คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เหยื่อแต่ละราย
เหยื่อรายแรก: เด็กหญิงบังอร ภมรสุด
ในที่สุดซีอุยเริ่มลงมือกับเหยื่อรายแรกคือเด็กหญิงบังอร เมื่อวันที่ 10 เมษายน ปีพ.ศ.2497 เมื่อเวลาประมาณทุ่มเศษ ขณะนั้นซีอุยออกมาเดินเล่นในตลาดทับสะแก ระหว่างเดินผ่านหน้าโรงเลื่อยได้พบกับเด็กหญิงบังอรเดินสวนมา ซีอุยจึงปรี่เข้าไปอุ้มเด็ก ใช้มือปิดปากปิดจมูก วิ่งฝ่าความมืดไปข้างโรงเลื่อย เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายพยายามดิ้นรนต่อสู้ แต่ไม่สามารถต้านแรงของซีอุยได้ หลังจากนั้นซีอุยได้ลงมือกัดคอหอยเด็กหญิงบังอร และเป็นความโชคดีของเธอที่มีคนเดินผ่านมา ซีอุยจึงผละจากเหยื่อไป เด็กหญิงบังอรรอดตายราวปาฏิหาริย์ ปัจจุบันเธอคือนางบังอร อายุประมาณ 50 กว่า ประกอบอาชีพขายอาหารแถวเสาชิงช้า แต่เธอปฏิเสธที่ให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องอันเลวร้ายที่เธอพบพานในอดีต
เหยื่อรายที่สอง: เด็กหญิงนิด แซ่ภู
เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 เดือน ทุกคนต่างลืมเรื่องราวของด.ญ.บังอร เสียสิ้นวันนี้ที่บริเวณลานกว้างที่ว่าการอำเภอทับสะแก ได้มีงานแต่งงานของนายมงคล สุดลาภา อดีตปลัดอำเภอทับสะแก งานจัดอย่างยิ่งใหญ่ ชาวบ้านทับสะแกเกือบทุกคน ต่างหอบลูกจูงหลานมาร่วมงานมงคลเกือบหมดอำเภอ
แต่ซีอุยไม่สนุกด้วยเขากำลังหาเหยื่อ ความหงุดหงิดงุ่มงามที่ฆ่าเหยื่อรายแรกครั้งแรกไม่ได้มันฝังลึกในจิตใจของเขา ความอ่อนเปลี้ยเพียงแรงได้กระตุ้นหาเหยื่ออีกครั้งในงานนี้ แน่นอน นอกจากผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน ยังมีลูกเด็กเล็กแดง ต่างตามพ่อแม่ ญาติพี่น้องมาวิ่งเล่นสนุกสนานอยู่หน้าเวทีลำวงบ้าง ตามทางเดินบ้าง ใครแยกออกจากกลุ่มนี้แหละเหยื่อของซีอุย สายตาของเขามันจับจองเหมือนเลือกหมูกับปลาในตลาดสดไม่ปาน จนกระทั้งสายตาจับต้องไปยังเด็กหญิงคนหนึ่ง
ด.ญ.นิด แซ่ภู่ วัย 11 ขวบได้แยกตัวออกจากกลุ่ม กับน้องสาวเพื่อกลับบ้านเพราะง่วงนอน เธอกำลังกลับบ้านแต่ทางไปบ้านเธอนั้นอยู่หลังเวทีรำวงเป็นทางเปลี่ยวและมืดสนิท ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับเสือที่จ้องตะครุบเหยื่อ ออกมาเพียง 200 เมตร ฝ่ามืออันหยาบกร้านตะปบปิดปากปิดจมูก หนูน้อยในทันที มันอุ้มร่างเด็กน้อย หายลับไป ก่อนจะทำร้ายด้วยมีดพับปลายแหลมแทงไปที่คอหอยของเด็กน้อยเคราะห์ร้ายจนเสียชีวิต แล้วค่อยอุ้มร่างไร้วิญญาณของเด็กน้อยไปตามทางรถไฟ เขาเลือกใช้สะพานใต้ทางรถไฟเป็นที่ชำแหละศพ ก่อนจะหายไปในรัตติกาลอันมืดมิด
ความคิดเห็น