ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : อะรัยกันเนี่ย
เมื่อเข้ามาในบ้าน  พวกเขาก็พบโซทีกำลังง่วนชงกาแฟอยู่  เท่าที่นับๆดูคงจะราวๆสัก สิบแก้วได้มั้ง
‘ทำไมเยอะจังน้า’  ฟูริกคิดในใจพร้อมกับหันหน้าไปหาเพื่อนๆ  แต่เขาคิดว่าทุกคนก็คงจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเขา  คืองง  งงมากๆ  เพราะ ทั้งสามคนต่างก็ส่ายหน้าพร้อมๆกัน
“ เข้าไปกันเถอะ”  ฟูริกพยักหน้า
“อ้าว  ฟูริกกลับมาแล้วเหรอ  มานี่สิ  ลุงจะแนะนำให้รู้จักกับท่านผู้ตรวจการของฟาสเธิร์น”
“ นี่น่ะเหรอ  ฟูริก  คาร์เธนเฟียร์  ทายาทคนเดียวของ  ท่านฟูรัส  และ .และท่านหญิงวาเนียร์  แห่งปาราซ”  แขกคนหนึ่งที่ฟูริกไม่ทราบว่าชื่ออะไรเอ่ยขึ้นขณะที่พวกฟูริกกำลังจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามลุงดานูส
“เอ๊ะ นั่น คุณยูฟราส  ฟูเลอร์  ใช่ไหมน่ะ”
“ นั่นก็คงเป็น  พิเรกัส  เธอร์เธียร์รี่  สินะ”
“ เอ๊ะ  แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นใครกัน”
    แขกหลายคนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของลุงดานูสเอ่ยขึ้น  ทำให้ทั้งสามคนมองหน้ากัน แล้วก็พยักหน้าพร้อมกัน
“  ครับ  ผมฟูริก  คาร์เธนเฟียร์  นี่  พิเรกัส  เธอร์เธียร์รี่    ยูฟราส  ฟูเลอร์  และ  ปาร์เวียน  พาร์ราบาส  ครับ  ขอโทษนะครับที่ให้รอ  ผมไม่ทราบว่าจะมีแขกมา”
“  ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ”  ผู้หญิงผมสีทองที่นั่งทางขวาของลุงดานูสกล่าวขึ้น  “พวกเราก็มาโดยไม่ได้บอกเหมือนกัน  ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ  ฉัน คาล่า  โทยามะ  เป็น คนที่จะมาคอยดูแลเธอจ๊ะ  ฟูริก”
“คอยดูแลฟูริก  ทำไมต้องดูแลฟูริกด้วยล่ะครับ”  พีสโพล่งขึ้น
“ อย่าเสียมารยาทน่ายูส”  ยูสปราม
“ขอโทษครับ แต่ว่าทำไมล่ะครับทำไมฟูริกถึงต้องมีคนดูแลด้วย  ฟูริกหรือว่านายป่วย ไหนๆเป็นอะไรบอกมานะ” พีสพูดพรางหมุนตัวฟูริกไปมา
“เปล่าฉันสบายดี”  ฟูริกบอก
“ฮะๆๆๆๆ  ฟูริกเขาไม่ได้เป็นอะไรหรอกจ๊ะ  เพียงแต่”
“ เดี๋ยวก่อนครับ  ผมคิดว่าเรื่องนี้เราควรรู้กันเฉพาะพวกเรา ท่านดานูส และฟูริกเท่านั้นน่ะครับ  ไม่ควรให้คนอื่นรู้”  เสียงที่ฟังดูเยียบเย็นดังมาจากข้างหลังของพวกฟูริก  ทำให้ทั้งสามคนถึงกับสะดุ้ง
“ ตกใจมากรึ  ฉันคิดว่าพวกเธอควรจะสังเกตุให้ดีตั้งแต่ต้นนะว่า มีใครอยู่ที่นี่บ้าง    ฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องด้านโน้นมาตั้งแต่เข้ามาแล้ว  ช่างประมาทเลินเล่อเสียนี่กระไร”
บุคคลที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดสำหรับฟูริกนั่นเอง  พ่อของ การ์เนียร์ นาย  คาร์เธียร์  โคเวอร์  แห่ง ทูลูน
“แต่พวกเราเป็นเพื่อนของฟูริกนะครับ  พวกเรามีสิทธิ์ที่จะได้รู้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเรา”  พีสท้วง
“เรื่องนี้มันสำคัญกว่าคำว่าเพื่อนมากนัก  เด็กอย่างพวกเธอไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“มิตรภาพเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดค่ะ  และมีแต่คนที่แข็งกระด้าง และอ่อนแอ เท่านั้นที่จะไม่รู้ซึ้งถึงความสำคัญของคำคำนี้”    ปาร์เวียนว่า
“ ฮึๆๆๆๆ  น่าขำจริง คุณหนูปาร์เวียน  แห่งพาร์ราบาสเตียน น่าจะได้รับการอบรมมาดีกว่านี้นะ  เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรพูดแทรกขณะที่คนอื่นเค้าพูดกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องของเธอด้วย”
คำพูดของคาร์เธียร์ ทำให้  ฟูริกถึงกับกำหมัด  และ ถอนหายใจออกมาดังๆ
“เธอเองก็เหมือนกันนะฟูริก  ไม่ควรแสดงกิริยาต่ำๆเช่นนี้  คนที่นี่เขาไม่เคยสั่งสอนหรือยังไงนะ”  นายคาร์เธียร์พูดด้วยเสียงอันดัง พร้อมกับหันไปหาลุงดานูส
“ สอนครับ  ที่นี่เค้าสอนให้ผมรู้จักเกรงใจ และเคารพในบุคคลที่ควรเคารพครับ”ฟูริกบอก
“ แก  ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
“  เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอนเพราะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่  ยังดีกว่าพ่อแม่ที่อยู่กับลูกแต่ไม่เคยสั่งสอนลูก ปล่อยให้ลูกมาเกะกะระรานชาวบ้านเค้านะครับ  คุณคาร์เธียร์  ขอโทษที่พูดแทรก  แต่ที่คุณกำลังกล่าวถึงคือ  หลานชายผม  รวมทั้ง น้องเขยและน้องของภรรยาของผมด้วย  กรุณาถอนคำพูดด้วย ”  ลุงดานูสคำราม
“ ฮึ”
“เอาล่ะๆ  วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของฟูริก  ไม่ได้มาเพื่อก่อให้เกิดความบาดหมางเหมือนที่เคยเป็นมา  ส่วนเรื่องที่เราสมควรจะให้เด็กๆพวกนี้รู้เรื่องหรือเปล่านั้น  มันแล้วแต่ฟูริก ที่จะตัดสินใจเพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง  ผมขอให้เข้าใจกันตามนี้นะครับ”  ชายคนหนึ่งที่นั่งติดทางด้านขวาของลุงดานูส
กล่าว
“  อ๊ะ  สวัสดีครับ  คุณอาเรนอล”  ฟูริกทัก
“ สวัสดีฟูริก”  เรนอลตอบ
“เอาล่ะในเมื่อเข้าใจกันแล้ว  ดิฉันว่าเราเริ่มประชุมกันเถอะค่ะ  เสียเวลามามากแล้ว”  คาล่าท้วง
“เออ  ฟูริก หลานยินดีที่จะให้เพื่อนของหลานนั่งฟังด้วยใช่ไหม ว่าไง”  ลุงดานูสถาม
“ ครับ”  ฟูริกตอบ
“  ครับ  ที่เรามากันที่นี่ในวันนี้ก็เพราะธุระของท่านผู้ปกครองใหญ่แห่งฟาสเธิร์น  ที่ต้องการให้เราคอยดูแลความประพฤติของฟูริก  ในขณะที่เขาออกเดินทางแสวงหาประสบการณ์เป็นเวลา  3  ปี”
“หมายความว่าไงครับ  คุมประพฤติผม  ผมทำอะไรผิดเหรอฮะ  อาเรนอล”
“เปล่าหรอก ฟูริก  เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก  หากแต่เป็นความต้องการของท่านผู้ปกครองของฟาสเธิร์น”
เรนอลบอก
“ ฟูริก  ฟังให้จบก่อนเถอะ”  ลุงดานูสเตือน
“ คืออย่างนี้นะฟูริก  ทางท่านผู้ปกครอง หรือ  BOSS  ต้องการให้เธอมีผู้คอยดูแลน่ะนะ  เธอจึงจำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของเรา  หรือพูดอีกอย่างก็คือ  ต่อแต่นี้ไปอีก  3  ปี  เราทั้งหมดจะเป็นผู้ดูแลเธอ”
เรนอลว่าอย่างไรนะ  ต่อแต่นี้ไป  ทุกคนรวมถึงนายคาร์เธียร์จะเป็นผู้คอยดูแลเขา  ไม่ ไม่เด็ดขาด  หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเขาก็ไม่มีวันยอมแน่ๆ  เรื่องอะไรเขาต้องให้นายหนวดเฟิ้มคนนี้มาคอยดูแล  เขาจะต้องเชื่อฟังคำของไอ้หมอนี่  คนที่จะเขาเข้าคุกน่ะเหรอ  ไม่มีทางซะล่ะ  ยังไม่รวมถึงเขาจะต้องทำตัวเหมือนการ์เนียร์อีก  อย่านะ อย่าให้มันเป็นจริงเลย    แค่คิดมันก็ทำให้ฟูริกขนลุกแล้ว  ทำไงดีล่ะ
“เข้าใจนะฟูริก  เราหวังว่าเธอคงจะเห็นด้วยนะ”
“ว่าไงนะฮะ  ผมคงจะเห็นด้วยงั้นเหรอ  ไม่มีทางซะล่ะ”
“ฟูริก  แต่เธอต้องทำตามความประสงค์ของ  BOSS  นะ  ไม่มีใครในฟาสเธิร์นที่สามารถขัดคำสั่งของ  BOSS ได้”
“ก็มีไม่ใช่เหรอฮะ คนที่สามารถขัดคำสั่งของ BOSS  ได้น่ะ”
“  ธะ  เธอ  เธอรู้อะไรมาบอกมานะ”  นายโคเวอร์  โพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“  จุ๊ๆ  มารยาทที่ดีต้องไม่พูดแทรกขณะที่คนอื่นเขาพูดกันไม่ใช่เหรอครับ”  พีสว่า
“ พอแล้วๆ  ทั้งสองคนนั่นแหละ  ว่าไงฟูริกเธอว่าไงนะ”  เรนอลถาม
“อ้อ  ผมก็เดาเอาน่ะฮะ ว่าน่าจะมีใครสักคนที่กล้าขัดใจเขาน่ะ  ก็เขาไม่ใช่พระเจ้านี่ฮะ “
“ เฮ้อ  งั้นก็แล้วไป”
“เอ๊ะ  หมายความว่าไงฮะ  มีคนเคยขัดใจเขาจริงๆเหรอฮะ”  ฟูริกพูด 
“เปล่าหรอก”    เมื่ออาเรนอลหันหน้าไปทางอื่นแล้ว  ฟูริกก็แอบยิ้มออกมานิดๆ  หากแต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลุงดานูสไปได้
“  ท่านดานูสว่าไงครับ  ท่านเห็นด้วยหรือไม่หากเราจะคอยดูแลหลานชายท่านตลอดระยะเวลาที่เขาเดินทางไปหาประสบการณ์”
“  ผมแล้วแต่ฟูริกครับ  เขาโตแล้วสามารถตัดสินใจเองได้”
“ ว่าไงฟูริก”  เรนอลหันมาถามฟูริก
“  เขาจะควบคุมผมยังไงล่ะฮะ”
“ฟูริก อย่าบอกนะว่านายยอมน่ะ”  พีสว่า
“เงียบน่า พีส  ให้ฟูริกจัดการเอง  เราต้องเคารพในการตัดสินใจของเขา” 
“ฟูริก”
“ ฮะ ว่าไง”
“ ถึงอย่างไรเราก็จะอยู่เป็นกำลังให้นายเสมอนะ”  ยูสบอก
“ อืม  ขอบใจนะ” 
“  เอ้อ ฟูริก  มาพูดเรื่องของเราต่อนะ  พวกเราได้คัดเลือกคนไว้แล้ว  สำหรับร่วมเดินทางไปกับเธอ  เขาจะคอยรายงานความประพฤติของเธอให้เรารู้ตลอด  แล้วเราจะเป็นผู้ถ่ายทอดข้อความไปให้ BOSS  อีกทีหนึ่ง”
“  แล้วใครล่ะฮะที่ จะไปกับผมน่ะ”
“  ฉันไง” ทันทีที่สิ้นคำถามของฟูริก  ชายคนหนึ่งอายุประมาณ  20  ต้นๆ  ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมด้วยถุงสำภาระที่ดูมอมแมมไม่แพ้ตัวเขาเอง
“  โนอาร์  นายไม่ควรเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตินะ”  เรนอลดุ
“อะ  ขอโทษทีท่านเรนอล  เพียงแต่ผมเห็นว่า  ฟูริกเขาต้องการรู้จักผมนี่  ใช่ไหมฟูริก”  เมื่อพูดจบเขาก็ยื่นมือมาให้ฟูริกจับ
“ ฉัน โนอาร์  จะเป็นผู้ร่วมเดินทางของเธอนะ”  โนอาร์แนะนำตัว
“  อะ เอ่อ  ผมฟูริก  คาร์เธนเฟียร์  ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ เอาล่ะ  ในเมื่อเธอได้รู้จักกันแล้ว  ฉันก็จะพูดต่อล่ะนะ BOSS  เป็นห่วงมากว่าเธอจะทำอะไรไม่เข้าท่าระหว่างการเดินทาง  จึงขอย้ำให้เธอประพฤติตนให้ดี  มิฉะนั้นท่านจะเป็นผู้ลงโทษเธอด้วยตัวของท่านเอง  ทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละ  เธอสงสัยอะไรอีกไหม”
“  ครับ  ผมพอจะเข้าใจแล้ว  แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอีกสองสามข้อครับ”
“  ว่ามาสิ”
“  ข้อแรก  ทำไมท่านต้องเป็นห่วงว่าผมจะทำเรื่องแย่ๆ  แล้วต้องให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้ด้วย  ข้อสอง  ผมสามารถเลือกได้ใช่ไหมครับว่าผมจะไปที่ไหน  และข้อสาม  เมื่อครบกำหนดเดินทาง  3  ปีแล้ว  ผมจะเป็นอิสระใช่รึเปล่า  ผมขอถามอาแค่นี้แหละฮะ”
“  ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  น่าขำจริงไอ้คนหลงตัวเอง  คิดเหรอว่าท่านให้ความสำคัญเธอเป็นพิเศษ” นายโคเวอร์พูดจาเย้ยหยัน
“  กรุณาเงียบด้วย คุณโคเวอร์  เรื่องนี้มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะตอบคำถามให้ฟูริก”  เมื่ออาเรนอลพูดจบ  พีสก็แกล้งไอดังๆ  ฟังคล้ายๆกับเสียงหัวเราะ  ทำให้นายโคเวอร์หน้าแดงก่ำด้วยความโกธรจัด
“  ฟูริก  ฉันมั่นใจว่า BOSS  ให้ความสำคัญกับเธอมาก    แต่เหตุผลนั้นมันยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะรู้  เอาไว้เมื่อถึงเวลาแล้วเธอก็จะรู้เองแหละ  ส่วนคำถามข้อที่สองของเธอนั้น  ฉันขอตอบว่า  ได้  เธอสามารถเลือกเส้นทางการเดินของเธอได้  เธอสามารถไปไหนก็ได้  ตามที่ฝ่ายดูแลของเราเห็นสมควร  ส่วนข้อสุดท้ายนั้น  เมื่อครบ 3 ปี เธอจะเป็นอิสระจากการควบคุมของพวกเราทันที”  เมื่อเรนอลพูดจบ ยูสกับพีสก็มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา  และในที่สุดพีสก็ถองยูสแรงๆ เข้าที่สีข้างทำให้ยูสร้องลั่น ทำให้ทุกคนหันมาสนใจ  รวมถึงอาเรนอลด้วย
“  มีอะไรเหรอ  อ้อ ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนของฟูริก  เธอมีสิทธิถามได้นะ”  ฟูริกมั่นใจว่าเรนอลเข้าใจถึงความต้องการของยูส  และเข้าใจนิสัยของคาร์เธียร์ด้วยเช่นกัน  เพราะเขาพูดดักคอคาร์เธียร์ และยังหันหน้ามาขยิบตาให้ยูสด้วย
“  จะเป็นไปได้ไหมครับถ้าพวกเรา  เอ้อ หมายถึง ผมกับพีส จะร่วมเดินทางไปกับฟูริกด้วยน่ะฮะ”
“  ฮึๆๆๆๆ  สงสัย BOSS  คงจะมานั่งในใจเธอล่ะมั้ง  เพราะท่านสั่งมาว่า ถ้ามีเพื่อนของฟูริกคนใดต้องการร่วมเดินทางไปด้วยก็ให้เราพิจารณาอนุญาติได้  ถ้าฟูริกเห็นด้วย”
“ฟูริก  เราจะไปกับนายด้วยนะ  นะๆๆๆๆ”  พีสอ้อน
“แต่พวกนายจะหมดสนุกไปด้วยนะ”
“  ไม่เป็นไรหรอก นายอยู่ได้  เราก็อยู่ได้แหละ  จะให้เราทิ้งนายไปทนทุกข์คนเดียวได้ไง”  ยูสบอก
“ แหมพวกเธออย่าพูดอย่างนั้นสิ”  เรนอลติง
“ว่าไงฟูริก  ฉันก็จะไปด้วยนะ”  ปาร์เวียนว่า
“  เธอด้วยเหรอ  แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ”  พีสว่า
“  ผู้หญิงแล้วไงยะ  ให้ฟูริกตัดสินดีกว่า”
“พวกนายแน่ใจเหรอ”  ฟูริกถาม
ทั้งสามหันหน้ามองกันอย่างมีความหมาย  แล้วก็พยักหน้าพร้อมๆกัน  ต่างคนต่างก็เดินอ้อมโต๊ะมาหาฟูริก  พร้อมกับโถมเข้ากอดเด็กหนุ่มเต็มแรง
“ แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก  ไอ้เพื่อนเลิฟ” พีสว่า
“ขอบใจนะ”
“เป็นอันว่าเราได้คำตอบแล้วนะ”  เรนอลว่า
“  อะ ใช่สิ  ลืมบอกไปเราจะเดินทางกันทันทีที่สิ้นพิธิซีเธียร์นะจ๊ะ”  คาล่าที่เงียบไปนายกล่าว
“ เอาล่ะในเมื่อการประชุมสิ้นสุดไปด้วยดีแล้ว  ผมก็ขอเชิญทุกท่านที่ห้องรับประทานอาหารครับ  ป่านนี้โซทีคงจะเตรียมอาหาร  และ  ห้องพักเรียบร้อยแล้วล่ะ  เชิญครับ  พวกเธอด้วยนะ”  ลุงดานูสกล่าวกับทุกคน  และหันมาส่งสายตาอบอุ่นในแก่พวกปาร์เวียน
“ครับลุง”  พีสรับคำ
“ แหม พีสเรื่องกินนี่ล่ะก็นะ”  ปาร์เวียนค้อน
“  โถ  ก้อนะ”
“เอาน่า  ไปกันเถอะ”  ฟูริกท้วง
    ที่โต๊ะรับประทานอาหารพวกเขาพบว่าอาหารที่จัดมาล้วนแต่เป็นอาหารที่หรูหรา  และน่ากินมากๆ  ขอย้ำว่ามากๆ  เพราะมันทำให้พีสถึงกับอุทานออกมาเบาๆ  และมันก็ทำให้เขาต้องโดนลูกถองเต็มแรงของยูส
“โอ๊ย ไอ้ยูสบ้า”
“เป็นอะไรไปจ๊ะตาพีส  มาเร็วมาทานข้าวกัน”  เสียงป้าราเฟียร์ดังมาจากหลังเคาน์เตอร์
“ครับป้า”  พีสรับคำด้วยน้ำเสียงระริกระรี้เต็มที่  ทำให้พวกฟูริกถึงกับหัวเราะอุบอิบ
“ แหมป้าดีใจจริงๆเลยที่ตาพีสมาทานข้าวด้วยวันนี้  จะได้เจริญอาหารกันเต็มที่  เพราะตาพีสเวลากินอะไรก็ดูอร่อยไปหมดเชียว”
“โธ่  ป้าก้อ  ก็ป้าทำอาหารอร่อยนี่ครับ” 
“ เอาล่ะครับ  เชิญทุกท่านรับประทานอาหารกันตามสบายเลยครับ  วันนี้ภรรยาผมโชว์ฝีมือเต็มที่แน่ๆไม่ต้องห่วงครับ  เขาเห่อลูกจะกลับมาแล้วน่ะครับ  เอาครับ เชิญๆ”  ลุงดานูสว่า
“เดี๋ยวครับ  เดี๋ยวๆ  รอผมก่อน”  เสียงของใครคนหนึ่งที่แสนจะคุ้นเคยดังมาจากทางหน้าบ้าน  ทำให้ฟูริกต้องรีบลุกออกไปหาต้นเสียง
“  พี่ดาราส”  ฟูริกร้องเสียงดัง
“  ไง ไอ้หนูไม่ได้เจอกันนานนะ”  ดาราสพูดพร้อมกับขยี้ผมฟูริกเบาๆ
“ โธ่  พี่ก็ผมโตแล้วนะฮะ”
“  ดาราส”
“หวัดดีครับแม่  คิดถึงแม่จัง”  ดาราสพูดพร้อมกับโผเข้ากอดป้าราเพียร์ทันที
“  ไงวะ  ไอ้เสือ  กลับมาแล้วเหรอ”  ลุงดานูสพูด
“ครับพ่อ  ผมกลับมาแล้วครับ  คิดถึงพ่อเหมือนกันครับ”  เมื่อพูดจบลุงดานูสก็เข้ามาสวมกอดดาราส
“อายุยืนจริงโว๊ยไอ้เสือนี่ เพิ่งพูดถึงไปเมื่อกี๊โผล่มาละ  เอ้าๆ  ไปทานข้าวกัน  แขกรอกันแล้ว”
“  แขกอะไรเหรอครับ”
“เอาเถอะทานข้าวเสร็จจะเล่าให้ฟังนะ  แต่ตอนนี้ไปทานข้าวกันเถอะ”  ลุงดานูสเร่ง
“ครับทุกคนครับ  นี่คือดาราส  ลูกชายของผมครับเพิ่งกลับมาถึง  เพื่อเข้ารับพิธีซูธาน”
“ครับสวัสดีครับทุกคน  ผมดาราสครับ  เชิญครับ  เชิญๆ  ทานข้าวกันเถอะครับ”
    หลังจากทานข้าวและส่งแขกทุกคนเข้าที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ลุงดานูส  ฟูริก  ป้าราเฟียร์  ดาราส  และพวกพีส  ก็มานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น  ก็จะเรื่องอะไรอีกล่ะก็เรื่องของฟูริกนั่นแหละ
“ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ  ทำไมต้องมีคนมาคอยควบคุมฟูริกด้วย  ทำหยั่งกับเขาไปก่อเรื่องร้ายแรงอะไรไว้งั้นแหละ  เอ๊ะ  แต่ไม่ได้ไปทำอะไรไว้จริงๆใช่ไหม ว่าไงไอ้น้องรัก”
“  โธ่ พี่ดาราสก้อ  ผมจะไปทำอะไรล่ะครับ”
“งั้นก็เพราะอะไรล่ะ  ทีตอนผมไม่เห็นมีอะไรเลยนี่ครับ  เน๊าะพ่อ”
“  แกอยากให้มีหรือไงล่ะ”
“แหะๆ  พ่อก้อ”
“  แต่ฟูริกก็ยอมตกลงนี่นะ  ฉันยังงงไม่หายเลยที่นายยอมตกลงเนี่ย”  พีสว่า
“  พูดยังกับว่าถ้าฉันไม่ยอม  พวกเขาจะไม่มาควบคุมฉันงั้นแหละ  นายก็รู้ขืนไปเรื่องมากกับพวกเขา ก็เสียเวลาเปล่า  สู้ยอมๆไป แล้วค่อยหาทางแก้ดีกว่า”  ฟูริกเถียง
“ เอ๊ะ  นายมีทางแก้แล้วเหรอ”  ยูสถาม
“ บ้าน่า  ฉันไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอก  แต่มันก็ต้องมีทางน่า”
“เอาเถอะ  ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยมันไป  แล้วค่อยหาทางแก้เหมือนที่ฟูริกบอกแหละนะ”  ปาร์เวียนพูด
“ ลุงฮะ  ลุงรู้ก่อนรึเปล่าฮะว่าเขาจะมาควบคุมผมน่ะ”
“  จะว่าไปเขาก็ไม่ได้บอกอะไรลุงเป็นเรื่องเป็นราวหรอกนะ  แต่พวกเขาเคยถามลุงว่าฟูริกจะออกเดินทางเมื่อ
ไหร่ แล้วใครไปด้วยบ้าง  แหม แต่ตอนนั้นลุงก็ไม่ได้เอะใจนะ  คิดว่าพวกเขาถามเฉยๆนี่  เอาเป็นว่าลุงก็รู้ก่อนหลานไม่กี่นาทีหรอก”
“  แล้วลุงรู้รึเปล่าฮะว่าทำไม BOSS  ถึงให้ความสำคัญกับผมจังเลย”
“  ลุงว่าเรื่องนี้หลานรู้แล้วนะ  หรือไงฟูริก  หลานหลอกลุงไม่ได้หรอก”
“  เปล่านี่ฮะ”
“  ฟูริก  นายไม่รู้จริงๆเหรอ  ถ้ารู้นายต้องบอกเรานะ”  ยูสว่า
“ ใช่ๆ  นายอย่าปิดบังพวกเรานะ  สัญญานะ”  พีสเสริม
“  อืมม์  แต่ตอนนี้ง่วงแล้วล่ะ  ไปนอนกันเถอะ  ราตรีสวัสดิ์นะครับลุง ป้า  พี่ดาราส”
“  ราตรีสวัสดิ์  ครับ/ ค่ะ”
    หลังจากพวกฟูริกเดินออกไปแล้ว  ลุงดานูสก็ทำหน้าตาเคร่งเครียดเหมือนกับมีเรื่องอัดอั้นตันใจอย่างใหญ่หลวง
“  คุณคะ  คุณว่าฟูริกจะรู้แล้วเหรอคะ”  ป้าราเฟียร์ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ ผมว่างั้นนะ”
“  เขารู้เรื่องอะไรเหรอฮะ  ผมไม่รู้ว่าเขารู้รึเปล่า  แต่ที่ผมแน่ใจก็คือ  ผมยังไม่รู้ฮะ  พ่อกับแม่จะบอกผมได้ไหมฮะว่ามันเรื่องอะไรกัน  และอะไรคือความลับของพ่อกับแม่”  คำพูดของดาราสทำให้ลุงดานูสกับป้าราเฟียร์มอง
หน้ากันเป็นเชิงปรึกษา  ก่อนที่ลุงและป้าจะพยักหน้าให้กันและลุงก็เริ่มพูดขึ้น
“  พ่อคิดว่าลูกโตพอที่จะได้รับรู้แล้วล่ะ  เผื่ออีกหน่อยพ่อกับแม่เป็นอะไรไป ลูกจะได้ช่วยน้องได้”
“  พ่อพูดเหมือนรู้แน่ๆว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปงั้นแหละ”
“  ก็อนาคตมันไม่แน่นอนนี่ลูก  ใครจะไปรู้ล่ะว่าอีกหน่อยมันจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ  เอาล่ะตั้งใจฟังให้ดีล่ะ”  แล้วลุงดานูสก็เริ่มเล่า  โดยลุงไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้  ฟูริกแอบอยู่หลังประตูและคอยเอาหูแนบประตูรอฟังอยู่  ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เรื่องคร่าวๆแล้วก็ตามแต่เขาก็อยากฟังเรื่องเต็มๆจากปากลุง  ตอนนี้ฟูริกรู้สึกผิดอย่างประหลาด  เขาแกล้งพูดให้ลุงคิดมาก  ให้ป้าและลุงคิดว่าเขารู้แล้ว  และเล่าให้ดาราสฟัง  เพื่อที่เขาจะได้มาแอบฟังเรื่องราวจริงๆ  เขาทำผิดไหมนะ  แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันเข้าครอบงำเขาเสียแล้วล่ะ
“  เรื่องก็มีอยู่ว่า  ท่านตาของฟูริก  ท่านวาเนน  หรือที่พวกเรารู้จักกันดีในนามของ  BIG BOSS  น่ะ  ท่านก็คือเจ้าชายวาเนนแห่งอาณาจักรฟาสเธิร์นนั่นล่ะ  ลูกรู้ใช่ไหมว่าท่านเป็นผู้รวมรวบแผ่นดินฟาสเธิร์นให้เป็นปึกแผ่น  สมัยนั้นผู้คนแตกกันออกเป็นก๊กเป็นเหล่า  เกิดสงครามขึ้นมากมาย  ท่านวาเนนท่านเกลียดสงครามท่านอยากจะให้แผ่นดินฟาสเธิร์นสงบสุข  จึงได้พยายามรวบรวมแผ่นดินฟาสเธิร์นให้เป็นปึกแผ่น  แล้วท่านก็ทำสำเร็จ ท่านรวบรวมแผ่นดินฟาสเธิร์นที่เคยแตกออกเป็นส่วนๆ  ให้มาเป็นแผ่นดินผืนเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์  แต่ชีวิตของท่านก็เกิดปัญหา  เมื่อลูกบุญธรรมของท่าน  หรือก็คือ BOSS  คนปัจจุบันคนนี้น่ะแหละ  คิดจะแย่งชิงอำนาจจากท่าน  และอีกเรื่องที่ทำให้  ท่านวาเนียร์เสียใจมากก็คือ BOSS  แอบรักท่านวาเนียร์  แม่ของฟูริกมานานแล้วและคิดที่จะแต่งงานกับท่านวาเนียร์  แต่ท่านวาเนียร์ไม่ได้รัก BOSS  ท่านรักกับพ่อของฟูริกมานานแล้ว  พวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กแน่ะ  หรือจะเรียกให้ถูกก็คือ  พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันทั้งสามคนน่ะแหละ  เมื่อก่อน
ฟูรัสเคยคิดว่า BOSS  เป็นเพื่อนรักที่จะยอมตายแทนกันได้  ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจนกระทั่งมีเรื่องแม่ของ
ฟูริกเข้ามานี่แหละ BOSS  ทำปิตุฆาตท่านวาเนน  แล้วตั้งตัวเป็น BOSS  บีบบังคับให้ท่านวาเนียร์เข้าพิธีแต่งงานด้วย  ท่านวาเนียร์จึงหนีไปพร้อมกับฟูรัส  ไปอยู่ที่เมือง  ปาราซ  ซึ่งท่านวาเนนได้ยกให้ฟูรัสปกครองตั้งแต่ท่านรวบรวมแผ่นดินได้  การหนีไปของท่านวาเนียร์ทำให้เกิดข้อพิพาทใหญ่โตระหว่างฟูรัสกับ BOSS    แต่สุดท้าย BOSS  ก็ปล่อยท่านวาเนียร์ไป  ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร  ครอบครัวคาร์เธนเฟียร์อยู่กันอย่างมีความสุขจนกระทั่ง ฟูริกเกิดมา  คืนที่ฟูริกเกิดนั้น BOSS  เกิดฝันประหลาดขึ้นมา  เขาฝันว่ามีเด็กชายคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากดอกบัวในสระใกล้วังของเขา  เด็กคนนั้นสวมมงกุฎ  และลอยขึ้นเหนือหัวของเขาขณะที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโหรจะทำนายว่าไง  พวกเขาทำนายว่า  เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นผู้มีบุญมากและจะมาแทนที่ในตำแหน่งของเขา  และเด็กของนี้จะเป็นญาติคนสนิทของเขาด้วย”  เมื่อลุงดาราสเล่าถึงตอนนี้  มันทำให้หัวใจของฟูริกเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ  เขารู้ว่าตอนนี้เขากำลังตื่นเต้นมาก  เรื่องนี้เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย  ก่อนนี้เขาเคยรู้แต่ว่า BOSS  เป็นพี่ชายบุญธรรมของแม่เขาเท่านั้น
“  ฟูริก  ฟูริก ใช่ไหมฮะ”  ดาราสถามลุงดานูส  แต่เมื่อเขาเรียกชื่อฟูริกครั้งแรกนั้นมันทำให้หัวใจของฟูริกที่เดิมเต้นแรงอยู่แล้ว  เต้นแรงเขาไปอีก  เขานึกว่าพี่ดาราสรู้แล้วซะอีกว่าเขาอยู่ตรงนี้
“  ใช่  เด็กคนนั้นก็คือฟูริก BOSS  ออกคำสั่งให้ฆ่าฟูริกทันที  แต่ด้วยคำขอร้องของท่านวาเนียร์ฟูริกจึงรอดมาได้  ท่านวาเนียร์สัญญาว่าเมื่อฟูริกโตท่านจะให้ฟูริกไปอยู่ที่อื่นจะไม่ให้รู้เรื่องของ BOSS  เด็ดขาด  ตอนแรก BOSS  ก็ยอมคงเพราะเขายังคงรัก ท่านวาเนียร์อยู่นั่นเอง  แต่เมื่ออีก 10  ปีต่อมา  เขาก็ฝันอีก  เขาจึงออกคำสั่งเด็ดขาดให้พาฟูริกออกไปให้ไกลจากตัวเขาที่สุด  แล้วฟูริกจึงได้มาอยู่กับเราไงล่ะ  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงให้คนคอยควบคุมฟูริก  เขาคงกลัวว่าฟูริกจะไปแย่งอำนาจเขาจริงๆล่ะมั้ง” ลุงดาราสเล่าถึงตอนนี้  น้ำตาของฟูริกก็ไหลออกมา  เขาคิดถึงพ่อกับแม่  พวกท่านจะเศร้าใจขนาดไหนนะตอนที่ฟูริกต้องมาอยู่ที่นี่  ต้องห่างอกพ่อแม่มาตั้งแต่อายุ  10  ขวบ
“ งั้นฟูริกก็น่าสงสารมากสิครับ”
“  ใช่  น้องน่าสงสารมาก  น่าสงสารทั้งฟูริก  ทั้งฟูรัสและก็ท่านวาเนียร์ด้วย” ป้าราเฟียร์พูด
“เอาล่ะในเมื่อลูกรู้ทุกอย่างแล้ว  อีกหน่อยเมื่อถึงเวลาลูกต้องคอยช่วยน้องนะ  พ่อไม่คิดว่า BOSS  จะปล่อยฟูริกไว้แบบนี้หรอก  เขาคงคิดจะทำอะไรสักอย่างแน่ๆ  พวกเราประมาทเขาไม่ได้  แล้วเมื่อเขาอยู่ในตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้อีกด้วย  เขาอันตรายมาก  เราจะให้ฟูริกรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด  พ่อกลัวว่าเขาจะคิดมาก  อันจะทำให้เขาหลงไปในทางมืดได้  ลูกก็รู้ใช่ไหมว่าชาวฟาสเธิร์นอย่างเราเป็นผู้วิเศษ  แต่ความวิเศษก็ย้อนมาทำร้ายเราได้เมื่อจิตใจเราใฝ่ไปในทางที่ผิด  เราจะหลงไปในทางมืดทันที  พ่อไม่อยากให้ฟูริกเสียคนเพราะไอ้คำทำนายบ้าๆนั่น  ลูกเข้าใจใช่ไหม”
“ ครับผมเข้าใจครับ  ผมจะปกป้องน้องด้วยชีวิตของผม  ผมไม่รู้ว่าอีกหน่อยเขาจะเป็นใคร  ถึงเขาจะเป็นราชา  หรือยาจก  แต่ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนความเป็นพี่น้องของเราไปเป็นอย่างอื่นได้หรอกครับ  ผมสัญญาครับ”
“ดีมากดาราส  พ่อกับแม่ดีใจมากที่ลูกเข้าใจ”
“ครับ  งั้นเราเข้านอนกันเถอะครับ  พรุ่งนี้เราต้องตื่นมาแต่เช้ามาส่งแขกไม่ใช่เหรอฮะ”
    เมื่อได้ยินดาราสพูดถึงเรื่องเข้านอน  ฟูริก ก็รีบเผ่นจากที่ซ่อนวิ่งขึ้นบันไดไปทันที ก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้า 
“  เฮ้อ  พีสตื่น  พีส  พิเรกัส  คุณพีส  ไอ้คุณพีส  เฮ้ย ไอ้พีส  ตื่นสิ  นี่ตะวันโด่งแล้วนะครับคุณชาย  ตื่นได้แล้ว”  นี่นานเท่าไหร่แล้วล่ะที่ยูสพยายามเรียกพีสให้ตื่น  ฟูริกจำได้ว่าตั้งแต่เขาตื่นมาก็พบว่ายูสตื่นมาแล้วและพยายามเรียกพีสให้ตื่นด้วย  จนตอนนี้ฟูริกไปส่งแขกออกเดินทางหมดแล้ว พีสก็ยังไม่ตื่นเลย
“ มายูส  ฉันเอง  “  ฟูริกพูด  แล้วเดินไปหาพีสที่เตียง
“ เฮ้ย  พีส ตื่น  ป้าราเฟียร์ให้มาตามไปทานข้าว  วันนี้ป้าทำอาหารอร่อยๆทั้งนั้นเลย  ฉลองที่พี่ดาราสกลับมาน่ะ  เร็วเข้าไม่งั้นฉันกับยูสฟาดเรียบล่ะนะ “  ทันทีที่ฟูริกพูดจบ พีสก็รีบลุกขึ้นจากเตียงไปห้องน้ำทันที  ยังไม่ทันที่ยูสจะพูดคำว่าแปรงฟันจบด้วยซ้ำ
“ เฮ้ย  แค่นี้เองเหรอ  รู้มั้ยฉันพยายามเรียกมันมาตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงแน่ะ”
“เอาน่า”
    เมื่อทั้งสามคนลงมาที่ห้องอาหารพวกเขาก็พบลุงดานูส  ป้าราเฟียร์  ดาราส  และ  ปาร์เวียน  นั่งรออยู่แล้ว    อาหารวันนี้เป็นอาหารเช้าที่อร่อยมากๆ  อาหารแต่ล่ะอย่างล้วนทำอย่างประณีตบรรจง  ทำให้อาหารออกมาดูน่ากิน  พิสูจน์ได้จากการที่พีสกินเข้าไปอย่างน้อยก็ 1  ใน 4 ของอาหารทั้งหมด  ทำให้ยูสต้องขอโทษป้าราเฟียร์เป็นการใหญ่
“  ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ  ตายูส  เห็นพีสเค้ากินอย่างเอร็ดอร่อยแบบนี้สิ  ดี  ป้าดีใจมากนะ  เห็นแล้วมีความสุข  พวกหลานคงไม่รู้สินะ  ว่าความสุขของแม่บ้านไม่มีอะไรมากหรอก  แค่เห็นคนกินอาหารของเราด้วยความเอร็ดอร่อย  มีคนชอบงานที่เราทำ  อาหารของเรา  เท่านั้นแหล่ะจ๊ะ “
“เห็นมั้ยล่ะ  ก็อาหารมันอร่อยนี่  ใครจะไปเหมือนนายล่ะ  กินเท่าแมวดมเนี่ย  “  พีสเถียง
“  พวกนายรีบกินเถอะ เดี๋ยวเราต้องไปธุระกันต่อนะ “  ฟูริกว่า
“ ไปธุระอะไรเหรอ  ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ “ ปาร์เวียนถาม
“นั่นสิ พวกฉันก็ไม่รู้นะ “    ยูสว่า
“  เอ่อน่า  รีบกินเข้า “  ฟูริกเร่ง
    เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จแล้วพวกฟูริก  ก็ขี่บาซูนไปที่พาร์ราบาสเตียน  ซึ่งการเดินทางไปพาร์ราบาสเตียนครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่พวกยูสอย่างมาก
“  นายมาโรงเรียนทำไมฟูริก “  พีสถาม
“เอาเถอะ  เข้าไปก่อนเถอะ”
“  อ้าวสวัสดีครับ  คุณหนู  คุณชายฟูริก  คุณชายพิเรกัส  คุณชายยูฟราส  มาทำอะไรกันครับวันนี้  ก็พวกคุณจบการศึกษาไปแล้วนี่ครับ  แล้วนี่มันก็วันเปิดเทอมวันแรกนะครับ  “  ยูโมน  ภารโรงของโรงเรียนกล่าว
“  พวกฉันก็ไม่รู้เหมือนกันจ๊ะ  ก็คุณชายฟูริกของยูโมนน่ะสิ  อยู่ๆก็พามาโรงเรียนเฉยเลย  ว่าแต่พ่ออยู่ไหมล่ะ “
ปาร์เวียนถาม
“  นายท่านอยู่ที่ห้องทำงานขอรับ คุณหนู”
“จ๊ะ  ขอบใจมากจ๊ะ “
“  พวกนายจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขอแวะไปทักทายพ่อก่อนน่ะ  แล้วพวกนายก็ไปทำธุระกันเองน่ะ”
“  ไม่หรอกเพราะฉันก็มีธุระกับพ่อเธอนั่นแหละ “  ฟูริกว่า
“  อ้าวเหรอ “ พีสพูด
“ไปกันเถอะ”  ฟูริกเร่ง
    เมื่อเข้าไปถึงพวกเขา  ก็พบว่าในห้องของผู้อำนวยการนั้น  ได้เตรียมอาหารว่างไว้รับรองพวกเขาแล้ว  ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย  ผู้อำนวยการของพวกเขานั้นเป็นผู้ที่ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า  และเขามักจะเตรียมของไว้รับรองพวกเขาเสมออยู่แล้วเมื่อพวกเขาเข้ามาพบ  ซึ่งส่วนมากมันก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรนักหรอก
“ว่าไง  พวกเธอ  อ้าวปาร์เวียนลูกก็มาด้วยเหรอ “  คำพูดของผู้อำนวยการทำให้สี่สหายมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมาเบาๆ  เขาผู้นี้มักชอบทำอะไรแปลกๆเสมอ  เช่นตอนนี้เขาก็ทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าปาร์เวียนมาด้วยทั้งที่เขารู้
“ พ่อก้อ  พูดยังกับว่าพ่อไม่รู้มาก่อนงั้นแหละ” 
“เออใช่  พ่อลืมไปแน่ะ  ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เอาล่ะ  ว่าไงฟูริกมีอะไรรึ  จิตใจวุ่นวายเชียวนะ\"
“ เอ่อ  คือ  ผมต้องการฝึกศิลปะการต่อสู้เพิ่มน่ะครับ  รวมถึงการปกครองของส่วนกลางด้วยครับเอาแบบละเอียดนะครับ  อาจารย์จะช่วยสอนให้ผมหน่อยได้ไหมครับ “ 
“  อันที่จริงฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอมีเรื่องอะไร  ไหนลองพูดออกมาให้หมดซิ  ให้เพื่อนๆของเธอได้ฟังด้วย “
“  อะ เอ่อ  คือ  ผมอยากเรียนวิธีอ่านใจคนด้วยครับ “
“ ฟูริก  เธอใจร้อนเกินไป  จนลืมไปแน่ะ ว่าความสามารถพิเศษของชาวฟาสเธิร์นไม่สามารถเรียนรู้ได้  ทำได้แต่เพียงฝึกฝนเท่านั้น  ความสามารถพิเศษของแต่ละคน มีมากับตัวตั้งแต่เกิด ส่วนใครจะใช้ได้ดีแค่ไหนนั้นอยู่ที่การฝึกฝน    อีกอย่างนะ ฉันว่าความสามารถพิเศษของเธอก็ดีพออยู่แล้วนี่    เรียกว่าดีมากจนน่ากลัวเลยล่ะ  จริงไหมพวกเธอ”  เมื่อพูดจบเขาก็หันหน้าไปทางพวกพีสพร้อมกับขยิบตาให้ 
    มันก็จริงอย่างที่ผู้อำนวยการพูดอยู่หรอก  แต่  ฟูริกก็ยังต้องจะมีความสามารถมากกว่านี้  เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขากลายเป็นคนไม่รู้จักพอตั้งแต่เมื่อไหร่  เขาอยากมีความสามารถในทุกๆด้าน  เอาเป็นว่าให้สามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์น่ะนะ  ตอนนี้มันจำเป็นกับเขามาก  เพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาในอนาคตข้างหน้า  แล้วใครจะรับรองได้บ้างว่าอีกหน่อย  พ่อ แม่  ลุง  ป้า  และดาราสจะปลอดภัย  ยังมีเพื่อนๆของเขาอีกล่ะ  จะทำยังไงดี 
‘ทำไมเยอะจังน้า’  ฟูริกคิดในใจพร้อมกับหันหน้าไปหาเพื่อนๆ  แต่เขาคิดว่าทุกคนก็คงจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเขา  คืองง  งงมากๆ  เพราะ ทั้งสามคนต่างก็ส่ายหน้าพร้อมๆกัน
“ เข้าไปกันเถอะ”  ฟูริกพยักหน้า
“อ้าว  ฟูริกกลับมาแล้วเหรอ  มานี่สิ  ลุงจะแนะนำให้รู้จักกับท่านผู้ตรวจการของฟาสเธิร์น”
“ นี่น่ะเหรอ  ฟูริก  คาร์เธนเฟียร์  ทายาทคนเดียวของ  ท่านฟูรัส  และ .และท่านหญิงวาเนียร์  แห่งปาราซ”  แขกคนหนึ่งที่ฟูริกไม่ทราบว่าชื่ออะไรเอ่ยขึ้นขณะที่พวกฟูริกกำลังจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามลุงดานูส
“เอ๊ะ นั่น คุณยูฟราส  ฟูเลอร์  ใช่ไหมน่ะ”
“ นั่นก็คงเป็น  พิเรกัส  เธอร์เธียร์รี่  สินะ”
“ เอ๊ะ  แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นใครกัน”
    แขกหลายคนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของลุงดานูสเอ่ยขึ้น  ทำให้ทั้งสามคนมองหน้ากัน แล้วก็พยักหน้าพร้อมกัน
“  ครับ  ผมฟูริก  คาร์เธนเฟียร์  นี่  พิเรกัส  เธอร์เธียร์รี่    ยูฟราส  ฟูเลอร์  และ  ปาร์เวียน  พาร์ราบาส  ครับ  ขอโทษนะครับที่ให้รอ  ผมไม่ทราบว่าจะมีแขกมา”
“  ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ”  ผู้หญิงผมสีทองที่นั่งทางขวาของลุงดานูสกล่าวขึ้น  “พวกเราก็มาโดยไม่ได้บอกเหมือนกัน  ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะ  ฉัน คาล่า  โทยามะ  เป็น คนที่จะมาคอยดูแลเธอจ๊ะ  ฟูริก”
“คอยดูแลฟูริก  ทำไมต้องดูแลฟูริกด้วยล่ะครับ”  พีสโพล่งขึ้น
“ อย่าเสียมารยาทน่ายูส”  ยูสปราม
“ขอโทษครับ แต่ว่าทำไมล่ะครับทำไมฟูริกถึงต้องมีคนดูแลด้วย  ฟูริกหรือว่านายป่วย ไหนๆเป็นอะไรบอกมานะ” พีสพูดพรางหมุนตัวฟูริกไปมา
“เปล่าฉันสบายดี”  ฟูริกบอก
“ฮะๆๆๆๆ  ฟูริกเขาไม่ได้เป็นอะไรหรอกจ๊ะ  เพียงแต่”
“ เดี๋ยวก่อนครับ  ผมคิดว่าเรื่องนี้เราควรรู้กันเฉพาะพวกเรา ท่านดานูส และฟูริกเท่านั้นน่ะครับ  ไม่ควรให้คนอื่นรู้”  เสียงที่ฟังดูเยียบเย็นดังมาจากข้างหลังของพวกฟูริก  ทำให้ทั้งสามคนถึงกับสะดุ้ง
“ ตกใจมากรึ  ฉันคิดว่าพวกเธอควรจะสังเกตุให้ดีตั้งแต่ต้นนะว่า มีใครอยู่ที่นี่บ้าง    ฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องด้านโน้นมาตั้งแต่เข้ามาแล้ว  ช่างประมาทเลินเล่อเสียนี่กระไร”
บุคคลที่ไม่พึงประสงค์ที่สุดสำหรับฟูริกนั่นเอง  พ่อของ การ์เนียร์ นาย  คาร์เธียร์  โคเวอร์  แห่ง ทูลูน
“แต่พวกเราเป็นเพื่อนของฟูริกนะครับ  พวกเรามีสิทธิ์ที่จะได้รู้ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเรา”  พีสท้วง
“เรื่องนี้มันสำคัญกว่าคำว่าเพื่อนมากนัก  เด็กอย่างพวกเธอไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“มิตรภาพเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดค่ะ  และมีแต่คนที่แข็งกระด้าง และอ่อนแอ เท่านั้นที่จะไม่รู้ซึ้งถึงความสำคัญของคำคำนี้”    ปาร์เวียนว่า
“ ฮึๆๆๆๆ  น่าขำจริง คุณหนูปาร์เวียน  แห่งพาร์ราบาสเตียน น่าจะได้รับการอบรมมาดีกว่านี้นะ  เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรพูดแทรกขณะที่คนอื่นเค้าพูดกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องของเธอด้วย”
คำพูดของคาร์เธียร์ ทำให้  ฟูริกถึงกับกำหมัด  และ ถอนหายใจออกมาดังๆ
“เธอเองก็เหมือนกันนะฟูริก  ไม่ควรแสดงกิริยาต่ำๆเช่นนี้  คนที่นี่เขาไม่เคยสั่งสอนหรือยังไงนะ”  นายคาร์เธียร์พูดด้วยเสียงอันดัง พร้อมกับหันไปหาลุงดานูส
“ สอนครับ  ที่นี่เค้าสอนให้ผมรู้จักเกรงใจ และเคารพในบุคคลที่ควรเคารพครับ”ฟูริกบอก
“ แก  ไอ้เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
“  เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอนเพราะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่  ยังดีกว่าพ่อแม่ที่อยู่กับลูกแต่ไม่เคยสั่งสอนลูก ปล่อยให้ลูกมาเกะกะระรานชาวบ้านเค้านะครับ  คุณคาร์เธียร์  ขอโทษที่พูดแทรก  แต่ที่คุณกำลังกล่าวถึงคือ  หลานชายผม  รวมทั้ง น้องเขยและน้องของภรรยาของผมด้วย  กรุณาถอนคำพูดด้วย ”  ลุงดานูสคำราม
“ ฮึ”
“เอาล่ะๆ  วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของฟูริก  ไม่ได้มาเพื่อก่อให้เกิดความบาดหมางเหมือนที่เคยเป็นมา  ส่วนเรื่องที่เราสมควรจะให้เด็กๆพวกนี้รู้เรื่องหรือเปล่านั้น  มันแล้วแต่ฟูริก ที่จะตัดสินใจเพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง  ผมขอให้เข้าใจกันตามนี้นะครับ”  ชายคนหนึ่งที่นั่งติดทางด้านขวาของลุงดานูส
กล่าว
“  อ๊ะ  สวัสดีครับ  คุณอาเรนอล”  ฟูริกทัก
“ สวัสดีฟูริก”  เรนอลตอบ
“เอาล่ะในเมื่อเข้าใจกันแล้ว  ดิฉันว่าเราเริ่มประชุมกันเถอะค่ะ  เสียเวลามามากแล้ว”  คาล่าท้วง
“เออ  ฟูริก หลานยินดีที่จะให้เพื่อนของหลานนั่งฟังด้วยใช่ไหม ว่าไง”  ลุงดานูสถาม
“ ครับ”  ฟูริกตอบ
“  ครับ  ที่เรามากันที่นี่ในวันนี้ก็เพราะธุระของท่านผู้ปกครองใหญ่แห่งฟาสเธิร์น  ที่ต้องการให้เราคอยดูแลความประพฤติของฟูริก  ในขณะที่เขาออกเดินทางแสวงหาประสบการณ์เป็นเวลา  3  ปี”
“หมายความว่าไงครับ  คุมประพฤติผม  ผมทำอะไรผิดเหรอฮะ  อาเรนอล”
“เปล่าหรอก ฟูริก  เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก  หากแต่เป็นความต้องการของท่านผู้ปกครองของฟาสเธิร์น”
เรนอลบอก
“ ฟูริก  ฟังให้จบก่อนเถอะ”  ลุงดานูสเตือน
“ คืออย่างนี้นะฟูริก  ทางท่านผู้ปกครอง หรือ  BOSS  ต้องการให้เธอมีผู้คอยดูแลน่ะนะ  เธอจึงจำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของเรา  หรือพูดอีกอย่างก็คือ  ต่อแต่นี้ไปอีก  3  ปี  เราทั้งหมดจะเป็นผู้ดูแลเธอ”
เรนอลว่าอย่างไรนะ  ต่อแต่นี้ไป  ทุกคนรวมถึงนายคาร์เธียร์จะเป็นผู้คอยดูแลเขา  ไม่ ไม่เด็ดขาด  หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรเขาก็ไม่มีวันยอมแน่ๆ  เรื่องอะไรเขาต้องให้นายหนวดเฟิ้มคนนี้มาคอยดูแล  เขาจะต้องเชื่อฟังคำของไอ้หมอนี่  คนที่จะเขาเข้าคุกน่ะเหรอ  ไม่มีทางซะล่ะ  ยังไม่รวมถึงเขาจะต้องทำตัวเหมือนการ์เนียร์อีก  อย่านะ อย่าให้มันเป็นจริงเลย    แค่คิดมันก็ทำให้ฟูริกขนลุกแล้ว  ทำไงดีล่ะ
“เข้าใจนะฟูริก  เราหวังว่าเธอคงจะเห็นด้วยนะ”
“ว่าไงนะฮะ  ผมคงจะเห็นด้วยงั้นเหรอ  ไม่มีทางซะล่ะ”
“ฟูริก  แต่เธอต้องทำตามความประสงค์ของ  BOSS  นะ  ไม่มีใครในฟาสเธิร์นที่สามารถขัดคำสั่งของ  BOSS ได้”
“ก็มีไม่ใช่เหรอฮะ คนที่สามารถขัดคำสั่งของ BOSS  ได้น่ะ”
“  ธะ  เธอ  เธอรู้อะไรมาบอกมานะ”  นายโคเวอร์  โพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“  จุ๊ๆ  มารยาทที่ดีต้องไม่พูดแทรกขณะที่คนอื่นเขาพูดกันไม่ใช่เหรอครับ”  พีสว่า
“ พอแล้วๆ  ทั้งสองคนนั่นแหละ  ว่าไงฟูริกเธอว่าไงนะ”  เรนอลถาม
“อ้อ  ผมก็เดาเอาน่ะฮะ ว่าน่าจะมีใครสักคนที่กล้าขัดใจเขาน่ะ  ก็เขาไม่ใช่พระเจ้านี่ฮะ “
“ เฮ้อ  งั้นก็แล้วไป”
“เอ๊ะ  หมายความว่าไงฮะ  มีคนเคยขัดใจเขาจริงๆเหรอฮะ”  ฟูริกพูด 
“เปล่าหรอก”    เมื่ออาเรนอลหันหน้าไปทางอื่นแล้ว  ฟูริกก็แอบยิ้มออกมานิดๆ  หากแต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลุงดานูสไปได้
“  ท่านดานูสว่าไงครับ  ท่านเห็นด้วยหรือไม่หากเราจะคอยดูแลหลานชายท่านตลอดระยะเวลาที่เขาเดินทางไปหาประสบการณ์”
“  ผมแล้วแต่ฟูริกครับ  เขาโตแล้วสามารถตัดสินใจเองได้”
“ ว่าไงฟูริก”  เรนอลหันมาถามฟูริก
“  เขาจะควบคุมผมยังไงล่ะฮะ”
“ฟูริก อย่าบอกนะว่านายยอมน่ะ”  พีสว่า
“เงียบน่า พีส  ให้ฟูริกจัดการเอง  เราต้องเคารพในการตัดสินใจของเขา” 
“ฟูริก”
“ ฮะ ว่าไง”
“ ถึงอย่างไรเราก็จะอยู่เป็นกำลังให้นายเสมอนะ”  ยูสบอก
“ อืม  ขอบใจนะ” 
“  เอ้อ ฟูริก  มาพูดเรื่องของเราต่อนะ  พวกเราได้คัดเลือกคนไว้แล้ว  สำหรับร่วมเดินทางไปกับเธอ  เขาจะคอยรายงานความประพฤติของเธอให้เรารู้ตลอด  แล้วเราจะเป็นผู้ถ่ายทอดข้อความไปให้ BOSS  อีกทีหนึ่ง”
“  แล้วใครล่ะฮะที่ จะไปกับผมน่ะ”
“  ฉันไง” ทันทีที่สิ้นคำถามของฟูริก  ชายคนหนึ่งอายุประมาณ  20  ต้นๆ  ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมด้วยถุงสำภาระที่ดูมอมแมมไม่แพ้ตัวเขาเอง
“  โนอาร์  นายไม่ควรเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตินะ”  เรนอลดุ
“อะ  ขอโทษทีท่านเรนอล  เพียงแต่ผมเห็นว่า  ฟูริกเขาต้องการรู้จักผมนี่  ใช่ไหมฟูริก”  เมื่อพูดจบเขาก็ยื่นมือมาให้ฟูริกจับ
“ ฉัน โนอาร์  จะเป็นผู้ร่วมเดินทางของเธอนะ”  โนอาร์แนะนำตัว
“  อะ เอ่อ  ผมฟูริก  คาร์เธนเฟียร์  ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ เอาล่ะ  ในเมื่อเธอได้รู้จักกันแล้ว  ฉันก็จะพูดต่อล่ะนะ BOSS  เป็นห่วงมากว่าเธอจะทำอะไรไม่เข้าท่าระหว่างการเดินทาง  จึงขอย้ำให้เธอประพฤติตนให้ดี  มิฉะนั้นท่านจะเป็นผู้ลงโทษเธอด้วยตัวของท่านเอง  ทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละ  เธอสงสัยอะไรอีกไหม”
“  ครับ  ผมพอจะเข้าใจแล้ว  แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอีกสองสามข้อครับ”
“  ว่ามาสิ”
“  ข้อแรก  ทำไมท่านต้องเป็นห่วงว่าผมจะทำเรื่องแย่ๆ  แล้วต้องให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้ด้วย  ข้อสอง  ผมสามารถเลือกได้ใช่ไหมครับว่าผมจะไปที่ไหน  และข้อสาม  เมื่อครบกำหนดเดินทาง  3  ปีแล้ว  ผมจะเป็นอิสระใช่รึเปล่า  ผมขอถามอาแค่นี้แหละฮะ”
“  ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  น่าขำจริงไอ้คนหลงตัวเอง  คิดเหรอว่าท่านให้ความสำคัญเธอเป็นพิเศษ” นายโคเวอร์พูดจาเย้ยหยัน
“  กรุณาเงียบด้วย คุณโคเวอร์  เรื่องนี้มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะตอบคำถามให้ฟูริก”  เมื่ออาเรนอลพูดจบ  พีสก็แกล้งไอดังๆ  ฟังคล้ายๆกับเสียงหัวเราะ  ทำให้นายโคเวอร์หน้าแดงก่ำด้วยความโกธรจัด
“  ฟูริก  ฉันมั่นใจว่า BOSS  ให้ความสำคัญกับเธอมาก    แต่เหตุผลนั้นมันยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะรู้  เอาไว้เมื่อถึงเวลาแล้วเธอก็จะรู้เองแหละ  ส่วนคำถามข้อที่สองของเธอนั้น  ฉันขอตอบว่า  ได้  เธอสามารถเลือกเส้นทางการเดินของเธอได้  เธอสามารถไปไหนก็ได้  ตามที่ฝ่ายดูแลของเราเห็นสมควร  ส่วนข้อสุดท้ายนั้น  เมื่อครบ 3 ปี เธอจะเป็นอิสระจากการควบคุมของพวกเราทันที”  เมื่อเรนอลพูดจบ ยูสกับพีสก็มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา  และในที่สุดพีสก็ถองยูสแรงๆ เข้าที่สีข้างทำให้ยูสร้องลั่น ทำให้ทุกคนหันมาสนใจ  รวมถึงอาเรนอลด้วย
“  มีอะไรเหรอ  อ้อ ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนของฟูริก  เธอมีสิทธิถามได้นะ”  ฟูริกมั่นใจว่าเรนอลเข้าใจถึงความต้องการของยูส  และเข้าใจนิสัยของคาร์เธียร์ด้วยเช่นกัน  เพราะเขาพูดดักคอคาร์เธียร์ และยังหันหน้ามาขยิบตาให้ยูสด้วย
“  จะเป็นไปได้ไหมครับถ้าพวกเรา  เอ้อ หมายถึง ผมกับพีส จะร่วมเดินทางไปกับฟูริกด้วยน่ะฮะ”
“  ฮึๆๆๆๆ  สงสัย BOSS  คงจะมานั่งในใจเธอล่ะมั้ง  เพราะท่านสั่งมาว่า ถ้ามีเพื่อนของฟูริกคนใดต้องการร่วมเดินทางไปด้วยก็ให้เราพิจารณาอนุญาติได้  ถ้าฟูริกเห็นด้วย”
“ฟูริก  เราจะไปกับนายด้วยนะ  นะๆๆๆๆ”  พีสอ้อน
“แต่พวกนายจะหมดสนุกไปด้วยนะ”
“  ไม่เป็นไรหรอก นายอยู่ได้  เราก็อยู่ได้แหละ  จะให้เราทิ้งนายไปทนทุกข์คนเดียวได้ไง”  ยูสบอก
“ แหมพวกเธออย่าพูดอย่างนั้นสิ”  เรนอลติง
“ว่าไงฟูริก  ฉันก็จะไปด้วยนะ”  ปาร์เวียนว่า
“  เธอด้วยเหรอ  แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ”  พีสว่า
“  ผู้หญิงแล้วไงยะ  ให้ฟูริกตัดสินดีกว่า”
“พวกนายแน่ใจเหรอ”  ฟูริกถาม
ทั้งสามหันหน้ามองกันอย่างมีความหมาย  แล้วก็พยักหน้าพร้อมๆกัน  ต่างคนต่างก็เดินอ้อมโต๊ะมาหาฟูริก  พร้อมกับโถมเข้ากอดเด็กหนุ่มเต็มแรง
“ แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก  ไอ้เพื่อนเลิฟ” พีสว่า
“ขอบใจนะ”
“เป็นอันว่าเราได้คำตอบแล้วนะ”  เรนอลว่า
“  อะ ใช่สิ  ลืมบอกไปเราจะเดินทางกันทันทีที่สิ้นพิธิซีเธียร์นะจ๊ะ”  คาล่าที่เงียบไปนายกล่าว
“ เอาล่ะในเมื่อการประชุมสิ้นสุดไปด้วยดีแล้ว  ผมก็ขอเชิญทุกท่านที่ห้องรับประทานอาหารครับ  ป่านนี้โซทีคงจะเตรียมอาหาร  และ  ห้องพักเรียบร้อยแล้วล่ะ  เชิญครับ  พวกเธอด้วยนะ”  ลุงดานูสกล่าวกับทุกคน  และหันมาส่งสายตาอบอุ่นในแก่พวกปาร์เวียน
“ครับลุง”  พีสรับคำ
“ แหม พีสเรื่องกินนี่ล่ะก็นะ”  ปาร์เวียนค้อน
“  โถ  ก้อนะ”
“เอาน่า  ไปกันเถอะ”  ฟูริกท้วง
    ที่โต๊ะรับประทานอาหารพวกเขาพบว่าอาหารที่จัดมาล้วนแต่เป็นอาหารที่หรูหรา  และน่ากินมากๆ  ขอย้ำว่ามากๆ  เพราะมันทำให้พีสถึงกับอุทานออกมาเบาๆ  และมันก็ทำให้เขาต้องโดนลูกถองเต็มแรงของยูส
“โอ๊ย ไอ้ยูสบ้า”
“เป็นอะไรไปจ๊ะตาพีส  มาเร็วมาทานข้าวกัน”  เสียงป้าราเฟียร์ดังมาจากหลังเคาน์เตอร์
“ครับป้า”  พีสรับคำด้วยน้ำเสียงระริกระรี้เต็มที่  ทำให้พวกฟูริกถึงกับหัวเราะอุบอิบ
“ แหมป้าดีใจจริงๆเลยที่ตาพีสมาทานข้าวด้วยวันนี้  จะได้เจริญอาหารกันเต็มที่  เพราะตาพีสเวลากินอะไรก็ดูอร่อยไปหมดเชียว”
“โธ่  ป้าก้อ  ก็ป้าทำอาหารอร่อยนี่ครับ” 
“ เอาล่ะครับ  เชิญทุกท่านรับประทานอาหารกันตามสบายเลยครับ  วันนี้ภรรยาผมโชว์ฝีมือเต็มที่แน่ๆไม่ต้องห่วงครับ  เขาเห่อลูกจะกลับมาแล้วน่ะครับ  เอาครับ เชิญๆ”  ลุงดานูสว่า
“เดี๋ยวครับ  เดี๋ยวๆ  รอผมก่อน”  เสียงของใครคนหนึ่งที่แสนจะคุ้นเคยดังมาจากทางหน้าบ้าน  ทำให้ฟูริกต้องรีบลุกออกไปหาต้นเสียง
“  พี่ดาราส”  ฟูริกร้องเสียงดัง
“  ไง ไอ้หนูไม่ได้เจอกันนานนะ”  ดาราสพูดพร้อมกับขยี้ผมฟูริกเบาๆ
“ โธ่  พี่ก็ผมโตแล้วนะฮะ”
“  ดาราส”
“หวัดดีครับแม่  คิดถึงแม่จัง”  ดาราสพูดพร้อมกับโผเข้ากอดป้าราเพียร์ทันที
“  ไงวะ  ไอ้เสือ  กลับมาแล้วเหรอ”  ลุงดานูสพูด
“ครับพ่อ  ผมกลับมาแล้วครับ  คิดถึงพ่อเหมือนกันครับ”  เมื่อพูดจบลุงดานูสก็เข้ามาสวมกอดดาราส
“อายุยืนจริงโว๊ยไอ้เสือนี่ เพิ่งพูดถึงไปเมื่อกี๊โผล่มาละ  เอ้าๆ  ไปทานข้าวกัน  แขกรอกันแล้ว”
“  แขกอะไรเหรอครับ”
“เอาเถอะทานข้าวเสร็จจะเล่าให้ฟังนะ  แต่ตอนนี้ไปทานข้าวกันเถอะ”  ลุงดานูสเร่ง
“ครับทุกคนครับ  นี่คือดาราส  ลูกชายของผมครับเพิ่งกลับมาถึง  เพื่อเข้ารับพิธีซูธาน”
“ครับสวัสดีครับทุกคน  ผมดาราสครับ  เชิญครับ  เชิญๆ  ทานข้าวกันเถอะครับ”
    หลังจากทานข้าวและส่งแขกทุกคนเข้าที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ลุงดานูส  ฟูริก  ป้าราเฟียร์  ดาราส  และพวกพีส  ก็มานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น  ก็จะเรื่องอะไรอีกล่ะก็เรื่องของฟูริกนั่นแหละ
“ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ  ทำไมต้องมีคนมาคอยควบคุมฟูริกด้วย  ทำหยั่งกับเขาไปก่อเรื่องร้ายแรงอะไรไว้งั้นแหละ  เอ๊ะ  แต่ไม่ได้ไปทำอะไรไว้จริงๆใช่ไหม ว่าไงไอ้น้องรัก”
“  โธ่ พี่ดาราสก้อ  ผมจะไปทำอะไรล่ะครับ”
“งั้นก็เพราะอะไรล่ะ  ทีตอนผมไม่เห็นมีอะไรเลยนี่ครับ  เน๊าะพ่อ”
“  แกอยากให้มีหรือไงล่ะ”
“แหะๆ  พ่อก้อ”
“  แต่ฟูริกก็ยอมตกลงนี่นะ  ฉันยังงงไม่หายเลยที่นายยอมตกลงเนี่ย”  พีสว่า
“  พูดยังกับว่าถ้าฉันไม่ยอม  พวกเขาจะไม่มาควบคุมฉันงั้นแหละ  นายก็รู้ขืนไปเรื่องมากกับพวกเขา ก็เสียเวลาเปล่า  สู้ยอมๆไป แล้วค่อยหาทางแก้ดีกว่า”  ฟูริกเถียง
“ เอ๊ะ  นายมีทางแก้แล้วเหรอ”  ยูสถาม
“ บ้าน่า  ฉันไม่ฉลาดขนาดนั้นหรอก  แต่มันก็ต้องมีทางน่า”
“เอาเถอะ  ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยมันไป  แล้วค่อยหาทางแก้เหมือนที่ฟูริกบอกแหละนะ”  ปาร์เวียนพูด
“ ลุงฮะ  ลุงรู้ก่อนรึเปล่าฮะว่าเขาจะมาควบคุมผมน่ะ”
“  จะว่าไปเขาก็ไม่ได้บอกอะไรลุงเป็นเรื่องเป็นราวหรอกนะ  แต่พวกเขาเคยถามลุงว่าฟูริกจะออกเดินทางเมื่อ
ไหร่ แล้วใครไปด้วยบ้าง  แหม แต่ตอนนั้นลุงก็ไม่ได้เอะใจนะ  คิดว่าพวกเขาถามเฉยๆนี่  เอาเป็นว่าลุงก็รู้ก่อนหลานไม่กี่นาทีหรอก”
“  แล้วลุงรู้รึเปล่าฮะว่าทำไม BOSS  ถึงให้ความสำคัญกับผมจังเลย”
“  ลุงว่าเรื่องนี้หลานรู้แล้วนะ  หรือไงฟูริก  หลานหลอกลุงไม่ได้หรอก”
“  เปล่านี่ฮะ”
“  ฟูริก  นายไม่รู้จริงๆเหรอ  ถ้ารู้นายต้องบอกเรานะ”  ยูสว่า
“ ใช่ๆ  นายอย่าปิดบังพวกเรานะ  สัญญานะ”  พีสเสริม
“  อืมม์  แต่ตอนนี้ง่วงแล้วล่ะ  ไปนอนกันเถอะ  ราตรีสวัสดิ์นะครับลุง ป้า  พี่ดาราส”
“  ราตรีสวัสดิ์  ครับ/ ค่ะ”
    หลังจากพวกฟูริกเดินออกไปแล้ว  ลุงดานูสก็ทำหน้าตาเคร่งเครียดเหมือนกับมีเรื่องอัดอั้นตันใจอย่างใหญ่หลวง
“  คุณคะ  คุณว่าฟูริกจะรู้แล้วเหรอคะ”  ป้าราเฟียร์ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ ผมว่างั้นนะ”
“  เขารู้เรื่องอะไรเหรอฮะ  ผมไม่รู้ว่าเขารู้รึเปล่า  แต่ที่ผมแน่ใจก็คือ  ผมยังไม่รู้ฮะ  พ่อกับแม่จะบอกผมได้ไหมฮะว่ามันเรื่องอะไรกัน  และอะไรคือความลับของพ่อกับแม่”  คำพูดของดาราสทำให้ลุงดานูสกับป้าราเฟียร์มอง
หน้ากันเป็นเชิงปรึกษา  ก่อนที่ลุงและป้าจะพยักหน้าให้กันและลุงก็เริ่มพูดขึ้น
“  พ่อคิดว่าลูกโตพอที่จะได้รับรู้แล้วล่ะ  เผื่ออีกหน่อยพ่อกับแม่เป็นอะไรไป ลูกจะได้ช่วยน้องได้”
“  พ่อพูดเหมือนรู้แน่ๆว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปงั้นแหละ”
“  ก็อนาคตมันไม่แน่นอนนี่ลูก  ใครจะไปรู้ล่ะว่าอีกหน่อยมันจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ  เอาล่ะตั้งใจฟังให้ดีล่ะ”  แล้วลุงดานูสก็เริ่มเล่า  โดยลุงไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้  ฟูริกแอบอยู่หลังประตูและคอยเอาหูแนบประตูรอฟังอยู่  ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เรื่องคร่าวๆแล้วก็ตามแต่เขาก็อยากฟังเรื่องเต็มๆจากปากลุง  ตอนนี้ฟูริกรู้สึกผิดอย่างประหลาด  เขาแกล้งพูดให้ลุงคิดมาก  ให้ป้าและลุงคิดว่าเขารู้แล้ว  และเล่าให้ดาราสฟัง  เพื่อที่เขาจะได้มาแอบฟังเรื่องราวจริงๆ  เขาทำผิดไหมนะ  แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันเข้าครอบงำเขาเสียแล้วล่ะ
“  เรื่องก็มีอยู่ว่า  ท่านตาของฟูริก  ท่านวาเนน  หรือที่พวกเรารู้จักกันดีในนามของ  BIG BOSS  น่ะ  ท่านก็คือเจ้าชายวาเนนแห่งอาณาจักรฟาสเธิร์นนั่นล่ะ  ลูกรู้ใช่ไหมว่าท่านเป็นผู้รวมรวบแผ่นดินฟาสเธิร์นให้เป็นปึกแผ่น  สมัยนั้นผู้คนแตกกันออกเป็นก๊กเป็นเหล่า  เกิดสงครามขึ้นมากมาย  ท่านวาเนนท่านเกลียดสงครามท่านอยากจะให้แผ่นดินฟาสเธิร์นสงบสุข  จึงได้พยายามรวบรวมแผ่นดินฟาสเธิร์นให้เป็นปึกแผ่น  แล้วท่านก็ทำสำเร็จ ท่านรวบรวมแผ่นดินฟาสเธิร์นที่เคยแตกออกเป็นส่วนๆ  ให้มาเป็นแผ่นดินผืนเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์  แต่ชีวิตของท่านก็เกิดปัญหา  เมื่อลูกบุญธรรมของท่าน  หรือก็คือ BOSS  คนปัจจุบันคนนี้น่ะแหละ  คิดจะแย่งชิงอำนาจจากท่าน  และอีกเรื่องที่ทำให้  ท่านวาเนียร์เสียใจมากก็คือ BOSS  แอบรักท่านวาเนียร์  แม่ของฟูริกมานานแล้วและคิดที่จะแต่งงานกับท่านวาเนียร์  แต่ท่านวาเนียร์ไม่ได้รัก BOSS  ท่านรักกับพ่อของฟูริกมานานแล้ว  พวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กแน่ะ  หรือจะเรียกให้ถูกก็คือ  พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันทั้งสามคนน่ะแหละ  เมื่อก่อน
ฟูรัสเคยคิดว่า BOSS  เป็นเพื่อนรักที่จะยอมตายแทนกันได้  ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจนกระทั่งมีเรื่องแม่ของ
ฟูริกเข้ามานี่แหละ BOSS  ทำปิตุฆาตท่านวาเนน  แล้วตั้งตัวเป็น BOSS  บีบบังคับให้ท่านวาเนียร์เข้าพิธีแต่งงานด้วย  ท่านวาเนียร์จึงหนีไปพร้อมกับฟูรัส  ไปอยู่ที่เมือง  ปาราซ  ซึ่งท่านวาเนนได้ยกให้ฟูรัสปกครองตั้งแต่ท่านรวบรวมแผ่นดินได้  การหนีไปของท่านวาเนียร์ทำให้เกิดข้อพิพาทใหญ่โตระหว่างฟูรัสกับ BOSS    แต่สุดท้าย BOSS  ก็ปล่อยท่านวาเนียร์ไป  ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร  ครอบครัวคาร์เธนเฟียร์อยู่กันอย่างมีความสุขจนกระทั่ง ฟูริกเกิดมา  คืนที่ฟูริกเกิดนั้น BOSS  เกิดฝันประหลาดขึ้นมา  เขาฝันว่ามีเด็กชายคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากดอกบัวในสระใกล้วังของเขา  เด็กคนนั้นสวมมงกุฎ  และลอยขึ้นเหนือหัวของเขาขณะที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโหรจะทำนายว่าไง  พวกเขาทำนายว่า  เด็กที่เกิดในวันนี้จะเป็นผู้มีบุญมากและจะมาแทนที่ในตำแหน่งของเขา  และเด็กของนี้จะเป็นญาติคนสนิทของเขาด้วย”  เมื่อลุงดาราสเล่าถึงตอนนี้  มันทำให้หัวใจของฟูริกเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ  เขารู้ว่าตอนนี้เขากำลังตื่นเต้นมาก  เรื่องนี้เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย  ก่อนนี้เขาเคยรู้แต่ว่า BOSS  เป็นพี่ชายบุญธรรมของแม่เขาเท่านั้น
“  ฟูริก  ฟูริก ใช่ไหมฮะ”  ดาราสถามลุงดานูส  แต่เมื่อเขาเรียกชื่อฟูริกครั้งแรกนั้นมันทำให้หัวใจของฟูริกที่เดิมเต้นแรงอยู่แล้ว  เต้นแรงเขาไปอีก  เขานึกว่าพี่ดาราสรู้แล้วซะอีกว่าเขาอยู่ตรงนี้
“  ใช่  เด็กคนนั้นก็คือฟูริก BOSS  ออกคำสั่งให้ฆ่าฟูริกทันที  แต่ด้วยคำขอร้องของท่านวาเนียร์ฟูริกจึงรอดมาได้  ท่านวาเนียร์สัญญาว่าเมื่อฟูริกโตท่านจะให้ฟูริกไปอยู่ที่อื่นจะไม่ให้รู้เรื่องของ BOSS  เด็ดขาด  ตอนแรก BOSS  ก็ยอมคงเพราะเขายังคงรัก ท่านวาเนียร์อยู่นั่นเอง  แต่เมื่ออีก 10  ปีต่อมา  เขาก็ฝันอีก  เขาจึงออกคำสั่งเด็ดขาดให้พาฟูริกออกไปให้ไกลจากตัวเขาที่สุด  แล้วฟูริกจึงได้มาอยู่กับเราไงล่ะ  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงให้คนคอยควบคุมฟูริก  เขาคงกลัวว่าฟูริกจะไปแย่งอำนาจเขาจริงๆล่ะมั้ง” ลุงดาราสเล่าถึงตอนนี้  น้ำตาของฟูริกก็ไหลออกมา  เขาคิดถึงพ่อกับแม่  พวกท่านจะเศร้าใจขนาดไหนนะตอนที่ฟูริกต้องมาอยู่ที่นี่  ต้องห่างอกพ่อแม่มาตั้งแต่อายุ  10  ขวบ
“ งั้นฟูริกก็น่าสงสารมากสิครับ”
“  ใช่  น้องน่าสงสารมาก  น่าสงสารทั้งฟูริก  ทั้งฟูรัสและก็ท่านวาเนียร์ด้วย” ป้าราเฟียร์พูด
“เอาล่ะในเมื่อลูกรู้ทุกอย่างแล้ว  อีกหน่อยเมื่อถึงเวลาลูกต้องคอยช่วยน้องนะ  พ่อไม่คิดว่า BOSS  จะปล่อยฟูริกไว้แบบนี้หรอก  เขาคงคิดจะทำอะไรสักอย่างแน่ๆ  พวกเราประมาทเขาไม่ได้  แล้วเมื่อเขาอยู่ในตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้อีกด้วย  เขาอันตรายมาก  เราจะให้ฟูริกรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด  พ่อกลัวว่าเขาจะคิดมาก  อันจะทำให้เขาหลงไปในทางมืดได้  ลูกก็รู้ใช่ไหมว่าชาวฟาสเธิร์นอย่างเราเป็นผู้วิเศษ  แต่ความวิเศษก็ย้อนมาทำร้ายเราได้เมื่อจิตใจเราใฝ่ไปในทางที่ผิด  เราจะหลงไปในทางมืดทันที  พ่อไม่อยากให้ฟูริกเสียคนเพราะไอ้คำทำนายบ้าๆนั่น  ลูกเข้าใจใช่ไหม”
“ ครับผมเข้าใจครับ  ผมจะปกป้องน้องด้วยชีวิตของผม  ผมไม่รู้ว่าอีกหน่อยเขาจะเป็นใคร  ถึงเขาจะเป็นราชา  หรือยาจก  แต่ใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนความเป็นพี่น้องของเราไปเป็นอย่างอื่นได้หรอกครับ  ผมสัญญาครับ”
“ดีมากดาราส  พ่อกับแม่ดีใจมากที่ลูกเข้าใจ”
“ครับ  งั้นเราเข้านอนกันเถอะครับ  พรุ่งนี้เราต้องตื่นมาแต่เช้ามาส่งแขกไม่ใช่เหรอฮะ”
    เมื่อได้ยินดาราสพูดถึงเรื่องเข้านอน  ฟูริก ก็รีบเผ่นจากที่ซ่อนวิ่งขึ้นบันไดไปทันที ก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้า 
“  เฮ้อ  พีสตื่น  พีส  พิเรกัส  คุณพีส  ไอ้คุณพีส  เฮ้ย ไอ้พีส  ตื่นสิ  นี่ตะวันโด่งแล้วนะครับคุณชาย  ตื่นได้แล้ว”  นี่นานเท่าไหร่แล้วล่ะที่ยูสพยายามเรียกพีสให้ตื่น  ฟูริกจำได้ว่าตั้งแต่เขาตื่นมาก็พบว่ายูสตื่นมาแล้วและพยายามเรียกพีสให้ตื่นด้วย  จนตอนนี้ฟูริกไปส่งแขกออกเดินทางหมดแล้ว พีสก็ยังไม่ตื่นเลย
“ มายูส  ฉันเอง  “  ฟูริกพูด  แล้วเดินไปหาพีสที่เตียง
“ เฮ้ย  พีส ตื่น  ป้าราเฟียร์ให้มาตามไปทานข้าว  วันนี้ป้าทำอาหารอร่อยๆทั้งนั้นเลย  ฉลองที่พี่ดาราสกลับมาน่ะ  เร็วเข้าไม่งั้นฉันกับยูสฟาดเรียบล่ะนะ “  ทันทีที่ฟูริกพูดจบ พีสก็รีบลุกขึ้นจากเตียงไปห้องน้ำทันที  ยังไม่ทันที่ยูสจะพูดคำว่าแปรงฟันจบด้วยซ้ำ
“ เฮ้ย  แค่นี้เองเหรอ  รู้มั้ยฉันพยายามเรียกมันมาตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงแน่ะ”
“เอาน่า”
    เมื่อทั้งสามคนลงมาที่ห้องอาหารพวกเขาก็พบลุงดานูส  ป้าราเฟียร์  ดาราส  และ  ปาร์เวียน  นั่งรออยู่แล้ว    อาหารวันนี้เป็นอาหารเช้าที่อร่อยมากๆ  อาหารแต่ล่ะอย่างล้วนทำอย่างประณีตบรรจง  ทำให้อาหารออกมาดูน่ากิน  พิสูจน์ได้จากการที่พีสกินเข้าไปอย่างน้อยก็ 1  ใน 4 ของอาหารทั้งหมด  ทำให้ยูสต้องขอโทษป้าราเฟียร์เป็นการใหญ่
“  ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ  ตายูส  เห็นพีสเค้ากินอย่างเอร็ดอร่อยแบบนี้สิ  ดี  ป้าดีใจมากนะ  เห็นแล้วมีความสุข  พวกหลานคงไม่รู้สินะ  ว่าความสุขของแม่บ้านไม่มีอะไรมากหรอก  แค่เห็นคนกินอาหารของเราด้วยความเอร็ดอร่อย  มีคนชอบงานที่เราทำ  อาหารของเรา  เท่านั้นแหล่ะจ๊ะ “
“เห็นมั้ยล่ะ  ก็อาหารมันอร่อยนี่  ใครจะไปเหมือนนายล่ะ  กินเท่าแมวดมเนี่ย  “  พีสเถียง
“  พวกนายรีบกินเถอะ เดี๋ยวเราต้องไปธุระกันต่อนะ “  ฟูริกว่า
“ ไปธุระอะไรเหรอ  ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ “ ปาร์เวียนถาม
“นั่นสิ พวกฉันก็ไม่รู้นะ “    ยูสว่า
“  เอ่อน่า  รีบกินเข้า “  ฟูริกเร่ง
    เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จแล้วพวกฟูริก  ก็ขี่บาซูนไปที่พาร์ราบาสเตียน  ซึ่งการเดินทางไปพาร์ราบาสเตียนครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่พวกยูสอย่างมาก
“  นายมาโรงเรียนทำไมฟูริก “  พีสถาม
“เอาเถอะ  เข้าไปก่อนเถอะ”
“  อ้าวสวัสดีครับ  คุณหนู  คุณชายฟูริก  คุณชายพิเรกัส  คุณชายยูฟราส  มาทำอะไรกันครับวันนี้  ก็พวกคุณจบการศึกษาไปแล้วนี่ครับ  แล้วนี่มันก็วันเปิดเทอมวันแรกนะครับ  “  ยูโมน  ภารโรงของโรงเรียนกล่าว
“  พวกฉันก็ไม่รู้เหมือนกันจ๊ะ  ก็คุณชายฟูริกของยูโมนน่ะสิ  อยู่ๆก็พามาโรงเรียนเฉยเลย  ว่าแต่พ่ออยู่ไหมล่ะ “
ปาร์เวียนถาม
“  นายท่านอยู่ที่ห้องทำงานขอรับ คุณหนู”
“จ๊ะ  ขอบใจมากจ๊ะ “
“  พวกนายจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขอแวะไปทักทายพ่อก่อนน่ะ  แล้วพวกนายก็ไปทำธุระกันเองน่ะ”
“  ไม่หรอกเพราะฉันก็มีธุระกับพ่อเธอนั่นแหละ “  ฟูริกว่า
“  อ้าวเหรอ “ พีสพูด
“ไปกันเถอะ”  ฟูริกเร่ง
    เมื่อเข้าไปถึงพวกเขา  ก็พบว่าในห้องของผู้อำนวยการนั้น  ได้เตรียมอาหารว่างไว้รับรองพวกเขาแล้ว  ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย  ผู้อำนวยการของพวกเขานั้นเป็นผู้ที่ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า  และเขามักจะเตรียมของไว้รับรองพวกเขาเสมออยู่แล้วเมื่อพวกเขาเข้ามาพบ  ซึ่งส่วนมากมันก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรนักหรอก
“ว่าไง  พวกเธอ  อ้าวปาร์เวียนลูกก็มาด้วยเหรอ “  คำพูดของผู้อำนวยการทำให้สี่สหายมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมาเบาๆ  เขาผู้นี้มักชอบทำอะไรแปลกๆเสมอ  เช่นตอนนี้เขาก็ทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าปาร์เวียนมาด้วยทั้งที่เขารู้
“ พ่อก้อ  พูดยังกับว่าพ่อไม่รู้มาก่อนงั้นแหละ” 
“เออใช่  พ่อลืมไปแน่ะ  ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เอาล่ะ  ว่าไงฟูริกมีอะไรรึ  จิตใจวุ่นวายเชียวนะ\"
“ เอ่อ  คือ  ผมต้องการฝึกศิลปะการต่อสู้เพิ่มน่ะครับ  รวมถึงการปกครองของส่วนกลางด้วยครับเอาแบบละเอียดนะครับ  อาจารย์จะช่วยสอนให้ผมหน่อยได้ไหมครับ “ 
“  อันที่จริงฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอมีเรื่องอะไร  ไหนลองพูดออกมาให้หมดซิ  ให้เพื่อนๆของเธอได้ฟังด้วย “
“  อะ เอ่อ  คือ  ผมอยากเรียนวิธีอ่านใจคนด้วยครับ “
“ ฟูริก  เธอใจร้อนเกินไป  จนลืมไปแน่ะ ว่าความสามารถพิเศษของชาวฟาสเธิร์นไม่สามารถเรียนรู้ได้  ทำได้แต่เพียงฝึกฝนเท่านั้น  ความสามารถพิเศษของแต่ละคน มีมากับตัวตั้งแต่เกิด ส่วนใครจะใช้ได้ดีแค่ไหนนั้นอยู่ที่การฝึกฝน    อีกอย่างนะ ฉันว่าความสามารถพิเศษของเธอก็ดีพออยู่แล้วนี่    เรียกว่าดีมากจนน่ากลัวเลยล่ะ  จริงไหมพวกเธอ”  เมื่อพูดจบเขาก็หันหน้าไปทางพวกพีสพร้อมกับขยิบตาให้ 
    มันก็จริงอย่างที่ผู้อำนวยการพูดอยู่หรอก  แต่  ฟูริกก็ยังต้องจะมีความสามารถมากกว่านี้  เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขากลายเป็นคนไม่รู้จักพอตั้งแต่เมื่อไหร่  เขาอยากมีความสามารถในทุกๆด้าน  เอาเป็นว่าให้สามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์น่ะนะ  ตอนนี้มันจำเป็นกับเขามาก  เพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาในอนาคตข้างหน้า  แล้วใครจะรับรองได้บ้างว่าอีกหน่อย  พ่อ แม่  ลุง  ป้า  และดาราสจะปลอดภัย  ยังมีเพื่อนๆของเขาอีกล่ะ  จะทำยังไงดี 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น