คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter II - Episode 4 ( 100% )
ซ่าา..าาา...
คร็อกโคไดล์ผงะถอยหลัง จากคลื่นฝนที่สาดกระทบลงมาตามร่างกาย กลิ่นชื้นเเละพื้นทรายเปียกชุ่มไปด้วยพายุฝนขนาดใหญ่จนทำให้เมืองทั้งเมืองชุ่มชื้นผิดเคล้ากับที่แห่งนี้ ทะเลทราย
เสียงของคนทั้งเมืองเรนเบสร้องลั่นตะโกนดังไกลจนมาถึงหูของพวกเราทุกคน ส่งผ่านความความรู้สึกปลื้มปิติดีใจในน้ำเสียงอย่างสุดซึ้ง
สีหน้าของชายร่างใหญ่มือตะขอเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม แผนการเเละผลประโยชน์ที่เขาอุตส่าห์สั่งสมมันมาทั้งหมดล้วนพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี
โดยฝีมือของพวกคนไร้ชื่อกลุ่มเดียว
..หากข่าวนี้เผยเเพร่กระจายออกไปสู่สาธารณะชนวงกว้าง คงไม่พ้นให้คนทั้งโลกหัวเราะเยาะตนเป็นเเน่
ช่างมันประไร.. ยังไงซะ สิ่งเดียวที่เขาให้ความสนใจก็คือของสิ่งนั้นเท่านั้น!
ข้อเท็จที่จริงว่าทรายของคร็อกโคไดล์ไม่สามารถใช้ในขณะที่มีน้ำกระทบกับมันได้ และหากคร็อกโคไดล์ยังคงดึงดันจะเปลี่ยนเเปลงร่างกายของตนเองให้เป็นทรายอยู่ละก็ ไม่เเน่ว่าอาจจะปลิวไปกับลมพายุของไรเดนก็เป็นได้
เสียเปรียบโดยสมบูรณ์
ตึก ตึก..
“ เอย์ ฉันจะจัดการเจ้านี่เอง ! ”
ลูฟี่เสนอตัวรับหน้า ร่างสูงยืนตระหง่านต้านกับเเรงลมเเละสายฝนอย่างไม่คิดเกรงกลัว เส้นผมสีดำเเละชุดปลดกระดุมเปิดอกสีเเดงพัดพลิ้วไปด้านข้างกอปรกับท้องฟ้าที่เเลบสว่างขึ้นมาชั่วขณะ ปิดท้ายด้วยเสียงครึ้มคำรามของหมู่เมฆดำด้านบน เสริมสร้างความน่าเกรงขามมากกว่าปกติเป็นเท่าตัว
ดวงตากลมขมวดคิ้วจ้องไปยังคร็อกโคไดล์ด้วยความมุ่งมั่นเเละความมั่นใจเต็มเปี่ยม นี่คือการต่อสู้ของเขา สังเวียนของเขา ความตั้งใจเดิมที่อยากจะอัดอีกฝ่ายยังคงไม่เปลี่ยนเเปลงไปไหน ตราบใดที่คนตรงหน้ายังคงเป็นศัตรู
เป็นศัตรูของพวกพ้อง
ลูฟี่จ้องเขม็งเข้าไปยังดวงตาของคู่ต่อสู้จนเห็นได้ถึงประกายไฟแลบผ่าน ไม่เเน่ใจว่าต้องการข่มขวัญอีกฝ่ายหรือไม่
เปล่าประโยชน์ที่ไรเดนจะห้าม ด้วยความหัวดื้อและไม่ค่อยจะฟังใครของกัปตันเรือ ดังนั้นเธอจึงถอยตัวออกห่าง ปล่อยให้การดวลในครั้งนี้เป็นของลูฟี่เเละคร็อกโคไดล์ ท่ามกลางความโกรธาและเสียงกรีดร้องของท้องฟ้าซึ่งเป็นสักขีพยายานในการดวลครั้งนี้
“ ดูเหมือนว่าจะมาได้เเค่นี้สินะ ”
มีสออลซันเดย์มองภาพตรงหน้า ด้วยสายฝนที่เทกระหน่ำสาดลงมาอย่างหนักหน่วง สภาพอากาศแบบนี้มีเเต่จะทำให้ฝ่ายคร็อกโคไดล์เป็นต่อ ถึงจะมีฝีมือที่เก่งกาจซักเพียงใด แต่ถ้าหากเจอสิ่งที่ตนเองเเพ้ทางอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็ใช่ว่าจะสามารถยืนหยัดต่อสู้ต่อไปได้เหมือนเดิม
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นในทันทีที่ชายสวมหมวกฟางกระโจนใส่ ลูฟี่แลกหมัดกับอีกฝ่ายไปหลายกระบวนท่าเท่าที่จะงัดออกมาได้ หมัดยางยืดเเละตะขอทองที่มือของคร็อกโคไดล์ประทะเข้าหากันเป็นพัลวัน ..เเละเเม้ว่าชายร่างใหญ่จะเสียเปรียบเป็นอย่างมากเนื่องเพราะสภาพเเวดล้อมโดยรอบ ทว่าเขาก็ไม่ได้คิดหนีหรือคิดยอมเเพ้เเต่อย่างใด กลับกัน.. นั่นยิ่งทวีคูณความโกรธให้เเก่คร็อกโคไดล์มากยิ่งขึ้นไปอีก
พลั่ก—! ตู้มม!!
“ เจ้าหมวกฟาง.. ! ”
“ คร็อกโคไดล์!! ”
ต่างคนต่างก็อารมณ์รุนเเรง มุ่งเข้าห้ำหั่นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ฝีมือการต่อสู้ระยะประชิดของคร็อกโคไดล์ถือว่าอยู่ในขั้นร้ายกาจ ทว่ามันก็เพียงเเค่นั้น เมื่อปัจจัยหลักๆในการต่อสู้ของชายร่างใหญ่นั้นคือพลังของผลปีศาจโดยเดิม
เสียงกระหึ่มของการต่อสู้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับพายุฝนที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดกระหน่ำลงมาเลยสักนิด
ไม่ต้องใช้เวลานานก็สามารถรู้ผลได้อย่างรวดเร็ว ...คร็อกโคไดล์ในตอนนี้อยู่ในสภาพบอบช้ำอย่างเห็นได้ชัดจากการที่โดนเพื่อนชายของเธอต่อยเข้าไปหลายหมัดติดต่อกัน ขณะที่ลูฟี่นั้นยังคงปลอดภัยมีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย ร่างกายหอบเเฮ่กจากการใช้พลังงานไปบ้าง โดยรวมเเล้วถือว่าดูดีกว่าอีกฝ่ายมาก
ซึ่งนั่นก็ทำให้ทุกคนได้รู้อีกว่าอีกฝ่ายนั้นเเพ้น้ำถึงขนาดชนิดที่ว่าไม่สามารถใช้พลังจากผลไม้ปีศาจได้เลยสักนิดเดียว แต่ก็ถือว่าสมกับเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด เสียเปรียบมากขนาดนี้เเล้วก็ยังสามารถยืนหยัดต่อสู้กับลูฟี่ที่มีพละกำลังทางกายภาพของจริงเเบบนี้ได้เรื่อยๆ
คงต้องขอยอมรับ
ตุบ !
คร็อกโคไดล์ล้มลงกองหมดสภาพอยู่บนผืนทรายเปียก อกแกร่งใต้สูทชั้นดีสั่นกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ เขาเเพ้เเล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเเผนการต่อไปนี้ที่เขาวางไว้เเต่เดิมอาจจะไม่เป็นผลอีกต่อไป ถ้าหากลูกน้องซึ่งอยู่อลูบาร์น่าเองก็เเพ้ไปด้วย
เพราะยัยผู้หญิงนี่เเท้ๆ.. เขาถึงกลับต้องพ่ายเเพ้อย่างยับเยินเเบบนี้
พลังในการสร้างพายุฝนนี่มันอะไรกัน... จากผลปีศาจงั้นเหรอ ?
เป็นเขาที่ดูเบาคนพวกนี้มากเกินไป ...
สายตาคมจ้องมองขึ้นไปยังร่างเพรียวบางที่ยืนอยู่ด้านบน ใบหน้านิ่งสงบซึ่งมองต่ำลงมายังเขาช่างดูหยิ่งยโสซะจนคิดอยากจะทำลายให้สิ้นซาก เม็ดฝนที่กระทบเข้ากับใบหน้ารอยแผลไม่สามารถบดบังดวงตาสีม่วงสว่างดวงนั้นได้เลย
ถึงจะรู้สึกเจ็บใจอยู่ลึกๆ เเต่เขาก็คิดว่ามันสวยดี ท่ามกลางแสงอึมครืมแบบนี้
คร็อกโคไดล์หลับตาลง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาเเละมองไปยังชายสวมหมวกฟางอีกคน ..ถ้าหากไม่มีไอฝนบ้าๆบอๆนี่ คงเป็นฝ่ายเขาที่ได้รับชัยชนะไปแล้ว
ลำพังเเค่พลังเตะต่อยไร้น้ำจะไปสู้อะไรเขาได้
ไรเดนมองร่างที่นอนแน่นิ่งตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า พายุฝนเริ่มสงบลงบ้างเเล้ว เหลือเพียงเเค่ผลพลอยได้ของห้วงพลังซึ่งกลายเป็นฝนธรรมดาตามฤดูกาลเท่านั้น เเละตอนนี้เธอก็ไม่รู้เเล้วว่าระยะทางของฝนพวกนี้จะไปไกลเเค่ไหน
บางทีอาจจะไกลออกไปสู่ทะเลเหมือนครั้งที่บ้านเกิดของเธอก็เป็นได้
ไรเดนปาดผมที่เเนบติดใบหน้าออกไปทางด้านหลังเล็กน้อย คาดว่าพวกของวีวี่ก็น่าจะไปถึงอลูบาร์น่ากันเเล้ว ที่เหลือก็คงต้องเชื่อใจในตัวของพวกพ้องคนอื่นๆว่าจะควบคุมสถานการณ์ตรงนั้นกันยังไง
เเละไรเดนก็หวังว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดี
ทางด้านของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง มีสออลซันเดย์ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนี้นัก
เธอมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก มองดูสองบุคคลที่สามารถล้มคร็อกโคไดล์ได้อย่างง่ายดาย คนเเรกซึ่งมีพลังกายอันล้นเหลือเเละความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ส่วนอีกคนก็มีแก่นพลังอันลึกลับมหาศาล ซึ่งมากพอที่จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เหนือธรรมชาติขึ้นมาได้
คนพวกนี้.. เป็นเเค่คนธรรมดาไร้ชื่อจริงๆงั้นเหรอ...
มีสออลซันเดย์— ไม่สิ...
นิโค โรบินก้มหน้าลงเพื่อซ่อนดวงตาของตนเองจากบุคคลที่เหลือ โดยใช้ทั้งหมวกคาวบอยสีขาวเเละผมหน้าม้าสีรัตติกาลปกปิดเอาไว้ ริมฝีปากของเธอเหยียดตรง ร่างกายที่เปียกโชกไปด้วยน้ำฝนไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวเลยเเม้เเต่นิดเดียว
ปากสวยอ้าขึ้นเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทว่าสุดท้ายก็หุบลงไป ...เลือกที่จะพูดอย่างอื่นเเทน
“ ในเมื่อเซอร์คร็อกโคไดล์เเพ้เเล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเราจะร่วมงานกันต่อ.. ”
คราวนี้ทุกสายตาจับจ้องทิ่มเเทงมาที่เธอเป็นเเนวเดียว โรบินยกมือขึ้นจับปีกหมวกของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองลูฟี่เเละไรเดนด้วยสีหน้าเรียบ
“ ในตอนเเรกที่ฉันร่วมมือกับคร็อกโคไดล์ ก็เพื่อตามหาโพเนกีฟที่ซ่อนอยู่ในอาณาจักรนี้เท่านั้น.. เเต่ตอนนี้มันไม่สำคัญอะไรเเล้วล่ะ ”
หญิงสาวบอกจุดประสงค์ทุกอย่างให้กับทั้งสองฟัง ลูฟี่เเละไรเดนต่างก็มมีสีหน้าเดียวกัน นั่นก็คือความงุนงง
โพเนกีฟ ?
“ จะอะไรก็ช่างเถอะน่า ! เเต่ถ้าคิดจะทำลายอาณาจักรของวีวี่ละก็ฉันจะอัดให้หมด ”
—ซ่าาา..าาา.... !
‘‘ .... ”
โรบินจ้องมองเข้าไปยังดวงตากลมเล็กของอีกฝ่าย เธอพยายามค้นหาความนัยเเอบแฝงเเต่ก็พบกับความจริงใจในสายตาของผู้ชายคนนี้ เพียงเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งเเละอาณาจักรที่จะพังเเหล่ไม่พังเเหล่ ช่างน่าประทับใจจริงๆสำหรับโจรสลัดที่เเต่เดิมทีก็ไม่น่าจะใช่พวกที่สนใจอะไรซึ่งไม่คุ้มกับผลประโยชน์ของตัวเอง
หญิงสาวหลับตาลงเล็กน้อย
“ งั้นเหรอ... ถ้าอย่างงั้นก็รีบไปช่วยเพื่อนๆของพวกนายเถอะ คร็อกโคไดล์เป็นคนที่รอบคอบกว่าที่คิด เพื่อนๆของเธออาจจะรับมือกันไม่ไหวก็ได้ ”
ลูฟี่ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วกันเป็นปมทันที ปากมุ้ยเบะขึ้นตั้งใจว่าจะยื่นหน้าเข้าไปต่อว่าอีกฝ่ายข้อหาบังอาจดูหมิ่นเพื่อนๆของตน กล้าดียังไงถึงมาบอกว่าเพื่อนๆของพวกเขาอาจจะรับมือกันไม่ไหวน่ะ !
ทว่าก็ถูกมือเรียวจับเข้าที่บ่าเอาไว้ซะก่อน
“ รีบไปกันเถอะลูฟี่ พวกทหารกำลังมาเเล้ว ”
ไรเดนจดจ้องสายตาไปยังด้านหน้าซึ่งข้ามหัวคร็อกโคไดล์กับโรบินไป ตอนนี้ปรากฏทารกลุ่มหนึ่งนำทัพโดยผู้หญิงซึ่งเคยอยู่กับสโมกเกอร์ตอนไล่ล่าพวกเรา ทาชิกิ พวกนั้นกำลังวิ่งมาทางนี้พร้อมด้วยอาวุธเตรียมประจัญบานครบมือ ดูก็รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร
ตัวน่ารำคาญอีกกลุ่มหนึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่พวกทหารเรือ
เเละทหารกับโจรสลัดอยู่ร่วมกันไม่ได้
สำหรับตอนนี้...
ลูฟี่เองก็เริ่มเห็นท่าไม่ดีเเล้วเหมือนกัน อย่างน้อยตอนนี้ก็ต้องไปเจอเพื่อนๆก่อนล่ะนะ ดังนั้นเขาจึงรีบหันหลังก่อนใครเพื่อนทันที ปล่อยให้ชายร่างใหญ่ที่พึ่งเอาชนะมาได้นอนเเหมะอยู่ตรงนั้น พร้อมด้วยโรบินที่ยืนอยู่ข้างๆ
ฝนยังตกอยู่ เจ้านั่นคงใช้พลังผลปีศาจเคลื่อนย้ายไปไหนไม่ได้ ..ส่วนอีกคน ถ้าหากไม่อยากโดนจับก็คงหาทางหนีเอาเองนั่นเเหละ
“ โอ้ส! ถ้างั้นพวกเราก็รีบไปกันเถอะ ลาก่อนล่ะเจ้าวานิ! ”
ผู้หญิงคนนั้น... ลูฟี่ไม่ได้สนใจอะไรอยู่เเล้ว
เเละไรเดนเองก็สัมผัสไม่ได้ถึงจิตมุ่งร้ายอะไรด้วย ไม่รู้ว่าความต้องการของเธอคืออะไร เเต่ถ้าไม่ได้คิดจะทำลายอลาบัสต้า ก็ไม่ใช่กงการอะไรที่เธอต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ทั้งสองร่างจากไปแล้ว.. เหลือเพียงเเค่โรบินที่ยืนมองคนพวกนั้นวิ่งออกไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันเสียงของกลุ่มทหารด้านหลังก็เริ่มไล่เข้ามาใกล้เเล้ว
หญิงสาวเหลือบมองคร็อกโคไดล์เป็นครั้งสุดท้าย ...ก่อนจะหลบหนีออกไปในที่สุด
ถึงจะร่วมมือกัน เเต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้ดี
ว่าพวกเราไม่เคยไว้ใจกันเลย
✿
(ถ้าเป็นคนธรรมดาคงเป็นหวัดไปแล้ว)
ความคิดเห็น