ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mishiyo.....Aishi teru

    ลำดับตอนที่ #8 : อรุณสวัสดิ์ครับ...พี่สาว

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 50


    ตอนที่ 8  อรุณสวัสดิ์ครับ...พี่สาว

     

                    มิชิโยะจางงงงงงงงงงงงงง เสียงของเมอิดังมาแต่ไกล ก่อนที่จะเห็นตัวเจ้าของเสียงซะอีก ดูนี่ๆๆ พยายามยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้กับเด็กสาว มิชิโยะเห็นแบบนั้นจึงหยิบมาดูหน้าที่เมอิกางมาให้ ตรงหน้าเป็นรูปของชายคนหนึ่งที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าอยู่ไม่น้อย มิชิโยะคิดว่าน่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออก....เคยเห็นที่ไหนหว่า.?..... ใครอ่ะ? เมอิจังในเมื่อนึกไม่ออกจึงตัดสินใจถามเจ้าของหนังสือ  คาซึกิ นักแสดงขวัญใจยัยเมอิเขาล่ะ คนที่ตอบเป็นริโอะ สาวห้าวประจำกลุ่ม เมื่อได้ฟังคำตอบก็ทำท่าคิดอีกครั้งแต่ก็แค่รู้สึกคุ้นๆเท่านั้นเลยปล่อยให้ผ่านๆไป คุ้นๆ แต่ไม่รู้จักอ่ะ แหะๆเมอิทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยก่อนจะยิ่งเอาหน้าเข้ามาชินจนคนโดนจู่โจมแทบจะตกเก้าอี้ คาซึกิคุง ไง ทั้งหล่อ เท่ เป็นสุภาพบุรุษ ชาติตระกูลก็ดี หนุ่มเพอร์เฟคที่สาวๆ โหวตให้เป็นหนุ่มที่น่าควงมาเป็นแฟนอันดับหนึ่งเชียวนะ  อ่ะ จ้าๆ เพียงแต่ว่าเราไม่ค่อยสนใจดาราน่ะ  ขนาดดารานักร้องประเทศตัวเองยังไม่ค่อยรู้จักเลย แหะๆ มิชิโยะพูดพลางเอามือม้วนผมเล่น

     

              ไง! 4 สาว มาจับกลุ่มนินทาใครอยู่ป่าวเนี่ย เสียงทะเล้นที่ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคงไม่พ้นริว หนุ่มเนื้อหอมอารมณ์ดี และตามมาด้วยเพื่อนร่วมก๊วนที่นิสัยแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อ มิชิโยะหันไปมองแล้วยิ้มให้เป็นเชิงทักทาย กำลังพูดถึงหนุ่มหน้าตาดีอยู่ เมื่อได้ยินดังนั้นริวก็ทำท่ายืดอกอย่างภาคภูมิ แต่ก็ต้องห่อเหี่ยวลงเมื่อได้ยินประโยคถัดมา แต่ไม่ใช่นายนะ สี่สาวหัวเราะคิกชอบใจเมื่อเห็นท่าทางของริว นี่ไงคะ เมอิรีบชูนิตยสารให้กลุ่มผู้มาใหม่ดู คาซึกิคุง ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมเลยล่ะ ทั้งสามหนุ่มดูรูปจากนิตยสาร ไรเนี่ย? ชั้นหล่อกว่าตั้งเยอะ เนอะๆๆ.....ดูดิ หน้างี้ขาวจั๊วะ แล้วดูที่ให้สัมภาษณ์ดิ ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องผู้หญิงครับ แต่ถ้าเจอคนที่ถูกใจก็คงแค่ขอคบดูใจกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้อยากทุ่มเทให้กับงานมากกว่าเรื่องอื่น ตอบแบบนี้สงสัยจะสนใจผู้ชายด้วยกันมากกว่าอ่ะดิ โถ่เอ๊ย! ทำมาเป็นพูด...ว่ะ...ว่า...ว่า....หง่า........ ริวรีบ stop คำพูดของตัวเองไม่ให้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อหันไปเห็นว่าหญิงสาวเจ้าชองหนังสือเตรียมที่จะยกเก้าอี้ขึ้นมาทุ่มคนปากมอม พร้อมพูดเสียงเย็น รุ่นพี่คะ ถ้าพูดอะไรมากไปกว่านี้ระวังจะโดนลงโทษนะคะ (^^+)

              ..................น่ากลัวแฮะ....................นี่เป็นสิ่งที่บุคคลคนทั้ง 5 คิด พร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    วันเสาร์ 13.30 น.

             วันนี้ก็จะออกไปข้างนอกอีกหรอ? อิซูมิถามเมื่อเห็นว่ารูมเมทของตนแต่งตัวเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกในช่วงบ่ายของวันเสาร์ พร้อมสะพายเป้คู่กาย

             จ้ะ ถ้าพวกเมอิจังมาถามหาก็ฝากบอกด้วยนะอิซูมิจัง ขอบใจล่วงหน้าจ้า เด็กสาวพูดจบก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าสงสัยของอีกฝ่าย

     

              มิชิโยะเดินไปยังสวนสาธารณะซึ่งเป็นจุดนัดพบกับชินาโนะ ด้วยไม่อยากให้ใครพากันสงสัยว่าทำไมชายหนุ่มถึงมาที่นี่ทุกอาทิตย์ อีกทั้งคู่นัดยังเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายอีกด้วย และเช่นเคยทันทีที่เข้าไปในรถแล้วเด็กสาวก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที แต่ครั้งนี้ชินาโนะเป็นคนจัดหาเสื้อผ้ามาให้

               ครั้งนี้ชินาโนะก็ยังพาเด็กสาวไปที่บริษัทเดิม แต่ไม่ได้เข้าไปที่ห้องของประธานบริษัทเหมือนอย่างเคย เขากลับพาเธอไปยังห้องๆหนึ่งที่มีเพียงชุดรับแขก 1 ชุด ตั้งอยู่ภายในห้องเท่านั้น ทันทีที่เด็กสาวเดินเข้าไปภายในห้องก็เห็นมีชายหนุ่มที่ดูแล้วอายุน่าจะไม่เกิน30 นั่งรออยู่ก่อนแล้ว อากิระ นี่คุณฮิมุโระ นับแต่วันนี้เขาจะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ชินาโนะพูดแนะนำ เด็กสาวหันไปมองฮิมุระ สลับกับชินาโนะ มองตาปริบๆ ในมือก็ถือลูกอมที่มีด้ามเสียบเอาไว้ ชินจังไม่ใช่ผู้จัดการของชั้นหรอกหรอ? ฮิมุโระแนะนำตัวเองอีกครั้ง อาโอยามะ ฮิมุโระ จะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอนับแต่วันนี้ไป มิชิโยะจึงยื่นมือไปจับมือของอีกฝ่าย อากิระครับ ฝากตัวด้วย น้ำเสียงยังคงวางตัว

              อะไรกันที่กับฮิมุโระล่ะก็พูดซะเพราะ ที่ฉันนายยังไม่เคยเลย ชินาโนะพูดน้ำเสียงงอนๆ แต่ดูไม่ได้จริงจังอะไร มิชิโยะยิ้มให้กับชินาโนะ ก็ฮิมุโระซัง ดูน่าเชื่อถือแล้วก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าชินจังตั้งเยอะ ((แต่ในอนาคตอันใกล้ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ - -)) เมื่อได้ฟังฮิมุโระก็ต้องรีบแสร้งหันหน้าไปทางอีกปิดปากหัวเราะ ในขณะที่ชินาโนะอยากจะคว้าเจ้าเด็กปากเสียมาเขกกะโหลกซักทีแต่ก็ติดที่ว่าต้องรีบไป ให้ตายซินายนี่มัน...... ช่างเถอะเดี๋ยวชั้นต้องไปก่อนล่ะ เรื่องเจ้าเด็กปากมอมนี่ก็คงต้องฝากนายแล้วนะ ก็อย่างที่เห็นเนี่ยล่ะปากมันเสียไงก็ทนๆหน่อยแล้วกัน บายทั้งสองคน มิชิโยะโบกมือบ๋ายบายในขณะที่ฮิมุโระโค้งให้

     

               ฮิมุโระมองหน้าผู้ที่ตนคิดว่าเป็นเด็กหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าออกจะหน้าหวานเกินผู้ชายไปเสียหน่อยแต่ก็คิดว่ายังมองเห็นเค้าโครงของความเป็นเด็กผู้ชายอยู่บ้าง แม้นจะเพียงน้อยนิด ก็ไม่ว่าท่าทางการเดิน การนั่ง ก็ออกจะเป็นผู้ชาย (มันน่าภูมิใจแทนนางเอกมั๊ยเนี่ยะ - -) มิชิโยะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องตนเองอยู่ก็อดที่จะถามไม่ได้ ผมมีอะไรประหลาดนักหรอ? ถึงได้มองอยู่ได้ ฮิมุโระตกใจเล็กน้อยเมื่อโดนถาม ป่ะ..เปล่าๆ แค่คิดว่านายนี่หน้าหวานมากแค่นั้นเอง มิชิโยะขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไหร่แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย ฮิมุโระจึงบอกตารางงานให้กับเด็กสาว ทั้งคู่จึงเดินออกจากห้องไป

     

               การเทสหน้ากล้องเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้นมิชิโยะได้รับบท โซมุ ซึ่งตามบทเป็นน้องชายของพระเอก แต่การถ่ายทำจริงจะเริ่มขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้า ส่วนงานในวันนี้เธอจะต้องไปเป็นตัวประกอบในงานโฆษณาชิ้นหนึ่ง และไปเข้าการคัดเลือกในงานดาราหน้าใหม่

              งานตัวประกอบโฆษณาเป็นไปได้ด้วยดีเพราะเป็นเพียงแค่บทคนเดินผ่านที่มีบทพูดเพียงประโยคเดียว แต่ปัญหากลับเกิดกับงานที่ 2

             ความสามารถพิเศษ? มิชิโยะพูดด้วยความสงสัยที่จู่ๆผู้จัดการส่วนตัวของเธอก็ถามขึ้นมา ไม่มีหรอกของแบบนั้น มิชิโยะเอ่ยขึ้นมาทำท่าทางไม่สนใจ และไม่คิดที่จะหาความสามารถพิเศษที่ว่าอีกด้วย

             แล้วความสามารถทางการแสดงล่ะ? เห็นชินาโนะซังบอกนี่ว่าอากิระคุงได้รับบทในละครที่คาซึกิคุงแสดง? ฮิมุโระถามด้วยความสงสัย

             อันนั้นน่ะมันฟลุ้ค ฮิมุโระมองอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็ต้องถอนหายใจ การคัดเลือกดาราหน้าใหม่ครั้งนี้จำเป็นที่จะต้องหาความสามารถพิเศษมาซักอย่างไม่งั้นมีหวังได้ตกตั้งแต่รอบแรกแน่นอน เห็นว่าได้รับบทในละครเรื่องหนึ่งก็นึกว่าจะมีความสามารถในเรื่องนี้แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าฟลุ้ค แล้วแบบนี้จะไปหาอะไรมาล่ะเนี่ย มิชิโยะมองชายหนุ่มอย่างไม่ทุกข์ร้อนซึ่งตรงกันข้ามกันคนข้างๆที่กลุ้มแทนในมือก็ถือถุงมันฝรั่งทอดหยิบมากิน จนคนกลุ้มเริ่มทนไม่ไหว นี่เธอมีกะจิตกะใจจะเข้าคัดเลือกมั่งมั๊ยเนี่ย ดูจะไม่ค่อยทุกข์ร้อนอะไรเท่าไหร่เลยนะ? น้ำเสียงออกจะแดกดันเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกรู้สาอะไรเท่าไหร่ ในมือก็ควานหามันฝรั่งชิ้นต่อไปซึ่งดูท่าว่าจะไม่เหลือเลยซักชิ้น มิชิโยะจึงยื่นถุงมันฝรั่งทอดซึ่งบัดนี้ว่างเปล่าให้กับชายหนุ่มผู้เป็นผู้จัดการ ฮิมุโระทำหน้าสงสัยครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจความหมายแล้วจึงหยิบถุงเปล่านั่นเดินไปทิ้งด้วยความรู้สึกละอาและไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่ เด็กสาวเห็นท่าทางแบบนั้นก็รู้สึกอยากแกล้งขึ้นมา ฮิมุโระซังนี่ซีเรียสน่าดูเลยนะ ใบหน้ายิ้มแย้มตามแบบฉบับปรากฏออกมาจากดวงหน้างามนั่น ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฮิมุโระเกิดรู้สึกยะเยือกออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ ก็รู้หรอกนะว่าเป็นคนจริงจังน่ะ ไม่รู้ชินจังนึกยังไงถึงให้คุณมาเป็นผู้จัดการของผมเนี่ย ฮิมุโระสะอึกกับคำพูดประโยคนั้นเล็กน้อย มันเหมือนกับว่าเด็กหนุ่มตรงน้านี้กำลังว่าเขากลายๆยังไงก็ไม่รู้ คงจะคิดมากไป?

     

    สถานที่จัดคัดเลือกดาราหน้าใหม่

               เมื่อมิชิโยะและฮิมุโระมาถึงสถานที่คัดเลือก ซึ่งเป็นห้องทีถูกจัดเตรียมเอาไว้ทั้งสิ้น 3 ห้องด้วยกัน 2 ห้องเอาไว้สำหรับให้ผู้ที่มาเข้าการคัดเลือก สำหรับผู้ชาย 1 ห้อง และผู้หญิง 1 ห้อง อีกห้องเอาไว้สำหรับการคัดเลือก ซึ่งภายในห้องจะมีเวทีขนาดกลางอยู่สำหรับผู้มาคัดเลือก โดยจะแบ่งกลุ่มคัดเลือกออกเป็น 3 กลุ่ม มี กลุ่มผู้มาคัดเลือกเป็นนักร้อง ผู้มาคัดเลือกเป็นนักแสดง และผู้เข้าคัดเลือกสำหรับนายแบบและนางแบบ

              ภายในห้องเตรียมตัวดูจะวุ่นวายอย่างไม่รู้จบ เมื่อมิชิโยะเดินเข้าไปในห้องทุกสายตาก็หันมาจับจ้องด้วยความสงสัย นี่เธอนี่ห้องสำหรับผู้ชายของผู้หญิงอยู่ถัดไปอีกห้องหนึ่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินตรงมาทางเธอ มิชิโยะทำเป็นไม่สนใจกบคำบอกเล่านั้น และเดินไปยังมุมห้อง เหล่าผู้เข้าคัดเลือกเริ่มโกลาหนรีบหาผ้ามาปิดตัวเองไว้บ้างก็ส่งเสียงแซวถึงความอาจหาญ จนฮิมุโระต้องรีบยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่คนนั้น เมื่อได้อ่านใบสมัครเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้างง แล้วรีบกล่าวขอโทษทันที สายตาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเด็กหนุ่มตรงหน้า อ่ะ! ขอโทษด้วยครับ ผู้เข้าสมัครคัดเลือกเป็นนักแสดงฝ่ายชายซินะครับ คำบอกนั้นยิ่งทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่เธอ เจ้าตัวกลับไม่พูดอะไรพลางรื้อข้าวของที่แบกมาแล้วก็ต้องขมวดคิ้วแล้วหันไปทางผู้จัดการส่วนตัว นายเอาช็อกโกแลตชั้นไปหรอฮิมุโระ คำเรียกชื่อห้วนๆนั้นบ่งบอกว่าอารมณ์เริ่มขุ่น ฮิมุโระเองก็ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นักที่คนที่เด็กกว่าตนมาเรียกด้วยน้ำเสียงแบบนี้จึงตอบไปตามความจริง ทั้งที่ตอนแรกก่ะจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้       

              ใช่

              เอาคืนมาน้ำเสียงยิ่งไม่พอใจหนักเข้าไปอีก

              ทิ้งไปแล้ว ขณะพูดสายตาก็ยังคงจ้องคู่สนทนาเขม็ง

               คำตอบที่ได้รับสร้างความตะลึงให้กับคนเป็นเจ้าของขนมหวานชิ้นนั้น ก่ะ....แก......ตายซะเถอะ!!!!!!!” โดยไม่ทันตั้งตัวกำปั้นเล็กๆจากมือที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะมีแรกเท่าไหร่ก็ถูกปล่อยออกมาเป้าหมายตรงไปยังใบหน้าฝ่ายตรงข้ามทันที

               โอ๊ย!” คนตัวโตกว่าถึงกับร้องเสียงหลง ล้มลงไปกองกับพื้น

               คราวนี้ความโกลาหนของจริงก็เกิดขึ้นเมื่อ หนุ่มหน้าหวานเกิดฟิวส์ขาดสาเหตุมาจากขนมเพียงชิ้นเดียว แต่เป็นชิ้นเดียวที่แสนจะมีค่าสำหรับเจ้าตัว เจ้าบ้า! งี่เง่า! นายมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับของๆฉันไม่ทราบ ไอ้ช็อคโกแล็คชิ้นนั้นชั้นอยากกินมาตั้งนานแล้วนะเฟ้ย! นาย.....นาย.... มิชิโยะได้แต่หัวเสียตะโกนด่าคนที่ทิ้งของกินชิ้นโปรดไป คนที่ล้มลงไปกองไม่อาจทำอะไรได้อีกด้วยไม่คิดว่าจะโกรธถึงขนาดนี้ มิชิโยะเห็นว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการเงียบไปจึงได้แต่ทำหน้าไม่พอใจก่อนจะเดินกลับไปที่กระเป๋าตัวเองอีกครั้ง คราวนี้หยิบเครื่องเล่น mp3 ขึ้นมาแทนแล้วจึงจัดการยัดหูฟังเข้าหูแล้วฟังเพลงระงับสติอารมณ์ที่กำลังกรุ่นอยู่โดยคราวนี้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับเธออีกจะมีบ้างก็เพียงแค่ชำเลืองมองเมื่อเธอเปลี่ยนอิริยาบถด้วยกลัวว่าเธอจะเกิดอาละวาดขึ้นมาอีกครั้ง

                เวลาผ่านไปครู่หนึ่งก็มีคนดูแลเข้ามาภายในห้องแล้วเรียกให้กลุ่มผู้เข้าคัดเลือกรับป้ายหมายเลขที่มีสี 3 สีแบ่งตามประเภทของผู้เข้าคัดเลือกกลุ่มสีแดงซึ่งเป็นกลุ่มของนักแสดงจะรับการคัดเลือกเป็นกลุ่มสุดท้ายนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มิชิโยะค่อนข้างจะไม่พอใจเพราะนั่นหมายความว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่จนมืด และนั่นทำให้วันหยุดที่แสนจะมีค่าต้องหมดไปอีกหนึ่งวันโดยที่เธอไม่เต็มใจซักนิด ระหว่างนั้นจึงคิดได้ว่าการเดินเล่นภายในดูจะเป็นการฆ่าเวลาที่ดีที่สุด เมื่อตัดสินใจได้จึงลุกเดินออกจากห้องโดยไม่แม้จะหันไปสนใจกับผู้จัดการส่วนตัวซักนิดเนื่องจากยังเคืองที่โดนแอบเอาขนมไปทิ้ง 

                จะเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันคัดเลือกดาราหน้าใหม่รึเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้ภายในตึกเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูแล้วรัศมีดาราจับเต็มไปหมดเด็กสาวในคราบเด็กหนุ่มก็ได้แต่ชะเง้อมองดูคนโน้นทีคนนี้ทีระหว่างเดินไปมาจนกระทั่งเห็นทำเลเหมาะๆจึงนั่งแปะลงไปที่โซฟาตัวหนึ่งซึ่งถูกจัดเตรียมเอาไว้ที่บริเวณนั้น พลางมองดูคนโน้นทีคนนี้ทีแล้วก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปพลางๆ เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่คนที่อยู่นิ่งนานๆไม่ได้ก็เริ่มออกอาการตาปรือ และตัดสินใจนอนแปะมันตรงนั้นไม่สนใจต่อสายตานับสิบคู่ที่อยู่บริเวณนั้นแต่อย่างใด

     

                อากิระ......เฮ้!อากิระคุง ตื่นได้แล้ว ฮิมุโระที่เดินตามหาอยู่เมื่อเห็นคนที่ตนกำลังมองหานอนอยู่บนโซฟาท่าทางสบายอารมณ์ เมื่อโดนปลุกทั้งที่ยังไม่อยากตื่นพอลืมตาขึ้นมาหน่อยก็ทำท่าจะล้มลงไปนอนต่อเหมือนเด็กๆ ไม่ได้นะ! ห้ามนอนต่อ เราต้องรีบไปเตรียมตัว แล้วนายก็ยังไม่ได้ไปบอกกรรมการเลยนะว่าจะแสดงความสามารถอะไร เมื่อเริ่มตั้งสติได้ว่าตนมาทำอะไรที่นี่ก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วสะบัดหัวไล่ความง่วง อืม....งึม....งึม.....เอาเป็นตีกลองแล้วกัน พูดขึ้นโดยที่ตายังปรือๆไม่ลืมเต็มที่ แล้วก็อยู่อย่างนั้นอีกครู่หนึ่ง ฮิมุโระได้แต่มองอย่าง งงๆ ตีกลอง? เราสมัครในหัวข้อนักแสดงนะ ไม่ใช่นักดนตรี โอ้ยๆ! อยากจะบ้าตายกับนายจริงๆ ถึงแม้ว่าปากจะบ่นไปแต่ก็รีบวิ่งไปจัดเตรียมหาอุปกรณ์และแจ้งหัวข้อให้กับกรรมการ

                การคัดเลือกเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยดี แม้ว่าการมาแสดงการตีกลองชุดให้ดูในการคัดเลือกสำหรับนักแสดงจะเป็นที่น่าประหลาดใจไปซักหน่อย

                เอ้าหลังการคัดเลือก ฮิมุโระก็ยื่นถุงใบหนึ่งให้

                มิชิโยะมอง งงๆ ฮิมุโระจึงพูดขึ้น ขนมที่นายอยากกินนั่นน่ะ เมื่อได้ยินคำตอบก็รีบคว้าถุงในมือของชายหนุ่มขึ้นมาทันที พร้อมกับยิ้มร่าเหมือนเด็กที่ได้ของถูกใจ ขอบคุณนะ

     

                เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงเวลา 6 โมงเย็นกว่าเข้าไปแล้วมิชิโยะขอลงจากรถก่อนที่จะไปถึงหน้าสถานีรถไฟโดยบอกว่ามีของที่ต้องการจะไปซื้อก่อนกลับ และแน่นอนว่าไม่ต้องการให้ชายหนุ่มตามไปด้วย แค่นี้เอง....กลับได้....ขอบคุณที่มาส่ง สิ้นคำพูดเจ้าตัวก็รีบวิ่งออกไปทันที

     

                ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้วขณะที่เด็กสาวที่ยังคงแต่งชุดที่ทำให้มองดูเหมือนเด็กผู้ชายกำลังเดินเล่นไปตามท้องถนนเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่บริเวณริมฟุตบาทแล้วนั่งลง สายตาจับจ้องมองผู้คนที่บางกำลังรีบร้อนกลับบ้าน บ้างก็เดินจับกลุ่มพูดคุยกันเสียงดังโดยไม่สนใจใคร มิชิโยะนั่งมองสิ่งต่างๆอย่างเหม่อลอยโดยไม่แคร์สายตาผู้คนที่มีบ้างทีจะหันมามองเธออย่างสงสัยเป็นครั้งคราว มีบ้างที่มีคนเข้ามาทักทายเธอด้วยความอยากรู้จักและสงสัยในตัวของเธอ แต่มิชิโยะก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมากนัก สายตายังคงเหม่อลอย จนคนพวกนั้นเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายแล้วเดินจากไป เธอนั่งเหม่อเช่นนั้นจนกระทั่งเวลาล่วงไปเกือบ 2 ชั่วโมง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้เธอหลุดจากภวังค์ เมื่อหยิบโทรศัพท์ชึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของริโอะนั่นเอง

                “Moshi…Moshi…” มิชิโยะกรอกเสียงไปตามสาย

                (มิชิโยะจังอยู่ไหนอ่ะ หอจะปิดแล้วนะ)
               
    อ่า....โทษทีจ้ะพอดีว่าเจอเพื่อนที่มาเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะเลยเพลินไปหน่อย ฝากบอกอิซูมิจังว่าฝากเช็คชื่อให้หน่อยนะ เด็กสาวตัดสินใจที่จะพูดโกหกออกไป.........ตอนนี้เธอยังไม่อยากกลับ……….

                หลังจาพูดคุยกันไปได้อีกซักพัก ก็วางสายไป มิชิโยะลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นที่เกาะกางเกงออกแล้วเดินไปเรื่อยๆโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะไปที่ไหน เพียงแต่รู้สึกเบื่อ....เบื่อมากๆ.....

                เธอเดินไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว แต่ดูจากร้านค้าโดยรอบแล้วขาดว่าคงจะเป็นพวกผับ และสถานเริงรมณ์ล่ะมั้ง เมื่อคิดได้ว่าแถวนี้เป็นสถานที่อย่างไรก็เตรียมที่จะวกกลับไปทางเดิมเพื่อออกไปจากบริเวณนี้ทันที เธอไม่ค่อยชอบที่จะมาที่แบบนี้คนเดียวซักเท่าไหร่ แต่ไม่ทันที่จะกลับหลังหันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับคนกลุ่มหนึ่ง ชายที่ดูจะอายุซัก20ปี 3คน และผู้หญิงรุ่นเดียวกันที่ดูจะเมาแทบไม่ได้สติอีก 1คน ทางผู้หญิงคนนั้นถึงแม้ว่าจะเมาแต่ท่าทางขัดขืนก็ยังมีอยู่บางแม้จะดูไร้เรี่ยวแรงก็ตามทีโดยที่ผู้คนผ่านไปมาไม่สนใจใดๆ มิชิโยะยืนมองดูด้วยความไม่สบอารมณ์ จนกระทั่งชายกลุ่มนั้นพาร่างของหญิงสาวคนนั้นหายเข้าไปในตรอกที่อยู่ใกล้ๆ มิชิโยะเหยียดยิ้ม.......ขนาดจะลวนลามเขายังไม่ลงทุนเลยนะเจ้าพวกนั้น......

                เสียงดังเบาๆจากในตรอกนั้นไม่ได้ดังออกไปทางด้านนอกทำให้ไม่มีใครรู้ว่าภายในตรอกนั้นกำลังเกิดอะไรขึ้น

                ปล่อยช้านนนน หญิงสาวร้องบอกด้วยเสียงยานคงอย่างคนเมา พร้อมพยายามปัดมือของพวกผู้ชายที่กำลังจะทำมิดีมิร้านเธอ แต่มีรึที่ชายหนุ่มเหล่านนั้นจะเชื่อ การต่อสู้ดิ้นรนกลับเป็นการช่วยกระตุ้นอารมณ์หื่นกระหายเสียด้วยซ้ำ

                หญิงสาวเองก็พยายามขัดขืนเต็มที่แต่ไหนเลยเรี่ยวแรงของหญิงสาวที่กำลังเมาจะสู้กำลังของผู้ชายถึง 3 คนได้ วันนี้เธอแค่ตั้งใจจะมากินเหล้าระบายอารมณ์ที่เพิ่งเลิกกับแฟนมาเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลายมาเป็นแบบนี้

                พี่สาว อยากได้คนช่วยมั๊ย? เสียงที่ดังมาจากทางเข้าตรอกเรียกความสนใจกับผู้ที่อยู่ข้างในให้หันมามอง แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ชายหนุ่มทั้งสามก็หัวเราะออกมา เพราะตรงหน้าที่พวกเขาเห็นเป็นเพียงเด็กหนุ่มตัวเล็กๆร่างบางที่ดูไร้พิษสง หญิงสาวเองเมื่อเห็นร่างนั้นก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจเช่นกัน....เธอคงไม่รอด......

                อ้าวถามแล้วไม่ยักก่ะตอบ หรือว่าพี่สาวสมยอมมาเองแล้วผมแส่ไม่เข้าเรื่องเนี่ย? มิชิโยะพูดด้วยน้ำเสียงเซงๆ ผู้ที่โดนเรียกว่าพี่สาวรีบส่ายหน้าไปมาเพราะขณะนี้ปากถูกปิดเอาไว้ มิชิโยะจึงเหยียดยิ้ม เอ้าๆ...พี่ชายผู้หญิงเขาปฏิเสธแล้วแน่ะยังไม่ปล่อยอีก แบบนี้จะโดนเกลียดเอานะ

                ชิ!..แส่ไม่เข้าเรื่องหนึ่งในชายสามคนสบทออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมทั้งพุ่งหมัดตรงไปที่ร่างของมิชิโยะ กำปั้นพุ่งไปโดนบริเวณท้องสร้างความจุกจนทำให้เด็กสาวถึงกับทรุดลงไปกองกันพื้น เพื่อนอีกสองคนของชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ ในขณะที่หญิงสาวที่อยู่ในวงแขนของหนึ่งในสองคนนั้นกรีดร้องออกมา เสียงเชียร์ให้เพื่อนซ้อมเด็กหนุ่มที่เข้ามาแส่ดังมาเป็นระรอก จนเงียบไป ชายหนุ่มที่ลงมือถึงกับเหงื่อออกกับการซ้อมเป้านิ่ง แต่ก็ยังไม่ลืมภารกิจเดิมที่ตั้งใจไว้.....รุมโทรมหญิงสาวที่พวกตนพามาได้......หมดตัวเกะกะแล้วมาสนุกกับพวกเราต่อดีกว่าน่า หญิงสาวพยายามขัดขืนอย่างที่สุด ทันทีที่ริมฝีปากโดนประกบเธอกัดลิ้นของอีกฝ่ายอย่างแรงจนชายหนุ่มสะบัดหน้าหนีและต่อยไปที่ท้องน้อยของหญิงสาวทันทีจนเธอหมดสติไป

                เฮ้ย! เบามือหน่อยเดี๋ยวเสียของหมด ชายที่จับหญิงสาวเอาไว้พูดขึ้น

                ก็นังนี่มันกัดข้านี่หว่า เฮ้ย! แกไปลากไอ้เด็กนั่นเข้ามาก่อนไปตรงนั้นมันสะดุดตาเกิดใครแม่ง แจ้งตำรวจมาแล้วจะเป็นเรื่องน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก

                ไรว่ะ แทนที่เมื่อกี้แก่จะลากมันเข้ามาด้วยเจือกมาใช้กรูซะงั้นแม้จะบ่นแต่ก็เดินไปทำตาม พอลากมิชิโยะเข้ามาตรงบริเวรที่พอมีแสงสลัวก็ทำให้เห็นหน้าเธอชัดขึ้นจนคนที่ลากเธอเข้ามาร้องอย่างตกใจ เฮ้ย! ไอ้เด็กนี่หน้าตาหวานอย่างกับผู้หญิงเลยว่ะ เรียกความสนใจให้กับเพื่อนอีกสองคนให้ต้องเข้ามายืนดูชัดๆอีกครั้ง

                เออ จริงด้วย เมื่อกี้ไม่ทันมอง อย่างงี้ลากไปรวมกันเลยดีกว่าว่ะ คนที่ซ้อมมิชิโยะพูดขึ้น

                เอาจริงอ่ะ ไงๆก็ผู้ชายนะโว้ย เพื่อนอีกคนพูดขึ้น

                แต่หน้าสวยแบบนี้ก็น่าลองนะโว้ย หรือว่าเอ็งไม่เอา? คนชวนพูดเสียงกวนๆพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ เพื่อนทั้งสองคนเลยหันมามองเหมือนจะบอกว่า........ไม่เอาก็โง่แล้ว...........

                แต่ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะอุ้มเด็กสาวไปไว้รวมกับหญิงสาวอีกคน กลับทรุดลงไปด้วยความจุก

                โทษทีฉันไม่มีรสนิยมแบบนั้น คนที่คิดว่าสลบไปแล้วกลับลุกขึ้นมาได้อีกครั้งโดยไม่มีทีท่าว่าจะเจ็บกับการโดนซ้อมเลย เอ้า แค่นี้จุกจนร้องไม่ออกเชียว นิ่งเป็นหมาบ้าใบ้เลยวุ้ย! คิก...คิก... ความรู้สึกเสียหน้าอย่างแรงเรียกโทสะให้กับชายหนุ่มทั้งสาม แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อกี้ที่เธอกลัวว่าคนทั้งสามจะทำร้ายพี่สาวคนนั้นจึงยอมให้โดนซ้อมแล้วแกล้งทำเป็นสลบไป

     

                เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที ก็มีร่างคนสองคนเดินออกมาจากตรอกย่านสถานบันเทิง มิชิโยะก้มมองสภาพตัวเองก็ต้องถอนหายใจออกมา ก็มอมแมมขนาดนี้ แถมพี่สาวคนนี้อีกจะกลับหอก็คงทำไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจหาสถานที่ๆพอจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เสียก่อน

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                อืม... .....ที่นี่มันที่ไหน.....หญิงสาวที่อยู่ในสภาพกึ่งเปลือยค่อยๆยังตัวเองขึ้น และทันทีที่เห็นสภาพของตัวเองก็ตกใจจนร้องไม่ออก ร่างกายเปล่าเกือบเปลือยที่มีเพียงแค่ชุดชั้นในตัวจิ๋ว สอง ชิ้นปกปิกเท่านั้นที่อยู่บนร่างกายของตน .....ว้ายๆๆๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย..... ขณะที่กำลังคิดอยู่หลายตลบ ก็เริ่มที่จะจำบางอย่างได้ เมื่อคืนนี้เราไปดื่ม แล้วก็เมาจากนั้น.... พอคิดมาถึงตรงนี้ได้ก็เริ่มหน้าซีด ให้ตายเถอะไม่น่าเลยชั้น

                    แกร๊ก.....

                    อ้าว...พี่สาวตื่นแล้วหรอ? ใบหน้าที่ไม่คุ้นตาแต่เหมือนจะคุ้นกับน้ำเสียงและวิธีการเรียก โผล่ออกมาจากประตูซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำ.....เดี๋ยวนะ! ห้องน้ำ! งั้น......... เป็นไรอ่ะ? หรือว่ายังเจ็บตรงไหน? เด็กหนุ่มแปลกหน้าค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดูเป็นห่วงเป็นใย แต่นั่นก็ยังไม่สามารถคลายความหวาดระแวงออกไปจากความคิดเธอได้ ยิ่งอยู่ในสภาพนี้ด้วย.......ปี๊ป....ปี๊ป....ปี๊ป...... เสียงเล็กแหลมดังขึ้นมาจากหัวเตียง หญิงสาวตกใจรีบคว้า เจ้าสิ่งที่ส่งเสียงร้องมาทันที ว้าย!!!! 9โมงแล้ว.....ตายๆ วันนี้มีนัดทำวิจัยด้วย ถึงแม้จะร้องโวยวาย แต่ก็รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมเป็นพัลวัน  มิชิโยะมองคนตรงหน้าอย่าง งงๆ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ ผู้ที่ถูกเรียกว่าพี่สาวเห็นคนข้างๆยิ้มก็หน้าแดงขึ้นมา.....เด็กคนนี้ หน้าตาน่ารักจัง......ความคิดสะดุดอยู้เพียงเท่านั้น.....กรี๊ด! ไม่ได้ซิมาคิดอะไรตอนนี้เนี่ย.....

                    ไม่คิดจะอาบน้ำหน่อยหรอฮะ มีอ่างอาบน้ำด้วยนะ.....เดี๋ยวผมไปอาบเป็นเพื่อนก็ได้ รอยยิ้มที่ดูก็รู้ว่าเป็นการแกล้งแล้วไหนจะคำพูดที่ดูกวนๆนั่นอีก ......อ้าก!!!! ขอถอนคำพูดและความคิดที่ว่าหมอนี่น่ารัก....ไม่น่ารักซักนิด T^T….. อ๊ะ! จริงซิยังม่ะ..... มิชิโยะยังพูดไม่ทันจบประโยค หญิงสาวตรงหน้าก็รีบชิ่งไปซะก่อนแล้วโดยไม่คิดจะหันกลับมาอีก

                    มิชิโยะ ยืนค้าง และก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ฮ่ะ ฮะ ฮะ ฮะ....โอ้ย ให้ตายเถอะ พี่สาวคนนี้น่ารักเป็นบ้า แต่ว่า...จะรู้สึกตัวมั๊ยนะเนี่ย.....

     

                    เฮ้อ....... เสียงถอนหายใจดังออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันนี้

                    ริคาโกะ ถอนหายใจอีกแล้ว มีอะไรรึเปล่า... ผู้เป็นเพื่อนถามด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ว่าริคาโกะนั้นเพิ่งเลิกกับแฟน และตอนนี้ก็อาจจะยังทำใจไม่ได้

                    คานะ คิดว่า....เอ่อ! แบบว่า สมมุติอ่ะนะ ถ้าเกิดว่าจู่ๆเธอตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้ว....แล้ว.... ริคาโกะทำท่าคิดหนัก แล้ว เกิดพบว่าเรา....ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า....อ่ะ แบบว่า เหลือแต่ชุดชั้นในน่ะ แล้ว....แล้วทีนี้ก็มี....พอมาถึงตรงนี้ก็อดคิดถึงภาพที่เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำไม่ได้

                    เฮ้ๆ ริคาโกะ แล้วไงต่อ? คานะสะกิดเมื่อเห็นเพื่อนนิ่งไปนาน

                    อ่ะ....ขอโทษทีจ้ะ......เอ่อ...แล้วจากนั้นก็มีเด็กผู้ชายเดินออกมาจากห้องน้ำ....เดี๋ยวๆ แต่เด็กคนนั้นใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยนะ เธอจะคิดว่ายังไงอ่ะ แบบว่าเรื่องที่เกิดก่อนหน้านั้น คนพูด ยิ่งพูดก็ยิ่งหน้าแดง เรียกความสงสัยให้กับเพื่อนเป็นอย่างดี

                    ตายแล้ว ว่าแต่เด็กคนนั้น หน้าตาดีมั๊ย?

                    ก็น่ารักดี เมื่อพูดจบ ก็รู้ตัวแล้วว่า พลาดไปซะแล้ว

                    อ๊ะๆๆ อะไรกัน เพิ่งเลิกก่ะแฟนได้ ก็ไปคว้าเด็กที่ไหนมาล่ะจ้ะเนี่ย คานะทำตาเจ้าเล่ห์ เอานิ้วจิ้มแก้มเพื่อนสาวทันที

                    ม่ะ ไม่ใช่อย่างงั้นนะ รีบพยายามปฏิเสธอย่างลนๆ ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่

                    ขณะที่คนทั้งสองกำลังคุยกันอยุ่ประตูห้องก็ถูกเปิดออก และมีคนเดินเข้ามา 3 คน สองในสามนั้นพวกเธอคุ้นหน้าเนื่องจากเป็นเพื่อนที่อยู่คณะเดียวกัน  อยู่นี่ไง เฮ้! ซาโนะซัง มีคนมาหาแน่ะ

                    อีกคนที่เดินตามมานั้นแทรกคนทั้งสองเข้ามาในห้อง และทันทีที่เจอคนที่ตนต้องการก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดก็เจอจนได้ พี่สาว

                     ปรากฏเด็กหนุ่มผมที่ยาวนั้นถูกรวบเอาไว้อย่างหลวม ชุดที่สวมอยู่นั้น ริคาโกะยังจำได้มันเป็นชุดที่เธอเห็นเด็กคนนี้สวมอยู่เมื่อเช้า ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่บ่งบอกว่าเป็นคนอารมณ์ดีและขี้เล่นนั้นหันมาทางเธอ

                    นี่ฮะ พี่สาวทำหล่นเอาไว้บนเตียง วันนี้ผมว่างก็เลยเอามาคืนให้ คำพูดที่เรียกฟ้าผ่าลงมานั้น เรียกความตกตะลึงให้กับคนในห้องทันที

                    กรี๊ดๆๆ นี่เด็กที่ว่าเปล่าเนี่ย น่ารักมากเลยแก คานะอดไม่ได้ รีบกระซิบ? ถามริคาโกะทันที โดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนเธอนั้นช็อกไปแล้ว

                    เนี่ย! แล้วพี่สาวรีบออกมา ผมเลยไม่ได้บอกเลย มิชิโยะที่ยังคงอยู่ในคราบของเด็กหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ผู้ที่เธอเรียกว่าพี่สาวแล้วยื่นจมูกของตนเองไปสัมพัสกับแก้มชมพูของหญิงสาวทันทีโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว  อรุณสวัสดิ์ ครับ.....พี่สาว เมื่อคืนหลับสบายมั๊ย

                    คานะแทบไม่อยากเชื่อว่า จะเป็นเด็กคนนี้จริงๆที่เพื่อนเธอ งาบ??? ไป

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×