NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ ONE PIECE ] My name's Raiden Ei

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter I - Episode 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 65





    “ อืมมม.. หมอกเหรอ? —ไม่รู้อ่ะ เข้าไปใกล้ๆก็คงรู้เองแหละมั้ง ” 



    ลูฟี่บ่นกับตัวเองขณะเดินเรือ เขานั่งอยู่บนหัวเรือที่เป็นรูปปั้นแพะเเละสาดส่องสายตาไปมาเพื่อควานหาสิ่งที่น่าสนใจ ..พวกเราตอนนี้กำลังจะไปที่ลอสไอร์แลนด์อันเป็นรังของมังกร แม้จะไม่รู้ทางก็ล่องเรือออกมาเรื่อยๆจนกว่าเจ้าของรังอย่างมังกรขี้ลืมตนนี้จะนึกออก และเเน่นอนว่าด้วยเทอะทะซุ่มซ่ามของลูฟี่นั้น กลับทำให้คุณปู่มังกรริวจิที่อยู่ๆก็บอกว่าจำทางได้เเล้วสามารถบอกทางไปที่ลอสไอร์แลนด์ได้ 



    จึงกลายมาเป็นสถานการณ์ ณ ปัจจุบันนี้



    ม่านหมอกสีดำเทาด้านหน้าทำไรเดนขมวดคิ้วเล็กน้อย มันเป็นหมอกควันที่ไม่มีที่มาที่ไปและไม่เเน่ใจว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ในสายตาของเธอมันดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของอะไรบางอย่างซะมากกว่า 



    เมื่อเรือเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ลูฟี่ก็ลองใช้เท้ายื่นเข้าไปเขี่ยๆหมอกนั่นดู กลับกลายเป็นว่าหมอกนั้นปรากฏให้เห็นตัวเรือเเละพวกเราทุกคนที่อยู่บนเรือซึ่งถอดเเบบออกมาราวกับพิมพ์เดียวไม่ผิดเพี้ยน 



    ลูฟี่เหมือนจะสนุกกับมัน ในขณะที่นามินั้นช็อคค้างไปแล้ว... 



    “ กรี๊ดดด !! ”  เธอกรีดร้องสุดเสียง 



    ไรเดนไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก หากดูดีๆเเล้วมันก็เหมือนหมอกหนาที่ห้อมล้อมรอบเกาะของเธอเอาไว้เพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากด้านนอก บางทีด้านในอาจจะมีสมบัติหรือสถานที่อะไรที่ล้ำค่าซ่อนอยู่ก็ได้



    เช่นรังมังกรเป็นต้น... 





    ทัศนียภาพของทะเลปราฏขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เราผ่านเข้ามาในมิติหมอกเมื่อกี้  ทว่าสิ่งที่เเปลกตาไปจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิงเลยนั่นก็คือหมู่เมฆรอบด้านที่ครึ้มหนักราวกับจะเกิดพายุให้ได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดนักเมื่อฟ้าเริ่มผ่าเปรี้ยงเเละฝนห่าใหญ่เริ่มตกลงมา ทะเลทั้งหมดเกิดคลื่นใหญ่ราวกับจะพาเรือของพวกเราจมให้ได้ทุกเมื่อ บางทีพวกมันอาจจะกำลังพยายามขับไล่พวกเราอยู่ก็เป็นได้  



    ไรเดนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงตาของเธอเรืองเเสงวาบ



    และเเล้วปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้น เมื่ออยู่ๆท้องฟ้าที่กำลังปั่นป่วนบ้าคลั่งกลับหยุดลงอย่างน่าประหลาดใจ  ..ใช่เเล้ว มันไม่ได้ชะลอความรุนเเรงของพายุลงหรืออย่างไร แต่มันเป็นการหยุดไปเลยดื้อๆราวกับปิดน้ำก็อก หากเปรียบเทียบเป็นฟิลก็คงจะเป็นการขัดมู้ดบรรยากาศของผู้ที่กำลังได้ฟิล 



    “ หื้อ? หยุดเเล้วแฮะ.. ” ลูฟี่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เขานึกว่าหมวกของตนเองจะได้ปลิวไปอีกรอบแล้วซะอีก 



    ชายหนุ่มหันมามองที่เธอซึ่งยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง ก่อนจะฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวส่งเสียงฮี่ฮี่ออกมาเบาๆ เขาพูดบางอย่างโดยมีเพียงเเค่เราสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน 



    “ เธอทำเหรอไรเดน ชิชิชิ ” 



    หญิงสาวเหลือบสายตามองคนตรงหน้าเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าเขาสามารถรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร หรือบางที่อาจจะจับสังเกตบางอย่างได้ตอนเธอหยุดมัน  ทว่าเธอก็ไม่คิดที่จะปิดบังอะไร โดยเฉพาะกับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าตอนนี้เป็นพวกพ้องของเธอเเล้วด้วย



    และถ้าหากไรเดนรู้ว่าเขาเพียงเเค่ถามเธอเล่นๆเฉยๆ คงจะได้ทึ้งหัวตัวเองเป็นล้านๆรอบเเน่ๆ...



    “ อืม หยุดฝนนิดหน่อย ” 



    “ โห สุดยอดไปเลย !! ” ลูฟี่ตะโกนอย่างตื่นเต้น เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นจริง 



    อาจจะเป็นแบบนั้น เพราะเขาไม่เคยเห็นคนที่สามารถหยุดพายุราวกับสั่งได้แบบนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เเละเมื่อเธอบอกว่าสามารถเรียกพายุได้ด้วย ซึ่งพายุที่เกาะบ้านเกิดของเธอก็เป็นฝีมือจากอารมณ์ที่แปรปรวนของเธอเอง เขายิ่มตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ 



    “ นี่มันสุดยอดไปเลย! ฉันอยากเห็นอีกจัง! ” ลูฟี่ราวกับเด็กน้อยที่พึ่งได้รับของเล่นใหม่ 



    “ ถ้านายรู้สึกว่าอยากจะจมเรือของตัวเองละก็นะ อีกอย่าง.. พายุมันไม่ได้มีข้อดีหรอก ” 



    ชายหนุ่มมุ้ยปากลงทันที เขาตอบกลับเสียงอู้อี้ว่าไม่ได้อยากจมเรือของตัวเองสักหน่อย ก่อนจะกอดอกหันหลังให้กับเธอราวกับคนกำลังแง่งอนตุ๊บป่อง เป็นภาพที่น่าเอ็นดูไม่น้อย 



    ไรเดนมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาคาดเดาอารมณ์ไม่ได้  บางที.. เธอไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานเเล้ว...



    ความรู้สึกของการมีชีวิต. 










    พวกเราเดินทางมาถึงเกาะร้างเเห่งหนึ่งซึ่งเคยมีผู้คนอาศัยอยู่เมื่อนานมาเเล้ว นามิให้พวกผู้ชายทั้งสี่คนเป็นคนเข็นแพลำเลียงมังกรขึ้นไปยังยอดเขา โดยมีไรเดนคอยเดินประกบท้ายอยู่ด้านหลังอีกที 



    สภาพสีหน้าของพวกเขาเเต่ละคนโดยเฉพาะอูซปที่บ่นกะปอดกะแปดตลอดเส้นทาง เธออยากจะช่วยเข็นเหมือนกันเเต่ซันจิกลับยืนกรานปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้มือสวยๆขอเธอต้องหยาบกร้านเป็นรอยจากการเข็นของหนัก ท่ามกลางเสียงกร่นด่าของโซโรเเละอุซปที่อยากจะให้เธอช่วยใจจะขาด เพราะพวกเขาเองก็หนักเหมือนกัน 



    “ อย่าให้เลดี้ทำงานสิโว้ย! โดยเฉพาะไรเดนซังฉันไม่ยอมเด็ดขาด! ” ซันจิตะโกนด่า 



    “ งั้นเเกก็เข็นเองคนเดียวไปเลยไป๊ ! ” ทั้งอูซปและโซโรต่างก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ในขณะที่ลูฟี่นั้นกำลังสนุกอยู่กับการเข็นที่สุด



    น่าเสียดายที่สุดท้ายปู่ริวจิก็ไม่รู้จักที่นี่เลยสักนิด พวกเราหาเบาะเเสเกี่ยวกับรังมังกรกันเพิ่มเติม ก่อนจะพบว่าเเท้จริงเเล้วรังมังกรนั้นอยู่ที่เกาะเรือรบตั้งเเต่เเรก ..ทุกคนตัดสินใจจะกลับไปเพื่อค้นหาต่อ ทว่าก็ถูกขวางโดยชายผู้ใช้กรงเล็บใบมีดคนนั้นซะก่อน เอริคผู้เป็นทหารรับจ้างของกองทัพ ซึ่งโซโรอาสาขอเป็นคนจัดการเจ้านั่นแทน และปล่อยให้พวกเราหนีกันไปก่อน



    เกิดเรื่องระทึกขวัญขึ้นกันอีกเล็กน้อยเมื่อต้องนั่งเเพร่อนลงมาจากยอดเขา ..สุดท้ายพวกเราทุกคนก็ขึ้นเรือเเละหนีออกไปได้สำเร็จ จุดหมายปลายทางก็คือเกาะเรือรบเเห่งเดิมที่เราพึ่งจากมา 










    คนของกองทัพอีกส่วนหนึ่งมาดักรอพวกเราเอาไว้ที่เกาะเรือรบ เป้าหมายคงไม่พ้นมังกรบนเเพด้านหลังของเรือเเมรี่ พวกนั้นเเยกเรือรบออกจากกันเป็นหลายๆลำ กระจายเรือเป็นรูปหน้ากระดานเเละกั้นโซ่เหล็กเอาไว้เพื่อไม่ให้เราหนีไปไหนได้ 



    “ ช่วยไม่ได้ งั้นก็ฝ่าเข้าไปเลย! ” ลูฟี่ตะโกน



    ฟิ้ว~.. ตู้มม!! 



    นามิพยายามขับเรือหลบลูกกระสูนปืนใหญ่ที่กระหน่ำยิงเข้ามาโดยฝีมือของกองทัพเรือรอบกาย อูซปมีหน้าที่คอยสนับสนุนปืนใหญ่สำหรับยิงสกัดอีกฝ่าย โซโร ลูฟี่เเละซันจิเป็นฝ่ายบุกเข้าไปยังเรือของกองทัพเพื่อตัดโซ่ที่กำลังขวางพวกเราเอาไว้อยู่ ในขณะที่ไรเดนนั่นเฝ้าเรือเพื่อคอยดูเเลทุกคน 



    เอปิสวิ่งลงไปหาปู่ริวจิด้วยความเป็นห่วง เธอปลอบมังกรตรงหน้าเเละคอยอยู่เป็นเพื่อนไม่ไปไหน ซึ่งระหว่างนั้นก็ดูเหมือนว่าจะมีเรือลำเล็กเทียบเข้ามาที่แพของมังกรพันปี  ปรากฏว่าเป็นเรือของเอริคผู้ซึ่งเป็นศัตรูอีกคนของพวกเรา  



    “ ส่งมังกรพันปีมาซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะใช้คมเฉือนลมกรดของฉันสับพวกแกให้เป็นชิ้นๆ ” เอริคยิ้มเเสยะพลางกางกรงเล็บออกมาข่มขู่เด็กสาว เจ้าพวกตัวปัญหาสามสหายก็ออกจากเรือไปแล้ว ดังนั้นมังกรตัวนี้เขาจะขอรับเอาไว้เลยก็เเล้วกัน 



    “ ไม่นะ!! ” เอปิสกางเเขนปกป้องปู่ริวจิสุดชีวิต เธอด่าเขาไปหลายคำ ทำให้เอริคโกรธไม่น้อย 



    เขากำลังจะใช้กรงเล็บกับเด็กสาว



    ฉิ้ง ! 



    “ อึก !.. ” 



    เอริคชะงักตัว ...เมื่อลำคอประทะเข้ากับใบมีดคมกริบสีเงินประกายม่วง ไรเดนที่กระโดดลงจากเรือมายังเเพใช้อาวุธของตัวเองกดดันอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นยะเยือก เธอไม่คิดจะปราณีคนที่ทำร้ายเด็กอยู่เเล้ว 



    “ ร ไรเดน.. ” ทั้งนามิเเละอูซปต่างก็มองมาที่เธอ ...ฉันใดฉันนั้น พวกเขาโล่งใจที่หญิงสาวป้องกันไม่ให้เอริคทำร้ายเอปิสได้อย่างอยู่หมัด



    “ ก.. แก!.. ” เหงื่อเม็ดเล็กไหลลงตามกรอบหน้ายาวของเอริค เขาขบเขี้ยวฟันอย่างโกรธเเค้น



    “ เอปิส หลับตา ” เธอสั่ง 



    “ อ เอ๋... ” 



    เด็กสาวงุนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเล็กน้อย ไม่ต้องรอให้เธอเป็นคนหลับตาเอง ปู่ริวจิก็ได้ยกปีกขึ้นมาบดบังทัศนียภาพของเธอไปจนหมดสิ้น 



    ไรเดนแผ่จิตสังหารออกมาเบาๆเพื่อข่มขวัญศัตรู ดวงตาขอเธอเยือกเย็นราวกับน้ำเเข็งพันปี  ฉึบ! ...ร่างบางขยับง้าวเพียงหนึ่งครั้ง ส่วนหัวเเละส่วนตัวของเอริคพลันเเยกจากกันในทันที ท่ามกลางสีหน้าตะลึงงันของทั้งนามิ อูซป เเละทหารลูกเรือของทางฝั่งนั้น 



    “ ว.. ว๊ากกกกก!!! ” 



    “ อ้ากกกกก!! ” 



    ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของทางฝั่งไหนกันเเน่ ทหารเรือพวกนั้นรีบพายเรือหนีด้วยความกลัวสุดขีดในทันที ความสยดสยองที่ยังคงติดตาทำให้พวกเขาเเทบช็อค นามิมองการกระทำของไรเดนด้วยความอึ้ง ร่างของเอริคร่วงลงทะเลทันทีที่หมดลมหายใจ 




    “ น.. น่ากลัวเกินไปแล้ว... ” หญิงสาวพึมพำออกมาเบาๆ ส่วนอูซปนั้นสลบลงไปแล้ว 



    นี่น่ะเหรอ พลังของไรเดน.. 



    กว่าทุกคนจะกลับมามีสติอีกครั้งลูกปืนใหญ่ก็ถูกยิงมาที่เรือจนเกิดเสียงดังตู้ม เเม้จะไม่โดนตัวเรือเเต่ก็ทำให้เรือโคลงเคลงไม่น้อย ตอนนี้ดูเหมือนว่าโซโรจะสามารถตัดโซ่พวกนั้นได้เเล้ว พวกเราจึงเตรียมเดินเรือหนีออกไปกัน



    ไรเดนมองลงมาที่มังกรเเละเอปิส เธอตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ๆมัน ก่อนจะย่อตัวลงเเละทาบมือลงที่หัวของปู่ริวจิ 



    ฝ่ามือเล็กส่งมอบความอบอุ่นไปให้สัตว์ตัวใหญ่ ปู่ริวจิหลับตาลงเพื่อซึมซับความอบอุ่นนี้เข้าไป ราวกับได้กลับบ้านเกิดอีกครั้ง ร่างของมันสั่นสะท้านด้วยความพอใจ ปีกทั้งสองข้างกางออกแสดงถึงความยิ่งใหญ่สมกับเป็นมังกรพันปี มันเริ่มขยับตัวยืนขึ้นอีกครั้งหลังจากไม่ได้ขยับตัวมานาน 



    ความเป็นนิรันดร์... 



    ไรเดนกระตุกยิ้ม ทำให้เอปิสที่มองอยู่ตะลึงงัน... 



    ...หญิงสาวเผยรอยยิ้มออกมาครั้งเเรกในรอบหลายปี เเสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับเเผ่นหลังของเธอจนเกิดถาพกระจายเเสง ราวกับเธอเป็นเเสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของโลกใบนี้ งดงามสง่าเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดา รูปลักษณ์ที่สวยราวกับเทพธิดาในนิทานปรำปรา เป็นภาพที่เด็กหญิงไม่สามารถละสายตาออกไปได้เลย... 



    “ ไม่ผิดที่ตามหาความเป็นนิรันดร์  แต่ผิดที่ใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องสังเวยเพื่อความเป็นนิรันดร์  ” 



    “ ดังนั้น.. พวกมันจึงเป็นศัตรูของความเป็นนิรันดร์อันชอบธรรม 



    นั่นคือคำที่เธอกล่าว.. และสิ่งนั้นก็ได้ฝังลงไปในความทรงจำของเอปิสเป็นที่เรียบร้อย 



    โฮ๊กกก!! !



    มังกรตัวใหญ่คำรามกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า ทุกๆคนต่างอุดหูเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของเเก้วหูตัวเอง ปู่ริวจิพยายามกระพือบินขึ้นไปด้วยปีกใหญ่อันอ่อนล้า มันมุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการหลักของกองทัพเรือด้วยจุดประสงค์บางอย่าง 



    น่าเสียดาย.. ที่ดูเหมือนว่าปู่ริวจิจะมาได้เเค่นี้ 



    ไรเดนมองร่างของสัตว์ในตำนานกำลังร่วงลงไปยังท้องทะเลอย่างไร้สิ้นกำลัง ร่างของมันค่อยๆจมลงไปในทะเลอย่างช้าๆ และลูฟี่เองก็ได้เข้าไปช่วยเหลือในทันที ทว่ามันก็ยังคงน่าเป็นห่วงเนื่องจากเขาว่ายน้ำไม่ได้ 



    ..หญิงสาวก้าวเท้าลงบนผิวน้ำอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเกิดพลังงานไฟฟ้าเป็นรูปวงกลมเข้ามารองรับเท้าเรียวเอาไว้อย่างหวงเเหน สายฟ้าเส้นเล็กสีม่วงปรากฏขึ้นเป็นระยะๆสร้างความน่าเกรงขามให้กับเธอเป็นอย่างมาก ไรเดนวิ่งไปยังที่ที่ลูฟี่เเละปู่ริวจิอยู่ทันที  



    ฉมวกเล่มใหญ่ถูกยิงส่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือมังกรพันปีตรงหน้า ทว่ากว่าจะถึงตัวของปู่ริวจิ คมมีดของง้าวก็ได้ตวัดเฉือนเข้าที่เจ้าสิ่งนั้นจนขาดออกเป็นท่อนๆ



    “ หื้อ.. ไรเดน ? ” ลูฟี่แสดงสีหน้างงงวย



    “ ไรเดนซวางงง ! ♡ ” ซันจิตะโกนมาทางนี้ด้วยท่วงท่าเเห่งรัก ส่วนโซโรนั้นได้เเต่ยืนยิ้มเเล้วมองมาที่พวกเราอย่างเชื่อใจ เท่านี้ก็ไม่เป็นอะไรเเล้วล่ะ  



    เธอเหลือบสายตามองกัปตันของเรือเล็กน้อย.. ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ลูฟี่ยิ้มออกมา 



    “ รีบจัดการรีบไปที่เเกรนด์ไลน์กันเถอะ ”



    “ โอ้ส! ฝากด้วยนะ ไรเดน ! ” 



    ไรเดนเงียบไป ทำให้ลูฟี่ที่เห็นเอียงคอมองอย่างตั้งคำถามเล็กน้อย เธอเป็นอะไรไป ป่วยเหรอ? หรือปวดอึ? 



    “ เอย์  ” 



    “ หือ? ” ชายหนุ่มทวนอีกครั้ง 



    หญิงสาวประกาศก้องให้เพื่อนๆทุกคนได้รับรู้  “ ไรเดน เอย์ ต่อจากนี้ให้เรียกฉันว่าเอย์  นั่นคือชื่อของฉัน ! ” 



    เมื่อได้ยินที่หญิงสาวพูด ทุกๆคนก็ดูเหมือนจะอึ้งไป งั้นที่ผ่านมาพวกเราเรียกเธอด้วยนามสกุลมาตลอดเลยงั้นสิ.. 



    เเต่ช่างมันประไร.. นี่คือหลักฐานว่าไรเดนเปิดใจให้กับพวกเขาเเล้วนี่นา 



    “ เอย์ซวางงง ! เป็นชื่อที่วิเศษไปเลยครับ!! ♡ ” ซันจิยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาไว้ด้านหน้า ก่อนจะตะโกนไปอีกรอบ โซโรคิ้วกระตักเล็กน้อย



    ไรเดนมอง เธออยากจะยิ้มรับทว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา ก่อนจะตวัดสายตามองเหล่ากองทัพเรือด้านหน้าอีกครั้ง พวกนั้นที่เห็นเเล้วว่าเธอสามารถวิ่งบนน้ำได้ อีกทั้งยังมีจิตสังหารที่เเผ่ซ่านออกมาเรื่อยๆอีก ทำให้หลายๆคนหวาดผวากันไม่น้อย 



    “ เนื่องจากที่พวกเเกดูถูกความเป็นนิรันดร์.. ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้าของเธอเย็นชากว่าครั้งไหนๆ 



    ครืน.. เปรี้ยง!— 



    “ เหวออ ! ” ลูฟี่อุทานออกมา 



    เมื่อสายฟ้าสีม่วงขนาดใหญ่กระหน่ำซัดลงมาอย่างบ้าคลั่งและรุนเเรง  ทุกคนตรงนั้นต่างพากันตกใจกับปรากฏการณ์ตรงหน้า



    อะไรน่ะ !? 



    ...เเละเเล้วพวกเขาก็ได้คำตอบที่ต้องการ เมื่อมองไปยังร่างของหญิงสาวผู้ซึ่งถูกห่อหุ้มไปด้วยสายฟ้าเเหงนหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ง้าวของเธอได้อันตรธานหายไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ทรวงอกของเธอปรากฏด้ามจับของอะไรบางอย่างโผล่ขึ้นมา 



    ซันจิ โซโร นามิเเละอูซปต่างก็พากันอ้าปากค้างตาถลน ทุกคนคิดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย! 



    เปรี้ยง!— 



    สายฟ้ากระหน่ำฟาดลงมาอีกครั้ง ไรเดนยกมือขึ้นจับเข้าที่ด้ามนั้นอย่างมั่นคง ก่อนจะค่อยๆดึงมันออกมาจากอก ทำให้เห็นลักษณะของสิ่งๆนั้นได้อย่างเต็มตา ...คมมีดประกายม่วงแฉลบไปด้วยพลังงานสายฟ้ามหาศาล ทำให้มันดูน่าเกรงขามเเละทรงอานุภาพอย่างหาที่สุดไม่ได้ 



    ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเรืองเเสงสว่าง ใบหน้านวลเชิดขึ้นสูงในขณะที่สายตากลับเลื่อนลงมองต่ำ ราวกับคนที่อยู่เหนือสิ่งทั้งปวงและจ้องมองเหยื่อด้วยความเหยียดหยาม แขนเรียวได้ทำการตวัดดาบเพียงเเค่หนึ่งครั้ง 



    “ ฉันขอลงทัณฑ์ ” 










    หลังจากที่ไรเดนได้ทำการจมเรือของพวกนั้นลงด้วยเพียงเเค่ดาบเดียว ปู่ริวจิก็ได้เงยหน้าขึ้นมาคำรามอีกครั้ง แผ่นดินใต้น้ำทั้งบริเวณสั่นสะเทือนจนเรือเเมรี่โคลงเคลงไปหมด มังกรทั้งหลายที่มากันเป็นฝูงโฉลบบินมาที่นี่ราวกับภาพฝันมายา ...เป็นอย่างที่ทุกคนพูด รังมังกรมันอยู่ที่เกาะเเห่งนี้จริงๆ ทว่ามันยังคงอยู่ใต้น้ำเพื่อรอให้ถึงเวลาที่จะผุดขึ้นมาเป็นเกาะใหญ่อีกครั้ง เเละเนื่องจากที่ว่ารังมังกรนั้นจะขึ้นเหนือผิวน้ำในทุกๆหนึ่งพันปี นั่นจึงเป็นชื่อของมังกรพันปี 



    ในที่สุดพวกเราก็ทำตามสัญญาเเล้ว.. สัญญาที่ว่าจะพาปู่ริวจิกลับไปยังบ้านเกิดให้ได้ 



    เมื่อจบเรื่องนี้ เอปิสได้บอกลาทุกๆคนเเละขอบคุณที่ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด ในที่สุดเธอก็เลือกได้แล้วว่าจะทำอะไรต่อไป เธอต้องการที่จะอยู่ดูเเลปกป้องที่นี่ตลอดไปจนเมื่อลูกหลานของเธอ เพราะเธอมีบรรพบุรุษเป็นผู้นับถือมังกร เเละเพราะปู่ริวจิ.. ที่คอยเป็นเสมือนเพื่อนให้กับเธอ 



    ทุกคนโบกมือลาให้กับเด็กสาว ในขณะที่เรือโกอิ้งเเมรี่ค่อยๆขับเคลื่อนออกไปเรื่อยๆ 



    ดีจังเลยนะ.. 










    “ ว่าเเต่สุดยอดไปเลยนะว่าไหม !! เอย์ดึงดาบออกมาจากอกได้ด้วย ” 



    อูซปพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นระคนตื่นตาตื่นใจ มันเป็นเรื่องที่สุดยอดที่สุดตั้งเเต่ออกเดินทางมาเลยก็ว่าได้ แต่ก็ต้องมานั่งสงสัยอย่างช่วยไม่ได้อยู่ดี ว่าตกลงเเล้วเธอเก็บดาบเอาไว้ตรงส่วนไหนของร่างกายกันเเน่? แล้วทำไมมันถึงออกมาได้โดยที่เธอไม่เป็นอะไรเลย ไม่เจ็บเหรอ ? 



    “ ที่น่าตกใจกว่าคือเอย์ทำลายเรือของศัตรูทุกลำลงในดาบเดียวนี่สิ ฉันอึ้งมากตอนเห็นเรือของพวกนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆด้วยสายฟ้าเพียงเเค่เปรี้ยงเดียว ” นามิกล่าวเสริม



    ไรเดนเป็นคนที่เเข็งเเกร่งจนน่ากลัวเลยล่ะ พูดมาถึงตรงนี้เเล้วก็ยังคงช็อคไม่หาย นี่บอกว่าเป็นฝีมือของมนุษย์จริงๆงั้นเหรอ เเถมยังปรากฏการณ์ฟ้าผ่าอะไรนั่นอีก ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้เห็นเธอสู้เลยไม่นึกว่าจะเเข็งเเกร่งขนาดนี้ คงต้องมองเธอใหม่เเล้วล่ะ.. 



    บางที.. เธออาจจะเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดสุดในนี้ ที่จะเข้าไปยังแกรนด์ไลน์เเล้วก็ได้มั้ง 



    “ สุดยอด! ” ลูฟี่สมทบ เขาเองก็อยากจะเเข็งเเกร่งเท่าไรเดนให้ได้เลย 



    “ ท่วงท่าการตวัดดาบของเอย์ซังช่างงดงามสุดๆไปเลยครับ♡ ” 



    “ นายนี่ก็ขี้หลีได้ตลอดเลยแฮะ ” อูซปบ่นด้วยสีหน้าจืดชืด 



    “ เงียบไปเลย ! เเกไม่เข้าใจความรู้สึกของความรักที่ฉันมีต่อเอย์ซังหรอกเฟ้ย ! ” ร่างสูงแยกเขี้ยว เขาตวัดเท้าถีบหน้าเจ้าคนจมูกยาวชวนหงุดหงิดนั่นทันที 



    ความโกลาหลขนาดหย่อมเกิดขึ้นภายในห้องครัว ไรเดนมองภาพตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะลุกออกจากที่นั่งเเละเดินออกไปสูดอากาศรับลมด้านนอก 



    ตอนนี้พวกเรากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่แกรนด์ไลน์ การต่อสู้หลังจากนี้จะไม่ใช่เรื่องเล่นๆเเล้ว เพราะหลังจากที่พวกเราเหยียบเรือเข้าไป ก็จะพบเจอกับคนที่เเข็งเเกร่งในทุกหย่อมหญ้า 



    หญิงสาวเท้าเเขนลงกับระเบียงเรือ ถึงจะคิดเเบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้เเย่อะไร 



    สีสันเเบบนี้.. เธอรู้สึกชอบมันดี... 



    ‘ อีป้า! แกะกะซะจริง ! ’



    ‘ อีเนิร์ดนี่พูดมากจังวะ ’



    ‘ น่าเบื่อว่ะ ’ 



    ‘ ตายๆไปซักที ’ 



    ความทรงจำเก่าๆที่หลั่งไหลเข้ามาในหัว เธอในโลกเก่านั้นไม่ได้มีชีวิตที่สวยหรูมากนัก ในทุกๆวัน.. เธอจะคอยถามตนเองอยู่เสมอว่าเกิดมาเพื่ออะไร เธอควรมีชีวิตอยู่หรือไม่ ทำไมบางสิ่งบางอย่างถึงได้โหดร้ายนัก 



    และด้วยเเบบนั่น.. จึงทำให้เธอได้มาอยู่ที่นี่ 



    ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เธอได้สัญญากับตัวตนนั้นว่าจะใช้ชีวิตต่อไป ในเเบบที่เธอเป็น... 



    ฟึบ.. 



    ร่างบางหันไปมองร่างสูงของใครคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ ซันจิในชุดคอปกสีขาวจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มปกติ ดวงตาของเขาเป็นดวงตาของคนทั่วไปเวลาใช้มองผู้อื่น และเธอก็เเอบเห็นแววตาของเขาที่เเฝงไปด้วยความใจดีเเละอบอุ่น 



    แบบนี้แหละมีเสน่ห์มากกว่าเป็นไหนๆ 



    ไรเดนกระชับเสื้อนอกที่ชายหนุ่มถอดมาสวมให้เล็กน้อย สีหน้าของเธอเรียบนิ่งไร้อารมณ์ตามฉบับ ตอนนี้ก็เป็นเวลาเย็นจนเกือบจะมืดเเล้ว อากาศกลางทะเลในยามค่ำคืนช่างหนาวเย็นจนน่าเเปลกใจ



    “ เอย์ซังไม่ได้ร่วมฉลองกับพวกเขาเหรอครับ ” 



    ซันจิหยิบบุหรี่และไม้ขีดไฟขึ้นมาจุด เธอหลับตาลงเเละพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ



    “ ไม่ล่ะ เเล้วนายล่ะ ” 



    “ ฮ่ะๆ ถ้าให้เลือกระหว่างเจ้าพวกนั้น ให้ผมมาปกป้องเลดี้ที่กำลังต่อสู้กับความหนาวดีกว่าครับ ” 



    พรึบ



    ในที่สุดเขาก็จุดมันติด ร่างสูงสูดควันบุหรี่เข้าไปเต็มปอด นิสัยของเขายังคงคงเส้นคงวาเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เเม้ว่าท่าทางของเขาจะเเตกต่างไปจากเดิมบ้างก็ตาม



    ซันจิหยิบบุหรี่ออกมาจากปาก เขายิ้มเเละพูดด้วยน้ำเสียงเริงร่า 



    “ นี่ เอย์ซัง รู้จักออลบลูรึเปล่า ? ” 



    ใบหน้าของเขาสว่างสไวขึ้นเป็นเท่าตัว ชายหนุ่มเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับทะเลออลบลูที่มีทั้งสัตว์ทะเลของนอร์ทบลู ซอลว์บลู อีสต์บลูเเล้วก็เวสต์บลูมารวมกันอยู่ที่เดียว มันเป็นความฝันในวัยเด็กของเขาที่อยากจะเห็นมันซักครั้งหนึ่งในชีวิค ทว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็ต่างบอกเขาว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ 



    ไรเดนที่ได้ฟังก็รู้สึกได้เลยทันทีว่าเขาชอบสิ่งนี้มากขนาดไหน เพราะความฝันจึงทำให้เขามาที่เเกรนด์ไลน์เพื่อค้นหาคำตอบสินะ 



    “ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ มีหรือไม่มี ได้หรือไม่ได้  ...มันก็ยังควรค่าให้เราเชื่อมั่น ”  หญิงสาวกล่าว 



    “ เรื่องราวของมังกรพันปีเเละลอสไอร์แลนด์ ตำนานปรำปราที่ไม่น่าจะมีอยู่จริง แต่สุดท้ายมันก็ปรากฏให้เราได้เห็น ...จนกว่าจะเจอสถานที่เเห่งนั้น จงอย่าเลิกเชื่อมั่นซะล่ะ ” 



    “ นั่นสินะครับ ” 



    ซันจิเเหงนหน้ามองท้องฟ้า บางที.. ไม่ว่ามันจะมีหรือไม่มีก็ตาม เขาก็จะไม่เสียใจเลยที่ได้ไล่ตามหามัน 



    “ แหม~ เอย์ซังช่างเป็นบุคคลที่วิเศษจริงๆ ♡ ให้ผมได้มอบอ้อมกอดเเห่งรักนี้ให้ด้วยเถอะนะครั— แอ่ก! ” 



    ว่าเเล้วซันจิก็ตั้งท่าจะเข้าไปกอดหญิงสาวร่างบาง ทว่ากลับโดนมือปริศนาเล่นงานเข้าซะก่อน 



    โซโรเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะดันซันจิออกไปให้พ้นๆทาง 



    “ เกะกะชะมัด ” 



    “ หนอยแน่แก! ” ซันจิขบฟันกราม ไอ้หัวมอสนี่ต้องโดนลูกเตะซักที !




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×