ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องเล่าบนเขาเซียน

    ลำดับตอนที่ #3 : องก์ที่ ๑ ฤดูกาลหมุนเวียน เหล่าเซียนเริ่มหวั่นหทัย กลิ่นอายมารเทพปรากฏ

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 58


     

    ตั้งแต่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในสำนักละลาย หลางชางก็สนุกสนานอยู่กับการช่วยคนนู้น ป่วนคนนี้ ภายในสำนักและก็โรงเตี๊ยมทะยานฟ้า

    “เสี่ยวเอ้อร์ วันนี้เจ้าไปป่วนใครเขาอีกเล่า? ยิ้มระรื่นมาแต่ไกลเชียว”เจ้าฟู่เหอเอ่ยถาม

    “ข้าก็ช่วยศิษย์พี่หญิงทำความสะอาดสำนัก และก็ลงไปช่วยท่านหยางทำครัวมาน่ะขอรับ”หลางชางเอ่ยตอบ

    “แน่ใจหรือ? หลางชาง”เจ้าเฟยเหอเอ่ยถาม

    “แน่ใจสิขอรับ”หลางชางเอ่ยพร้อมกับพยักหน้ารัวๆ

    “โถ่ๆๆ  เฟยเอ้อร์เจ้าก็เชื่อเสี่ยวเอ้อร์น้อยๆของเราหน่อยสิ”เจ้าฟู่เหอออกโรงปกป้องเด็กน้อยในสำนัก

    “แต่สิ่งที่ข้าได้ยินมาจากหยางอี้เหนียน ว่า หลางชางทำไหลสุราแตกไป ๓ ใบ จากอีก ๑๐ ใบ ไหนยังจะมีถ้วยเหล้า อีก ๗ ใบ”เจ้าเฟยเหอเอ่ยขึ้นอย่างเอือมระอาในพฤติกรรมของน้องชายที่คอยออกโรงปกป้องเด็กน้อยผู้นี้เสียจริงเชียว

    “โถ่ๆๆๆ เฟยเอ้อร์ เจ้าจักเดือดร้อนไปไย? ในเมื่อเราก็หาได้มีทะยานฟ้าเป็นแหล่งเงินทองที่เดียวไม่ อีกอย่างเสี่ยวเอ้อร์ก็แค่อยากจะทำตัวให้มีประโยชน์ ซึ่งไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรมากก็ตามเถอะ เจ้าก็น่าจะเห็นใจเสี่ยวเอ้อร์บ้าง”เจ้าฟู่เหอเอ่ยปกป้องอีกครั้ง

    “ถ้าเช่นนั้นก็คงถึงเวลาแล้ว ที่จะให้หลางชางไปเรียนที่เขาไท๋ไป๋ ก่อนที่จะมีการประลองยุทธ์ในปีหน้า”เจ้าเฟยเหอพูดขึ้นอย่างตัดปัญหา

    “ทำไมต้องเป็นเขาไท่ไป๋ด้วยขอรับ ที่อื่นมิได้หรอขอรับ? เผิงไหล เซียวเหยา ฉางหลิว หรือว่า เหยาซานก็ได้นิขอรับ”หลางชางเอ่ยขึ้นมาอย่างโอดครวญ

    “เจ้านิยังไง พวกเราในสำนักละลายเป็นศิษย์เขาไท่ไป๋ทุกคน แล้วเจ้าจักไปเรียนที่อื่นได้เช่นไรกันเล่า?”เจ้าเฟยเหอเอ่ยถาม

    “ขนาดศิษย์พี่เหมยฮวา ยังจบมาจากเกาะเผิงไหลเลยนะขอรับ?”หลางชางเอ่ยถามขึ้นอย่างตะขิดตะขวงใจ

    “เหมยฮวาเป็นศิษย์ของเผิงไหลก็จริงอยู่ แต่อาจารย์ของเหมยฮวาก็เป็นศิษย์จากไท่ไป๋เช่นกัน ฉะนั้นไม่มีสิทธิ์ใดเลยที่เจ้าจะเข้าไปร่ำเรียนวิชาจากที่อื่นไม่”เจ้าเฟยเหอเอ่ยตอบ

    “เฟยเอ้อร์ เจ้าก็น่าจะรู้อยู่แก่จิตว่า เสี่ยวเอ้อร์ถูกท่านเจ้าสำนักเอ่ยถ้อยคำทำร้ายจิตใจดวงน้อยๆดวงนี้มา ไยเจ้าจะใจร้ายปล่อยให้เสี่ยวเอ้อร์ตัวน้อยๆของเราถูกถ้อยคำเช่นนั้นตามตอแยเล่า?”เจ้าฟู่เหอเอ่ยช่วยเหลือเหลือพร้อมกับโอบหลางชางไว้อย่างหลวมๆ

    “ข้าก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร ถึงเยี่ยงไรเสียเจ้าก็ต้องเข้าสู่สนามประลองยุทธ์ของไท่ไป๋ให้จงได้ เพราะว่าเจ้าจะได้เลือกสายทางเดินของเจ้าเอง”เจ้าเฟยเหอเอ่ยพร้อมกับหันหลังให้

    “ท่านเจ้าสำนักขอรับ.......”หลางชางเอ่ยเสียงอ่อน

    “ไปท่องตำราต่อได้แล้วเจ้า”เจ้าเฟยเหอเอ่ยจบก็เดินจากไป หลางชางทำหน้าเศร้าก่อนที่จะเดินเข้าห้องไปเพื่ออ่านตำรา

    “ข้าสงสารเสี่ยวเอ้อร์เสียจริงเชียว ที่ต้องมาแบกรับภาระต่างๆด้วยยังเยาว์ ไหนจะต้องแบกรับความกลัวอยู่คนเดียวเช่นนี้”เจ้าฟู่เหอเอ่ยกับหลินเหมยฮวา

    “ท่านผู้อาวุโสพูดไปก็เสียแรงเปล่า ท่านก็รู้ว่าไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงท่านเจ้าสำนักได้ นอกเสียจาก..”หลินเหมยฮวายังพูดไม่จบประโยค

    “ใช่แล้ว...เหมียวชือชุ่ย เหมียวชือชุ่ยอาจช่วยข้าได้ ข้าใจเจ้ามากเลยนะน้อยหญิง”เจ้าฟู่เหอเอ่ยขึ้นอย่างดีใจก่อนที่จะจุมพิตลงบนแก้มของผู้เป็นภรรยา ก่อนที่จะเดินออกจากสำนักเพื่อไปยังพรรคจักรราศีที่อยู่ของคู่หมายแฝดผู้พี่

    ในตอนใต้ของเมืองลั่วสุ่ย มีปราสาทอันวิจิตรงดงามและลึกลับซ่อนอยู่ใกล้กับริมท่าเรือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพรรคจักรราศี ซึ่งเป็นกลุ่มนักฆ่าที่แสนลึกลับ และหาตัวจับยากยิ่งในหมู่มวลมนุษย์

    “ข้ามาขอพบ เหมียวชือชุ่ย”เจ้าฟู่เหอเอ่ยบอกยามหน้าประตู

    “ข้าจักแจ้งให้ขอรับ”เอ่ยจบยามก็ได้พาเจ้าฟู่เหอมายังในเคหาสถ์ก่อนที่จะไปตามนักฆ่าแห่งราศีเมษมา

    “พี่เฟยเอ้อร์ คิดถึงข้าหรือจึงมาหาข้าถึงที่”เหมียวชือชุ่ยถาม

    “ผิดคนแล้วที่รัก”เจ้าฟู่เหอเอ่ยหยอกเย้าว่าที่พี่สะใภ้ตน

    “เอ่อ...พี่ฟู่เอ้อร์ เจ้ามีสิ่งใด?”นางสอบถามด้วยสีหน้าเขินอาย

    “ข้าอยากจะให้ท่านช่วยพูดกับพี่เฟยเอ้อร์เรื่องของเสี่ยวเอ้อร์ให้น่ะ”เจ้าฟู่เหอเอ่ย

    “ทำไมต้องเป็นข้าเล่า?”นางถาม

    “มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถพูดกับเฟยเอ้อร์ได้”

    “ก็ได้ๆ ข้าจักลองดู เพื่อน้องชายตัวน้อยๆของข้าแล้วกัน”นางรับคำก่อนที่จะนึกถึงใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่ใสซื่อดวงนั้น เด็กน้อยผู้มีพรสวรรค์พลังวิเศษพรรค์นี้ น่าจะมาอยู่พรรคของตนยิ่งนั้น แต่ในเมื่อเด็กน้อยเลือกทางเดินที่สว่าง นางก็ไม่มีสิทธิ์จะทำสิ่งใดได้

    วันต่อมา เหมียวชือชุ่ยได้มาหาเจ้าเฟยเหอถึงสำนัก ทันทีที่หลางชางเห็นก็ได้วิ่งเข้ามาสวมกอดนางทันที

    “พี่สาวคนสวย ข้าคิดถึงท่านเสียจัง มาหาท่านเจ้าสำนักหรือขอรับ? เดี๋ยวข้าไปตามท่านเจ้าสำนักมาให้นะขอรับ”หลางชางพูดจบก็คลายอ้อมกอดแล้ววิ่งไปยังห้องอักษรทันที

    “ท่านเจ้าสำนักขอรับ พี่สาวคนสวยมาหาท่านน่ะขอรับ”หลางชางเอ่ยบอกเจ้าเฟยเหอด้านนอกห้อง

    “อืม... ประเดี๋ยวข้าออกไป เจ้าไปเตรียมของว่างให้ชิวชุ่ยเถิด”เจ้าเฟยเหอเอ่ยก่อนที่จะวางพู่กันแล้วเก็บหมึกฝน จากนั้นก็เดินออกจากห้องเพื่อที่จะไปพบคู่หมายของตน

    “ชิวชุ่ย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือไม่?”เจ้าเฟยเหอเอ่ยทักทายคนรัก

    “ข้าต้องมีเรื่องอันใดก่อนหรือพี่เฟยเอ้อร์ ถึงมาหาท่านได้เล่า?”นางเอ่ยแบบน้อยใจ

    “ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก เจ้าจะน้อยใจไปไย?”เจ้าเฟยเหอเอ่ย

    “ถ้า...เช่นนั้นข้าก็ขออภัยที่น้อยใจโดยใช่เหตุ”นางกล่าวอย่างตัดพ้อ

    “ของว่างมาแล้วขอรับ”หลางชางเอ่ยพร้อมเดินถือถาดของว่างมา

    “ทำไมตัวเจ้าเปียกขนาดนั้นเล่า หลางชาง?”เจ้าเฟยเหอมองสารรูปของเด็กในสำนักก่อนที่จะปริปากถาม

    “ก็แค่ข้าทำน้ำหกใส่น่ะขอรับ ก็เลยเป็นเช่นนี้”หลางชางเอ่ยก่อนที่จะหัวเราะแห้ง แล้วนำกาน้ำชารินใส่แก้วให้บุคคลทั้ง ๒ ที่นั่งอยู่ เรียกเสียงหัวเราะใสๆจากสตรีนางเดียวที่นั่งอยู่

    “เจ้านี่จริงๆเลยนะหลางเอ้อร์ มาข้าเช็ดตัวให้”เหมียวชือชุ่ยพูดพร้อมกับจับตัวหลางชางมาเช็ดด้วยผ้าเช็ดหน้า ทำให้หน้าตาที่ดูมอมแมมงดงามขึ้น

    “ขอบใจขอรับ”หลางชางเอ่ยขึ้น

    “ข้าต้องไปขอเจ้าจริงๆเสียแล้วสิ เห็นเจ้าดูแลหลางชางแล้ว อยากจะมีลูกมีกับเจ้าไว้สักคน ฮึๆ เจ้าว่าเช่นไร?”เจ้าเฟยเหอเอ่ยพร้อมมองหญิงที่ตนรัก

    “จะบ้าหรือไร พี่เฟยเอ้อร์ ข้า...เอ่อ..ข้า....”นางเอ่ยตะกุกตะกักพร้อมๆกับหน้าแดง

    “ฮะ..ๆ เจ้ามีเรื่องอันใดถ้าไม่ใช่เรื่องนี้?”เจ้าเฟยเหอเอ่ยถาม

    “ข้าจะมาของหลางเอ้อร์ไปฝึกวิชากับข้าที่พรรคจักรราศี พี่เฟยเอ้อร์จักให้หรือไม่?”นางเอ่ยปากขอ

    “มิได้หรอก เจ้าต้องถามเจ้าตัวก่อน”เจ้าเฟยเหอเอ่ย พร้อมกับหยิบแก้วชาขึ้นมาจิบเบาๆ

    “ว่าไง หลางเอ้อร์จะไปฝึกวิชากับพี่สาวหรือไม่?”นางเอ่ยถามเด็กน้อยที่อยู่ข้างๆ

    “คงจะมิได้หรอกขอรับ เพราะถึงอย่างไรเสียข้าก็ต้องเข้าประลองยุทธ์ แต่ถ้าเข้าพรรคของพี่สาวข้าก็จะไม่ได้ประลองยุทธ์เพื่อเป็นหน้าตาให้กับสำนักขอรับ”เด็กน้อยเอ่ยอย่างฉะฉานและมั่นใจในตัวเอง

    “อืมๆ พี่สาวเข้าใจเจ้า หลางเอ้อร์น้อยของพี่ทำไมถึงน่ารักเช่นนี้”นางเอ่ยด้วยความยินดี แต่ถึงจะเสียดายความสามารถของเด็กน้อยก็ตามเถอะ พร้อมกับกอดเจ้าเด็กน้อยนั้นตัวกลม

    “ทำไมถึงอยากได้หลางชางไปฝึกวิชาด้วย?”เจ้าเฟยเหอถาม

    “ก็..เอ่อ...ก็หลางชางมีสิ่งพิเศษอยู่ในตัว แล้วพลังธาตุไม้ก็โดดเด่นจนเป็นที่น่าจับตาทั้งที่ไม่ได้ฝึกฝนอันใด ถ้าได้ไปฝึกวิชาดาบของธาตุไม้ก็น่าจะ เป็นจอมยุทธ์แถวหน้าได้”นางตอบ

    “แน่ใจหรือ? ว่าไม่ใช่มีใครไปขอให้เจ้าออกโรงปกป้อง”เจ้าเฟยเหอเอ่ย

    “แน่สิ พี่เฟยเอ้อร์ งั้นวันนี้พี่สาวจะสอนวิชาพาหนะให้เจ้าดีหรือไม่?”นางตอบ แล้วหันมาพูดกับเด็กน้อยในอ้อมกอดนั้น

    “ดีขอรับๆ ท่านเจ้าสำนัก อนุญาตข้าหรือไม่ขอรับ?”เด็กน้อยมองด้วยความขอกรุณา

    “ก็ได้ เจ้าไปเถิด”เจ้าเฟยเหอเอ่ยอย่างเนือยๆ ข้าคงแพ้พ่ายต้องความใสซื่อของเด็กคนนี้จริงๆแล้วสินะ

    “เจ้าคงรู้ทฤษฎีเกี่ยวกับสัตว์พาหนะบ้างแล้วใช่หรือไม่ หลางเอ้อร์?”นางถาม

    “ขอรับ พี่สาว”

    “แล้วมีพาหนะของตัวเองแล้วหรือไม่?”

    “มีแล้วขอรับ”

    “ฉะนั้นเรียกพาหนะของเจ้าออกมา เพื่อที่จะเรียนรู้การซ่อนพาหนะไว้ในวงแหวนเวทย์”

    “ขอรับ” หลางชางรับคำแล้วผิวปากเรียกแมวเหมียวแดงฟ้าที่ซ้อนรูปอยู่ในคอกม้าออกมา สัตว์วิเศษวิ่งมาหมอบยู่แทบเท้าของจากนายแห่งมันเพื่อแสดงความเคารพ

    “แมวเหมียวแดงฟ้า เจ้าไม่ธรรมดาเสียจริงๆด้วยหลางเอ้อร์น้อย”นางเอ่ยเอื้อน

    “เอ่อ....ไม่หรอกกระมังขอรับ ถ้าไม่ได้ประมุขของหออี้สิ่ว ข้าก็จะไม่มีเสี่ยวเปียวไว้เป็นพาหนะขอรับ”หลางชางเอ่ยบอกผู้อาวุโสกว่า

    “อ่า... ประมุขหออี้สิ่วผู้ไม่ชอบปรากฏกาย กลับมาหาเจ้าด้วยตัวเอง แสดงว่าเจ้าไปมีพันธะใดกับหออี้สิ่วเป็นแน่ หรือไม่เจ้าต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน?”นางพูดขึ้น

    “ประมุขหออี้สิ่วบอกว่า กลิ่นอายและเลือดของข้าทำให้พวกลิ้นของเขามีชีวิตชีวาขอรับ เขาก็เลยมอบบังเหียนอี้สิ่วมาเพื่อใช้จับแมวเหมียวแดงฟ้าขอรับ”เด็กน้อยเอ่ยเรื่องราว

    “อ่า.. เรามาเรียนกันต่อเถิด หลางเอ้อร์น้อย เจ้ามีแหวนฟ้าประทานแล้วใช่หรือไม่?”นางถาม

    “ไม่มีขอรับ ที่ติดตัวข้ามาก็มีเพียงแหวนถักรังมังกรขอรับ”หลางชางตอบอย่างไม่มั่นใจว่าแหวนที่ตนมีจะใช้ได้หรือไม่

    “แหวนถักรังมังกรเป็นแหวนที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในตำนาน หรือไม่ก็พวกเซียนเทพเท่านั้น เจ้ามีไว้ครอบครองก็ถือว่าโชคดีแล้ว”นางเอ่ยพร้อมคิดในใจ หลางเอ้อร์น้อยของข้าช่างมีอะไรที่ทำให้ข้าประหลาดใจตลอดเวลาเสียจริงๆ ถ้าขอพี่เฟยเอ้อร์รับเป็นบุตรบุญธรรมเล่า? อ่า..น่าสนใจๆ เดี๋ยวค่อยไปคุยดีกว่า

    “เริ่มแรกด้วยว่า คาถา เจิ้น หลาย เตอ โหมว ฝ้า จิ้น จื้อ แล้วจึงยื้นแหวนไปตรงหน้าสัตว์พาหนะ ถ้าจะเรียกออก ให้เรียก หน่า ชู่ เม้อ ชู่ ห้าน ลองดูเลยหลางเอ้อร์”

    “ขอรับ เจิ้น หลาย เตอ โหมว ฝ้า จิ้น จื้อ”เด็กน้อยลองทำตามสิ่งที่ผู้อาวุโสกว่าบอก เป็นดังคาด สัตว์พาหนะหายไปจากที่ตรงนั้น แล้ว เข้ามาผนึกอยู่ในวงแหวนนั้นแทน

    “ต่อไปลอง เรียกออกดู”

    “ขอรับ หน่า ชู่ เม้อ ชู่ ห้าน”ทันใดนั้นสัตว์พาหนะก็ออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง

    “เก่งมากๆ หลางเอ้อร์ ปกติแล้ว ไม่ค่อยมีใครทำสำเร็จได้ตั้งแต่แรกหรอกหนา”นางเอ่ยปากชมเด็กชายตัวน้อย

    “ไม่ขนาดนั้นหรอกกระมังขอรับ”

    “ไม่ใช่หรอก มันอยู่ที่พรสวรรค์และความเพียรพยายามของเจ้ามากกว่า หลางเอ้อร์”นางเอ่ยพร้อมเดินไปโอบไหล่ของเด็กน้อย

    “เรียกสัตว์พาหนะเข้าวงแหวนเวทย์ แล้วเราไปกินขนมกันดีกว่า”นางเอ่ยพร้อมกับมองเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู

    “ขอรับ” เด็กน้อยรับคำ ก่อนที่จะเรียกสัตว์พาหนะกลับ แล้วก็เดินตามสตรีผู้นั้นไป แล้วแยกตัวไปเอาของว่าง

    “เป็นเยี่ยงไรบ้าง เหมียวอี้ ได้ผลหรือไม่?”เจ้าฟู่เหอเอ่ยถาม เหมียวชือชุ่ย เรื่องสิ่งที่ไปขอร้อง

    “ไม่เจ้าค่ะ พี่ฟู่เอ้อร์ ทั้งเจ้าสำนัก ทั้งเด็กน้อย นี่นิสัยพอๆกันเลย ถ้าได้ไปอยู่กับนักพรตไท่อี้ด้วยแล้วรับรองได้เลยว่า พี่เฟยเอ้อร์มีคู่แข่งแน่”นางเอ่ย

    “เย็นชาพอๆกันเลยสินะ เฮ้อ...”

    “พี่ฟู่เอ้อร์ ข้าจะขอ หลางเอ้อร์มาเป็นบุตรบุญธรรมดีหรือไม่?”

    “อะไรนะ! เหมียวอี้ เจ้าจะรับเสี่ยวเอ้อร์ของข้าเป็นบุตรบุญธรรม เจ้าจะดูถูกน้ำยาของเฟยเอ้อร์หรือไรกัน”เจ้าฟู่เหอเอ่ยอย่างตกใจ

    “ไม่ใช่เช่นนั้นเจ้าค่ะ แต่ข้าแค่อยากให้หลางเอ้อร์ได้เรียนรู้วิทายุทธ์สายของพรรคจักรราศีด้วยน่ะค่ะ ถ้ามิใช้วิธีนี้ความสามารถของหลางเอ้อร์ก็น่าเสียดายแย่สิเจ้าคะ”นางพูดไปหน้าแดงไป

    “เรื่องนี้เจ้าต้องไปพูดกับเฟยเอ้อร์เอาเองแล้วหล่ะ ในเมื่อเจ้ากับ เสี่ยวเอ้อร์ห่างกันไม่ถึง สิบปี ข้าว่าเฟยเอ้อร์คงไม่ยอมเป็นแน่”

    “ไม่ลองก็ไม่รู้มิใช่หรือไร?”เสียงสตรีอีกนางหนึ่งเอ่ยขัดจังหวะ

    “ก็ใช่อยู่นะภรรยา แต่ขนาดเรื่องของเสี่ยวเอ้อร์ยังไม่อนุญาตเลย แล้วเรื่องนี้จะได้หรือ?”เจ้าฟู่เหอเอ่ย

    “เหมยฮวามีสิ่งใดชี้แนะโปรดบอกเถิด”เหมียวชือชุ่ยเอ่ย

    “ท่านก็รู้นิสัยของท่านเจ้าสำนักดี กว่าคนที่เป็นพี่น้องของเขาเสียอีก ท่านก็น่าจะทำได้นะเหมียวชือชุ่ย”สตรีนางนั้นเอ่ยพร้อมใช้หางตามองไปยังผู้อาวุโสสำนักซึ่งเป็นสามีตน

    “โถ่.. ภรรยาเจ้าอย่ากะแนะกะแหนข้าเสียหน่อยเลย”เจ้าฟู่เหอเอ่ยพร้อมกับโอบกอดหญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของตน

    “ข้ายังมิได้ว่ากระไรเลย ท่านจะร้อนตัวไปไย?”หลินเหมยฮวาเอ่ยก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปยังห้องของตน

    “เฮ้อ.... งั้นข้าตามไปง้อนางก่อนนะ”พอพูดจบเจ้าฟู่เหอก่อนเดินตามหลินเหมยฮวาเข้าไปในห้อง ส่วนเหมียวชือชุ่ยก็เดินไปยังห้องโถงที่มีชายอันเป็นที่รักนั่งคอยอยู่พร้อมหน้ากับเจ้าเด็กชายตัวแสบ

    “เป็นเยี่ยงไรบ้าง ชือชุ่ย หลางชางดื้อด้านบ้างหรือไม่?”เจ้าเฟยเหอเอ่ยถามหญิงอันเป็นที่รักก่อนที่จะหยิบแก้วน้ำชามาดื่ม

    “ไม่หรอกเจ้าค่ะ หลางเอ้อร์ไม่มีดื้อหรอก ออกจะตั้งใจถ้าได้หลางเอ้อร์มาเป็นบุตรก็จะเป็นการดี”นางเอ่ยก่อนที่จะยกน้ำชาขึ้นมาจิบ

    “ อื้ม...แสดงว่าถ้าข้าส่งเข้าสำนักไท่ไป๋ก็คงไม่ก่อเรื่องอันใดให้เป็นที่หนักใจ”เจ้าเฟยเหอเอ่ย

    “ก็คงเป็นเช่นนั้น แต่พี่เฟยเอ้อร์ ข้าอยากได้หลางเอ้อร์มาเป็นบุตรบุญธรรม ท่านจะว่าอย่างไร?”นางเอ่ยถามก่อนที่จะมองไปยังเด็กน้อย

    “อะไรนะขอรับ?!”หลางชางเอ่ยด้วยความตกใจ

    “เงียบเถิดหลางชาง ทำไมชือชุ่ยถึงต้องการรับหลางชางเป็นบุตรบุญธรรม ทั้งที่พวกเจ้าห่างกันไม่ถึง ๑๐ ปี?”เจ้าเฟยเหอเอ่ยถาม

    “ข้าเห็นว่าความสามารถของหลางชางนั้นไม่ธรรมดาเสียเลย รวมถึงพลังปราณธาตุไม้ที่โดดเด่นมาโดยไม่ได้ฝึกฝนอีกเล่า หลางชางน่าจะได้ฝึกวิชาการใช้พิษของพรรคจักรราศียิ่งนั้น ถ้าไม่ได้เข้าร่วมในพรรค แต่ว่าเป็นเชื้อสาย หรือเกี่ยวข้องกับคนในพรรคแล้ว ถึงอย่างไรเสียก็สามารถฝึกได้”เหมียวชือชุ่ยเอ่ยอย่างมีเหตุผล

    “งั้นก็ตามใจเจ้าเถิด ชือชุ่ย ข้าจักขัดอันใดเจ้าได้เล่า”เจ้าเฟยเหอเอ่ย

    “เจ้าสำนัก ขอรับ” เด็กชายเอ่ยเรียก แต่ชายหนุ่มก็หาสนใจไม่

    “เจ้าไม่ต้องงอแงหรอก หลางเอ้อร์ ตอนนี้เจ้าก็ได้มาเป็นบุตรบุญธรรมของราศีเมษแล้ว เจ้าจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่โลกไม่รู้อีกมากมาย ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องชอบ หลางเอ้อร์น้อย”เหมียวชื่อชุ่ยเอ่ย

    “ขอรับ”

    “พี่เฟยเอ้อร์ หลางเอ้อร์น้อย ข้าลากลับก่อน ประเดี๋ยวพรุ่งนี้ ข้าจะพาหลางเอ้อร์น้อยไปยังพรรคจักรราศีบ้าง ข้าขอตัว”เหมียวชือชุ่ยเอ่ยก่อนที่จะลุกขึ้น

    “ข้าไปส่งนะขอรับ”หลางชายเอ่ย

    “ก็เอาสิหลางชาง”เจ้าเฟยเหอเอ่ยก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องอักษร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×