คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : อรุณสวัสดิ์ครับ...พี่สาว
ตอนที่ 8 อรุณสวัสดิ์ครับ...พี่สาว
“มิชิโยะจางงงงงงงงงงงงงง” เสียงของเมอิดังมาแต่ไกล ก่อนที่จะเห็นตัวเจ้าของเสียงซะอีก “ดูนี่ๆๆ” พยายามยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้กับเด็กสาว มิชิโยะเห็นแบบนั้นจึงหยิบมาดูหน้าที่เมอิกางมาให้ ตรงหน้าเป็นรูปของชายคนหนึ่งที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าอยู่ไม่น้อย มิชิโยะคิดว่าน่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออก....เคยเห็นที่ไหนหว่า.?..... “ใครอ่ะ? เมอิจัง” ในเมื่อนึกไม่ออกจึงตัดสินใจถามเจ้าของหนังสือ “คาซึกิ นักแสดงขวัญใจยัยเมอิเขาล่ะ” คนที่ตอบเป็นริโอะ สาวห้าวประจำกลุ่ม เมื่อได้ฟังคำตอบก็ทำท่าคิดอีกครั้งแต่ก็แค่รู้สึกคุ้นๆเท่านั้นเลยปล่อยให้ผ่านๆไป “คุ้นๆ แต่ไม่รู้จักอ่ะ แหะๆ” เมอิทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยก่อนจะยิ่งเอาหน้าเข้ามาชินจนคนโดนจู่โจมแทบจะตกเก้าอี้ “คาซึกิคุง ไง ทั้งหล่อ เท่ เป็นสุภาพบุรุษ ชาติตระกูลก็ดี หนุ่มเพอร์เฟคที่สาวๆ โหวตให้เป็นหนุ่มที่น่าควงมาเป็นแฟนอันดับหนึ่งเชียวนะ” “อ่ะ จ้าๆ เพียงแต่ว่าเราไม่ค่อยสนใจดาราน่ะ ขนาดดารานักร้องประเทศตัวเองยังไม่ค่อยรู้จักเลย แหะๆ” มิชิโยะพูดพลางเอามือม้วนผมเล่น
“ไง! 4 สาว มาจับกลุ่มนินทาใครอยู่ป่าวเนี่ย” เสียงทะเล้นที่ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคงไม่พ้นริว หนุ่มเนื้อหอมอารมณ์ดี และตามมาด้วยเพื่อนร่วมก๊วนที่นิสัยแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อ มิชิโยะหันไปมองแล้วยิ้มให้เป็นเชิงทักทาย “กำลังพูดถึงหนุ่มหน้าตาดีอยู่” เมื่อได้ยินดังนั้นริวก็ทำท่ายืดอกอย่างภาคภูมิ แต่ก็ต้องห่อเหี่ยวลงเมื่อได้ยินประโยคถัดมา “แต่ไม่ใช่นายนะ” สี่สาวหัวเราะคิกชอบใจเมื่อเห็นท่าทางของริว “นี่ไงคะ” เมอิรีบชูนิตยสารให้กลุ่มผู้มาใหม่ดู “คาซึกิคุง ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมเลยล่ะ” ทั้งสามหนุ่มดูรูปจากนิตยสาร “ไรเนี่ย? ชั้นหล่อกว่าตั้งเยอะ เนอะๆๆ.....ดูดิ หน้างี้ขาวจั๊วะ แล้วดูที่ให้สัมภาษณ์ดิ ‘ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องผู้หญิงครับ แต่ถ้าเจอคนที่ถูกใจก็คงแค่ขอคบดูใจกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้อยากทุ่มเทให้กับงานมากกว่าเรื่องอื่น’ ตอบแบบนี้สงสัยจะสนใจผู้ชายด้วยกันมากกว่าอ่ะดิ โถ่เอ๊ย! ทำมาเป็นพูด...ว่ะ...ว่า...ว่า....หง่า........” ริวรีบ stop คำพูดของตัวเองไม่ให้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อหันไปเห็นว่าหญิงสาวเจ้าชองหนังสือเตรียมที่จะยกเก้าอี้ขึ้นมาทุ่มคนปากมอม พร้อมพูดเสียงเย็น “รุ่นพี่คะ ถ้าพูดอะไรมากไปกว่านี้ระวังจะโดนลงโทษนะคะ” (^^+)
..................น่ากลัวแฮะ....................นี่เป็นสิ่งที่บุคคลคนทั้ง 5 คิด พร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันเสาร์ 13.30 น.
“วันนี้ก็จะออกไปข้างนอกอีกหรอ?” อิซูมิถามเมื่อเห็นว่ารูมเมทของตนแต่งตัวเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกในช่วงบ่ายของวันเสาร์ พร้อมสะพายเป้คู่กาย
“จ้ะ ถ้าพวกเมอิจังมาถามหาก็ฝากบอกด้วยนะอิซูมิจัง ขอบใจล่วงหน้าจ้า” เด็กสาวพูดจบก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าสงสัยของอีกฝ่าย
มิชิโยะเดินไปยังสวนสาธารณะซึ่งเป็นจุดนัดพบกับชินาโนะ ด้วยไม่อยากให้ใครพากันสงสัยว่าทำไมชายหนุ่มถึงมาที่นี่ทุกอาทิตย์ อีกทั้งคู่นัดยังเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายอีกด้วย และเช่นเคยทันทีที่เข้าไปในรถแล้วเด็กสาวก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที แต่ครั้งนี้ชินาโนะเป็นคนจัดหาเสื้อผ้ามาให้
ครั้งนี้ชินาโนะก็ยังพาเด็กสาวไปที่บริษัทเดิม แต่ไม่ได้เข้าไปที่ห้องของประธานบริษัทเหมือนอย่างเคย เขากลับพาเธอไปยังห้องๆหนึ่งที่มีเพียงชุดรับแขก 1 ชุด ตั้งอยู่ภายในห้องเท่านั้น ทันทีที่เด็กสาวเดินเข้าไปภายในห้องก็เห็นมีชายหนุ่มที่ดูแล้วอายุน่าจะไม่เกิน30 นั่งรออยู่ก่อนแล้ว “อากิระ นี่คุณฮิมุโระ นับแต่วันนี้เขาจะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ” ชินาโนะพูดแนะนำ เด็กสาวหันไปมองฮิมุระ สลับกับชินาโนะ มองตาปริบๆ ในมือก็ถือลูกอมที่มีด้ามเสียบเอาไว้ “ชินจังไม่ใช่ผู้จัดการของชั้นหรอกหรอ?” ฮิมุโระแนะนำตัวเองอีกครั้ง “อาโอยามะ ฮิมุโระ จะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอนับแต่วันนี้ไป” มิชิโยะจึงยื่นมือไปจับมือของอีกฝ่าย “อากิระครับ ฝากตัวด้วย” น้ำเสียงยังคงวางตัว
“อะไรกันที่กับฮิมุโระล่ะก็พูดซะเพราะ ที่ฉันนายยังไม่เคยเลย” ชินาโนะพูดน้ำเสียงงอนๆ แต่ดูไม่ได้จริงจังอะไร มิชิโยะยิ้มให้กับชินาโนะ “ก็ฮิมุโระซัง ดูน่าเชื่อถือแล้วก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าชินจังตั้งเยอะ ((แต่ในอนาคตอันใกล้ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ - -“))” เมื่อได้ฟังฮิมุโระก็ต้องรีบแสร้งหันหน้าไปทางอีกปิดปากหัวเราะ ในขณะที่ชินาโนะอยากจะคว้าเจ้าเด็กปากเสียมาเขกกะโหลกซักทีแต่ก็ติดที่ว่าต้องรีบไป “ให้ตายซินายนี่มัน...... ช่างเถอะเดี๋ยวชั้นต้องไปก่อนล่ะ เรื่องเจ้าเด็กปากมอมนี่ก็คงต้องฝากนายแล้วนะ ก็อย่างที่เห็นเนี่ยล่ะปากมันเสียไงก็ทนๆหน่อยแล้วกัน บายทั้งสองคน” มิชิโยะโบกมือบ๋ายบายในขณะที่ฮิมุโระโค้งให้
ฮิมุโระมองหน้าผู้ที่ตนคิดว่าเป็นเด็กหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าออกจะหน้าหวานเกินผู้ชายไปเสียหน่อยแต่ก็คิดว่ายังมองเห็นเค้าโครงของความเป็นเด็กผู้ชายอยู่บ้าง แม้นจะเพียงน้อยนิด ก็ไม่ว่าท่าทางการเดิน การนั่ง ก็ออกจะเป็นผู้ชาย (มันน่าภูมิใจแทนนางเอกมั๊ยเนี่ยะ - -“) มิชิโยะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องตนเองอยู่ก็อดที่จะถามไม่ได้ “ผมมีอะไรประหลาดนักหรอ? ถึงได้มองอยู่ได้” ฮิมุโระตกใจเล็กน้อยเมื่อโดนถาม “ป่ะ..เปล่าๆ แค่คิดว่านายนี่หน้าหวานมากแค่นั้นเอง” มิชิโยะขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไหร่แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย ฮิมุโระจึงบอกตารางงานให้กับเด็กสาว ทั้งคู่จึงเดินออกจากห้องไป
การเทสหน้ากล้องเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้นมิชิโยะได้รับบท ‘โซมุ’ ซึ่งตามบทเป็นน้องชายของพระเอก แต่การถ่ายทำจริงจะเริ่มขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้า ส่วนงานในวันนี้เธอจะต้องไปเป็นตัวประกอบในงานโฆษณาชิ้นหนึ่ง และไปเข้าการคัดเลือกในงานดาราหน้าใหม่
งานตัวประกอบโฆษณาเป็นไปได้ด้วยดีเพราะเป็นเพียงแค่บทคนเดินผ่านที่มีบทพูดเพียงประโยคเดียว แต่ปัญหากลับเกิดกับงานที่ 2
“ความสามารถพิเศษ?” มิชิโยะพูดด้วยความสงสัยที่จู่ๆผู้จัดการส่วนตัวของเธอก็ถามขึ้นมา “ไม่มีหรอกของแบบนั้น” มิชิโยะเอ่ยขึ้นมาทำท่าทางไม่สนใจ และไม่คิดที่จะหาความสามารถพิเศษที่ว่าอีกด้วย
“แล้วความสามารถทางการแสดงล่ะ? เห็นชินาโนะซังบอกนี่ว่าอากิระคุงได้รับบทในละครที่คาซึกิคุงแสดง?” ฮิมุโระถามด้วยความสงสัย
“อันนั้นน่ะมันฟลุ้ค” ฮิมุโระมองอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็ต้องถอนหายใจ การคัดเลือกดาราหน้าใหม่ครั้งนี้จำเป็นที่จะต้องหาความสามารถพิเศษมาซักอย่างไม่งั้นมีหวังได้ตกตั้งแต่รอบแรกแน่นอน เห็นว่าได้รับบทในละครเรื่องหนึ่งก็นึกว่าจะมีความสามารถในเรื่องนี้แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าฟลุ้ค แล้วแบบนี้จะไปหาอะไรมาล่ะเนี่ย มิชิโยะมองชายหนุ่มอย่างไม่ทุกข์ร้อนซึ่งตรงกันข้ามกันคนข้างๆที่กลุ้มแทนในมือก็ถือถุงมันฝรั่งทอดหยิบมากิน จนคนกลุ้มเริ่มทนไม่ไหว “นี่เธอมีกะจิตกะใจจะเข้าคัดเลือกมั่งมั๊ยเนี่ย ดูจะไม่ค่อยทุกข์ร้อนอะไรเท่าไหร่เลยนะ?” น้ำเสียงออกจะแดกดันเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกรู้สาอะไรเท่าไหร่ ในมือก็ควานหามันฝรั่งชิ้นต่อไปซึ่งดูท่าว่าจะไม่เหลือเลยซักชิ้น มิชิโยะจึงยื่นถุงมันฝรั่งทอดซึ่งบัดนี้ว่างเปล่าให้กับชายหนุ่มผู้เป็นผู้จัดการ ฮิมุโระทำหน้าสงสัยครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจความหมายแล้วจึงหยิบถุงเปล่านั่นเดินไปทิ้งด้วยความรู้สึกละอาและไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่ เด็กสาวเห็นท่าทางแบบนั้นก็รู้สึกอยากแกล้งขึ้นมา “ฮิมุโระซังนี่ซีเรียสน่าดูเลยนะ” ใบหน้ายิ้มแย้มตามแบบฉบับปรากฏออกมาจากดวงหน้างามนั่น ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฮิมุโระเกิดรู้สึกยะเยือกออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ “ก็รู้หรอกนะว่าเป็นคนจริงจังน่ะ ไม่รู้ชินจังนึกยังไงถึงให้คุณมาเป็นผู้จัดการของผมเนี่ย” ฮิมุโระสะอึกกับคำพูดประโยคนั้นเล็กน้อย มันเหมือนกับว่าเด็กหนุ่มตรงน้านี้กำลังว่าเขากลายๆยังไงก็ไม่รู้ คงจะคิดมากไป?
สถานที่จัดคัดเลือกดาราหน้าใหม่
เมื่อมิชิโยะและฮิมุโระมาถึงสถานที่คัดเลือก ซึ่งเป็นห้องทีถูกจัดเตรียมเอาไว้ทั้งสิ้น 3 ห้องด้วยกัน 2 ห้องเอาไว้สำหรับให้ผู้ที่มาเข้าการคัดเลือก สำหรับผู้ชาย 1 ห้อง และผู้หญิง 1 ห้อง อีกห้องเอาไว้สำหรับการคัดเลือก ซึ่งภายในห้องจะมีเวทีขนาดกลางอยู่สำหรับผู้มาคัดเลือก โดยจะแบ่งกลุ่มคัดเลือกออกเป็น 3 กลุ่ม มี กลุ่มผู้มาคัดเลือกเป็นนักร้อง ผู้มาคัดเลือกเป็นนักแสดง และผู้เข้าคัดเลือกสำหรับนายแบบและนางแบบ
ภายในห้องเตรียมตัวดูจะวุ่นวายอย่างไม่รู้จบ เมื่อมิชิโยะเดินเข้าไปในห้องทุกสายตาก็หันมาจับจ้องด้วยความสงสัย “นี่เธอนี่ห้องสำหรับผู้ชายของผู้หญิงอยู่ถัดไปอีกห้องหนึ่ง” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินตรงมาทางเธอ มิชิโยะทำเป็นไม่สนใจกบคำบอกเล่านั้น และเดินไปยังมุมห้อง เหล่าผู้เข้าคัดเลือกเริ่มโกลาหนรีบหาผ้ามาปิดตัวเองไว้บ้างก็ส่งเสียงแซวถึงความอาจหาญ จนฮิมุโระต้องรีบยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่คนนั้น เมื่อได้อ่านใบสมัครเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้างง แล้วรีบกล่าวขอโทษทันที สายตาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเด็กหนุ่มตรงหน้า “อ่ะ! ขอโทษด้วยครับ ผู้เข้าสมัครคัดเลือกเป็นนักแสดงฝ่ายชายซินะครับ” คำบอกนั้นยิ่งทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่เธอ เจ้าตัวกลับไม่พูดอะไรพลางรื้อข้าวของที่แบกมาแล้วก็ต้องขมวดคิ้วแล้วหันไปทางผู้จัดการส่วนตัว “นายเอาช็อกโกแลตชั้นไปหรอฮิมุโระ” คำเรียกชื่อห้วนๆนั้นบ่งบอกว่าอารมณ์เริ่มขุ่น ฮิมุโระเองก็ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นักที่คนที่เด็กกว่าตนมาเรียกด้วยน้ำเสียงแบบนี้จึงตอบไปตามความจริง ทั้งที่ตอนแรกก่ะจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ใช่”
“เอาคืนมา” น้ำเสียงยิ่งไม่พอใจหนักเข้าไปอีก
“ทิ้งไปแล้ว” ขณะพูดสายตาก็ยังคงจ้องคู่สนทนาเขม็ง
คำตอบที่ได้รับสร้างความตะลึงให้กับคนเป็นเจ้าของขนมหวานชิ้นนั้น “ก่ะ....แก......ตายซะเถอะ!!!!!!!” โดยไม่ทันตั้งตัวกำปั้นเล็กๆจากมือที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะมีแรกเท่าไหร่ก็ถูกปล่อยออกมาเป้าหมายตรงไปยังใบหน้าฝ่ายตรงข้ามทันที
“โอ๊ย!” คนตัวโตกว่าถึงกับร้องเสียงหลง ล้มลงไปกองกับพื้น
คราวนี้ความโกลาหนของจริงก็เกิดขึ้นเมื่อ หนุ่มหน้าหวานเกิดฟิวส์ขาดสาเหตุมาจากขนมเพียงชิ้นเดียว แต่เป็นชิ้นเดียวที่แสนจะมีค่าสำหรับเจ้าตัว “เจ้าบ้า! งี่เง่า! นายมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับของๆฉันไม่ทราบ ไอ้ช็อคโกแล็คชิ้นนั้นชั้นอยากกินมาตั้งนานแล้วนะเฟ้ย! นาย.....นาย....” มิชิโยะได้แต่หัวเสียตะโกนด่าคนที่ทิ้งของกินชิ้นโปรดไป คนที่ล้มลงไปกองไม่อาจทำอะไรได้อีกด้วยไม่คิดว่าจะโกรธถึงขนาดนี้ มิชิโยะเห็นว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้จัดการเงียบไปจึงได้แต่ทำหน้าไม่พอใจก่อนจะเดินกลับไปที่กระเป๋าตัวเองอีกครั้ง คราวนี้หยิบเครื่องเล่น mp3 ขึ้นมาแทนแล้วจึงจัดการยัดหูฟังเข้าหูแล้วฟังเพลงระงับสติอารมณ์ที่กำลังกรุ่นอยู่โดยคราวนี้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปยุ่งกับเธออีกจะมีบ้างก็เพียงแค่ชำเลืองมองเมื่อเธอเปลี่ยนอิริยาบถด้วยกลัวว่าเธอจะเกิดอาละวาดขึ้นมาอีกครั้ง
เวลาผ่านไปครู่หนึ่งก็มีคนดูแลเข้ามาภายในห้องแล้วเรียกให้กลุ่มผู้เข้าคัดเลือกรับป้ายหมายเลขที่มีสี 3 สีแบ่งตามประเภทของผู้เข้าคัดเลือกกลุ่มสีแดงซึ่งเป็นกลุ่มของนักแสดงจะรับการคัดเลือกเป็นกลุ่มสุดท้ายนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มิชิโยะค่อนข้างจะไม่พอใจเพราะนั่นหมายความว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่จนมืด และนั่นทำให้วันหยุดที่แสนจะมีค่าต้องหมดไปอีกหนึ่งวันโดยที่เธอไม่เต็มใจซักนิด ระหว่างนั้นจึงคิดได้ว่าการเดินเล่นภายในดูจะเป็นการฆ่าเวลาที่ดีที่สุด เมื่อตัดสินใจได้จึงลุกเดินออกจากห้องโดยไม่แม้จะหันไปสนใจกับผู้จัดการส่วนตัวซักนิดเนื่องจากยังเคืองที่โดนแอบเอาขนมไปทิ้ง
จะเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันคัดเลือกดาราหน้าใหม่รึเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ตอนนี้ภายในตึกเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูแล้วรัศมีดาราจับเต็มไปหมดเด็กสาวในคราบเด็กหนุ่มก็ได้แต่ชะเง้อมองดูคนโน้นทีคนนี้ทีระหว่างเดินไปมาจนกระทั่งเห็นทำเลเหมาะๆจึงนั่งแปะลงไปที่โซฟาตัวหนึ่งซึ่งถูกจัดเตรียมเอาไว้ที่บริเวณนั้น พลางมองดูคนโน้นทีคนนี้ทีแล้วก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปพลางๆ เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่คนที่อยู่นิ่งนานๆไม่ได้ก็เริ่มออกอาการตาปรือ และตัดสินใจนอนแปะมันตรงนั้นไม่สนใจต่อสายตานับสิบคู่ที่อยู่บริเวณนั้นแต่อย่างใด
“อากิระ......เฮ้!อากิระคุง ตื่นได้แล้ว” ฮิมุโระที่เดินตามหาอยู่เมื่อเห็นคนที่ตนกำลังมองหานอนอยู่บนโซฟาท่าทางสบายอารมณ์ เมื่อโดนปลุกทั้งที่ยังไม่อยากตื่นพอลืมตาขึ้นมาหน่อยก็ทำท่าจะล้มลงไปนอนต่อเหมือนเด็กๆ “ไม่ได้นะ! ห้ามนอนต่อ เราต้องรีบไปเตรียมตัว แล้วนายก็ยังไม่ได้ไปบอกกรรมการเลยนะว่าจะแสดงความสามารถอะไร” เมื่อเริ่มตั้งสติได้ว่าตนมาทำอะไรที่นี่ก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วสะบัดหัวไล่ความง่วง “อืม....งึม....งึม.....เอาเป็นตีกลองแล้วกัน” พูดขึ้นโดยที่ตายังปรือๆไม่ลืมเต็มที่ แล้วก็อยู่อย่างนั้นอีกครู่หนึ่ง ฮิมุโระได้แต่มองอย่าง งงๆ “ตีกลอง? เราสมัครในหัวข้อนักแสดงนะ ไม่ใช่นักดนตรี โอ้ยๆ! อยากจะบ้าตายกับนายจริงๆ” ถึงแม้ว่าปากจะบ่นไปแต่ก็รีบวิ่งไปจัดเตรียมหาอุปกรณ์และแจ้งหัวข้อให้กับกรรมการ
การคัดเลือกเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยดี แม้ว่าการมาแสดงการตีกลองชุดให้ดูในการคัดเลือกสำหรับนักแสดงจะเป็นที่น่าประหลาดใจไปซักหน่อย
“เอ้า” หลังการคัดเลือก ฮิมุโระก็ยื่นถุงใบหนึ่งให้
มิชิโยะมอง งงๆ ฮิมุโระจึงพูดขึ้น “ขนมที่นายอยากกินนั่นน่ะ” เมื่อได้ยินคำตอบก็รีบคว้าถุงในมือของชายหนุ่มขึ้นมาทันที พร้อมกับยิ้มร่าเหมือนเด็กที่ได้ของถูกใจ “ขอบคุณนะ”
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงเวลา 6 โมงเย็นกว่าเข้าไปแล้วมิชิโยะขอลงจากรถก่อนที่จะไปถึงหน้าสถานีรถไฟโดยบอกว่ามีของที่ต้องการจะไปซื้อก่อนกลับ และแน่นอนว่าไม่ต้องการให้ชายหนุ่มตามไปด้วย “แค่นี้เอง....กลับได้....ขอบคุณที่มาส่ง” สิ้นคำพูดเจ้าตัวก็รีบวิ่งออกไปทันที
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้วขณะที่เด็กสาวที่ยังคงแต่งชุดที่ทำให้มองดูเหมือนเด็กผู้ชายกำลังเดินเล่นไปตามท้องถนนเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่บริเวณริมฟุตบาทแล้วนั่งลง สายตาจับจ้องมองผู้คนที่บางกำลังรีบร้อนกลับบ้าน บ้างก็เดินจับกลุ่มพูดคุยกันเสียงดังโดยไม่สนใจใคร มิชิโยะนั่งมองสิ่งต่างๆอย่างเหม่อลอยโดยไม่แคร์สายตาผู้คนที่มีบ้างทีจะหันมามองเธออย่างสงสัยเป็นครั้งคราว มีบ้างที่มีคนเข้ามาทักทายเธอด้วยความอยากรู้จักและสงสัยในตัวของเธอ แต่มิชิโยะก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมากนัก สายตายังคงเหม่อลอย จนคนพวกนั้นเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายแล้วเดินจากไป เธอนั่งเหม่อเช่นนั้นจนกระทั่งเวลาล่วงไปเกือบ 2 ชั่วโมง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้เธอหลุดจากภวังค์ เมื่อหยิบโทรศัพท์ชึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์ของริโอะนั่นเอง
“Moshi
Moshi
” มิชิโยะกรอกเสียงไปตามสาย
(มิชิโยะจังอยู่ไหนอ่ะ หอจะปิดแล้วนะ)
“อ่า....โทษทีจ้ะพอดีว่าเจอเพื่อนที่มาเที่ยวที่ญี่ปุ่นน่ะเลยเพลินไปหน่อย ฝากบอกอิซูมิจังว่าฝากเช็คชื่อให้หน่อยนะ” เด็กสาวตัดสินใจที่จะพูดโกหกออกไป.........ตอนนี้เธอยังไม่อยากกลับ
.
หลังจาพูดคุยกันไปได้อีกซักพัก ก็วางสายไป มิชิโยะลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นที่เกาะกางเกงออกแล้วเดินไปเรื่อยๆโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะไปที่ไหน เพียงแต่รู้สึกเบื่อ....เบื่อมากๆ.....
เธอเดินไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว แต่ดูจากร้านค้าโดยรอบแล้วขาดว่าคงจะเป็นพวกผับ และสถานเริงรมณ์ล่ะมั้ง เมื่อคิดได้ว่าแถวนี้เป็นสถานที่อย่างไรก็เตรียมที่จะวกกลับไปทางเดิมเพื่อออกไปจากบริเวณนี้ทันที เธอไม่ค่อยชอบที่จะมาที่แบบนี้คนเดียวซักเท่าไหร่ แต่ไม่ทันที่จะกลับหลังหันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับคนกลุ่มหนึ่ง ชายที่ดูจะอายุซัก20ปี 3คน และผู้หญิงรุ่นเดียวกันที่ดูจะเมาแทบไม่ได้สติอีก 1คน ทางผู้หญิงคนนั้นถึงแม้ว่าจะเมาแต่ท่าทางขัดขืนก็ยังมีอยู่บางแม้จะดูไร้เรี่ยวแรงก็ตามทีโดยที่ผู้คนผ่านไปมาไม่สนใจใดๆ มิชิโยะยืนมองดูด้วยความไม่สบอารมณ์ จนกระทั่งชายกลุ่มนั้นพาร่างของหญิงสาวคนนั้นหายเข้าไปในตรอกที่อยู่ใกล้ๆ มิชิโยะเหยียดยิ้ม.......ขนาดจะลวนลามเขายังไม่ลงทุนเลยนะเจ้าพวกนั้น......
เสียงดังเบาๆจากในตรอกนั้นไม่ได้ดังออกไปทางด้านนอกทำให้ไม่มีใครรู้ว่าภายในตรอกนั้นกำลังเกิดอะไรขึ้น
“ปล่อยช้านนนน” หญิงสาวร้องบอกด้วยเสียงยานคงอย่างคนเมา พร้อมพยายามปัดมือของพวกผู้ชายที่กำลังจะทำมิดีมิร้านเธอ แต่มีรึที่ชายหนุ่มเหล่านนั้นจะเชื่อ การต่อสู้ดิ้นรนกลับเป็นการช่วยกระตุ้นอารมณ์หื่นกระหายเสียด้วยซ้ำ
หญิงสาวเองก็พยายามขัดขืนเต็มที่แต่ไหนเลยเรี่ยวแรงของหญิงสาวที่กำลังเมาจะสู้กำลังของผู้ชายถึง 3 คนได้ วันนี้เธอแค่ตั้งใจจะมากินเหล้าระบายอารมณ์ที่เพิ่งเลิกกับแฟนมาเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลายมาเป็นแบบนี้
“พี่สาว อยากได้คนช่วยมั๊ย?” เสียงที่ดังมาจากทางเข้าตรอกเรียกความสนใจกับผู้ที่อยู่ข้างในให้หันมามอง แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ชายหนุ่มทั้งสามก็หัวเราะออกมา เพราะตรงหน้าที่พวกเขาเห็นเป็นเพียงเด็กหนุ่มตัวเล็กๆร่างบางที่ดูไร้พิษสง หญิงสาวเองเมื่อเห็นร่างนั้นก็รู้สึกห่อเหี่ยวใจเช่นกัน....เธอคงไม่รอด......
“อ้าวถามแล้วไม่ยักก่ะตอบ หรือว่าพี่สาวสมยอมมาเองแล้วผมแส่ไม่เข้าเรื่องเนี่ย?” มิชิโยะพูดด้วยน้ำเสียงเซงๆ ผู้ที่โดนเรียกว่าพี่สาวรีบส่ายหน้าไปมาเพราะขณะนี้ปากถูกปิดเอาไว้ มิชิโยะจึงเหยียดยิ้ม “เอ้าๆ...พี่ชายผู้หญิงเขาปฏิเสธแล้วแน่ะยังไม่ปล่อยอีก แบบนี้จะโดนเกลียดเอานะ”
“ชิ!..แส่ไม่เข้าเรื่อง” หนึ่งในชายสามคนสบทออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมทั้งพุ่งหมัดตรงไปที่ร่างของมิชิโยะ กำปั้นพุ่งไปโดนบริเวณท้องสร้างความจุกจนทำให้เด็กสาวถึงกับทรุดลงไปกองกันพื้น เพื่อนอีกสองคนของชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ ในขณะที่หญิงสาวที่อยู่ในวงแขนของหนึ่งในสองคนนั้นกรีดร้องออกมา เสียงเชียร์ให้เพื่อนซ้อมเด็กหนุ่มที่เข้ามาแส่ดังมาเป็นระรอก จนเงียบไป ชายหนุ่มที่ลงมือถึงกับเหงื่อออกกับการซ้อมเป้านิ่ง แต่ก็ยังไม่ลืมภารกิจเดิมที่ตั้งใจไว้.....รุมโทรมหญิงสาวที่พวกตนพามาได้......”หมดตัวเกะกะแล้วมาสนุกกับพวกเราต่อดีกว่าน่า” หญิงสาวพยายามขัดขืนอย่างที่สุด ทันทีที่ริมฝีปากโดนประกบเธอกัดลิ้นของอีกฝ่ายอย่างแรงจนชายหนุ่มสะบัดหน้าหนีและต่อยไปที่ท้องน้อยของหญิงสาวทันทีจนเธอหมดสติไป
“เฮ้ย! เบามือหน่อยเดี๋ยวเสียของหมด” ชายที่จับหญิงสาวเอาไว้พูดขึ้น
“ก็นังนี่มันกัดข้านี่หว่า เฮ้ย! แกไปลากไอ้เด็กนั่นเข้ามาก่อนไปตรงนั้นมันสะดุดตาเกิดใครแม่ง แจ้งตำรวจมาแล้วจะเป็นเรื่อง” น้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก
“ไรว่ะ แทนที่เมื่อกี้แก่จะลากมันเข้ามาด้วยเจือกมาใช้กรูซะงั้น” แม้จะบ่นแต่ก็เดินไปทำตาม พอลากมิชิโยะเข้ามาตรงบริเวรที่พอมีแสงสลัวก็ทำให้เห็นหน้าเธอชัดขึ้นจนคนที่ลากเธอเข้ามาร้องอย่างตกใจ “เฮ้ย! ไอ้เด็กนี่หน้าตาหวานอย่างกับผู้หญิงเลยว่ะ” เรียกความสนใจให้กับเพื่อนอีกสองคนให้ต้องเข้ามายืนดูชัดๆอีกครั้ง
“เออ จริงด้วย เมื่อกี้ไม่ทันมอง อย่างงี้ลากไปรวมกันเลยดีกว่าว่ะ” คนที่ซ้อมมิชิโยะพูดขึ้น
“เอาจริงอ่ะ ไงๆก็ผู้ชายนะโว้ย” เพื่อนอีกคนพูดขึ้น
“แต่หน้าสวยแบบนี้ก็น่าลองนะโว้ย หรือว่าเอ็งไม่เอา?” คนชวนพูดเสียงกวนๆพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ เพื่อนทั้งสองคนเลยหันมามองเหมือนจะบอกว่า........ไม่เอาก็โง่แล้ว...........
แต่ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะอุ้มเด็กสาวไปไว้รวมกับหญิงสาวอีกคน กลับทรุดลงไปด้วยความจุก
“โทษทีฉันไม่มีรสนิยมแบบนั้น” คนที่คิดว่าสลบไปแล้วกลับลุกขึ้นมาได้อีกครั้งโดยไม่มีทีท่าว่าจะเจ็บกับการโดนซ้อมเลย “เอ้า แค่นี้จุกจนร้องไม่ออกเชียว นิ่งเป็นหมาบ้าใบ้เลยวุ้ย! คิก...คิก...” ความรู้สึกเสียหน้าอย่างแรงเรียกโทสะให้กับชายหนุ่มทั้งสาม แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อกี้ที่เธอกลัวว่าคนทั้งสามจะทำร้ายพี่สาวคนนั้นจึงยอมให้โดนซ้อมแล้วแกล้งทำเป็นสลบไป
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที ก็มีร่างคนสองคนเดินออกมาจากตรอกย่านสถานบันเทิง มิชิโยะก้มมองสภาพตัวเองก็ต้องถอนหายใจออกมา ก็มอมแมมขนาดนี้ แถมพี่สาวคนนี้อีกจะกลับหอก็คงทำไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจหาสถานที่ๆพอจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เสียก่อน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อืม...” .....ที่นี่มันที่ไหน.....หญิงสาวที่อยู่ในสภาพกึ่งเปลือยค่อยๆยังตัวเองขึ้น และทันทีที่เห็นสภาพของตัวเองก็ตกใจจนร้องไม่ออก ร่างกายเปล่าเกือบเปลือยที่มีเพียงแค่ชุดชั้นในตัวจิ๋ว สอง ชิ้นปกปิกเท่านั้นที่อยู่บนร่างกายของตน .....ว้ายๆๆๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย..... ขณะที่กำลังคิดอยู่หลายตลบ ก็เริ่มที่จะจำบางอย่างได้ ‘เมื่อคืนนี้เราไปดื่ม แล้วก็เมาจากนั้น....’ พอคิดมาถึงตรงนี้ได้ก็เริ่มหน้าซีด ให้ตายเถอะไม่น่าเลยชั้น
แกร๊ก.....
“อ้าว...พี่สาวตื่นแล้วหรอ?” ใบหน้าที่ไม่คุ้นตาแต่เหมือนจะคุ้นกับน้ำเสียงและวิธีการเรียก โผล่ออกมาจากประตูซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำ.....เดี๋ยวนะ! ห้องน้ำ! งั้น......... “เป็นไรอ่ะ? หรือว่ายังเจ็บตรงไหน?” เด็กหนุ่มแปลกหน้าค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดูเป็นห่วงเป็นใย แต่นั่นก็ยังไม่สามารถคลายความหวาดระแวงออกไปจากความคิดเธอได้ ยิ่งอยู่ในสภาพนี้ด้วย.......ปี๊ป....ปี๊ป....ปี๊ป...... เสียงเล็กแหลมดังขึ้นมาจากหัวเตียง หญิงสาวตกใจรีบคว้า เจ้าสิ่งที่ส่งเสียงร้องมาทันที “ว้าย!!!! 9โมงแล้ว.....ตายๆ วันนี้มีนัดทำวิจัยด้วย” ถึงแม้จะร้องโวยวาย แต่ก็รีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมเป็นพัลวัน มิชิโยะมองคนตรงหน้าอย่าง งงๆ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ ผู้ที่ถูกเรียกว่าพี่สาวเห็นคนข้างๆยิ้มก็หน้าแดงขึ้นมา.....เด็กคนนี้ หน้าตาน่ารักจัง......ความคิดสะดุดอยู้เพียงเท่านั้น.....กรี๊ด! ไม่ได้ซิมาคิดอะไรตอนนี้เนี่ย.....
“ไม่คิดจะอาบน้ำหน่อยหรอฮะ มีอ่างอาบน้ำด้วยนะ.....เดี๋ยวผมไปอาบเป็นเพื่อนก็ได้” รอยยิ้มที่ดูก็รู้ว่าเป็นการแกล้งแล้วไหนจะคำพูดที่ดูกวนๆนั่นอีก ......อ้าก!!!! ขอถอนคำพูดและความคิดที่ว่าหมอนี่น่ารัก....ไม่น่ารักซักนิด T^T
.. “อ๊ะ! จริงซิยังม่ะ.....” มิชิโยะยังพูดไม่ทันจบประโยค หญิงสาวตรงหน้าก็รีบชิ่งไปซะก่อนแล้วโดยไม่คิดจะหันกลับมาอีก
มิชิโยะ ยืนค้าง และก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่ะ ฮะ ฮะ ฮะ....โอ้ย ให้ตายเถอะ พี่สาวคนนี้น่ารักเป็นบ้า แต่ว่า...จะรู้สึกตัวมั๊ยนะเนี่ย.....”
“เฮ้อ.......” เสียงถอนหายใจดังออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันนี้
“ริคาโกะ ถอนหายใจอีกแล้ว มีอะไรรึเปล่า...” ผู้เป็นเพื่อนถามด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ว่าริคาโกะนั้นเพิ่งเลิกกับแฟน และตอนนี้ก็อาจจะยังทำใจไม่ได้
“คานะ คิดว่า....เอ่อ! แบบว่า สมมุติอ่ะนะ ถ้าเกิดว่าจู่ๆเธอตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้ว....แล้ว....” ริคาโกะทำท่าคิดหนัก “แล้ว เกิดพบว่าเรา....ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า....อ่ะ แบบว่า เหลือแต่ชุดชั้นในน่ะ แล้ว....แล้วทีนี้ก็มี....”พอมาถึงตรงนี้ก็อดคิดถึงภาพที่เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำไม่ได้
“เฮ้ๆ ริคาโกะ แล้วไงต่อ?” คานะสะกิดเมื่อเห็นเพื่อนนิ่งไปนาน
“อ่ะ....ขอโทษทีจ้ะ......เอ่อ...แล้วจากนั้นก็มีเด็กผู้ชายเดินออกมาจากห้องน้ำ....เดี๋ยวๆ แต่เด็กคนนั้นใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยนะ เธอจะคิดว่ายังไงอ่ะ แบบว่าเรื่องที่เกิดก่อนหน้านั้น” คนพูด ยิ่งพูดก็ยิ่งหน้าแดง เรียกความสงสัยให้กับเพื่อนเป็นอย่างดี
“ตายแล้ว ว่าแต่เด็กคนนั้น หน้าตาดีมั๊ย?”
“ก็น่ารักดี” เมื่อพูดจบ ก็รู้ตัวแล้วว่า พลาดไปซะแล้ว
“อ๊ะๆๆ อะไรกัน เพิ่งเลิกก่ะแฟนได้ ก็ไปคว้าเด็กที่ไหนมาล่ะจ้ะเนี่ย” คานะทำตาเจ้าเล่ห์ เอานิ้วจิ้มแก้มเพื่อนสาวทันที
“ม่ะ ไม่ใช่อย่างงั้นนะ” รีบพยายามปฏิเสธอย่างลนๆ ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่
ขณะที่คนทั้งสองกำลังคุยกันอยุ่ประตูห้องก็ถูกเปิดออก และมีคนเดินเข้ามา 3 คน สองในสามนั้นพวกเธอคุ้นหน้าเนื่องจากเป็นเพื่อนที่อยู่คณะเดียวกัน “อยู่นี่ไง เฮ้! ซาโนะซัง มีคนมาหาแน่ะ”
อีกคนที่เดินตามมานั้นแทรกคนทั้งสองเข้ามาในห้อง และทันทีที่เจอคนที่ตนต้องการก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ “ในที่สุดก็เจอจนได้ พี่สาว”
ปรากฏเด็กหนุ่มผมที่ยาวนั้นถูกรวบเอาไว้อย่างหลวม ชุดที่สวมอยู่นั้น ริคาโกะยังจำได้มันเป็นชุดที่เธอเห็นเด็กคนนี้สวมอยู่เมื่อเช้า ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่บ่งบอกว่าเป็นคนอารมณ์ดีและขี้เล่นนั้นหันมาทางเธอ
“นี่ฮะ พี่สาวทำหล่นเอาไว้บนเตียง วันนี้ผมว่างก็เลยเอามาคืนให้” คำพูดที่เรียกฟ้าผ่าลงมานั้น เรียกความตกตะลึงให้กับคนในห้องทันที
“กรี๊ดๆๆ นี่เด็กที่ว่าเปล่าเนี่ย น่ารักมากเลยแก” คานะอดไม่ได้ รีบกระซิบ? ถามริคาโกะทันที โดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนเธอนั้นช็อกไปแล้ว
“เนี่ย! แล้วพี่สาวรีบออกมา ผมเลยไม่ได้บอกเลย” มิชิโยะที่ยังคงอยู่ในคราบของเด็กหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ผู้ที่เธอเรียกว่าพี่สาวแล้วยื่นจมูกของตนเองไปสัมพัสกับแก้มชมพูของหญิงสาวทันทีโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว “อรุณสวัสดิ์ ครับ.....พี่สาว เมื่อคืนหลับสบายมั๊ย”
คานะแทบไม่อยากเชื่อว่า จะเป็นเด็กคนนี้จริงๆที่เพื่อนเธอ งาบ??? ไป
ความคิดเห็น