คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Revival of Gunnar การคืนชีพอีกครั้งของยอดอัศวิน
APPLICATION
ชื่อ-นามสกุล :: เจสสิก้า ( jessica)
ที่จริงก่อนหน้านี้มีชื่ออันแสนไพเราะเพราะพริ้งว่า จัสตินโรเนโร่ แต่มันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้วก่อนที่รสนิยมจะเปลี่ยน
เพศ :: ชา— กะเทยค่ะ เป็นเพศแม่
นิสัย ::
( ตัวนี้เอาฮานะคะ เอามาใส่เพื่อความขำขันโดยล้วนเลยค่ะ ขอให้อ่านด้วยจิตใจที่เบิกบานและกำกาวก่อนอ่านนะคะ ตัวละครนี้เราคิดว่าจะเอาเพื่อเพิ่มสีสันความโบ๊ะบ๊ะในเรื่องค่ะ แง ไม่รู้จะขัดโทนไปรึเปล่า แต่มันเคร่งเครียดเราควรมีอะไรที่ผ่อนคลายสมองเหมือนกันนะคะ แหะ )
หล่อนถามฉันว่าเป็นใคร ฉันก็ตอบหล่อนกลับไปว่าฉันอ่ะ ลูกพระเจ้าตาก
เลือดฉันต้านโควิดได้เลยนะเว้ยหล่อน
เมื่อไล่สายตามองพิจารณาก็จะรู้สึกว่าคนคนนี้หน้าตาดีไม่น้อย ใครต่อใครเห็นก็จำเป็นต้องสะดุดตาเหลียวหลังมองคอแทบเคล็ด ถึงแม้ในวิถัดมาจะต้องรีบหลบสายตาแล้วโกยหนียิ่งกว่าโดนควายไล่ขวิดก็ตามที จัสตินเป็นชื่อเก่าที่ถูกอิเจ๊โยนทิ้งส้วมไปเมื่อหลายปีก่อนแล้วผุดเอาสเตจเนมยั่วบดอย่าง เจสสิก้า ขึ้นมาใช้ ถ้ากรีดเลือดออกมาก็จะเห็นแต่คำว่าสวยค่ะ เริ่ดค่ะ เยี่ยวมากค่ะทะลักออกมาเจ่อพื้น ใครบอกว่าขุ่นแม่หล่อนี่เกียมโดนจกตาได้เลยนะคะ แม่ไม่ปลื้มมาก กะเทยอย่างแม่คู่ควรกับคำว่ายั่วเพศเท่านั้น แค่ท่าทางสะดีดสะดิ้งวี๊ดว๊ายเต็มร้อยก็พอจะเดาได้ ทวงท่ากรีดกรายชดช้อย ทุกทวงท่าต้องเป๊ะปังเล่นใหญ่จนวันไหนถ้าไม่เห็นวันนั้นโลกก็คงแตก จะเดินทีก็ต้องมีบิดเอวเอสทิ้งสะโพกหน่อย เห็นผู้ชายอยู่ในระยะสายตาก็จะต้องขยิบตาพร้อมกัดปากอย่างยั่วเพศให้เขาขนลุกซู่หนีหัวซุกหัวซุน แต่หนุ่มน้อยบางคนก็หน้าแดงเป็นอาหารตาให้แม่ได้กระชุ่มกระชวยหัวใจกะเทยแก่เหมือนกัน
ฟาดได้ฟาดนะจ๊ะ ฉันขู่นะคะ ฉันสู้นะคะ
ไหนเรียกแม่สิจ๊ะ
อันที่จริงคือเจ๊แกก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรนะ ถึงนิสัยขุ่นแม่จะค่อนข้างรว้ายๆแรงๆอยู่ก็ตามที ใครหลายคนที่เห็นครั้งแรกนี่กลัวเจ๊แกอยู่มาพอควร เนื่องจากบุคลิกภายนอกคือเจ๊แกจะชอบทำตาจิกๆ หน้าเหวี่ยงๆ ให้ดูเหมือนตุ๊ดวันแดงเดือดมา แต่จริงๆแล้วเป็นคนดือคนหนึ่ง ค่อนข้างเป็นคนเปิดเผยแหละ แทบจะทุกการกระทำ เสียงมาก่อนตลอด คนอื่นติดตามและรับรู้ได้เสมอว่าเจ๊แกจะทำอะไร ไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อยอะไรเท่าไหร่ อยากจะทำอะไรก็ทำ พูดไม่ค่อยจะคิดเท่าไหร่ หลายคนนี่ชูฮกเรื่องความปากจัดเจ๊แกขึ้นหิ้ง ชนิดที่ว่ากัดกับหมาคนที่ชนะก็คือหมา จะไปกัดกับหมาทำไมก่อนคะ เจ๊ถาม ฝีปากแม่ค้าท้ายตลาดอันเป็นที่เล่าขานเลื่องลือกันไปทั่วทุกพื้นที่ พูดมากเป็นที่หนึ่ง จะตั้งวงสนทนากับขุ่นแม่ควรมั่นใจก่อนว่ามีเวลาว่างล่วงหน้าประมาณสามเดือน ทอปปิคอะไรที่เอามาฉอดได้คือแม่ยกมาตบทุกเม็ด วาจาเผ็ดร้อนติดแซะติดจิกกัดในแทบทุกประโยคนี่ทำเอาคนหน้าม้านไปนักต่อนัก สกิลรัวด่าคือที่สุด เร็วยิ่งกว่าแรปโย่คูณสองในยูทูป ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้อ้าปากโต้ตอบเจอเจ๊แกรัวคำกระแทกหน้าไปจนมึนตึ้บ งงว่าสรุปคือเขาหายใจผ่านผิวหนังหรืออะไรกันแน่
ตัวของเจสสิก้าติดนิสัยช่างวิจารณ์เป็นหลัก เหมือนแก๊งค์ป้าพอมีกอสซิปอะไรก็จะเอามาซุบซิบกันในวง เป็นคนตรงไปตรงมา เถรตรงยิ่งกว่าไม้บรรทัดแสกกลางหน้า ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ เกลียดความอืดอาดยืดยาก และ อะไรที่จำเป็นต้องอ้อมค้อมอะไรให้มันยุ่งยากความ ถ้าเกิดตั้งวงสนทนากับใครแล้วมัวแต่อ้อมโลกอ้ำอึ้งอยู่นั่นขุ่นแม่ก็จะตัดบททิ้งแล้วลุกขึ้นหนีกลางวงเลย เจ๊วัยทองแล้วก็ค่อนข้างขี้รำคาญอ่านะ พร้อมปัดทุกเรื่องที่มันเข้ามากวนใจตัวเองทิ้งแบบโนสนโนแคร์ ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองขุ่นแม่ก็ไม่มีปรายตามองให้เสียเวลาลวนลามผู้ผ่านสายตาจ้ะ ถ้ายังเข้ามาวอแวไม่หยุดขุ่นแม่ก็จะชี้หน้าด่าเลยค่า หลอดความอดทนกับความใจเย็นก็ไม่ได้สูงนะคะ ร้อนกว่ากระทะทองแดงก็คือหัวอิเจ๊นี่แหละหนู มีลิมิตเป็นของตัวเองแต่ค่อนข้างติดจะต่ำอยู่พอสมควร ขี้หงุดหงิดเหมือนช้างตอนที่กำลังตกมัน แต่โดยปกติแล้วก็ไม่ได้หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว อายุอานามขนาดนี้ตัวเจสสิก้าก็พอจะสำเหนียกไม่ทำตัวเป็นนังแก่รังแกเด็กได้ จะมีเตือนก่อนว่าตอนนี้เจ๊เดือดแล้วอย่าเข้ามากวนนะ ยกเว้นแต่เด็กมันเหยียบตีนเข้ามาหาเรื่องเอง อันนี้ขุ่นแม่ก็พร้อมจะสวมวิญญาณอิกะเทยผีบ้านะ ตบมาแม่จะถีบกลับยั่วๆจ้ะ
ขอโทษที่เป็นกะเทยที่ไม่ชอบทำตามกติกานะคะ พอดีชอบเป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ต้องการที่จะเป็นที่หนึ่ง เป็นที่สนใจ เป็นที่เคารพในหลายๆด้าน เลิฟเอเนอร์จี้เป็นราชินียั่วเพศแล้วปรายตามองลงเหยียดยั่วๆอ่า ดังนั้นเจสสิก้าก็ไม่ได้เป็นพวกที่ชอบทำตามกฎเกณฑ์อะไร แหกกฎบ่อยเป็นว่าเล่น นักกีฬาใสสะอาดนี่ฝันไปได้เลย ขีดเส้นใต้ย้ำหนักๆว่าเล่นไม่ซื่อกับวิธีสกปรกนี่มีอยู่ในหัวตลอด ถ้าฝั่งนั้นจะต่อยแม่ก็จะถีบกลับจ้ะ ถ้าฝั่งนั้นจะถีบมาแม่ก็จะคว้าไม้ฟาด ถ้าอีฝั่งนั้นยังไม่ยอมจะแย่งไม้แม่มาฟาดขุ่นแม่จะจิ้มตาแล้วยันผ่าหมาก ถ้าวิ่งกลับไปฟ้องแม่แล้วยกพวงมาอีกคนขุ่นแม่ก็จะข่มมันกลับด้วยการหมาหมู่เลยค่า ไม่ค่อยจะทำตามคำสั่งหรือจะฟังใครเท่าไหร่นัก นังเป็นจ่าฝูงในอิมเมจิ้นนัง นังสั่งตัวเองได้ คนอื่นไม่ต้อง ความคิดของขุ่นแม่จะถือเป็นที่หนึ่งในเบรนของขุ่นแม่อ่าค่ะ นับเป็นข้อเสียส่วนหนึ่งของเจสสิก้าเลยที่อีโก้ของเขาค่อนข้างจะสูงอยู่พอตัวเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นปิดหูปิดตาไม่รับฟังอะไรเลยเป็นพระเอกละครไทยที่กล่าวหานางเอกว่านอกใจนะ แต่แค่ว่าในสายตาเจสซี่ถ้าสิ่งที่เขาอยากจะทำมันดีกว่าเขาก็จะเลือกในสิ่งที่อยากจะทำมากกว่า แน่นอนว่าหลายๆครั้งก็เป็นแบบนั้น แต่ถ้าอะไรที่คู่สนทนาพูดมาแล้วมันก็โอเคเข้าเค้าอยู่ ตัวเจสสิก้าก็จะยอมลดๆลงมาฟังหน่อยก็ได้อยู่เหมือนกัน ถือคติยอมลงครึ่งต่อครึ่งดีกว่าที่จากคุยดีๆจะบานปลาย เขาน่ะ มีเวลาว่างที่จะมานั่งฉอด หรือถกปรัชญาความเป็นเหตุเป็นผลของเรื่องนั้นๆ กับคนอื่นได้ตลอดเวลาเลยทีเดียว
เรื่องมากคือที่หนึ่ง ส่วนเรื่องของผู้ชายนี่ยกขึ้นหิ้งเลยจ้ะ
เธององ ฉันก็งอง นี่เธอใส่โซดา ใส่มะนาว แล้วได้ใส่เสน่ห์ลงไปด้วยปะเนี่ย
ทำไมฉันรู้สึกเหมือนหลงเสน่ห์อะไรซักอย่างในตัวเธอ หรือว่าเสน่ห์น้ำเขียว
เจสสิก้าเป็นกะเทยวัยทองที่ขี้จู้จี้จุกจิกมากจนต้องมอบโล่ให้ ทุกอย่างต้องเป๊ะ ห้ามขาดห้ามเกินเด็ดขาด รักในความสมบูรณ์แบบและความเป็นระเบียบในทุกระเบียดนิ้ว ถ้าเป็นบอสบริษัทซักเครือหนึ่ง พนักงานได้ทำงานจนตายเพราะความเรื่องมากหาใดเปรียบของบอส ไม่พอใจอะไรซักอย่าง หัวสูง เป็นพวกวัตถุนิยมที่บูชาเงินยิ่งชีพ รสนิยมและความพึงพอใจนั้นสูงลิ่วแทบแตะยอดเขาเอเวอร์เรสต์ อะไรที่ไม่เข้าตาถูกปัดตกหมด มีความเอาแต่ใจที่ค่อนข้างจะสูงจนหลายๆคนที่คิดจะเอาใจหัวหมุนเป็นว่าเล่น เดี๋ยวเอาอันนู้น เดี๋ยวไม่เอาอันนี้ อีกวินาทีถัดมาก็จะเอาอันโน้นอีก ความคิดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนตามอะไรไม่ทันซักอย่าง เป็นกะเทยไฮคลาสที่แอนตี้งานชุ่ยๆมาก ความขี้บ่นไม่เข้าใครออกใครพร้อมที่จะฉอดตลอดเวลาที่เห็นอะไรไม่เรียบร้อย ยิ่งถ้าพูดถึงเรื่องความสะอาดนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ตัวเจสสิก้านี่เจ้าแม่อ่างอาบน้ำกุชชี่โรยกลีบกุหลาบสีแดง ชมพูสลับกับขาว น้ำในอ่างต้องเป็นสีชมพูระเรื่อสวยงาม น้ำหอมหอมฟุ้งกระจายทั่วตัว ต่อให้เอาจมูกจุ่มนิ้วโป้งตีนก็ยังได้กลิ่นหอมลอยแตะจมูก เอเนอร์จี้ความรักสะอาดยิ่งใหญ่จนเรียกได้ว่าต่อให้โดนแทงกำลังจะขาดใจตายแล้ว แต่ศพนี่เปื้อนเลือดเปื้อนฝุ่นดูไม่ได้ก็ต้องอาบน้ำแล้วลากไปแต่งหน้าแต่งตาตามภาษาคนตายได้แต่ไม่สวยไม่ได้อีกซักสองชั่วโมงครึ่งก่อนแล้วค่อยกลับมานอนตายต่อ ถือว่าสวยก่อนตายก็ยังไม่สาย นั่นแหละ เรียกได้ว่าขุ่นแม่คลั่งความสวยความงามแบบไม่ลืมหูลืมตา ดูแลตัวเองดีมาก ต้องสวยเสื้อผ้าหน้าผมต้องดูดีตลอดเวลา เจสสิก้าแฟชั่นนิสต้าตัวยง สายช็อปตามแม่มาเลยจ้ะ หรูหราและมีสไตล์เท่านั้น ตามเทรนด์วัยรุ่นเท้าไฟทันตลอด พวกหญิงสาวคุณหนูตามตระกูลนั้นชอบตัวไหนบอกเลยว่าเจสซี่แย่งซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ทุกวันนี่เสื้อมาไม่ซ้ำกันซ้ำตัว ตัวเก่าๆตกเทรนด์นี่ไม่ถูกโยนไปเป็นพรมเช็ดตีนสุดหรูก็คาราคาซังมันอยู่ในตู้แบบไม่ใส่อีกซ้ำสอง แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นสภาพเหมียนหมาร้องเอ๋งของเจสสิก้า ถ้าไปพูดให้ขุ่นแม่ได้ยินก็จะเจอจิกตามองก็คล้ายกับมีคำพูดลอยมาว่า อย่างเดี๊ยนน่ะหรอ หล่อนกล้าเทียบว่าเป็นหมาหรอยะ เอาตาที่ไหนมองคะ สวยขนาดนี้กล้าเทียบกับหมานี่ไร้รสนิยมมากอ่า อย่างฉันนี่แมวเปอร์เซียชั้นสูงจ้ะ
แน่นอนว่า คำว่าผู้ชายขึ้นหิ้ง ของอิเจ๊ก็คือยกขึ้นสูงจริงๆ สองมาตรฐานอย่างเห็นได้ชัดระหว่างชะนีน้อยกับหนุ่มน้อย ต่อหน้าชะนีก็คือหม่อมแม่มือตบปากแดงไม่มีแรงเดินประจำวงกอสซิป เสียงจีบปากจีบคอวี๊ดว๊ายคอแทบแตกสะเทือนขี้หูสั่นพั่บ ส่วนผู้ชายก็เป็นกะเทยชุบดอกไม้ คำพูดคำจาอ่อนหวานนุ่มละมุน ท่าทางพะเน้าพะน้อออซบที่จะดูน่าทะนุถนอมมากๆถ้านังไม่ได้ตัวสูงโย่งเป็นหมีควายดีๆนี่เอง พ่วงมาด้วยมือไม้ปลาหมึกที่เนียนล้วงเนียนขย้ำแถมจับไม่ปล่อย โดยที่เหยื่อไม่ทันจะรู้ตัวก็กลายเป็นอ้อยเข้าปากช้างไปแล้วอย่างน่าคารวะบูชา ยกขึ้นหิ้งในฐานะเซียนจับผู้ชายชั้นสูง หากเอาผ้าสามสีมาผูกคอได้ทำไปนานแล้วยกเว้นแต่ขุ่นแม่จะทำหน้ายี้ใส่ก่อนเพราะมันโลว์คลาสเกิน
เอาจริง ๆ ก็เป็นคนตลกนะ ติดตลกจนตลกติด
แต่พอตลกติดก็อย่ามาติดตลก
จริงๆก็บอกแล้วว่าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ถึงเบื้องต้นมันจะดูอิแม่นี่ไม่น่าคบ ขี้เหวี่ยงขี้วีนเป็นกะเทยตกมันอยู่บ่อยๆ ปรี๊ดแตกจนเหมือนเส้นเลือดในสมองจะแตกจนน่าเป็นห่วง ถ้ามีคนมาวอแวขอร้องมากๆเข้าก็จะผลักหัวทิ้งไปเลยไม่สนเพศด้วย จะเด็กก็กล้าทำ เนี่ย จะเข้าบทคนดีก็ดันต้องกลับมารว้ายๆอีกแล้ว แม่งอง หม่อมแม่สามัญสำนึกค่อนข้างจะต่ำซักหน่อย ดูเป็นตัวร้ายที่ดูมีคลาสขึ้นมาหน่อยในละครหลังข่าว ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรกับการกระทำของตัวเองว่าจะไปทำให้ใครเสียน้ำใจมากขนาดไหน ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ แต่ถ้ามีคนมาสะกิดก็พร้อมที่จะขอโทษคนอื่นตลอด ปากเขาก็ไม่ได้แข็งอะไร เพราะจริงๆแล้วปากมันนุ่ม หนุ่มๆอยากลองหน่อยมั้ยจ๊ะ เห็นมั้ย เจสสิก้าก็ไม่ได้เป็นคนใจยักษ์ใจมารอะไร ลึกๆแล้วเจ๊แกเอาเข้าจริงเป็นพวกปากว่าอย่างใจอย่างแค่คีพลุคให้มันดูรว้ายๆเฉยๆ ความจริงแล้วปากร้ายแต่ใจดีนะก๊ะ แข็งนอกอ่อนในคนหนึ่ง ปากบอกฉันไม่ได้ใส่ใจหล่อนย่ะ ความจริงชำเลืองมองอยู่ตลอด เป็นกะเทยสายซึนที่ใจไม่ได้อยู่กับตัวแล้วเพราะไปอยู่กับเขาหมด แถมขี้ใจอ่อนมากๆด้วย คือมันเป็นซิกเนเจ้อที่ต้องด่าก่อนแล้วค่อยช่วยอ่า แบบมันต้องซักป้าบงี้ดิ เอาเข้าจริงเป็นคนใจดีนะ อะไรเล็กๆน้อยๆช่วยได้ก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยแหละ แต่ถ้ามันเกินฝีมือมากเกินไปนี่ก็คงต้องบายจ้า ไม่ซี้ซั้วรับคำอะไรใครคำเพื่อ โดยเฉพาะอิคำสัญญากะหลั่วๆนี่คือถ้าทำไม่ได้จะไม่ยอมรับเลย เขาปฎิเสธคนเป็น ต่อให้จะเป็นหนุ่มน้อยหน้ามนมาทำตาวิ๊งๆน่าสงสารขนาดไหนจนเกือบจะใจอ่อน หากว่ามันเกินฝีมือมากไปตัวของเจสสิก้าก็จะแข็งใจสะบัดหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับเอฟเฟ็คเสียง เหอะ เป็นเชิงบอก ชุ้นไม่ช่วยแกหรอกจ้ะ ท่าทางช่างดูเย็นชาเสมือนมีดกรีดทำร้ายใจดวงน้อยๆของผู้คนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆที่ความเป็นจริงในใจอิเจ๊คือกรี๊ดพรรณนาร้องไห้โฮขอโทษหนุ่มน้อยใจจะแตกแล้ว
ใจขุ่นแม่ก็มีแค่นี้ รับผู้ชายมาได้มากแต่ใจแข็งมากไม่ได้ ถ้ามีคนรู้จักตัวตนของเจสซี่ดู ไอ้ภาพลักษณ์มือตบที่เฟียสๆน่ากลัวๆนี่คือจะเพลาลงไปเลย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำไมถึงเห็นว่าหลายๆคนถึงสนิทใจตอนที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับขุ่นแม่ เพราะนังเป็นความสบายใจอย่างหนึ่งของผู้คนน่ะสิ ตัวขุ่นแม่ก็เหมือนเปลวไฟค่ะ ไฟของความอบอุ่นหรอ , เปล่า ไฟดิสโก้หรอ ,เปล่า หรือไฟ led , ก็เปล่าอีก จริงๆมันคือไฟร่านที่พร้อมแผดเผาทุกอย่างจ้ะ ขุ่นแม่เป็นคนตลก ด้วยความที่เป็นคนเปิดเผยในหลายๆเรื่อง คำพูดคำจานี่ตัวดี พาหลุบลงเรื่องใต้สะดือ เดี๋ยวซักพักวกกลับไปแซะรัฐบาลปัญญาอ่อนที่มีผู้นำโง่ๆเซลล์สมองแปดหมื่นสี่พันของประเทศหนึ่งจนคนฟังรู้สึกร้อนๆหนาวๆแทน วิจารณ์การแต่งตัวของดาราหน้าทีวีแบบไม่สนสี่สนแปด ก็ทำให้บรรยากาศรอบๆตัวนังดูมีความเป็นกันเองสูงทำตัวปลดปล่อยต่อหน้าขุ่นแม่ได้ตามใจชอบจนหลงลืมความเครียดต่างๆ ถึงขุ่นแม่จะไม่ใช่ผู้ฟังที่ดีเท่าไหร่นักก็ตามจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าแย่ ถ้ามีใครมาพล่ามอะไรยาวๆนี่คือพร้อมเอานิ้วจุ๊ปากเลย หล่อนหยุดค่ะ หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดทันที
แต่เห็นแบบนี้ขุ่นแม่เป็นที่ปรึกษาที่ดีนะคะ เด่นๆอยู่สองเรื่องคือเป็นกูรูเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว กับพี่อ้อยพี่ฉอด ไอ้ประสบการณ์นี่ไม่เคยมีหรอก ตัวเจสซี่นี่โสดจนแขนพาดอยู่บนคานทองแล้วแต่ตัวยั้งรั้งกลับมาแรดร่านไปวันอยู่ ที่กลายเป็นผู้ให้คำแนะนำที่ดีมาจากการที่สังเกต และคอยดอดเก็บข้อมูลเล็กๆน้อยๆจากคนรอบข้างมาต่างหาก เจสซี่มักเอาใจใส่ใจอะไรเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอ มักจะรับรู้ได้เสมอหากว่ามีอะไรเปลี่ยนไป จับกระแสอารมณ์ความรู้สึกชาวบ้านเก่ง จากนิสัยช่างสังเกตมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าคนอื่นกำลังรู้สึกยังไง มีการกระทำใส่ใจคนรอบข้างบ่อยครั้งบ่อยคราว ใครชอบอะไรเขาก็จำได้ดี ไม่ชอบอะไรก็จำได้ดี อย่างเวลาซื้อข้าวให้ใคร จำได้ว่าในข้าวคนคนนั้นไม่ทานอะไรก็จำตักออกแล้วค่อยเอาไปให้เจ้าตัวตลอด ไเวลาที่ไปเที่ยวไหนแล้วเห็นว่าผ้าพันคอเหมาะกับเพื่อนคนหนึ่งดีก็จะหิ้วกลับไปให้พร้อมกับคีพลุคตบประโยครว้ายๆเป็นนางละครประมาณว่า หล่อน มานี่จ้ะ เจ๊ซื้อมาฝาก พอดีเงินมันเหลืออ่ะนะ เทือกนั้น สมกับเป็นนางงามมิตรภาพจริงๆ นอกจากสวยรวยใจดีแล้วยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีก ไหนจะเวลาที่เดินผ่านแก้วน้ำกระดาษที่ถูกทิ้งบนพื้น นังก็จะสวมวิญญาณนางงามเก็บไปทิ้งลงถังขยะให้เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้ายธรรมชาติ ถ้าไม่ได้รางวัลจิตใจงามนี่มีโกรธแล้วนะคะ
เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ พอดีฉันไม่ได้ใส่ใจจะฟังหล่อนอ่านะ
ความมั่นใจและกล้าแสดงออกที่สูงลิ่วจนเข้าข่ายหน้าด้าน หากถามถึงที่สองก็จะตอบได้ว่า เจสสิก้า เพราะเหนือขึ้นไปจากเขาก็ไม่มีใครหน้าด้านไปยิ่งกว่าขุ่นแม่แล้วค่า ไม่เคยอายอะไรกับเขาหรอก หนำซ้ำยังไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าหรืออะไรที่ประเดประดังมาทั้งสิ้น สามารถพบเห็นได้บ่อยกับการที่มีคนมาชี้หน้าด่าเจ๊หน้าดำหน้าแดง แต่ตอนนั้นขุ่นแม่อารมณ์ดีก็ดินลอยชายหิ้วถุงช็อปปิ้งแวะเข้าแผงนู่นแผงนี่หน้าระรื่น หรือไม่ก็นั่งกระดกนิ้วก้อยลิ้มรสไวน์โดยมีเสียงด่าเป็นเพลงประกอบบรรยากาศอย่างสบายใจ ความมุ่งร้ายก็ไม่อาจมาทำลายอารมณ์ศิลปิน และ ความสุนทรีย์ของขุ่นแม่ได้ค่ะ ตอนที่อารมณ์ดีตัวเจสซี่พร้อมจะแปลงร่างเป็นผีลำยอง ขี้เมาเอามากๆ วันไหนว่างหน่อยนี่ไม่เคยอยู่ติดบ้าน ปกติแล้วก็ชอบไปไหนมาไหนแบบตามตัวไม่ได้ตลอด พลิกตัวหาแทบพลิกแผ่นดินสรุปไปแด๊นซ์นัวหนุ่มๆ จิบไวน์องุ่นยั่วๆอยู่ที่บาร์อย่างไม่เกรงสังขารตัวเอง เห็นแบบนี้สามสิบยังแจ๋วนะจ๊ะ กระดูกกระเดี้ยวยังแข็งแรงอยู่ เอเนอร์จี้และพลังงานบอกเลยว่าเต็มร้อยยิ่งกว่ากระทิ่งคลั่ง ยิ่งตอนนั้นดีดมากๆนี่คือวิ่งรอบภูเขาได้เป็นสิบๆรอบเลยทีเดียว , แล้วส่วนนังคนที่ตามมาด่าแย้วๆก่อนหน้าก็คือจะเมินเลย ไม่ตอบโต้แบบตอนที่จุดเดือดต่ำๆอยู่ ไม่สนไม่ใส่ใจไม่แม้แต่ปรายตามองจนอีกฝั่งเหนื่อยหอบแฮ่กๆ ไปเอง ก่อนจะค่อยหันไปมองแล้วถาม เอ้า หล่อนพูดจบแล้วหรอ อีกหนึ่งประโยคเด็ดๆก็ เมื่อกี้พูดอะไรนะเตง พอดีเจ๊ไม่ได้สนใจจะฟังอ่าค่ะ เลยไม่ได้ยิน ทำนองนั้น
นั่นแหละ ตามที่บอกว่าดีดก็คือเป็นคนที่พลังงานเหลือล้น ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกองพลังงานเคลื่อนที่ เครื่องดื่มชูกำลังคือผู้ชาย ยิ่งหุ่นแซ่บก็คือกระเหี้ยนกระหือรือ พละกำลังพลุ่งพล่านมากกว่าเดิมเสียอีก ตัวเจสซี่ไม่ชอบอยู่ติดที่ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นเขานอนเอกเขนกอยู่กับบ้าน มักเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนตลอดเวลาด้วยพลังงานที่เหลือล้น ตามความสนใจของตัวเอง ทำตัวเหมือนนักผจญภัยที่สนใจใคร่รู้ในสิ่งรอบข้างของตัวเอง ถ้าสนใจอะไรขึ้นมาก็จะพุ่งเข้าหาสิ่งนั้นทันทีโดยไม่ยั้งคิด และ จะเพ่งเล็งแค่จุดที่ตัวเองสนใจเท่านั้นจนกว่าที่จะเกิดเบื่อขึ้นมา ซึ่งขุ่นแม่ก็ขี้เบื่อแหละ มันถึงได้สลัดผู้ชายทิ้งเป็นว่าเล่นยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในน่ะสิ ไอ้ทิ้งเขาเขาไม่รู้ตัวหรอก นังแค่เปลี่ยนเป้าหมายที่จะเพ่งเล็งส่องเฉยๆ คติใหญ่ๆคือฉันสวย ฉันเลือกได้อ่านะ ไม่ชอบอะไรซ้ำซากจำเจ หรืออะไรที่มันจืดชืดเป็นสีขาวดาดๆ ไร้สีสัน ดังนั้นงานอดิเรกเจ๊แกก็เลยเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ ซักพักนอนดูทีวีอยู่ ละสายตาไปพักหนึ่งกลับมาก็ดันกลายไปเป็นเข้าครัวทำขนมที่ถึงจริงๆแล้วเป็นการระเบิดครัวก็ตามที ตัวของเจสซี่นั้นหลงรักในความสนุกสนาน เรื่องที่มันตื่นเต้น ความพิศดารต่างๆบนโลก อะไรที่มันทำให้เขาสนใจจนรู้สึกเนื้อเต้นตุบๆได้นี่มันสุดยอดไปจนอยากที่จะลองของอยู่บ่อยๆ ก็ความอยากรู้อยากลองมันห้ามกันไม่ได้อ่า บ่อยๆที่ขุ่นแม่ก็ชอบแกว่งตีนหาเสี้ยนเหลือบๆจะตายอยู่หลายครั้ง แน่นอนว่ามันก็จะเป็นแบบนั้นต่อไปเพราะขุ่นแม่ไม่เคยคิดที่จะเข็ดเลย
ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วขุ่นแม่ก็คือ !
คือขุ่นแม่ไงยะ หล่อนจะให้ฉันเป็นใครล่ะ เพราะฉะนั้นก็ฟังแม่นะจ๊ะ
นับว่าเป็นคนที่สมองดีคนหนึ่ง คิดวิเคราะห์อะไรได้อย่างรวดเร็วถึงจะไม่ได้ฉลาดจนเข้าขั้นอัจริยะอะไร แต่ถ้าให้พูดถึงเรื่องเล่ห์กล ความเจ้าเล่ห์อะไรบอกเลยว่าตัวของเจสสิก้านั้นมีอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยมเลยทีเดียว เห็นแบบนี้กะเทยไม่ได้โง่ให้ใครเค้าหลอกได้ง่ายๆนะคะ จากใจคนหลอกกินผู้ชายนี่ถ้าโดนหลอกกลับบอกเลยว่าเสียชื่อขุ่นแม่หมด เจสสิก้ามีไหวพริบที่ดี รู้จักเอาตัวรอดตามสถานการณ์ต่างๆได้อย่างไหลลื่น ไม่ค่อยหลงกลอะไรง่ายๆ เพราะอย่างน้อยชีวิตคนก็ไม่ใช่ละครหลังข่าว สมมติมีคนจะเข้ามายุยงให้เขาไขว้เขวหลงเชื่อคำพูดนั้นต้องบอกเลยว่ารีแอคชั่นของเจสสิก้าคงมองเหยียดใส่ พวกเตงเล่นตลกกันอยู่รึไง เขาเป็นคนเชื่ออะไรยาก แทบจะไม่เชื่ออะไรจากคำพูดใครเลยจนกว่าจะเห็นด้วยตาตัวเอง มักพิสูจน์หรือตัดสินอะไรหลายอย่างผ่านการมองเห็นของตน ฟังหูไว้หูตลอด ถือเป็นประสบการณ์เริ่มต้น ต่อให้คนที่พูดมาจะเป็นคนที่สนิทใจมากขนาดไหนตัวของเจสซี่ก็ไม่ได้เชื่อเต็มร้อยไปโดยสิ้นเชิง หากคุณคิดว่าจะเป่าหูกะเทยคนนี้ได้คงต้องกลับคำพูดเป็นอิกะเทยวัยทองเนี่ยแหละที่จะเป็นคนปั่นหัวคนอื่นกลับแทน ยิ่งพูดยุพูดแหย่นี่งานถนัด หย่อนระเบิดตู้มลงกลางใจชาวบ้านก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถ เล่นกับใจคนอื่นนิดๆหน่อยๆพอให้ปั่นป่วนเล่น ขุ่นแม่เคี้ยวยากนะคะ คิดจะโค่นเจ๊หนูๆต้องตามความขี้เล่นขี้หยอกที่ติดจะค่อนข้างแรงอยู่พอสมควรของหม่อมแม่ให้ทันก่อนน้า บ่อยครั้งเลยที่จะเห็นตัวเจสซี่นี่หลอกเด็กๆตาใสแจ๋วอย่างหน้าไม่อาย ปั่นชาวบ้านว่าคนนู้นคนนี้พูดงั้นงี้เป็นงั้นงี้ไปเรื่อยจนเขาหัวหมุนกันตึ้บว่าอะไรจริงอะไรไม่จริงกันแน่ เป็นกะเทยเฒ่าที่พูดจาโกหกหน้าตายได้อย่างไหลลื่น ตอแหลปั้นน้ำเป็นตัวแบบคล่องปร๋อ เพื่อเป้าหมายความต้องการจริงๆคืออยากหลอกใช้ชาวบ้านให้ทำตามใจตัวเอง ปัญหาคือเพราะว่าตัวเองขี้คร้านเกินไป พอมีคนแย้งขึ้นมาหน่อยก็จะกลายเป็นคนแก่รังแกเด็กที่ยกเรื่องอายุขึ้นมาอย่างหน้าไม่อาย
บทจะจริงจังมันก็จริงจัง ไม่ใช่เด็กโข่งไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว ตัวของเจสซี่ค่อนข้างจะแก่ แค่ก อายุอานามมาหอยู่พอตัว เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับกับเลขสามหน้าอายุ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะแอนตี้คำว่าแก่มากก็ตามที เซนซิทิฟกับทอปปิคที่ถูกยกเรื่องอายุขึ้นมาให้หน้าสั่นเป็นว่าเล่นก็ตามที ถ้าเป็นปกติแม่คงตามฟาดคนที่พูดแหย่ขึ้นมาแต่ในกรณีที่คับขัน ตัวของเจสซี่กลับควบคุมสติและอารมณ์ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ถึงมันจะดูเป็นกะเทยออกสาวที่ดูเหมือนจะทำตัวขายยำโปรยเงินเล่นไปวันๆ ความจริงแล้วรับผิดชอบต่อหน้าที่มาก ถ้าได้รับคำสั่งมาเมื่อไหร่ถือว่า งานนั้นเป็นที่หนึ่ง จะจัดการให้เสร็จสรรพก่อนที่จะลั้ลลาสลอนไปที่อื่น เป็นภาพที่ไม่คุ้นชินมากนักกับการที่เห็นขุ่นแม่มานั่งหัวฟูหน้าดำเคร่งเครียดกับงานแบบนี้ โหมดการทำงานจะตัดทุกอย่างเข้าสู่โลกส่วนตัวของตัวเองทันที เอาการเอางานมาก และเป็นจริงเป็นจังมากเลยนะ ทุกคนรอบกายถือว่าเป็นเพียงพร้อบประกอบฉากเท่านั้น หลังจากภารกิจเสร็จสิ้นนั่นแหละถึงค่อยกลับมาแรดร่านแบบเดิม
ความเป็นผู้นำไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใคร พื้นฐานมีนิสัยชอบจิกหัวใช้ชาวบ้านเยี่ยงทาสอยู่แล้ว ( ? ) ส่วนตัวเองนั่งไขว้ห้างกระดิกตีนยั่วๆ พอจะต้องเป็นหัวหน้าขึ้นมาก็ชี้นิ้วสั่งการคนอื่นได้ดี แจกแจงหน้าที่ตามความถนัดได้อย่างเหมาะสม แต่ถ้าเกิดอะไรชิบหายขึ้นมาแน่นอนว่าคนเป็นหัวหน้าก็จะโกยอ้าวก่อนชาวบ้านชาวช่องแน่นอน เห็นกะเทยกล้าแต่จริงๆแล้วกะเทยก็กลัวเป็นจ้ะ ถ้ามีอะไรกระพริบแตะเส้นความเป็นอันตรายของตัวเขาขึ้นมาตัวเจสซี่ก็พร้อมที่จะหนีเอาตัวรอดไม่คิดชีวิตแล้ว คนอื่นจะเป็นยังไงช่างหัวมันก่อน ถึงจะเป็นห่วงใครยังไง แต่ถ้าเทียบจริงๆแล้วเขาก็ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่เล็กๆ สิ่งแรกที่ต้องรักษาก็คือชีวิตของเขา อย่างอื่นค่อยว่ากัน ถ้าเอาตัวรอดได้แล้วจะวกกลับไปช่วยคนอื่นได้ก็ยังไม่สายนี่นา
ขอโทษนะเตง ที่เค้าดันใช้ชีวิตสวยๆของเค้าแต่มันดันกลาย
เป็นความประสาทแดกในเธอ
เป็นความวินาศสันตะโรในชีวิตชาวบ้านชาวช่องอย่างจริงแท้ ก็ไม่ใช่ว่าขุ่นแม่พาซวยหรอกนะคะ แต่แค่ว่าความอยากทำของขุ่นแม่นี่ทำเอาคนอื่นแทบร้องไห้ ขุ่นแม่น่ะมีความเป็นแม่ศรีแม่เรือนสูง ทว่าสกิลการเข้าครัวกับห่วยแตกขั้นสุด เคยระเบิดครัวมาแล้ว อาหารที่ทำเหมือนมีโมเสกบังอยู่จนกลายเป็นภาพอนาจารทันตาเห็น ปัญหาใหญ่ๆอีกอย่างคือแยกน้ำตาลกับเกลือไม่ออก พอจะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยก็ไม่รู้ทำไมศักดิ์ศรีความไม่ยอมแพ้ของกะเทยมันถึงเข้าสิง ทั้งๆที่ปกติไม่เห็นจะเป็น ไม่คิดตอบรับความช่วยเหลือจากใคร คิดจะตั้งใจทำอะไรก็ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้เท่านั้น แล้วเจ๊แกก็เป็นคนที่โคตรจะดื้อรั้นดื้อด้านดื้อเพ่งแบบที่สุดเลย จะห้ามก็ห้ามไม่อยู่เลยต้องปล่อยให้ทำ ซึ่งทำแล้วก็ต้องทำให้ได้แน่นอนว่าแลกมาด้วยความวายวอดแบบมหาศาล หลังจากนั้นก็หันมาสนใจเอาดีเอางามด้านการขับร้องบทดนตรี ความชิบหายมาเยือนหูชาวบ้านอีกครั้ง เสมือนนกไนติงเกลจากนรกโผล่หัวออกมาร่ำร้องโหยหวน ขณะที่เจ้าตัวก็หลงตัวเอง อวยตัวเองวายวอดมาเสียงร้องปังเยี่ยวแตกมาก ไม่ใช่แค่อวยเรื่องร้องเพลง ทุกวันนี้เรื่องหน้าตาเสื้อผ้าหน้าผมก็ยังมีหลุดชมตัวเองบ่อยๆว่าสวยอย่างนั้นสวยอย่างนี้ นั่นแหละ วันๆหนึ่งของเจสสิก้าก็เป็นแบบนี้ ทำอะไรในความอ่อนหวานไม่ได้ซักอย่าง แม้ว่าเจ้าตัวอยากจะเป็นคนหวานๆ นุ่มละมุนเหมือนสายไหม กลับกันคือเป็นอิเจ๊ยกตู้เย็นเดินผ่านหน้าชาวบ้านไปก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าควรทำตัวหมดแรงให้หนุ่มมาอุ้ม ใช้ตีนเหยียบแมลงสาบตายแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าควรจะกรี๊ดเพราะว่าตกใจ นอนๆไถมือถืออยู่บนเตียงแล้วเงยหน้าเจอผีก็คงจะเห็นขุ่นแม่มองเหยียดผีแล้วฉอดเรื่องการแต่งตัวแต่งหน้าของผีซักสิบนาทีว่าควรโบ๊ะหน้ายังไม่วอก ซักพักก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าควรตอแหลวิ่งกรี๊ดหนีผีป่าราบแล้วไปหาอกอุ่นๆของหนุ่มน้อยซุกแล้วไถลลงต่ำซักหน่อย
สรุปใจความได้ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างจะตกใจ และ กลัวอะไรยากอยู่หน่อยๆ คือขุ่นแม่ค่อนข้างใจกล้าเป็นทุนเดิมอ่ะค่ะ กล้าหาญชาญชัยพร้อมเป็นทัพเท้าหน้า ให้ไปสำรวจอะไรก็คือเดินชิลๆเหมือนมาเลือกช็อปปิ้งเสื้อตามห้าง จะมาหลอกให้ตกใจนั้นบอกเลยว่าหน้าสดแม่น่ากลัวกว่าผีอีกค่ะลูก ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปเสี่ยงตายเป็นว่าเล่นหรอก แต่แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเรื่องความเป็นความตายต้องบอกเลยว่าเจสซี่หวาดกลัว เป็นสิ่งเดียวที่สั่นคลอนความกล้าหาญของเขาไม่มีชิ้นดี เขายังใช้ชีวิตบนโลกนี้ไม่คุ้มเลย เป้าหมาย และ ประณิธานอันแรงกล้าที่เป็นจุดสูงสุดคือได้หิ้วหนุ่มน้อยเข้าห้องซักร้อยคนจนกว่าจะเป็นกะเทยเฒ่าหงำเหงือกที่เฟี้ยวฟ้าวโฉบเฉี่ยวที่สุดในยุค เปรี้ยวกว่ามะนาวก็คือกลิ่นตัวเพื่อนข้างบ้านแม่แล้วค่ะรู้ก เพราะแบบนั้นเลยทำให้ปกติแล้วตัวของเจสซี่ไม่ค่อยผวากับอะไรมากเท่าไหร่นัก ลึกๆแล้วมันมีความมาดแมนซุกซ่อนอยู่ อย่างไรเขาก็เคยเป็นผู้ชายอกสามศอกมาก่อนแล้วค่อยมารู้สึกถึงรสนิยมที่ผันแปรไป แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเปลี่ยนให้เขากลายมาเป็นอิกะเทยอย่างทุกวันนี้ทว่าบางสิ่งบางอย่างก็ไม่อาจลบให้มันหายไปได้เช่นกัน ในช่วงเวลาที่เห็นสุภาพสตรีที่เขาไม่เคยเหลียวแลกำลังถูกทำร้าย จิตใต้สำนึกของเขามันก็สั่งให้ตัวของเจสซี่นี่เสนอหน้าเข้าไปรับการทำร้ายนั่นแทน เหมือนเป็นภาพสโลว์โมชั่นที่คนร้ายกำลังลงดาบมาจะฟาดฟันผ่าร่างของหญิงสาวตรงหน้าทว่ากลับมีไอ้บ้าหน้าไหนไม่รู้โผล่หัวออกมารับคมดาบนั่นแทนจนกลายเป็นคนบาดเจ็บ แต่ความเป็นจริงคือตัวของเจสซี่ยันตีนมันล้มหน้าคะมำก่อนแล้วพ่วงด้วยการฉอดใส่จนอีกฝั่งหูชาสำนึกผิด
เจสสิก้าแปลว่าอิสระ ชั้นจะไม่ยอมตกเป็นทาสของหล่อนหรอกนะ
ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่ประสาทแดกที่สุด ไม่ใช่ฉายา ไม่ใช่ชื่อ แต่มันคือเรื่องจริงที่คุณต้องเผชิญ อาการผีเข้าผีออก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคือสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด ไม่มีใครอ่านความคิดของตัวขุ่นแม่คนนี้ออกเลยแม้แต่น้อยทั้งๆที่เป็นคนเปิดเผยขนาดนี้ แน่นอนว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะปัญหามันคือความคิดที่เปลี่ยนทุกๆสามวิของเจ้าตัว เจสซี่เป็นกะเทยที่มีศิลปะในใจ ทุกความคิดเปิดกว้างมากๆจนหลายๆอย่างมันก็ดูบ้าๆบอๆนอกคอกต่างจากชาวบ้านไปมากโข คนอื่นเขาทำแบบนั้นกัน ส่วนตัวของเจสซี่ก็จะกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาชาวบ้านที่ทำแบบนี้ เขาเปรียบเสมือนแกะดำที่ผุดออกมาจากดงแกะขาว เป็นความเห็นต่างของคนอื่นอยู่เสมอ ในสายตาของชาวบ้านอิกะเทยนี่มักจะเป็นคนที่ชอบทำตัวขวางโลก ทั้งที่ความจริงแล้วเขาก็แค่ทำตัวตามใจของเขา เจสสิก้าไม่ชอบการถูกขีดเส้นบังคับ เกลียดการต้องถูกกดหัวอยู่แต่ในกะลาเหมือนกับพวกกลุ่มชนที่ถูกเรียกว่าขนมหวานราดกะทิอะไรเทือกนั้น เขาไม่ชอบการถูกจูงจมูก ความคิดเป็นของเขาก็ต้องเป็นของของเขาไม่มีใครคิดจะที่เปลี่ยนได้ เจสสิก้าถือว่าตัวเองเป็นตัวตนของคำว่าอิสระ แสดงว่าเป็นคนสวย และเพราะเป็นคนสวยก็จะทำอะไรก็ได้ ควบคุมได้ยาก ที่ยากยิ่งกว่านั้นคือการกดหัวให้เขาให้ยินยอมก้มลง ตัวของเจสซี่ถือคติข้อนี้มากว่าจะไม่ยอมก้มหัวให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้นหากว่าเขาไม่ยินยอมทำด้วยความเคารพเสียเอง ยิ่งบีบบังคับก็จะยิ่งดิ้นรนและพยศมากขึ้นเท่านั้น ลำพังเรื่องมารยาทเจ้าตัวยังไม่ค่อยจะใคร่ใส่ใจแสดงออกมาเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดของเบรนด์แนมตั้งแต่หัวจรดตีนก็คงจะถูกมองเป็นบ้านนอกคอกนาเข้ากรุงอยู่หรอก อันที่จริงก็ไม่ได้ไร้มารยาทไปโดยสิ้นเชิงนะ รู้ตัวดีว่าควรทำตัวยังไงในแต่ละที่ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเจสซี่เลือกคนที่จะแสดงออกมาเท่านั้น การเลือกง่ายๆก็คือคนนั้นถูกจริต โอเค เป็นสาวน้อยมีมารยาท อีกคนไม่ถูกจริต โอเคจ้ะ เป็นขุ่นแม่สวยๆ นิสัยเชิ่ดๆรวยๆเนี่ยแหละ
เช่นเดียวกับความอ่อนแอ ที่เลือกได้เจสสิก้าจะไม่แสดงออกมาให้ใครเห็นเด็ดขาด ไม่ใช่ว่ามันน่าสมเพช หรือไม่อยากให้ใครเห็นสภาพตัวเองตอนอ่อนแอหรอก ประเด็นคือเสียดายค่าสกินแคร์บนหนังหน้าตัวเอง กับอีกเหตุผลคือไม่อยากหมดสวยต่อหน้าคนอื่นด้วย สำหรับเจสสิก้านั้นคือเสียตัวได้แต่เสียหน้าไม่ได้ ต่อให้จะคอขาดบาดตายยังไงทุกสถานการณ์เขาก็ต้องสวยเริ่ดและเป๊ะไว้เสมอ ด้วยเหตุผลง่อยๆดังกล่าวก็ทำให้เขามักจะกลายเป็นคนที่เก็บอารมณ์แง่ลบไว้กับตัวไม่แสดงออกมาเสมอ ดูภายนอกเหมือนเขาไม่ได้เป็นอะไร ตลกขบขันกับคนอื่นไปทั่ว แต่ความจริงก็ไม่มีรู้คำตอบในใจของตัวเขาว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่ แสดงออกว่าแข็งกร้าวดื้อดึงขนาดไหน ลึกๆแล้วข้างในตัวของเจสสิก้านั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกต่างๆ อารมณ์หลากหลายรูปแบบในแง่มุมที่ต่างกันผสมวนเวียนกันอยู่ ยามสุขก็หัวเราะก็ยิ้มแย้ม ยามเศร้าก็อึมครึมไปทั้งหัวใจระบายออกมาด้วยหยาดน้ำตา ยามโกรธก็ระบายออกมาผ่านคำพูดที่รุนแรงและการแสดงออกที่แสดงความก้าวร้าวอย่างเห็นได้ชัด เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าตัวของเจสสิก้าเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง
พลัง ::
ผู้เป็นที่รักแห่งผืนพฤกษา
- ผู้มีพลังพิเศษสายควบคุม -
พลังของเจสสิก้าจะเป็นการควบคุม พฤกษา ตั้งแต่พืชพรรณรวมไปถึงเหล่าหมู่มวลดอกไม้สารพัดอย่าง ประการแรกเมื่อย่างก้าวไปที่ใดจะสามารถเร่งผลผลิตเหล่านั้นให้เติบโตขึ้นได้ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ ยิ่งไปกกตัวอยู่ที่ป่าก็จะยิ่งมีพลังที่มากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว นอกจากนั้นก็ยังสามารถควบคุมพืชได้ดังใจ เช่นควบคุมเถาวัลย์ให้กลายเป็นเชือก ควบคุมไม้เลื้อยให้เข้ามาบดบังทาง ดูแค่นี้อาจจะเป็นพลังธรรมดาไม่มีพิษสงอะไร ทว่าอย่าคิดดูถูกผู้เป็นที่รักแห่งผืนพฤกษาเลย เขาสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น ใบไม้ที่ตกหล่นระเกะระกะเต็มพื้นสามารถใช้กลายเป็นใบมีดปาดผิวเนื้อของศัตรูจนขาดแหว่งได้ หรือ ความสามารถที่ซุกซ่อนอีกอย่างคือการปรับสภาพของพืชเหล่านั้นให้กลายเป็นอาวุธสุดอันตราย หากว่าเคยดูเกม plant vs zombie ก็จะพอเห็นภาพ เป็นความสามารถที่ค่อนข้างจะอันตรายอยู่พอสมควร เจสสิก้าสามารถสั่งการให้มีต้นกราบหอยแคง ( ต้นไม้กินแมลง ) ผุดขึ้นมาจากพื้นและขยายขนาดใหญ่พอให้งาบคนทั้งคนลงท้องไปได้อย่างไม่ยาก ปรับเปลี่ยนฝักข้าวโพดในมือให้แข็งกลายเป็นตะบองฟาดหัวชาวบ้านหัวแตกก็ได้ ทำให้เชอร์รี่บวมตุ่ยกลายเป็นลูกระเบิดขว้างใส่หัว หรือใช้ก้อนมันเผาก้อนโตกลายเป็นโล่ ไม่ก็กลายเป็นลูกหินกลิ้งหล่นทับหัวศัตรูแทน มันเป็นพลังที่พลิกแพลงได้หลายสถานการณ์ หากทว่าไม่สามารถใช้ได้กับพืชทุกประเภทเพราะว่าความกากของเขาเอง มีพืชอยู่จำกัดชนิดที่เขาสามารถปรับเปลี่ยนได้ ( ตรงนี้ตามความต้องการของคุณไรท์เตอร์เลยนะคะว่าจะใช้พืชชนิดไหนได้บ้าง )
และพลังอีกอย่างที่กินพลังเขาไปเยอะมากคือ การสร้างกองทัพพืชขนาดย่อมขึ้นมาได้ เขาสามารถทำให้พืชเหล่านั้นลุกขึ้นมากลายเป็นสิ่งมีชีวิตได้ คุณจะสามารถเห็นต้นกระบองเพชรสวมนวมที่พร้อมจะต่อยกับศัตรู หรือไม่ก็รากไม้ที่มีรูปร่างเหมือนกรูทในเรื่องการ์เดี้ยนออฟเดอะการ์แล็กซี่ที่แผ่รากไม้กระแทกเบ้าหน้าศัตรูปลิวได้อะไรเทือกนั้น เป็นต้นไม้ที่ถูกพลังของเขากระตุ้นไอชีวิตขึ้นมา ไม่ได้ถูกควบคุมด้วยพลังเวทย์ ดังนั้นถึงจะพูดคุยไม่ได้ แต่มันมีความรู้สึกมีจิตใจและมีความต้องการเป็นของตัวเองที่เจสสิก้าไม่สามารถบังคับมันได้ แน่นอนว่าปัจจุบันก็ทำได้อยู่แค่ห้าหกตัว ใช้มากกว่านี้สภาพของเจสสิก้าไม่สามารถแบกตัวเองได้ไหว
อาวุธประจำตัว ::
แส้หนัง
แส้หนังสีดำสนิทประดับด้วยหนามแหลมที่แค่คิดเวลาที่มันฟาดมาบนร่างก็รู้สึกเจ็บจนสะดุ้งเฮือกแล้ว มีความยืดหยุ่นและความยาวที่สูง ถูกดัดแปลงมาจากไม้เลื้อยชนิดหนึ่งด้วยพลังของตัวเจสสิก้าทำให้แปรสภาพกลายเป็นแส้หนังแหลมนี้ ทุกครั้งเวลาที่ได้ขยับฟาดจะมีเสียงแหวกอากาศดังฟึ่บเป็นเครื่องเตือนภัยถึงภัยอันตรายนี้ก่อน เป็นอาวุธคู่กายของเขาที่ใช้ติดต่อกันมาหลายปีและมักจะถูกเหน็บอยู่ที่ข้างเอวของเขาเสมอ
ชอบ :: น้ำหอม / เสื้อผ้าหรูหรา / เทียนหอม / เครื่องประดับ / ไวน์รสเลิศ / ผู้ชายหน้าตาดีๆ / ธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้าดอกไม้ / ความสะอาด / การได้ดูแลคนอื่นเล็กๆน้อยๆ / ที่นั่งดีๆในบาร์ / อากาศเย็นๆ / เรื่องท้าทายต่างๆ / การทำอาหาร / ร้องเพลง
เกลียด :: วันที่ฝนตก / ห้องที่รกเป็นรูหนู / ความสกปรกยุ่งเหยิงต่างๆ / พื้นดินเฉอะแฉะ / ร้องไห้หมดสวย / การต้องตกเป็นรอง / การถูกบังคับให้ต้องก้มหัวให้คนอื่น
เอกลักษณ์ ::
- ความหรูหราตั้งแต่หัวจรดตีนพร้อมกลิ่นน้ำหอมฟุ้ง คงซิกเนเจ้อความขนเฟอร์ฟูฟ่องตลอดเวลาจนบางทีก็ดูรุงรังอยู่บ่อยครั้ง มือหนึ่งหิ้วกระเป๋าใบโตทรงหรูชื่อดัง อีกมือหิ้วกระเป๋าเล็กแบรนด์คู่แข่งออกมาถือประมาณนี้
- เบ้าหน้าที่ติดจะเหวี่ยงพ่วงมาด้วยดวงตาที่ดูเหมือนจะจิกทุกอย่างที่ขวางหน้าตลอดเวลา
- เสียงแปดปรอทดังมาก่อนตัว
- เรดาห์หาผู้ชายชั้นยอด ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนฉันจะไปหาเธอแน่
- ความขี้ฉอดไม่มีใครเกิน สามารถเห็นนั่งด่าละคร นั่งด่ารัฐบาลกับผู้นำประเทศไอคิวต่ำ นั่งแซะการเมืองหรือนั่งบ่นสัพเพเหระกับคนอื่นได้บ่อยมาก
- เป็นอิลำยองเวอร์ยุโรป เวลาว่างต้องเห็นกกอยู่กับขวดเหล้าตลอด
- การแต่งตัวที่เป็นสีดำเสมือนไว้ทุกข์ให้ชาวบ้านชาวช่องตลอดเวลา
- เส้นผมที่ยาวแทบจะเรี่ยพื้นเพราะไม่เคยตัดเลย ถูกมัดรวบไว้เป็นเปียผูกด้วยผ้าผูกผมสีชมพู
- นิสัยที่สำคัญที่สุดคือ ร ว ย ค่ะ
- ปากดี ขี้เหงา เอาแต่ใจ
- เป็นคนติดตลก ทุกสถานการณ์ต้องมีความโบ๊ะบ๊ะเสริมแทรกเสมอ อารมณ์แบบว่าทุกคนกำลังตึงเครียดจริงจังกันทั้งสองฝ่าย ก็จะมีเสียงขุ่นแม่แทรกขึ้นมาว่า พวกหล่อนจะจ้องตากันให้ท้องเลยรึเปล่ายะ ฉันจะไปที่บาร์ ถ้าจะมองตากันอยู่นั่นก็เชิญที่ห้องจ้ะ
- แก่
อยากมีคู่มั้ย ::
ตอนแรกตอบว่าอยากนะคะ สงสารเจ๊แกขึ้นคาน แต่ซักพักก็ เอ๊ะ อันที่จริงปล่อยเจ๊แกขึ้นคานไปก็ได้นะคะ ปล่อยนางแรดร่านแอ้วผู้ชายไปเรื่อยตามภาษากะเทยลั้ลลาดีกว่า ให้กลายสภาพมาเป็นพี่อ้อยพี่ฉอดของเด็กๆแทน ประมาณว่าตัวเองไม่มีแต่เด็กยกขโยงมาปรึกษาจนรู้สึกกลายเป็นเซียนกูรูเรื่องรักแล้ว
สไตล์การพูด ::
(ไอ้ประโยคที่แบบ เจ๊ ขุ่นแม่ ที่พิมพ์ภาษาวัยรุ่นด้านบนอะไรนั่นคือเราทำเผื่ออรรถรสนะคะ
กลัวพิมพ์ภาษาโทนโบราณย้อนยุคอะไรแบบนี้แล้วมันไม่ตลก ไม่อินเอา แหะ)
การพูดจาของเจสสิก้านั้นค่อนข้างเป็นคนตรงไปตรงมาติดจะขวานผ่าซากนิดหน่อย น้ำเสียงของเขาก็จะถูกบีบดัดให้เล็กแหลมซึ่งมันแปดปรอทมากเพราะเจ้าตัวเป็นคนพูดเสียงดังอยู่เป็นทุนเดิม ยิ่งเวลาอารมณ์เสียก็คือวี๊ดมากแก้วหูแทบแตก หากเอาตามปกติเสียงของเขาก็นุ่มทุ้มน่าฟังดีอยู่หรอก เวลาที่ลื่นก็ฟังดูลื่นหูจนอยากจะฟังเขาอ้าปากพูดตลอดเวลาเหมือนเพลงขับกล่อม แทนตัวเองว่า ฉัน เจ๊ เดี๊ยน เสียส่วนใหญ่ เรียกแทนคนอื่นว่า นาย เธอ หล่อน ชะนีหรือไม่ก็ชื่อของคนคนนั้นไปเลย คำพูดคำจาลงท้ายไม่ค่อยมีมากนัก
`ex
" เมื่อกี้หล่อนพูดอะไรนะ? ฉันไม่ได้สนใจยัยพวกนั้น ฉันมองพ่อหนุ่มโต๊ะนู่นอยู่ต่างหาก "
" น่าอร่อย หา อะไรของหล่อน ฉันไม่ได้หมายถึงลอปสเตอร์ย่ะ ฉันหมายถึงเด็กคนนั้นต่างหาก "
" เอาล่ะ วันนี้มีเรื่องอะไรน่าสนใจจะพูดล่ะ ว่ามาสิ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นหรอกนะยะ "
" อันที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้เป็นห่วงหล่อนนัก ที่เอาผ้าห่มมาให้กลัวจะหนาวตายจนฉันต้องมานั่งฝังศพให้ต่างหากล่ะยะ "
" แล้ว? นี่ฉันกำลังสงสัยอยู่ไงว่าแล้วทำไมฉันต้องใส่ใจ ถึงหมอนั่นจะหล่อ แต่ทำตัวไร้มารยาทแบบนี้ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่กระโดดไปเลียแข้งหรอกย่ะ "
" วันนี้เธอว่าง? ก็ดี ฉันกำลังขาดคนถือของประจำตัวอยู่พอดี วันนี้ฉันว่าจะออกไปดูแผงซักหน่อย เผื่อมีเครื่องประดับสวยๆ ที่ถูกตา "
" ถ้าหล่อนคิดว่าสิ่งที่หล่อนทำมันถูกก็เชิญทำไปเถอะ ใครต่อใครถึงได้ว่าหล่อนว่าเป็นพวกยโสไม่ฟังใคร เพราะเป็นแบบนี้นี่เอง คนอื่นเขาจะสั่งสอนให้ฟังแต่หล่อนกลับทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว พออะไรไม่ได้ดังใจก็ได้แต่ดิ้นเร่าโวยวาย ไม่ทราบว่ามารยาทที่เลดี้พึงมีจางหายไปที่ไหนหมดแล้วล่ะ ฉันล่ะ อับอายขายหน้าแทนพ่อของหล่อนเป็นบ้า "
" ฉันมีเวลาว่างดื่มกับนายทั้งคืน ไม่ต้องเป็นห่วง ที่ควรเป็นห่วงคือควรเป็นห่วงตัวเองซะมากกว่า ดูซิ คอจะพับลงกับแก้วไวน์อยู่รอมร่อยังจะปากดีมาบอกว่าไหวอีก "
" ฉันไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำแบบนั้น อาจจะเพราะว่าฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น หรือต่อให้อยู่ฉันก็คงจะไม่เข้าใจอยู่ดี "
" น่ารำคาญเป็นบ้า คิดว่ามุขซ้ำสองของหล่อนจะใช้ได้หรือไง ออกไป๊ ชิ่ว "
" นี่นายกล้าอยู่ในห้องโกโรโกโสแบบนี้ได้ยังไงกันยะ ต่อให้หล่อขนาดไหนถ้าซกมกขนาดนี้ฉันก็อี๋เหมือนกันนะ ได้อาบน้ำบ้างรึยัง อะไรนะ นี่นายจะบอกว่านาขลุกตัวอยู่ในห้องนี่ทั้งคืนโดยไม่ได้แตะน้ำในอ่างเลยหรอ อี๋ สกปรกจัง "
" นี่หล่อน หล่อนเป็นอะไรกับเขาน่ะ "
" ทำไม หมอนี่เป็นใคร ติดป้ายให้ฉันทำความรู้จักไม่ได้หรอยะ ฉันก็แค่อยากรู้จัก อยากรู้จักนี่มันเจตนาไม่ดีตรงไหนไม่ทราบกันยะ "
" ต๊าย นังพวกชะนีไร้รสนิยม "
" หล่อนพูดอะไรออกมาอ่า เจ๊รับไม่ได้ อี๋ กะเทยอยากจะอ้วก "
" อยากทำอะไรก็เชิญทำตามใจชอบเลยจ้ะ "
" จ้า "
ประวัติ ::
จัสตินโรเนโร่ ไม่ค่อยมีใครล่วงรู้ประวัติของเขามากนัก อ้าปากถามใครต่อใครหลายคนก็ได้รับเพียงเรื่องราวโดยคร่าว ไม่ได้มีสิ่งใดที่ทำให้ตัวตนของเขานั้นชัดเจนขึ้นมากนัก พอรับรู้มาว่าจัสตินนั้นเคยเป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งที่ปัจจุบันนั้นเหลือเพียงชื่อ เพราะเกิดการล่มสลายไปนานแล้ว มีเพียงแค่จัสตินที่เหลือรอดออกมาได้ด้วยความโชคดีเพียงเท่านั้น เท่าที่ตัวของจัสตินนั้นจำความได้ เขาเป็นลูกชายคนเล็กสุดในครอบครัวที่ประกอบไปด้วยบิดรมารดา พี่ชายคนโต พี่สาวคนกลางและน้องชายคนเล็กที่อยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบ ต้นตระกูลของเขามีความผูกพันเกี่ยวกับธรรมชาติ ว่ากันว่าคนในตระกูลนั้นเป็นผู้ที่ธรรมชาติรักใคร่ เนื่องจากทางตระกูลของเขานั้นประกอบอาชีพเกี่ยวกับการเกษตรกรรม เก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อส่งออกขาย ตั้งแต่ที่ตัวของเขาลืมตาขึ้นตื่นมาก็เห็นผืนทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา สายลมพัดหวีดหวิวนำพาให้หัวใจสงบสุขอย่างน่าแปลกประหลาด พรแห่งพระเจ้าได้ถูกส่งมอบมาแก่เขา จัสตินได้รับพลังบางอย่างมาไว้ในตัวตั้งแต่เด็ก ขณะที่พี่ชาย พี่สาว แม้กระทั่งบิดาและมารดาของเขาก็ไม่มีผู้ใดที่มีมัน ทุกครั้งที่เขาย่างก้าวเหยียบบนผืนหญ้าสีเขียวสด ต้นหญ้าที่สั้นเตี้ยนก็จะงอกเงยส่ายสะบัดราวกำลังยินดีตอบรับการมาเยือนของเขา เป็นครั้งแรกที่จัสตินรับรู้ถึงอารมณ์อันอ่อนไหวที่แผ่ซ่านออกมาจากพืชพวกนั้น
ความทรงจำอันแสนสั้นของจัสตินแสดงออกถึงเพียงแค่นั้น หลังจากนั้นทุกอย่างก็เสมือนกับถูกหมอกควันบางอย่างเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุม ภาพเบื้องหน้าแปรเปลี่ยนกลายเป็นความดำมืด คราเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกคราก็พบว่าตนยืนอยู่ท่ามกลางป่าใบสนกว้างสุดลูกหูลูกตา ท้องนภาในยามนั้นมืดสนิท มีเพียงแสงเรไรจากดวงจันทราที่สาดส่องลงมากระทบกับตัวของเขา เด็กน้อยในวัยนั้นอายุเพียงไม่กี่ขวบปี จำได้ว่าตอนนั้นเขาอายุแค่สิบสองปีเท่านั้น เด็กหนุ่มยืนค้างอยู่เช่นนั้นราวสติถูกพรากไปแสนไกลก่อนที่เขาจะก้มลงมามองฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเองเสมือนถูกดลบันดาลด้วยบางสิ่ง ทันทีที่เนตรสีอเมทิสต์จับจ้อง ผิวฝ่ามือที่ขาวสะอาดนั้นกลับเปรอะเปื้อนด้วยของเหลวข้นขลั่กสีแดงสดเต็มสองฝ่ามือ ไม่เพียงเท่านั้น แม้กระทั่งเสื้อแขนตุ๊กตาสีขาวสะอาดก็เปรอะเปื้อน กางเกง หรือจะเรียวขาต่างมีคราบไอสีแดงเลอะเทอะอยู่เต็มไปหมด กลิ่นคาวฉุนลอยปะทะจมูกพาให้ต้องย่นหนีด้วยความรู้สึกวิงเวียน
เขาไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับทางตระกูลเขา หรือแม้กระทั่งกับตัวเขาเองก็ตามที
( อะแฮ่ม สารภาพอย่างตรงไปตรงมาเลยค่ะ ว่าเขียนประวัติต่อไม่ออกด้วยอารามตันขึ้นมาแบบไม่ทราบเหตุผล เลยขออนุญาตเล่าต่อเป็นแบบคร่าวแทนนะคะ จะได้ละเอียดกว่าตัวของเจสสิก้าเล่าด้วยเพราะว่าเราจงใจให้น้อง ทำความทรงจำบางอย่างหล่นหายไป ค่ะ เหตุผลที่น้องไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลเพราะว่าตัวน้องเนี่ยสูญเสียความทรงจำไป ที่จริงแล้วครอบครัวของน้องเนี่ย ไปมีปัญหากับตระกูลใหญ่โตตระกูลหนึ่งที่ค้าขายด้านเกษตรเหมือนกัน ด้วยความที่ขัดแข้งขัดขากัน ฝ่ายนั้นก็หมั่นไส้เลยส่งคนมาฆ่ายกล้างตระกูลเอาซะเลย แน่นอนว่าบรรดาครอบครัวที่เป็นคนธรรมดาก็ตายกันเพราะสู้ไม่ได้ ส่วนน้องที่ได้รับพลังจากธรรมชาติมา ตอนนั้นพลังก็ดันตื่นขึ้นมาโดยที่น้องไม่รู้ตัวเพราะแรงกระตุ้นจากความกลัวความตายของน้อง จัสตินก็เลยเผลอใช้พลังเรียกเถาวัลย์ออกมารัดคอกับแปรสภาพให้กลายเป็นหนามกระซวกหน้าฆ่าพวกนั้นตายคาคฤหาสน์ เป็นการฆ่าคนครั้งแรกของน้องจนสองมือเปื้อนเลือด จากนั้นน้องก็วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนออกมาเพราะมีนักฆ่าบางส่วนที่รอดหนีไปได้ น้องก็มารู้สึกตัวอีกทีอยู่กลางป่าสนตามที่ว่า พร้อมกับความทรงจำที่จางลงไป ตัวน้องจะคิดยังไงก็คิดไม่ออก และตัวน้องเองก็ถูกจ่าค่าหัวตามล่า ไอ้ตัวน้องก็ไม่ได้ออกจากป่าเลย ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขา พอเป็นที่รักของพฤกษาก็ได้กินผลไม้นู่นนี่ประทังชีวิต บ้านป่าเมืองเถื่อนมาก ณ จุดนั้น ก่อนจุดเริ่มต้นที่ทำให้รสนิยมเปลี่ยนมันเกิดขึ้นจากการที่น้องดำอยู่ในป่าจนจะกลายเป็นทาซานโหฮิโหฮิ้วก็มีพ่อหนุ่มนักผจญภัยผ่านมาพอดี สายตาสองสายตาสอดประสาน ความรู้สึก ปิ๊ง ผลิบานขึ้นกลางใจเริ่มต้นดอกรัก อันที่จริงแล้วน้องมโนไปเองมากกว่า ไอ้หนุ่มคนนั้นเห็นน้องไม่มีญาติก็เข้าใจว่าหลงป่า ก็เลยช่วยออกมา สรุปไม่มีบ้านอีก จำอะไรไม่ได้อีก ก็เลยไปอยู่ด้วยกันซะเลย เพราะแบบนั้นมันก็เลยทำให้น้องมีความรู้สึกตุ้มต่อมกลางใจ เห็นเขาดูแลเอาใจใส่ก็ อุ๊ย เค้าชอบเราแน่เลย มโนไปไกลสามโลกแปดบ้าน ซักพักก็เพิ่งมารู้สึกตัวว่า เอ๊ะ แต่เราเป็นผู้ชายนะ จะรู้สึกกับผู้ชายได้ยังไงกัน มันแปลกจัง ซักพักความรู้สึกก็ยิ่งชัด แบบอยากเป็นผู้หญิงแล้วอ่ะแก ไม่อยากมีน้องจัสตินน้อยแล้ว ยิ่งประทับใจมากขึ้นกว่าเดิมเพราะผู้ชายคนนั้นก็เข้าใจ แถมช่วยตั้งชื่อ เจสสิก้า อันเป็นสเตจเนมปัจจุบันให้แก่เขาอีกด้วย ตอนแรกก็ตั้งเล่นแหละ แต่ไม่ยักรู้ว่าไอ้เด็กมันจะบ้าจี้เอาไปใช้จริง ชีวิตปลูกต้นรักเติบโต อีกฝั่งหนึ่งมองเป็นน้องสาว ( ? ) คนหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งคิดไปไกลยันนู่น สรุปอกหักดังเป๊าะ เสียใจครั้งแรกไปนั่งจิบน้ำส้มอยู่บนโซฟา ตอนแรกจะจิบไวน์แต่เปิดขวดไวน์ไม่เป็นก็เลยไปจิบน้ำส้มแทน โศกเศร้าเสียใจไม่นานก็มีความคิดที่ว่า เฮ้ย เราอกหักแค่คนเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะอกหักจากผู้ชายทั้งโลกปะ ชีวิตกะเทยน้อยผจญภัยก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ที่จริงคือไปไม่ไกล เดินออกจากบ้านถึงหน้าบ้านส่องเพื่อนบ้านข้างซ้ายขวาจากนั้นก็กลับเข้าบ้าน ชีวิตดูเฮวโล่เฮวโล่สบายบรื้อดี แต่แน่นอนว่าถ้าไม่มีปมมันจะธรรมดาเกินไป เลยกลายเป็นว่าพ่อหนุ่มนักผจญภัยคนนั้นถูกนักฆ่าที่ตามจองล้างจองผลาญเจสสิก้าตามมาเด็ดหัว ตอนนั้นแม่โกรธมาก แม่ระเบิดพลังฆ่ามันตายคามืออีกรอบ ความรู้สึกคุ้นเคยแล่นเข้ามา เหมือนเมฆหมอกในหัวนี่คลายลงแต่ว่าคิดอะไรมากไม่ได้ก็ต้องรีบไปดูแลพ่อหนุ่มนั่นต่อ เห็นเขานอนจมกองเลือดก็เหมือนหัวใจจะสลาย ถึงปากบอกจะตัดใจแต่ก็เป็นรักแรกที่ทำให้รู้สึกห้วใจตุ้มต่อมอยู่ดี ไม่ทันที่จะอ้าปากพูดอะไรก็ดันพบว่าเขาตายแล้ว ก็กอดศพเขาแบบนั้นทั้งวันจนตัวแข็งทื่อเย็นเฉียบก็ยังกอดไม่ปล่อย เป็นความรู้สึกยึดติดว่าเป็นที่พึ่งแรกที่คอยดูแลก็เลยฝังใจมาก เป็นคนที่ฝังศพเขาตรงป่าสนที่เจอกันครั้งแรกและคอยมาเยี่ยมเยียนทุกวัน จากนั้นตัวเจสสิก้าก็มีสภาพเหมือนโคนันที่ไม่ว่าไปที่ไหนก็มีคนตาย หนึ่งไม่นักฆ่าที่ตามจองล้างจองผลาญเขาไม่จบไม่สิ้นจากตระกูลที่เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อว่าเป็นตระกูลอะไรกันแน่ ตามมายิ่งกว่าสโตกเกอร์ตามติดจนบางทีก็หงุดหงิด ครั้นจะรีดความลับก็ดันกัดปากชิงฆ่าตัวตายไปเสียซะอย่างนั้น อีกหนึ่งก็คือไม่รู้เป็นอะไรเวลาไปที่ไหนก็ดันต้องมีงามศพผุดขึ้นมาตลอด ชีวิตของเขาคงเป็นที่รักของธรรมชาติมากจนเกินไป จนไม่ว่าไปที่ไหนก็ต่างมีสรรพสิ่งกลับคืนสู่ธรรมชาติกันทั้งสิ้น หลังจากนั้นพอเติบโตขึ้นไม่นานเขาก็ผันตัวกลายเป็นสัปเหร่อ ใช่ เป็นสัปเหร่อที่ใช้ชีวิตอู้ฟู้หรูหรามาก จากการพ่วงตำแหน่งสัปเหร่อสิบแปดมงกุฎเล็กน้อยเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง อย่างการแกล้งหลอกครอบครัวผู้ตายว่ามีวิญญาณร้ายอาฆาตสิงอยู่ เขาจะช่วยขับไล่ไปให้แลกกับเงินจำนวนเล็กน้อยตามความศรัทธาที่ว่า อันที่จริงก็คือไม่ได้ไปไล่ โมเมจุดเทียนทำพิธีอยู่อย่างนั้นแล้วดอดเอาเงินเขาแล้วชิ่งหนี ทำแบบนี้ทุกรอบจนรอบหนึ่งได้เศรษฐีมือใหญ่คนหนึ่งให้ตอบแทนมาจนเกือบทั้งชีวิตก็ใช้ไม่หมดหลังจากทำพิธีปัดรังควาญไล่วิญญาณร้ายออกจากศพแมวเลี้ยงของเศรษฐี อืม ศพแมวที่หลุมศพหรูหรายิ่งกว่าหลังคาบ้านเขาอีก แต่แน่นอนว่าพอได้เงินมาก็ได้ตั้งรากรกใหม่ถึงยังจะพ่วงอาชีพสัปเหร่อ ชีวิตของตัวของเจสสิก้านั้นดีมากขึ้น เขาซุกซ่อนตัวไม่โผล่ออกไปที่ไหนเด่นมากนัก สามารถพบเขาได้บ่อยในบาร์เพื่อมาหาเหยื่อหรือไม่ก็มานั่งสลอนอยู่หน้าหลุมศพคนในครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นมาหลังจากพอนึกถึงความทรงจำออกบ้าง เป้าหมายอย่างหนึ่งของเขาคือการหาชื่อของต้นตระกูลที่คอยส่งนักฆ่าพวกนั้นมาล้างบางเขา ชายหนุ่มใจหญิงอยากที่จะรู้เหตุผลถึงการกระทำที่แสนโง่เง่านั่นเหลือเกิน )
( เพราะว่าตัวของเจสสิก้าไม่รู้ค่ะ เลยอยากตามหา เราอยากให้ต้นตระกูลทางฝั่งนั้นค่อนข้างใหญ่โตเอามาก มีอำนาจล้นมือ เป็นถึงพวกขุนนางในราชวงศ์อะไรแบบนี้เลยก็ได้ เหตุผลที่ฆ่าล้างตระกูลนอกจากความหมั่นไส้แล้วยังมีอะไรเบื้องลึกเบื้องหลังค่ะ เราคิดไว้ว่าตระกูลเจสสิก้ากับทางตระกูลขุนนางใหญ่นั้นมีบรรพบุรุษมาจากที่เดียวกัน ด้วยความที่เป็นตระกูลที่มีความรักจากธรรมชาติเหมือนกันอะไรแบบนี้ ผลความรักพรแห่งพระเจ้าดันมาตกอยู่ในตระกูลที่ต้อยต่ำกว่า ฝั่งนั้นก็เลยแบบรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมค่ะ รู้สึกกลัวด้วยว่าตระกูลน้องจะขึ้นเป็นใหญ่ก็เลยเด็ดหัวมันซะเลย สรุปว่าน้องดันรอดซะอย่างนั้น ความคิดจะส่งนักฆ่ามาตามเด็ดหัวเรื่อย ๆ ก็ดันไม่ได้หัวกลับมาซักทีเลยเริ่มวางแผนใหม่ที่จะหลอกล่อน้องมาใช้ผลประโยชน์บ้างแล้ว ที่เหลือตามแต่ที่ไรท์เตอร์จะรังสรรค์ขึ้นมาเลยค่ะ หรือไม่ก็สามารถปรับแก้พล็อตประวัติที่เราว่ามาได้ตามใจชอบทั้งหมดเลยค่ะ แหะ เราเขียนตอนเช้าก็มึนก็เมาเหมือนกัน )
เพิ่มเติม ::
— อายุไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ขึ้นเลขสามจนอีกไม่กี่ปีจะแตะเลขสี่แล้ว
— เป็นกะเทยหน้าสวยแหละ แต่รูปร่างนั้นคือชายชาตรีคนหนึ่งที่สมบูรณ์แบบ แม้ตัวจะไม่ได้ดูหน้ามาก แต่ว่ารูปร่างนั้นค่อนข้างสูงโปร่งสูงชะลูดแตะตาอยู่พอสมควร คาดเดาจากระยะสายตาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 182 - 183
— ในอนาคตมีแพลนจะเปลี่ยนชื่ออีกรอบเหมือนกัน
— เป็นหนึ่งในตัวละครที่ไม่นับถือศาสนา และ ไม่มีความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า ถือว่าตนเป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้ปกครองตัวเองมากกว่า
— คอทองแดง เมาเหล้ายาก และ ถูกมอมเหล้ายากเช่นกัน งานอดิเรกคือชอบดวลเหล้าแข่งกับพวกตาลุงในบาร์แลกกับเหรียญทองไม่กี่เหรียญ
— ถึงจะร้องเพลงห่วยแตก แต่ความจริงแล้วมีความสามารถทางด้านศิลปะที่ค่อนข้างสูง วาดรูปเสมือนจริงรวมไปถึงการลงสีได้สมบูรณ์แบบ
— สำหรับปีศาจในสายตาของเจสสิก้าไม่ได้เกลียดชังอะไร แต่ก็เป็นความรู้สึกระแวงตามภาษามนุษย์ ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ไม่มีคนวางใจได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวขนาดนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่ หากต้องไปญาติดีตัวของเจสสิก้าก็ขอบายไว้ก่อน เขาไม่กล้าให้ความไว้วางใจเต็มร้อย หากอยู่ร่วมก็สามารถอยู่ร่วมด้วยได้ แต่จะแสดงออกชัดเจนถึงอาการที่ว่า ไม่ไว้ใจ และ ระแวดระวังภัยอย่างชัดเจน
— งานอดิเรกอย่างหนึ่งคือทำฟาร์ม ในสายตาคนทั่วไปเหมือนมองคนบ้าเพราะจะเห็นเจสสิก้านั่งกอดเข่าคุยกับพืชหญ้าใบไม้อะไรแบบนั้น ที่เขาทำเพราะว่าพยายามทำให้พวกมันมีความสุขอยู่ ด้วยพรของพระผู้เป็นเจ้าที่ทำให้เขากลายเป็นที่รักธรรมชาติทำให้ตัวของเจสสิก้าต้องใส่ใจพวกธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
พู ด คุ ย กั บ ผู้ ป ก ค ร อ ง
1. ข้อมูลทุกอย่างไรท์อาจเปลี่ยนโดยไม่บอกล่วงหน้านะคะ?
:: รับทราบค่ะ สามารถปรับเปลี่ยนตัวเจ๊แกได้ตามความเหมาะสมเลย
2. เรื่องนี้จะมีคนตายยย...ถ้าผปค. ไม่คอมเม้นท์ติดตาม ออริมีสิทธิ์โดนคัดออกและตายได้ หวังว่าโอเคนะคะ?
:: โอเคค่ะ เรารับทราบข้อนี้เรียบร้อยค่ะ
3. ถ้าไรท์แต่งนิสัยออกมาไม่ตรง ก็ขอโทษด้วยน้าค้า
:: ไม่เป็นไรเลยค่ะ เอาตามที่สะดวกดีกว่า คิดว่าน้องเป็นยังไงก็แสดงออกมาเป็นแบบนั้นเลยค่ะ
4. สุดท้ายมีไรอยากถามหรือบอกไรท์มั้ยค๊า? ขอบคุณที่เข้ามาสมัครค่ะ :D
:: ยินดีที่ได้พบกันอีกรอบนะคะ รอบนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เป็นคิดถึงคูมไรท์มากเลย ส่วนน้องคนนี้เอามาเป็นสีสันค่ะ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาได้ตามใจชอบเลย
ความคิดเห็น