ตอนที่ 58 : 21 'รัก' จวนแทบคลั่ง(25+)(ลบเนื้อหาบางส่วนค่ะ)
บทที่21.1 ‘รัก’ จวนแทบคลั่ง
แดนตรัยวางร่างบางที่เตียงอย่างทะนุถนอมพอจะลุกขึ้นสาวน้อยกลับทำในสิ่งไม่คาดคิดด้วยการ------------------cut------------------------------------------------------------------------------------------
“โอยทูนหัว จะทำให้ผัวคลั่งตายกันไปข้างเลยใช่ไหม”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้สาวน้อยหัวเราะ รู้สึกภูมิใจที่ได้เอาคืน แกล้งกันไปแกล้งกันมากลับกลายเป็นว่าคนที่ทำหน้าที่พิพากษาโทษเป็นฝ่ายคลานลงจากเตียงไม่ไหวซะเอง เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง
21.2 ‘รัก’ จวนแทบคลั่ง
งานเลี้ยงข้างล่างเลิกราไปนานแล้วแต่งานพิพากษาโทษข้างบนห้องพักกว่าจะเลิกราได้ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง แดนตรัยอุ้มคนตัวเล็กที่หมดเรี่ยวแรงเข้าไปแช่น้ำอุ่นที่เตรียมไว้เพื่อให้เธอได้ผ่อนคลาย แต่เมื่อร่างบางต้องกับแสงสว่างที่มากพอชายหนุ่มก็ต้องตกใจ เมื่อผิวขาวๆของเธอเต็มไปด้วยผื่นจ้ำแดงๆไปทั่วตัว แดนตรัยมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนทำให้เกิดรอยพวกนี้อย่างแน่นอน จากที่คิดว่าจะพาเธอแช่น้ำอุ่นเลยต้องเปลี่ยนใจอาบน้ำจากฝักบัวให้เธอแทนอย่างรวดเร็ว
“ฮือ หนาวจังเลยค่ะไม่เอานะคะ คันด้วยน้ำอะไรเนี่ย”
สาวน้อยส่ายหน้าแล้วเริ่มเกาตามตัว คิดว่าน้ำที่อาบนี่คงไม่สะอาด
“แค่แป็บเดียวหนูนาว ฉันต้องพาเธอไปหาหมอแล้วก็เลิกเกาด้วยเล็บยาวๆเดี๋ยวก็ได้เลือดกันพอดี”
“ไม่ให้เกาได้ยังไงคะ คันจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
เมื่อห้ามไม่เป็นผลเลยต้องรีบชะระร่างกายเธอและตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสร็จแล้วจึงสวมเสื้อคลุมให้กับร่างบาง ชายหนุ่มใช้เวลาในการสวมเสื้อผ้าให้กับตัวเองน้อยที่สุดเท่าที่เคยทำก็ว่าได้ขณะที่สวมก็ต่อสายสั่งการให้แจ็คเตรียมรถไปด้วย ยิ่งเห็นคนตัวเล็กเกาหนักเข้าก็ยิ่งร้อนใจ แดนตรัยอุ้มร่างบางเดินกึ่งวิ่งจนไปถึงตัวรถ
“ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดด่วนเลยแจ็ค”
เห็นอาการเร่งรีบและร้อนใจของเจ้านายหนุ่ม ลูกน้องคนสนิทก็ไม่มัวถามให้เสียเวลาออกรถตามสั่งอย่างรวดเร็วไม่นานรถยุโรปสมรรถภาพสูงก็วิ่งเข้าสู่จุดรับคนไข้ฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง คนใจร้อนร้องหาหมอเสียงดังลั่นโรงพยาบาลจนหลายคนต้องหันมามองเป็นตาเดียว เวรเปลและเหล่าพยาบาลต้องวิ่งกันโกลาหลไปหมดเพราะคิดว่าคนไข้มีอาการสาหัส แท้จริงแล้วเมื่อซักประวัติเสร็จเรียบร้อยแพทย์ถึงได้วินิจฉัยว่าเป็นอาการแพ้ที่เรียกว่าลมพิษ ถึงอย่างนั้นแดนตรัยก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีเมื่อเห็นเธอเกาตามตัวไม่เลิก
“หมอทำยังไงก็ได้ให้เธอเลิกเกาซะที หนังจะถลอกหมดแล้วเนี่ย”
แดนตรัยกล่าวกับนายแพทย์หนุ่มหลังจากที่วินิจฉัยโรคเรียบร้อย
“ถ้าญาติคนไข้เป็นกังวลมากเอาเป็นว่าหมอจะเปลี่ยนจากยากินเป็นยาฉีดพร้อมกับให้ยานอนหลับเพิ่มแล้วนอนดูอาการสักคืนก็แล้วกันนะครับ”
“ผมไม่ใช่ญาติ! ผมเป็นสามีของเธอเข้าใจซะใหม่ด้วยนะหมอ ส่วนเรื่องยาจะกินจะฉีดก็รีบสั่งมาเร็วๆเลย ก่อนที่เมียผมจะเกาจนเนื้อหลุดติดมือออกมาน่ะ แล้วหมอผู้หญิงไม่มีหรือยังไงถึงต้องให้หมอผู้ชายมาตรวจเนี่ย”
เสียงสั่งการราวกับว่าเป็นคนไข้เสียเองเรียกรอยยิ้มจากหมอหนุ่มได้เป็นอย่างดี ผู้ชายด้วยกันทำไมจะดูไม่ออกว่าที่ชายหนุ่มมีอาการเช่นนี้เพราะว่าทั้งหวงและห่วงสาวน้อยคนนี้มากจนเกินเหตุนั่นเอง
“ครับสามีก็สามี ช่วยใจเย็นๆก่อนนะครับเดี๋ยวหมอจะรีบสั่งยามาฉีดให้ตอนนี้เลย”
แค่ได้ยินว่ายาฉีดคนตัวเล็กที่กลัวเข็มเป็นชีวิตจิตใจก็เริ่มหน้าซีดตัวสั่น มือเย็นเฉียบจนแดนตรัยผิดสังเกต
“หนูนาวเป็นอะไรไปหรือว่ามีอาการแทรกซ้อนเพิ่มหรือเปล่าทำไมมือเย็นขนาดนี้”
เสียงนุ่มทุ้มถามด้วยความอาทรแค่ที่เธอเป็นอยู่เขาก็แทบกลายเป็นพวกจอมโวยวายในสายตาชาวบ้านอยู่แล้ว ตากลมโตเริ่มมีน้ำใสๆคลอที่หน่วยจนชายหนุ่มตกใจ
“ไม่ฉีดยานะคะฉันกลัวเข็ม”
เสียงหวานสั่นบอกทั้งน้ำตาพาให้ชายหนุ่มรู้สึกสงสารไม่น้อย จึงหันไปหาหมอหนุ่มเป็นเชิงปรึกษา
“เอ่อ..ถ้าอย่างนั้นเปลี่ยนเป็นยากินก็ได้ครับแต่อาจจะออกฤทธิ์ช้าหน่อย คนไข้อดทนต้องอดทนพักหนึ่งนะครับ”
มาลัยแก้วพยักหน้าเนือยๆเพราะร่างกายที่อ่อนเพลียจากกิจกรรมเข้าจังหวะก่อนหน้านั้นบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย พอได้ยาแก้แพ้กับยานอนหลับจึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งถึงห้องพักคนไข้คนหลับก็ยังมีอาการเผลอเกาอยู่เป็นระยะ แดนตรัยเลยสั่งการบางอย่างกับลูกน้องคนสนิทเพื่อความปลอดภัยที่เนื้อหนังของตัวเธอเอง
มาดามดารินทราบข่าวจากการ์ดของลูกชายก็เกิดความร้อนใจไม่แพ้กัน รีบเปลี่ยนเสื้อผ้ากลางดึกเพื่อไปเยี่ยมว่าที่ลูกสะใภ้พร้อมกับรีแกน ไม่นานรถยนต์คันหรูก็มาถึงที่หมาย
“น้องเป็นยังไงบ้างดีน”
มารดายิงคำถามเมื่อการ์ดเปิดประตูห้องพักคนไข้ให้นางเข้าไปด้านใน เห็นลูกชายกำลังยืนจดๆจ้องๆอยู่ข้างเตียง โดยมีสตรีนางหนึ่งนั่งทำอะไรบางอย่างกับมือของสาวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้
“หมอให้ยาเธอหลับไปแล้วครับ แล้วนี่มัมมาทำไมครับดึกดื่นป่านนี้แล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยมาก็ได้”
ปากพูดกับมารดาแต่สายตากลับมองไปยังลูกน้องตัวดีที่ทำเกินคำสั่ง แจ็คยิ้มแหยๆแล้วรีบหลบฉากออกจากห้องไปก่อนที่จะโดนเจ้านายเตะโด่ง
“ถึงขั้นต้องตัดเล็บเชียวหรือ ไม่รู้หรือไงว่าผู้หญิงน่ะหวงเล็บเหมือนเสือหวงเขี้ยว แล้วหมอว่าอย่างไรบ้างน้องเป็นอะไร”
สิ่งที่ได้ยินทำเอาชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอแบบฝืดๆ เพราะว่านี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สั่งตัดเล็บเธออย่างถือวิสาสะ แสดงว่าครั้งแรกเธอคงไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้
“เป็นลมพิษครับเกิดจากการแพ้แอลกอฮอล์ที่อยู่ในเครื่องดื่ม เธอเองก็ไม่รู้มาก่อนเพราะไม่เคยแตะต้องเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เลยสักครั้ง”
“โธ่! เพราะมัมแท้ๆเลย ถ้ามัมไม่ปล่อยให้เธออยู่ท่ามกลางผู้หญิงพวกนั้นก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้”
มาดามรำพึงรำพันโทษตัวเองอีกครั้ง
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ไม่ใช่ความผิดของมัมสักหน่อย มันเกิดจากความดื้อรั้นไม่คิดจะยอมใครของคนอวดเก่งเองต่างหาก”
แดนตรัยอธิบายเพื่อปลอบใจมารดา นางเดินเข้าไปใกล้ๆคนไข้ที่ตอนนี้หลับสนิทตามเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยผื่นจ้ำแดงๆและรอยขูดข่วนพาให้สงสารยิ่งนัก มือเรียวลูบศีรษะเล็กแผ่วเบา
“หายเร็วๆนะลูกนะจะได้กลับบ้านเรา”
มาดามก้มลงหอมที่หน้าผากมนอย่างรักใครแกมเอ็นดู นับวันยิ่งรู้สึกถึงความผูกพันที่มีมากขึ้นเรื่อยๆระหว่างครอบครัวตนเองกับว่าที่ลูกสะใภ้
“ลูกก็ควรจะพักผ่อนบ้างนะดีน วันนี้ลูกเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แม่ขอตัวกลับก่อนพรุ่งนี้แม่จะมาเยี่ยมใหม่”
นางหันไปบอกลูกชายที่บัดนี้หน้าตาเริ่มอิดโรย
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะนอนเป็นเพื่อนเธอที่นี่ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
แดนตรัยสวมกอดมารดาผู้เป็นที่รักแล้วหอมแก้มซ้ายทีขวาที รีแกนเดินมาตบไหล่เพื่อให้กำลังใจแก่น้องชายเบาๆชายหนุ่มพยักหน้ารับน้อยๆเพื่อตอบรับ
ช่างเสริมสวยที่ถูกเรียกตัวด่วนในยามวิกาลด้วยค่าตอบแทนอันแพงลิ่วเก็บอุปกรณ์หลังจากที่ทำการตัดเล็บคนไข้เสร็จเรียบร้อยแดนตรัยจึงสั่งให้แจ็คไปส่งเธอ จากนั้นจึงลากเก้าอี้มานั่งเฝ้าคนตัวเล็กที่เมื่อความเหนื่อยล้าเข้าโจมตีจึงผล็อยหลับตามคนไข้ตัวเล็กไปในที่สุด
21.3 ‘รัก’ จวนแทบคลั่ง
รุ่งเช้าเมื่อร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนพลังงานในร่างกายจึงเริ่มกลับมาแต่ก็ยังไม่เต็มที่เท่าที่ควร มาลัยแก้วลืมตาขึ้นช้ากลอกตาดวงโตไปรอบๆห้อง นึกลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองก็รู้ในทันทีว่าที่นี่คงจะเป็นโรงพยาบาลนั่นเอง พอรู้สึกตัวอาการระยิบระยับตามผิวหนังที่ยังไม่หายขาดก็กลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง สาวน้อยจึงยกมือขึ้นเกาโดยอัตโนมัติเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปก็โวยวายขึ้น
“อร้าย! คุณดีนคนบ้า! นี่ฝีมือคุณอีกแล้วใช่มั้ยคะคนนิสัยไม่ดี!”
สาวน้อยแหกปากต่อว่าเสียงดังเป็นชุดจนคนที่เผลอข้างเตียงสะดุ้งตื่นในทันทีที่ได้ยินเสียง
“ใจเย็นๆหนูนาว ตื่นมาก็มีแรงโวยวายเชียวนะไม่เหนื่อยหรือยังไง”
แดนตรัยงัวเงียว่าใช้นิ้วมือนวดที่ข้างขมับตัวเองเบาเพื่อให้เส้นประสารทผ่อนคลาย
“ไม่ยงไม่เย็นมันแล้วค่ะ คนเผด็จการเอาแต่ใจตัวเองไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น”
คนที่สูญเสียเล็บยังไม่เลิกราตะโกนต่อว่าอีกหลายชุดจนคนฟังเริ่มอ่อนใจแต่ก็ต้องพยายามข่มอารมณ์ให้เย็นเข้าไว้เพราะกลัวว่าเธอจะไม่พอใจจนกลายเป็นโกรธ
“เอาล่ะ ฉันยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาเลย ทีนี้ก็นอนลงก่อนเธอต้องพักผ่อนให้มากๆ จะได้หายเร็วๆ”
น้ำเสียงนุ่มที่พูดออกมาด้วยความห่วงใยทำให้อาการไม่พอใจหายไปอย่างน่าประหลาด แต่คนไข้หัวดื้อก็ยังไม่ยอมนอนตามที่คนตัวโตบอก
“นอนไม่หลับแล้วค่ะ เพราะว่าตอนนี้ฉันหิวและก็หิวมากด้วยตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากเครื่องดื่มเจ้าปัญหานั่นน่ะ”
เอากับเธอสิ เรื่องกินเรื่องใหญ่เรื่องตายเรื่องเล็กยกสโลแกนนี้ให้เธอไปเลย หนำซ้ำยังเรียกเครื่องดื่มมีระดับราคาแสนแพงของเขาว่าเครื่องดื่มเจ้าปัญหาอีก ‘ เอาเถอะเพราะว่ารักหรอกนะจึงยอม’ ชายหนุ่มบอกกับตัวเองในใจ
“อยากกินอะไรล่ะหนูนาว ฉันจะได้ให้แจ็คออกไปซื้อมาให้”
“อะไรก็ได้ค่ะเอาที่รสจัดจัดๆเน้นเปรี้ยวมากๆ ขอขนมหวานด้วยค่ะเอาเค้กก็ได้หน้าฟรุ้ตสลัดและที่สำคัญเอามาเยอะๆนะคะเร็วๆด้วย”
อื้อหือ! อะไรก็ได้ของเธอไม่ค่อยจะเยอะเลยแต่ก็เอาเถอะเพราะว่ารักอีกนั่นแหละ เลยยอม
“ได้ รอเดี๋ยวนะจะให้แจ็คไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย”
บอกคนตัวเล็กเสร็จก็ออกไปสั่งการลูกน้องคู่ใจที่ห้องพักญาติเยี่ยมไข้ทันที ขืนชักช้าแม่คุณทูนหัวอาจจะโมโหหิวเอาได้
ให้หลังคนตัวเล็กชายหนุ่มก็ต้องปวดประสาทเมื่อสั่งการกับลูกน้องแล้วไม่ได้ดั่งใจ มันจะอะไรกันนักหนาทำไมชีวิตช่วงนี้มันมีแต่เรื่องให้ชวนปวดหัว หรือว่าเวรกรรมที่ทำไว้กับเธอมันยังชดใช้ไม่หมดง่ายๆก็ไม่รู้ เฮ้อ!
“เอ่อ.. เจ้านายครับร้านอาหารที่ไหนจะเปิดตอนตีสี่ แล้วอะไรก็ได้ที่ว่าของนายหญิงก็เจาะจงเสียขนาดนั้นมันไม่ได้มีขายทั่วไปนะครับ”
มันก็จริงอย่างที่การ์ดหนุ่มว่าแต่มีหรือที่คนอยากได้อะไรก็ต้องได้จะยอม
“ไม่รู้ล่ะ นายจะทำยังไงมันก็เรื่องของนายแล้วก็ต้องกลับมาภายในครึ่งชั่วโมงนี้ด้วย”
แจ็คอ้าปากพะงาบๆกะจะพูดแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรคนเอาแต่ใจก็เดินจากไปแล้วเรียบร้อย ทิ้งปัญหาไว้ให้ลูกน้องไปแก้เอาเองคนเดียว นี่ถ้าจิมมี่คู่หูอยู่ด้วยคงไม่ต้องลำบากใจแบบนี้ กรรมของไอ้แจ็คจริงๆลูกน้องหนุ่มยืนทำหน้าปั้นยากอยู่สักพักจึงรีบออกไปจัดการตามที่เจ้านายสั่ง
เวลาผ่านไปแค่สิบนาทีคนหิวก็เริ่มทวงถามถึงอาหารที่ตนร้องขอเพราะความหิวจัดทำให้เธอรู้สึกว่าเวลาที่รอคอยมันช่างนานแสนนาน แดนตรัยจึงต้องหาเรื่องอื่นทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ
“คันมากหรือ มาฉันจะทายาให้หมอบอกว่ามันจะช่วยได้อีกทาง”
แดนตรัยบอกเมื่อเห็นคนตัวเล็กยังนั่งลูบแขนขาไม่หยุด ชายหนุ่มหยิบตลับยาแล้วนั่งลงที่เตียงติดกับสาวน้อยแตะแต้มครีมตามแขนขาแล้วลูบไล้บางเบาไปจนทั่วทุกบริเวณที่มีรอยแดง
“ทีหน้าทีหลังก็อย่าไปดื่มมันอีกล่ะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์น่ะจะได้ไม่ต้องมานั่งทรมานแบบนี้”
เสียงนุ่มทุ้มบอกอย่างอาทรแต่คนฟังกลับรู้สึกไม่พอขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ฉันผิดหรือคะที่ไม่อยากให้ใครมาดูถูก ว่าภรรยาเจ้าพ่อน้ำเมาดื่มเหล้าไม่เป็น ฉันแค่อยากรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง ศักดิ์ศรีของคุณดีน ฉันไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมองว่าเป็นภรรยาที่ไม่เอาไหน ฉันเลยต้องเป็นแบบนี้แค่นั้นยังไม่พอต้องมาเสียเล็บสวยๆอีกด้วยเนี่ย ฮือออออ”
ชายหนุ่มหน้าเหวอเพราะเริ่มทำตัวไม่ถูกที่จู่ๆพูดถูกก็กลายเป็นผิด เมื่อตั้งสติได้จึงรีบรวบร่างเล็กที่ร้องไห้จนตัวโยนเข้ามากอดไว้
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะหนูนาวขอโทษๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่าเธอเลยนะที่พูดไปก็เพราะเป็นห่วงเท่านั้น”
“ไม่เชื่อหรอกค่ะ คนห่วงกันที่ไหนเค้าจะทำกันแบบนี้ดูสิ เล็บด้วนจู๋เลยเนี่ย”
คนตัวเล็กยกมือบางขึ้นมากางอวด ไม่น่าเชื่อเรื่องที่คิดว่าไม่ติดใจเอาความแล้วเธอก็ยังขุดขึ้นมาพาลได้อีกทั้งๆที่ปกติแล้วมันไม่ใช่นิสัยของเธอเลย จังหวะเดียวกันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นแจ็คหอบอาหารหวานคาวมาสามสี่อย่างแล้วกลับออกไปอย่างรู้งาน แดนตรัยจึงเอาเรื่องอาหารมาหลอกล่อเพื่อให้เธอลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจเมื่อสักครู่
“อาหารที่สั่งได้แล้วหนูนาว น่ากินทั้งนั้นเลย”
“ไม่กงไม่กินมันแล้วค่ะ”
“อ้าว! ไหนบอกว่าหิวมากไงกินหน่อยเถอะนะ”
“ หิวมากแต่รอนานเลยกินไม่ลงค่ะ ฉันอยากกลับบ้านช่วยหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนด้วยค่ะ”
เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นพร้อมกับความต้องการที่เปลี่ยนไปแบบหุนหันพลันแล่นทำเอาแดนตรัยแทบสติแตกแต่ก็จำต้องอดทนอดกลั้นเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วกลับมาเจิ่งนองอีกรอบ
“ได้ๆ รอเดี๋ยวนะ”
ร่างใหญ่หอบอาหารที่แจ็คไปจัดหามาออกไปด้านนอกเพื่อสั่งการสิ่งใหม่กับลูกน้องคนสนิท แจ็ครีบทะลึ่งพรวดขึ้นยืนทันทีที่เจ้านายหนุ่มเปิดประตูออกมาแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นอาหารยังอยู่ดีครบทุกห่อ
“เกิดอะไรขึ้นครับทำไม....”
“นายหญิงบอกว่ารอนานเกินกินไม่ลง ตอนนี้อยากกลับบ้านนายช่วยไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เธอที”
ว่าแล้วก็บอกขนาดสัดส่วนให้เสร็จสรรพพร้อมกับส่งถุงบรรจุอาหารคืนให้การ์ดหนุ่มทั้งยวง
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ฉันสั่งอะไรก็รีบๆไปทำเหอะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก อ้อ! ด่วนเลยนะ”
บอกเสร็จก็หันหลังให้อีกตามเคย แจ็คยืนทำหน้าเหรอหราไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตตัวเอง อาหารพวกนี้กว่าจะไปจัดหามาได้มันช่างยากเย็นแสนเข็ญแต่พอได้มาแล้วกลับไม่ต้องการเอาดื้อๆ
ซ้ำยังมีคำสั่งใหม่เร่งด่วนปานสายฟ้าแลบอีก’พระเจ้า! เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ย’ ชายหนุ่มสถบกับตนเองเบาๆ แล้วรีบสาวเท้าออกจากตรงนี้ก่อนที่ฟ้าแลบจะกลายเป็นฟ้าผ่าถ้าขืนชักช้าไปกว่านี้
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1,532 ความคิดเห็น
-
#1480 571102155116 (จากตอนที่ 58)วันที่ 27 กันยายน 2558 / 14:02ทีองแน่นอนฟันธงครับ#1,4800
-
#1458 ฟอแฟน นารูโตะ (จากตอนที่ 58)วันที่ 27 กันยายน 2558 / 11:11ทำใจนะแจ็ค สู้ๆ#1,4580
-
#1452 dawbaba (จากตอนที่ 58)วันที่ 27 กันยายน 2558 / 10:23แจ็คผู้น่าสงสาร 555#1,4520
-
#1436 เงามืด (จากตอนที่ 58)วันที่ 27 กันยายน 2558 / 05:57อ่านแล้วจ๊ๆ สู้ๆนะ#1,4360