NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ ONE PIECE ] My name's Raiden Ei

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter III - Episode 1

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 65





    “ เอย์.. เธอเเน่ใจเเล้วเหรอ... ”  



    นามิเเละพวกพ้องคนอื่นๆซึ่งยืนอยู่บนเรือมองลงไปยังร่างเพรียวบางของหญิงสาว ไรเดนในชุดกิโมโนเเบบประยุกต์พร้อมด้วยอาวุธคู่กายยืนอยู่บนผืนทรายของเกาะเเห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติเเละผลไม้อาหารมากมาย สัตว์นานาชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก เพียงพอที่จะให้อยู่อาศัยพักพิงได้สำหรับคนหนึ่งคน 



    หญิงสาวพยักหน้าเเทนคำตอบ ของจำเป็นสำหรับใช้ชีวิตที่ซันจิอุตส่าห์คัดสรรค์ให้ด้วยความใส่ใจเก็บอยู่ในถุงหิ้วข้างๆเธอ เป็นคำอธิบายสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ 



    ไรเดนได้ขอเเยกตัวออกมาจากกลุ่มหมวกฟางเป็นการชั่วคราว... 



    “ ไม่เอาๆๆ ! ” 



    ลูฟี่กระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ เขาไม่ต้องการที่จะให้ไรเดนออกจากเรือไปเดินทางคนเดียวอย่างเด็ดขาด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเองก็ไม่รู้เกี่ยวกับทะเลเเกรนด์ไลน์เเห่งนี้เช่นเดียวกับพวกเขา จะเป็นการดีกว่าถ้าหากให้ทุกคนร่วมเดินทางผจญภัยไปด้วยกันเรื่อยๆ และคอยช่วยเหลือซึ่งกันเเละกันในยามคับขัน 



    “ นั่นสิครับเอย์ซัง ผมจะทำใจยอมรับให้เลดี้ออกเดินทางคนเดียวได้ยังไงกัน.. ” 



    ซันจิกล่าวสมทบ ชายหนุ่มรู้สึกช็อกกับการตัดสินใจของไรเดนไม่เเพ้ไปกว่าคนอื่นๆ กระเเสเเห่งความกังวลผุดขึ้นเต็มใบหน้าหล่อเหลา ในหัวคิดภาพที่หญิงสาวต้องใช้ชีวิตอย่างทรหดกลางทะเลหรือบนเกาะที่เเสนอันตรายด้วยตัวคนเดียว 



    ‘ ไม่นะ ! จะให้เอย์ซังไปใช้ชีวิตเเบบนั้นไม่ได้~ ’ ซันจิกัดผ้าเช็ดหน้าร้องไห้  



    โซโรที่เงียบมาตลอดก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากสอดเเทรก  “ ลองคิดดูอีกทีเถอะ ถึงจะบอกว่าอีกหน่อยจะตามพวกเราไปก็เถอะ เเต่เธอจะหาพวกเราเจอได้ยังไง ? ” 



    เเน่นอนว่าทุกคนเองก็มีคำถามเดียวกันกับชายหนุ่ม ไรเดนที่ได้ยินเงยหน้าขึ้นไปสบเข้ากับดวงตาเรียวดุจเหยี่ยวคู่นั้นของโซโร



    “ ไม่ต้องห่วง.. ต้องเจอเเน่นอน ”  



    ดวงตาสีม่วงอมน้ำเงินเรืองเเสงขึ้นจางๆ ทำให้นักดาบประจำเรือขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ ร่างกายผงะถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว



    “ โฮ่ย ! นี่คงไม่ได้ทำอะไรเเปลกๆกับพวกเราใช่ไหมเนี่ย ? ” 



    ร่างบางเลือกที่จะเมินคำพูดของโซโร เลื่อนสายตามองดูทุกๆคนที่มีสีหน้าเศร้าใจปนกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กัปตันเรือของเราที่เเทบจะลงมาฉุดเธอให้กลับขึ้นเรือไปเหมือนเดิม หากไม่ได้อูซปและช็อปเปอร์คอยกันท่าห้ามไว้ 



    “ ปล่อยน่า ! ฉันจะไปพาเอย์ขึ้นมาเอง เธอเเค่หิวก็เลยหน้ามืดพูดอะไรไม่คิด เดี๋ยวฉันจะเเบ่งอาหารทั้งหมดให้ !! ”



    “ เย้ย ! อย่าทำอะไรโดยพลการสิเจ้าบ้า ! ” อูซป



    “ นี่เป็นการตัดสินใจของเอย์ซัง รอให้เธอพูดให้จบก่อนเส้ ! ” ช็อปเปอร์ 



    ยื้อหยุดกันไปกันมาก็มีเเต่จะเสียเวลาเปล่า ไรเดนจึงเปิดปากพูดต่อ



    “ อีกไม่นานก็เจอกัน ฉันขอสัญญา.. ” 



    ตราบใดที่อัสนีสีม่วงยังคงอยู่ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เธอก็จะพบพวกเขา 



    ภายใต้เงาของทุกคน ปรากฎเส้นประกายบางอย่างลาดผ่าน แฉลบสว่างขึ้นชั่วขณะจนเเทบจะสังเกตไม่เห็น



    ลูฟี่มองเธอด้วยใบหน้าที่เริ่มเบะขึ้นอย่างข้าๆ ท่าทางของเขาราวกับเด็กน้อยที่พึ่งโดนเเย่งอาหารโปรดไปหมาดๆ ตุ๊บ ! เขานั่งก้นคมำลงกับพื้นเรือ หันหลังให้เเละกอดอก เป็นท่าทีที่ดูออกได้อย่างง่ายดาย 



    กำลังงอนสินะ... 



    นามิที่มองการเเสดงออกของกัปตันหันมายิ้มเเห้งให้กับไรเดน  “ ฮ่ะๆ.. ช่างเถอะ เดินทางมาด้วยกันตั้งนานพวกเราย่อมผูกพันกันเป็นธรรมดา ให้เวลาเขาหน่อยนะ ” 



    “ ถึงจะเศร้า เเต่พวกเราก็เคารพการตัดสินใจของเอย์ซังนะ เหมือนกับวีวี่ไง ” ช็อปเปอร์ที่เกาะอยู่ตรงขอบเรือยิ้มให้หญิงสาว เหมือนกับทุกๆคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น 



    “ เอาเถอะ.. ก็ใช่ว่าเธอจะไปขาดเลยนี่นะ เดียวก็ได้เจอกันเเล้วล่ะ ” โซโรหลับตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มมุมปากประดับบนใบหน้าคม



    “ ไว้กลับมาเเล้วผมจะทำอาหารอร่อยๆให้ทานนะครับ! เอย์ซัง♡ ” 



    “ โอ้ๆ ถึงจะไม่ได้เห็นพลังอันสุดยอดของเธอเเล้วก็เถอะ เเต่ก็... ไว้เจอกันนะ ! ” อูซปเป็นคนกล่าวปิดท้าย 



    ไรเดนพยักหน้าให้กับทุกคน เธอเองก็อยากจะกล่าวอะไรกับเพื่อนๆมากกว่านี้เหมือนกัน ทว่าด้วยความพูดไม่เก่งที่ยังคงเเก้ไปหาย จึงทำได้เเค่ส่งผ่านความรู้สึกขอบคุณไปทางสายตาเท่านั้น 



    ดวงตาของเธอยังไม่ละไปจากแผ่นหลังเหยียดตรงของลูฟี่ ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะน้อยใจเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก นั่นจึงทำให้เธออดมีความสุขเล็กๆไม่ได้ 



    ที่อย่างน้อย.. เธอก็มีความสำคัญกับเขา 



    มีความสำคัญกับทุกคน 



    สายลมทะเลพัดอ่อนๆเข้ามาโฉบยังชายฝั่ง ธงโจรสลัดสัญลักษณ์ของกลุ่มหมวกฟางปลิวในเเนวเดียวกันกับเสื้อผ้าที่ทุกคนสวมใส่ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นประดับอยู่บนใบหน้าของคนบนเรือ 



    ไรเดนมองภาพนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหยิบถุงสัมภาระของตนเองเเละเดินหายเข้าไปในธรรมชาติของเกาะ ลอบมองเรือโกอิ้งเเมรี่ที่ค่อยๆเลื่อนออกไปอย่างช้าๆ กอปรกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินเเละหายลับลงไปในทะเลอันกว้างใหญ่ 



    ดวงตาของไรเดนอ่อนโยนขึ้นเป็นเท่าตัว ...ก่อนจะกลับกลายมาเป็นดวงตาที่เเข็งกร้าวเเละมุ่งมั่น ร่างบางควานหาที่เหมาะๆเเล้วนั่งเเหมะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยผลไม้ลูกกลมสีชมพูอ่อนน่าอร่อย วางของทุกอย่างเอาไว้ข้างกายไปให้พ้นๆทาง ชันขาขึ้นเล็กน้อย เปลี่ยนท่าไปเป็นท่านั่งขัดสมาธิ 



    มือเรียววางอยู่บนหน้าเข่า หลับตาลงตั้งสมาธิให้มั่น กระเเสพลังอ่อนๆปรากฏขึ้นห้อมล้อมตัวเธอเอาไว้บางๆ ปลดปล่อยพลังงานบางอย่างออกสู่พื้นที่วงกว้าง 



    ทัศนียภาพของป่าไม้หายไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นมิติอันว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตเเละความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอย่างเก่า ในนี้มีเพียงซากปรักหักพังของสิ่งต่างๆเเละสมบัติมากมายที่วางกระจัดกระจายอยู่รอบๆบริเวณ ขุมทรัพย์มหาศาลหากจะนำเอาไปใช้ทั้งชีวิตก็คงใช้ไม่หมด 





    ไรเดนค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง.. มองพื้นที่รอบกายด้วยสายตาเรียบนิ่งเเละสงบ  หากมองด้วยตาเปล่า.. ก็จะพบว่าเธอเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตนเดียวที่อาศัยอยู่ในที่เเห่งนี้



    ทว่าจิตวิญญาณของเธอกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น 



    ‘ เจ้าพร้อมแล้วรึยัง ? ’ 



    ซุ้มเสียงปริศนาที่คุ้นเคยดังก้องกังวาลไปทั่วบริเวณ ไร้หลักเเหล่งที่มาที่ไปราวกับอยู่ทุกที่ ได้ยินมาเเล้วเมื่อครั้งก่อนเข้าเเกรนด์ไลน์ ..ตัวตนที่ส่งเธอมายังโลกนี้ 



    ในตอนนี้จะกลายเป็นตัวเเปรสำคัญสำหรับความเเข็งเเกร่งของเธอในครั้งนี้ 












    “ โฮ่ยๆ ! นี่นายถึงกับร้องไห้เลยเรอะ ? ” โซโรพูดขึ้นอย่างคนทำอะไรไม่ถูก มองดูกัปตันเรือที่ตอนนี้กลั้นน้ำตาเอาไว้เเทบไม่อยู่เเล้ว  ...ท่าทางอวดดีเมื่อกี้หายไปลิบลับผิดกับที่ทำใส่ไรเดนไปบนเกาะ



    “ ฮึก! แงงง !! ฉันยังไม่ได้บอกลาเอย์เลย เเถมยังมีเรื่องที่จะพูดอีกตั้งเยอะตั้งเเยะด้วย  ...ฉัน)@฿)@)฿/#(฿/('?")#)#@(฿+)@((฿) ” 



    ทุกคนต่างก็มองดูลูฟี่ด้วยสายตาเอือมระอา ถ้าคิดถึงขนาดนั้นทำไมไม่ไปพูดกับไรเดนให้จบๆเลยเล่า มานั่งทำท่าเเง้งอนใส่เเบบนี้จะอดก็สมควรเเล้วล่ะ



    น่าเหนื่อยใจจริงๆ คนเเบบนี้เหรอที่มาเป็นกัปตันเรือให้พวกเรามาโดยตลอด 



    นามิมองขึ้นไปบนท้องฟ้า  ..มันก็น่าใจหายจริงๆนั่นเเหละ มีคนเลือกที่จะไปตั้งสองคนเลยนี่นา 



    เมื่อไหร่จะได้เจอกันนะ... 










    ___________________________ 



    หลายสัปดาห์ต่อมา... 



    ตึก ตึก ตึก ! 



    ผืนน้ำกระเพื่อมสั่นไหวตามเเรงกระทบเพียงเล็กน้อยของรองเท้าส้นไม้คู่สวย กระเเสพลังงานสีม่วงเกิดขึ้นตามจุดที่ตกกระทบลงเพื่อรองรับไม่ให้สิ่งนั้นเเตะกับพื้นน้ำ ขาเรียวยาววิ่งไปตามเเนวทะเลกว้างใหญ่เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะเเห่งหนึ่งบนเเกรนด์ไลน์ เกศาสีเข้มสะบัดตามลมต้านของร่างกายที่พุ่งไปยังด้านหน้า 



    เป็นภาพที่เเปลกตาเกินกว่าจะเข้าใจ ทว่าเมื่อมันอยู่ในทะเลเห่งนี้เเล้ว อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ  ..ไม่เว้นเเม้เเต่คนที่กำลังวิ่งอยู่บนทะเลด้วยเช่นกัน 



    เกาะขนาดกลางปรากฏขึ้นสู่สายตา สิ่งปลุกสร้างบ้านเรือนต่างๆเเน่นขนัดไปทั่วทั้งหมู่เกาะ เเซมด้วยธรรมชาติเเละผืนไม้เป็นจุดๆพอให้มีความอุดมสมบูรณ์ มองดูเเล้วน่าจะเป็นเกาะที่ค่อนข้างเจริญทีเดียว 



    เพียงเเต่ไม่รู้ว่าเจริญด้วยวิธีไหนก็เท่านั้นเอง 



    สายตาคู่สวยเหลือบมองเรือโจรสลัดที่จอดเทียบท่ากันเป็นระนาบเดียวกัน ต่างคนก็ต่างกลุ่ม เสียงเฮฮาภายในเมืองดังไกลมาจนถึงที่ที่เธออยู่ ราวกับว่าตอนนี้กำลังมีงานเทศกาลครื้นเครงกันอยู่



    ฟุบ ! 



    ร่างบางกระโดดจากน้ำขึ้นสู่สะพานเทียบท่าเล็กๆ มองดูในเมืองที่เต็มไปด้วยคนพลุ่งพล่านระรานตา เเต่แทนที่มันจะดูสดใสเเละชื่นมื่นเหมือนตามปกติของเมืองที่ผู้คนมีชีวิตชีวา กลับกลายเป็นว่าบรรยากาศโดยรอบให้กลิ่นอายที่ป่าเถื่อนอย่างสิ้นเชิง 



    เกาะจายา.



    สถานที่ล่าสุดที่ไรเดนรับรู้ได้ถึงการคงอยู่ของพวกพ้อง 



    หญิงสาวในชุดกิโมโนเดินตามถนนคนเดินไปเรื่อยๆ เเละเพราะรูปลักษณ์ที่เเปลกตา บวกกับกับการเเต่งกายที่สะดุดใจ หรือไม่อาจจะก็เพราะอะไรบางอย่าง ทำให้หลายๆคนที่เดินอยู่ตรงนั้นต่างก็หันมามองที่เธอเป็นตาเดียว 



    ‘ น.. นั่น ! ดูนั่นสิ ’ 



    ‘ จริงๆด้วย ตามรูปภาพเป๊ะๆเลย ’ 



    เสียงซุบซิบเกิดขึ้นรอบๆข้างหญิงสาว สายตานับสิบทิ่มเเทงมาที่ไรเดนเป็นตาเดียว บ้างก็มองด้วยสีหน้าเเปลกๆ บ้างก็หันไปคุยกับคู่สนทนาของตนเอง ทว่าเธอซึ่งตกเป็นเป้าก็ไม่ได้คิดสะทกสะท้านกับเเรงกดดันทางสายตาที่ถูกส่งมาเบาๆนั้นเเต่อย่างใด 



    ‘ นั่นมันไรเดน เอย์ โจรสลัดของกลุ่มหมวกฟาง ! ’ 



    ‘ ค่าหัวตั้งหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเบรี มากสุดบนเรือเลย ! ’ 



    ‘ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ พวกกลุ่มหมวกฟางออกไปแล้วนี่ ’ 



    ไรเดนเดินผ่านทุกคนไปอย่างว่างเปล่า ร้านรวงต่างๆตั้งอยู่รอบข้างล้วนมีเเต่พวกบาร์เหล้าหรือไม่ก็โรงเเรม หลังจากที่เเยกตัวออกมาจากพวกลูฟี่เเล้ว ก็ได้รู้ว่าพวกเขาเดินทางกันต่อเรื่อยๆจนมาถึงที่นี่ 



    บางที.. เธอต้องหาข้อมูลอะไรซักหน่อย 






    (พน.สอบ (⁠´⁠;⁠ω⁠;⁠`⁠) )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×