คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Part 10: The Tranquility of Changed Time
(ขอโทษน้าที่ไม่ได้อัพเดทนานมากๆ)
.........................................................................................................
.................................................................
....................
นกร้องเพลงขับขาน ยามย่ำรุ่ง
สาวผมทองค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น... เสียงๆ หนึ่งลอดผ่านเข้ามาในหูของเธอ... ช่างเป็นเสียงที่ไพเราะซะจริง...
เตียงที่ทั้งหอม และนุ่ม นอนสบายอย่างนี้... เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะ...
เรอิสค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง... ทำไมเธอถึงรู้สึกหนักหัวแปลกๆ นะ... และสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้า คือหญิงสาวผมสีม่วง นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง...
เรอิสค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง... เพราะอาการหนักหัวของเธอ พึ่งตื่นมา เธอก็ไม่ได้อยากจะสะดุดล้มเจ็บตัวเอาแต่เช้าหรอกนะ...
สาวผมทอง นัยน์ตาสีเขียว เดินอย่างระมัดระวังและช้าๆ เบาๆ ด้วย... เพราะเธอก็ไม่ได้อยากจะปลุกซัลเวรีนให้ตื่นตอนนี้หรอก...
...เช้านี้เป็นเช้าที่แสนสุขและสงบ... เธอจำไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนเธอไปทำอะไรมาถึงได้มาเป็นแบบนี้...
เธอค่อยๆ เดินไปตามทางเดินที่เธอไม่เคยได้เดินมาก่อน... และเธอก็เดินไปโดยไม่ได้สงสัยว่าทางเดินนี้จะพาไปที่ใด... แต่เรอิสรู้สึกว่าเธออยากจะเดินต่อไปเรื่อยๆ
เรอิสเดินมาเรื่อยๆ จนเธอสังเกตุเห็นบันไดข้างๆ...
เธอค่อยๆ หันไป และก้าวขาลงไปอย่างช้าๆ และระมัดระวัง... แต่หัวของเธอที่รู้สึกจะเริ่มหนักเกินไป ทำให้หนังตาของเธอหนักขึ้นและเสียสมดุล...
โครม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.........กลิ้งตกบันไดลงมานอนแผ่หรา ทำหน้ามีความสุขอยู่ที่ปลายตีนบันได...
"อ้า... สบายจังเลย..." เรอิสพูดออกมาอย่างงัวเงีย... และคำพูดนี้ก็ทำให้เกราะกั้นเสียงหัวเราะของคนแถวนั้นพังทลายลงเป็นผุยผง... และเสียงหัวเราะก็ฮาดังสนั่นเมือง...
"...อ้าว... เคย์จัง... ตลกอะไรเหรอ?..." เรอิสพลิกตัวทางขวาไปนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาเคย์จังที่ฮาแตกขำกลิ้งอยู่กับพื้น... และด้วยความไม่รู้ตัวของเรอิสเองนั้น... บวกกับน้ำเสียงที่ง่วงๆ งัวเงียๆ ที่ยืดๆ ยานๆ เบาๆ และฟังดูปัญญาอ่อนแบบนั้นของเรอิส ก็ยิ่งเป็นเชื้อไปปะทุเอาไคเลนที่อตนนี้ไม่ได้แค่ขำกลิ้งอยู่กับพื้นอย่างเดียว... เธอถึงกับชักดิ้นชักงอ...
"กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" อีกเสียงที่ดั่งลั่นสนั่นเมือง...
"ทั้ง 2 คนเป็นอะไรไป!!! ถูกใครทำร้ายมา!!!" สาวผมแดงมัดแกละ 2 ข้าง มีเนียนั้น ตกใจกรี๊ดลั่น และเผลอปล่อยถาดที่มีถ้วยซุปกับแก้วใส่น้ำอะไรบางอย่างตกพื้นไป... แต่ตอนนี้เธอก็ไม่ได้สนใจมันแล้ว กลับโผเข้าไปเขย่าดูอาการของคริสตัล ไมเดนทั้ง 2 อย่างตื่นตระหนก...
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ!" เลเวฟาห์ที่แตกตื่นหน้าซีเรียสในชุดนอนหมีตุ๊กตาหนูแฮมสเตอร์โผล่ออกมาที่ทางเดินชั้น 2 ด้วยความรวดเร็ว!! ซึ่งยิ่งทำให้อาการฮาแตกของเคย์จังยิ่งเข้าขั้นวิกฤติ
"แย่แล้ว!! เคย์จังอาการหนักขึ้นแล้ว!!! แบบนี้ต้องเป็นคำสาบ! คำสาบแน่ๆ เลย!!!" มีเนียเริ่มวิตกหนัก!
"ห๊ะ!! คำสาบ!!" เลเวฟาห์แทบช็อคเมื่อได้ยินคำนั้น!!
"ต้องรีบพาเคย์จังไปรักษาด่วน!!" มีเนียจับแม่สาวผมน้ำตาลไหม้มัดเชือกแล้วลากไปเพื่อไปรักษา... ก่อนที่เชือกจะขาด...
"เชือกขาด!! รอยถูกตัด! คำสาปแน่ๆ เลย!!" มีเนียเริ่มตื่นตระหนก!! ก่อนจะพบกับความจริงเบื้องหลังว่าใครคือผู้ตัดเชือก...
"ไม่ได้นะ!" เลเวฟาห์เริ่มตาเป็นประกายน่ากลัว ไอดำและออร่าแห่งความสยองขวัญโพยพุ่งออกมาจากตัวเธอในชุดนอนหมีแฮมสเตอร์น่าตาน่ารักสีส้มๆ น้ำตาลๆ สลับขาวตัวนั้น และในมือแฮมสเตอร์ของเธอนั้น คือมีดผ่าตัดอันคบกริบดีๆ นี่เอง...!!
"เลเวฟาห์จัง! เป็นอะไรไปน่ะ!! ม่ายน้า!!!~~~~" มีเนียเริ่มกรีดร้องอย่างสติแตก น้ำตาร่วง ไหลพรากๆ
"คำสาบแบบนี้น่ะ... แสดงว่าจะต้องมีตัวอะไรอยู่ในช่องท้องและลำไส้แน่ๆ!! แบบนี้เราต้องชำแหละพิสูจน์ แล้วดึงคำสาบออกมา!!" เลเวฟาห์เริ่มมาร์กรอยผ่าตัดที่ท้องของไคเลน ซึ่งตอนนี้ได้หัวเราะค้างช็อคไปแล้ว...
"หรือว่า!! เลเวฟาห์จะโดนคำสาบอีกคน!!!" มีเนียตกใจในความจริง(ที่คิดไปเอง)ที่ตนพึ่งสรุปได้
"เธอ! สมุนของพวกเทพสินะ!!" เลเวฟาห์หันปลายมีดผ่าตัดของเธอไปทางมีเนีย พร้อมปล่อยออร่าดำมืดสยองขวัญไปหามีเนีย
"...เวอร์ลูชจ์[Verleugch]..." ทันใดนั้นเอง... เสียงเบาๆ เสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นมา ทำลายความโกลาหลยามเช้านี้...
"อ...เออะ... ซัลเวรีนจัง... เป็นอะไรไปเหรอ?" มีเนียที่กำลังถือกริชง้างจะแทงเลเวฟาห์หันหน้ามามองซัลเวรีนผู้ที่ตื่นมาจ้องมองดูเหตุการณ์ตั้งแต่โครมแรกที่เรอิสกลิ้งตกบันได... เลเวฟาห์เองก็หันมามองซัลเวรีนด้วยเช่นกัน... หน้าของทั้งคู่บอกให้รู้ว่า... พวกเธอกำลังจะซวยสุดๆ...
ตราเวทสีม่วงปรากฏขึ้นบนพื้น... สาวน้อยตุ๊กตาผู้มีผมสีม่วงและนัยน์ตาที่มีสีเข้มออกแดงกว่านั้นแผ่รังสีอำมะหิตละรัศมีออร่าแห่งความน่าสยดสยองและลี้ลับพิศวงเกินกว่าที่ทั้งเลเวฟาห์และมีเนียจะจินตนาการถึงได้...
"เลิกบ้า...กันได้แล้ว..." สิ้นเสียงนั้นเอง... แสงสีม่วงและดำก็เจิดจรัสเจิดจ้าไปทั่วทั้งห้อง... ไม่สามารถบอกได้อีกว่าทั้ง 2 คนนั้นโดนอะไรบ้าง... เพียงแต่... ร่างของทั้ง 2 คนนี้เหลือรอดมาเป็นซาก... ที่ดูไม่ได้เลย...
................................................................................................
"ซัลเวรีน..." เลเวฟาห์ถามอย่างเบาๆ
"มีอะไรเหรอ?" ซัลเวรีนกำลังนั่งจิบชาในแว่นตาของเธอ... ในมือของเธอ ถือหนังสือเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่ง...
"เธอรู้สึกอะไรบ้างรึเปล่า?" เลเวฟาห์เอ่ยถามด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด...
"รู้สึก? อะไรล่ะ?" ซัลเวรีนชักสีหน้าสงสัยขึ้น...
"การเคลื่อนไหวน่ะ..." เลเวฟาห์พูดด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อยเหลือเกิน...
"การเคลื่อนไหว... งั้นสินะ..." ซัลเวรีนค่อยๆ วางถ้วยชาของเธอลงอย่างช้าๆ
"การเคลื่อนไหวที่น่าเวียนหัวที่สุดที่ต้องถูกมัดแขวนเพดานดิ่งหัวลงพื้นแล้วแกว่งไปแกว่งมาเนี่ย..." เลเวฟาห์บ่นอย่างทรมานที่ถูกจับมาแขวนไว้ทำโทษกับมีเนีย...
"มันก็... ไม่ได้โหดอะไรขนาดนั้นนะ..." มีเนียหันมาคุยจากข้างๆ
"นั่นสิ..." มิโกะเห็นด้วยกับที่มีเนียพูด พร้อมทั้งผลักเลเวฟาห์ให้แกว่งไปมาเรื่อยๆ ต่อ
"จริงด้วยนะ..." เมย์ก็เห็นด้วยเหมือนกัน ในขณะที่เธอก็ผลักแกว่งมีเนียไปมา...
"มันก็จริง... แต่.............." เลเวฟาห์ก็เริ่มที่จะเห็นด้วยกับคนอื่นๆ แต่คำว่า "แต่" ของเธอนั้นดึงความสนใจของทุกคน... ความเงียบก็เริ่มครอบงำ...
"ทำไม................................................................... ทำไม.......... ทำไมต้องมาโรยเกลือด้วย!?" เลเวฟาห์ถามด้วยน้ำเสียงที่เบาๆ อย่างเดิม แต่ก็แฝงด้วยความโกรธด้วยเล็กน้อย...
"ก็หอยทากน่ะ... มันต้องเจอแบบนี้นิ่..." ซัลเวรีนตอบอย่างเบาๆ พร้อมนั่งอ่านหนังสือต่อไป ท่ามกลางเสียงฮาแตกของเคย์จังที่พึ่งตื่นมาหัวเราะใหม่อีกครั้งเมื่อเห็นสภาพเพื่อนของเธอ จากการที่พึ่งหัวเราะช็อคค้างไปเกือบ 1 ชั่วโมง... และเรอิสที่ยังคงนอนหลับได้หลับดีท่ามกลางเสียงหัวเราะของไคเลน...
"ฮ่าๆๆ หอยทากๆ" เมย์เริ่มทิ้งมีเนียแล้วมาแกว่งเลเวฟาห์เล่นแทน...
"หอยทากๆ" มิโกะก็เอากับเขาด้วย...
"ว่าแต่... มีเนีย" ซัลเวรีนหันไปถามมีเนียด้วยสายตาที่สงสัย พร้อมแก้วใบหนึ่งอยู่ในมือ... แก้วใบนั้น... แก้วที่มีเนียพึ่งทำน้ำอะไรบางอย่างหกไปหลังจากที่พบสภาพเคย์จังที่หัวเราะค้างและเรอิสที่กลิ้งตกบันไดมาหลับ
"อ๊ะ! จริงสิ... กะจะเอาไปให้ดื่มพอดีน่ะ... เป็นโซดา..." มีเนียตอบอย่างมีความสุข... เธอรู้สึกภูมิใจในโซดาของเธอจริง
"แล้วทำไม... พรมที่พื้นถึงละลายเลยล่ะ?" ซัลเวรีนยิงคำถามต่อ
"....อ่าว...อ๋อ... ชั้นกลัวว่าโซดาเฉยๆ มันจะไม่อร่อยน่ะสิ ก็เลยเติมนมเปรี้ยวกับช็อคโกแล็ตต้มลงไป........" คำตอบของเธอทำให้ทุกคนเงียบฉี่ หันมามองที่เธอพร้อมกันอย่างตกใจและเอือมระอา... ก่อนที่ซัลเวรีนจะวางแก้วน้ำชาของเธอลง แล้วลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง...
"แง้!!!!!!!!!! ทำไมล่ะซัลเวรีนจัง!!!!!" มีเนียถูกแก้เชือกย้ายมาห้อยไว้กับโคมระย้าที่กลางห้องโถง... และที่พื้นนั้น มีหม้อต้มยักษ์ที่ไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไปบ้าง... แต่สีมันออกแดงๆ เขียวๆ ฟ้าๆ ไม่น่าพิศวาสเอาซะเลย...
"งั้นเดี๋ยวชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ..." เลเวฟาห์ที่พึ่งพ้นโทษ รีบแจ้นไปอาบน้ำล้างเกลือออกจากตัวเธออย่างเร่งด่วน............................................ในชุดหนูแฮนสเตอร์นั่น... = ="
และแล้ว... สาวน้อยผมทองของพวกเราก็ตื่นขึ้นมาได้จริงๆ ซะที...
"อา~รูน~ซา~หวัด~~~~~!" เรอิสลุกขึ้นมาทักทายทุกคนด้วยเสียงอันยืดยาว...
"นอนกินบ้านกินเมืองชะมัดเลย..." ลีฟที่เดินมาจากห้องไหนก็ไม่รู้ เดินผ่านมาจิกเรอิสเล็กน้อย...
"อะไรกันเล่า..." เรอิสนั่งเกาหัวแกร่กๆ ก่อนจะอ้าปากหวอหาวอย่างไม่เกรงใจผู้ใด...
"...จะว่าไปเนี่ยะ... ชั้นก็จำอะไรตอนเมื่อคืนไม่ได้เลยนะ... จำได้แค่ว่าตะโกนอะไรไม่รู้ไปเมื่อคืน..." เธอพูดด้วยเสียงแหบๆ คงเพราะเจ็บคอจากการที่แหบปากโวยวายอย่างคนเมาเมื่อคืน... เรอิสเองก็เจ็บหัวด้วยเช่นกัน เลยเอามือมากุมไว้...
"...คงจะจำได้หรอกนะ..." เลเวฟาห์เดินออกมา(อย่างเนียน) ในเสื้อยืดสีดำออกน้ำเงินนิดๆ ที่ใหญ่กว่าตัวเล็กน้อย มีลายกลีบดอกไม้ 7 กลีบสีฟ้าจางอ่อนๆ แบบโมโนโทนดอกใหญ่ที่เยื้องลงซ้ายล่างเล็กน้อย กับกางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าบู้ทส้นสูงสีดำ เธอพาดเสื้อโค้ทตัวยาวสีกรมท่าไว้ที่แขนขวา ซึ่งเป็นข้างที่มือกำลังจับหมวกแบนคล้ายหมวกกอล์ฟใบใหญ่สีเดียวกับโค้ทอยู่ ด้วยความมาดมั่นดั่งเคย ผมสีดำยาวสลวยของเธอก็ยังคงตรงยาวสลวยดั่งที่มันเคยเป็น และคำพูดของเธอก็ทำเอาเรอิสตะลึงตัวเองที่เมื่อคืนเธอไปทำอะไรมาถึงได้จำเรื่องจำราวไม่ได้ขนาดนี้...
"เธอน่ะนะ! เมามากเลย โวยวายซะเสียงดังโหวกเหวก แล้วจู่ๆ เหมือนฟิวส์ขาด ร่วงลงไปจากด้ามค้อนเอง..." เคย์จังที่ช็อกค้างจากการหัวเราะเกินขนาด จู่ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาอธิบายเรื่องเมื่อคืนให้เรอิสฟัง... เหมือนว่าเธอแกล้งช็อกไปเองแล้วแอบฟังอยู่ตลอด...
"นี่โชคดีนะ ที่มีเนียกับเอลเฟออกมาปูกองฟางหรืออะไรสักอย่างนี่แหล่ะ... รองไว้ทันซะด้วยล่ะ..." เมย์อธิบายต่อ...
"เธอไปกินอะไรมาถึงได้เมาอย่างง้าน!" เคย์จังถามเรอิส พร้อมผลักและดึงตัวเรอิสไปมาๆ
"เป็นยันต์ของชั้นเองล่ะ..." มิโกะในชุดนอนที่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่มากๆ นั่งอยู่ที่โซฟานุ่มๆ สีแดงเข้าร่วมวงสนทนา และดึงความสนใจจากทุกคนในห้อง
"เอาไปติดไว้ตอนไหนเหรอ?" เรอิสถามอย่างง่วงๆ
"ก็ตอนที่ชั้นช่วยเรอิสแบกลีฟยังไงล่ะ..." มิโกะตอบอย่างน่ารัก
"เอาไปติดไว้ทำไมเหรอ?" เสียงจากเก้าอี้สีแดงอีกตัวดังขึ้น ซัลเวรีนเริ่มถามบ้าง...
"ก็... ถ้าเรอิสเกิด 'โอเวอร์โฟลว์'(Overflow) มากๆ จะทำยังไงล่ะ?" คำตอบของมิโกะชักอารมณ์มากมายขึ้นมา เมย์จังกับซัลเวรีนนั้นทั้งตกใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน ส่วนมีเนียก็ทำท่าเหมือนเก็ตแล้ว และเลเวฟาห์ที่สนใจกว่าเมื่อกี้อีกนิดๆ ในขณะที่เรอิสกับไคเลน นั่งทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกกัน 2 คน...
"โอเวอร์โฟลว์(Overflow)..." ซัลเวรีนวางหนังสือของเธอลงบนโต๊ะข้างๆ แล้วย้อนทวนคำศัพท์คำนั้นขณะที่กำลังถอดแว่นออก...
"ปฏิกิริยาที่ร่างกายถูกกระตุ้นด้วยแรงกดดันทางจิต กาย และเวทมนต์... ก่อให้เกิดการที่เอสเซ้นท์ไหลเวียนอย่างรุนแรงจนกระทั่งร่างกายไม่สามารถต้านทางพลังงานได้..." ซัลเวรีนอธิบายเพิ่มเติม ให้นิยามของคำศัพท์ที่เธอพึ่งทวนไปเมื่อกี้พลางเช็ดเลนส์แว่นไปพลางๆ
"หมายถึงว่า ถ้าเกิดโอเวอร์โฟลว์ขึ้น เอสเซ้นท์จะไม่สามารถระงับความรุนแรงได้แบบปกติธรรมดา หรืออาจจะทะลักออกมาจากร่างกายงั้นสินะ" เลเวฟาห์เริ่มอธิบายตามความเข้าใจเพิ่มเติม เพื่อคอนเฟิร์มให้แน่ใจในสิ่งที่ตนเองเข้าใจ
"ประมาณนั้นแหล่ะ... บางทีถ้าเลวร้ายมากๆ ก็เป็นเอสเซ้นท์ที่ทะลักออกมามากเกินไปในระดับพลังงานที่สูง ความร้อนที่ได้จากพลังงานนั้นอาจจะเผาร่างกายของเราเองได้ หรือ บางทีก็อาจจะเผลอดึงเอาจิตวิญญาณของเราออกไปด้วยก็มี..." ซัลเวรีนอธิบายเพิ่มเติมต่อ... ฟังดูน่ากลัวเหมือนกันนะ...
"น่ากลัวแฮะ..." เคย์จังบ่นด้วยความกลัว และเสียวอยู่เหมือนกันว่าตัวเองจะเป็นมั้ย... มันก็ฟังดูน่ากลัวจริงๆ นะ...
"ไม่หรอก... อันนั้นเป็นกรณีที่ร้ายแรงน่ะ..." มิโกะเป็นคนพูดบ้าง...
"ใช่แล้วๆ เพราะจริงๆ โอเวอร์โฟลว์สามารถใช้ดึงพลังงานจากเอสเซ้นท์ได้ถึงขีดสุดเลยล่ะ..." มีเนียที่ห้อยอยู่กับโคมระย้าพูดบ้าง...
"อยู่ที่สถานการณ์และสภาวะทางจิตใจ... รวมทั้งร่างกายด้วย... เพราะจริงๆ เอสเซ้นท์นั้นเป็นสิ่งเปราะบาง และอ่อนไหวมาก..." เมย์จังตอบบ้าง
"เอสเซ้นท์มีธรรมชาติที่เดายาก... ด้วยสภาวะอันเปราะบางของมัน ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่มาสัมผัสมันเพียงน้อยนิด ก็สามารถเปลื่ยนแปลงความคงที่ และสร้างทิศทางการหันเหและความรุนแรงได้อย่างคาดไม่ถึง..." เอลเฟเดินออกมาจากประตูทางด้านขวา
"แล้วเมื่อคืนชั้นก็จะโอเวอร์โฟลว์ด้วยเหรอ?" เรอิสเพิ่งจะถาม
"อื้ม... " มิโกะตอบ...
"แต่ตอนนั้นน่ะนะ... ชั้นรู้สึก... สงบนิ่งมากๆ เลย..." เรอิสนึกถึงความรู้สึกตอนนั้น... ตอนที่เธอเดินแบกลีฟตามทางเดินอันเงียบสงัดไป... มันเป็นความรู้สึกที่เงียบสงบ แต่ก็วังเวงไปในตัว...
"แต่... บางที โอเวอร์โฟลว์ก็เกิดแบบไม่มีเงื่อนไขได้นะ..." เมย์จังพูดขึ้นมาอย่างน่าสนใจ
"สรุปแล้วโอเวอร์โฟลว์นี่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตามใจมันใช่มั้ยเนี่ยะ?" เคย์จังได้ยินแล้วบ่นทันที
"ถ้ามีแรงกดดันทางเวทมนต์กับสิ่งแวดล้อมที่เพียงพอ ก็สามารถเกิดได้... มัน... ค่อนข้างจะแตกต่างกันในแต่ละคนน่ะ..." เมย์จังพูดต่อ...
"เอาเถอะ... ไปแต่งตัวได้แล้ว... เดี๋ยวต้องออกไปแล้วล่ะ..." เลเวฟาห์พูด...
"อ่า... แล้วเธอไปเอาชุดจากไหนมา?" เคย์จังถาม
"ชั้นเตรียมไว้ให้แล้ว... อยากใส่อะไรก็หยิบๆ มาเถอะ..." เอลเฟบอก...
"งั้นไปกันเถอะ..." เรอิสจับมือเคย์จัง ส่วนข้างซ้ายจับมือมิโกะ แล้ววิ่งขึ้นห้องไปเลือกชุดมาใส่...
"จริงสินะ... ไปเปลื่ยนด้วยดีกว่า" ซัลเวรีนไปเปลื่ยนชุดบ้าง...
"อ่าว... ไปด้วยดิ่..." เมย์เดินตามไปบ้าง... ก่อนที่เอธินจะดื่มน้ำชาหมดถ้วย แล้วเดินตามไปด้วย...
สักพัก...
"ชุดนี้เป็นไงบ้าง..." เรอิสมาในเสื้อกล้ามสีขาวขอบดำที่มีลวดลายสีดำจางอยู่อย่างเป็นลายคล้ายดอกอะไรสักอย่าง สร้อยคอสีดำสายสั้นเส้นนึง สายยาวอีกเส้นนึง พร้อมแจ็กเก็ตสีดำแกมน้ำเงินตัวบาง ที่ถลกแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก มีวริสแบนด์สีดำอันใหญ่ๆ นิดๆ และกระโปรงสีดำอ่อนจางจนเกือบเทา เข็มขัดสีแดง รองเท้าสีดำยาวถึงกลางน่องพอๆ กับของเลเวฟาห์
"ก็ดีนิ่..." ส่วนเคย์มาในเสื้อเชิ้ตสีขาวทับนอกกางเกงกับเน็คไทหลวมๆ สีแดง และทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำแขนกุดตัวยาวถึงแค่กลางขา พร้อมเข็มขัดสีดำรัดที่ด้านนอกเสื้อกั๊กตรงแถวๆ เอว ส่วนกางเกงเป็นกางเกงสีดำขายาว กับรองเท้าหนังสีดำ ผมสีน้ำตาลถูกมัดรวบไว้ และบนใบหน้าของเธอก็มีแว่นตาสีดำอันเล็กบดบังอยู่พอเห็นดวงตาสีน้ำเงินของเธอ ที่มือทั้ง 2 ข้างมีถุงมือนิ้วกุดไม่หุ้มปลายนิ้วสีดำสวมอยู่
"โห... ทั้ง 2 คนเท่ห์มากเลย..." มิโกะเดินออกมาในชุดรวดแขนกุดสีดำมีกระดุมเม็อใหญ่สีขาว ชุดยาวถึงเหนือเข่า มีเข็มขัดสีขาวรัดที่เอว และผ้าคลุมใหล่สีขาวที่เบี้ยวมาทางขวา แล้วลากยาวลงมามีลูกบอลกลมๆ สีแดงอยู่ที่ปลาย กำไลสีแดง ถุงเท้าสีกรมท่าสลับกันยาวถึงเข่า รองเท้าสีดำขอบปลอกขาว ดูเข้ากับผมสีดำเส้นละเอียดของเธอเสียเหลือเกิน
"มิโกะจังก็น่าร๊ากกก!!!!" เมย์กระโดดเข้ามากอดมิโกะอย่างทันที... เธออยู่ในเสื้อคอเต่าแขนสั้นตัวสั้นแค่เหนือเอวสีดำ พร้อมพันผ้าพันคอสีขาวเส้นยาวใหญ่พาดไว้ด้านหลัง ผ้าคาดหัวจากเดิมกลายเป็นสีกรมท่าแล้วมีแว่นกันลมคาดไว้ด้วย ถุงมือทั้ง 2 ข้างเป็นสีดำนิ้วกุดยาวถึงกลางแขนท่อนล่าง กางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีดำกับเข็มขัดสีแดงใส่ไว้หลวมๆ เส้นเล็กๆ และถุงเท้าสีดำยาวถึงเข่า รองเท้าผ้าใบสีดำ
"อ๊ะ... เอธิน............" เรอิสทักเอธิน... เธอหยุดหันมามองเรอิสด้วยสายตาอันคมกริบ แล้วก็เดินจากไป... เธอใส่เสื้อกล้ามเอวลอยสูงสีเลือดหมูเข้มก่ำเกือบดำ เสื้อกั๊กหนังตัวสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำ รองเท้าบู้ทสีดำสูงถึงใต้เข่ามีข้อเป็นเข็มขัดสั้นๆ ข้างละ 4 เส้น ข้อมือขวาใส่ถุงมือนิ้วกุดสีดำ แต่ข้างซ้ายกลับเป็นเข็มขัดเส้นสั้นๆ 2 เส้นผูกที่ข้อมือ ทำให้เรอิสอดคิดไม่ได้ว่า...............................................
"เท่ห์แฮะ..." เรอิสเผลอพูดออกมาในอารมณ์ค้าง... ซึ่งขัดกับเมย์จังในตอนนี้ที่กำลังคลั่งชุดของเอธินมากจนไปเกาะขาแม่สาวมีหูหมาหางหมาของเราเอาไว้ ลากไปพร้อมๆ กับเอธินซึ่งหน้าตาไม่ได้สนใจอะไร แต่แผ่รังสีความรำคาญออกมาชัดเจน (แต่เมย์จังก็ยังคงเกาะต่อไป...)
"จริงสิ... ยัยตุ๊กตาล่ะ?" เคย์จังถามขึ้นมา...
"อื้ม... จะใส่อะไรดีน้า?" ซัลเวรีนกำลังค้นชุดอยู่เหมือนควานหาสมบัติมูลค่าร้อยล้านที่จมอยู่ในกองเสื้อผ้า... และทันใดนั้นเอง เรอิส เคย์ เมย์ และมิโกะ ก็หันหน้ามามองกัน แล้วทั้ง 4 ก็เกิดประกายแสงที่ตาวิบวับอย่างน่าขนลุก เหมือนว่าทั้ง 4 สื่อสารกันด้วยกระแสจิตรู้เรื่องแล้ว... (ส่วนเอธินกำลังสลบเหมือบนอนกองจมอยู่ในกองเสื้อผ้าที่ซัลเวรีนค้นมาแล้วไม่ใส่)
"อ่าว... มีอะไรเหรอ?" ซัลเวรีนกำลังถือชุดชั้นในลูกไม้สีดำของเอลเฟอยู่นั้นเอง ทั้ง 4 สาวก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามารุมล้อมซัลเวรีน พร้อมจ้องเธอด้วยสายตาเป็นประกายดั่งจะกินเลือดกินเนื้อ(แต่เอธินยังสลบอยู่) แล้วทั้ง 4 ก็กระโจนเข้าใส่ซัลเวรีนทันที!! และเสื้อผ้าก็กระจายไปทั่วห้อง(รวมทั้งคอลเลคชั่นชุดชั้นในของเอลเฟ...)
...............และแล้ว........
ซัลเวรีนก็รอดตายออกมาในชุดสายเดี่ยวสีดำ ตรงช่วงอกเป็นลายกุหลาบ ช่วงเอวรัดรูป ช่วงต้นกระโปรงเป็นดอกกุหลาบสีดำประดับ กระโปรงป่องมีโครง ผ้า 2 ชั้น ทั้งชุดมีขลิบระบายลูกไม้สีขาวที่ขอบ ถุงมือสีดำยาวปิดข้อศอกและก็มีลูกไม้สีขาวที่ขอบ จี้เงินประดับคอขาวๆ ที่เปิดโชว์ ใบหน้าปัดแก้มสีชมพูจางๆ อ่อนๆ ระเรื่อ ริมฝีปากแดงก่ำ เขียนขอบตาประกอบกับดวงตาสีม่วงของเธอ ผมสีม่วงน้ำเงินของเธอยังเป็นหน้าม้า ผมจอนถูกปล่อยทิ้งไว้ ถูกม้วนปลายให้เป็นเกลียวสวย ส่วนผมที่เหลือถูกมัดเกล้าไว้ไม่แน่นมากด้านหลัง
ซัลเวรีนนิ่งค้าง มองดูตัวเองในกระจกสักพัก... เธอเริ่มทำหน้าแปลกๆ ก่อนจะแผ่รังสีมาก่อนปาก...
"นี่เห็นชั้นเป็นตุ๊กตาแต่งตัวไปแล้วเหรอ?" ซัลเวรีนถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อย... แต่ความจริงตอนนี้ มีแต่รังสีที่แผ่ออกมาเท่านั้นล่ะมั้ง? ที่จะไม่ได้ปิดบังไว้มิดชิดแต่อย่างใด...
ประตูเวทมนต์ถูกเปิดออกเหนือหัวของสาวผมทอง สาวผมน้ำตาล สาวผมดำตรง และสาวผมสั้นยุ่งเหยิงๆ และกองเสื้อผ้าอีกกองใหญ่ที่รวบรวมมาจากซอกหลืบในห้องเก็บชุดของเอลเฟ ก็ถล่มลงมาผ่านประตูกองทับใส่หัวของ 4 สาวผู้ท้าทายความลึกลับของแม่สาวผมม่วงอย่างกล้าหาญชาญชัยยิ่งนัก...
แต่ถึงกระนั้น... ซัลเวรีนก็หันกลับไปส่องกระจกอีกรอบ...
"แต่ก็ดูดีเหมือนกันนะ..." ซัลเวรีนเอ่ยขึ้น แหม... ไม่ค่อยจะชมตัวเองเลยนะนี่...
.................................................................
ไม่นานนัก ซัลเวรีนก็เลือกชุดให้ตัวเองได้และไปลบเครื่องสำอางออก พร้อมปล่อยผมมาถักเปียที่ปลายกลับทรงเดิม...
เสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวมีระบายลูกไม้ประดับขอบเสื้อและแถวกระดุม โบว์สีแดงเส้นเล็กๆ ผูกที่คอเสื้อ ผ้าริบบิ้นสีขาวใหญ่ผูกไว้ข้างนอกเสื้อรอบเอวมัดด้านหลังเป็นโบว์ มือขวามีแหวนเงินวงเล็กๆ ที่นิ้วกลาง กระโปรงสีดำ 2 ชั้น ชั้นนอกจะแหวกตรงกลางและจะสั้นกว่ากระโปรงตัวในด้วย ซึ่งกระโปรงทั้ง 2 ชั้นมีขลิบระบายลูกไม้ประดับขอบรอบดั่งเช่นเสื้อ ส่วนรองเท้าเป็นบู้ทส้นเตี้ยสีดำ บนหน้าชีก็แอบเขียนขอบตาบางๆ สีดำไว้ด้วย...
"ทำไมเอลเฟมีแต่ชุดดำเนี่ย?" เลเวฟาห์เดินเข้ามาในห้องเก็บเสื้อผ้า(อันลึกลับ) ของเอลเฟ พลางบ่นเรื่องสีเสื้อของเอลเฟ... แต่ก็น่าคิด... ว่าคอลเลคชั่นชุดองเอลเฟมีแต่สีดำ... แต่สิ่งเรอิสสงสัยมากกว่าคือ... มันจะสะท้อนแสงกลายเป็นสีเงินแบบชุดฟอร์มขององค์กรกุหลาบเงินมั้ย?
"ก็อันนี้เป็นคอลเลคชั่นแบล็กแอนด์ไวท์ของชั้นไงล่ะ... เข้าคอนเซ็ปท์ดี..." เอลเฟตอบแทรกเข้ามาจากด้านใน เดินมาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่ประตูแน่ๆ เพราะเลเวฟาห์ยืนบังอยู่หน้าประตู............ความสงสัยบางอย่างค่อยผุดขึ้นในหัวทุกคนพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมาย....... หรือห้องนี้มันมีประตูกล(ว่ะ)?
"ที่จริงชุดในคอลเลคชั่นของชั้นมันไม่เปลื่ยนสีแบบชุดฟอร์มกุหลาบเงินหรอกนะ... อันนี้แค่คอลเลคชั่นส่วนตัว..." น่าคิด.... น่าคิด.... น่าคิด... ว่า... ทำไมคอลเลคชั่นส่วนตัวมันเยอะ? แล้วทำไมมัน(กระแด่ะ)มีหลายไซส์? คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวของแต่ละคน ในขณะที่เอลเฟพยายามนำเสนอคอลเลคชั่นชุดชั้นในสีดำที่มีลูกไม้ กับลายตาข่าย ทำเอาแต่ละคนเอมไปตามๆ กัน...
"แล้ว... ต่อไปเราจะทำอะไรกันดี?" เคย์จังถามขึ้นมา... ใจจริงเธอก็อยากไล่ทุกคนให้ออกไปคุยกันที่ห้องโถงจะดีกว่าคุยกันในห้องเสื้อผ้าคอลเลคชั่นแบล็กแอนด์ไวท์ของเอลเฟมากๆ โดยเฉพาะที่ไม่ต้องมีเอลเฟมาคอยนำเสนอชุดชั้นในสีดำเพิ่มลวดลายแปลกๆ
"ตอนนี้คนจากองค์กรเหลือรอดมาเพียงไม่กี่คน... น่าจะไม่ถึง 10 นะ..." สีหน้าแปรเปลื่ยนจากอารมณ์เซลล์แมนไปในทันใด แม้ว่าสิ่งที่พูดจะค่อนข้างซีเรียส แต่บนใบหน้าของเอลเฟเองนั้น ก็กลับไม่ได้มีเค้าของความตึงเครียดใดๆ สิ่งที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอนั้น คือรอยยิ้มอันเป็นมิตร
"พวกเธอก็ไม่ได้เป็นสมาชิกองค์กรอยู่แล้ว... หนึ่งในจุดประสงค์ขององค์กรเราก็คือ รับคริสตัล ไมเดนที่จะเดินทางมาถึงบนโลกแห่งนี้และให้ที่พักพิง..." เมื่อพูดจบ เรอิส ไคเลน เลเวฟาห์ และมิโกะ ถึงกับสะดุ้ง และชื่อนึงที่แล่นเข้ามาในหัวพวกเธอพร้อมๆ กัน...
..................................อิลฟาห์...
"เหล่าเทพต่างๆ บนสวรรค์กำลังหาทางรวบรวม อวาลิเจนท์ อยู่... ถ้าหากเทพได้ไปครอบครองครบแล้ว โลกแห่งนี้คงจะต้องวุ่นวายมากๆ แน่... ทำไมพวกเธอไม่ลองไปตามหาอวาลิเจนท์ก่อนล่ะ?" เป็นไอเดียที่ดี... หากอวาลิเจนท์ ผลึกเวทมนต์อันแรงกล้า ตกไปอยู่ในมือของเหล่าเทพ ถึงจะเป็นเทพก็เถอะ โลกแห่งนี้จะต้องไม่เป็นอันจะกินจะนอนอย่างปกติสุขแน่ๆ
"อื้ม... เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ..." เลเวฟาห์กล่าวติชมคล้อยตามกันไป... แต่สายตาที่เหล่มามองเพื่อนๆ ของเธอที่ข้ามประตูมิติมาด้วยกันทั้ง 4 คนนั้น แฝงไปด้วนความนัยบางอย่าง... ที่จริงเธอเอง......พวกเธอเอง......ก็อยากที่จะตามหาหญิงผู้ซึ่งถูกเรียกในนามที่ปรากฏขึ้นมาในหัวของทั้ง 4 เหมือนกัน...
...ทำไมพวกเธอถึงถูกเรียก ถูกพาตัวมายังโลกนี้... อิลฟาห์เป็นใคร... ทุกคนก็คิดเหมือนกันว่า อย่างน้อย อิลฟาห์จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับอวาลิเจนท์แน่ๆ
"เอลเฟ....... รู้จักคนที่ชื่อ... อิลฟาห์ มั้ย?" เคย์จังเริ่มตั้งคำถามให้เอลเฟ... เอลเฟต้องนิ่งเพียงชั่วครู่เพื่อคิดหาคำตอบ... และดูเหมือนคำตอบที่เอลเฟสามารถนึกได้ในตอนนี้ ก็ดูท่าทางจะสื่อออกมากับสีหน้าแปลกๆ ที่ไม่ค่อยน่าพิศมัยสักเท่าไหร่...
"เอางี้... ไว้เดี๋ยวชั้นจะพาไปดูดีมั้ยล่ะ?" สีหน้าของเธอดูเจือจางลง ซึ่งดึงความสนใจจากคนอื่นๆ ได้ไม่น้อย......
อะไรกัน... อะไรกัน อะไรกัน อะไรกัน อะไรกัน... อะไรกันนะ? อะไรกัน?
..............................................................................................................................................
........................แล้วอิลฟาห์เป็นใครล่ะ?.....................................................
...............................................................................................................................
................................
.......................................................
.................ประตูบานนั้นน่ะ.... กำลังจะเปิดออกแล้วสินะ.................................
........ไม่สิ................. ประตูอีกหลายๆ บานก็กำลังจะถูกเปิดออก.................................
...และอีกหลายๆ บานเลยก็กำลังจะถูกเปิดออกตามๆ กันมา..........................................................
..................................................................................................................
..........................
.........................................ประตู.... ประตูอันมากมายหลายบานกำลังจะถูกเปิดออก.....
........บางบานอาจจะเปิดออกเอง........................................
................................................................................
...............................แต่......... ประตูอีกหลายบานก็กำลังจะถูกปิดไปเหมือนกัน..........?
..........................................................................
...................................................
.........................................................................................................................
..............................................................................................
.............................................................
.......................................
.......................
..............
.........
....
.
.
.
.
.........................................................................
...........................................................................................
................
.................................
ฟันเฟืองกำลังหมุนไป.......................หมุนไป.................และหมุนไป...........................................
.........................................................................................................................
..............กลไกที่เคลื่อนไปนั้น... กำลังจะเปิดบางสิ่งบางอย่าง......
.................................................................................................................................
.........................................
............................
.................
..........
....
.
.
.
.
.
.
.
..
.....
....................
...........
"อยากรู้จังเลยน้า... ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป..."
......
"เธอน่ะ... อยากรู้จริงเหรอ?"
................................................
.........
ความคิดเห็น