คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04 | เด็กมันรู้สึกผิด (100%)
-4-
ตึง...ตึงเลย
หมายถึงคอกูเนี่ย ใส่เฝือกจนตึงเลย!
จองกุกช้อนตามองคนผิวสีแทนที่กำลังยืนจ่ายค่ายาตาปริบๆ
ขอบคุณพี่มันที่ยังเมตตาหิ้วปีกเขามาส่งหมอได้ทันท่วงที แต่อาการช้ำในไม่น้อย
หมอที่รักษาเขาถามใหญ่ว่าไปมีเรื่องกับนักเลงที่ไหนมา อยากตะโกนดังๆ
ว่าฝีมือไอ้คนที่ยืนกอดอกดูผมทำแผลเนี่ยแหละหมอ!
ถ้าจอนจองกุกกระอักเลือดตาย
ขอให้รู้ไว้ว่าคิมแทฮยองคือฆาตกร
“ไม่ต้องมามองตาขวาง นี่แค่น้อยๆ
ถ้ายังไม่เข็ดรอบหน้ากูจะทุบให้มือหัก ดูซิ ถ้าไม่มีมือมึงจะเล่นได้ไหมไอ้เกมเนี่ย”
คนอย่างท่านจอนใช้ฟันรูดแป้นได้สบาย...
ถึงอยากจะตอบแบบนั้นแค่ไหนแต่จองกุกก็ได้แต่สงบปากสงบคำเพราะเห็นแก่เฝือกที่คอ
รอบนี้แค่เคล็ดแต่รอบหน้าไม่รับประกันว่าแทฮยองจะจับหักคอหรือเปล่า
แต่ไอ้ทุบมือหักนี่ดูท่าจะทำจริงแน่ คิมแทฮยองพี่มันคนป่าเถื่อน จองกุกรับไม่ได้!
หลังจากพากันขึ้นรถกลับบ้านอย่างทุลักทุเลเพราะตอนขึ้นรถไอ้เฝือกที่ดามคอทำให้จองกุกเกือบสะดุดบันไดรถบัสตาย
พอขาลงก็มีเสียงสาปแช่งตามหลังเมื่อเขาทำยึกยักกว่าจะเดินลง
คนมันก้มมองทางไม่ได้เว้ย แล้วดูแทฮยองแทนที่จะช่วยพยุงเดินกลับยืนหัวเราะเยาะ
“อย่ามาสำออย
วันนั้นโดนฟาดหัวแตกมึงยังกลับบ้านมาได้”
“วันนั้นกับวันนี้มันไม่เหมือนกันนะพี่
พี่ลองใส่ไอ้สีขาวๆ นี่ดูไหมอ่ะ โคตรภาระเลย” คนเจ็บชี้ที่คอตัวเองบ่นกระปอดกระแปดระหว่างเดินเข้าบ้าน
“เฝือกแค่ไม่กี่วันก็ถอด มึงนี่ภาระกูมาเกือบสามปีแล้วยังไม่บ่นเลย” แทฮยองแค่นหัวเราะใส่ไอ้เด็กยักษ์ที่ตีหน้ายุ่ง ก่อนจะไขกุญแจบ้านแล้วถอยให้อีกคนเดินเข้าไปก่อน
“เดี๋ยวนี้ชอบพูดทำร้ายจิตใจผมจังเลยอ่ะ
ไม่รักกันแล้วดิ”
คนโตกว่าลอบถอนหายใจเมื่ออีกคนพูดเสียงเล็กเสียงน้อย
“มึงดูตัวเองก่อนว่าทำตัวน่ารักไหม
กูก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะจองกุก”
“แต่ก่อนพี่บอกผมน่ารักมาก ผมจำได้” มึงดูสารรูปตัวเองก่อนจองกุก
ทุกวันนี้มึงกลายพันธุ์ไปไกลเกินกว่าจะใช้คำว่าน่ารักแล้ว แต่น่าถีบนี่ไม่แน่
แทฮยองหันไปตอบคนที่กำลังนั่งลงบนโซฟา
เห็นมันค่อยๆ หย่อนก้นช้าๆ แล้วก็นึกสงสาร แต่ทำตัวเองทั้งนั้น “เออฝากบอกไอ้เด็กน่ารักคนนั้นด้วยว่ากูคิดถึง
ให้มันกลับมาไวๆ”
ได้ยินแบบนั้นจองกุกเลยตะโกนไล่หลังคนที่กำลังเดินเข้าครัวไป “โอ้โห เจ็บปวดกว่าโดนบิดหูสองข้างรวมกันอีก!”
**
แทฮยองทำกับข้าวเตรียมไว้เพราะจองกุกจะได้กินยาที่ได้มา
เขากะว่าจะอาบน้ำแล้วไปหลับสักงีบก่อนจะตื่นไปทำงานช่วงเย็น
เพราะเมื่อคืนตีกับจองกุกจนไม่ได้หลับได้นอนไหนจะหิ้วมันไปหาหมออีก
โชคดีที่วันนี้อาจารย์ยกคลาสเลยไม่โดนเช็คขาด
แต่จองกุกนี่สิสงสัยจะได้หยุดเรียนไปหลายวัน
อย่างน้อยก็จนกว่าเจ้าตัวจะถอดเฝือกที่คอออก
และแน่นอนว่าหยุดเรียนครั้งนี้จองกุกจะไม่ได้แตะเกมเลยแม้แต่ตาเดียว
มึงเตรียมร้องไห้ขี้มูกโป่งได้เลยจองกุก
“แทฮยอง!!! คอมหายไปไหน? แผ่นเกมผมด้วย
พี่!!”
พูดไม่ทันขาดคำจองกุกมันก็วิ่งมาหาหน้าตาตื่น
เดี๋ยวนะนี่ญาติฝ่ายไหนมึงหายสาบสูญหรือไง แตกตื่นอะไรขนาดนี้วะจองกุก
“อะไรมึงเนี่ย เสียงดังทำไม?
ร้องดังขนาดนี้ไม่วิ่งไปถามแถวเกาหลีเหนืออ่ะเผื่อเจอ”
“ผมไม่ตลกนะพี่” บอกด้วยสีหน้าจริงจัง
ตอนวิ่งมานี่ลืมความเจ็บที่คอไปเลยถ้าเทียบกับความรู้สึกตอนนี้
มันเหมือนหัวใจถูกควักออกไปแต่ที่ยืนหอบอยู่นี่คือกายหยาบ
วินาทีแรกที่เปิดห้องไปกะจะเล่นเกมคลายเครียดแล้วพบว่าเรียบกริบเหมือนโดนยกเค้าได้แต่ยืนนิ่งเพราะช็อค
พี่มันหอบไปตอนไหนวะ
“เห็นกูหัวเราะไงล่ะ”
“พี่เอาคอมผมไปไว้ไหน?”
“คอมใครนะ?” แทฮยองแสร้งเอียงหูไปหาคนที่ยืนกอดอกหน้าบึ้ง
อาการแบบนี้คือเตรียมลงไปนอนกรี๊ดกับพื้นใช่ม้ะ?
“เออคอมพี่แต่ผมเล่นอ่ะ
พี่ตอบผมมาก่อนดิว่าเอาไปไว้ไหน” คนเป็นเจ้าของปลอมๆ ได้แต่ยืนถามอึกอัก
จะบอกว่าเป็นของตัวเองแบบเต็มปากก็ไม่ได้เพราะแทฮยองเป็นคนจ่ายเงิน
“เดี๋ยวนี้ก้าวร้าวเก่ง
ทำเสียงแข็งใส่กูเก่ง
แต่ก่อนไอ้เด็กคนไหนวะที่ขอบดัดเสียงสองเรียกพี่แทฮยองน้องจองกุกอยากไปสวนสนุก
พี่แทฮยองน้องจองกุกชอบพี่มากๆ เลย มันไปไหนแล้ววะ?” เขาตั้งคำถามใส่ไอ้คนที่ยืนคิ้วขมวด
นานมากแล้วที่แทฮยองไม่ได้เห็นอะไรแบบที่พูดถึงจากเด็กตรงหน้า
เพราะตั้งแต่ขึ้นมัธยมปลายมาจองกุกมันก็เสียงแตกหนุ่ม
รูปร่างจากตัวเล็กขาวจั๊วะก็กลายเป็นมีมัดกล้ามแถมสูงขึ้นพอๆ กับเขา
หมดคราบน้องจองกุกที่เขาเคยตามจีบมาเป็นปี
“พี่อย่าพูดถึงอะไรที่มันผ่านมาแล้วได้ป่ะ”
“มึงพูดได้?”
“พี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย
แผ่นเกมกับคอมพี่เอาไปไว้ไหน? พี่จะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะมันเกินไปแล้ว”
“เกินไปยังไง คอมนั่นเงินกู
แผ่นเกมก็เงินกู มันเกินไปตรงไหนวะจองกุก?”
“พี่จะเอาแบบนี้ใช่ป่ะ? แล้วใครกันวะที่บอกจะดูแลผมอย่างดีอ่ะ” พอเถียงไม่ได้เด็กปากเก่งแบบจองกุกเลยเลือกที่จะอ้างถึงคำพูดเขาตอนที่รับปากกับพ่อแม่มัน
แทฮยองหัวเราะหึออกมา ไม่คิดว่าจะกล้าเอาเรื่องนี้มาพูด
“ดูแลกับปล่อยให้มึงติดเกมไม่เป็นอันเรียนเนี่ยมันคนละเรื่องกันเลยนะ”
“เรียนผมก็เรียน
พี่ไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า”
“อ๋อพี่ไม่รู้เรื่องเราเกือบติดเอฟวิชาภาษาอังกฤษ
พี่ไม่รู้ว่าเราโดดเรียนไปเล่นเกมจนเกือบหมดสิทธิ์สอบ
พี่ไม่รู้ว่าเรามีเรื่องชกต่อยจนโดนทัณฑ์บน นี่พี่ต้องไม่รู้อะไรอีกไหมจอนจองกุก?”
“...”
เป็นครั้งแรกที่ไม่มีคำตอบจอมปลอมจากปากเด็กตรงหน้า
แทฮยองจะไม่เดินเข้าไปฉีกอกจองกุกมันหรอกถึงแม้อยากจะทำมากแค่ไหนก็ตาม
สภาพมันตอนนี้แค่โบกทีเดียวก็ร่วงแล้ว
แต่ไอ้หน้าอวดดีที่พยายามปั้นเพื่อสู้กับเขานั่นสิ
ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเด็กสร้างบ้านอย่างจองกุกมันจะมีอะไรมาเถียงคำพูดเขาหรือเปล่า
“พี่โคตรเอาแต่ใจตัวเอง”
“เหอะ นั่นคือคำที่กูควรพูดมากกว่า
หัดดูตัวเองบ้างนะไอ้ท่ายืนกอดอกเหมือนพร้อมจะเถียงทุกคำพูดของมึงมันเด็กมากแค่ไหน”
“ผมโตแล้ว!”
“โตแล้วก็หยุดทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตแบบนี้สักที
นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไปกูจะจ้างครูสอนพิเศษมาติวภาษาให้มึง
ระหว่างนี้กูจะเอาคอมกลับมาให้แต่เอาไว้ใช้หาข้อมูลความรู้เท่านั้น
และถ้าคะแนนสอบเทอมนี้มึงยังไม่ดีขึ้น มึงเตรียมโบกมือลาคอมกับแผ่นเกมมึงได้เลย”
ครั้งนี้แทฮยองพูดจริงทำจริงแน่
ก็ดีเหมือนกันที่จองกุกมันพูดเรื่องที่เขาสัญญากับพ่อแม่มันไว้
ที่ผ่านมาเขาก็ปล่อยผ่านไปเพราะคิดว่าจองกุกมันจะคิดได้ด้วยตัวเองสักวัน
แต่ดูจากคำพูดมันวันนี้แล้วสงสัยเขาต้องเริ่มหามาตรการมาจัดการกับไอ้เด็กเลี้ยงแกะอย่างจองกุก
ถ้ารู้ว่าเป็นแฟนมันแล้วจะเหนื่อยขนาดนี้นะ
กูจะไม่ตามจีบให้เมื่อยปาก ไม่คิดเลยว่าผลกรรมครั้งนั้นจะทำให้ได้แฟนแถมลูกมาด้วย
ทุกวันนี้ได้จับมือกับมันให้ถึงห้านาทีแทฮยองก็ชื่นใจแล้ว
ปกติมันจับเม้าส์เล่นเกมอย่างเดียว
“พี่เอาแต่สั่งให้ผมทำอย่างนั่นอย่างนี้แต่พี่เคยถามความชอบผมบ้างไหมอ่ะ?”
“ถ้ากูถามว่าชอบอะไรมึงก็จะตอบว่าชอบเกมไงจองกุก
กูจะถามมึงให้เปลืองน้ำลายทำไม” ตอนนี้แทฮยองเดินย้ายตัวเองไปนั่งแหมะบนโซฟาแล้ว
ยืนเถียงกับมันชาตินี้ก็ไม่จบหรอก ดูท่าจองกุกก็จะเมื่อยเหมือนกันถึงได้ยอมหย่อนก้นลงมานั่งข้างๆ
“เอาแต่ตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลแบบนี้อีกหน่อยผมจะไม่อยู่เป็นบริวารพี่” นี่ถือว่าเป็นคำประกาศกร้าวว่าจะเลิกแบบอ้อมๆ
ของเด็กหนุ่มที่ยังกอดอกอยู่แม้ว่าจะเมื่อยแขนแค่ไหนก็ตาม
วันนี้จองกุกต้องชนะแทฮยอง สู้ไม่ได้ด้วยกำลังก็ต้องพึ่งความปากดีที่ยูคยอมมันสรรเสริญอยู่บ่อยๆ
“โอ้โห คำคมจากเฟสบุ้คป่ะเนี่ย” หันไปทำตาโตใส่แฟนเด็กก่อนจะกดรีโมทเปิดดูช่องซีรี่ย์ที่ค้างไว้
สงสัยวันนี้คงไม่ต้องนอนกันแล้ว
จองกุกเม้มปากแน่น นี่เขาจริงจังอยู่นะทำไมแทฮยองต้องทำท่าเหมือนเขาเป็นเด็กกำลังหัดเถียงคำไม่ตกฟากวะ “ผมโคตรเกลียดพี่เลย!”
อ้าวลั่น....
จองกุกทำหน้าเหลอหลา เหมือนเห็นควันออกจากหูแทฮยองที่หันมาจ้องเขานิ่ง แต่ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่พูดคำไหนคำนั้นมันค้ำคอ ถึงแม้จะลั่นแรงไปหน่อยแต่มันก็สมควรแล้วป่ะวะ แทฮยองทำตัวเจ้ากี้เจ้าการเหมือนเขาเป็นเด็กตัวเล็กๆ เมื่อก่อนไม่เห็นจะมาวุ่นวายเรื่องเกมเขามากขนาดนี้ แค่ยืมเงินแบบไม่บอกครั้งเดียวมันกลายมาเป็นแบบนี้ไปซะได้
“ว่าไงนะ?”
“ผม....” ขอโทษ
ถึงอยากจะพูดแบบนั้นแต่ปากมันไม่ขยับเมื่อเห็นหน่วยตาเรียวของแทฮยองคลอไปด้วยน้ำตา
“ที่กูทำไปทุกอย่าง
ตีมึงด่ามึงไม่ใช่เพราะกูหวังดีกับมึงเหรอวะ? ถ้าความหวังดีความรักของกูมันทำให้มึงเกลียดกู
งั้นต่อไปนี้มึงอยากทำอะไรก็เรื่องของมึง
แต่จำไว้ว่าอย่าทำให้พ่อแม่ของมึงที่อยู่ปูซานต้องเสียใจ” คนผิวสีแทนผุดลุกเดินปาดน้ำตาออกไปเงียบๆ
จองกุกมองตามคนที่เดินเลี้ยวเข้าห้องนอนไปแล้วได้แต่ขยี้ผมตัวเองจนฟูฟ่อง
ทำไมกูปากดีขนาดนี้วะ!
**
‘แล้วมึงก็บอกว่าเกลียดพี่เขาอ่ะนะ’
“อือ จริงๆ คือพูดว่าโคตรเกลียด”
อันที่จริงก็ไม่อยากโทรไปหายูคยอมมันเท่าไหร่
ยังไงก็ถือว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว(ที่ร้าวฉานเพราะปากกูเอง)
แต่จองกุกก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเมื่อแทฮยองยังไม่ยอมออกมาจากห้องนอนซักที
จะเข้าไปหาก็กลัวเห็นน้ำตาของแฟนตัวเอง
ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็แพ้น้ำตาคนรักทั้งนั้นแหละ
‘ผีเข้าเหรอหรือยังไง? ถ้ากูเป็นพี่แทฮยองจะถีบยอดหน้าให้อ่ะ’
เดี๋ยวนะ นี่ยูคยอมมันเห็นเขาเป็นเพื่อนอยู่ป่ะวะ? นี่โทรไปปรึกษาว่าจะขอโทษแทฮยองยังไงไม่ใช่โทรไปเพื่อฟังมึงด่านะ
“กูจองกุกเพื่อนรักมึงไงฮัลโหล?”
‘แล้วมึงขอโทษพี่เขายัง?’
“ถ้าขอโทษแล้วจะโทรมาถามมึงเหรอ? ชอบถามอะไรโง่ๆ
นะมึงอ่ะ”
‘เอองั้นมึงหาวิธีขอโทษพี่เขาเองละกันพ่อคนฉลาด’
“โห่ ช่วยกูคิดหน่อยดิวะ
เนี่ยพี่มันยังไม่ออกมาจากห้องเลย กูไม่กล้าเข้าไปด้วยว่ะ” ระหว่างพูดก็จ้องบานประตูที่ยังปิดสนิทตั้งแต่ตัวเองลั่นไปเมื่อเช้า
นี่ก็ใกล้จะเย็นแล้วแทฮยองยังไม่มีวี่แววจะออกมาให้เขาขอโทษเลย
‘แล้วมันไม่ดีหรือไงวะ
เคยบอกว่ารำคาญที่พี่เขาชอบบ่นไม่ใช่เหรอ? โอกาสทองมึงมาถึงแล้วเว้ยจองกุก
รีบอวดเก่งเก็บเสื้อผ้าไปนอนอดตายแถวกองขยะเปียกเร็ว’
“ด่ากูไอ้เหี้ยเลยยูคยอม
มึงจะได้สบายใจ”
‘อยากด่าอยู่หรอกแต่หน้าอย่างมึงคงไม่สะเทือน’ อันที่คือด่ากูหน้าด้านแบบอ้อมๆ
ถูกไหม? ‘กูจะบอกอะไรให้นะจองกุก
คนเราถ้าเขาไม่รักไม่หวังดีคงไม่มาพูดปากเปียกปากแฉะแบบนี้หรอก
ยิ่งคนสันดานพูดหูซ้ายทะลุหูขวาแบบมึงนี่เซย์กู๊ดบายตั้งแต่สามเดือนแรกแล้ว
นี่พี่เขาทนมึงมาได้สามปีกว่าก็โคตรคนเหล็กแล้วว่ะ’
“เหมือนจะดีแต่จริงๆ
แอบหลอกด่ากูไม่ใช่เหรอวะ?”
‘อันนั้นก็ส่วนนึง
แต่มึงคิดดูนะเพื่อน ตั้งแต่มึงอยู่กับพี่เขามานอกจากเรียนกับเล่นเกมมึงได้ช่วยอะไรพี่เขาบ้างวะ? กูพูดได้เลยว่านอกจากพ่อแม่ก็คงไม่มีใครมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้มึงแบบพี่เขาอีกแล้ว
ความหมายของกูคือมึงรีบคลานเข่าไปกราบขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้
ก่อนที่มึงจะได้ไปคุ้ยขยะเปียกกินจริงๆ กูแนะนำได้แค่นี้แหละ
ส่วนเรื่องจะทำไม่ทำอันนี้ก็แล้วแต่มึงจะสำนึกได้ เคนะ’
จองกุกถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากฟังยูคยอมมันร่ายมาเป็นบทสวด
ไอ้เรื่องดูแลเขาพี่มันก็ทำมาโดยไม่ปริปากบ่นว่าเหนื่อยเลยซักครั้ง
แต่พักหลังยอมรับว่าเกเรมากไปหน่อย ไอ้รู้สึกผิดน่ะมันรู้สึกอยู่แล้ว แต่เรื่องที่จะให้เขาเปิดประตูไปคลานเข่าขอขมาพี่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำแน่ๆ
“กู...ไม่รู้ว่ะ ช่างเถอะ
แล้วมึงทำไรอยู่?”
‘กูเล่นเกมอยู่
เสียเวลาคุยกับลูซเซอร์แบบมึงมาสิบห้านาทีสิบแปดวิแล้วเนี่ย แค่นี้นะ’
ตู๊ดๆ ๆ
คิมยูคยอมมึง...
เกือบห้าโมงเย็นแทฮยองถึงได้เดินตาบวมออกจากห้องมา
ไม่ได้ร้องไห้จนตาปูดตาบวมอะไรขนาดนั้นหรอก
แค่น้ำตารื้นเพราะรู้สึกผิดหวังกับน้องมันแค่นั้น
ส่วนสาเหตุที่ตาบวมฉึ่งแบบนี้ก็แค่นอนเยอะเกินไปหน่อย
พอเดินออกจากห้องมาก็เจอไอ้เด็กปากดีนั่งหางลู่หูตก เห็นสภาพเหมือนหมาหงอยของมันแล้วเขาก็รู้สึกหายเคืองบ้างนิดหน่อย
แต่แค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จคนผิวแทนก็เดินมาทำอะไรกินที่ครัว
ไม่ลืมที่จะทำเผื่อจองกุกมันด้วย ถึงปากบอกจะตัดหางปล่อยวัดแต่ลึกๆ
ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี อย่างที่บอกไอ้เด็กนี่ทำอะไรเองไม่เป็นซักอย่าง
ส่วนเขาที่คอยดูแลอีกฝ่ายมาตลอดจะให้เลิกทำมันก็ไม่ได้ ความเคยชินมันน่ากลัวจริงๆ
จองกุกที่นั่งเกาะโซฟามองอีกคนทำกับข้าวไม่พูดไม่จา
เมื่อกี้เห็นหน้าพี่มันแล้วดูซีดๆ แถมตาก็ดูบวมๆ ดูท่าจะร้องไห้มาหลายชั่วโมง
พอได้มานั่งคิดอะไรคนเดียวแล้วจองกุกพบว่าเขาทำผิดกับแทฮยองไปมาก
เป็นตัวเขาเองที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร ยูคยอมพูดถูกที่แทฮยองเป็นคนเก่ง
สามารถดูแลเขามาได้หลายปีไม่เคยปล่อยให้อดอยากหรือรู้สึกไม่ได้รับความรักจากคนๆ
นี้แม้แต่น้อย
แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว
ตึงกว่าเฝือกที่คอก็หน้าพี่มันนั่นแหละ เล่นดึงหน้าใส่กันแบบนี้ใครมันจะไปกล้าคุยด้วยวะ
ไอ้ขอโทษมันก็อยากพูดอยู่หรอก
แต่แทฮยองโหมดถือมีดแบบนี้เขาก็ไม่กล้าเสี่ยงเดินไปพูดอะไร
เดี๋ยวมีดลั่นกะซวกท้องขึ้นมาไส้ไหลรอบนี้คงไม่ถึงมือหมอแล้วหามลงโลงเลยเถอะ
“กินข้าวแล้วก็กินยาซะ
หรือจะไม่แดกก็เรื่องของมึง” แทฮยองวางจานข้าวดังปึงใหญ่
เห็นน้องมันสะดุ้งเฮือกเลยลดเสียงท้ายประโยคลง มันน่าน้อยใจไหมล่ะที่อยู่ดีๆ
ก็โดนบอกว่าเกลียด พอรู้นิสัยปากดีของจองกุกมันอยู่หรอก
แต่ก็อดเสียความรู้สึกไม่ได้อยู่ดี
“กินดิ พี่ทำให้จะไม่กิน...ได้ไง” นั่นแหละ
พยายามพูดเอาใจพี่มันอยู่ วิธีการขอโทษแบบคนปากหนักอย่างจองกุก
ทั้งสองคนนั่งกินข้าวแบบเงียบๆ
ในรอบหลายปี
ตั้งแต่คบกันมาเรื่องทะเลาะหรือมีปากเสียงก็พอมีบ้างแต่ไม่เคยถึงขั้นนี้
และเพราะมันเป็นครั้งแรกทั้งคู่เลยไม่รู้วิธีจัดการไอ้ความรู้สึกกระอักกระอวนที่เกิดขึ้น
“คือผม...” จองกุกไม่ใช่เด็กที่จะมาพูดอะไรตรงๆ
ซักเท่าไหร่ยกเว้นปากดีอันนี้คือทำบ่อย
แต่พอจะอ้าปากขอโทษก็ดันพูดไม่ออกซะอย่างนั้น
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วเอาไปวางไว้ที่ซิงค์เหมือนเดิมนะ
เดี๋ยวเลิกงานกูกลับมาล้าง ตอนนี้กูไปทำงานสายแล้ว”
“เดี๋ยวผมล้างเองพี่!” อยู่ดีๆ
ปากก็โพล่งออกไป เขาล้างจานเป็นที่ไหนล่ะ
ประสบการณ์ล้างจานครั้งแรกทำสถิติแตกที่ห้าใบรวด ตอนนั้นโดนด่าจนไข้ขึ้นเลย
เรื่องเงินๆ ทองๆ กับแทฮยองแม่งโคตรน่ากลัว
“กูฟาดกบาลมึงแรงไปเหรอ? ไปให้หมอเอ็กซเรย์สมองหน่อยไหม?”
“ผมพูดจริงๆ
พี่ไปทำงานเถอะเดี๋ยวผมล้างเอง”
“อืม” แทฮยองพยักหน้าช้าๆ ตอบรับอีกคน
ตอนที่เดินไปเปิดประตูเขาก็หันกลับมากำชับแฟนเด็กอีกที “พยายามอย่าทำแตกแล้วกัน
เดือนนี้กูช็อต”
“ครับ”
“แล้วก็...ขอบคุณมาก” เป็นครั้งแรกที่แทฮยองรู้สึกขอบคุณจองกุกอย่างที่พูดจริงๆ
คนเป็นพี่เดินออกไปแล้วปล่อยให้เด็กชายจอนจองกุกทรุดลงนั่งกับโต๊ะกินข้าวเงียบๆ
แววตาเป็นประกายของแทฮยองยังติดตาเขาอยู่เลย
เป็นครั้งแรก...ที่จองกุกรู้สึกว่าแทฮยองดูเหนื่อยกับเขามากเหลือเกิน
TBC.
ลงครบแล้วเย้ ตอนหน้าอาจจะลงหลังสงกรานต์นะคะ
สปอยนิดนึงว่าตอนหน้าเปิดตัวละครหลักอีกตัว ที่ทำให้คู่นี้เขาร้าวฉานฮี่ๆ
จริงๆ คาแรคเตอร์จองกุกมาจากแฟนเพื่อนเราเองค่ะ
เพื่อนเรามาบ่นให้ฟังบ่อยๆมาแฟนมันติดเกมมาก
ของขวัญวันเกิดหรือวันครบรอบจะหนีไม่พ้นพวกเม้าส์หรือคีย์บอร์ดแพงๆ
มันมีจริงๆ นะคนที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นเกม5555
Ps.
ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะอ่านแล้วมีกำลังใจมากกกก
ยอมรับที่ลงฟิคช้าเพราะยังไม่มั่นใจในภาษาเขียนตัวเอง
จะพยายามปรับปรุงงานเขียนให้ดีขึ้นนะคะ
._.
แล้วก็ขอบคุณทุกคน(อีกครั้ง)ที่ยังอ่านฟิคเรามาถึงตอนนี้ เลิ้บยูว
ความคิดเห็น