คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : FAKE
.....พลั่กะ!..... เสียงแผ่นหลังดังกระทบกับผนังตึกโรงยิม บริเวณด้านหลังตึกโรงยิมนี้เป็นบริเวณที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมาซักเท่าไหร่ มักเป็นแหล่งมั่วสุม หรือเอาไว้นัดคนมาหาเรื่องกัน ในขณะนั่นเป็นมิชิโยะเองที่โดนผลั่กมาติดกำแพงแบบนี้ “คราวนี้เล่นมาดักรอ แล้วพามาที่แบบนี้คิดจะทำอะไรอีกล่ะคะ...รุ่นพี่” มิชิโยะพูดเสียงเรียบ รืมฝีปากยิ้มน้อยๆแฝงแววดูแคลน
“พูดดีไป เมื่อวานคงไม่เข็ดซินะ ครั้งนี้ไม่มีใครมาช่วยแกได้หรอกนะ ยังจะมาทำปากดีอีก” รุ่นพี่สาวคนที่ตบเธอเมื่อครั้งก่อนพูดกับมิชิโยะ
มิชิโยะค่อยๆเดินไปหาหญิงสาวตรงหน้าโดยพวกที่เหลืออีกสี่คนยืนล้อมเธอเอาไว้ คงจะดักไว้กันไม่ให้เธอหนีซินะ ริมฝีปากที่ยังคงรอยยิ้มเหยียดนั้นค่อยเผยอพูด “ทั้งที่อุตส่าคิดว่าจะมาคุยกับพวกรุ่นพี่ให้เสร็จวันหน้าแท้ๆเชียวนะคะเนี่ย แต่แบบนี้คงต้องให้เสร็จเรื่องเสร็จราวไปเลย ฉันก็ไม่อยากจะมีเรื่องยุ่งๆมากนักแท้ๆ”
“หน่ะ....หนอย!” รุ่นพี่สาวตรงหน้าง้างมือหมายจะตบ แต่.............
.........ผั่วะ!!...........
.ตึง!.............
หญิงสาวทั้งสี่คนที่ยืนล้อมมิชิโยะไว้ตกตะลึงกับภาพที่เห็น((อีกคนล้มสลบไปแล้ว -...-)) เมื่อเด็กสาวที่เมื่อวันก่อนที่ตัวสั่นงันงกราวกับลูกนกเมื่อโดนตบ แต่ครั้งนี้กลับสวน หมัด กลับเข้าไปที่ดั้งจมูกของเพื่อนสาวของตนเต็มๆยังผลให้สลบล้มลงไปกองอยู่บนพื้นหญ้าซะแล้ว
“นี่เอาคืนร่วมยอดของเมื่อครั้งก่อนเลยแล้วกันนะคะ” มิชิโยะพูดเสียงเย็น ทั้งที่ใบหน้ายังคงรอยยิ้มจางๆเอาไว้ “แล้วพวกเธอล่ะ ยังจะอยากมีเรื่องมั๊ย”
“แก!!!!!!!!!!” หนึ่งในรุ่นพี่ที่พอได้ยินที่มิชิโยะพูดก็กรีดร้องเสียงอหลม เรียกสติให้พวกที่เหลือที่ตะลึงกับเหตุการณ์ตนงหน้าให้หันกลับมาทางมิชิโยะ พร้อมทั้งพากันเข้าไปรุมเด็กสาวผู้เป็นต้นเหตุให้เพื่อนของพวกเธอสลบลงไปกอง
.........ผั่วะ!!...........
.........เพี้ยะ!!...........
.........พลั่กะ!!...........
.........ผั่วะ!!...........
“โฮ!!.................” เพียงไม่เกิน10นาที สภาพที่เห็นก็คือ พวกรุ่นพี่ที่เหลือทั้งสี่คนที่ต่างพากันร้องไห้ สะอึกสะอื้น น้ำตานองกันทั้งคณะ
“ฮึก....ฮึก....แก!...นังบ้า! มาทำแบบนี้กับพวกฉันรับรองเรื่องไปจบแค่นี้แน่ ฮึก...” หนึ่งในรุ่นพี่สาวที่ยังสะอึกสะอื้นอยู่นั้น แม้ว่าจะยังเจ็บอยู่แต่ก็ยังไม่วายหันไปตะโกนด่าทอ คาดโทษไว้กับเด็กสาวที่กำลังจะเดินจากไป แต่เมื่อได้ยินที่รุ่นพี่คนนั้นพูดแล้วก็ชะงัก พร้อมทั้งหันใบหน้าที่ยังคงเปื้อนยิ้มให้กันรุ่นพี่คนนั้น
“ก็เอาซิคะ ถ้าพวกเธอยังไม่อยากให้เรื่องมันจบแค่ตรงนี้ล่ะก็นะ...แต่ช่วยจำไว้ในหัวสมองที่ดูท่าจะมีแต่ความกลวงโบ๋นั่นด้วยว่า ฉันไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาทำร้ายฟรีๆหรอกนะ ไม่ว่าหน้าไหนก็ตาม” มิชิโยะพูดเสียงเย็น สายตาเย็นชา ก่อนจะเดินไปยังส่วนอาคารเรียนที่ตอนนี้เสียงออดดังบอกเวลาว่าตอนนี้ถึงเวลาเข้าเรียนวิชาต่อไปแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++
“มิชิโยะจัง!” เสียงของเมอิดังขึ้นทันทีที่เสียงสัญญาณระฆังบอกเวลาเลิกเรียน
“เป็นอะไรรึเปล่าไหนดูซิ” ไม่พูดเปล่า ยังจับหน้ามิชิโยะไปซ้ายทีขวาที ทั้งจับหมุน จะเด็กสาวต้องร้องบอกให้หยุดก่อนที่เธอจะเวียนหัวตายซะก่อน
“อ่ะ...หยุดๆ...หยุดก่อนจ้า เวียนหัวจะแย่แล้ว” @.@”
“เอ้าๆ! ยัยเมอิ เดียวมิชิโยะจังก็ตายหรอก จับหมุนควงสว่านซะขนาดนั้น....ว่าแต่ไม่เป็นไรใช่มั๊ย?” ประโยคท้ายริโอะหันไปถามมิชิโยะ
“เอ๊!?? แล้วจะให้เป็นอะไรล่ะจ้ะ?” เด็กสาวหันไปถามด้วยความสงสัย
“ก็เมื่อตะกี้ตอนเรียนอยู่น่ะ มีเด็กในห้องเห็นมิชิโยะจังโดนพวกรุ่นพี่เมื่อวานนี้ดัก แล้วพาไปแถวหลังโรงยิมน่ะซิ พอได้ยินเข้าพวกเราก็เป็นห่วงแทบแย่” โตโกะเป็นคนอธิบาย
“อ้อ! ไม่เป็นอะไรนี่ เคลียร์เรียบร้อยแล้ว แล้วก็ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน” อ่ะ หมุนโชว์ด้วย ^~^
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ลองมาทำร้ายเพื่อนฉันซิแม่จะอัดให้หมอไม่รับเย็บเลยคอยดู” ริโอะพูดพร้อมกำหมัดแน่น มิชิโยะที่มองดูอยู่ก็ยิ้มให้กับความห่วงใยของเพื่อนใหม่ที่ยังรู้จักกันไม่ถึงอาทิตย์ แต่ก็ดูเป็นห่วงเธอจากใจจริง
“ว่าแต่เดี๋ยวต้องไปดูพวกรุ่นพี่ฮาชิซึ ที่สนามบาสหล่ะ เมื่อตอนเที่ยงพวกรุ่นพี่เขามาชวน เห็นว่าซ้อมแข่งกับชมรมบาสโรงเรียน N” เมอิรีบพูด ซึ่งคงมาชวนตอนที่เธอโดยพวกห้าสาวลากตัวไปนั่นล่ะมั้ง
พอไปถึงบริเวณสนามบาสฯ เด็กสาวนักเรียนทุนแทบอยากจะรีบออกไปให้พ้นจากบริเวณนั้นทันที เพราะเท่าที่เห็นนี่มันจะแข่งกันเล่นๆหรือว่าแข่งเอาถ้วยอินเตอร์ไฮกันแน่เนี่ย ทำไมคนมันถึงได้ยั้วเยี้ยแบบนั้น แถมมีเสียงกรี๊ด กับเสียงโฮ่เฮ มาได้ยินเป็นระยะๆอีกด้วย “เมอิจัง ถ้าตอนนี้ฉันของยูเทิร์น กลับหอนี่จะยังทันมั๊ยอ่ะ” เด็กสาวพูดขึ้นมาอย่างหวาดๆ...ถ้าเข้าจะโดนเหยียบ หรือขาดอากาศหายใจตายก่อนมั๊ยเนี่ย.... ไม่มีคำตอบจากคนที่ถูกเอ่ยชื่อมีแต่แรงฉุดที่พยายามฉุดให้เธอพยายามแทรกตัวเข้าไปให้ถึงที่หมาย
‘ซวบ!’
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ทันทีที่เสียงลูกลงห่วงดังขึ้นก็เกิดเสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั่วบริเวณขึ้นมาอีกละรอก มันจะไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับมิชิโยะเท่าไหร่เลยถ้า...ไม่ใช้ว่ามีตัวเธอมาติดอยู่ตรงศูนย์กลางของเสียงนั่น...เล่นซะหูอื้อไปหมด ทันทีที่ถึงโซนข้างหน้าซึ่งไม่ค่อยมีคนยืนเท่าไหร่แล้ว((เพราะพวกผู้หญิงกลัวลูกจะกระเด็นมาโดน)) พวกเธอถึงมีโอกาสหายใจเข้าได้เต็มปอด “เฮ้อ! ในที่สุดก็พ้นออกมาจนได้” เธอหันกลับไปมองยังที่ๆเธอเพิ่งจะแทรกตัวออกมาได้ก็คิดบางอย่างในใจ.....พวกที่อยู่ตรงกลางๆนั่นหายใจออกได้ไงหว่า?......พอริวเห็นว่ากลุ่มของหญิงสาวที่ตนกำลังคอยอยู่มาถึงก็รีบบอขอเวลานอกทันทีแล้วจึงรีบวิ่งไปหามิชิโยะเป็นคนแรก “มิชิโยะจัง~~~~เมื่อกี้เห็นมั๊ยฉันชู้ตลูก 3p((การชู้ตลูก 3 คะแนน)) เพื่อเธอเลยนะ” เจ้าของชื่อได้แต่ยิ้มแหย๋ๆก่อนจะพูด ทำให้ริวถึงกับคอตกผิดวหวังทันที “แหะๆ โทษทีนะไม่เห็นอ่ะจ้ะ ติดแหง่กอยู่กลางฝูงชนอยู่อ่ะเมื่อกี้เพิ่งจะหลุดออกมาได้” “หรอ.....ไม่เป็นไรเดี๋ยวลูกต่อไปดูให้ดีนะ.....ฉันจะชู้ตลูกนี้เพื่อเธอ” ท้ายประโยคนี่ทำสายตาวิบวับให้อีกต่างหาก
‘โป๊ก!!!!!’ เสียงมะเหงกลงกลางหัวคนทำตาวิบวับทันทีที่พูดจบ
“ยังมีหน้ามาพูดอีก เกือบโดนแย่งลูกได้อยู่แล้วดีที่ ซาโตชิมันเข้าไปกันทันนะเฟ้ยไม่งั้น ไอ้ลูกโชว์ออฟเมื่อกี้ได้กลายเป็นลูกกินเป็ดแน่แก” คนเขกไม่ใช่ใครอื่นเป็นยาโตะนั่นแหล่ะ
((ลูกกินเป็ดมันหมายความว่าไงอ่ะหรอ เหอะๆ แค่เป็นคำพูดที่ดูคล้องจองดีเหมือนที่มีเพื่อนคนนึงมันชอบพูด ว่าโชคดีสำลีแปะหัวอ่ะแหล่ะ...อย่าซีเรียสๆ : ผู้แต่ง))
คนที่โดนเพื่อนพูดถึงก็เดินมาทันที พวกสาวๆทั้งสี่คนจึงพูดทักทายซาโตชิโดยที่เจ้าตัวก็แค่เพียงพยักหน้ารับเท่านั้น ยาโตะจึงแนะนำให้ทั้งสี่สาวรุ้จักกับเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน คนนึงชื่อ คาเครุ อีกคนชื่อ ชินโง แล้วพาทั้งสี่สาวไปนั่งตรงม้านั่งยาวที่เตรียมไว้ให้ทีมของตนก่อนจะขอตัวกลับไปลงสนามแข่งกันต่อ
ตอนนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้สึกถึงสายตาอันร้อนแรง((จนแทบจะติดไฟได้)) ที่ส่งมาจากรอบๆสนามบาส
“หง่า.....รู้สึกเสียวสันหลังวาบๆเลยแฮะ” มิชิโยะเริ่มรู้สึกอึดอัดนิดๆเลยบ่นออกมา
“ไม่แปลกหรอกค่ะ ก็พวกเราเล่นมานั่งกันตรงที่ของพวกรุ่นพี่เขานี่ เดี๋ยวเจอแบบนี้เข้าบ่อยๆก็จะชินไปเอง ดูอย่างสองคนนั่นซิยังไม่สนใจเลย” โกโตะพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงบ่นเล็กๆของมิชิโยะ แล้วพูดบอกให้ดูหญิงสาวอีกสองคนที่ถึงจะตกเป็นเป้าสายตาเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจ ตะโกนเชียร์พวกยาโตะที่แข่งอยู่กันอย่างเมามัน
‘ชินงั้นหรอ ท่าทางสองคนนี้จะถูกเป็นเป้าสายตาบ่อยเลยชินได้ขนาดนี้ซินะ’ (- -a )
การแข่งขันก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆโดยที่มิชิโยะกับโกโตะแถบจะไม่ได้ดูการแข่งขันเลย ((เพราะมัวแต่เมาท์กันอยู่สองคน))
“โอ้ย!” เกิดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่สนามพร้อมกับเสียงฮือฮาไปทั่วบริเวณ มิชิโยะและโกโตะที่คุยกันอยู่ต้องหยุดการสนทนาเอาไว้แล้วรีบหันไปมองตามที่มาของเสียง ซาโตชิหนุ่มมาดขรึมในตอนนี้ดวงหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดพราวขึ้นมาตามรูขุมขนบนใบหน้า ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น เพื่อไม่ให้มีเสียงร้องขึ้นมาอีก สีหน้าที่พยายามสะกดกั้นความเจ็บปวดนั้น ทำให้มิชิโยะและโกโตะที่ไม่ทันได้ดูเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มึนงงทันคู่ จึงหันไปถามเพื่อนอีกสองคนที่จับตาดูการแข่งขันมาโดยตลอด คำตอบที่ได้รับนั้นกลับทำให้เด็กสาวต่างชาติเพียงคนเดียวในกลุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ ด้วยพอจะรู้กฎกติกาของกีฬาประเภทนี้ดี
“พวกทีมฝ่ายโน้นเข้ามากระแทกรุ่นพี่โอฮิระ ตอนที่รุ่นพี่เขากำลังกระโดดจะชู้ตลูกน่ะ แถมตอนที่รุ่นพี่เขาล้มลงมาทีมฝ่ายตรงข้ามอีกคนมาจากไหนก็ไม่รู้มาขวางทางจนรุ่นพี่เขาเสียหลักแล้วก็ล้มลงไปเลยแบบนี้” ริโอะที่มีสายตาดีพอจะมองเห็นรายละเอียดได้ดีกว่าเมอิที่ดูอยู่ด้วยกัน พูดอธิบายให้มิชิโยะฟัง
“ขอทางหน่อยๆ” เพื่อนร่วมทีมของซาโตชิช่วยกันแบกเขามายังข้างสนามตรงที่พวกมิชิโยะนั่งอยู่ ต่างพยายามช่วยกันปฐมพยาบาลให้ซาโตชิเป็นการใหญ่ “ให้ตายเถอะแบบนี้แข่งไม่ไหวแน่” รุ่นพี่คาเครุพูดขึ้นหลังจากจัดการกับขาที่บวมเป่งของซาโตชิเสร็จแล้ว เพื่อนร่วมทีมต่างมีสีหน้ากังวลไปตามๆกัน เมื่อเห็นวิธีการเล่นที่ออกจะรุนแรงเกินไปของทีมฝ่ายตรงข้ามพวกตัวสำรองก็ต่างพากันไม่อยากลงเล่น เพราะกลัวจะเจ็บตัวอย่างซาโตชิ ทางฝ่ายกัปตันทีมซึ่งก็คือ คาเครุ ก็ไม่อยากที่จะบังคับให้ลูกทีมคนอื่นๆมาฝืนเล่นทั้งๆที่ไม่เต็มใจนัก ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อไป เจ้าตัวคนบาดเจ็บกลับตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนเพื่อจะกลับเข้าไปเล่นอีกครั้งจนทุกคนต้องพยายามห้าแต่เจ้าตัวที่ปกติมักจะนิ่งเงียบเสมอตอนนี้คงจะเรียกได้ว่าเลือดขึ้นหน้าก็ว่าได้ไม่ฟังใครทั้งๆ พยายามดื้อดึงจะกลับเข้าไปเล่นท่าเดียวจนกระทั่ง......
“อ้าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงนี้เรียกว่าดังไปสามบ้านเจ็ดบ้านก็ว่าได้ ทุกคนต่างตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า เด็กสาวที่ได้ชื่อว่านักเรียนทุนและดูจะบอบบาง ((ตามคำบอกเล่าที่ได้ยินกันมาครั้งตั้งแต่เกิดเรื่องที่ว่าโดนรุ่นพี่สาวรุมทำร้าย)) ได้จัดการใช้เท้าของตนเองกระทืบไปที่เท้าของซาโตชิข้างที่บาดเจ็บเข้าไปเต็มๆ จนตอนนี้คนโดนทรุดลงไปนั่งหน้าเขียวร้องอะไรไม่ออกอีก “แตะนิดแตะหน่อยก็เจ็บ ขนาดนี้ยังคิดจะแข่งอีกหรอไง เกิดมันแย่กว่าเดิมจนพิการไปจะมานั่งเสียใจที่หลังนะ” ((เจ้าตัวบอกแตะนิดหน่อย แต่ที่คนอื่นๆเห็นเนี่ยเล่นเหยียบเข้าไปเต็มๆแรงเลยไม่ใช่หรอ - -“)) มิชิโยะพูดด้วยใบหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรกับการกระทำของตัวเอง “นี่ก็ไม่ได้แข่งจริงจังอะไรไม่ใช่หรอ ไม่เห็นต้องดื้อดึงจะแข่งต่อเลยนี่ แล้วถ้าหาใครที่จะลงเล่นแทนไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรไม่ใช่หรอ ไม่ใช่การแข่งขันจริงจังอะไรนี่หน่า”
“เฮ้! จะแข่งต่อได้ยัง หรือว่าไม่มีใครกล้าแข่งแล้ว พวกโรงเรียนนี้มันก็ไม่เท่าไหร่นี่หว่า ฮ่ะ ฮะ” นักกีฬาของโรงเรียนN คนหนึ่งถูกถากถางขึ้นมาก่อนที่ทั้งทีมจะต่างพากันหัวเราะชอบใจ
“มันก็ไอ้แค่นี้ล่ะว้า ไม่เห็นจะแน่เท่าไหร่เล้ย~~~”
แล้วคำพูดจาดูถูกต่างๆนานาก็พรั่งพรูออกมาจากนักกีฬาโรงเรียนN จนพวกยาโตะที่ตอนนี้ก็ชักจะเดือดต่างได้แต่กำมือแน่นสกัดกลั้นความโกรธเอาไว้ พวกเขารู้ดีว่าตอนนี้คนอื่นนอกจากพวกตัวจริงที่เหลืออยุ่4คนแล้วก็ไม่มีใครอยากจะเสี่ยงลงแข่งในการแข่งที่ไม่เป็นทางการนี้แล้ว ริโอะมองไปที่พวกโรงเรียนN ที่พากันหัวร่ออย่างโกรธแค้นแทนอยากจะเข้าไปตั๋นหน้าเจ้าพวกนั้นให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็โดนเมอิ กับโกโตะห้ามเอาไว้ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
มิชิโยะมีมองคนโน้นคนนี้ทีอย่างเงียบๆในที่สุดก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเซงๆ “ยังอยากแข่งกับพวกโน้นให้ถึงที่สุดซินะ...พวกนายนี่ก็ห่วงไอ้คำว่าศักดิ์ศรีบ้าๆบอๆนั่นกันเกินไปแล้ว” มิชิโยะพูดด้วยท่าทางเบื่อหน่าย โดยไม่สนใจสายตาที่จ้องมาทางเธออย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก “นี่ใครพอจะมีกางเกงให้ยืมซักตัวมั๊ยล่ะขอยืมหน่อยแล้วกัน” มิชิโยะพูดขึ้นมาอีกครั้ง สร้างความประหลาดใจให้กับทุกๆคน จนยาโตะต้องเป็นคนเอ่ยถาม “เธอจะเอาไปทำไม” มิชิโยะที่ตอนนี้กำลังค้นกระเป๋านักเรียนตัวเองหาหนังยางมารัดผมหันไปหายาโตะแล้วยิ้มตามแบบฉบับของเธอให้เขา “นี่นายคงไม่คิดว่าฉันจะเล่นบาสโดยที่ยังใส่กระโปรงสั้นๆนี่หรอกนะ”
มิชิโยะที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว((เปลี่ยนแต่กางเกง...แถมเปลี่ยนถอดมันตรงนั้นจนพวกริโอะต้องพากันช่วยมายืนบังอย่างลนลาน)) “เอ้า! มัวแต่ยืนตาค้างอยู่นั่นแหล่ะ จะแข่งไม่ใช่หรอ”
“หง่า...มิชิโยะจังไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ พวกเรายอมเลิกแข่งก็ได้นะ” ริวเป็นคนพูดก่อนที่จะหันไปขอความเห็นจากเพื่อนคนอื่นๆ
“ใช่ เธอไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ แล้วอีกอย่างถ้าจะแข่งน่ะเธอรู้กติกาบาสเก็ตบอลหรือไง” ยาโตะพูดด้วยนำเสียงแข็งกระด้างแต่ก็พอจะฟังออกว่าเจ้าตัวไม่ได้คิดจะดูถูกเธออย่างที่พูดออกมา
“เป็นไม่เป็นเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหล่ะ” มิชิโยะพูดยิ้มๆ แล้วจึงเดินไปหากัปตันทีมของฝ่ายตรงข้าม “ฉันจะแข่งแทนคงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ยคะ เพราะถึงยังไงนี่ก็เป็นแค่การซ้อมแข่งนี่”
คู่สนทนาได้ยิ้มเข้าก็ต้องปล่อยก๊ากออกมาทันที “ฮ่า.....ฮ่ะ.....ฮะ.....พวกโรงเรียนW ห่วยแตกจนต้องให้ผู้หญิงมาลงแข่งแทนเลยหรอวะเนี่ย”
“นี่คุณหนูอย่าหาเรื่องดีกว่านะ เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก”
มิชิโยะตีสีหน้างงงวย “เจ็บตัว? เล่นบาสมีเจ็บตัวด้วยหรอคะ ไม่ใช่อเมริกันฟุตบอลหรือรักบี้ซักหน่อย”
“มิชิโยะพอเถอะไม่ต้องแข่งก็ได้ เดี๋ยวพวกเราหาคนอื่นมาเล่นแทน” ยาโตะเดินมาดึงข้อมือของเธอ โดยที่ขอบสนามก็มีพวกริโอะมองมาด้วยสีหน้าท่าทางเป็นห่วง
“อ้าว! จะหาใครล่ะ ก็เห็นไม่มีคนอื่นอยากแข่ง แล้วพอดีเลยว่าฉันก็อยากจะลองเล่นแบบนี้ดูซักครั้งด้วย
เอาๆ เข้าสนามซิจะได้แข่ง” เมื่อทุกคนเห็นว่าดูท่ายังไงก็คงห้ามไม่ได้จึงต่างต้องลงสนามเพื่อแข่งต่อโดยที่ต่างคิดเหมือนๆกันว่าจะพยายามไม่ส่งบอลให้มิชิโยะ เพื่อเลี่ยงการปะทะให้เธอมากที่สุด
ทันทีที่สัญญาณนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณของการเริ่มการแข่ง ที่ของมิชิโยะเป็นฝ่ายได้ลูกมาครองก่อนที่ นักกีฬาคนนึงของโรงเรียนN จะตัดลูกไปได้แล้วจัดการส่งบอลเบาๆมาให้มิชิโยะ ซึ่งเหมือนกับเป็นการแสดงการดูถูกให้แล้วมองหน้าเป็นเชิงท้าให้ฝ่าตนไปให้ได้ แต่แล้วในทันทีที่เด็กสาวได้ลูกมาครองเธอก็เลี้ยงบอลฝ่ายไปอย่างรวดเร็วจนทุกคนต่างตะลึง ทั้งการเลี้ยงลูก การพาบอล และการหลบหลีกต่างๆไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเธอเป็นมือใหม่ จนกระทั้งเธอพาบอลผ่านทุกคนไปพร้อมทั้งเลย์อัพชู้ตที่ใต้แป้นบาสทันที “ขอบคุณนะ” มิชิโยะหันไปขอบคุณกับคนที่ส่งบอลให้เธอด้วยน้ำเสียงค่อนข้านจะยียวนเล็กน้อย
“มิชิโยะจังเล่นบาสเป็นด้วยหรอ?” ริววิ่งมาถามเด็กสาว
“ก็ พอเล่นได้น่ะ ไม่เคยแข่งแบบนี้หรอกก็แค่เล่นๆกับพวกพี่ชายก่ะเพื่อนๆพี่เขานะ” มิชิโยะพูดเสร็จก็วิ่งไปประจำจุดที่เคยเป็นตำแหน่งของซาโตะชิทันที
ตอนนี้ทั้งในสนามและรอบสนามต่างพากันอึ้ง+ทึ่ง กับเด็กสาวที่ดูจะสนิทกับพวกหนุ่มฮ็อตคนนี้ทันที
การแข่งขันดำเนินไปอย่างราบรื่น ทีมโรงเรียนN เริ่มปั่นป่วนเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาแทนนักกีฬาของโรงเรียนที่ตอนแรกพวกเขาเข้าใจว่าเป็นเพียงหมูมาให้เชือด แต่ตอนนี้เป็นพวกเขาเองที่กำลังจะโดนเชือด
“คำพูดและท่าทางที่อวดดีที่มีก่อนหน้านี้หายไปไหนซะล่ะคะ” มิชิโยะเลี้ยงลูกเข้าไปใกล้กับกัปตันทีมของฝ่ายตรงข้ามแล้วพูดประโยคนี้ขึ้นมา ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มน้อยน้อยอยู่เช่นเดิม แม้ว่าลมหายใจที่ที่เธอปล่อยออกมาจะแสดงถึงอาการเหนื่อยหอบเล็กน้อย เธอใช้สายตากวาดหาช่องทางที่พอจะส่งหรือหลบออกมาได้ แต่ทันทีที่คิดว่าเจอช่องทางนั้นแล้วก็มีนักกีฬาอีกคนมาประกบอยู่ที่ทางนั้นเสียก่อน นักกีฬาของโรงเรียนN ทั้งสองมองตากันคล้ายจะให้สัญญาณอะไรบางอย่าง แล้วผู้ที่ประกบอยู่ด้านหน้าของเด็กสาวก็กวาดมือคล้ายกับจะปัดลูกแต่ทว่า มันกลับไปกระทบกับใบหน้าของเธออย่างจัง ส่งผลให้เด็กสาวถึงกับหน้าหันไปตามแรงของฝ่ามือ แต่ด้วยความที่นักกีฬาอีกคนของทีมนั้นยืนอยู่ในมุมอับสายตาของคนที่เป็นกรรมการจึงไม่มีการเป้านกหวีด ขณะที่คนโกงกำลังจะคว้าลูกบอลก็ต้องอึ้งเพราะตำแหน่งที่ลูกบอลควรจะอยู่ในมือตนกลับหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว....หายไปพร้อมทั้งเด็กสาวที่น่าจะล้มลงไปเมื่อครู่นี้....
“ชินโง!” มิชิโยะตะโกนเรียกคนที่ยืนอยู่ใกล้แป้นมากที่สุดอีกทั้งยังโดนปล่อยว่างเอาไว้ พร้อมกับขว้างลูกส่งไปให้ เจ้าของชื่อทันทีที่รับลูกจึงจัดการโชว์ฟอร์มการชู้ตที่สวยงามทันที
ทันทีที่ลูกลงห่วงทุกคนในทีมของเด็กสาวรีบวิ่งตรงมาที่เธอทุกคน ถามอาการอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นรอยแดงที่เป็นรูปฝ่ามือตรงแก้มของเด็กสาว
“ไอ้พวกนั้น! กับผู้หญิงยังเล่นแรงขนาดนี้” ยาโตะ กัดฟันกรอด น้ำเสียงฟังดูเดือดดาด
“ช่างมันเถอะอุบัติเหตุน่ะ มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ” มิชิโยะพูดอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจกับรอยแดงบนใบหน้า ทุกคนในทีมอยากจะหันมาว้ากใส่เธอเต็มทีว่าจะเป็นคนดีขนาดไหนก็ต้องมีขอบเขต แต่ก็ถูกคำพูดอีกประโยคและสายตาที่ใครมองเป็นต้องเสียวสันหลังของเด็กสาวหยุดเอาไว้ “อุบัติเหตุนะมันเกิดขึ้นได้กับทุกคนซะด้วยซิ หึ หึ”
การแข่งยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่ทีมโรงเรียนN ก็ยังคงหาจังหว่ะเล่นโกงอยู่เป็นระยะๆ แต่ก็น่าแปลกใจที่นอกจากครั้งแรกที่เด็กสาวโดนนั้นก็ไม่มีสิ่งที่เธอเรียกว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเธออีก ถึงจะเห็นว่ามีกับคนอื่นๆในทีมบ้างก็เถอะ
เป็นอีกครั้งที่มิชิโยะโดนตามประกบสองคน แต่ครั้งนี้ทันทีที่เธอเห็นช่องโหว่ก็จัดการจะส่งลูกทันที อย่างสุดแรงซะด้วย
‘ตึง!!!’
“อั่ก!”
เสียงที่สองเกิดจากคนที่เข้ามาประกบด้านหน้าเธอ((และเป็นคนเดียวกับที่ฝากรอยแดงบนใบหน้า)) ใบหน้าที่บ่งบอกอาการจุกที่ผู้หญิงไม่มีวันได้รู้รสว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนปรากฏบนใบหน้าของชายคนนั้นทันทีที่ ลูกบาสที่เด็กสาวขว้างกระดอนลงพื้นเหมือนจะส่งต่อ แต่กลับส่งไปที่จุดยุทธศาสตร์ ของคนที่อยู่หน้าเธอแทน
“อุ๊ย! ขอโทษทีนะ ก่ะจะส่งลอดใต้ขาซะหน่อยไหง มันเข้าเป้าเผงอย่างงี้ก็ไม่รู้อ่ะ” มิชิโยะแสลงทำสีหน้าตกใจ แต่ในใจกลับยิ้มเยาะและปลื้มกับผลงานของตัวเองใช่หยอก........แม่นดีแฮะเรา..........
“กะ...แก...” เสียงที่พยายามเค้นออกมาบ่งบอกได้ทั้งความเคียดแค้นและเจ็บปวด ((น่าจะบอกว่าจุกอ่ะนะ)) สายตาจ้องมาทางหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง
“แหมๆ อุบัติเหตุ น่ะนะ” สายตาเสไปมองทางอื่นน้ำเสียงพยายามกลั้นความขบขันไว้เต็มที พร้อมทั้งเดินอย่างสบายๆไปทางพวกยาโตะอึ้งเล็กน้อยก่อนจะตั้งสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ “เห็นมั๊ยบอกแล้วอุบัติเหตุน่ะเกิดขึ้นได้เสมอ”
ทางฝ่ายคนที่โดนจนจุกซึ้งความเจ็บปวดคงจะคลายไปได้หน่อยนึงแล้วก็เดินมา((พร้อมคนพยุง)) มาทางเด็กสาวอย่างเอาเรื่อง พวกยาโตะที่ตอนนี้กลั้นหัวเราะมากไปหน่อยไม่ได้ทันสังเกตว่า นักเรียนโรงเรียนN ที่กำลังเดินมาทางมิชิโยะนั้นเดินเข้ามพร้อมกำปั้นที่ปล่อยออกมาจะชกเข้าใส่เด็กสาว มิชิโยะหันไปทางคนที่เดินมาพอดีจึงกระเด็นไปตามแรงชกทันที
เกิดเสียงฮือฮาขึ้นเมื่อเห็นว่าจากการแข่งบาส ตอนนี้ได้กลายเป็นการวิวาทไปแล้วสาวๆบางคนถึงกับกรีดร้องทันทีที่เห็นร่างของมิชิโยะกระเด็นไปตามแรงชก พวกริโอะที่กำลังอึ้งได้สติทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องจากเด็กสาวที่อยู่ข้างสนาม ทั้งสามคน ริโอะ เมอิ และโกโตะ รีบวิ่งเข้าไปหามิชิโยะทันทีและถามอาการด้วยความเป็นห่วง
“มิชิโยะจังเป็นอะไรมั๊ย” เมอิถามอย่างลนลาน ไม่กล้าจับหน้าของเพื่อนขึ้นมาเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเจ็บ
มิชิโยะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แต่ “เมอิจัง วิ่งไปตามอาจารย์คนไหนมาก็ได้ที พวกนี้มาที่นี่ยังไงก็น่าจะมีอาจารย์ตามมารับผิดชอบอยู่” แม้ว่าจะยังงงในสิ่งที่เพื่อนของเธอพูดแต่ก็รีบทำตามทันทีเพราะการที่ให้อาจารย์มาห้ามน่าจะยังแก้ไขสถานการณ์ได้
มิชิโยะค่อยๆยืนขึ้นเอามือลูบแก้มข้างที่โดนชก นัยน์ตามีน้ำใสๆเอ่อคลออยู่ พวกยาโตะเห็นเข้าก็หน้าถอดสี ตกใจ วิ่งมาทางเด็กสาวทนที แล้วตั้งท่าจะวิ่งไปชกพวกโรงเรียนN ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ ถูกเด็กสาวจับแขนห้ามเอาไว้ซะก่อน
“ปล่อยฉันนะมิชิโยะ ฉันจะไปเล่นง่นเจ้านั่นให้ไม่กล้ามาเหยียบที่นี่อีกเลย!” ยาโตะ ตะโกนอย่างเดือดดาน ซึ่งคนอื่นๆก็แทบจะมีอาการไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ ทั้งริว คาเครุ และชินโงก็ทำท่าจะวิ่งไปทางเจ้าพวกนั้น แต่ก็โดนริโอะ กับโกโตะพยายามห้ามเอาไว้ตามคำขอของมิชิโยะซะก่อน ระหว่างนั้นพวกโรงเรียนN ก็ทำสีหน้ายิ้มเยาะ มิชิโยะหันไปมองทางคนพวกนั้นด้วยสายตาดูแคลน “คงภูมิใจกันมากซินะคะที่สามารถชกผู้หญิงกระเด็นได้” เมื่อเด็กสาวพูดจบประโยคเจ้าพวกนั้นกลับหัวร่อออกมาเสียงดัง “มันเป็นอุบัติเหตุนะ....ใช่ม่ะ” ท้ายประโยคหันไปบอกเพื่อนคนที่ชกเด็กสาว
“นี่มันอะไรกัน!” เสียงทุ้มห้าว ดังขึ้น ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียงก็เจอ ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเคร่งขรึม ริ้วรอยบนใบหน้าบ่งบอกอายุที่ล่วงเลยมาถึงเลข 4
“เกิดอะไรขึ้น อธิบายมาซิ ทาคาบายาชิ” เสียงห้าวดังถามหนึ่งในนักเรียนโรงเรียนN....นี่คงจะเป็นครูที่มาพร้อมกับเจ้าพวกนี้ซินะ...แล้วก่อนหน้านี้มัวไปอยู่ที่ไหนฟร้ะ.....
“ไม่มีไรหรอกจารย์’ แค่อุบัติเหตุระหว่างซ้อมนิดหน่อยน่ะ” นักเรียนชายเจ้าของชื่อตอบ
“อุบัติเหตุ?” ผู้เป็นอาจารย์ขมวดคิ้วให้กับคำตอบที่ดูไม่น่าเชื่อนั้น แล้วจึงหันไปทางเด็กสาวและพวกนักเรียนที่เป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียน W เขาสังเกตเห็นเด็กสาวคนหนึ่งมือข้างหนึ่งจับชายเสื้อของนักเรียนชายคนนึงเอาไว ส่วนอีกข้างเอากุบแก้มข้างนึงที่ดูว่าไม่ว่าจะพยายามยังไงก็คงปิดเอาไว้ไม่มิด
“ไหนดูหน่อยซิ” ผู้เป็นอาจารย์โรงเรียนN เดินมาทางเด็กสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูจะอ่อนโยนลง แล้วถึงถึงกับขมวดคิ้วอีกระรอกเมื่อเห็นว่า แก้มขาวใสนั่น เป็นรอยแดงรูปฝ่ามือที่เกิดจากการที่เธอโดนตบในครั้งแรก ปรากฏอยู่ เขาจึงหันไปทางลูกศิษย์ของตน “พวกแกกลับไปที่โรงเรียนเมื่อไหร่เราคงต้องคุยกันยาว
ตอนนี้มาขอโทษเธอคนนี้ซะ” พวกนักเรียนโรงเรียนN เดินมาตามคำสั่งอย่างว่าง่ายก่อนจะเอ่ยคำขอโทษที่ดูแล้วไม่จริงใจทั้งยังแฝงแววสะใจอยู่เล็กๆอีกด้วย
“ฉันต้องขอโทษแทนเจ้าลูกศิษย์ของฉันด้วย....”
จากเดิมที่แค่น้ำตาคลอตอนนี้มันกลับไหลทะลักออกมาจาด้วยดวงตากลมโตคู่นั้น “ฮึก....ฮึก...ฉะ...ฉันไม่ได้ทำอะไรให้ซักหน่อย ทำ...ไมต้องมารังแกกันด้วย”
คราวนี้เป็นฝ่ายอาจารย์ที่เริ่มทำอะไรไม่ถูก หน้าเสียทันที.....แบบนี้เรื่องคงไม่จบง่ายๆแน่....ในใจพยายามคิดหาคำพูดต่างๆนานามาปลอบ โดยมีเพื่อนๆของเด็กสาวคอยพูดปลอบด้วยเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าท่าชักจะไม่ดี จากเดิมที่รู้สึกสะใจตอนนี้เริ่มใจเสีย ที่เห็นเด็กผู้หญิงร้องให้ ตอนนั้นก็แค่รู้สึกโกรธที่เด็กสาวคนนั้นทำอวดดีบวกกับเลือดขึ้นหน้า ถึงได้ทำรุนแรงไปแต่มาตอนนี้ชักเริ่มมีสติก็เริ่มคิดได้
“ขะ...ขอโทษ” ทาคาบายาชิ ผู้เป็นกัปตันทีม เดินมาตรงหน้าพูดขอโทษอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับแฝงไปด้วยความจริงใจกว่าครั้งแรก
มิชิโยะหันไปมองทาง ทาคาบายาชิ เริ่มลดเสียงสะอื้นลงไปบ้างแล้ว “ถ้าตอนแข่งจริง ใช้วิธีสกปรกอีกล่ะก็ จะไม่ยกโทษให้ค่ะ” มิชิโยะมองหน้าอีกฝ่ายพูดด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา “แล้วก็...ถ้าเลี้ยงทาโกะยากิอร่อยๆจะยกโทษให้ค่ะ”
น่าแปลกที่คำพูดยอมยกโทษให้นั้นทำให้ ทาคายาบาชิรู้สึกโล่งใจที่เด็กสาวไม่ติดใจเอาความแม้ว่าจะงุนงงไปบ้างก็ตามกับนิสัยของเด็กสาวคนนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ให้ตายเถอะ เจ็บเป็นบ้า ทำไมช่วงนี้เจอแต่เรื่องแบบนี้นะ” เป็นอีกครั้งที่ต้องมายืนบ่นอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ เงากระจกสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ยังคงมีรอยแดงรูปฝ่ามืออยู่.........ใช่มีแต่รอยที่โดนตบในครั้งแรก เพราะครั้งที่สองนั้นจังหวะที่อีกฝ่ายปล่อยหมัดออกมา เธอเบี่ยงตัวไปตามแรงของหมัด ใช้วิธีการเดียวกับพวกสตั๊นแมน ที่เวลาโดนชกจะแกล้งทำเป็นว่ากระเด็นไปก่อนทั้งๆที่ยังชกไม่โดน
“ถ้าหายก่อนวันมะรืนนี้ก็ดีน่ะซินะ เฮ้อ!”
ความคิดเห็น