คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 03 | เด็กมันไม่จำ
-3-
จองกุกที่โดนฟาดจนหลังแอ่นแบบงงๆ มองคนตัวบางที่เดินไปยกเก้าอี้ลงและเริ่มจัดโต๊ะ พอจะเข้าไปช่วยก็โดนห้าม เลยได้แต่นั่งมองอีกฝ่ายทำงานตาปริบๆ แทฮยองเช็ดโต๊ะก่อนจะเริ่มนำขนมหลังร้านมาเรียงตรงตู้กระจก สักพักมีผู้ชายอีกคนเดินเข้ามา แทฮยองแนะนำว่าคือ’โฮซอก’เป็นบาริสต้าของที่นี่
พอจัดร้านเสร็จก็ได้เวลาเปิดร้าน แทฮยองเดินไปหมุนป้ายเป็น’open’จองกุกเอนหัวลงบนแขนมองคนตัวผอมวิ่งไปมา
เบื่อ...
คนตัวขาวหยิบโทรศัพท์มากดเล่น แถมยังไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่ๆ ว่างอยู่ แถมแคปชั่นเหงาไปนิดหน่อย เอาน่า สมัยนี้เข้าร้านเหล้าฟังเพลงอกหักยังต้องทำท่าเจ็บปวดไปด้วยเลย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้เศร้าอะไรกับเขาหรอก
อีกอย่างที่กล้าลงแบบนั้นคือมนุษย์อนาล็อกอย่างแทฮยองเนี่ย เล่นอะไรแบบนี้กับเขาไม่เป็นหรอก เฟสบุ๊คที่ใช้ทุกวันนี้เขาก็สมัครให้ วันๆ ไม่เห็นโพสอะไรนอกจากบ่นดินฟ้าอากาศไปเรื่อย
แทฮยองเดินเสิร์ฟน้ำขนมให้วุ่น ดูเหมือนว่าวันนี้ร้านจะคึกคักเป็นพิเศษ ในร้านตอนนี้เต็มไปด้วยเด็กสาวมัธยมที่แห่มาสั่งของหวานกินหลังเลิกเรียน แต่ไอ้สาเหตุที่เด็กผู้หญิงดูจะเยอะกว่าปกติคือไอ้เด็กฟันกระต่ายที่นั่งซดนมปั่นอยู่นั่นไง
ก็พอจะรู้ว่าจองกุกมันน่ารักออกไปทางหน้าตาดีเลยแหละ ยิ่งใส่ชุดนักเรียนสีเหลืองชื่อดังก็ดูเหมือนเด็กนี่จะถูกมองมากกว่าเดิม
“แทฮยองมิลค์ทีลาเต้โต๊ะสาม”
เสียงเรียกจากโฮซอกบาริสต้าร้านนมเรียกให้แทฮยองละสายตาไปจากแฟนเด็ก เขาเดินไปหยิบแก้วมาเสิร์ฟให้โต๊ะสามที่มีเด็กผู้หญิงสองคนนั่งอยู่
“มิลค์ทีลาเต้ได้แล้วครับ”
“พี่คะ คือเอ่อ...”
แทฮยองขมวดคิ้วให้กับท่าทางขวยเขินของเด็กสาวตรงหน้า โดยมีเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างกันสะกิดเร่งให้พูด “ครับ?”
“คือโต๊ะนั้นอ่ะค่ะ เขายังไม่ได้จ่ายค่าน้ำใช่ไหมคะ?”
หันมองไปตามนิ้วที่ชี้ไปทางด้านหลัง ก่อนจะเห็น’เขา’ที่เจ้าหล่อนพูดถึงกำลังดูดนมปั่นดังลั่นเพราะเหลือแค่ก้นแก้ว แถมใช้หลอดเขี่ยๆ ก้อนน้ำแข็งที่เกาะอยู่ให้ร่วงลงมาใส่เสื้อ เห็นทำหน้าตาเลิ่กลั่กแล้วรีบหยิบทิชชู่มาเช็ดจนคราบสีขาวใหญ่เป็นวง โคตรเด็ก!
“ใช่ครับ” ปากตอบทั้งๆ ที่ตาก็มองอยู่ที่เดิม
“คือหนู...” น้ำเสียงไม่มั่นใจเรียกสายตาแทฮยองให้หันกลับมามอง เธอควักกระเป๋าเงินสีหวานแหววออกมา ก่อนกระซิบเขาเสียงเบาพร้อมเงินจำนวนหนึ่งกับแผ่นกระดาษเล็กๆ วางแหมะลงบนมือ “หนูจ่ายของหนูแล้วก็ของโต๊ะนั้นด้วยค่ะ รบกวนพี่ให้กระดาษใบนี้กับเขาด้วยนะคะ แล้วก็ที่เหลือไม่ต้องทอนนะคะ หนูให้ทิปพี่”
อ่อ สายเปย์แต่เด็ก
เขาพยักหน้าฉีกยิ้มสี่เหลี่ยมให้เธอก่อนจะเดินเอาเงินไปชำระที่แคชเชียร์ หย่อนเงินทอนลงกล่องทิปรวม แล้วไม่ลืมทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากเด็กสาวผู้มากับเงินโต๊ะสาม
“อ่ะนี่”
จองกุกเงยหน้ามองคนที่ทำหน้าบึ้งใส่ เห็นกระดาษในมือเลยเลิกคิ้วถาม “ไรอ่ะ?”
“เห็นเป็นเงินหรือไงล่ะ นู้นโต๊ะสามเขาให้มา แถมจ่ายค่าน้ำให้มึงด้วย รวยละเกิน” จองกุกหันไปมองตามที่แทฮยองมอง เด็กสาวผมยาวใส่ชุดนักเรียนเอกชนที่แพงกว่าเขาส่งยิ้มเขินมาให้ แต่ก็นะ แทฮยองยืนหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน
“พี่ไม่บอกเขาอ่ะว่าเป็นแฟนผม”
“ใครแฟนมึง”
เอ้า ไรวะ
จองกุกมองตามแทฮยองที่เดินสะบัดก้นออกไป นี่มันจะซวยซ้ำซวยซ้อนไปไหน เรื่องเก่าไม่ทันหายเรื่องใหม่มาจ่อตูดรออีกละ คิดแล้วหงุดหงิดพาลให้ส่งสายตาดุใส่เด็กสาวคนเดิมที่ยิ้มค้างไปแล้วเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับจากเขา
ไม่-ชอบ-ชะนี-เว้ย !
“พี่คะ”
แทฮยองที่เก็บโต๊ะอยู่หันมามองสายเปย์เจ้าเก่ากวักมือเรียกเขายิกๆ แอบกลอกตาบนก่อนจะฉีกยิ้มการค้าไปให้
“ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ?”
“เปล่าค่ะ หนูแค่อยากถามว่าเมื่อกี้เขาพูดกับพี่ว่าไงอ่ะคะ? เหมือนเขาจะโกรธอะไรหนูเลย”
กูนี่ที่โกรธ!
“เขาบอกว่ามีแฟนแล้วอ่ะครับ ชื่อคิมแทฮยอง” ฉีกยิ้มเย็นใส่อีกที เขาเห็นเธอไล่มองลงมาหยุดที่ป้ายชื่อก่อนจะนิ่งไป
“อ๋อ...ค่ะ” ช็อคสิมึง
เดาว่าเจ้าหล่อนคงอายที่หน้าแตกยับ เลยรีบดึงแขนเพื่อนลูกอีช่างยุให้ออกจากร้านไป ชานมที่สั่งไว้ก็ไม่ทันได้แตะ รู้เลยว่าจุดประสงค์ในการเข้าร้านคืออะไร น้องมีเป้าหมายชัดเจนดีพี่ขอชม ด้วยความที่เป็นคนเห็นคุณค่าของเงินมากหรือเรียกอีกอย่างว่าขี้เหนียวนั่นแหละ แทฮยองเลยหยิบแก้วน้ำไปวางปึงที่โต๊ะแฟนตัวเอง
“ผมไม่ชอบชานม”
“เปล่า กูฝากไว้เฉยๆ เดี๋ยวมากินเอง สำคัญตัวนะมึงอ่ะ”
“...”
วันนี้จอนจองกุกโดนแทฮยองโหมดไร้เยื่อใยดาเมจใส่กี่รอบแล้ววะครับ?
**
จอนจองกุกเป็นเด็กที่ไม่รู้จักจำ...
แทฮยองไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงที่พอเสร็จจากงานเสิร์ฟหันไปหาไอ้ตัวแสบก็พบว่าหายไปแล้ว
เหลือแต่แก้วนมเปล่าวางไว้แต่เจ้าของมันไม่อยู่
ไปถามพี่โฮซอกอีกฝ่ายก็บอกว่าเห็นมีเพื่อนตัวสูงมายืนรอหน้าร้านก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน
พอหยิบโทรศัพท์จะโทรหาก็เห็นข้อความจากจองกุกว่ามีงานกลุ่มต้องไปแก้ด่วนที่บ้านเพื่อน
แหม มึงรักเรียนขึ้นมาเชียวนะ
น้ำหน้าไอ้เด็กจองกุกมันไม่มีทางช่วยงานกลุ่มอะไรแบบนี้หรอก
เอาหัวคนที่อยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นประกันได้เลย
แต่ถ้าไปเป็นภาระก็อีกเรื่อง ทุกวันนี้แทบจะต้องเอาข้าวเข้าปากเคี้ยวๆ แล้วคายให้อีกฝ่ายกินเพราะมันขี้เกียจเหลือเกิน ไม่ได้อยากจะดูถูกอะไรแฟนตัวเองนักหรอก
แต่ไอ้นิสัยเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการนี่เป็นตั้งแต่คบกันแรกๆ ยันตอนนี้
พูดง่ายๆ
คือคนอย่างจอนจองกุกแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
เขาทำเมินข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาก่อนจะกดโทรออก
สายแรกถูกตัดทิ้งไปพอกดโทรอีกทีก็ปิดเครื่องไปแล้ว นิสัยเดิมๆ
ของจองกุกไม่เคยแก้หาย
เวลาอีกฝ่ายเล่นเกมจะชอบปิดเสียงหรือหนักหน่อยก็กดปิดเครื่องไปเลย เพื่อไม่ให้ใครโทรมารบกวนเวลาเล่นของเจ้าตัว
ซึ่งมันทำให้แทฮยองหงุดหงิดมากๆ
เวลามีเรื่องสำคัญ แต่ไอ้เด็กนั่นคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเกมแล้วล่ะ
โอเค
ในเมื่อเด็กมันกล้าท้าทายอำนาจมืด แทฮยองต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแล้ว
ยังไงวันนี้เด็กติดเกมอย่างจองกุกต้องได้รับบทเรียน...
บทเรียนที่สาสมกับมันซะด้วย...
**
“มึงแอบออกมาแบบนี้พี่แทฮยองเขาไม่ด่าเหรอวะ?”
“ไม่ด่าหรอก
กูส่งข้อความไปบอกแล้วว่ามาทำงานกลุ่ม” เขามาทำงานกลุ่มจริงๆ นะไม่ได้โกหก
เนี่ย ถ้าให้นับทั้งร้านก็หลายกลุ่มอยู่ นั่งกดเกมหน้าคอมกันหน้าสลอน
“เขาจะเชื่อน้ำหน้ามึงเหร๊อ” ยูคยอมเหล่ตามองไอ้คนที่กระแทกแป้นพิมพ์ดังแต๊กๆ
ไม่กลัวพังเพราะมันเคยบอกว่าไม่ได้ซื้อเองจะใช้ยังไงก็ได้
นึกย้อนไปถึงช่วงเย็นที่เขาเปิดตูดชิ่งหนีมันไปก่อน
ลืมไปเลยว่าไอ้จองกุกมีคดีติดตัวอยู่ พอกลับมาบ้านก็แอบรู้สึกผิดที่นัดกันซะดิบดีแต่เป็นเพราะเขาแผนเลยล่มไป
พอทักไปขอโทษมันก็ได้รับข้อความสรรเสริญพ่อแม่ยาวเป็นพารากราฟ
ว่าปล่อยให้มันต้องมานั่งแกร่วเฝ้าพี่แทฮยองทำงาน
แล้วอยู่ดีๆ
จองกุกมันก็วกมาเรื่องเกมแถมยังย้ำอีกว่าเป็นเพราะเขามันเลยอดเล่น
สุดท้ายเลยต้องได้นั่งรถไปหามันที่ร้าน ยืนหลบตั้งนานกว่าที่จองกุกมันจะหาโอกาสดีๆ
แวบออกมาโดยที่พี่แทฮยองไม่เห็น
“เดี๋ยวกูรีบกลับก่อนห้าทุ่ม
ยังไงก็ไม่โดนด่าหรอก” ยักไหล่ใส่เพื่อนรักเพื่อสร้างความมั่นใจ
“กูไม่เข้าใจเลย
ทำไมเรื่องเรียนมึงไม่จริงจังแบบนี้บ้าง”
“พูดเหมือนมึงจริงจังอ่ะ”
“อย่างน้อยสอบวิชาอังกฤษกูก็ได้เยอะกว่ามึง”
“มากกว่าคะแนนเดียวแถมไม่ผ่านมันน่าพูดด้วยความภูมิใจเหรอวะ?” เขาเลิกคิ้วใส่ถึงแม้ยูคยอมมันจะไม่เห็นเพราะมัวแต่จ้องหน้าคอมก็เถอะ
ไอ้ตัวเศษเหลือเวลาจับกลุ่มก็กูกับมึงนี่แหละที่เขาไม่เอา
ที่คบเป็นเพื่อนกันทุกวันนี้ไม่ใช่รักกันอะไรหรอก พูดง่ายๆ ก็สังคมรังเกียจนี่แหละ
“แต่วิชาอื่นกูดีกว่ามึงเยอะ” ยูคยอมว่า
“พอ...กูยอมมึงแล้วก็ได้
มึงชนะกูไปเลยค่าคนเก่ง”
แรงสั่นจากกระเป๋ากางเกงทำให้ต้องละสายตาจากหน้าคอม
ก้มดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่สองวิก่อนจะกดตัดสายไปแล้วกดปิดเครื่อง แทฮยองโทรมา
เดี๋ยวค่อยอ้างว่าแบตหมดก็ได้
“พี่แทฮยองโทรมาใช่ป่ะ ไม่รับอ่ะ? เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก” เสียงแหลมๆ
ของยูคยอมทำให้จองกุกนึกอยากเอาเม้าส์ยัดปากให้มันหยุดพูดซักที
ถ้าแทฮยองเป็นเหมือนแม่คนที่สอง ไอ้ยูคยอมก็แม่คนที่สามแหละ
บ่นเหมือนแทฮยองจ้างมาเป็นตัวตายตัวแทน
“หุบปากไป ทีมจะแพ้แล้วเห็นไหม
ถ้าตานี้แพ้อีกรอบกูจะบอกพี่แทฮยองว่ามึงบังคับจิตใจกูให้มาด้วย”
“เขาไม่มีทางเชื่อคนแบบมึงหรอก
มึงมันขี้โกหกตกนรกโดนอีกาจิกปากแน่ๆ”
“เออ ไอ้คนที่แช่กระทะทองแดงอยู่ข้างๆ
กูในนรกก็มึงแหละ” ที่อยู่ด้วยกันได้ทุกวันนี้เพราะศีลเสมอกันล้วนๆ
ไอ้คนที่ชอบเอาเกมเจ๋งๆ ร้านเกมเปิดใหม่มาโม้ให้ฟังบ่อยๆ ก็ไม่ใช่มันหรือไง
“มึงมันคนปากดี”
“หน้าตาก็ดีด้วย”
ไอ้จองกุกมันอยู่มาถึงสิบเจ็ดปีโดยไม่โดนกระทืบตายก่อนได้ไงวะ!
**
ปาร์คจีมินไม่รู้ว่าระหว่างเป็นเพื่อนแทฮยองหรือกินขี้หมาอันไหนลำบากใจมากกว่ากัน
เพราะตั้งแต่คบมาไอ้แทฮยองก็สรรหาสิ่งดีๆ มาให้กูทั้งนั้น
หลอกให้กูขึ้นรถกลับบ้านผิดสายบ้างล่ะ แกล้งหลอกให้ใส่ชุดผิดวันบ้างล่ะ
เหมือนตอนเด็กแม่ปล่อยให้คุยกับเพดานบ่อยจนโตมามันเป็นคนแบบนี้
แล้วไม่รู้ว่าจองกุกมันเป็นมาโซคิสม์หรือไงถึงชอบทำตัวล่อหน้าแข้งไอ้แทฮยองบ่อยเหลือเกิน
เพิ่งโดนฟาดหัวสั่นไปมันยังไม่เข็ด ทนไม้ทนมือจนอยากเอาไปให้น้องหมาที่บ้านแทะเล่นสักสองสามวัน
“แน่ใจเหรอว่าจะทำแบบนี้?” เขามองกล่องที่ช่วยแทฮยองแบกออกมา
ในนั่นมีพวกแผ่นเกมทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงเกมเพลย์รุ่นล่าสุดด้วย พอคิดดูดีๆ แล้ว
แทฮยองจอมเหนียวทุ่มเงินให้แฟนเด็กมันไปไม่ใช่น้อยๆ เลย
อ่อยังไม่รวมถึงคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เอี่ยมที่มันกำลังยกออกมาด้วยนะ
“เออ จองกุกมันจะได้รู้ว่าถ้ายังทำตัวแบบนี้ก็ไม่ต้องเล่นมันแล้วเกม
รอบนี้แค่เอาไปซ่อนแต่ถ้ามีรอบหน้ากูจะขายทิ้งให้หมด”
“โหดจังเลยอ่ะกับผัวเนี่ย”
“พูดให้มันดีๆ” ถลึงตาใส่ไอ้เพื่อนปากดี ก่อนจะยกจอคอมขึ้นรถที่จีมินมันยืมพ่อมาขนของให้เขา
ก็อย่างที่เห็นเขาเอาของทั้งหมดไปฝากไว้ที่บ้านจีมินก่อน พอจองกุกมันทำตัวดีๆ แล้วค่อยให้จีมินมันขนกลับมา
“กูพูดไม่ดีตรงไหน นี่พูดเรื่องจริงนะ”
“กูกับจองกุกเป็นแค่แฟนกัน
มันยังไม่ได้ชิงเอกราชกูไป และไม่มีผัวเมียอะไรทั้งนั้น ถ้าจะมีก็กูเนี่ยผัวมัน” แทฮยองขยายความให้เข้าใจตรงกัน
แต่ดูเหมือนไอ้จีมินจะจับใจความผิดประเด็นไปหน่อย
“อ้าวยังไม่ได้กันอ๋อ? คบมาตั้งนานมึงนอนจับมือกันเฉยๆ
เหรอวะ”
“ไม่เอาไม่เสือก”
“นี่เพื่อนไงนี่เพื่อน!”
“เวลากูจะเอากันต้องโทรเรียนเชิญมึงมาตัดริบบิ้นรึไงฟายยย”
“ก็ดีนะ”
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หลังจากขนของกันเสร็จเรียบร้อยแทฮยองก็เดินไปเปิดตู้เย็นเอาน้ำมาจิบกันสองคนแก้เหนื่อย
อยากจะรู้จริงๆ ว่าตอนที่จองกุกมันกลับมาเปิดห้องแล้วผ่าง...โล่งเหมือนเพิ่งโดนโจรปล้นบ้าน
มันจะรู้สึกยังไง อันดับแรกคงจะลงไปดีดดิ้นกับพื้นชักน้ำลายฟูมปากแน่ๆ
เรื่องเรียกร้องความสงสารจากกูนี่เก่งนัก
มองดูนาฬิกาก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแล้วไอ้เด็กตัวแสบมันก็ยังไม่กลับ
นี่มึงเล่นจนลืมทางกลับบ้านไปแล้วหรือเปล่าวะจองกุก
“มึงงั้นกูกลับก่อนนะดึกแล้ว
พรุ่งนี้มีเรียนเช้าตัวนึงด้วย” จีมินจิบน้ำอึกสุดท้ายก่อนจะเอ่ยบอกเพื่อนที่เริ่มแผ่รังสีสังหารออกมา
อีหรอบนี้ไอ้จองกุกคงไม่พ้นโดนปาดคอหมกส้วมแน่ๆ
“ไม่รอช่วยน้องสุดที่รักมึงก่อนเหรอ?”
“ฝากบอกมันด้วยว่าถ้าอยากกินอะไรให้มาเข้าฝันกู”
“จองกุกมันคงดีใจที่เห็นพี่จีมรักมันมากขนาดนี้”
หัวเราะใส่ไอ้เพื่อนตัวดีที่หยัดตัวขึ้นยืน ควงกุญแจรถเตรียมตัวจะเดินออกไป
แต่มันก็ชะงักขาสั้นๆ หันกลับมาเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก
“เออมึง”
“ไร?”
“น้ายุนกิมึงอ่ะ
จะกลับจากแอลเออาทิตย์หน้าแล้วใช่ป่ะ?” แทฮยองขมวดคิ้วงง มันรู้ได้ไงวะว่าน้าเขาจะกลับมาตอนไหน
นี่เป็นญาติกันแท้ๆ น้ายุนกิยังไม่เห็นบอกอะไรกูเลย
“ไม่รู้ว่ะ
แล้วมึงเสือกอะไรกับญาติโกโหติกากูไม่ทราบ” มันมีอึกอัก
ทำหน้าเหมือนคนปวดขี้แบบนี้กูว่ามีอะไรในกอไผ่แน่ๆ
“ก็...เปล๊า” แหนะ เสียงสูง
“งั้นอาทิตย์หน้ามึงไม่ต้องเสนอหน้าไปรับน้ายุนกิกับกู”
“วันนี้กูมาช่วยมึงขนของจนดึกดื่น ทั้งๆ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า
นี่ยังไม่พอใจอีกเหรอ? ใช้เสร็จก็เฉดหัวทิ้งเลยดิ เราเพื่อนกันป่ะวะแทฮยอง”
“สกิลการเปลี่ยนเรื่องมึงนี่กากพอๆ
กับจองกุกมันเลย รู้ตัวบ้างป่ะ”
“เออ กูชอบน้ามึงพอใจยัง”
“ก็แค่นั้น” เขาพยักหน้าส่งๆ ก็พอจะดูออกบ้างว่ามันปลื้มน้าเขาตั้งแต่สมัยมาบ้านเขาแรกๆ
แต่ไม่คิดว่ามันจะจริงจังอะไรขนาดนี้
“มึงช่วยทำหน้าตกใจให้กูหน่อยได้ป่ะ”
“เฮ้ยจริงป่ะเนี่ย! โอ้โหชอบน้ากูเองเหรอ!
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยเว้ยเฮ้ย! ว้าวน่าตื่นเต้นอะไรเช่นนี้...อ่ะ
พอใจยัง” ตอนนี้จีมินเริ่มคิดอยากจะตัดเพื่อนกับแทฮยองมันบ้างแล้วล่ะ
ตายแน่ๆ ตายหยั่งเขียด ตายแบบสภาพศพต้องเซนเซอร์เวลาลงหน้าหนึ่ง
พร้อมพาดหัวข่าว ‘ดับอนาถนักเรียนชื่อดังถูกคู่ขาซ้อมจนขาดใจตาย’
จอนจองกุกเครียดโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
เพราะไอ้ยูคยอมนั่นแหละทำเก่งเล่นตัวที่ตัวเองไม่ถนัด
เป็นไงล่ะตายห่ายกทีม ไฟเอาชนะในตัวเขามันเลยลุกโชน ตะบี้ตะบันเล่นจนกว่าจะชนะ
แล้วเป็นไง เงยหน้ามองนาฬิกาอีกทีล่อไปตีหนึ่งกว่า กว่าจะถึงบ้านก็เกือบตีสอง
นี่นั่งแท็กซี่กลับด้วยนะเพราะเที่ยวรถหมดไปแล้ว สรุปวันนี้ติดหนี้ไอ้ยูคยอมบาน
เด็กหนุ่มเดินสวดมนต์อยู่หน้าประตูพักใหญ่ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เปิดประตูมือเบาพร้อมสอดสายตาไปทั่วบ้าน ข้างในบ้านมืดสนิท หรือแทฮยองนอนแล้ววะ? หวานหมูเลยแบบนี้ เดินปลายเท้าจนแทบจะระบำบัลเล่ต์เข้ามาในห้องนอน ค่อยๆ วางกระเป๋านักเรียนลงเสียงเบา
พรึ่บ!
“แม่ร่วง!”
อยู่ดีๆ ไฟที่ปิดอยู่ก็สว่างจ้า หันไปก็เจอแทฮยองยืนกอดอกพิงผนังทำหน้าดำข้างสวิตซ์ไฟ
แล้วพี่มึงจะทำตัวเฮ่อเร่อทำไมวะ กูกลั๊ว!
“ผมขอเหตุผลดีๆ สักข้อที่คุณต้องกลับเกือบฟ้าสางวันนี้ครับคุณจอนจองกุก”
นี่คือขั้นกว่าของแทฮยองโหมดไร้เยื่อใย...
“พี่...คืองี้” คือไรวะ อันนี้ไม่ได้คิดมาด้วย
โดนคำถามจากท่านคณะกรรมการแบบนี้จอนจองกุกตอบไม่ถูก
“คือไรครับ?”
“ไอ้ยูคยอมอ่ะมันปวดท้องตอนที่นั่งทำงานด้วยกัน
ผมเลยพามันไปหาหมอ พี่รู้ป่ะหมอบอกมันว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย
ผมเลยนั่งปลอบใจมันจนกลับมาดึกเนี่ยแหละ” กูขออีกครั้งเดียวยูคยอม แล้วทีหลังกูจะเอาชื่อไอ้แบมแบมหัวหน้าห้องแทน
“คุณเป็นคนดีจริงๆ ครับคุณจอน” แทฮยองแค่นหัวเราะ
ใจจริงกูอยากหัวเราะให้ฟันร่วงแต่กลัวเด็กมันตกใจ
“ครับ ก็พอได้ยินคำชมมาบ้าง”
ดูมันไม่สำนึก แทฮยองล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปเฟสบุ๊ค
พิมพ์ชื่อไอ้เด็กตัวสูงเพื่อนจองกุกตรงช่องค้นหา
ก่อนภาพเซลฟี่ใส่หูฟังพร้อมเช็คอินร้านเกมโผล่ขึ้นมาเป็นอันดับแรก แล้วไอ้คนข้างๆ ที่ฟันหน้ายื่นแทบขูดจอแบบนี้มันจะเป็นใครได้
สงสัยมันไม่รู้ตัวว่าเพื่อนจะถ่ายติดตัวเอง
“คนเป็นมะเร็งลำไส้เขาไปเซลฟี่ชูสองนิ้วที่ร้านเกมเหรอห๊ะจอนจองกุก!” ยื่นโทรศัพท์ใส่หน้าเด็กเจ้าเล่ห์จนปากแทบจะจูบหน้าจอตะคอกถามเสียงดัง
จองกุกมันยังยืนนิ่งสงสัยจะช็อค “มึงนี่สันดานขี้โกหกมันแก้ไม่หายเลยใช่ไหม!
อยากตายก่อนยี่สิบหรือไงห๊า!?”
“ใจเย็นนะพี่ ผมแค่...อร่อก” ยังพูดไม่ทันจบดีแทฮยองแม่งฟาดมือเข้าสันคอจนกระเด็นติดข้างฝา ได้แต่ยกมือลูบคอตัวเอง นี่แรงคนหรือแรงควาย ลูกกะเดือกเขาแทบขย้อนออกมาชมโลกภายนอก
“กูใจเย็นกับมึงมามากแล้วจองกุก
แต่มึงไม่เคยทำตัวให้-ดี-ขึ้น-เลย!” เน้นคำท้ายประโยคมือก็ระรัวทุบกลางหลังดังอั่กๆ
จองกุกมันร้องลั่นสงสัยโดนแผลเดิม แต่นั่นยิ่งทำให้แทฮยองตีถูกที่ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแผลใหม่
ว่าจะไม่ตีมันแล้วนะถ้าหัดพูดความจริงซะบ้าง ถ้ายังเป็นแบบนี้ก็ช้ำในตายไปเลยมึงไอ้เด็กเลว
“โอ้ยๆๆๆอย่าดึงหูผม
มันจะหลุดติดมือพี่แล้วแทฮยอง!” พยายามแย่งหูตัวเองคืน แต่ไม่รู้มือแทฮยองติดกาวไว้หรือยังไง
พี่มันบิดเป็นแฮนด์มอไซค์เลยเว้ยยยย “พี่จะเอาหูผมไปไหน!”
“คนแบบมึงพูดหูซ้ายทะลุหูหมา
ไม่ต้องมีมันแล้วหูเนี่ย!!” ดึงหูไปทางซ้ายทีขวาทีจองกุกมันก็เดินเซตาม
จองกุกมันพยายามตะเกียกตะกายออกจากข้างฝา แทฮยองเลยได้โอกาสยกเท้าถีบเข้าเต็มหลังอีกฝ่ายจนหน้าคว่ำลงกับเตียง
จับหัวมันโขกที่นอนดังปุๆ ถึงจะไม่เจ็บ แต่คอจองกุกคงไม่พ้นได้ใส่เฝือกแน่ๆ
“อ้ากกกก อย่าข่วนหน้าๆๆ เหลือหน้าไว้ให้ออกไปเจอคนอื่นบ้างแทฮย๊องงงง”
พยายามเอาหน้าซุกหมอนหนีแต่ก็โดนพี่มันจิกหัวให้เงยหน้ามามอง
พอเห็นแววตาคมดุจากแทฮยองจองกุกแทบสวดมนต์ให้ตัวเองแทบไม่ทัน
ตอนมาจีบก็ไม่คิดว่าพี่มันจะโหดแบบนี้
ใครใช้ให้ใส่หน้ากากลูกแมวเข้าหาเขาวะ นี่มันแม่เสือกำลังขย้ำลูกกวางชัดๆ
จองกุกกลัวพี่มันแม่จ๋าฮือ
“บอกกับกูให้ชื่นใจทีซิจองกุก ว่ามึงจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก”
“จ้า ไม่ทำแล้วจ้า” นาทีนี้อะไรที่พอจะรอดเงื้อมมือมารได้จองกุกยอม
คอยดูนะเขาจะเล่นกล้ามให้ใหญ่กว่าหัวพี่มันเลย วันพระไม่ได้มีหนเดียวจำไว้นะแทฮยอง!
“ดี!”
ไล๊!
ใครมันไลน์มาตอนนี้โว้ยยยยยยยย
แทฮยองผละมือจากแฟนเด็กแล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกฝ่าย
ข้อความสั้นๆ ที่เพื่อนจองกุกส่งมาทำเอาแทฮยองมือสั่นไปหมด
KYUMMY
เป็นไงบ้างมึง ตายยัง? 02.20
อ่านไม่ตอบแบบนี้แสดงว่าไม่รอด 02.20
แล้วโม้ว่าจะจัดการพี่แทฮยองด้วยมือเปล่า 02.21
จอก! 02.21
จองกุกกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่รู้ว่าไอ้ยูคยอมส่งอะไรมาแต่เดาว่าไม่ใช่เรื่องดี
เพราะท่าทางพร้อมจะปาโทรศัพท์เขาออกไปนอกโลกนั้นก็พอเห็นชะตากรรมตัวเองรำไร
“จองกุกมึง! ไอ้เด็กปากดี!!!!”
ใครก็ได้จองวัดให้กูที!
TBC.
ตอนหน้ายูคยอมได้เช็คอินที่โรงบาลจริงๆค่ะ แต่ไปเยี่ยมเพื่อนนะ555555
ขอบคุณทุกคนที่ชอบกันนะคะ อ่านคอมเม้นท์แล้วปริ่มมากฮือ
ฝากติดแท็ก #ฟิคเด็กผมครับ บอกต่อชาวเรือเราด้วยนะทุกคนนน
ความคิดเห็น