คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter III - Episode 2
ความรู้สึกที่ไรเดนสามารถรับรู้ได้ในตอนนี้ ก็คือตัวตนของเพื่อนๆที่เหมือนจะอยู่บนฟ้า
ดวงตาคู่สวยมองขึ้นไปยังด้านบน ทิศทางอันเกิดปรากฏการณ์เมฆเเข็งตัวก่อกันจนเป็นก้อนกลมเเละหลุมตรงกลางขนาดใหญ่ ..จากข้อมูลที่หามาได้เมื่อสักครู่ ดูเหมือนว่าวันก่อนๆจะมีการระเบิดของทะเลขึ้น ทำให้น้ำทะเลพุ่งสูงเหนือฟ้าจนเป็นทะเลเเนวตั้ง
บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับพวกของลูฟี่ก็ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ร่างระหงนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์แห่งหนึ่ง เธอถือเเก้วน้ำผลไม้พร้อมกับอ่านข่าวประจำวันจากหนังสือพิมพ์ไปพลาง ตลอดระยะเวลาที่ไรเดนสั่งสมความเเข็งเเกร่งของตนเองหลังเเยกออกจากกลุ่มมา ทำให้รู้ว่าการติดตามข่าวสารเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับโจรสลัดหรือกองทัพเรือ ล้วนเเต่ต้องติดตามเอาไว้อย่างใกล้ชิด เพราะมันจะเป็นตัวดำเนินการให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ตุ๊บ !
เสียงกระเเทกหนักๆดังขึ้นข้างกายหญิงสาว บุคคลด้านข้างซึ่งปรากฏตัวเข้ามาให่นั่งลงบนเก้าอี้ไม้เช่นเดียวกับเธอ
“ เอาเหล้ามา ! ”
ชายผมสีเหลือง สวมเสื้อกล้ามเเละทับด้วยโค๊ทสีน้ำเงินกล่าวกับบาร์เทนเดอร์ ไรเดนเเม้จะขมวดคิ้วกับเสียงอันดังใกล้ๆหูอยู่บ้าง เเต่ก็ไม่ได้คิดสนใจเเต่อย่างใด ยังคงจมอยู่กับความคิดของตนเอง
“ หือ ? ”
ร่างนั้นหันมามองเธอด้วยความสนใจ ใบหน้าของหญิงสาวช่างงดงามมตราตรึงตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ได้มอง เกือบจะทักทายด้วยความถือดีตามปกติของตนเอง ทว่าก็ชะงักตัวได้ทันไว้ก่อน ขมวดคิ้วมุ่นฉงน รู้สึกคุ้นเคยกับร่างบางแบบแปลกๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน เเต่ก็คิดไม่ออกเสียที
เมื่อรับรู้ได้ถึงดวงตาที่จับจ้องเข้ามาอย่างเสียมารยาท ไรเดนจึงตวัดสายตาเหลือบไปมองอีกฝ่าย ส่งเเรงกดดันออกไปเบาๆ
เฮื๊อก !
เบลลามี่ผงะถอยหลัง ความเย็นยะเยือกแผ่ขึ้นตั้งเเต่แผ่นหลังสู่ด้านบน
เขาจำได้เเล้ว !
“ ก.. กลุ่มหมวกฟาง... ”
ชายหนุ่มพึมพำออกมาเบาๆ เหงื่อเม็ดพระกาฬไหลหลงตามกรอบหน้าใหญ่ เธอคนนี้คือสมาชิกของกลุ่มหมวกฟางที่กองทัพให้ความสนใจในปัจจุบัน เเละเขาเองก็พึ่งโดนหัวหน้าของกลุ่มซัดหมอบไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง
ตามข่าวลือ เธอเป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่งที่สุดของกลุ่มหมวกฟาง อีกทั้งยังมีค่าหัวที่มากที่สุดด้วย หากเบลลามี่เเพ้ให้กับผู้เป็นหัวหน้าเเล้ว อย่าว่าเเต่หญิงสาวเลย
“ มีอะไร ? ”
เสียงหวานดังระฆังเอ่ยเรียกสติชายหนุ่ม ดวงตาอันเเสนเย็นชายังคงมองเขาด้วยหางตาราวกับว่าเขาไม่มีค่าอะไรให้สนใจมากนัก เบลลามี่สะดุ้งตัวอีกครั้ง หัวใจเต้นกระหน่ำอย่างคนหวาดกลัว ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก หันเหสายตาไปทางอื่นอย่างไม่กล้าสบตา
“ ป เปล่า.. ”
ว่าเเล้วเขาก็รีบรุกกายเดินออกไปทันที ในตอนนี้เขายังไม่ควรจะมีเรื่องกับหญิงสาว
เเค่ความรู้สึกกดดันผ่านทางสายตาก็เเทบทำเอาเขาทรุดเข่าเเล้วล่ะ
หลังหลุดพ้นจากสายตาของเบลลามี่ ไรเดนจึงหันกลับมามองหนังสือพิมพ์อีกครั้ง มือเรียวพลิกกระดาษไปทีละหน้าทีละหน้า ข่าวไหนไม่น่าสนใจก็ข้ามไป มืออีกข้างก็หยิบน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่มจิบเป็นพักๆ
บาร์เทนเดอร์เองในตอนนี้ก็ค่อนข้างรู้สึกกดดันเหมือนกัน มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น ก็ดันมีตัวอันตรายแบบนี้เข้ามาซะได้ หากไปทำอะไรให้เจ้าตัวไม่พอใจ คงได้ถล่มร้านเเน่ๆ
“ อ.. เอ่อ คือว่า ถ้าเป็นกลุ่มของหมวกฟางละก็ เหมือนจะออกไปแล้วนะ ”
“ เรื่องนั้นรู้เเล้วล่ะ ” ไรเดนตอบเสียงเรียบ
ที่เธออยู่ตรงนี้ก็เพราะต้องการจะนั่งพักสักหน่อย เป็นปกติเวลาวิ่งกลางทะเลจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งเป็นเวลานานๆ เธอก็จะหาที่พักก่อนจะออกเดินทางต่อ
เเม้จะตามพลังงานที่ไรเดนอุตส่าห์ติดไว้กับทุกคน เเต่ในทะเลเเกรนด์ไลน์จะไร้ล็อกโพสต์หรือเอเทอนอลโพสต์ไม่ได้ ดังนั้นที่ข้อมือของเธอจึงมีล็อกโพสต์อยู่อันหนึ่งสวมเอาไว้
เเน่นอนว่าสภาพอากาศของเเกรนด์ไลน์ไม่ใช่สภาพอากาศเหมือนปกติของทะเลทั่วไป อะไรย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ในช่วงเเรกที่เธอออกเดินทางจึงเป็นอะไรที่ลำบากเป็นอย่างมาก กว่าจะชินก็ใช้เวลาไปพอสมควร
...ช่วงเวลาล่วงเลยผ่านไปได้ซักพักหนึ่ง เสียงเอะอะโวยวายบางอย่างก็ได้ดังขึ้นจากทางด้านนอกของร้าน ทุกๆคนในร้านเหล้าหันไปมองด้วยความสนใจ บ้างก็เดินออกไปดูสถานการณ์ด้านนอก
เป็นเรื่องปกติของเมืองเเห่งนี้ที่จะเกิดการต่อสู้ขึ้น มันไม่ใช่อะไรที่ไรเดนต้องให้ความสนใจ เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ วางเงินค่าน้ำเอาไว้ก่อนจะเดินลิ้วออกไป ตั้งใจว่าจะเดินทางต่อเพื่อตามหาลูฟี่เเละพวกพ้อง
โครม !
เศษไม้ปลิวละร่อนบินผ่านหน้าของเธอไป ร่างบางมองมันด้วยสายตาว่างเปล่า ฝีเท้าหยุดชะงักพอดีก่อนที่มันจะประทะเข้ากับใบหน้าของเธอจนเกิดรอยแผล
ไรเดนคิดจะก้าวขาเดินต่อ เเต่ก็ต้องชะงักตัวอีกรอบ เมื่อเศษไม้อันใหม่ลอยละลิ่วเข้ามาทางนี้ราวกับเป็นการฟีดแบ็คเหตุการณ์ ..คราวนี้มันพุ่งเข้าสู่ใบหน้าของเธออย่างจัง เเต่ก่อนจะถึงตัวก็ได้เกิดพลังงานบางอย่างขึ้นมาหยุดมันเอาไว้ เป็นพลังงานสายฟ้าที่ป้องกันไม่ให้เศษไม้พวกนั้นกระทบเข้าสู่ร่างกาย
ไรเดนเหลือบสายตาไปมองเล็กน้อย เธอเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ทันที ขาเรียวหันกายเดินเข้าไปดูสถานการณ์ตรงหน้า ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่
ปํ๊ก ! ตุบ ! โครม !
‘ บ บ้าน่า.. เเตกคอกันเองงั้นเหรอ ’ เสียงซุบซิบกระจายขึ้น
‘ ซาคีตกับเบลลามี่สู้กันเนี่ยนะ ต..เเต่ทำไมเขาถึงดูทรมานขนาดนั้นล่ะ ? ’
‘ หยุดนะ ! พอได้เเล้ว ’ บางคนก็พยายามห้าม อาจจะเป็นหนึ่งในกลุ่มของคนที่กำลังสู้อยู่
หญิงสาวเดินผ่านฝูงชนเข้าไป ตรงกลางของสายตาปรากฏชายหนุ่มที่เธอพึ่งเจอกันในร้านเหล้าเมื่อสักครู่ กำลังต่อสู้กับชายอีกคนซึ่งถือมีดเเละเธอไม่รู้จัก
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร เเต่ดูเหมือนว่าหนึ่งในนั้นจะมีสีหน้าที่ค่อนข้างทรมานเเละไม่ยินยอม คลับคล้ายกำลังถูกควบคุมโดยใครบางคนอยู่ ซึ่งบุคคลต้องสงสัยไม่ใช่ใครที่ไหน หากไม่ใช่ชายร่างสูงสวมชุดโดดเด่นที่นั่งอยู่ข้างตึก
ไรเดนยกกระดาษหนังสือพิมพ์ขึ้นมา เทียบรูปภาพระหว่างชายที่อยู่ตรงนั้นกับรูปในหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์จ่าหน้าข่าวว่าเป็นการเรียกรวมตัวของเหล่าเจ็ดเทพโจรสลัดที่มารีจัวร์ ไม่ได้บอกรายระเอียดถึงการเรียกรวมตัวอย่างชัดเจน เเต่หนึ่งในนั้นที่เข้าประชุมด้วยมีชายคนนั้นอยู่
ดอนกิโฮเต้ โดฟลามิงโก้
หนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัดเหมือนกับคร็อกโคไดล์ ดูเหมือนว่าจะเป็นโจรสลัดที่ปกครองเกาะเเห่งหนึ่งนามเดรสโรซ่า
เเละเหมือนว่าชายคนนั้นจะสังเกตเห็นเธอเช่นกัน ใบหน้าสวมเเว่นจ้องมองตรงมาทางนี้อย่างสงสัยใคร่รู้ ล้มเลิกการสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าไปชั่วขณะราวกับเจอสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า เลนส์แว่นสะท้อนใบหน้าของไรเดนขึ้นมาเลือนๆ
โดฟลามิงโก้กระตุกปากฉีกยิ้มกว้าง ปลดปล่อยซาคีตให้เป็นอิสระจากด้ายของตัวเองชั่วคราว พุ่งความสนใจไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ร่วมกับผู้คนตรงนั้น
แม้จะอยู่ในฝูงชน แต่ก็ยังคงโดดเด่นสะดุดสายตา ความงามระดับนี้เทียบได้กับจักรพรรดินีโบอา แฮนค็อกเลยก็ว่าได้
“ หึหึหึหึหึ.. ดูซิว่าเราพบใคร ? ”
สองสายตาสอดประสานกัน ไรเดนไม่อาจรู้ได้เลยว่าดวงตาภายใต้เเว่นกรอบขาวนั่นกำลังคิดอะไรอยู่ รอยยิ้มอาจเเฝงไปด้วยอะไรมากมาย ทว่าเธอก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเเต่อย่างใด จ้องกลับไปไม่หลบหลีกสายตา
โดฟลามิงโก้ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือล้วงกระเป๋ากางเกงลายฉูดฉาดทั้งสองข้างของตนเอง เสื้อคลุมสีโดดเด่นคล้ายขนนกเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของอีกฝ่าย ส่วนสูงกว่าสามร้อยเซ็นติเมตรทำให้ไรเดนที่มีความสูงถึงร้อยแปดสิบดูตัวเล็กลงไปเลย ชายหนุ่มย่ำเท้าก้าวเดินเข้ามาทางนี้ด้วยบรรยากาศคุกคาม ท่ามกลางสายตาของฝูงชนที่มองอย่างไม่ลดละ รวมถึงซาคีตเเละเบลลามี่เองก็ด้วย
เป็นการเผชิญหน้าระหว่างโดฟลามิงโก้กับไรเดน
“ ด โดฟลามิงโก้.. ! ”
เบลลามี่เอ่ยเรียกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงค่อนเเคระ เเต่เจ้าของชื่อกลับไม่คิดสนใจเลยสักนิดเดียว
“ โจรสลัดสาวสวยกลุ่มหมวกฟาง~ ทำไมถึงไม่อยู่กับพวกพ้องซะล่ะ ? ”
ไรเดนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ ไม่จำเป็นต้องรู้ ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
โดฟลามิงโก้ฉีกยิ้มกว้างมากกว่าเดิม เกือบจะเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัว ร่างสูงก้มตัวลงมาหาหญิงสาว ..ราวกับลูกไก่ในกำมือ หรือไม่ก็ลูกเจี๊ยบที่เเสร้งทำเป็นกล้าหาญต่อหน้าราชสีห์ นี่คือภาพในสายตาของผู้คนโดยรอบ ภาวนาไม่ให้ฝ่ายชายทำร้ายหญิงสาวที่งดงามคนนี้เลย
“ หึหึหึ สีหน้าร้อนเเรงจริงๆนะ ”
มือหนาเอื้อมขึ้นตั้งใจจะเเตะเข้าที่ใบหน้านวล
เปรี๊ยะ—!
รู้สึกได้ถึงการช็อตที่รุนเเรงผ่านทางเส้นประสาทของฝ่ามือ แทนที่จะได้จับสัมผัสกับใบหน้าที่งดงามของหญิงสาว กลับกลายเป็นว่ามีแหล่งพลังงานร้ายโจมตีขึ้นมาราวกับโล่ป้องกันร่างกาย ไรเดนยังคงนิ่งสงบเสมือนน้ำเเข็งพันปีไม่สั่นคลอน
หึ โดฟลามิงโก้ยกยิ้มถูกใจ ขายาวก้าวผ่านร่างเล็กเดินออกไปทางด้านหลัง
“ ถ้าไม่ตายซะก่อนก็คงได้เจอกันอีก ”
นั่นเป็นคำสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากไป ทิ้งไว้เเค่เพียงสัญลักษณ์ของกลุ่มโจรสลัดดอนกิโฮเต้
ไรเดนไม่ชอบคนอย่างโดฟลามิงโก้เอาซะเลย
หากพบกันอีก.. เธออาจจะได้บั่นคอเขาเสีย
✿
(อยากไทม์สคริปต์ไปยาวๆเลย อยากไปช่วยเอสเเล้ว)
ความคิดเห็น