ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องเล่าบนเขาเซียน

    ลำดับตอนที่ #4 : องก์ที่ ๑ ฤดูกาลหมุนเวียน เหล่าเซียนเริ่มหวั่นหทัย กลิ่นอายมารเทพปรากฏ

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 58


     

     

    อรุณรุ่งแห่งวัน หลางชางรีบรุดแต่งตัวเพื่อรอคอยพี่สาวแสนสวย ซึ่งตอนนี้นางได้กลายเป็นแม่บุญธรรมของเขาไปเสียแล้ว ชายผ้าต่วนสีเหลืองนวลสะบัดพลิ้วไปตามสายลมเบาๆ หลางชางค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบวงแหวนเวทย์ที่ตนผนึกพาหนะเอาไว้จากโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนที่จะมานั่งก้าวผมให้เรียบร้อย

    “จีจื่อ ข้าตื่นเต้นเสียจริง ข้าจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกเสียด้วย ข้าจักเอาเจ้าไปด้วยนะจีจื่อ”หลางชางเอ่ยกับเต่าเซียน สัตว์เซียนที่เขาเลี้ยงไว้ แต่ก็ไร้ซึ่งสัญญาณตอบกลับ

    “ข้าว่าพวกเราลงไปเตรียมตัวกันเถิด”หลางชางเอ่ย พร้อมกับเดินออกจากห้องโดยมีเต่าเซียนลอยตาม

    เหมียวชือชุ่ยได้เดินทางมาคอยรับเด็กชายตัวน้อยเพื่อนำไปทำความรู้จักกับสมาชิกพรรคจักรราศีของตน นางกำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ข้างๆกับเจ้าสำนักซึ่งกำลังอ่านตำราและจิบชาเพื่อคอยเด็กน้อย

    “ข้าขออภัยขอรับที่ต้องให้พี่สาวคอย”เด็กน้อยเอ่ยขออภัย

    “ไม่เป็นอันใดหรอก แต่หลางเอ้อร์น้อยต้องเรียกข้าว่าท่านแม่ หรือไม่ก็แม่บุญธรรม ได้แล้วนะ”นางเอ่ยอยางเอ็นดู

    “ขอรับ แม่บุญธรรม”

    “ดีมากเลยเจ้า ลูกชายใครเนี่ย”นางเอ่ยอย่างยินดีก่อนที่จะสวมกอดเด็กน้อย

    “พอเลยๆ รีบไปกันเสียเถิด ก่อนที่จะกลับบ้านมามืดค่ำเสียเปล่า”เจ้าเฟยเหอเอ่ย

    “เจ้าค่ะ พี่เฟยเอ้อร์ ข้าจะดูแลหลางเอ้อร์น้อยเป็นอย่างดี”นางรับคำก่อนที่พาเด็กน้อยออกไปผจญภัยด้านนอกสำนัก(?)

    ในตอนใต้ของเมืองลั่วสุ่ย มีปราสาทอันวิจิตรงดงามและลึกลับซ่อนอยู่ใกล้กับริมท่าเรือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพรรคจักรราศี ความงดงามพิสดารนั้นดึงดูดใจของเด็กชายตัวน้อยๆที่ยังไม่เคยออกสู่โลกภายนอก

    “ถึงแล้วหลางเอ้อร์น้อย พรรคจักรราศี”นางเอ่ยก่อนที่จะโอบเด็กชายตัวน้อยเอาไว้

    “ที่นี้จริงๆหรือขอรับ?”เด็กน้อยถามเพื่อเรียกความแน่ใจ

    “ใช่จ้า ที่นี้คือที่อยู่ของข้า”นางเอ่ยตอบเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู

    นางพาเด็กชายเดินเข้าสู่ปราสาทนั้น พอเข้าถึงข้างในปราสาทนั้น แบ่งออกเป็น ๑๒ ตำหนัก แต่ละตำหนักจัดตามแบบตามลัคนาราศี และมีศาลากลางน้ำอันรโหฐานนั้น มีกลุ่มบุคคลมากหน้าหลายตานั่งเรียงกันตามลำดับอาวุโสพรรค

    “ลูกชาย เจ้าเห็นหรือไม่ ว่าตรงศาลากลางสระบัวนั้นคือ ที่ประชุมพรรค”นางเอ่ยพร้อมชี้ให้เห็น

    “ขอรับ”

    “ทุกคนคอยเจ้าอยู่ ไปกันเถิด เจ้าลูกชาย”นางเอ่ยก่อนที่จะจูงมือเด็กน้อยเดินตรงไปยังศาลากลางสระบัวนั้น

    ทุกคนมองบุคคลที่มาใหม่ ซึ่งดูเหมือนเป็นแรงกดดันของเด็กชายตัวเล็กๆ ทุกคนดูเคร่งขรึมจนดูน่ากลัวในสายตาของหลางชาง

    “มากันแล้วหรือ? ลูกแกะน้อย”เสียงหวานๆของหัวหน้าพรรคเอ่ยถาม

    “เจ้าค่ะ หลางเอ้อร์ทำความเคารพทุกคนเถิด”

    “ขอรับ ข้าน้อย หลางชาง ขอคารวะท่านผู้ใหญ่ทุกท่านในพรรคขอรับ”เด็กน้อยเอ่ย ทำเอาทุกคนเอ็นดูได้ไม่น้อย

    “นี่คือ บุตรบุญธรรมของข้า หวังว่าทุกท่านคงจะเมตตาหลางเอ้อร์น้อยของข้าด้วย”นางเอ่ยก่อนที่จะพาหลางชางมาทำความรู้จัก

    “หลางเอ้อร์น้อย ที่นั่งทุกที่จะมีสัญลักษณ์ของลัคนาราศีประจำตัวของบุคคลนั้นๆ ฉะนั้นเจ้าเป็นบุตรเจ้าก็ควรที่จะเรียนรู้เอาไว้”

    “ขอรับ แม่บุญธรรม”

    “เอ่อ... เจ้าหนูนี้ช่างเอาใจคนอื่นเสียจริงๆเลยนะเจ้า”ชายหนุ่มผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นจากที่นั่งของผู้อาวุโส

    “ซินเฟิงหยวน ท่านก็พูดไป ถ้าท่านได้สนิทด้วยท่านจะรู้ว่าในตัวของหลางเอ้อร์มีดีอันใด”นางเอ่ยตอบบุรุษผู้นั้น

    “ถ้าเช่นนั้นก็ต้องลองดูว่ามีดีเยี่ยงไร”เสียงบุรุษนิรนามเอ่ยก่อนที่จะเดินเข้ามาทำความเคารพเจ้าสำนักแล้วไปนั่งที่หัวหน้าสำนักที่ว่างอยู่

    “หมิงเทียน... ปกติราชันโลกมืดเช่นเจ้าจะไม่ออกมาตอนกลางวันนิ”ซินเฟิงหยวนเอ่ยหยอกเย้าผู้เป็นสหายสนิท

    “ก็มีเรื่องราวที่แสนน่าเบื่อ ข้าจะอยู่ไปเพื่ออันใดเล่า?”บุรุษผู้นั้นเอ่ยก่อนที่จะทดสอบเด็กน้อย โดยการขว้างมีดสั้นออกไป หลางชางหลบหลีกก่อน ที่จะรับมีดสั้นนั้นไว้แล้วก็เดินเอาไปส่งคืน

    “ของท่านขอรับ”หลางชางเอ่ยก่อนที่จะเงือยหน้ามองหน้าบุรุษกำยำตรงหน้า

    “ขอบใจเจ้า”บุรุษผู้นั้นก้มลงมองหน้าเด็กน้อยผู้นั้น ใบหน้ากลมขาวนวลราวกับเทพองค์น้อยๆ ริมฝีปากแดงระเรื่อบางๆนั้น ก็ทำให้รู้สึกหวั่นไหวเบาๆ ก่อนที่จะทดสอบเด็กน้อยอีกครั้ง

    “สาวงามแมงป่อง”บุรุษกำยำติดพิษเด็กน้อยเมื่อรับมีดสั้นคืน

    “เปลี่ยนแปลงร้อยแปด”เด็กน้อยใช้ท่าหลบหลีกธาตุไม้

    “ถึงเจ้าจักหลบหลีกก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพราะพิษมันอยู่ในกายเจ้า”บุรุษผู้นั้นเอ่ย โดยมีทุกคนในพรรคมองดูศึกครั้งนี้อยู่อย่างไม่ปริปากห้าม

    “พิษมาจากธรรมชาติ ฉะนั้นร่างกายที่เป็นธาตุของธรรมชาติก็จะรักษาพิษที่มาจากธรรมชาติได้”เด็กน้อยเอ่ยก่อนที่จะกลืนพิษที่อยู่ในกายให้หายขาด

    “ไม่เลวเลย เด็กผู้นี้”ผู้เป็นหัวหน้าพรรคเอ่ยพึมพำก่อนที่จะมองดูการต่อสู้อีกครั้ง

    “หิมะหวนคืนลม ขั้น ๑๓”ทันใดนั้นพายุหิมะได้โหมกระหน่ำเข้ามาในศาลานั้น ก่อนที่หลางชางจะใช้เวทย์ในกระบวนท่าต่อไป

    “ฮึกเหิมชั่วพริบตา” หลางชางโจมตีบุรุษกำยำผู้นั้น แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนผู้นั้นล้มได้

    แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ เสียงปรบมือดังขึ้นจากตำแหน่งที่สูงสุด ก่อนที่จะเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมา

    “พอแค่นั้นเถิด มังกรเทพ เด็กน้อยได้แสดงความสามารถให้พวกเราประจักษ์แล้ว”

    “ก็ได้ แล้วแต่ใจของท่านเถิดจาง”บุรุษผู้นั้นเอ่ยก่อนที่จะเดินไปเข้าที่พร้อมกับโคจรลมปราณเพื่อรักษารอยฟกช้ำที่เกิดขึ้น

    “เป็นเยี่ยงไรบ้างหลางเอ้อร์น้อย เจ็บปวดตรงไหนบ้างหรือไม่?”เหมียวชือชุ่ยเอ่ยถามก่อนที่จะสำรวจตัวของบุตรบุญธรรรมตนว่าเป็นเยี่ยงไรบ้าง

    “ไม่เป็นไรนิขอรับ”เด็กน้อยเอ่ยก่อนที่จะยิ้มให้ผู้ที่ห่วงใยตน

    “เจ้าสนใจที่จะมาอยู่ในพรรคของข้าหรือไม่? หลางชาง”ผู้อยู่ตำแหน่งสูงสุดเอ่ยถาม

    “ไม่ขอรับ ข้าเป็นเพียงเด็ก ยังไม่ถึงเวลาที่จะเดินขึ้นมาถึงจุดนั้นโดยง่าย ข้าเพียงเพื่อมาฝึกวิชาไปตามที่พ่อบุญธรรมเอ่ยสั่งเท่านั้น หาได้มีจุดประสงค์อื่นไม่”เด็กน้อยตอบอย่างฉะฉาน โดยไม่รู้เลยว่าทุกคนในที่นั้นมองดูอากัปกิริยาของเด็กน้อยอยู่ว่า พิษนั้นจะออกอาการหรือไม่

    “อ่า... ข้าเข้าใจในเจ้า ฉะนั้นในเมื่อแม่บุญธรรมเจ้าอยากให้ข้าฝึกวิชาให้ เจ้าจะรับไว้หรือไม่?”

    “ได้หรือขอรับ?”

    “จาง ท่านพูดเยี่ยงนั้นได้เยี่ยงไร?”บุรุษกำยำคนเดิมเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ

    “เอาเถิด...มังกรเทพ เจ้าก็ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้หลางชางด้วยก็แล้วกันนะ”ผู้อยู่สูงสุดเอ่ย

    “แต่...”

    “ไม่มีแต่เป็นอันขาด เข้าใจตรงกันทั้งหมดนะ”ผู้อยู่สูงสุดเอ่ยถาม

    “ขอรับ”ทุกคนในที่นั้นเอ่ยพร้อมกัน

    “งั้น... แยกย้ายเถิด”พอสิ้นเสียงผู้สูงสุด ทุกคนก็หายไปในพริบตา

    “ดีใจกับเจ้าด้วยนะ เจ้าลูกชาย”เสียงของผู้เป็นมารดาบุญธรรมเอ่ย

    “ขอบใจนะขอรับ”เด็กชายเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

    “ว่าแต่พิษที่โดนมันไม่ใช่น้อยๆเลย เจ้าไม่เป็นอันใดเลยหรือ?”บุรุษผู้นั้นเอ่ยถามก็ที่จะเดินเข้ามาใกล้เพื่อที่จะเอายาแก้พิษมาให้

    “ไม่เป็นอันใดจริงๆนะขอรับ”เด็กน้อยเอ่ยก่อนที่จะยื่นแขนที่โดนพิษข้างนั้นไปให้บุรุษตรงหน้าดู พิษรูปงูนั้นค่อยๆเลือนจากหางจนเหลือแค่เพียงหัวเท่านั้น

    “เป็นไปได้เยี่ยงไรกัน? เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”บุรุษผู้นั้นเอ่ยถามพร้อมกับจับแขนเด็กน้อยนั้นไว้

    “ข้าเกิดและโตมากับธรรมชาติขอรับ ป่าเมฆเขียวคือบ้านของข้า”หลางชางเอ่ย

    “อ่า.. ป่าเมฆเขียว ดินแดนของภูติและนางไม้ เจ้าเป็นบุตรของนางไม้หรือไรกัน?”ชายหนุ่มผู้นั้นถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าอันงดงามของเด็กน้อยผู้นั้น

    “จะว่าประมาณนั้นก็ได้ขอรับ”เด็กน้อยไม่ได้มีแววตาในการหลอกลวงแต่อย่างใด ทำให้หัวใจชายหนุ่มเริ่มหวั่นๆโดยแท้

    “นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าจะมาช่วยเจ้าในการเรียน ตั้งใจรับมือให้ดีเถิด”บุรุษผู้นั้นเอ่ยก่อนที่จะเดินเชิดหน้าไป

    “ขอบคุณนะขอรับ”เด็กน้อยตะโกนตามก่อนที่จะหันมายิ้มอย่างน่ารักให้กับผู้ที่พาตนมา

    “เรากลับไปหาพี่เฟยเอ้อร์กันเถิด ก่อนที่จะโดนดุกันทั้งคู่เสียก่อน”นางเอ่ยก่อนที่จะโอบหลังเด็กน้อยเอาไว้

    “ขอรับ”เด็กน้อยตอบ ก่อนที่จะลองจินตาการถึงภาพการฝึกในวันถัดไปไม่ไหวเสียแล้ว......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×