วันจะต่อเรือได้ซักแค่ไหนกันเชียว)
ความคิดเห็น