ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS] HOW TO TRAIN YOUR BOYFRIEND | KOOKV

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 10 | เด็กมันไม่เข้าใจ (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.27K
      126
      1 มิ.ย. 60






    -10-



    จองกุก!


    แทฮยองหอบฮักยืนอยู่หน้าประตูบ้าน เขากระชากมันออกแล้วกวาดสายตาไปทั่วบ้าน แล้วพบว่ามันว่างเปล่า แม้กระทั่งตาตี่ๆ ของน้าชายยังไม่โผล่ให้เห็น กระทั่งเสียงน้ำในห้องครัวเรียกให้เดินไปหาอย่างช้าๆ


    จองกุก!



    ไม่...


    ไม่ใช่จองกุก


    เห็นน้าแกเป็นลูกไก่หรือไง? เรียกกุ๊กๆ อยู่ได้เป็นเจ๊กตาขีดยืนเท้าเอวหันมาขมวดคิ้วใส่เขา แทฮยองไม่ได้สนใจคำพูดไร้สาระนั่น เหลือบมองถ้วยที่อยู่ในอ่างล้างจานมันดูเยอะกว่าที่คนเดียวสมควรจะใช้ แสดงว่าที่ยูคยอมบอกนั้นเป็นเรื่องจริง


    จองกุกมาที่บ้านใช่ไหมครับ ตอนนี้เขาอยู่ไหน?”


    กลับบ้านมาคำแรกก็เรียกหาแฟน นี่น้ายืนอยู่ตรงหน้าแกยังจะถามถึงไอ้เด็กฟันจอบนั่นอีกเหรอ!


    น้ายุนกิครับแทฮยองเอ่ยอย่างร้อนใจ


    มันเพิ่งวิ่งแจ้นออกไปเมื่อกี้ดูท่าจะไม่อยากเจอแกด้วยซ้ำยุนกิหันกลับไปสนใจถ้วยชามในอ่างล้างจานอีกครั้ง ถุงมือยางสีชมพูดูเข้ากันดีกับผิวขาวจัดของคนเป็นน้า ในขณะที่ปากก็ขยันพ่นคำพูดยาวเป็นพรืด นี่ถามจริงเถอะ เลี้ยงกันภาษาอะไรเด็กนั่นถึงทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง ฉันใช้มันต้มรามยอนก็ทำไม่เป็นแล้วดูซิใครเป็นคนล้างจาน ก็ฉันอ้าว นี่มันปล่อยให้กูคุยคนเดียวเรอะ!


    คนตัวขาวซีดได้แต่ส่ายหัวเมื่อหลานตัวดีวิ่งพรวดออกไปไม่ได้ฟังที่ตัวเองพูดสักนิด หันกลับมาจัดการกับถ้วยชามตรงหน้าต่อในขณะที่นึกถึงสิ่งที่พูดกับเจ้าเด็กมีปัญหานั่น


    ฉันรู้ว่านายอยากโตเป็นผู้ใหญ่นะแต่มันมีอีกหลายวิธีให้เลือกไม่ใช่เหรอ? แล้วสิ่งที่นายทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่คนที่มีวุฒิภาวะเขาทำกัน


    แต่เมื่อก่อนน้าก็หนีออกจากบ้านมาอยู่กับพี่แทฮยองไม่ใช่เหรอครับ?’


    เออะ...


    ดู ดูมันย้อน ไอ้หลานหัวเถิกมันขายน้าให้แฟนมันฟังเหรอ!


    นั่นก็จริง แต่เพราะฉันเคยทำแบบนี้แล้วถึงได้รู้ไงว่ามันโง่เง่ามากแค่ไหน


    แต่ตอนนี้น้ายุนกิก็ได้ชื่อว่าจบจากเมืองนอก สมัยนี้บริษัทใหญ่ๆ ก็ต้องการตัวคนมีความรู้แบบน้าไม่ใช่เหรอครับ? น้าสามารถหาเงินด้วยตัวเองได้แถมยังมีคนนับหน้าถือตา แล้วแบบนี้มันจะดูโง่เง่ายังไงครับ?’


    นัยน์ตาใสแจ๋วของเด็กตรงหน้าทำให้ยุนกิถอนหายใจ เคาะนิ้วกับโต๊ะเป็นจังหวะ ถ้าไม่เห็นว่ามันดูจะอยากรู้จริงๆ เขาจะคิดว่าไอ้เด็กนี่มันกวนตีนตาใส คำพูดของจองกุกทำให้ยุนกิคิดว่าควรต้องคุยกับหลานชายตัวเองบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าสอนกันยังไงเจ้าเด็กตากลมนี่ถึงได้รู้จักเถียงคำไม่ตกฟากขนาดนี้


    แต่สิ่งที่เด็กมันพูดมาก็มีส่วนถูก เขาในวัยเด็กนั้นจะว่าเป็นพวกหัวรั้นเหมือนจองกุกก็คงได้ พ่อแม่เขาเป็นเจ้าของสวนผักผลไม้ในแทกูที่ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ แน่ล่ะว่าท่านทั้งสองต่างก็หวังให้ตัวเขารับหน้าที่ดูแลกิจการนี้ต่อจากท่าน เนื่องจากพี่สาวเขาหรือแม่เจ้าแทฮยองที่อายุห่างกันพอสมควรแต่งงานออกเรือนไปกับลูกชายบริษัทส่งออก จะเรียกว่าเรือล่มในหนองก็คงไม่ผิด


    ทว่าเขาในวัยนั้นฝักใฝ่กับการออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่มากกว่าจะตั้งใจเรียนให้จบ พ่อแม่เขาเป็นพวกระเบียบจัด ซึ่งแทฮยองเป็นพวกเชื้อไม่ทิ้งแถวดูได้จากการที่บ่นน้ามันปากเปียกปากแฉะนี่ไง เขาคิดว่าการไปเรียนต่อเมืองนอกจะเป็นการตัดปัญหาทั้งหมด


    ยุนกิใช้ชีวิตสนุกสุดเหวี่ยงที่เมืองนอก เขาได้เที่ยวเล่นและเรียนไปพร้อมๆ กันแถมไกลหูไกลตาจากพ่อกับแม่ โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับพวกท่าน เขากลับมาเกาหลีอีกครั้งในตอนที่มางานศพพ่อแม่ตัวเอง ท่านทั้งสองเกิดอุบัติเหตุตอนที่ออกไปดูผลผลิตของผลไม้ในวันที่ฝนตกหนัก นั่นทำให้เขารีบเรียนให้จบเพื่อหวังกลับมาดูแลกิจการ


    แต่ก็สายเกินไป...


    แม่ของแทฮยองที่ดูแลกิจการอยู่ตอนนี้แทบจะตัดญาติขาดมิตรกับเขา ทำให้ตัวเขาเองไม่กล้าสู้หน้าพี่สาว ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับโดนตัดหางปล่อยวัด ยังดีที่วัดที่ว่าคือบ้านเช่าเจ้าหลานหัวเกินเก้าแสนของเขาเอง


    มันก็จริงที่ตอนนี้ฉันสามารถหาเงินด้วยตัวเองได้ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อคนที่หวังจะให้เห็นว่าฉันทำได้อย่างที่พูดไม่อยู่แล้ว ฉันประสบความสำเร็จเรื่องการศึกษารวมถึงหน้าที่การงานในอนาคต แต่ถ้ามองในเรื่องของความกตัญญูฉันจัดว่าลูกเนรคุณเลยว่ะ


    เจ้าของน้ำเสียงเนือยสบตาคนที่กำลังตั้งใจฟัง เขาเห็นว่าจองกุกเลิกตั้งคำถามย้อนผู้ใหญ่เลยเอ่ยต่ออีกว่า ฉันเลือกที่จะหันหลังให้กับคำเตือนคำสอนของพ่อแม่ แล้วดูสิ...นอกจากแทฮยองแล้วตอนนี้ฉันไม่เหลือใครเลยจองกุก และสาเหตุมันมาจากความโง่เง่าของตัวฉันเอง


    ยุนกิเชื่อว่าจองกุกจะเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูดถึง ในตอนนี้น้องมันอาจจะยังทำตัวดื้อแพ่งใส่แทฮยองเพราะอคติกับคำว่าเด็ก แต่ไม่มีใครเป็นเด็กไปตลอดชีวิตนี่ เดี๋ยวพอมันโตขึ้นก็คงคิดอยากย้อนเวลามาเขกกะโหลกตัวเองในตอนนี้แน่ๆ


    การบังคับไม่ใช่ทางออกและการตามใจก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แทฮยองขาดความเข้าใจในส่วนนี้ เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผลลัพธ์จากการเลี้ยงดูโดยแทฮยองทำให้จองกุกกลายเป็นพวกขาดความมั่นใจในตัวเอง ในขณะที่ดูเป็นพวกมีความมั่นใจสูง แต่เขาเห็นแววตาสับสนจากเด็กน้อยตรงหน้า


    ดังนั้นยุนกิจะคอยดูผลลัพธ์จากคำพูดของตัวเอง



    **



    แทฮยองคิดว่าตัวเองเคยวิ่งเร็วสุดชีวิตก็ตอนแข่งกีฬาสีตอนมัธยม แต่ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองวิ่งเร็วกว่าตอนนั้นเป็นสิบเท่า คนตัวผอมเร่งฝีเท้าไปตามริมฟุตปาธ ลมเย็นๆ บาดผิวเล่นเอาปากสั่นไม่น้อย


    เขาวิ่งมาจนถึงป้ายรถบัสใช้มือกุมหัวใจตัวเองหอบแฮ่กด้วยหัวใจเต้นถี่รัว กวาดสายตาไปรอบๆ ก็ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตที่ชื่อจอนจองกุกเลยสักนิด


    เขามาช้าเกินไป...


    คนตัวผอมเดินลากเท้าไปนั่งพักเหนื่อยตรงเก้าอี้ หลุบตามองมือที่บีบกันแน่นของตัวเอง ประโยคที่น้ายุนกิบอกว่าน้องคงไม่อยากเจอหน้าเมื่อสักครู่บีบหัวใจจนเจ็บ แค่รอยร้าวเล็กๆ ในวันนั้นทำให้มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ หรือเป็นเพราะเรื่องในร้านคิมซอกจินทำให้รอยร้าวที่สะสมมานานเกิดแตกหักเอาเสียดื้อๆ


    มันเกิดขึ้นแบบไม่มีสัญญาณเตือน


    อยู่ๆ ไอ้เด็กที่คอยเอาแต่เดินตามตูดเขาต้อยๆ ตลอดสามปีเกิดอยากออกไปใช้ชีวิตคนเดียว ไอ้คนที่เขาแทบป้อนข้าวป้อนน้ำยิ่งกว่าลูกตัวเองดันหายออกไปจากชีวิต แต่จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก เขาสัมผัสได้ว่าเจ้าเด็กหัวรั้นนั้นยังคงป้วนเปี้ยนรอบๆ ตัว แค่ไม่โผล่หน้ามาให้เห็น


    จะว่าหลบหน้า? เขาก็ไม่เขาใจอยู่ดีว่าน้องมันจะหลบหน้าเขาไปเพื่ออะไร อันที่จริงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทะเลาะกันเสียหน่อย เขาตีมันเลือดตกยางออกก็ยังเห็นยืนยิ้มแฉ่งรับแข้งเขาไม่สะทกสะท้าน คนอย่างจองกุกมันกัดฟันยางสู้จนขาดใจด้วยซ้ำ


    แต่พอคนผิวแทนนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกันเพราะคนอื่น จึงไม่ลังเลใจเลยที่จะกดโทรออกไปหาเด็กที่ชื่อคิมยูคยอมอีกครั้ง


    (สวัสดีครับพี่แทฮยอง)


    จองกุกกลับบ้านนายไปแล้ว พี่มาไม่ทัน


    (อ่า..แย่จังเลยนะครับ แต่พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะผมจะลากมันไปเรียนด้วยให้ได้)


    ขอบใจนะยูคยอม แล้วก็เรื่องเงินเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่โอนคืนให้แล้วก็มีเกินไปด้วย พี่ขอร้องว่าอย่าบอกจองกุกเรื่องนี้นะ ทำเป็นว่าให้ยืมเงินนายต่อไปนั่นแหละ


    (พี่ดีกับมันขนาดนี้ผมไม่เข้าใจจองกุกเลย ที่จริงมันก็ดูอยากกลับไปหาพี่นะครับแต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงยังดื้อออกมาลำบากข้างนอกแบบนี้ แค่เรื่องที่พี่บอกให้ขอโทษเจ้านายทำไมต้องอคติขนาดนี้ด้วย)


    พี่เองก็มีส่วนที่ทำให้จองกุกเสียใจ เด็กนั่นตามเกาะพี่แจตั้งแต่มาอยู่ในโซลใหม่ๆ สามปีที่ผ่านมาก็มีแค่พี่ที่คอยดูแล พอเห็นพี่เข้าข้างคนอื่นมากกว่าก็คงเสียใจน่ะ


    (คงมีแค่พี่คนเดียวแหละครับที่เข้าใจมัน มันยังไม่เข้าใจตัวเองเลย)


    งั้นนายก็ช่วยเข้าใจจองกุกด้วยอีกคนนะ ถ้าดื้อมากก็จัดการซัดกะโหลกได้เลยคำพูดของแทฮยองทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะจากคนในสาย เจ้าตัวแอบอมยิ้มตามเมื่ออีกฝ่ายก็รับปากว่าจะซัดแน่ๆ เขากดวางสายก่อนจะพรูลมหายใจออกมาเมื่อรู้สึกว่าโล่งกว่าเดิม


    ดวงตาเรียวเหม่อมองไปยังพื้นถนนที่โล่งเพราะดึกมากแล้ว ทั้งที่ตอนกลางวันออกจะมีรถจอดเรียงกันแน่นขนัดด้วยเพราะสัญญาณไฟจราจรที่แดงนานบรม อากาศ โดยรอบชื้นและเย็นจัดทำให้เวลาพ่นลมหายใจแรงๆ มีไอสีขาวจางพวยพุ่งออกมา


    แทฮยองเอนหลังพิงกับป้ายโฆษณาด้านหลัง เขาหยิบโทรศัพท์ออกมากดเปิดที่คลังภาพ รูปภาพกว่าห้าพันรูปดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะตัวเขาเองเป็นคนรักการเซลฟี่และเจ้าเด็กแสบที่ชอบหยิบไปถ่ายโดยไม่ขออนุญาต


    นิ้วมือเลื่อนเร็วๆ เพื่อย้อนไปดูรูปเก่าๆ เขาเห็นการเติบโตของเด็กคนหนึ่งด้วยตาตัวเองมาตลอดสามปีกว่าและบันทึกภาพเหล่านั้นเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่จองกุกมาเดินเมียงดงครั้งแรก เจ้านั่นสั่งไอศกรีมทูโทนแท่งยาวมาแต่กัดไปได้คำเดียวมันก็หล่นแผละใส่รองเท้าสีขาวที่เขาเป็นคนซื้อให้ ดังนั้นตอนที่เขาเห็นภาพเด็กน้อยน้ำตาคลอในมือถือโคนไอศกรีมเปล่าก็อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้


    เป็นเด็กที่ซุ่มซ่ามเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ


    ส่วนภาพถัดๆ มาก็จะเป็นรูปหน้าตาแปลกประหลาดของตัวเองที่โดนบังคับให้ทำเสียส่วนใหญ่ แถมจองกุกดูจะชอบใจมากถึงเอาไปตั้งเป็นวอลเปเปอร์มือถือตัวเอง(จนถึงตอนนี้ก็ยังตั้งอยู่) แทฮยองสะดุดตากับรูปแปลกๆ ที่ไม่เคยได้ย้อนกลับมาดู เขาเห็นภาพตัวเองกำลังเหม่อมองไปไหนซักที่และจองกุกคงถ่ายเก็บเอาไว้อยู่สองสามภาพ เขาดูวันที่ก็เห็นว่ามันสองปีที่แล้วและเขาจำไม่ได้ด้วยว่าทำไมถึงได้ทำหน้าหม่นหมองแบบนั้น


    แทฮยองเลื่อนดูรูปภาพทีละรูป มียิ้มมีหัวเราะหรือขมวดคิ้วเมื่อเจอบางรูปที่ไม่คุ้นตา แต่ที่แน่ๆ คือเด็กน้อยของเขานั้นโตขึ้นมาก จากเด็กชายตัวขาวบางแก้มกลมเต่งกลับมีกล้ามเนื้อและสูงจนเทียบเท่าเขา ใบหน้าที่เคยมองว่าน่ารักกลับค่อยๆ เห็นสันกรามคมเฉียบ รวมไปถึงแววตาใสซื่อที่เปลี่ยนไปเป็นเจ้าเล่ห์มากขึ้น


    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจอนจองกุกเป็นผู้ชายที่หล่อเกินเด็กสิบแปด


    ตาถึงจริงๆ เลยนะคิมแทฮยองเนี่ย


    ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ความแสบและกะล่อนก็ทำให้คนผิวแทนคิ้วกระตุก ถ้าจองกุกเชื่อฟังเขามากกว่านี้หน่อย หรือรู้จักอ้อนเขามากกว่านี้ ความสัมพันธ์เราสองคนก็อาจจะแบบ...แบบว่าพัฒนามากกว่านี้ไปอีกขั้น หมายถึงทำแบบที่คนรักกันเขาทำกันนั่นแหละ แต่นอกจากกอดหอมจูบนิดหน่อย เขาสองคนก็แทบไม่ได้สัมผัสอะไรกันเท่าไหร่เลย


    แต่พอนึกถึงตอนที่เขาสองคนทำอะไรอย่างว่าจริงๆ แทฮยองกลับนึกอยากให้จองกุกย้อนกลับไปเป็นเจ้าเด็กตัวบางแก้มป่องอีกครั้ง เพราะจอนจองกุกกับใบหน้าหล่อๆ แบบนี้มันเป็นอันตรายต่อเหมืองทองแทฮยองเหลือเกิน


    แล้วทำไมต้องมานั่งคิดเรื่องลามกอยู่ริมถนนด้วยเนี่ย!




    **



     

    เหมือนว่าทุกอย่างกำลังแย่ลงเรื่อยๆ ในความคิดของจองกุก แฟนเขาไม่ติดต่อมาอีกเลยหลังจากที่ยูคยอมบอกเมื่อสัปดาห์ก่อน นี่ก็ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์แล้วแต่แทฮยองยังคงไม่มีวี่แววจะติดต่อมาอีก


    มันน่าหงุดหงิดไหมล่ะ!


    ภาพที่แทฮยองหัวเราะต่อกระซิกกับไอ้คุณซอกเล็บหมายังติดตาอยู่เลย แล้วถ้าสองคนนั้นเกิดสปาร์คกันตอนที่เขาไม่อยู่ล่ะ มันต้องเป่าหูให้แทฮยองบอกเลิกเขาแน่ๆ ทั้งรูปหล่อ(กัดฟันพูด)แม่รวยเรียนจบสูง แถมจบจากนอกซะด้วย


    แล้วเด็กที่แค่มัธยมปลายยังจะจบแหล่ไม่จบแหล่อย่างเขาจะเอาอะไรไปสู้?


    เจ็บใจเว้ยยยยยยยยยยยย


    ยูคยอมมองเพื่อนรักตัวเองทุบโต๊ะเรียนดังปั่กๆ ปากก็พล่ามอะไรขมุบขมิบฟังไม่ได้ภาษาไปด้วยสายตาเอือมระอา เรื่องที่เขาคุยกับพี่แทฮยองถูกเก็บเป็นความลับ เขาไม่ได้บอกอะไรกับจองกุกและเจ้าเพื่อนจอมขี้เกียจดูจะไม่ได้เอะใจอะไร


    เลิกเรียนแล้วมึงจะไปไหนต่อหรือเปล่า?” ถามเพื่อนในขณะที่มือกำลังเก็บของลงกระเป๋า ยูคยอมมองคนที่กำลังนั่งเท้าคางทำท่าคิดไม่ตกทำปากขมุบขมิบเหมือนกำลังท่องบทสวด เป็นบ้าไปแล้วเหรอ? ถ้ามึงยังคุยคนเดียวแบบนี้กูจะโทรตามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้ามาจับนะ


    มึงนี่...คนถูกกล่าวหาว่าเป็นบ้าจิปากแต่ก็ยอมเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะเดินตามยูคยอมออกมาจากห้องเรียน เขาเห็นยูคยอมเดินไปคุยอะไรซักอย่างกับหัวหน้าห้องตัวผอมเก้งก้าง จนเมื่อมันเดินกลับมาถึงได้เอ่ยปากถาม มึงคุยอะไรกับหัวหน้าวะ?”


    กูไปถามมันว่าจารย์คิมแกจะให้มึงสอบซ่อมเมื่อไหร่ มันบอกอีกสามอาทิตย์นู้นช่วงนี้แกไม่ค่อยว่าง


    เออกูลืมไปเลยว่ะจองกุกพยักหน้าเข้าใจระหว่างเดินลงบันไดเขาเหลือบไปมองหน้ายูคยอมที่เดินอยู่ข้างกันก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม “...ขอบใจนะมึง


    ไม่ต้องทำซึ้งหรอก ถ้าอยากขอบใจจริงๆ กูว่ามึงกลับบ้านไปหาพี่แทฮยองดีกว่า


    คำพูดของยูคยอมทำให้จองกุกชะงักเท้า เด็กหนุ่มยืนนิ่งบนขั้นบันไดในขณะที่ยูคยอมเดินลงไปสุดขั้น จนมันเงยหน้ามาเลิกคิ้วสงสัยเขาถึงได้พ่นลมหายใจแรงๆ ออกมา


    นี่มึงไล่กูใช่ไหม?”


    แล้วแต่จะคิดเถอะ


    ไอ้ยูค!จองกุกเดินลงไปกระชากไหล่เพื่อนตัวโตกว่า เขาจ้องหน้าคนที่กำลังตีหน้ามึนใส่ นอกจากยูคยอมแล้วเท่ากับว่าเขาไม่มีที่ไป มึงเห็นกูเป็นเพื่อนมึงเปล่าวะ? ตอนนี้กูรบกวนมึงก็จริงแต่เดี๋ยวกูขอเงินแม่คืนให้ไง


    มึงก็คิดได้แค่นี้แหละจองกุก มึงบอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็กแล้วคนที่คิดแต่จะแบมือขอเงินแม่แก้ปัญหาคือคนที่โตแล้วเหรอวะ?”


    ตอนนี้ยังไม่ปิดเทอมกูไปสมัครงานไม่ได้ เดี๋ยวพอกูทำงานแล้วจะคืนให้ก็ได้ มึงรอได้ไหมล่ะ?”


    กูจะพูดในฐานะเพื่อนสนิทมึงนะ กลับไปหาพี่แทฮยองเถอะมันไม่เกี่ยวว่ามึงเด็กหรือผู้ใหญ่ ไอ้แค่ออกมาอยู่นอกบ้านไม่ได้หมายความว่ามึงโตขึ้นจะเว้ย คนที่โตคือคนที่ดูแลตัวเองได้แบบที่พี่แทฮยองทำ แต่มึงมาขออาศัยบ้านกูอยู่ยืมเงินกูกินข้าวเล่นเกมไปวันๆ มันจะมีประโยชน์อะไรวะ?”


    ประโยคยืดยาวจากเพื่อนสนิทไม่ได้ทำให้จองกุกเข้าใจ กลับกันเด็กตัวขาวคิดว่าเพื่อนตัวเองไม่อยากให้ยืมเงินเสียมากกว่า คิดได้แบบนั้นฝ่ามือจึงพุ่งไปผลักไหล่เพื่อนจนเซ ตะโกนเสียงดังจนนักเรียนคนอื่นหันมามอง


    ที่แท้ก็หวงเงิน ถ้ามึงไม่อยากให้ยืมก็บอกกันดีๆ สิวะ ไม่ต้องเอาเรื่องให้กูกลับบ้านมาอ้าง


    ไปกันใหญ่แล้ว กูพูดเพราะหวังดีกับมึงหรอก กลับไปอยู่กับพี่แทฮยองเขาจะได้ช่วยติววิชาจารย์คิม มึงจะได้สอบผ่านแล้วจบไปพร้อมกับกูไงจองกุก


    หยุดพูด!คนเลือดขึ้นหน้ากระชากคอเสื้อเพื่อนรักตัวเอง เสียงวี้ดว้ายของพวกผู้หญิงทำให้กำคอเสื้อแน่นจนได้ยินเสียงลมหายใจถี่กระชั้นของยูคยอม


    มึงหัดห่วงอนาคตตัวเองบ้างเถอะ ไม่รักคนอื่นก็หัดรักตัวเองบ้าง


    กูบอกให้หยุดพูดไง!จองกุกกำหมัดแน่นเงื้อใส่เพื่อนตัวสูงจนมันหลับตาแน่น เสียงกรีดร้องของพวกผู้หญิงดูเหมือนจะดังขึ้นเป็นเท่าตัวคราวนี้พวกผู้ชายก็หลุดเสียงทุ้มร้องออกมาด้วย


    เอาเลย! อยากต่อยกูก็ตามใจ แต่มึงรู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วงมึงกันหมด! พี่แทฮยองโทรมาถามกูทุกวันว่ามึงกินอยู่ยังไง กับข้าวแบบไหนที่มึงกินได้ไม่ได้ เงินที่มึงยืมก็ของพี่แทฮยองทั้งนั้นคำพูดของยูคยอมทำให้หมัดที่กำแน่นค่อยๆ คลายออกจนมันตกไปอยู่ข้างตัว ส่วนมืออีกข้างก็ผละออกมาผลักอกยูคยอมเบาๆ


    อย่ามาโกหกกูให้ยาก ครั้งนี้กูไม่เชื่อมึงหรอกนะ


    กูพูดความจริง จะดูข้อความที่พี่เขาส่งมาก็ได้ มึงจำได้ไหมที่กูเคยบอกว่านอกจากพี่แทฮยองก็ไม่มีใครมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวมึงแบบพี่เขาอีกแล้ว กูยังยืนยันคำนั้นนะ เรื่องที่มึงไปกระชากคอเสื้อเจ้านายพี่เขาเหมือนกัน มึงคิดว่าตัวเองไม่มีส่วนผิดเลยเหรอวะ? อย่างนี้พ่อกูพูดไม่เข้าหูมึงก็จะกระชากคอเสื้อพ่อกูใช่ไหมวะ?”


    ดูเหมือนว่าจองกุกจะเถียงยูคยอมไม่ได้เลยซักคำ ความคิดที่ว่าตัวเองไม่มีส่วนผิดถูกคำพูดเพียงไม่กี่คำของเพื่อนรักกลืนไปหมดสิ้น


    มึงคิดดูให้ดีนะจองกุกว่าสิ่งที่มึงทำอยู่ตอนนี้มันดีแล้วใช่ไหม กูเชื่อว่าพี่แทฮยองไม่ใช่คนใจร้าย พี่เขารักมึงมาก...ไม่งั้นคงไม่โทรมาร้องไห้ทุกครั้งที่พูดเรื่องมึงหรอก


    คำพูดสุดท้ายของยูคยอมดึงเส้นทิฐิของจองกุกขาดผึง


    (80%)


     

    ไม่สบายหรือเปล่าแทแท ทำไมหน้าดูซีดๆ


    คำถามจากเจ้านายเรียกให้แทฮยองยกมือมาลูบหน้าตัวเองเบาๆ ไอร้อนที่แผ่ออกมาก็ทำให้เขาแอบหวั่นใจเหมือนกันว่าตัวเองจะไม่สบายเข้าจริงๆ


    เมื่อวานคงตากน้ำค้างนานไปหน่อยน่ะครับ แต่ไม่เป็นไรมากตอบปัดๆ ไปเมื่อเห็นว่าซอกจินยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเดินตามประกบตัวเองแจ เขาพยายามไม่สนใจแล้วนะแต่การที่เขาขยับซ้ายอีกคนก็ก้าวตามขยับขวาก็ยังตามมาอีก แบบนี้มันน่ารำคาญโว้ยยย


    "พี่!"


    ครับ?”


    ยัง ยังไม่สำนึก


    ผมไม่ได้เป็นอะไรเลย แล้วมาเดินตามแบบนี้มันน่ารำคาญนะ


    รำคาญเหรอ?”


    มาก


    โอเคๆแทฮยองจ้องคนที่ทำมือยอมแพ้เดินถอยออกไป เขาส่ายหัวให้กับคนที่ถอยห่างไปแค่สองก้าว พอจะหันกลับมาสนใจกับตู้เค้กก็เกิดหน้ามืดวูบนึงจนต้องใช้มือยันกับเคาน์เตอร์เอาไว้ แต่มือเจ้ากรรมดันอ่อนแรงจนเอนล้มกระแทกกับพื้นซะได้


    เฮ้ยแทฮยอง! เสียงพี่โฮซอกดังลั่นตามมาด้วยเสียงแก้วแตก เดาว่าพี่มันตกใจจนทำแก้วหลุดมือ แต่อีกคนที่ไม่ได้ส่งเสียงอะไรนี่สิ เข้าถึงตัวเขาก่อนใครเพื่อนแถมยังทำหน้าดุใส่อีก


    คือว่าผม...


    พี่ว่าเราเป็นอะไรแล้วล่ะแบบนี้ ทีนี้จะหยุดดื้อได้หรือยัง?”


    แทฮยองพยักหน้าช้าๆ แอบหงอยไปนิดนึงเพราะปกติซอกจินเคยทำเสียงเข้มใส่ที่ไหน เดาว่าไอ้อาการหน้ามืดนี่คือผลพวงจากการที่นั่งอยู่ป้ายรถบัสเสียดึกดื่น


    ผลั่ก!


    อยู่ๆ แรงกะชากมหาศาลดึงคนป่วยไปจนตัวปลิว แทฮยองจับหัวไว้เมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกลากให้ออกไปข้างนอกร้าน พอเงยหน้ามาก็พบกับดวงตากลมโตที่จ้องเขาเขม็ง ไหนจะแรงบีบที่ไหล่ทั้งสองข้างอีก


    จอนจองกุกไอ้เด็กบ้า!


    คิดจะโผล่มาก็มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว


    นี่!เขาพยายามดันตัวเองออก พยายามยืนนิ่งๆ เพราะกลัวว่าจะหน้ามืดไปอีก เป็นบ้าอะไรมึงเนี่ย แล้วคิดยังไงถึงโผล่หัวมาได้


    พี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ผมเห็นนะว่าพี่กอดกับไอ้คุณซอกจินมันน่ะ


    โอ้ยนี่มึงเป็นพระเอกหนังหรือไง มาเห็นตอนเขาแตะเนื้อต้องตัวกันแล้วเข้าใจผิดเนี่ยแทฮยองมองใบหน้าของเด็กตัวโตด้วยความคิดถึง เห็นว่าใส่ชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนถึงได้โล่งใจที่อีกฝ่ายไปเรียนหนังสือแล้ว


    ตอนผมไม่อยู่มันจีบพี่สบายเลยใช่ไหมล่ะจองกุกเหล่ตามองคนไหล่กว้างที่ยืนมองพวกเขาจากในร้าน


    ถ้าคิดแบบนั้นแล้วจะกลับมาทำไม?”


    พี่!


    นี่มันเวลางาน เรื่องของเราค่อยกลับไปคุยที่บ้านแทฮยองเอ่ยตัดบทคนดื้อดึง ไอ้ท่ากอดอกเชิดหน้าสำหรับคนที่เห็นมาตลอดสามปีกว่าก็รู้แล้วว่าจองกุกคงไม่ฟังง่ายๆ


    อีกแล้วนะ ทำไมพี่ต้องเห็นอย่างอื่นสำคัญกว่าผมด้วยอ่ะ


    จองกุก...เอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเรียบ แทฮยองไม่รู้จะจัดการกับเด็กเจ้าปัญหาตรงหน้ายังไงดี เขาเหลือบตามองเจ้านายที่ยืนกอดอกดูเชิงอยู่ในร้าน ข้างๆ กันเป็นพี่โฮซอกที่ยืนถือเศษแก้วมองมาทางนี้ ทำไมมึงกลายเป็นเด็กเข้าใจยากแบบนี้วะ?”


    คนที่โดนน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายสาดใส่หน้าเม้มปากแน่น เขารู้ว่าตอนนี้ตัวเองทำตัวมีปัญหามากแค่ไหน ไม่ต่างอะไรกับ ภาระอย่างที่ทุกคนเคยบอก แต่ถึงอย่างนั้นก็เลือกที่จะทำตัวรั้นแบบนี้ต่อไป จะโทษฮอร์โมนวัยรุ่นที่พลุ่งพล่านก็ได้ถ้านั่นทำให้แทฮยองสนใจเขามากกว่างานหรืออะไรอื่นๆ


    หรือสาเหตุที่ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้เพราะจองกุกกำลังเรียกร้องความสนใจจากแทฮยองกันแน่?


    ก็มันจริงไหมล่ะ? พี่เห็นผมเป็นแฟนพี่หรือเปล่า ทำไมต้องเลือกผมเป็นอย่างสุดท้ายทุกที


    จองกุก...กูเลือกมึงเป็นคนแรกที่กูรักนอกจากพ่อแม่ กูดูแลมึงเท่าที่กูจะทำได้ แล้วมึงเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าสำหรับมึง กูเคยเป็นตัวเลือกแรกหรือเปล่า?” แววตาของแทฮยองเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างแท้จริง


    คนถูกถามกลับกลืนก้อนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ถ้าเขาตอบว่าไม่ นั่นคือเขาโกหก


    เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมาเขาเลือก เกม


    ภาพของตัวเองที่กดตัดสายหรือแม้แต่ปิดเครื่องหนีเวลาโดนโทรตามนั้นทำให้จองกุกยังยืนนิ่งไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย สถานการณ์ตอนนี้แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เขาแพ้ให้แทฮยองทุกครั้งที่เรามีปากเสียงกัน


    ไม่ว่าจองกุกจะขุดคำพูดร้อยแปดมาสู้ สุดท้ายแทฮยองมักเลือกพูดความจริงตอกกลับมามากกว่า


    ตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ เพราะกูไม่เคยเป็นคนแรกที่มึงนึกถึงเลยไง


    ไม่ใช่แบบนั้น


    ช่างเถอะ แล้วที่อยู่ๆ ก็โผล่มานี่คือยังไง?”


    ผมแค่...อยากมาขอโทษพี่ แค่พี่!จองกุกรีบเอ่ยย้ำเมื่อเห็นว่าแทฮยองเหลือบมองไปในร้าน เขาแค่อยากขอโทษแทฮยองไม่ใช่หมอนั่น


    คนที่มึงควรขอโทษคนแรกคือคุณซอกจินไม่ใช่กู


    แต่ผม--


    จองกุกถ้ามึงยังเป็นเด็กที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลยและเถียงทุกคำที่กูบอกแบบนี้งั้นเราไม่มีเรื่องต้องคุยกัน ถ้ามึงคิดจะอยู่ด้วยตัวเองอันดับแรกที่ต้องจำคือคำว่ารับผิดชอบ มึงกลับไปทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกและกูจะกลับไปทำงานแทฮยองพูดด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ เขาดูแลจองกุกมานานเกินกว่าที่จะโอ๋ ถ้าน้องมันยังเป็นเด็กผู้ชายคนเดิมที่เดินตามเขาต้อยๆ เหมือนวันแรกที่เข้ามาในโซลก็จะไม่มีวันนี้ วันที่เขาเอ่ยปากไล่ให้อีกคนไป


    พี่...


    ตั้งใจเรียนเทอมนี้ให้จบอย่างน้อยก็คิดซะว่าทำเพื่อตัวเอง กูรู้ว่ามึงโตแล้วจองกุก มึงกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองและกูก็จะทำหน้าที่ของกูเหมือนกันเหมือนมีก้อนสะอึกมาจ่ออยู่ที่คอ แทฮยองสูดลมหายใจเข้าพร้อมกับกระพริบตาถี่เพื่อที่จะเอ่ยอีกคำออกมา



    กูยอมแพ้แล้วจองกุก จบเทอมนี้พ่อแม่มึงจะมารับมึงกลับปูซาน




    TBC.



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×