ฟิสิกส์ของผี
มาดูกันว่าผีมีจริงหรือเปล่า
ผู้เข้าชมรวม
205
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
พูดถึงเรื่องผีแล้วสาวๆมักชอบกันนักครับ โดยเฉพาะถ้าได้ฟังจากปากของคนที่ยืนยันว่าเคยเจอกับตัวมาแล้วยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ บางคนฟังไปสั่นไป(แต่เลิกเล่าแม่คุณก็งอนอีกนะ ^^) แต่มีคนอีกกลุ่มครับที่ฟังแล้วสั่นเหมือนกัน เพียงแต่อวัยวะที่สั่นนั้นคือศีรษะครับ ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเรื่องผีคนกลุ่มนี้จะโคลงหัวอย่างระอาใจ พร้อมกับเบะปากเป็นทำนองที่ว่า "ไร้สาระน่า..." ออกมา คนกลุ่มนี้มักเรียกตัวเองว่าคนยุคใหม่ครับ เกิดในยุควิทยาศาสตร์ซึ่งมองเห็นปรากฏการณ์ทางวิญญาณเป็นเรื่องเพ้อฝันปนเสียสติ พวกเขามักจะพูดกันเสมอๆว่าผีไม่มีอยู่จริงเนื่องจากพิสูจน์ไม่ได้ แต่พอลองซักอย่างไม่ลดละว่าแล้วเค้าเอาที่ไหนมาพิสูจน์กันล่ะว่าผีไม่มีอยู่จริง เขาก็ไม่มีเหตุผลจะยกมาอ้างหรอกครับ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ (ถ้าบอกว่าผีมองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ แล้วเราเคยเห็นอีเล็คตรอนกันหรือครับ?)
คำตอบที่เป็นไปได้สำหรับตอนนี้ก็คือ บางทีเรื่องผีนั้นอยู่นอกเหนือขอบเขตหรือความสามารถของวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันครับ เทคโนโลยีที่เรามีอยู่ยังไม่สามารถหยั่งลงไป ณ จุดนั้นได้ อีกทั้งข้อมูลเกี่ยวกับผีมักมีเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างสับสนยากแก่การพิสูจน์ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เครื่องไม้เครื่องมือที่จะทำการทดลองก็สร้างขึ้นแสนยาก ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนแสดงอารมณ์ออกมาเมื่อพาดพิงถามเค้าเหล่านั้นถึงเรื่องผี (มนุษย์ต่างดาวก็ทำนองเดียวกันล่ะน่า) การปฏิเสธที่จะยอมรับ การปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กลายเป็นสิ่งที่เราเห็นกันจนเจนตาในปัจจุบัน แต่นั่นก็นำมาเป็นข้อสรุปไม่ได้อยู่ดีแหละว่าผีไม่มีอยู่ในโลกนี้ จริงไหมครับ?
ถ้าจะกล่าวกันให้กว้างออกไปอีก ผลลัพท์ของคำตอบที่เกิดจากอารมณ์และอัตตา ก็ได้สร้างความขายหน้าเอาไว้แล้วอย่างมากมายในวงการวิทยาศาสตร์ เช่น ก่อนสมัยปี พ.ศ. 2083 มีผู้คนเชื่อกันว่าเคยมีก้อนหินตกลงมาจากท้องฟ้าจริงๆ สมาคมนักวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศสถึงกับออกมาปฏิเสธอย่างเป็นทางการ พร้อมกับยกหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ออกมาโต้แย้งเป็นเรื่องราวมากมายว่า "ก้อนหินไม่สามารถตกลงมาจากท้องฟ้าได้" แล้วเป็นไงล่ะครับ? ปัจจุบันนี้เราทราบกันดีว่า ก้อนหินนั้นสามารถตกลงมาจากท้องฟ้าได้ แถมขนาดของมันก็มีตั้งแต่เม็ดกรวดไปจนถึงรถยนตร์ขนาดย่อม และพวกเราเรียกมันว่าอุกกาบาต
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเราก็ไม่ควรทำตัวเป็นคนที่มองอะไรเป็นแง่ลบร่ำไป เราไม่ควรมองเรื่องผีเป็นเรื่องเหลวไหลในทางลบเนื่องเพราะไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ หรือเพียงเพราะเรามีอารมณ์ที่ถูกกระทบดังนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น แต่เราน่าจะมองเรื่องผีกันในแง่บวกไว้ก่อน และใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้าไปพิจารณามัน
พิจารณาอย่างไรหรือครับ? ตามผมมาสิครับ ผมจะลองพาท่านพิจารณาสิ่งลึกลับที่เรียกว่าผีนี้ด้วยทฤษฎีทางฟิสิกส์อย่างง่ายๆ แน่ล่ะครับว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งหรือชี้ลงไปได้ว่าผีมีอยู่จริง แต่กระนั้นเราน่าจะได้ข้อคิดอะไรเล็กๆน้อยๆจากตรงนี้บ้างอยู่ จริงไหมครับ? + +
ผลงานอื่นๆ ของ อารากิ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อารากิ
ความคิดเห็น