การติดเกมไม่ใช่ปัญหา แต่การติดเกมมีค่ากว่านั้น

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

ในปัจจุบันปัญหาของท่านผู้ปกครองและคุณครูเกี่ยวกับนักเรียนปัญหาหนึ่งคงไม่พ้นเรื่องของ เด็กติดเกม

แต่ถ้าเรามองในแง่กลับกัน การติดเกมนั้นไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่เลย เป็นเพียงแค่ปัญหาการแยกเวลาของเด็กไม่ได้เท่านั้น การติดเกมไม่ใช้ปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขเลย การติดเกมที่หลาย ๆ ท่านคิดว่า ไร้ประโยชน์ ไร้ค่า หรือเสียเวลาโดยใช่เหตุนั้น ทางผู้เขียนขอคัดค้านหัวชนฝาเลยที่เดียว เพราะว่า การติดเกมนั้น มีประโยน์มากกว่าจะทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์แน่นอน ซึ่งทางผู้เขียนของนำเอาประโยน์ของการเล่นเกมมานำเสนอ ดังนี้

๑.                 พัฒนาการทางด้านภาษา - ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเล่นเกมเราจะเจอข้อความในรูปแบบของภาษาต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เด็กนั้นมีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดีขึ้นนั้นเอง

๒.                 พัฒนาการทางการใช้เทคโนโลยี - บางคนถามผู้เขียนว่า แน่ใจได้หรือว่ามีพัฒนาการ ขอตอบได้เลยค่ะว่ามี เพราะถ้าเครื่องมือทางการเล่นเกมมีปัญหา (มันเป็นปัญหาใหญ่มาก ๆ เลยนะ) ผู้เล่นจะหาทุกวิถีทางเพื่อทำให้เครื่องมือชิ้นนั้นกลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง

๓.                 พัฒนาการทางด้านความคิด - เพราะถ้าเราไม่คิด ไม่วางแผนเลยการรบต่าง ๆ (ในเกม) ก็จะไม่ชชนะ หรือไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น พัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กติดเกมนั้นจะค่อนข้างดีกว่าเด็กที่ไม่ค่อยได้เล่นเกมนั้นเอง

๔.                 พัฒนาการทางด้านจินตนาการ - อย่างคำที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่า จินตนาการอยู่เหนือความรู้ นั้น เป็นจริงค่ะ เพราะการเล่นจะมีบุกคลิกในเกมแตกต่างกันไปตามอาชีพ ซึ่งนั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมจินตนาการทำให้เด็กติดเกมนั้นจะมีจินตนาการที่สูงกว่าเด็กปกติค่ะ

๕.                 เป็นอาชีพเสริม – ในบางคนการค้าขาย ไอเทม (Item) หรือ ขายตัวละครที่ตนเองสร้างขึ้นนั้น ราคาตั้งแต่ 50 บาท ถึงหลักหมื่นหลักแสนก็มี เป็นค่าขนมเล็กๆน้อยๆโดยที่ไม่เสียแรงงานเท่าไหร่เลยด้วย

พอมองเห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าการเล่นเกม หรือการติดเกมนั้น ไม่ได้มีผลเสียอย่างร้ายแรงเลย แต่เราจะแบ่งเวลาอย่างไรนี้สิ ที่จะให้นักเรียนไม่ติดเกม ขึ้นอยู่กับตัวของท่านผู้ปกครองเองแล้วนะคะว่าจะจัดการอย่างไร เพราะการห้ามนั้นเป็นการกระทำที่จะทำให้เด็กต่อต้าน ดั้งนั้น    เราควรมีวิธีที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพของตัวเด็กเองด้วยนะคะ