ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Ep.8 ผมกับฮยอง
**ตอนนี้เป็นแนวชายxชายนะคะ อยากให้รีดเดอร์เข้าใจว่าไรท์ต้องการคู่รักหลากหลายแบบค่ะ กราบขอบคุณล่วงหน้าค่ะ**
Rapmonster talk
"อ๊าาาา เจ็บ เชี่ยๆๆๆๆ เจ็บชิบ ตายๆกูตาย"
ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงใครบางคนที่แสนคุ้นหู เหลือบไปมองนาฬิกาเห็นเป็นเวลา 6.18 น. ฟังดีๆ....แม่งเสียงจินฮยองดังมาจากในห้องน้ำนี่หว่า
"อ๊ากกก เชี่ยเอ้ย"
เค้าทำอะไรวะ
"อ๊าาาาา"
ผมค่อยๆ ย่องเดินเข้าไปใกล้ประตู ตีนหนักแค่ไหนก็ต้องทำให้มันเบาให้ได้
ประตูแม่งเสือกไม่ล็อค...กูจะเปิดเข้าไปดีมั้ย รู้สึกหวั่นๆว่ะ ป...เปิดเลยละกัน
"อ่า..."
"ฮยองทำไรอ่ะ"
พอผมเปิดเข้าไปก็เห็นจินฮยองจริงๆด้วย ฮยองยืนทำอะไรซักอย่างอยู่หน้ากระจก หน้านี่แทบจะจมลงไปกับกระจกอยู่ละ มือสองข้างแม่งก็ทำอะไรก็หูอยู่ก็ไม่รู้ หรือว่าพี่แกถอดต่างหูสีดำไม่ได้
"ร..แรปมอน...นัมจุนนนนนนนน"
"ครับ"
"ช่วยกูด้วยยยยย เจ็บชิบหายเลย"
"ฮยองเป็นไร"
"อยู่ๆมันก็กลายเป็นหนองเฉยเลย ดูดิ เชี้ยเจ็บ!"
จินฮยองกำลังเอามือไปจับหูข้างขวาของตัวเอง เพื่อบอกผมว่ามันเป็นหนอง แต่แม่งเสือกจับแรงจนร้องออกมาซะแบบนั้น แล้วดูดิ น้ำหนองแม่งไหลอย่างกะน้ำตกทีลอซู
"แล้วไปทำอีท่าไหนถึงกลายเป็นแบบนี้อ่ะ"
"ไม่รู้talk ดีๆกูก็ตื่น แล้วมันก็เจ็บๆ พอกูลองจับแม่งก็ยิ่งเจ็บ กูเลยเดินเข้ามาดูในห้องน้ำ แงงงงงงงงง กูเจ็บบบบบบบ"
"ชู่ววว เดี๋ยวคนอื่นก็ตื่นหรอกฮยอง"
"ก็มันเจ็บนี่หว่า มึงอย่ามาทำเป็นคนมีมารยาทหน่อยเลย"
"ไหนเอามาดูดิ๊"
"สั่งกูอ่อ" แหม่ จินฮยองแกว่างั้น แล้วคิดว่าผมกลัวฮยองอ่อ แบร่
"เอามาดู"
"ไม่เอา มึงมือหนัก"
กูเพลียกับฮยองคนนี้จริงๆ
"เร็วๆฮยอง"
"ไม่เอา เจ็บ!"
"อย่าดื้อดิ! มานี่เร็ว เดี๋ยวผมจับเบาๆ"
"ไม่เอาาาาาา"
กูต้องทำยังไง
"นับหนึ่ง"
กูต้องใช้คำสั่งเผด็จการสินะ
"มึงอย่ามาสั่งกูนะ!"
"นับสอง"
"กูแกกว่ามึงกี่ปีห้ะ!"
"นับสะ...."
"เออก็ได้"
ก๊ากกกกกกกกกก บอกแล้วววว ยังไงกูก็วิน 5555555555555
"มาใกล้ๆ"
ไหนๆ กูก็ออกคำสั่งได้กูก็สั่งแม่งเลยละกัน หึๆๆ
ผมย่อตัวลงเพื่อให้ช่วยฮยองแกถอดไอ้ต่างหูสีดำนั่นได้ง่ายขึ้น
"เบาๆ นะเว้ย"
"ครับๆ"
"โอ้ย!"
"ยัง!!"
"กูล้อเล่น!"
"เอาดีๆละนะ"
"อ่า....เชี่ยเอ้ย"
"..."
"..."
ทำไมมันถอดยากจังวะ
"..."
"..."
หน้าของผมกับฮยองใกล้กันมาก...มัน...หวั่นๆยังไงไม่รู้สินะ ฮ่าๆๆ แปลกดี...เนอะ เชื่อมั้ยว่ามันใกล้จนได้ยินเสียงหายใจเลยล่ะ ผมนึกว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นแค่ในนิยายซะอีก แต่ความจริงมันเกินกว่าจะอธิบาย เราแทบจะแย่งอากาศกันหายใจด้วยซ้ำ
"เสร็จยัง"
"อ่า แป๊ปนะฮยอง"
"โอ้ย!"
"ออกละ"
"สัด! มันเจ็บมั้ยวะ!"
"โอ๋ๆๆ ขอโทษครับ"
"แล้วต้องทำไงต่อเนี่ย ปล่อยไว้งี้อ๋อ"
"เดี๋ยวผมล้างแผลแล้วทายาให้ ออกมาข้างนอกกันก่อน"
ผมเดินนำฮยองออกมาจากในห้องน้ำ บอกให้พี่แกนั่งรออยู่ที่โต๊ะห้องกินข้าว ผมเปิดไฟให้เรียบร้อย เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็ป้องกันดาเมจการทำลายข้าวของของผมไง ถ้าของหล่นแตกขึ้นมาทำไง โดนจินฮยองบ่นอีก โอ้ยกู วงวารตัวเอง
ผมหยิบกล่องยาออกมาจากชั้นวางของตรงผนังห้องอีกฝั่ง นี่ถ้าไม่สูงจริงหยิบไม่ได้นะครับ โฮ๊ะๆๆๆๆๆ
"..."
"...มึงจะใช้อะไรล้างแผลกูอ่ะ"
"ก็แอลกอฮอล์ดิฮยอง"
"ไม่เอา!"
"เอ้า! เดี๋ยวแผลมันติดเชื้อ!"
"มึงใช้น้ำเกลือไม่ได้อ่อ!"
"น้ำเกลือ?"
"เออ!"
"ครับๆ"
กูพูดกับฮยองต้องสำรวมเข้าไว้ ไม่งั้นแม่งยาว กูไม่ต้องไปเทศน์มหาชาติแล้ว แค่ฟังจินฮยองเทศแม่งก็บรรลุไปหลายกรรณละสัด อุ้ย หยาบคายยยยยย~
ผมนั่งลงข้างๆจินฮยอง มือข้างนึงจับสำลี อีกข้างบีบน้ำเกลือล้างแผลใส่สำลีจนชุ่ม
"เจ็นหน่อยนะฮยอง"
ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ อีกคน เพื่อให้มองได้ชัดขึ้น มือผมเลื่อนไปจับหูคนตรงหน้าเบาๆ อีกข้างที่ถือสำลีเอาไปเช็ดที่หูอย่างแผ่วเบา เค้าจะเจ็บป้ะวะ
ผมหันมามองหน้าจินฮยอง เพราะอยากรู้ว่าพี่แกทำหน้ายังไง ... ฮยองมองหน้าผมอยู่... เรามองหน้ากัน ...... ถ้าผมเผลอจูบจินขึ้นมาจะทำยังไง ผมจะไม่ยอมอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมเสมองกลับไปที่หูของฮยองต่อ
ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ห้ามวอกแวก ห้ามวอกแวก ห้ามวอกแวก
"ร้อนหรอ เหงื่อแตกเชียว"
เชี่ยเกือบสะดุ้ง อยู่ๆก็พูด ตกใจหมดกู
"เปล่าครับ"
"เสร็จยัง หูกูมันไม่ได้กว้างขนาดนั้น ถ้ามึงจะนานปานนี้ตัดหูกูไปเลยมั้ย"
"เดี๋ยวทายาก่อนนะ"
"อืมๆ"
"..."
"อ๊ากกกก แสบ!"
"โว้ย อยู่นิ่งๆฮยอง!"
"โอ้ยๆๆ"
"ย่าห์ อยู่นิ่งๆ"
"กูเจ็บบบบบ"
"แปปนะ"
"...โอ้ย น้ำตาจิไหล"
"-_-"
เกินไปว่ะ เกินไปแล้วนะเว้ย ผมกลัว ถ้าผมเผลอทำอะไรลงไป โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าระหว่างเรามันไม่เหมือนเดิม...แล้ว...ผมคิดอะไรอยู่?
คิดอะไร เผลอทำอะไร ไม่เหมือนเดิม ผมไม่เข้าใจตัวเอง
...
โอเค ผมยอมรับ ผมรู้ตัวเองดีทุกอย่าง ผมยอมรับก็ได้ว่าผม...ผม
ผมแอบชอบจินฮยอง คือ...มันไม่แปลกใช่มั้ยถ้าผมคิดแบบนี้ เราอยู่ด้วยกันมาไม่รู้กี่ปี รู้แค่มันนานมาก ถามว่าผมเริ่มรู้สึกแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักเลยล่ะมั้ง เราสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว ความรู้สึกแปลกๆ ถูกเก็บเอาไว้ ผมกลัวว่าฮยองจะตีตัวออกห่างจากผมไป ผมพยายามไม่ห่างจากฮยอง ผมอยู่ใกล้ฮยองตลอด มันก็น่าขำ ความรัก? ผมไม่แน่ใจในคำๆนี้หรอก ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร มันหมายความว่าอะไร ใครๆก็พูดได้ รัก น่ะ รักพ่อ แม่ แต่รัก ระหว่างผมกับฮยอง มันอาจจะแค่ความรู้สึกของผมเพียงฝ่ายเดียว มันอาจจะถูกมองจากคนส่วนใหญ่ว่า มันเป็นสิ่งสวยงาม แต่ตอนนี้ สำหรับผม มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลย มันอาจจะทำให้เรามีความสุข หรือมีความทุกข์ เราไม่สามารถรู้อะไรในอนาคตได้เลย มันออกจะน่ากลัว ถ้าผมบอกเรื่องนี้ไปแล้วจินฮยองรังเกียจผมล่ะ มัยจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราผ่านมาพร้อมกัน มันจะหายไปมั้ย ถ้าสายตาของจินฮยองที่มองผมมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วล่ะ ผมไม่อยากคิดถึงตอนนั้น
"เสร็จแล้วครับ"
-17:47 น.-
"อีโฮป"
"ห้ะ"
เพื่อนหน้าม้าของผมหันมาตามเสียงของผม
"อะไรของมึง"
"กูมีเรื่องปรึกษา"
"ว่ามา"
"กูแอบชอบคนๆนึง"
"อืม..."
"แล้ว...กูกลัวว่าจะไม่มีโอกาสบอกเค้าไป"
"จินฮยองน่ะหรอ"
เหมือนโลกแม่งหยุดหมุน กูนี่อึ้ง อึ้งสุดๆ อึ้งมากๆ อึ้งแบบสัสๆ อึ้งเหี้ยๆอ่ะ แม่งรู้ได้ไงวะ ผมก็พอรู้นะว่ามันขี้เสือกพอตัวแต่มันไม่น่าจะรู้ลึกขนาดนี้ไม่ใช่หรอ แล้วถ้าความลับแตกผมจะทำยังไง
"มึง...มึงรู้ได้ไง"
"กูเป็นเพื่อนมึงป้ะ ทำไมกูจะไม่รู้"
อย่ามาพูดดีอีสัส ระดับมึงเค้าเรียกเสือก
"...แล้ว...กูทำยังไงดีวะ"
"ก็บอกเค้าไปสิ"
"มึงพูดเหมือนมันง่ายเนอะ"
"มันไม่มีอะไรง่ายหรอก"
"..."
"นั่นแหละ มึงก็แค่บอกไป"
"มันไม่ง่ายไง"
"แล้วมึงคิดว่าถ้ามึงไม่รีบพูดไปตอนนี้ ถ้าพรุ่งนี้จะไม่มีจินฮยอง ถ้าพรุ่งนี้มึงไม่สามารถบอกเค้าไปได้ ถ้าวันนึงมันไม่เหลืออะไรล่ะวะ เรามาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้อาจจะมีคนมาฆ่าเราตายก็ได้ เราอยู่ในที่ความไม่แน่นอน ในคฤหาสน์นี้เราอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าห้องด้านบนมีอะไรอยู่ แล้วถ้าวันนึงมึงไม่สามารถบอกเค้าไปได้..."
"..."
"มึงไม่เสียใจหรอวะ ความรู้สึกของมึงถูกเก็บไว้มานานแค่ไหน สุดท้ายมันอาจจะจมหายไปพร้อมกับตัวมึงเอง จินฮยองเองอาจจะยอมเปิดใจให้มึงก็ได้ หรือไม่..เค้าก็อาจจะชอบมึงอยู่เหมือนกัน"
ไอ้นี่ใช่เจโฮปจริงหรอ ทำไมมันพูดดีมีสาระจังวะ ตัวปลอมป้ะเนี่ย
...อืม แต่มันก็น่าคิดอยู่นะ มันอาจจะดูเข้าข้างตัวเองเกินไปหน่อย แต่เวลาที่ผมอยู่ใกล้หรือตีเนียนไปนี่นั่นกับเค้า จินฮยองก็ไม่เคยคิดรังเกียจเลยด้วยซ้ำ นั่นแหละยิ่งทำให้ผมกลัวว่าถ้าจินฮยองรู้ขึ้นมาแล้วรังเกียจผม ผมว่าถ้าเป็นอย่างนั้นผมยอมปล่อยให้มันอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ดีกว่า ถ้าผมต้องถูกจินฮยองมองด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
"แปลว่า...กูควรบอกไปสินะ"
"ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมึงแล้วแหละ มันไม่มีอะไรแน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ 50/50 ว่ะ"
"..."
เนื่องจากจินฮยองเป็นแผลหนองแตกที่หู พี่แกเลยระแวงที่จะนอนร่วมกับน้องๆ สรุปจินฮยองแกเลยนอนแยกเตียงคนเดียว ดูความอ้างนี่สิครับ น้องๆแม่งนอนเตียงเดียวเบียดกันแทบตายห่าสามสี่คนหนึ่งเตียง จินฮยองแม่งอ้างชัดๆ พูดออกมาก็ไม่ได้ โดนเทศน์อีก เออกูรู้ตัวว่าปากหมา แต่บางทีก็ปล่อยปากกูบ้างก็ได้ มันเป็นสันดานไปแล้วทำไงได้
-21:45 น.-
@Save Room
หลังอาหารเย็นทุกคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำนอน จินฮยองแม่งก็นอนเตียงเดี่ยว เหอะ พูดแล้วแม่งอิจ! เอาล่ะ ผมควร...สารภาพเนอะ ตอนนี้เลยหรอ รอให้ทุกคนนอนก่อนดีมั้ย ผมมียางอายพออยู่หรอก ไม่อยากคิดภาพหลังจากฮยองรู้เลย
แม่ง...อีเหี้ย
อีเหี้ย
อีเหี้ย
อีเหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!
กูไม่กล้าโว้ยยยยยยยยย!!
เอออีสัดกูรู้ตัว รีดเดอร์อย่าเพิ่งด่ากูสิ ยังไงอีไรท์แม่งก็ต้องบังคับให้ผมทำอยู่แล้ว ไรท์นะไรท์ ซักวันกูจะตามไปฆ่ามึงหมกส้วมถึงไทยเลยแม่ง
นี่มันผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้วผมก็ยังนอนไม่หลับ เออกูตื่นเต้น ทุกคนน่าจะนอนหลับกันหมดแล้วใช่มั้ย คือผมต้องทำจริงดิ คือตัดสินใจไปแล้วไง แล้วอีไรท์แม่งสนองนีดตัวเองสัสๆ
เออ หายใจเข้าลึกๆ มึงต้องเป็นผู้ชายแมนๆ อบอุ่น ซังนัมจา ฮึบ! เวเนมามึลฮึนดือนึนก่อนเด้!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แงงงงงงงงงงงงง หนูไม่เอาาาาา
อะแฮ่มๆ เอาใหม่
สองขายาวของผมก้าวลงบนพื้น แล้วยืนขึ้นเต็มความสูง คือบับก็ไม่ได้อวดอ่ะนะ ก็คนมันสูงอ่ะ //เอามือพัดหน้าด้วยความดัดจริต
ผมเดินตรงไปยังเตียงนอนสีชมพูหวานแหววของฮยอง เค้าหายใจอย่างเป็นจังหวะ ร่างกายไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย นั่นแหละคือสิ่งที่ยืนยันว่าจินหลับไปแล้ว ผมจะรออะไร ยังไงออมม่าก็ไม่มาตัดริบบิ้นให้อยู่แล้วนิ ผมแทรกตัวเข้าไปทางด้านหน้าจินฮยอง สองแขนโอบเอวบางๆ จนบางทีสรรพสิ่งที่แดกๆ เข้าไปก็ไม่ได้ทำให้อ้วนขึ้นเลยแม้แต่น้อย ผมแนบร่างกายเราทั้งคู่ให้แน่นขึ้น
"อือ..."
ผมเชื่อว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด เสียงจินฮยองครางออกมาเบาๆ แม่ง...แม่ง...โอ้ยยยยยย อยากจะฟัดให้หายหมั่นเขี้ยวว่ะ แม่งเคยรู้ตัวมั้ยวะว่าไอ้แก้มยุ้ยๆของฮยองนี่แม่งน่ากัดให้แตกชิบหาย ไอ้ปากแดงๆนี่ยิ่งแบบ ไอ้สัดกูจะทนได้นานแค่ไหนวะ แถมไอ้สีหน้าเวลาอ้อนนี่นะ โอ้ยๆๆๆ มาฆ่ากูเล้ยยยยย
ผมฝังจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มพร้อมสูดดมกลิ่มหอมจากแชมพูกลิ่นเดิมที่ผมไม่เคยเบื่อ
"อืม.."
แขนเรียวๆ เอื้อมมากอดผมตอบ ซึ่งแน่นอนว่าจินฮยองไม่รู้หรอกว่าเป็นผม หน้าเนียนๆ กับจมูกรั้นถูไถกับหน้าอกของผม เขาต้องนึกว่าผมคือหมอนข้างตัวนั้นแน่ๆ ผมอิจฉาไอ้หมอนข้างสีชมพูเลี่ยนๆนั้นมานานแล้วอ่ะเอาจริงๆ จินฮยองทั้งกอด ทั้งหอม ทั้งเอาขาก่ายอีหมอนข้างนั่นมาตั้งแต่เดบิวต์อ่ะ ไม่ให้อิจได้ไง
"...แรปมอน?"
"ผมคนเดิมเพิ่มเติมไม่มีไร"
"ทำอะไรของมึง"
"ไม่เห็นหรอ?"
"กวนตีนกูช้ะ?"
"ผม...ผมแค่อยากกอดฮยอง"
"บ้ารึไง"
"แค่กอดแค่นี้ไม่ได้หรอ ใจร้ายอ่ะ"
"..."
"ผม...ผมมีอะไรจะสารภาพกับฮยอง"
จินฮยองเงียบไปชั่วขณะ เหมือนกำลังคิดอะไรซักอย่างอยู่ในใจ ยิ่งฮยองเงียบผมก็ยิ่งกลัว มันก็จริง อะไรก็เกิดขึ้นได้ 50/50 ซึ่งโชคชะตาอาจจะรังแกผมหรือจะเข้าข้างผม
"มึงทำอะไรพังอีกใช่มั้ย"
อีเหี้ย กูกำลังอินเลยแม่ง ทำลายบรรยากาศหมดฮยอง เดี๋ยวจะเอาคืนแน่ แต่ขอกูบิ้วให้มันซึ้งๆก่อนนะ
"เปล่า"
"มีอะไร"
"ผม.."
"มีอะไรก็พูด จะลีลาอีกนานมั้ย กูไม่ได้เล่นซีรีย์กับมึงนะ โอ้ย มันโดนหูกู!"
"ข..ขอโทษครับ"
จากคิมนัมจุนผู้ชายที่พูดจาฉะฉาน เก่งไปทุกอย่าง ทำไมตอนนี้แม่ง...กูกลายเป็นคนพูดไม่ค่อย พูดไม่ค่อยออก แต่จะบอกให้เธอได้ฟังเบื้องหลั้งงงงงงงงงงงงงงง~ ถุ้ย! ปัญญาอ่อน
"ผมจะบอกว่า"
"..."
"ผมชอบฮยอง"
"..."
อีเหี้ยยยยยยยยยยยยยยย ฮยองอย่าเงียบบบบบบบบ ใจคอไม่ดีสัสๆ อย่าเงียบแบบน้านนนนนนนนนนนน
"จะแกล้งกูช้ะ"
"ผมชอบฮยอง ผมชอบฮยองมาก ไม่ใช่แบบพี่น้อง ผมชอบฮยองเหมือนคนๆนึง เอาตรงๆเลยนะ"
"..."
"ผมจะอยากได้ฮยองเป็นเมีย เข้าใจมั้ย"
"พูดอะไรของมึง!"
จินฮยองผลักผมอย่างแรงจนเกิดระยะห่างระหว่างเราสองคนขึ้นไม่น้อย ผมมองไม่เห็นหน้าฮยอง ฮยองก้มหน้าก้มตาเหมือนกับว่าไม่อยากจะมองหน้าผมอีกแล้ว จินอยองนิ่งไปจนใจหาย มันจะยังเป็นเหมือนเดิมใช่มั้ย
"จินฮยอง..."
มือผมเอื้อมไปไปกอบกุมมืออีกคนตรงหน้า แต่...มันถูกสะบัดออกอย่างไร้เยื่อใย เหมือนกับว่า จินฮยองคนนี้ไม่ใช่คนเดิมของผมอีกแล้ว มือเรียวๆสองข้างกำแน่นจนสั่นเทา ผมไม่อาจรู้ได้เลยว่าจินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
นี่แหละสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุด กลัวว่าฮยองจะเปลี่ยนไป
"มึงเป็นบ้ารึไง"
"ผมชอบฮยอง"
"..."
ผมโผกอดฮยองอย่างเร็วปานสายฟ้า จินฮยองที่ไม่ได้ทันตั้งตัวจึงไม่สามารถหลีกหนีผมได้ทัน ผมกอดอีกคนไว้แน่นเพราะหัวใจมันสั่งให้ทำแบบนั้น ผมกลัวฮยองจะวิ่งหนีผมไป ทุกอย่างมันน่ากลัวเกินกว่าใครจะเข้าใจ มันน่ากลัวกว่าการสารภาพรักกับเพื่อนสนิทอีกด้วยซ้ำ
"ออกไป"
จินเอามือที่มีทั้งสองข้างทุบลงมาบนตัวผม ถามว่าเจ็บมั้ย เจ็บ แต่กูจะทน สองแขนผมกอดรั้งฮยองให้แน่นขึ้น จินฮยองก็ยิ่งดิ้นแรงขึ้น เหมือนกลับว่า จินฮยองเกลียดผมเข้าซะแล้ว
"ฮยอง ผมขอโทษ ผมผิดที่ผมรู้สึกแบบนั้น"
การกระทำของจินฮยองหยุดลงคล้ายกับรอฟังว่าคำพูดต่อไปที่จะออกมาจากผมคืออะไร ก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้นที่อกด้านซ้ายเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างในหัวมันตีกันไปหมด ความรู้สึกต่างๆ ลอยเข้ามาปนเปผสมกัน ทั้งกลัว ทั้งอาย ทั้งคาดหวัง ทั้งระแวง ทั้งความรู้สึกนั้นที่เรียกว่ารัก ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดตายให้ได้
"..."
"ผมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"
"..."
"แต่ฮยองช่วยทำให้มันเป็นจริงได้มั้ย"
จินฮยองเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม ตากลมๆใสๆ นี่มันไม่เคยเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันเลยแม้แต่น้อย เราสบตากัน ถ้าตามหลักแกรมม่านิยายน้ำเน่านั้น ผมก็คงต้องก้มลงไปประทับจูบกับฮยองสินะ
ผมโน้มหน้าให้ต่ำลง จนระยะห่างมันแทบจะไม่มีเหลือ แปลกที่จินไม่ผลักไสผม ยิ่งลมหายใจของเราทั้งคู่กระทบกัน มันยิ่งรู้สึกว่า แค่ลมหายใจของจินก็ฆ่าผมตายตรงนั้นได้เลย ไม่มีคำพูดใดๆทั้งนั้น ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน ผมมั่นใจว่าไม่ได้มีเพียงเสียงหัวใจของผมที่เต้นเพลงกาโว หัวใจจินฮยองก็เต้นชนกันกับผมเหมือนกัน แบบนี้...เรียกว่าใจตรงกันรึเปล่านะ หรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดไปเองทั้งหมด สิ่งเดียวที่ผมแน่ใจคือผมตกหลุมรักจินฮยองแค่นั้น ความใกล้ชิดมันมากเกินจะห้ามใจได้
ผมประทับริมฝีปากลงบนปากนุ่มๆ แดงๆของคนตรงหน้า อ่า...มันดีจริงๆ ผมได้ทำสิ่งที่คิดว่าชีวิตนี้ไม่มีโอกาสได้ทำลงไปแล้ว ความหวานจากปากคนตรงหน้ามันหวานจนผมอยากจะครอบครองมันเอาไว้คนเดียว คิดแบบนั้นหัวใจก็สั่งให้ผมป้อนความหวานส่งไปยังอีกคน มันยิ่งทวีคูณความหวานจนเชื่อว่ามดทั้งรังยังเลี่ยน แต่ความรู้สึกนี้มันหอมหวานเกินจะหยุดยั้งมันไว้ บทจูบนี้ยังบรรเลงต่อไปไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลง คนตรงหน้าส่งสองแขนมารั้งท้ายทอยผมไว้ แปลว่า...รู้สึกเหมือนกันใช่มั้ย มันดีใช่มั้ย จินฮยองรู้สึกแบบผมรึเปล่า ยิ่งการกระทำแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเราทั้งคู่ต่างดูดดึงซึ่งกันและกัน ฮยองจะต้องการผมเหมือนที่ผมต้องการฮยองมั้ย หรือมันเป็นแค่ความรู้สึกเพียงชั่วครู่...
จูบแสนหวานที่ผมจะไม่มีวันลืมสิ้นสุดลง ไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหน แม้มันจะจบแล้วแต่ความรู้สึกดีๆ ยังคงอยู่ในหัวใจผม หลังจากผมผละออกจากริมฝีปากอิ่ม คนตรงหน้าก็ผลอยหลับไปในอ้อมกอดของผมทันที พูดว่าอ้อมกอดก็เขินแปลกๆนะ ฮ่ะๆๆ
Jinnie Princess talk
ม่านตาค่อยๆเปิดขึ้น ตัวผมนอนอยู่บนเตียงพร้อมผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวผมอยู่ ไม่มีร่องรอยของนัมจุน...
"อ่า...เมื่อคืนฝันไปสินะ"
ผมเพียงพึมพำกับตัวเองเบาๆ ผมไม่เคยจำความฝันเรื่องไหนได้ดีเท่าเรื่องนี้มาก่อนเลย ไอ้เด็กบ้านั่น แค่ความฝันทำไมผมต้องใจสั่น? นั่นสิ ทำไมกันนะ? ยิ่งคิดเรื่องนั้น ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายก็เต้นซะดื้อๆ แล้วหน้านี่มึงจะร้อนทำไม จะร้อนทำไม! ห้ะ! ไอ้นัมจุน ไอ้บ้า ทุกคนเชื่อมะว่ามันไม่มีทางชอบผมหรอก คนแบบมันแม่งชอบผู้หญิง นมใหญ่ๆ อึ๋มๆ ตูดฟิตๆ เซ็กซี่ๆ มันคงไม่ชอบผมหรอก คนแบบนั้นน่ะ ฮึ่ย! พูดแล้วโมโห! แล้วกูจะโมโหทำไม โอ้ยย สติๆๆๆๆๆๆๆ!! หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ เข้าาาา ออกกกก เข้าาา ออกกกก ข้าววววว หิวววววว ข้าววววว
หื้ม? อะไร? ทำไมผมถึงเรียกมันว่านัมจุนน่ะหรอ ไม่บอกได้มั้ยนิ เออรู้ตัวว่ายังไงก็ต้องบอก อีไรท์แม่งจะเข่นฆ่าผมให้ได้เลยใช้มั้ย! ย๊ากกกกกก
(ไรท์:เออโบ้ยกูเข้าไป -..- ลัมไย)
ก็ผมก็เรียกแบบนี้มาตั้งแต่เข้ามาเป็นเด็กฝึกแล้วป้ะ ก็เรียกจนติดปาก วันนึงมันเคยมาปรึกษาเรื่องชื่อในวงการตอนเดบิวต์ด้วย แต่ผมก็บอกมันว่า ใช้ชื่อจริงๆมันนั่นแหละ สุดท้ายมันก็ไม่เชื่อผม เลือกใช้ชื่อแรปมอนสเตอร์อะไรของมัน ซึ่งผมชอบชื่อนัมจุนมากกว่า ก็เลยเรียกมันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เมมเบอร์คนอื่นก็เรียกมันว่านัมจุนออกจะบ่อย แต่ผมจะเรียกแบบนั้นบ่อยที่สุด ผมเคยคิดว่าถ้ามีลูกชาย จะตั้งชื่อลูกตัวเองว่านัมจุนด้วยซ้ำ (ไรท์:บ้าหรา จะให้ลูกชื่อซ้ำกับพ่อไม่ด้ายยยย5555555)
อีไรท์เดี๋ยวนี้มันกวนตีนนะครับ เดี๋ยวเจอไหล่ผมเฉาะหน้า รับรอง บาดเจ็บหนักกว่าโดนฟันจอบอีจองกุกแน่ //ยกตีนขึ้นมารอ
นั่นแหละครับ ว่าแต่วันนี้จะมีใครทำอาหารตอนเช้ารึยังนะ ปกติผมจะเป็นคนทำกับข้าวทุกวัน แต่พอมีสาวๆมาอยู่ด้วยก็ดีหน่อยเพราะพวกเธอแบ่งเบาภาระเรื่องในครัวเรือนได้บ้าง แต่ก็นิดหน่อยเองแหละ เอาตรงๆเลยคือแล้วแต่อารมณ์พวกนาง ถ้ามีอารมณ์ทำก็ทำ ถ้าขี้เกียจก็ไม่ทำ
เออ สรุปคือวันนี้ลิซ่าตื่นมาทำกับข้าวตั้งแต่เช้าแล้วครับ ดีเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผมไม่ขี้เกียจนะ ขี้เกียจมาก หิวแล้วด้วย แต่แดกก่อนก็ไม่ได้ เดี๋ยวโดนพวกมันด่าอีก นี่แหละมิติใหม่ของพี่ใหม่วงเคป็อป แต่ตอนนี้มผมอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับไปทัวร์คอน และอัพทวิตหาอาร์มี่ได้อีกแล้ว เรามาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ผมอาจจะตายตอนนี้เลยก็ได้ หรือไม่อาจจะมีตัวอะไรบางอย่างมารัดคอผมตายคาที่ก็ได้...
พรึ่บ!
"เฮ้ย! ห...หายใจไม่ออก! ใคร ออกไปนะ!"
ผมโวยออกมาเพราะรู้สึกเหมือนมีตัวอะไรบางมารัดคอผมอย่างแรง จนหายใจแทบไม่ออก
"จะโวยวายทำไมเฮีย! แกล้งเล่นแค่นี้วี๊ดแตกเป็นตุ๊ดไปได้"
"ย...ยัยจีซู ยัยเด็กบ้านี่ ตกใจหมดเลย"
"ฮึ! เฮียนี่น่ารักสมที่พี่นัมจุน...อ่าไม่พูดดีกว่า ฮ่ะๆๆ"
เดี๋ยวนี่มันฮิตเรียกชื่อจริงกันแล้วหรอครับ แรกๆยังเรียกแรปม่อนอยู่เลยนิ ว่าแต่ สมที่นัมจุนมันทำไม? ยัยนี่มันมีอะไร ไปรู้อะไรมากันแน่
"ไปละ"
น้องสาวตัวแสบผมทำท่าจะเดินออกไป แต่มีหรอคนอย่างคิมซอกจินจะปล่อยเด็กนั่นไปง่ายๆ เหอะ
"เดี๋ยววววววว"
ผมดึงรั้งกลุ่มผมบนหัวเด็กนั่นเอาไว้และลากมันเข้ามาหาตัวผมเอง
"โอ้ยเฮียเจ็บ อย่าเล่นแรงเด้!"
"ไปรู้อะไรมาห้ะยัยเตี้ย"
"ไม่บอก! ปล่อยนะเฮีย!"
"ทำไมดื้ออย่างงี้ห้ะ"
"ปล่อย! งั้นจีซูจะเอาน้ำมันงาเฮียไปปาทิ้ง!"
"คิดว่ากลัวเหรอ!"
"กลัวมั้ยล่ะ!"
"กลัว!"
"งั้นก็ปล่อย ไม่งั้นซูจะไปฟ้องพี่นัมจุน!"
"ทำไมต้องมัน!"
"ม่ายบอก! แบร่"
"เฮ้ย! จะไปไหน!"
"ไปไกลๆจากเฮียอ่ะ"
เด็กนี่มันน่านัก เดี๋ยวจับตีก้นซะให้เข็ดเลย ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ทำไมถึงต้องเป็นนัมจุน? เออแปลกดีว่ะ หรือว่า...ฝันเมื่อคืนจะเป็นลางอะไรบางอย่าง บ้าน่า สงสัยผมจะบ้าไปแล้วจริงๆนะ
-08:12 น.-
@Save Room
ทุกคนตอนนี้มานั่งรวมกันแดกข้าวเช้าฝีมือลิซ่า เชื่อมั้ยว่ามันอร่อยพอๆกับผมเลย ถึงแม้ว่ามันจะคนละฟิล แต่เรื่องรสชาตินี่ใช่ย่อย ทานข้าวไปสักพักไม่รู้อะไรมาดลใจให้ผมหันไปมองหน้านัมจุน นั่นสิ ผมจะมองไปทำไม ประเด็นคือผมมองมันไปแล้ว ปรากฏว่ามันมองหน้าผมเหมือนกัน จะมองทำไมวะ หน้ากูมีอะไรติดรึไง ถุ้ย คำนี้แม่งน้ำเน่าเกินไปละ มันจะมีอะไรติดได้ ยามีฟัน? เอาจริงๆวันนี้ผมยังไม่ได้แปรงฟันเลย บ้วนปากอย่างเดียว ขี้เกียจมากช่วงนี้
แล้วคิดว่าผมจะหน้าด้านสบตากับมันต่อหรอ ก็ก้มหน้าแดกข้าวแดกปลาต่อสิครับ เออว่าแต่ ถ้าเรามองไปอีกครั้งนึงมันจะยังมองหน้าเราอยู่มั้ยวะ คิดแล้วก็ไม้่รีรอมองหน้ามันอีกทีนึง อีเหี้ย! มันมองหน้าผมอีกแล้ว! เฮ้ย ไม่ได้ๆ แดกข้าวๆๆๆๆ จำไว้อย่างเดียว แดกข้าว! ไหนๆก็ไหนๆละ ขอลองมองอีกรอบดูละกัน ... ทำไม! จะมองหน้ากูทำไม!? ต้องการอะไร! กูก็ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยอีกครั้ง
อะไรวะ แล้วเสือกไม่มีใครพูดอะไรเลยด้วยนะ นี่พวกมึงจะปล่อยให้มื้อเช้ามันอึมครึมอย่างงี้หรอวะ เอ๊ะ หรือว่ากูมโนไปเองรึเปล่าว่ามันมาคุ ช่างมันเพราะตอนนี้ของกินสำคัญกว่า
Rapmonster talk
เอาจริงๆจินฮยองแม่งไม่มีอาการเคอะเขินหรืออายบ้างเลยหรอวะ หรือว่าลืมเรื่องเมื่อคืนไปแล้ว? เออลืมๆไปก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่อายที่ไปทำแบบนั้นใส่ฮยอง แต่อย่างที่อีโฮปมันบอกนั่นแหละ กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำอีก ตอนนี้ก็แดกข้าวเสร็จไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่ปวดขี้อีกวะ ไม่ใช่ใครนะ ผมเองเนี่ยแหละ .... เออแต่อยู่ดีๆก็ปวดเยี่ยวนะกู สมองคิดได้ก็พลันเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที ช่วงนี้ไม่ค่อยได้แดกน้ำเยี่ยวอาจจะเหลืองหน่อย คิดอะไรลอยๆไประหว่างเดินเข้าห้องน้ำก็มีตัวอะไรบางอย่างลอยมาอย่างกับสไปเดอร์แมนมาเกาะบนหลังแกร่งของคนหล่อแบบผม แล้วแม่งหนักชิบหาย ไม่พอยังเอางวงสองข้างมารัดคอผมอีกนะ แม่ง คิดว่าตัวเองเป็นเฉินหลงรึไง วิ่งสู้ฟัดหรอ
"เฮ้ยใคร!?"
"ขี้โวยวายเป็นเฮียจินไปได้นะ"
แน่นอนมีอยู่คนเดียวที่จะเรียกจินฮยองด้วยสรรพนามแบบนี้มีคนเดียว นั่นก็คือยัยกระดาษทิชชู่ จีซูนั่นเอง
"นี่จะมาเกาะแกะฉันทำไมห้ะยัยเด็กนี่"
"เปล่า แค่จะบอกว่า เมื่อคืนอ่ะ....จีซูเห็นน้าาาาาา เอ๊ะ เมื่อคืนพี่สองคนทำอะไรกันน้าาาา อิอิๆๆ"
"แกเห็นหรอ"
"เห็นดิ! เมื่อคืนนะ โอ้วววโหววว เลิฟซีนนี่แบบ โอ้มายมากอ่ะ มีการสารภาพรักด้วยนะ แหมๆๆๆๆๆ ซึ้งเชียว ฮ่าๆๆๆๆ"
กูพลาดละ...พลาดจริง พลาดแบบโคตรพลาด พลาดเหี้ยๆ พลาดสัสๆ พลาดแบบมหากาพย์แห่งความพลาด พลาดแบบไม่รู้จะอธิบายยังไง โอ้ยเพลียจิต ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก้มีแต่เรื่องปวดหัวมากขึ้นแม่งทุกวัน ทำไมชีวิตกูต้องมาเจออะไรแบบนี้วะ
"มันตลกตรงไหนห้ะ!"
"ก็ดูพี่ทำหน้าดิ555555555555 พี่กลัวคนอื่นรู้ขนาดนั้นเลยอ๋อ55555"
ตัวอะไรซักอย่างที่เกาะอยู่บนหลังผมมันขำหนักมากถึงขนาดต้องเอามือมาทุบไหล่ผมแก้อาการขำ เออ ขำเข้าไปสิ ขำมันเข้าไป เหมือนพี่ไม่มีผิดเลย
"จะปล่อยได้ยัง"
"พี่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้มั้ย"
"ไม่ จะทำไม"
"พี่ต้องยอมรับข้อเสนอของจีซูก่อน เค้าถึงจะไม่บอกใคร"
"ข้อเสนออะไร?"
"ก็....!@$%&$C #$^&*(*"
"...ไม่ทำได้มั้ย เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเหอะ ฉันไม่กล้าท้าทายอำนาจมืดขนาดนั้นหรอกนะ"
"งั้นก็เลือกเอาละกันพี่นัมจุน...."
โอ้ยยยยย ทำไมต้องทำเสียงหลอนๆแบบนั้นด้วยวะ ใจไม่ดีเว้ยยยยยยย กูนี่นึกว่าเสียงแม่นากพระโขนงร้องเพลงกล่อมไอ้แดงลูกพ่อ แต่ไอ้ข้อเสนอบ้าๆนั่น ทำไม๊ทำไมกูต้องทำ แล้วทำไม๊ทำไมยัยเด็กนี่ถึงต้องมาเห็นฉากนั้นด้วยยยย ฮรือ อยากจิครายเป็ยภาษาจั้งจั้งแมนปุ้งปุ้ง คิดไปคิดมายังไงทุกคนก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้วนิ อยู่ที่ความกล้าหาญชาญชัยของผมว่าจะบอกทุกคนเมื่อไหร่ ถ้าถามว่าเมื่อไหร่น่ะหรอ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ
"งั้นฉันขอเก็บไปคิดก่อน"
ปากว่าหน้าเครียดครับ แต่จะทำอะไรมันก็ต้องมีชั้นเชิง สมองระดับผมงี้ โถ่ ถ้าซอมบี้ตัวไหนได้สมองผมไปกินคงฉลาดยันชาติหน้าเลยล่ะ แน่ะๆๆ ไม่เชื่อใช่มั้ยครับ เอาจริงๆก็อย่าเชื่อเลย เรื่องปัญญาอ่อนทั้งนั้นแหละ ก๊ากกกๆๆ
"ได้ ให้เวลาไม่นานนะ ฮึบ! อ่ะ!"
เด็กบ้านั่นกระโดดลงมาจากหลังอันแสนแข็งแกร่งดุจหินผาอ่ะตุบปาแบแบ
"โอ้ย ปวดหลังเลยกู"
ผมบอกแล้วว่าหลังผมนี่มันช่างแข็งแกร่งจริงๆ จะเดินนี่แทบหน้าทิ่มดิน แต่ผมไม่ปล่อยให้มันทิ่มหรอก เดี๋ยวสิวขึ้น ถุย โอเค รีดเดอร์อาจจะคิดว่าผมดูฝืนๆ เหงาๆนะครับ ผมบรรยายไม่สนุกหรอก //หยอดน้ำตาปลอม //ซับน้ำตาด้วยส้นตีน //สะอึกสะอื้นปานจิขาดใจตาย
"บรัยละไป" เด็กนั่นพูดพร้อมโบกมือลาเหมือนเป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายแล้วก็เดินจากปาย เออเดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันพูดว่าอะไรนะ? บายละไป? จริงๆมันต้องเป็น 'ไปละบาย' หรือว่า 'บายไปละ' ไม่ใช่หรอวะ เออ ก็งงดีว่ะ แปลภาษาอีวีก็เหนื่อยละ ต้องมาแปลภาษายัยแปดมิตินี่อีก สมเป็นน้องจินฮยองจริงๆเลย แล้วกูนี่ก็คิดถึงเค้าจัง! พอ!
"เด็กนั่นเกาะแกะคนอื่นไปทั่ว น่ารำคาญแทนว่ะ"
"เชี่ย ชูก้าฮยอง!"
"มึงตกใจความหล่อของกูขนาดนั้นเลยไง๊?"
"มาก! เหอะ แล้วไปบอกรำคาญเค้า อยากให้เค้าทำแบบนั้นกับฮยองล่ะสิ๊!"
"มึงหมายความว่ายังไง! กูไม่เห็นเข้าใจเลย!"
"ตอแหลให้สุดนะฮยอง"
ผมว่าแล้วตบบ่าของคนตัวข๊าวขาวแต่เสือกเตี้ยกว่าสองที รู้อยู่หรอกน่ะ อาการฮยองแม่งฟ้องสัสๆว่าคิดอะไรอยู่ กัดกันเข้าไปเหอะ แล้วจะรอดูวันที่มึงสองคนได้กันละกันนะ ฮิ้ววววววๆๆ และแล้วสมองสุดบรรเจิดของผมก็คิดได้ว่าควรออกไปจากตรงนี้ก่อนที่จะโดนส้นตีนของเตี้ยตาตี่ฮยองอัดหน้าหล่อๆของผม อวยตัวเองเสร็จก็เดินออกมาจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายทันที
...เอาจริงนะ...พวกนี้แม่งเป็นอะไรกันนักหนาวะ คือมึงจะออกจากวงการแล้วหรอถึงเรียกแต่ชื่อจริงกันอ่ะ คนหล่อไม่เข้าใจ เพราะอะไรเหตุใดเทอต้องปาย~ ถุ้ย! ไม่ใช่! เพราะอะไรมันถึงเอาแต่เรียกชื่อแบบนี้กันวะ ชักจะรำคาญแล้วนะสัส เดี๋ยวปั๊ดตบหัวคว่ำเลยแม่งงงงงง
"ยุนกิฮยองขาวขึ้นนะเนี่ยยยย"
"มึงก็เตี้ยลงนะจีมิน"
"อ้าวแทฮยอง นี่มึงดำลงเนอะ"
"เออจองกุก ฟันมึงยื่นยาวขึ้นป้ะวะ"
"โฮซอกฮยองคิ้วหายไปไหนหมดวะ"
"นี่ทำไมพวกมึงต้องเรียกชื่อจริงกันด้ะ!?"
ผมเอ่ยหนึ่งคำถามที่ค้างคาใจพลางทำหน้าเอือมระอาหมานั่ง.งงให้กับความบังทันของคนพวกนี้ จินฮยองแม่งก็หายไปไหนไม่รู้อีก แทนที่จะมาช่วยผมด่าพวกมันอีกแรง
"ก็เรียกตามเวลาจินฮยองเรียกชื่อนัมจุนฮยองอ่ะคร้าบ" มีการเน้นเสียง เหี้ยเอ้ย
นี่มึงสนุกกันมากใช่มั้ย ล้อกูเข้าไปสิอีพวกห่า -_-++
####
อันยองรีดเดอร์ทู้กโคนนนนนน ยังอยู่กันรึเปล่าน้าาาาาา เค้าขอโต้ดที่ไม่ด้ายอัพนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก หวังว่าจะยังอยู่กันน้าา อย่าลืมเม้นเยอะๆนะคะ ไรท์ต้องการกำลังใจมากถึงมากที่สุด เม้นแล้วอย่าลืมไปปั่นวิวเพลง DNA ด้วยนะครับโผม ตอนวันคัมแบคนี่ไรท์มานั่งดมยาดมรอโซนหน้าจอตั้งแต่บ่ายโมงเลยนะ55555555555555555555
//เอาพี่จินมาง้ออออออออ
รักรีดเดอร์ง้าบบบบบบบบบบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น