NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ ONE PIECE ] My name's Raiden Ei

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter I - Episode 1

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 65





    “ คานาโอะ  ****  คือชื่อของเธอ ? ” 



    “ ค่ะ ” 





    วี๊ด.. วิ๊ว~...



    ..เหล่าฝูงนกสีขาวกระพรือปีกบินโฉบเหนือหัวส่งเสียงร้องหวีดเเหลม สายลมอ่อนๆพัดพาความเย็นสบายมาสู่สิ่งมีชีวิตภายในเกาะอันอุดมสมบูรณ์ แสงแดดจ้าสาดส่องกระทบผืนดินธรรมชาติจนเกิดสีสัน



    ทว่า...



    ก็ใช่ว่าแสงจะสามารถสาดส่องถึงทั่วทุกที่



    มีแสงสว่าง ก็ย่อมต้องมีความมืด... 





    ใบไม้สีชมพูอ่อนปลิดปลิวผ่านร่างของหญิงสาวผมสีม่วงเข้ม ชุดกิโมโนแบบประยุกต์สีเดียวกันสะบัดพริ้วตามแรงลมเอื่อยๆ ใต้ต้นซากุระต้นใหญ่ที่ปกคลุมบดบังเเสงแดดจนทำให้เกิดร่มเงา ร่างอรชรนั่งคุกเข่าพับเพียบอยู่ตรงนั้นอย่างสงบเสงี่ยม 



    หญิงสาวผู้อยู่ใต้เงามืด 



    “ เข้าใจเเล้วค่ะ ” 



    เธอหลับตาเปล่งเสียงหวานทว่าไร้ซึ่งความมีชีวิตชีวา ร่างบางไม่ได้มีท่าทีอะไรเป็นพิเศษนอกจากการนั่งอยู่เฉยๆ ...ราวกับกำลังสนทนากับใครบางคนด้วยความเงียบสงบ 



    สังเกตจากพื้นที่โดยรอบนี้ มีเพียงเเค่หญิงสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น และนี่ก็เป็นเวลาซักพักแล้วที่เธอโต้ตอบกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 



    หลังจากจบบทสนทนาอันน่าพิศวง ร่างเล็กจึงขยับขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เธอสะบัดชายผ้าปัดฝุ่นเล็กน้อย ทอดสายตามองตรงไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาสีม่วงเข้มไร้เเสงเเห่งชีวิต จดจ้องไปยังท้องทะเลอันกว้างไกล คลื่นสาดกระทบกับชายฝั่งเป็นระรอกขาวสวยงาม



    ตึก ตึก ตึก.. 



    เท้าเรียวขยับก้าวเดินออกจากร่มเงาของต้นซากุระ ปลายเส้นผมสะบัดตามท่วงทำนองการเดิน ริมฝีปากเหยียดตรงสีหน้าท่าทางงดงามเกินคำบรรยายราวกับราชนิกุลผู้สูงส่ง เมื่อก้าวขาออกสู่เเสงสว่างของยามเช้า รองเท้าไม้ส้นสูงที่กระทบกับผืนดินพลันเกิดเเสงเเฉลบสีขาวม่วงขึ้นมาราวกับสายฟ้า 





    ครืนน...



    เมฆสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่า เสียงฟ้าร้องเป็นสัญญาณเตือนของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า สายฟ้าสีม่วงผ่าฟาดลงยังกลางของเกาะเป็นระยะๆ สายลมเฉื่อยในตอนเเรกเริ่มโหมกระหน่ำกรรโชก บรรยากาศในตอนนี้ราวกับเทพที่กำลังพิโรธอยู่ก็ไม่ปาน..



    หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กำลังแปรปรวนด้วยสายตานิ่งสงบ เม็ดฝนเม็ดเล็กตกกระทบกับใบหน้าขาวนวล ..ก่อนจะเริ่มพากันหลั่งเม็ดฝนตกลงมาเยอะขึ้น ..เยอะขึ้น 



    ดวงตาสีม่วงเข้มพลันเรืองเเสงสว่าง ตัดกับบรรยากาศที่กำลังมืดมิดลงอย่างช้าๆ...



    ซ่าา.. ซ่าา...



    พายุกำลังโหมกระหน่ำ



    อีกครั้ง...










    ครืนน.. เปรี้ยง!—



    ซา..ซ่าาา... !



    “ อะไรเนี่ย! เมื่อกี้ท้องฟ้ายังสดใสอยู่เลย ” 



    หญิงสาวเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนบ่นอุบอิบให้กับสภาพอากาศที่อยู่ๆก็แปรปรวนไป ใบหน้าสวยหวานหลับตาหลบเม็ดฝนที่กำลังตกใส่ร่างกาย จากเดิมท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งกลับกลายเป็นว่าอยู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างน่าฉงน ทั้งๆที่ถิ่นเเถบนี้ไม่น่าจะเป็นเเบบนี้ไปได้ แถมจากที่คาดคำนวนเอาไว้เเล้วว่าวันนี้มันไม่น่าจะมีพายุเข้านี่นา คิดอยากจะเกิดก็เกิดขึ้นเลยงั้นเหรอ 



    แน่นอนว่าคนอื่นๆเองก็คิดแบบเดียวกันกับเธอ เรือขนาดกลางโครงเครงไปมาตามแรงของคลื่นและลมพายุ น่าหวาดเสียวว่าอีกเดี๋ยวมันจะพลิกคว่ำจมลงไป พายุลูกนี้ค่อนข้างใหญ่และอันตรายเลยทีเดียว 



    มากจนเธอรู้สึกกลัวจับใจ... 



    “ โอ่ะ.. นามิ  นั่นเกาะนี่ ” 



    ชายหนุ่มยกมือขึ้นจับหมวกฟางของตัวเองเพื่อกันไม่ให้มันปลิวไปกับลม กัปตันของเรือลำนี้ชี้ไปยังเงาดำทะมึนด้านหน้าของเรือ เเรงลมประทะกับใบหน้าเเละสายฝนที่สาดกระทบทำให้มองดูทิวทัศน์ได้ค่อนข้างลำบาก ทว่าพวกเราทุกคนก็พยายามหรี่ตามองไปยังทิศทางที่นิ้วของกัปตันชี้อย่างสุดความสามารถ 



    นามิยิ้มกว้างออกมาเมื่อสังเกตเห็นเงาของเกาะที่กำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้  “ จริงด้วยลูฟี่ ! ดูเหมือนว่าเกาะนั้นกำลังจะเจอกับมรสุมพายุอยู่ แต่ก็ดีกว่าลอยอยู่กลางทะเลล่ะนะ.. งั้นเรารีบเดินเรือไปที่เกาะนั้นกันเถอะ! ” 



    “ โอ้ส! ” ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ได้เเต่หวังกันว่าเกาะนั้นจะมีผู้คนอาศัยอยู่










    ณ ใจกลางของเกาะ 



    ร่างระหงยืนทอดสายตามองสายฟ้าสีม่วงที่กระหน่ำฟาดลงมายังใจกลางของเกาะเป็นระยะๆ ที่เเห่งนี้คือหุบเขาสูงใหญ่ที่มีปล่องหลุมขนาดกว้างอยู่ตรงกลาง อันเป็นเเหล่งลำเลียงสายฟ้าลงสู่ใจกลางด้านในที่ไม่อาจรู้ได้ว่าในนั้นมันมีอะไรอยู่



    ยามใดที่มีสายฟ้า มันก็จะผ่าลงแค่ที่นี่เพียงที่เดียวบนเกาะ คอยเป็นตัวล่อฟ้าป้องกันไม่ให้มันไปผ่าลงที่อื่นโดยรอบ ทุกคนบนเกาะจึงพากันเรียกมันว่าหุบเขาล่อฟ้า ตรงตัวตามคุณสมบัติของมัน 



    “ .... ? ”



    หญิงสาวหันกายและสายตามองไปยังทิศทางหนึ่งเมื่อรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง ด้วยตำแหน่งของเธอที่อยู่บนที่ราบสูงของเกาะ ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นทะเลได้รอบด้าน และเเม้ว่าตัวของเธอจะกำลังยืนตากฝนอยู่ หรือท้องฟ้าบรรยากาศตอนนี้จะมืดมิดเพียงใด ก็ไม่ได้ทำให้ทัศนวิสัยของเธอบกพร่องไปเลยสักนิด



    มีบางสิ่งกำลังพยายามจะฝ่าพายุเข้ามา... 



    “ ... ” 



    เธอหลับตาลงอย่างชั่งใจ ก่อนจะก้าวเท้าเดินลงจากหุบเขาไปยังที่ตั้งอยู่ของเมือง  อันเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนบนเกาะ



    และสุดท้ายก็ตัดสินใจปล่อยให้คนพวกนั้นเข้ามายังเกาะแห่งนี้ได้โดยง่าย... 










    ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ มีเพียงเเค่เสียงของฝนตกกระทบกับพื้นดิน ..ด้วยพายุฝนที่รุนเเรงขนาดนี้ คงไม่มีคนบ้าที่ไหนกล้าออกมาเดินเล่นอยู่ด้านนอกอย่างเเน่นอน หากไม่อยากเปียกฝนหรือตัวปลิวเพราะลมแรงล่ะนะ



    จะยกเว้นก็เพียงเเต่... 



    ไรเดนซามะ!.. ทำไมถึงออกมาตากฝนเเบบนี้ล่ะเจ้าคะ? ” 



    หญิงวัยกลางคนเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับร่มสีแดงคันหนึ่ง เธอวิ่งเเจ่นรีบร้อนเข้ามากางให้กับเจ้าของชื่ออย่างรวดเร็ว ไรเดนหันไปสบตากับหญิงผู้มากน้ำใจเล็กน้อย ร่มที่กางอยู่เหมือนจะเล็กเกินว่าที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันได้ ดังนั้นเธอจึงดันร่มกลับคืนไปให้ทางฝั่งเจ้าของแทน เพื่อที่จะไม่ให้เธอเปียกฝนตามไปด้วยอีกคน 



    “ แค่จะมาตรวจดูอะไรนิดหน่อยน่ะ.. ”  



    “ โถ่.. เวลาเเบบนี้ข้าว่าไม่น่าเหมาะหรอกเจ้าค่ะ ” หญิงวัยกลางคนย่นคิ้วลง



    ไรเดนเลือกที่จะเงียบ เธอมองไปยังทิศทางของชายฝั่งด้านนอก ลมในตอนนี้เริ่มเเรงจนชายผ้าของทั้งสองสะบัดปลิว ร่มเองก็ดูท่าจะโครงเครงไม่น้อย หญิงสาวหลับตาลงอีกครั้ง จากลมเเรงเเรกๆสักพักก็เริ่มเบาลง และหยุดพัดไป... 



    “ อ๊ะ.. หยุดแล้ว... ” หญิงวัยกลางคนพึมพำ



    ไปแปลกใจ.. เพราะพายุลูกนี้เกิดจากหญิงสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น 



    ใต้ต้นซากุระนั้น.. ทำให้จิตใจของไรเดนค่อนข้างแปรปรวนไม่น้อยเลย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมรสุมพายุขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ครั้นจะให้หยุดเลยก็คงทำไม่ได้ เพียงเพราะอารมณ์ยังไม่คงที่พอ.. 



    “ กลับเข้าบ้านไปก่อนเถอะ.. อีกเดี๋ยวพายุก็คงหยุดเเล้ว ” 



    เธอพูดกับอีกฝ่าย ก่อนจะเดินหน้าต่อไป.. ปล่อยให้หญิงวัยกลางคนยืนมองอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าชั่งใจนิดหน่อย 



    เเม้ว่าร่างกายของหญิงสาวจะชโลมไปด้วยน้ำฝนทั้งตัว เสื้อผ้าสีโทนมืดที่เเนบลู่ไปกับร่างกายอรชรจนเห็นส่วนเว้าโค้งชัดเจน เเละเส้นผมสีม่วงยาวเปียกปอน ทว่าก็ไม่อาจบดบังรัศมีความสง่างามที่แผ่ขยายออกมาได้เลย ไรเดนรู้ตัวว่าตนเองไม่ใช่คนปกติทั่วไปจึงไม่กลัวที่จะเป็นหวัดหรือไม่สบายจากการตากฝน ต่างจากหญิงคนนั้นที่เข้ามาช่วยเหลือด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เธอไม่ต้องการให้เจ้าตัวมาลำบากเปียกฝนเพราะคนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างเธอหรอกนะ 



    บนเกาะนี้ ฐานะของไรเดนคือคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์เก่าเเก่ที่ตอนนี้เหลือเพียงเเค่เธอคนเดียว คฤหาสน์ของเธออยู่บนที่ราบสูงซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยต้นซากุระลายล้อม ห่างจากเมืองของผู้คนอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนภูเขา 



    และสถานะของเธออีกอย่าง จะกล่าวก็คือการช่วยเหลือผู้คนในด้านกำลังรบ  ทุกๆคนบนเกาะแห่งนี้ล้วนแล้วแต่รู้ว่าไรเดนนั้นมีฝีมือในการต่อสู้ที่สูงเป็นอย่างมากแม้จะตัวคนเดียว ซึ่งวีรกรรมหลักๆของเธอเลยก็คือการขับไล่พวกโจรหรือคนที่คิดมุ่งร้าย ไม่ว่าจะเป็นโจรสลัดหรือโจรภูเขาก็ตาม 



    ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างได้รับการเคารพจากผู้คนมากมายเลยทีเดียว 










    “ เอาล่ะ พวกเราจอดเรือกันไว้ตรงนี้แหละ ” 



    นามิหันไปพูดกับทุกคนด้วยรอยยิ้มโล่งใจ ในที่สุดพวกเราก็ฝ่าพายุเข้ามาได้สักที แถมยังปลอดภัยครบสามสิบสองด้วย 



    ...ในตอนเเรกที่พวกเรากำลังจะเดินเรือเข้ามานั้น อยู่ๆก็มีหมอกหนาสีขาวที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาบดบังสายตาจนทำให้มองไม่เห็นทิศทาง ราวกับว่ามันกำลังพยายามจะป้องกันเกาะจากสิ่งต่างๆรอบนอก เป็นสถานที่ที่นามิรู้สึกพิศวงที่สุดในทะเลอีสต์บลูเลยก็ว่าได้ 



    ทว่าเหมือนฟ้าให้ใบอนุญาตเบิกทาง เปิดทางให้พวกเราสามารถล่องเรือเขาไปยังเกาะได้ โดยการที่จู่ๆหมอกหนาก็ค่อยๆจางหายไป ปรากฏวิวทิวทัศน์อันงดงามของเกาะขนาดใหญ่ รอบนอกของเกาะไปจนถึงเนินลาดชันมีเมืองของผู้คนตั้งอาศัยอยู่ 



    เเละสิ่งที่สะดุดตาสะดุดใจมากที่สุดก็คงจะไม่พ้นภูเขาลูกใหญ่ตรงใจกลางเกาะ ซึ่งมีสายฟ้าสีม่วงขนาดมหึมาฟาดลงเป็นระยะๆ 



    “ โฮ่ย.. ตรงนั้นมีคนอยู่ ” 



    ชายผมเขียว หนึ่งในลูกเรือพูดขึ้นเมื่อสายตาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างตรงหน้า ภายในเรือมองลงไปยังพื้นดินประมาณห้าร้อยเมตร ปรากฏร่างเงาของมนุษย์คนหนึ่งที่กำลังยืนมองอยู่นิ่งๆ ไม่ทราบเจตนาแน่ชัด



    “ ตรงไหนเหรอโซโร? ” ลูฟี่สาดส่องสายตาหาไปทั่วบริเวณ 



    “ ตรงนั้นไง! โอ่ะ.. ผู้หญิงเหรอ? ” 



    ชายผิวเเทนผมหยักโศกชี้ไปยังทางด้านหน้า สังเกตส่วนเว้าโค้งของร่างที่เห็นได้ชัดเจน ทำให้อนุมานได้ในทันทีเลยว่าคนคนนั้นจะต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน 



    ซึ่งในขณะเดียวกันก็ทำให้คนบางคนที่ได้ยินหูผึ่งขึ้นมา



    ปึง!



    “ อะไรนะ! เลดี้งั้นเหรอ! ” 



    ชายร่างสูงผมเหลืองเท้าเเขนลงกับหัวเรือจนเกิดเสียง ก่อนจะยื่นตัวออกไปมองเงานั้นให้ชัดๆอีกครั้ง ดวงตาสีน้ำทะเลวาวโลดด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ มาถึงก็เจอเข้ากับเพชรเม็ดงามซะแล้ว 



    “ โฮ่ย! เก็บอาการหน่อย.. เจ้าบ้าซันจิ ! ” โซโรแดกดันอีกฝ่าย 



    “ ว่าแต่เป็นใครกันนะ.. ทำไมถึงมายืนในสถานการณ์ที่พายุกำลังเข้ากันล่ะ แปลกจัง... ” 



    นามิมองร่างนั้นอย่างใช้ความคิด จะเป็นมนุษย์แน่เหรอ? หรือคนที่มีจุดประสงค์ร้ายกันนะ.. ไม่มีใครเคยมาที่เกาะเเห่งนี้ ดังนั้นอะไรก็ล้วนเเต่เกิดขึ้นได้ ระวังตัวหน่อยจะดีกว่า 



    พวกเราทั้งหมดตัดสินใจลงจากเรือเเละเดินไปหาร่างนั้นด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ก็เพื่อหาคำตอบในสิ่งที่ต่างคนต่างก็สงสัย 



    ___________________________ 



    ไรเดนมองบุคคลทั้งห้าที่กำลังเดินเข้ามา พวกเขาทุกคนต่างก็ระเเวดระวังกันพอสมควร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องเเล้วเมื่อเจอคนแปลกหน้าไม่มีที่มาที่ไป 



    “ ขอโทษนะ.. เเต่คนที่อยู่ตรงนั้นน่ะ ช่วยออกมาหน่อยสิ ” 



    หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวของคนกลุ่มนั้นพูดขึ้น ชายผมเขียวจับคาตานะข้างกายของตัวเองเอาไว้หลวมๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดตลอดเวลา ส่วนคนอื่นๆก็ยืนรอการตอบรับจากเธอ 



    ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปรายอยู่ตอนนี้ ต่างคนก็ต่างเปียกโชกไปตามๆกัน ถึงเเม้ว่าอีกฝ่ายอยากจะเข้าเมืองไปพักผ่อนให้เร็วเพียงใด เเต่ความปลอดภัยของเรือเเละพวกพ้องต้องมาก่อนเสมอ 



    หญิงสาวเดินออกจากที่หลบซ่อนของตัวเอง ร้องเท้าพื้นไม้กระทบกันผืนทรายจนเกิดรอยเท้า ใบหน้าขาวผ่องภายใต้เงามืดเปิดเผยออกมาเยือนแสงอย่างช้าๆ 



    ในขณะเดียวกัน.. เงาของใบมืดคมกริบวาววับท่ามกลางความมืดจนทำให้พวกนั้นผงะถอยหลังไปเล็กน้อย



    นามิมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความอึ้ง จะว่าตกใจก็เลือกไม่ถูกว่าจะตกใจกับอะไรก่อนดี ...ระหว่างหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา หรือจะง้าวเล่มใหญ่สีม่วงที่ถูกสะพายไว้ด้านหลัง 



    โซโรกำดาบเเน่นเมื่อรู้ว่าเธอมีอาวุธ ต่างจากซันจิที่ตัวเเทบจะหลอมละลายไปกับสายฝน ดวงตาทั้งสองข้างประกายเเววรูปหัวใจออกมาทันที



    “ ล.. เลดี้~~~!! ♡♡ ” 



    ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้พวกเรากำลังเฝ้าระวังหญิงสาวปริศนาตรงหน้าอยู่ เขาก็คงวิ้งเเจ่นเข้าไปหยอดคำรักคำหวานให้กับเธอคนนั้นเเล้ว อะไรถึงดลใจหญิงสาวหน้าตางดงามมายืนต้อนรับพวกเขากันนะ 



    แต่ถืออาวุธไว้ขนาดนั้นคงไม่ได้มาอย่างปรารถนาดีนักหรอกมั้ง... 



    “ เธอเป็นใคร แล้วต้องการอะไรจากพวกเรา ? ” นามิเป็นคนเริ่มต้นบทสนทนา 



    ไรเดนเจาะจงสายตามองไปยังหญิงสาวตรงหน้า ความกดอากาศแบบเเปลกๆทำให้นามิต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างห้ามไม่ได้ 



    คนคนนี้.. อันตราย... 



    “ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไม่มาที่นี่ ...ในเมื่อคนน่าสงสัย ไม่สิ บุคคลอันตรายอย่างพวกเธอเข้ามายังเกาะเเห่งนี้ ” 



    ทุกคนสะอึก บุคคลอันตรายที่ว่านี้ก็คงไม่พ้นสัญลักษณ์บนใบเรือที่เป็นรูปหัวกะโหลกสวมหมวกฟาง อันเป็นสัญลักษณ์ของโจรสลัดที่เห็นได้ทั่วไปในยุคนี้ 



    “ โอ๊ะ ? รู้จักพวกเราด้วยเหรอ ? ” 



    ลูฟี่ผู้ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรชี้มาที่ตัวเอง ตอนนี้ฝนเริ่มซาลงเเล้ว สภาพบรรยากาศเริ่มกลับมาคงที่อีกครั้ง มวลเมฆที่บดบังเเสงอาทิตย์ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป แทนที่ด้วยเเสงงสว่างจากแสงแดด ทำให้อะไรๆก็เริ่มชัดเจนขึ้น 



    “ คนที่จัดการโค่นดอน คลิ้กเเละอาร์ลองได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน โจรสลัดค่าหัว 30 ล้านเบรีที่เป็นที่จับตามองในตอนนี้ ...คงมีค่าพอจะขึ้นเเท่นให้กลายเป็นบุคคลอันตราย ” ไรเดนตอบคำถามชายหนุ่มด้วยความนิ่งสงบ 



    ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเธอจะเริ่มคงที่เเล้ว... 



    “ อ..เอ่อ.. พวกเราไม่ใช่บุคคลอันตรายอะไรหรอกนะ เเล้วก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไรด้วย พวกเราเเค่หลบพายุเข้ามาพักที่เกาะก็เท่านั้นเอง ” 



    นามิเเก้ต่างให้กับเพื่อนชายเเละพรรคพวก ตอนนี้เธอไม่ต้องการจะมีเรื่องกับใคร โดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยที่อาจจะมีความสำคัญต่อเกาะที่พวกเรากำลังจะใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวด้วย



    ไรเดนหลับตาลง “ คำพูดของโจรน่ะเหรอ.. ” 



    ร่างบางหันหลังให้กับคนพวกนั้น เธอชายตามองพวกเขาเล็กน้อย 



    “ ...หึ ช่างเถอะ มาสิ จะนำทางไปที่ร้านอาหารเอง ” 



    ทั้งหมดเป็นเพียงเเค่การลองเชิง 



    ลองเชิงเหล่าตัวเอกของโลกใบนี้



    ว่าเเล้วเธอก็ก้าวเท้าเดินนำพวกเขาไป ไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองอีก หากพวกเขาไม่ไว้ใจเธอก็ปล่อยไป แต่ถ้าหากพวกเขาต้องการไกด์นำทางก็คงตามมาเอง 



    “ โอ้ อาหารเหรอ ได้สิ.. ” 



    ลูฟี่เดินตามไปอย่างไม่คิดเอะใจอะไรเมื่อพูดถึงของกิน จะว่าไม่เกรงกลัวเลยหรือซื่อบื้อเกินไปกันนะ ทว่าทุกคนก็รู้ดีว่ากัปตันของเรือเป็นคนยังไง จึงไม่ค่อยจะแปลกใจสักเท่าไหร่ เช่นเดียวกันชายอีกคน.. ที่ต่อมาจึงตามไปด้วยเชฟประจำเรืออย่างซันจิที่ยังคงตกอยู่ในห้วงเเห่งความชื่นมื่น



    “ ผู้หญิงเย็นชาช่างร้อนเเรงจริงๆ ♡ ” 



    “ เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิพวกนาย ! ” 



    อูซปมองเพื่อนๆของตัวเองที่เดินตามผู้หญิงคนนั้นไปอย่างเป็นห่วงเล็กน้อย ถ้าเกิดว่าเธอคนนั้นพาพวกเราเข้าไปฆ่าหมกป่าจะทำยังไง ..แต่มาคิดดูอีกทีพวกเราก็มีตั้งห้าคนนี่นา แต่อีกฝ่ายก็อาจจะแอบซ่องสุมกำลังพลเอาไว้ก็ได้นะ! เอ.. แต่พวกเราก็ใช่ว่าจะกระจอกซักหน่อยนี่... 



    เขาที่ไม่รู้จะทำยังไงจึงรีบเดินตามไปด้วยอีกคน ย้ากก เอาไงเอากัน ! 



    “ ชิ! เจ้าพวกบ้านั่น.. ” โซโรสบถเบาๆ เเต่ถึงอย่างนั้นก็เคารพในการตัดสินใจของกัปตันเรือ จึงเดินตามไปพร้อมกับนามิเป็นคนสุดท้าย 










    ทั้งหมดเดินตามไรเดนเข้าไปยังเมืองขนาดใหญ่ ท้องฟ้าในตอนนี้ค่อนข้างปลอดโปร่งราวกับเมื่อกี้ไม่เคยมีพายุเกิดขึ้นมาก่อน เป็นภาพปกติที่คนที่นี่เห็นจนชินตา ชาวเมืองในตอนนี้เริ่มทยอยออกจากบ้านเรือนมาสานต่อกิจวัตรประจำวันที่ยังคงค้างคา ในขณะที่หลายๆคนก็เริ่มมองมาทางนี้อย่างสนใจ 



    “ ไรเดนซามะ อรุณสวัสดิ์ครับ! ” 



    บ้างก็เอ่ยทักทายหญิงสาว บ้างก็เข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากร่างกายที่เปียกปอนของเธอ และบ้างก็ถามถึงบุคคลแปลกหน้าที่เธอพามาด้วย ทุกๆคนที่ตามอยู่ด้านหลังต่างก็มองภาพตรงหน้าอย่างใช้ความคิด 



    ดูเหมือนว่าคนที่พวกเรากำลังติดตามอยู่จะเป็นที่เคารพของผู้คนมากเลยนะ 



    อาจจะดูเเลที่นี่อยู่? งั้นก็ไม่เเปลกที่เธอจะเพ่งเล็งในตัวของพวกเราที่เป็นโจรสลัด 



    ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มวางทิฐิลง เมื่อคิดกลับกันแล้วก็ทำให้เข้าใจได้อย่างแจ่มชัด 



    เดินมาได้ไม่นาน ก็พบเข้ากับร้านขนาดกลางเเห่งหนึ่ง เปิดเข้าไปด้านในก็จะพบกับโต๊ะมากมาย พอมองลึกขึ้นไปอีกจะเป็นเคาเตอร์ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งเฝ้าอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้าน 



    เธอเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดเเตกต่างงจากชาวบ้านอยู่พอสมควร เป็นหนึ่งในคนต่างถิ่นที่เข้ามาทำกิจการที่นี่ 



    “ อ้าว ท่านไรเดน พาเเขกมาด้วยงั้นเหรอ? ” 



    เธอถามหญิงสาวด้วยความคุ้นเคย โดยการเเอบเบนสายตามองไปยังทั้งห้าด้วยเเววตากรุ่นไปด้วยความขี้เล่นเล็กน้อย 



    “ เลดี้~♡ ” 



    ซันจิเเสดงอาการออกรอกหน้าอย่างชัดเจน สถานที่ที่มีหญิงสาวใบหน้างดงามจนโลกตะลึง กับสาวสวยอีกคนที่ดูท่าทางเป็นมิตร นี่มันสวรรค์ชัดๆ 



    ชายหนุ่มริ้มร่าหัวเราะราวกับเป็นคนบ้า จนนามิอดไม่ได้ที่จะเคาะหัวเจ้าตัวลงไปโขกกับพื้นหนึ่งที  



    “ คนพวกนี้ต้องการที่พักเเละอาหาร ” ไรเดนจัดเจงคำพูดเสร็จสรรพ ก่อนที่เธอจะเดินออกไป 



    เจ้าของร้านหลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้ม “ เข้าใจเเล้วล่ะ ” 



    เธอเดินผ่านพวกเขาโดยมีภาพประกอบเป็นชายผมเหลืองที่กำลังทำท่าร่ำไห้กับการจากไปของเธอ กับอีกสี่คนที่มองเธอก่อนออกไป 



    ‘ ไม่น้า มาดมัวเเซลของฉันน~ ’ 










    ไรเดนเดินไปเรื่อยๆอย่าไร้จุดหมาย ในขณะที่เสื้อผ้าเองก็เริ่มเเห้งลงจนกลายเป็นเเห้งสนิทอย่างผิดธรรมชาติ อันเป็นผลพวงมาจากพลังของเธอเอง ...วันนี้หญิงสาวต้องใช้ความคิดอยู่กับตัวเองค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องราวของในอดีตเเละปัจจุบัน 



    “ ทำไมคุณถึงต้องการให้ฉันมาอยู่ที่นี่ล่ะ.. ” 



    “ เพราะเดิมที่เธอเป็นคนของที่นี่ตั้งเเต่แรก ”



    “ แล้วทำไมถึงมอบพลังให้กับฉัน... ” 



    “ เพราะมันจะเป็นกุญเเจในการไขไปสู้เส้นทางข้างหน้าของเธอ ” 



    ...



    “ เธอมีความฝันรึเปล่า? ความฝันของเธอคืออะไรกันล่ะ ” 



    “ ฉัน... ” หญิงสาวตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มประหม่า ทว่าอีกเสียงกลับไม่ได้ต้องการจะคาดคั้นอะไรมากนัก จึงปล่อยให้หญิงสาวได้ใช้เวลาคิดไปเรื่อยๆ 



    “ ที่ที่เธออยู่คือแดนใหม่ ไม่ใช่โลกเก่า ”



    กึก.. 



    ไรเดนหยุดชะงักเท้าของตัวเอง หลังจากที่แยกตัวออกมาจากพวกกลุ่มหมวกฟาง เรื่องนั้นก็วกกลับเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง เรื่องที่เธอนั่งพูดคุยกับใครคนหนึ่งใต้ต้นซากุระ 



    ความฝัน.. 



    ในโลกที่เธอรู้จักเเค่เพียงผ่านๆตาน่ะเหรอ 



    หญิงสาวนิ่งไปเล็กน้อย... เธอหลับตาพร้อมกับสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ก่อนจะพรั่งพรูลมหายใจออกมาเบาๆ



    บางที.. การยึดติดกับอดีตมากไปก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไร 



    ดังนั้นเธอจึงหันหลังกลับไปอีกครั้ง ก่อนเดินตรงไปยังร้านอาหารที่เธอพึ่งจากออกมาด้วยจุดประสงค์ที่เปลี่ยนไป... 




    (ลงก่อนเเต่ยังไม่ได้เกลาภาษา)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×