ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mishiyo.....Aishi teru

    ลำดับตอนที่ #3 : วุ่นจริงนักเรียนใหม่ ((1))

    • อัปเดตล่าสุด 21 ส.ค. 49


              ตอนนี้มิชิโยะเปลี่ยนจากยืนดูมาเป็นนั่งยองๆดูสาว??ที่มายืนออกันที่หน้าหอพักชายแทน ท่าทางที่นี่จะมีอะไรดีแฮะพวกผู้หญิงถึงได้มาออกันเต็มไปหมดแบบนี้ แต่...นั่งดูมาตั้งนานแล้วไม่เห็นจะมีอะไรเลยอ่ะ....เบื่อ!... ขณะที่กำลังบ่นอยู่ในใจ สาวๆที่ยืนมุงดูกันเฉยๆก็เปลี่ยนท่าทีไปเมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินออกจากตัวหอพัก.........ท่าทางจะเนื้อหอมมากแฮะ สาวๆถึงกรี๊ดกันสนั่นขนาดนี้

     

              ถอยไปให้หมด!” ขณะที่กำลังเพลินก็ได้ยินเสียงตะหวาดที่แสนจะคุ้นหูดังขึ้น พวกเธอว่างกันนักรึไงถึงได้ทำตัวทุเรศๆแบบนี้คอยมาดักรอผู้ชายเขานะไม่มียางอายกันซะบ้าง!”

     

              หง่า..........ด่าได้ดุเดือดดีแฮะ แบบนี้ซักวันต้องเครียดตายแหงๆ มิชิโยะคิดในใจพลางมองดูสาวๆที่แตกฮือกันอย่างกับผึ้งแตกรังก็ไม่ปาน เหอๆผู้ชายไรหว่าขี้โวยวายเป็นบ้า

     

              เฮ้ย! ตรงนั้นมีคนหนึ่งนั่งแอบอยู่ด้วย เด็กหอคนหนึ่งตะโกนเรียกพรรคพวกที่ขับไล่สาวๆออกพลางชี้มาทางนี้....???....เอ๊ะ!?...เดี๋ยวนะชี้มาทางนี้.......ว้าย! มันชี้มาทางฉันนี่หว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้น

    1.      เตรียม

    2.      ลุก

    3.      กำลังจะวิ่ง

    4.      โดนจับ TT__TT

    อะไรมันจะซวย 2 วันซ้อนแบบนี้เนี่ย ฉันไม่ได้เป็นพวกถ้ำมองนะ แค่มานั่งดูสาวตรงนี้เฉยๆ T^T

     

              อ้างเหตุผลข้างบนไปใครเขาจะเชื่อกันล่ะบ้าจริง นี่นายปล่อยฉันนะ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษบ้างรึไงเนี่ย ปล่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยโวยไปก็ไม่ได้ผล แย่จริงอยู่โรงเรียนเดียวกันด้วยถึงหนีไปก็อาจมีสิทธิ์เจอกันในโรงเรียนอยู่ดี ถ้าไม่บอกให้ชัดๆเดี๋ยวโดนหาว่าเป็นพวกโรคจิตล่ะแย่แหงๆ

     

              ไงจับพวกดื้อด้านได้คนนึงเรอะ......อ้าว!เธอ...เมื่อวานนี้นี่ ไหนว่าไม่ใช่พวกนั้นไงหลอกกันนี่หว่าแบบนี้จับไปประจานดีกว่ามั้งเนี่ย เจ้าคนเมื่อวานที่เจอกันนี่ ทำไมพูดม้าๆ งั้นฟร้ะ  เดี๋ยวสวย - -*

     

              ไม่ต้องเลย ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย......พวกนายนั่นแหล่ะ.......ปล่อย......ฉันเดี๋ยวนี้นะ ปากพูดได้ก็พูดไป ถึงจะกระท่อนกระแท่น ก็เถอะ - - ถ้าไม่ปล่อยฉันจะไปฟ้องครูใหญ่ว่า พวกนายรวมหัวกันรังแกฉัน เอาซิ….

     

              เฮอะ! บอกไปเลยพอดีเลยฉันจะได้จับส่งครูใหญ่ซะก่อน แล้วจากนั้นค่อยส่งตำรวจ ข้อหา เป็นพวกโรคจิต!” ไอ้หมอนี่กวนโอ้ยชะมัด ได้ซิส่งเลยแล้วพวกนายนั่นแหล่ะจะเสียใจ....

     

              แล้วก็เป็นจริงดังคาด ทันทีที่พวกนี้ส่งมิชิโยะให้กับครูใหญ่ เธอก็อธิบายว่าตัวเองเป็นใคร ไม่ใช่พวกโรคจิต แต่แค่จะเดินดูแถวๆนี้ให้ทั่วแล้วมาเห็นว่ามีคนมามุงอยู่ที่หน้าหอพักชายเลยจะนั่งรอดูว่ามีอะไรกันแล้วจู่ๆก็มีพวกเด็กหอเข้ามาจับแถมยัดเยียดข้อหาให้เธออีก แย่ๆ แย่มากๆ

     

              เจ้าพวกที่จับเธอมาเลยต้องขอโทษกันทั้งก๊ก ไอ้เรามันก็ไม่ใช่คนใจแคบจะยกโทษให้ก็แล้วกัน

     

              ก็ฉันบอกนายไปแล้วก็ไม่เชื่อ ระหว่างทางมิชิโยะ หันไปต่อว่าหัวโจกตัวตั้งตัวตีที่พาเธอมาพบครูใหญ่ทันที((ตัวเองเป็นคนท้าเขาเองแท้ๆ))

     

              ก็ใครมันจะไปรู้เล่า ว่าเธอเป็นนักเรียนทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาเรียนตั้งแต่เทอมนี้เธอนั่นแหล่ะผิดที่ไม่ได้บอกพวกเรา นายนั่นยังหันมาเถียงอีกแน่ะ

     

              ก็ทำไมพวกนายไม่รู้จักถามซะก่อนล่ะ เอาซิจะเถียงกลับใครจะทำไม -_- +

     

              ยัยเบื้อกนี่!” ตากวนโอ้ยด่ากลับมา แต่ว่า ด่าว่าไรอ่ะ -_-a

     

              ......... มิชิโยะพยายามนึกอยู่ว่าคำที่นายนี่พูดมันคืออะไร แต่ก็นึกไม่ออก ช่างเถอะ ขี้เกียจเถียงกันนายนี่เดี๋ยวเรื่องไม่จบซักที

     

              อะไรทำไมอยู่ๆก็เงียบไป เป็นอะไรไป?

     

              ........... เงียบ....ไร้สัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก -...-

     

              นี่เธอโกรธมากหรอ? เด็กผู้ชายอีกคนหันมาถาม

     

              หืม....อะ..อ้อ เปล่าๆ ไม่มีอะไร มิชิโยะหันไปตอบ ตอนนี้พวกเขาเดินออกมาจนถึงสวนสาธารณะใกล้ๆแถวนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แฮะ ว่าแต่ แถวนี้มันตรงไหนอ่ะ? เหม่อเดินตามพวกนายมา บอกไว้ก่อนนะพากลับไปแถวหอด้วยฉันกลับไม่ถูก

     

              ง่า.....ลืมไปว่าเธอไม่รู้จักทางแถวนี้ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพากลับ แต่พวกเราไปร้านสะดวกซื้อแป็ปนึงก่อนนะ

     

              อืม.... มิชิโยะบอกเป็นแนวว่ารู้แล้วดีเหมือนกันฉันจะได้รู้ทางแถวนี้ไว้ด้วย ฉันชื่อ ยามาชิตะ มิชิโยะ ยินดีที่ได้รู้จัก ย้ายมาอยู่ม.ปลายปี1 ห้องคงต้องรอเปิดเทอมนั่นแหล่ะถึงจะรู้

     

              พวกเราอยู่ปี2 ฉันชื่อ ฮาชิซึ ยาโตะ นายหัวโจกบอกด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ ตามมาด้วยเพื่อนนายนั่นอีกสองคน ที่แนะนำตัว

     

              โอฮิระ ซาโตชิ ยินดีที่ได้รู้จัก หนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนแนะนำตัวเอง

     

              แหะๆ เมื่อกี้โทษทีคงไม่เจ็บใช่ป่ะ ฉันยาซาวายะ ริว ยินดีที่ได้รู้จักครับผม คนที่จับมิชิโยะตอนอยู่หน้าหอแนะนำตัวเป็นคนสุดท้าย

     

              หลังจากทั้งสี่คนแวะร้านสะดวกซื้อเสร็จสามชายหนุ่มก็ต้องเดินมาส่งมิชิโยะที่หน้าหอ นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีซักเท่าไหร่แฮะ เพราะบรรดาเด็กหอหญิงหันมามองกันเป็นตาเดียว

     

              โอเคแล้ว พวกเราไปก่อนล่ะ ยาโตะเป็นคนพูดขึ้น

     

              อืม...พวกนายรีบไปเถอะ ท่าทางวันนี้จะเป็นวันซวยของฉันแหงๆ พูดไปพลางเอามือลูบผมตัวเองอันเป็นนิสัย

     

              อะไรกันรีบไล่กันเชียว ปกติมีแต่สาวๆอยากให้อยู่นานๆนะพวกฉันอ่ะ อันนี้ริวเป็นคนพูด

     

              ผู้หญิงพิลึกและตามมาด้วยซาโตชิ

     

              โทษทีเถอะที่ พิลึกนะ ไปไป๊ ชิ้วๆ มิชิโยะพูดเสร็จก็วิ่งตัวปลิวเข้าหอพักไป

     

              พิลึกจริงๆด้วยว่ะ ทุกทีพวกผู้หญิงมักจะหลงซาโตชินี่หว่า แต่นี่ไม่เห็นมีปฏิกิริยาอะไรเลย ริว พูดเมื่อทั้งสามคนเดินออกมาจนใกล้จะถึงหอชายแล้ว

     

              อาจไม่ใช่สเป็กก็ได้ ยาโตะบอก

     

              แต่ทุกทีถ้าพวกเราสามคนอยู่ด้วยกันยังไงพวกผู้หญิงก็ต้องเหล่ๆพวกเราคนใดคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยแหล่ะ แต่นี่.....เฮ้อ! ชักไม่มั่นใจในความหล่อของตัวเองซะแล้ว ริวยังพูดล้อเล่นด้วยนิสัยมีอารมณ์ขันอยู่เสมอ

     

               แต่แบบนี้ ก็น่าสนใจดีแฮะ ริวพูดยิ้มๆ พวกนายสองคน ฉันบอกก่อนนะมิชิโยะจังฉันจอง อย่ามายุ่งล่ะ

     

               เชิญ ทั้งสองพูดพร้อมกัน โดยยาโตะเสริมเล็กน้อย หน้าตาก็ธรรมดา แถมดูนิสัยห่ามๆ แปลกๆแบบนั้นขอผ่านล่ะ

     

                ขอให้มันจริงเถอะ ริวพูด พร้อมทั้งๆสามคนแยกย้ายกันกลับเข้าห้องของตัวเอง

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

              เช้าวันรุ่งขึ้น

     

                จากเดิมที่เป็นเป้าสายตาอยู่แล้วมาทีนี้ยิ่งหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก ก็ดูซิพวกผู้หญิงในหอหันมาจ้องกันเป็นตาเดียวแถมไม่ได้จ้องแบบธรรมดาแถมรังสีอำหิตแถมมาให้อีกต่างหาก (TOT นู๋ป่าวไปทำไรพวกเขาน๊า ยังไมเคยย่องเข้าไปลักหลับเขาด้วยอ่ะ TOT) - -

     

              อยู่นั่นไง เสียงริโอะดังมาแว่วๆในขณะที่ฉันกำลังจะเดินออกจากหอเพื่อรีบไปโรงเรียน

     

              เป็นไงบ้างจ๊ะ ดังใหญ่แล้วนะเนี่ยเพิ่งย้ายมาแท้ๆแต่กลับเนื้อหอมมีหนุ่มมาส่งถึงหอแถมยังเป็นสามหนุ่มสุดฮ็อตของโรงเรียนเราอีกด้วยนะเนี่ย ฮิๆ ริโอะแซวอย่างสนุกปาก

     

              หง่ะ...เลือกพูดเรื่องนี้ดีกว่ามั๊ย สงสารตัวเองจะแย่อยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อวานนี้เบื่อเลยออกไปเดินเล่นคงไม่ต้องพบโศกนาถกรรมแบบนี้หรอก ฉันพูดทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ เมอิกับโตโกะก็เข้ามาปลอบอย่างปลงตกกับเพื่อนใหม่ของพวกเธอ

     

              แล้วเรื่องมันยังไงล่ะถึงได้รู้จักแถมสนิทสนมกับสามหนุ่มฮ็อตขนาดนั้น? ริโอะยังคงสงสัยยิงคำถามมาต่อ และดูท่าทางเพื่อนอีกสองคนของเธอก็ดูจะอย่างรู้ด้วยเหมือนกัน ฉันจึงเล่าเรื่องเมื่อวานให้พวกเธอฟัง((แต่ละที่ว่าไปนั่งมองสาวเอาไว้ -...-))

     

              เฮอะๆ แบบนี้ก็แย่หน่อยล่ะนะ เพราะสามคนเนี้ยไม่ได้ฮ็อตเฉพาะในโรงเรียนซะด้วยซิ ไปไหนมาไหนก็พกอาวุธติดตัวกันโดนรุมไว้ด้วยแล้วกันนะ โห! คำพูดคำจาให้กำลังใจกับมากเลย - - สรุปแล้วคือต้องช่วยตัวเองบวกกับทำใจซินะเนี่ย

     

              พวกเราสี่คนคุยกันไปเรื่อยๆจนเดินมาถึงโรงเรียน พวกริโอะพาฉันไปที่บอร์ดจัดห้องเพื่อดูว่าพวกเราอยู่ที่ห้องไหน และดูว่าพระเจ้าแห่งประเทศญี่ปุ่นเกลียดฉันแหง๋ๆ ถึงจับฉันแย่งห้องกับทั้งสามคนนั่นโดยฉันได้อยู่ที่ห้อง 2 และทั้งสามคนอยู่ห้อง1ด้วยกันหมด ไม่นะฉันอยากอยู่ห้องเดียวกับคนรู้จักอ่า!!!!!!!

     

              โอ๋ๆ อย่าร้องน๊า ยังไงห้องก็อยู่ติดๆกันนั่นแหล่ะแล้วเดี๋ยวพักเที่ยงพวกเราไปหานะ ริโอะเข้ามาปลอบ ซักพักที่บริเวรหน้าประตูก็เกิดฮือฮาขึ้นมา และฉันคิดว่าพอจะรู้ด้วยว่าเพราะอะไร

     

              นั่นไง มิชิโย๊จางงงง!!!” เสียงของนายริวดังมาแต่ไกลก่อนเพื่อน ชายหนุ่มทั้งสามคนเดินตรงมายังพวกเรา เป็นไงรู้จักห้องรึยัง อันนี้ยาโตะถาม

     

              อืม รู้แล้วว่าอยู่ห้อง 2 แต่ยังไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนเดี๋ยวจะไปหาห้องกับเพื่อนน่ะ อ่า...คนนี้ริโอะจัง นี่ก็เมอิจัง ส่วนอีกคนชื่อโตโกะจัง น่ะ แนะนำแบบนี้คงไม่ผิดอะไรล่ะนะ ก็ฉันจำชื่อต้นของทั้งสามคนไม่ได้อ่ะ - -

     

              สวัสดีค่ะรุ่นพี่โอฮิระ รุ่นพี่ฮาชิซึ รุ่นพี่ยาซาวายะ ทั้งสามสาวพูดทักทายพร้อมกัน

     

              รู้สึกว่าเพื่อนๆเธอจะมีมารยาทกับรุ่นพี่มากกว่าเธอเยอะเลยนะ นายยาโตะหันมาพูดกัดฉัน - -* ชาติก่อนนายเกิดมาเป็นรองเท้าส้นสูงรึไงยะกัดเก่งจริง

     

              งั้น อรุณสวัสดิ์นะคะรุ่นพี่ขา~~~ อ้วก!!!” เลี่ยนเป็นบ้า

     

              แล้วไอ้ อ้วกท้ายประโยคนั่นใส่มาทำไมเนี่ย ยาโตะว้าก

     

              เฮ้อ! ไม่รู้พวกผู้หญิงเขาตาถั่วกันรึไงถึงมากรี๊ดนายอยู่ได้เนี่ย นิสัยขี้โวยวายอย่างกับผู้หญิง มิชิโยะหันไปพูดยิ้มเยาะ

     

              นี่เธอ... เจ้าบ้ายาโตะจะหันมาต่อว่าแต่ต้องโดนขัดตาทัพซะก่อนเมื่อเสียงออดดังให้เข้าพิธีปฐมนิเทศ ไม่ว่าที่ประเทศไหนๆก็คงจะต้องมีเหมือนๆกันนั่นแหล่ะนะ

     

              หลังจากพีธีปฐมนิเทศผ่านไปด้วยอาการง่วงนอนของมิชิโยะและนักเรียนอีกหลายๆคน นักเรียนทุกคนต่างก็แยกย้ายกันเข้าห้องเรียน โดยนักเรียนแผนกวิทย์และศิลป์จะแยกตึกเรียนกัน จะมีก็แต่เด็กม.ปลายปี3 ที่จะเรียนรวมอยู่ที่ตึกเดียวกันแต่ก็อยู่กันคนล่ะชั้น

     

              ชั่วโมงแรกจะเป็นโฮมรูม คาบแรกของการเปิดเทอมอาจารย์จะให้นักเรียนแนะนำตัวกันเสียก่อนซึ่งส่วนใหญ่แต่เดิมก็เป็นนักเรียนม.ต้นทีเรียนที่นี่แต่เดิม ส่วนใหญ่จึงรู้จักกันอยู่แล้ว เด็กในห้องแนะนำตัวกันเฮฮาอย่างติดตลกไม่ค่อยอายเพราะคุ้นๆหน้ากันอยู่แล้ว จนมาถึงมิชิโยะ เธอแนะนำว่าเป็นนักเรียนทุน((แต่ไม่ได้บอกเรื่องอายุ)) และชื่อของตัวเองเท่านั้น

     

              ชั่วโมงเรียนที่เข้มงวดผ่านพ้นไปถึงตอนเที่ยง พวกริโอะจังก็มาหามิชิโยะที่ห้องเรียน

              เป็นไงบ้างสำหรับครึ่งแรกของชีวิตในห้องเรียนจ้ะ เมอิถามขณะที่ทั้งสี่คนกำลังนั่งอยู่ที่โรงอาหาร

     

              ก็ดี แต่ก็ลำบากนิดหน่อยตรงภาษาล่ะนะขนาดพวกอาจารย์ช่วยอธิบายให้แล้วแต่ก็ยังงงๆอยู่อ่ะ มิชิโยะตอบ

     

              อืม แบบนี้จะเรียนทันคนอื่นเขารึเปล่าน่ะถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามพวกเราก็ได้นะ โตโกะถามด้วยความเป็นห่วง

     

              ขอบใจจ้า

     

              ขณะที่พวกเราคุยกันอย่างออกรส ก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา นี่เธอใช่เด็กที่เขาว่าเป็นนักเรียนทุนอะไรนั่นรึเปล่าน่ะ ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ

     

              ฉันค่ะ พวกคุณมีธุระอะไรหรือคะ? มิชิโยะหันไปพูดด้วยน้ำเสียงใสซื่อ

     

              เฮอะ แม่เนี่ยหรอที่ว่าไปอ่อยพวกยาซาวายะคุงนะ ดูยังไงก็เด็กกะโปโล หรือว่าไปตื้อจนพวกนั่นยอมนอนด้วยล่ะ แม่หนึ่งใน5สาวพูด

     

              มิชิโยะได้ยินประโยคที่ไม่พึงประสงก็รู้สึกใจเต้นระรัว อยากกระโดดถีบให้มันรู้แล้วรู้รอด -.,- แต่ไม่ได้ๆต้องรักษาภาพพจน์ไว้หน่อย

     

              นี่ๆริโอะจัง พวกป้าๆพวกนี้เขาพูดอะไรหรอฉันฟังภาษาแสลงไม่ออกน่ะ พอดีว่าไม่ได้เรียนพวกภาษาแบบนี้มา ช่วยแปลให้หน่อยซิ มิชิโยะทำเป็นไม่รู้เรื่องแถมแอบกัดไปนิดหน่อย

     

              กรี๊ด! เมื่อกี๊แกเรียกใครว่าป้ายะ คราวนี้5สาวกรี๊ดออกมาพร้อมกัน

     

              อ้าว! ไม่ใช่ป้าหรอคะ? ขอโทษด้วยค่ะ พอดีเห็นแต่งหน้ากันซะหนาเต่อะยังก่ะที่พวกป้าๆเขาแต่งกันเพื่อลบรอยตีนกาน่ะค่ะ ยังคงทำตาบ่องแบ๋วใสซื่อได้อย่างเนี่ยนๆ -...-

     

              แก ปากดีนักนะ หนึ่งใน 5 สาวง้างมือขึ้นหมายจะตบหน้าเด็กสาวนักเรียนทุน แต่ก็อยู่ๆมือของเจ้าหล่อนก็ถูกล็อกไว้ พอหันไปมองก็เจอกับ สามหนุ่มที่(เขาว่ากันว่า)ฮ็อตที่สุดในโรงเรียน

     

              นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ยาโตะ นั่นเองเป็นคนจับมือของสาวนักตบเอาไว้ทันก่อนจะมาประทับลงบนหน้าของนักเรียนทุนนามว่ามิชิโยะ -...-

     

              วะ...ว้าย! ฮาชิซึคุง ไม่มีอะไรจ้ะแค่มาทักทายเด็กนักเรียนทุนเฉยๆน่ะ เจ้าหล่อนลนลานรีบแก้ตัวพันละวัน พวกเพื่อนๆของเจ้าหล่อนก็ช่วยกันแก้ตัวก่อนจะรีบเผ่นกันไปจากตรงนั้น

     

              เฮ้อ! พวกผู้หญิงนี่น่ากลัวเป็นบ้า ริวพูดเปรยขึ้นมา

     

              ใช่ พวกผู้หญิงนี่น่ากลัวเนอะ มิชิโยะพูดเสริม

     

              แล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงรึไง พูดแบบนั้นน่ะ ประโยคนี้นายซาโตชิหันมาพูด

     

              อืม...สงสัยจะไม่ใช่ล่ะมั้งยังสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันแฮะ จะพิสูจน์ดูมั๊ยล่ะ มิชิโยะหันไปพูดกับซาโตชิประโยคนี้เล่นซะคนที่ได้ยินสำลักไปตามๆกัน โดยเฉพาะนายซาโตชิที่เป็นฝ่ายโดนชวนไปพิสูจน์

     

              จะบ้าเรอะพูดออกมาได้ ยาโตะหันมาว้าก

     

              อ้าว ก็ให้ไปพิสูจน์ตรวจดูโครโมโซมไง ดูซิว่าเป็น XX หรือ XY ถ้าXX ก็เป็นผู้หญิงแต่ถ้า XY ก็เป็นผู้ชาย แล้วถ้านอกเหนือจากนั้นก็...

     

              พอๆ พอแล้วเข้าใจแล้ว ซาโตชิรีบพูดดักขึ้นมา

     

              พวกนายเนี่ยคิดอะไรกันไปถึงไหนล่ะเนี่ย ฮ่ะๆ มิชิโยะหันไปพูดแหย่โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าที่เธอพูดเล่นไปน่ะเขาได้ยินกันทั้งโรงอาหาร *-*

     

              ช่างเถอะ กินต่อดีกว่า อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อยู่ๆมิชิโยะก็แหกปากร้องลั่น ((นางเอกนะยะมาดหายไปไหนโหมดดดดดด))

     

              เป็นอะไรไปมิชิโยะจัง โตโกะรีบหันมาถามด้วยคิดว่าหรือพวกเมื่อกี้จะทำอะไรไว้โดยที่พวกเธอไม่ได้สังเกต

     

              บ่ะ...บ่ะ..บะหมี่ของฉัน ดูซิเส้นอืดหมดแล้วแบบนี้ก็ไม่อร่อยน่ะซิ เพราะพวกนั้นแท้ๆเลย เอาค่าอาหารกลางวันช้านคืนมานะ แง!” มิชิโยะโวยวาย แต่ก็ต้องจำใจกินบะหมี่เส้นอืดๆพวกนั้นอย่างเสียไม่ได้ ((เสียดายตังอ่ะ))

     

              โห นี่เธอร้องซะไม่เหลือความเป็นผู้หญิงเลยนะเนี่ย นายยาโตะหันมากัด

     

              หง่า....มิชิโยะจังเดี๋ยวเราไปซื้อมาให้ใหม่มั๊ยริวเสนอ

     

              เหอะๆ มีคนเสนอแล้วมีรึ มิชิโยะจะไม่สนอง ขอบใจจ้ะ ว่าเสร็จนายริวก็วิ่งไปซื้อราเมนมาให้ใหม่ แต่พอกลับมาเจ้าชามเก่ามันก็ว่างเปล่าไปซะแล้ว

     

              หง่า...มิชิโยะจังยังกินไหวอีกหรอ นายริวถามอย่างงงๆ ส่วนนายซาโตชิกับนายยาโตะหันมามองอย่างตะลึง

     

              ไหว ทำไมหรอ?ว่าแล้วก็พิสูจน์ด้วยการก้มหน้าก้มตากินอย่างมีความสุขโดยไม่สนใจสายตาประชาชีเพื่อนพ้องทั้งหลาย

     

              ปกติผู้หญิงเขากินกันขนาดนี้หรอ ซาโตชิหันไปถามพวกริโอะ ซึ่งทั้งสามคนก็ส่ายหน้ารัวเร็วเป็นคำตอบ ฉันว่ายัยนี่ไม่ใช่ผู้หญิง นายยาโตะพูด เฮ้!ยาโตะอย่าพูดแบบนั้นดิ กินเยอะไม่เห็นเป็นไรเลยสุขภาพดีออก นายริวพูดแก้ให้แบบน้ำขุ่นๆ แต่ดูท่าว่าเจ้าตัวหัวข้อสนทนาจะไม่ได้สนใจก้มหน้าก้มตากินลูกเดียวจนกินเสร็จนั่นแหล่ะถึงเงยหน้าขึ้นมาคุยก่ะคนอื่นเขา

     

              ถ้าไม่ได้เป็นผู้หญิงก็ดีซิจะได้ไม่ต้องลำบาก มิชิโยะพูดเปรยขึ้น

     

              ลำบาก? ลำบากยังไง? ยาโตะหันมาถามอย่างสงสัย

     

              อ้าว! อย่างน้อยพวกผู้ชายคงไม่ต้องลำบากทุกเดือนๆล่ะนะ มิชิโยะหันมาบอก ตั้งแต่ท่อนนี้พวกผู้หญิงก็หน้าแดงซ่านกันทุกคนซึ่งรวมไปถึงซาโตชิด้วยที่ดูจะหัวไวกว่า นายสมองช้าทั้งสองคนที่ทำหน้าทำตาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

     

              แล้วมันยังไงเล่า!” นายยาโตะก่ะนายริวพูดขึ้นมาพร้อมกัน

     

              ให้พูดมันจะดีหรอ มิชิโยะหันไปทางพวกริโอะที่พอได้ยินก็รีบส่ายหน้าพันละวัน ส่วนซาโตชิได้แต่กลุ้มกับความซื่อบวกบื้อของเพื่อนสนิททั้งสอง

     

              อืม งั้นไว้นายสองคนไปถามยาซาวายะคุงเองก็แล้วกันนะท่าทางจะรู้เรื่องที่พูดไปน่ะ มิชิโยะหันไปยิ้นเจ้าเล่ห์ให้กับชายหนุ่มที่โดนโยนปัญหามาให้เต็มๆ อืม...แต่เมื่อกี้น่ะขอบคุณนะ

     

              หืม? เรื่องอะไร? ยาโตถาม

     

              ก็ที่เมื่อกี้ช่วยห้ามยัยป้านั่นไม่ให้เอาขาหน้ามาฟาดฉันไง พวกแบบเนี้ยถ้าอยู่ตัวคนเดียวก็คงทำอะไรไม่เป็นหรอกดีแต่เห่า ไม่ก็หมาหมู่ มิชิโยะพูดเรียกเสียงฮาให้กับเพื่อนๆที่พูดเปรียบคู่กรณีซะเสีย

     

              ฮ่ะๆ เข้าใจพูดเปรียบเทียบนะเนี่ย ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าแบบนี้จะโดนหาเรื่องอีกมั๊ยล่ะเนี่ย ยาโตะพูด

     

              แบบนี้คงไม่เลิกง่ายๆหรอกค่ะ เดี๋ยวพอมีโอกาสก็คงจะมาหาเรื่องอีก เมอิบอก

     

              แบบนี้ก็แย่น่ะซิ ริวพูดพร้อมส่งสายตาประมาณว่าแบบนี้จะทำไงดี

     

              ก็ไม่เห็นต้องทำไง อยากมาหาเรื่องก็มา แต่เวลามาก็อย่าคิดว่าจะให้โดนทำอยู่ฝ่ายเดียวก็แล้วกัน มิชิโยะพูด

     

              เฮ้ๆ พวกนั้นมีกันตั้งห้าคนไม่ใช่หรอแล้วพวกเธอจะสู้ได้หรอ ยาโตะถาม

     

              ใครบอกล่ะ พวกริโอะไม่มีเอี่ยวด้วยซักหน่อย ขืนมาหาเรื่องพวกริโอะจังซิเป็นเรื่องแน่ แล้วก็นะ ในบางครั้งสุนัขจิ้งจอกก็กลายเป็นลูกแกะได้  ในขณะเดียวกัน ลูกแกะก็กลายเป็นสุนัขจิ้งจอกได้เหมือนกัน คิก คิก มิชิโยะหันไปบอกโดยส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เป็นของแถมก่อนจะเดินไปหาที่นั่งคุยกับพวกริโอะตามประสาผู้หญิ้งผู้หญิง

     

              นายว่าไง ที่ยัยนั่นพูดน่ะชั้นว่ามันทะแม่งๆไงไม่รู้ ป่ะ? ยาโตะหันไปสะกิดถาม ซาโตชิเพราะคาดว่าถึงถามเจ้าริวไปก็เท่านั้น

     

              นั่นซินะ ซาโตชิตอบพร้อมกับเรียกให้ริวที่ท่าทางจะงงกว่าเพื่อนให้กลับห้องแล้วดูเหมือนว่าริวจะนึกคำถามที่ซาโตชิไม่อยากตอบมากที่สุดข้อนึงขึ้นมาได้

     

              ว่าแต่ ที่มิชิโยะจังบอกว่าผู้หญิงลำบากทุกเดือนนั่นน่ะมันอะไรหรอ? ริวถามขึ้นมา ซาโตชิก็หน้าแดงขึ้นมาทันที ม่ะ..ไม่รู้ ชั้นไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหล่ะอยากรู้ก็ไปถามยัยนั่นเอาเองแต่ถึงจะตอบแบบนั้นทั้งริวและยาโตะก็ร้องถามไปตลอดทางโดยซาโตชิก็ไม่พูดอะไรอีก

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×