คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 02. — Like her?
2.
"ไอ้มนุษย์คอสเพลย์เอ๊ย!"
ฮัดชิ่ว!
"เป็นหวัดเหรอพีท"
"เปล่าครับ"
ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ถูจมูกตัวเอง มั่นใจว่าไม่ได้เป็นไข้หวัดแน่ๆ เขาเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันดีพอสมควรเพราะงั้นเรื่องนี้ตัดออกไปได้เลย แต่พอนึกๆมาแล้วเห็นมีคนเคยบอกว่าเวลาจามหมายถึงมีคนนินทาอยู่ก็ดูตลกดี
ตลกขนาดที่ว่าหน้าของรุ่นพี่ปากร้ายแวบเข้ามาในหัว
เด็กหนุ่มหน้าซีด ฮันน่า ชาร์ลอต์ตอาจกำลังนินทา ไม่ดิ อย่างรุ่นพี่คนนั้นคงกำลังก่นดาเขาอยู่แหงในเมื่อวีรกรรมวันนี้ของปีเตอร์ดูไม่เข้าตาสาวเจ้าสักอย่าง
เขาไม่เคยโดนใครพูดแบบนั้นมาก่อน พี่แกเป็นผู้หญิงคนแรกที่พูดจาแบบนั้นด้วยใบหน้าปกติ
แต่เหตุการณ์ล่าสุดที่ปีเตอร์พอจะนึกออกว่าฮันน่าจะด่าอะไรก็คงเป็นรถคันหรูของเจ้าตัว
ช่วงที่กำลังตรวจดูเมืองในสถานะสไปเดอร์แมน ปีเตอร์ก็พบเหตุชลมุนขึ้นแต่มีเขาอยู่สักอย่างเลยไม่มีใครเป็นอะไร ในสถานะเพื่อนบ้านเมืองควีนส์ เขาน่ะโคตรเจ๋ง!
แต่เจ๋งแค่ไหนก็แพ้พ่ายผู้หญิงคนเดียว
ปีเตอร์เพิ่งมารู้ว่าไอ้ตอนที่เขาชักใยไม่ให้รถบรรทุกที่ชนรถคนอื่นละเนละนาดไปโดนคนที่นั่งทำงานอยู่ตอนนั้นอ่ะ ไอ้รถที่โดนประทุษร้ายนั่นอ่ะ ดันเป็นของรุ่นพี่ปากร้ายนั่นอ่ะ!
ถามว่ารู้ได้ไง รถเจ้าตัวออกจะเด่น ขับรถมาโรงเรียนครั้งเดียวทั้งโรงเรียนก็จำได้หมดแล้ว
ปีเตอร์น้อยล่ะปวดใจ เขาจะทำยังไงดี คิดๆแล้วเขาก็ไม่ได้ผิด นั่นมันอุตบัติเหตุแล้วตอนนั้นเขาก็เป็นสไปเดอร์แมนด้วย
สไปเดอร์แมนฮีโร่ขวัญใจเมืองควีนส์อ่ะ
เพื่อนบ้านผู้แสนดีเลยนะ เธอไม่ว่าอะไรอยู่แล้วแหละ!
ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว กล่อมตัวเองให้คิดแบบนี้ทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ปีเตอร์ไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่รู้อะไรทำให้รุ่นพี่คนนั้นลอยวนอยู่ในหัวตลอดเวลา
ไม่ได้คิดถึงนะ ไม่ได้มีอะไรในก่อไผ่ด้วย มีแต่คำถามที่ว่าจะโดนด่าไหมลอยอยู่ในหัวตลอด
เจ๊แกโคตรน่ากลัว
"ผมไปโรงเรียนแล้วนะป้าเมย์"
เด็กหนุ่มตะโกนบอกผู้เป็นป้า ได้ยินเสียงขานรับออกมาจากตัวบ้านก็ขึ้นขี่ปั่นจักรยานไปโรงเรียนเหมือนทุกที
ชีวิตประจำวันของสไปเดอร์แมนก็เหมือนคนทั่วไป ตื่นนอน แปรงฟันแล้วก็ไปโรงเรียน แหวกแนวสุดคงเป็นการห้อยโหนไปตามตึก ปีเตอร์ทำแบบนี้ทุกวันจนเป็นกิจวัตร เขาถือคติว่าถ้ามีสไปเดอร์แมนอยู่ เมืองควีตส์จะต้องไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น
ความคิดพระเอกจริงๆ เขินตัวเอง
แน่นอนว่าความลับที่เขาเป็นสไปเดอร์แมนไม่มีใครรู้สักคนเพราะเขาน่ะเก็บความลับเก่งอย่าบอกใคร ขอยึดอกภาคภูมิใจสักนิด อ้อ แล้วก็ขอยกเว้นให้เน็ทด้วยละกันที่ดันรู้
ปั่นจักรยานต้อนลมมาได้ไม่กี่นาทีก็มาถึงโรงเรียน บรรยากาศเดิมๆที่เขาค่อนข้างชอบ ปีเตอร์ชอบอะไรที่มันสงบๆ เขาลงจากรถจักรยานแล้วลงมาเข็นแทน กะจะเอาไปไว้ตรงที่จอดจักรยานเหมือนทุกที
แต่ที่ดูไม่เหมือนทุกทีคืออยู่ๆก็มีรถปาดเข้ามาในโรงเรียน หักเลี้ยวเข้ามาแบบไม่กลัวไปชนใคร ปีเตอร์อ้าปากเหวอ อยากรู้ว่าใครเป็นคนขับรถน่าหวาดเสียวขนาดนี้ อยากรู้ด้วยว่าใครเป็นคนครอบครอง BMW สีดำมันเงาเหมือนเพิ่งแกะกล่องออกมาด้วย
อ่าฮะ ไม่ใช่แค่เหมือน ป้ายแดงมาเลยครับพี่
ถึงปีเตอร์จะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรกับพวกรถยนต์มากแต่พอมาเจอกับตัวแบบนี้ อดยอมรับไม่ได้ว่าโคตรสวย
"รถสวยดีเนอะ"อยู่ๆเน็ทก็มาจากไหนไม่รู้ น่าจะเห็นเขายืนอยู่กับที่เลยเดินเข้ามาหาเอง"ฉันอยากมีรถแบบนั้นบ้างจัง"
"นั่นสินะ"
ปีเตอร์พยักหน้ารับ ว่าจะละสายตาจาก BMW คันงามแล้วทำกิจวัตรของตัวเองให้เสร็จสรรพก็ต้องลากสายตากลับมาที่เดิมทันทีที่เห็นประตูคนขับเปิดออกพอดี
เส้นผมดำขลับ ร่างสูงโปร่งไม่มากและใบหน้าสวยคม เจ้าของรถก้าวลงมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบหนึ่ง มือขาวปิดประตูแบบไม่ใยดีรถราคาแพงเท่าไรก่อนที่จะเสยผมขึ้นลวกๆพร้อมกับพูดอะไรสักอย่างลงไปในโทรศัพท์
ให้ทายว่าใคร
รุ่นพี่ที่ปีเตอร์ขึ้นแท่งให้ว่าปากร้ายสุดขีดนั่นไง
ปีเตอร์จำได้ว่ารถเธอพังไปเมื่อคืน..แล้วเจ้าหล่อนก็เพิ่งถอยรถคันนี้มา
นี่พี่แกจะรวยไปไหนเนี่ย!
เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้นักเรียนที่กระจัดกระจายอยู่ให้เข้าห้องเรียน ปีเตอร์กับเน็ทที่นั่งอยู่ในห้องอยู่แล้วไม่ต้องรีบกุจีกุจอเข้าห้องใครห้องมันเหมือนกับใครเพื่อน พวกเขานั่งคุยกันเรื่องเลโก้ที่เน็ทชอบ
พวกเขานั่งอยู่เกือบหลังห้อง ใกล้กับหน้าต่าง ปีเตอร์ลงความเห็นว่าตรงนี้สบายตามากกว่าตรงไหน มีแสงสว่าง มีบรรยากาศนอกโรงเรียนให้ดูเล่นเวลาเบื่อ
"ฉันว่าจะซื้อเลโก้นิวยอร์กมาต่อ"ปีเตอร์ชะโงกหน้าดูเลโก้ที่ว่าจากโทรศัพท์ของเน็ท มันเป็นเลโก้ของเมืองนิวยอร์กทั้งหมด ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไรกว่าจะต่อเสร็จแต่ปีเตอร์ก็ยินดีจะนั่งต่อมันกับเพื่อนสนิท
มันก็โอเคดีนะ ตอนต่อมันใช้สมาธิดี
"เห็นรุ่นพี่ชาร์ลอตต์ปะ"
ปีเตอร์สะดุ้งตัวโหยง เหลือบมองเน็ทที่ยังพูดโอ้เรื่องเลโก้อยู่ค่อยเบาใจ กลัวว่าเพื่อนจะตกใจกับท่าทีของตัวเอง เด็กหนุ่มหันไปมองตามต้นเสียง หัวข้อสนทนาอยู่ที่กลุ่มเด็กผู้หญิงหน้าประตู
แต่เขาอยู่หลังห้อง
ชื่อนี้ไวต่อประสาทหูเขาจริงๆ
"ที่ขับรถบีเอ็มมาวันนี้ปะ"
"ใช่ คนนั้นแหละ รุ่นพี่โคตรรวยอ่ะ ฉันล่ะอิจฉา"
"ใครๆก็อิจฉาปะแก"
ปีเตอร์เผลอเงี่ยหูฟัง พอรู้ตัวว่าตัวเองออกนอกหน้าอยากรู้อยากเห็นเรื่องของรุ่นพี่สาวก็เด้งตัวกลับมาที่เดิม เขายกมือลูบหน้าตัวเองแล้วดึงสติกลับมา พยายามฟังเรื่องที่เน็ทพูดกับเรื่องเลโก้มากกว่าจะสนใจหัวข้อบทสนทนาของสาวๆ
"แต่ลอนดอนก็น่าต่อนะ นายว่าไงปีเตอร์"
"หุ่นก็ดี สวยก็สวย ฉลาดอีก"
ปีเตอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อนผู้หญิง ตอนเจอพี่แกครั้งแรกเขายังเผลอมองนานเลย คนอะไรหน้าดุแต่สวยจนเถียงไม่ออก
"จริงเหรอ แต่ฉันก็อยากต่อนิวยอร์กนะหรือว่าฉันจะซื้อทั้งสองอันเลย"
"อิจฉาพี่แกอ่า คนอะไรเฟอร์เฟ็คเป็นบ้า นี่ถ้าเป็นผู้ชายฉันเข้าไปจีบพี่เขาแล้วนะ คงสบายทั้งชาติ"
"เอ้า ไม่ใช่ว่าพี่เขามีแฟนอยู่แล้วเหรอ"
ปีเตอร์หูกระดิก
"ว่าไงนะ"
แล้วก็เผลอพูดสิ่งที่ใจคิดไปด้วย แล้วก็ดูท่ามันจะดังไปหน่อยถึงขนาดที่ว่ากลุ่มสาวๆที่ยืนเม้าท์อยู่หันมามอง แม้แต่เน็ทยังเงยหน้ามามอง นั่นแหละถึงทำให้เขารู้ว่าตัวเองไม่ได้ฟังสิ่งที่เพื่อนตัวเองพูดเลยสักอย่าง
"ฉันถามว่าจะซื้อทั้งสองอันไง ทำไมนายต้องเสียงดังด้วยล่ะ"
"อ--อ้อ!"เขาทำหน้าตกใจ แสร้งยกมือขึ้นมาเกาหัว"ฉันตกใจน่ะ ไม่คิดว่านายจะซื้อทั้งสองอันเลย ฮ--ฮะๆ"
"อะไรน่ะปีเตอร์ ปกติฉันก็หารกับนายตลอดไม่ใช่เหรอ"
"อ--อ้องั้นเหรอ.."
เน็ทมองเขาด้วยสายตาสงสัย เพื่อนร่างท้วมหรี่ตามองอย่างจับผิด เขาหลบสายตาอีกฝ่ายแล้วทำเหมือนไม่มีอะไร ทำทีเป็นชมนกชมไม้ไปเรื่อยแต่ดันเผลอไปสบตากับเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มช่างเม้าท์
เธอยกยิ้มเจ้าเล่ห์
ลางสังหรณ์ปีเตอร์ร้องเตือนดังลั่น รับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ทันที เผลอยืดหลังตรงตอนที่กลุ่มพวกหล่อนเดินมา
เลิ่กลั่กสุดขีด
"ปีเตอร์~"
ทำไมเขาถึงได้รู้สึกไม่ลื่นหูกับชื่อตัวเองนักนะ
"อะไรเอลน่า"
กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ ปีเตอร์ก็ดันเสียงสั่นเหมือนเด็กจะโดนจับได้ซะงั้น เอลน่า หนึ่งในสมาชิกกลุ่มช่างเม้าท์ยิ้มกรุ่มกริ่ม มีแบคกราวน์เป็นเพื่อนๆของเจ้าหล่อนมองมาทางเขาด้วยสายตามีเลศนัย
"ตอนที่ฉันบอกว่ารุ่นพี่ชาร์ลอต์ตมีแฟนเนี่ย--นายดูแตกตื่นกว่าใครเขาเลยน้า"
เอาแล้วไง..
ริมฝีปากเขาเม้มเขาหากัน เหงื่อผุดขึ้นมาเป็นกระล่อก เหลือบสายตามองเน็ทก็เห็นว่ามันดันขมวดคิ้ว ทำหน้าสงสัยใคร่รู้ รู้เลยว่าเน็ทกำลังคิดอะไรอยู่
"คิดไปเองรึเปล่า ฉ--ฉันนั่งคุยกับเน็ทอยู่เฉยๆ"
เอลน่าทำหน้าเหลือเชื่อ ทำปากเป็นรูปตัวโอ แสร้งทำเป็นเชื่อเขาหมดใจ"งั้นเหรอ งั้นสงสัยว่าฉันจะคิดไปเอง"
หัวหน้ากลุ่มช่างเม้าท์ยกมือขึ้นมาปิดปาก ปีเตอร์เห็นว่าเธอกำลังยิ้มแย้มแบบปิดไม่มิด รวมถึงสายตาที่ส่องประกายแพรวพราวนั่นด้วย
"อย่างงี้ที่ลือๆกันว่ารุ่นพี่เกเบรียนกับรุ่นพี่ชาร์ลอต์ตคบกันก็เป็นจริงล่ะมั้ง"
"อะไรนะ"ปีเตอร์ตระครุบปากตัวเอง เอลน่าหันมายิ้มแบบผู้มีชัย
"เอ้า ออกอาการแล้ว! สรุปนายชอบรุ่นพี่เขาใช่ไหมปีเตอร์!"
เอลน่า สกาเล็ตตบโต๊ะดังตึง! ยื่นหน้าเข้ามาหาจนต้องเอนตัวหนีออกห่าง คัดค้านเอาคำตอบจากปากของเพื่อนหนุ่ม
"จะ จะบ้ารึไง!"ปีเตอร์อ้าปากพะงาบ รู้สึกหูร้อนๆขึ้นมาซะเฉยๆ"ใครจะไปชอบได้เล่า ฉันไม่เคยคุยกับพี่เขาด้วยซ้ำ"
มีแต่โดนด่ากลับมาตลอด เจ็บใจนัก
"ไม่เคยคุยก็แอบชอบได้! รู้จักไหมรักแรกพบน่ะ!"
"ฉันไม่ได้ชอบรุ่นพี่ชาร์ลอต์ต! และจะไม่มีทางชอบด้วย!"เขาเผลอขึ้นเสียง คราวนี้รู้สึกว่าหน้าทั้งหน้าร้อนขึ้นมาแทน ปีเตอร์คิดว่ามันต้องร้อนเพราะโมโหถึงได้ทำให้เอลน่าเงียบลงได้
แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกโกรธเลยสักนิด
กลุ่มเพื่อนสาวอ้าปากเหวอ เอลน่าเงียบลง ทั้งห้องเองก็เงียบลงก่อนที่ริมฝีปากบางของเอลน่าจะขยับเป็นคำพูดที่ทำให้ปีเตอร์เลือกที่จะฟุบหน้าหนี
"แล้วทำไมนานต้องเขินด้วยอ่ะ"
เขาจะฟ้องป้าเมย์!
แล้วเกือบทั้งคาบเขาก็โดนเน็ทแซวเรื่องนี้ตลอด คนที่ได้ยินเหตุการณ์ทั้งหมดก็เอาแต่ล้อว่าเขาชอบรุ่นพี่ชาร์ลอต์ต ตัวการอย่างเอลน่าก็ชอบหันมาส่งสายตาแซวตลอด
ทำไมกลายเป็นงี้ได้เนี่ย
พอออดบอกเวลาพักปีเตอร์ก็จัดการกวาดข้าวของลงกระเป๋า เตรียมพร้อมจะไปกินข้าวเพราะรู้สึกว่าตัวเองใช้พลังงานไปเยอะจนท้องว่าง
แต่พอเขาจะลุกก็โดนเน็ทกดไหล่ให้นั่งลง
ปีเตอร์มองหน้าเพื่อนตัวเอง
เขาลุกขึ้นอีกรอบ เน็ทก็ลุกขึ้นมากดไหล่ให้เขานั่งลงอีกรอบ
"อะไรของนายเนี่ยเน็ท"ปีเตอร์มองหน้าเพื่อนตัวเอง เน็ทยืนกอดอกเหมือนครูฝ่ายปกครอง เพื่อนตัวโตส่ายหัวช้าๆ
"ฉันไม่ได้อะไรกับนายเลยปีเตอร์--"
"แต่เป็นฉันเองจ้า"
เด็กหนุ่มแทบอยากจะกุมขมับ เอลน่าเดินย่างกายเข้ามาคล้ายห้องนี้ทั้งห้องเป็นเวทีก่อนที่เจ้าหล่อนจะหมุนตัวครบ 360 องศาแล้ววางสมุดบางอย่างลงต่อหน้า
"อะไร"ถามแล้วก็ถือวิสาสะเปิดพลิกดู พบว่าเป็นรายชื่อแล้วก็อะไรจิปาถะที่ปีเตอร์ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร
"สมุดชมรมบาส"เอลน่าเอียงหน้าซบมือตัวเองมีเน็ทพยักหน้าเสริมข้างๆ"เห็นเพื่อนชอบก็เลยอยากให้เพื่อนสมหวัง"
อะไรนะ?
วันนี้เขาพูดคำนี้กี่รอบแล้วนะ
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน"ถามเพราะไม่รู้จริงๆ เปิดพลิกไปมาก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับชมรมนี้เลยสักอย่าง เขาอยู่ชมรมตอบปัญหานะ
"ก็นั้นน่ะซี่"ปีเตอร์ขมวดคิ้ว ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อก็ถูกเอลน่ายัดสมุดเข้าใส่แล้วพูดว่า"เพราะงั้นก็เอาไปให้แทนหน่อยพอดีฉันหิวข้าวมากๆเลยไปให้ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงว่านายจะไปโรงยิมแค่คนเดียวเดี๋ยวเน็ทจะไปด้วย ใช่ไหมเน็ท"
"แน่นอน"
ปีเตอร์ร้องออกมาว่าห๊ะเบาๆ แล้วเอลน่าก็โบกมือลาเป็นนางงามที่ปีเตอร์เคยเห็นตอนดูโทรทัศน์กับป้าเมย์แถมทิ้งท้ายไว้ว่า
"ชอบก็รุกนะปีเตอร์ก่อนที่คนข้างๆพี่เขาจะตะครุบไว้เอง"
เกิดมาจนอายุย่าง 16 ปี ไม่เคยพูดคำหยาบออกมาสักครั้งแต่ครั้งนี้ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ขอสบถออกมาแรงๆหน่อยว่า
อิหยังวะ!?
"ให้พูดอีกรอบ"
"ไม่"
"ฮันน่าอ่า"
"ไม่"
เธอพูดเสียงแข็ง เอนหลังพิงกับอัฒจันทร์แล้วมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาว่าไปทำเอง พอพักเที่ยงได้ไม่ถึงนาที เกเบรียนก็ลากมาที่โรงยิม ขอร้องขอโพยให้คัดเลือกคนเข้าให้หน่อย
เด็กมันเข้ามาเพิ่มก็จัดการเองสิ เธอไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยซ้ำ
เกเบรียนเป็นกัปตันทีมนะจะให้คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาคัดคนมั่วชั่วได้ยังไง เผลอๆถึงเวลาคัดจริงเธออาจจะขี้เกียจแล้วชี้นิ้วเอาคนนั้นคนนี่ตามระดับความพอใจตัวเองด้วยซ้ำไป
"โธ่ เธอก็ไม่ได้ไก่กานะฮันน่า ช่วยกันหน่อย"
คนตัวโตเข้ามาออเซาะ ทำหน้าออดอ้อนที่ทำให้ฮันน่าขนลุกเป็นเกลียว
"นายก็ไม่ได้กากนะเบียน"ฮันน่าหยิบเบอร์เกอร์ขึ้นมาแกะ"จะอ้างว่าคนเยอะคัดไม่ไหวก็ให้ลัสโซ่ช่วยสิ"
"ไม่ว่างค้าบ!"
เหมือนคนโดนพาดพิงรู้ตัว ลัสโซ่ที่อยู่ห่างไปจากนี้ไม่กี่เมตรตะโกนกลับมา ปากบอกไม่ว่างแต่นั่งเล่นเกมอยู่คืออะไร ตัวเองก็เป็นสมาชิกในทีมนะ ทำไมไม่ช่วยๆกัน
"ตีป้อมอยู่ ไม่ว่างง่ะเตง"
แล้วเหมือนเพื่อนจะอ่านใจกันออก ฮันน่ายิ่งถอนหายใจเข้าไปใหญ่ตอนที่เงยหน้ามาเจอสายตาหนักใจแกมอ้อนวอนของเกเบรียน
"เธอก็ดูมันดิ ช่วยกันนิดเดียวเองน่า"อีกฝ่ายนั่งยองตรงหน้า คว้ามือไปกอบกุมแล้วเอนเอียงใบหน้ามาซบ"นะครับ"
ร้อยทั้งร้อย เธอสะอิดสะเอียดเหลือเกินกับท่าทางการออดอ้อนของเกเบรียน
"คู่รักตรงนั้นช่วยไปหวานกันไกลๆได้ไหม"มีเสียงตะโกนมาจากสนามบาส เกเบรียนหันไปเขม่นใส่บราวน์ สมาชิกชมรมบาสกล้ามโต
"หุบปากไปเลยน่ะแก คนเขากำลังขอให้เจ๊ช่วยอยู่"บราวน์ทำหน้าเหลือเชื่อแต่ฮันน่ากลับขมวดคิ้วมุ่น อย่างนี้ก็เท่ากับว่าคนทั้งชมรมรู้ว่าเกเบรียนจะมาขอให้เธอช่วย? แล้วคนทั้งชมรมมันไม่มีปัญญาคัดคนกันเองรึไง
แล้วเหมือนเกเบรียนก็จะรู้ทันความคิด
"บราวน์ขาเจ็บอยู่ เอริควันนี้มีควิชเก็บคะแนน ปาร์คเป็นฝ่ายดูกับตามน้องส่วนลัสโซ่ก็อย่างที่เห็น"เกเบรียนพยักพเยิดไปทางเพื่อนที่เอาแต่ตีป้อมไม่สนใจโลก
"เพราะงั้นมาช่วยกันหน่อยนะ"กะพริบตาสองครั้ง
อ่า เหมือนฮันน่าจะเห็นหมาไซบีเรียนในคาบของเกเบรียนเลยแฮะ
"สามวัน"ฮันน่าเลื่อนมือออกจากการกอบกุมมากอดอกแทน"อยากได้อะไรก็ต้องไปหามาให้ ดีล?"
เกเบรียนพ่นลมออกมาทางจมูกด้วยใบหน้าที่เซ็งสุดขีด มุมปากเธอยกยิ้ม ข้อแลกเปลี่ยนไม่ต่างอะไรจากการเป็นเบ๊ให้เลยสักนิด แต่นะ ถึงจะขออะไรมากกว่านี้เกเบรียนน่ะ
"ดีล"
ก็ยอมตลอดนั่นแหละ
คนตัวโตกว่าผุดลุกขึ้นยืน ชี้หน้าเป็นการคาดโทษตามฉบับหยอกล้อ กัปตันทีมคว้าเป้ หยิบชุดไปเปลี่ยนก่อนจะฝากสัมภาระทุกอย่างไว้
ฮันน่าไม่มีชมรม ไม่รู้พูดแบบนั้นได้รึเปล่าแต่เธอคิดว่าตัวเองไม่มีชมรมจริงๆ ถึงจะเข้าๆออกๆชมรมบาสได้จนคนอื่นคิดว่าเธออยู่ชมรมนี้กันหมดก็เถอะ
เธอเหมือนพึ่งเกเบรียนไว้อยู่ ทุกคนในโรงเรียนต้องมีชมรม เธอเลยเลือกที่จะกรอกชื่อส่งๆไปกับเกเบรียนที่เลือกบาสเป็นอับดับแรก เรียกว่าคุมกะลาหัวก็ไม่ผิดนัก
ยิ่งเกเบรียนไต่เต้าตัวเองจากเด็กในชมรมธรรมดากลายเป็นกัปตันทีมก็ไม่มีใครเขม่นเธอในชมรมได้
ก็เป็นผู้หญิงคนเดียว ใครๆก็ต้องสงสัยกันเป็นธรรมดา
แต่ฮันน่าก็คิดว่าถึงไม่มีเกเบรียนก็ไม่มีใครกล้ามาเขม่นใส่ต่อหน้าอยู่ดี
รู้หมดว่าพูดอะไรกันบ้าง เธอพอจะรู้เรื่องเสียๆหายๆเกี่ยวกับตัวเองมาเยอะพอสมควร ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้หญิงปากร้ายน่าตบที่ไม่มีใครกล้าแหยมอย่างมากก็มีดีแต่พูดลับหลัง
กระจอก
พูดแรงแล้วแคร์ที่ไหน นั่นตัวเธอ ฮันน่าไม่ชอบพูดอะไรลับหลัง เธอค่อนข้างตรง รู้สึกยังไงก็พูดไปแบบนั้น
"เอ่อ รุ่นพี่ครับ"
รุ่นพี่ที่ว่าหันไปมอง สบตาเข้ากับดวงตากลมสีน้ำตาลอ่อน แวบแรกที่มองลูกตากลมนั้น ฮันน่าเหมือนเห็นลูกหมาโกลเด้น
"คือเพื่อนฝากมาให้ครับ ผ--ผมไม่รู้ว่าเป็นพี่ เอ่อ หมายถึงผมไม่คิดว่ารุ่นพี่จะอยู่ชมรมนี้ ไม่ใช่ไม่ดีนะ มันเจ๋งโคตรเลย แบบว่าตอนที่พี่ชู้ตบาสลงห่วงทั้งที่อยู่ไกลมันสุดยอดมาก--"
"พอเถอะ"
เธอพูดขัดเด็กที่กำลังพูดจ้อไม่หยุด น้องมันปิดปากฉับเหมือนถูกปิดสวิตส์ ดวงหน้ามีไรเหงื่อผุดขึ้นแพรวพราว เด็กตรงหน้าใช่ว่าจะไม่กลัว ดูได้จากการยืนเลิ่กลักทำอะไรไม่ถูกตอนสบตาก็พอรู้เลย เด็กนี่กลัวเธอเข้าไส้
"มีอะไร"เห็นเด็กมันกลัวก็อยากแกล้งเด็กมัน สาวเจ้าเอกเคมีตวัดขานั่งไขว้หาง ทำเสียงเรียบนิ่งแล้วเก๊กหน้าให้ดูดุหน่อยๆ ไม่รู้หรอกว่าหน้าปกติของตัวเองก็ดูดุอยู่แล้ว
ผลที่ได้คือลูกหมาโกลเด้นสะดุ้งตัวเฮือก เหงื่อก็ผุดขึ้นมาอีกเป็นกระลอก น่าหัวเราะออกมาดังๆทั้งที่ความจริงกำลังทำหน้าจะกินคนเข้าไปได้
"เอ่อ--เพื่อนฝากนี่มาให้ฮะ แล้วรุ่นพี่คนนั้นก็บอกให้เอามาให้พี่"
รุ่นพี่ที่เด็กมันว่าคือบราวน์ที่กำลังส่งยิ้มยีฟันมาให้ ฮันน่ารับสมุดปกดำมาเปิดพลิกถึงได้รู้ว่ามันคือสมุดเกี่ยวกับชมรมทั้งหมด ทั้งค่าใช้จ่าย ใบกิจกรรมแล้วก็สมาชิกชมรมทีม มีกระดาษแผ่นนึงร่วงลงมาพอดี ฮันน่าหยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็นรายชื่อของเด็กเกรดต่างๆเป็นหางว่าว
เธอหายใจติดขัด ไม่น่าเกเบรียนถึงได้มาขอ
ทำไมคนมันเยอะขนาดนี้วะ อะไรคือเหตุผลให้คนเลือกเข้าชมรมนี้กัน?
แล้วปกติสมุดอันนี้มันต้องอยู่กับเอริคไม่ใช่เรอะ ทำไมถึงได้มาอยู่กับเด็กอ๊องนี่ได้ อ้อ…ใช่ เกเบรียนเคยบอกว่าเอริคมีติดควิชงั้นก็แสดงว่าหมอนั่นคงได้ฝากน้องมันมา
นึกบ่นในใจเป็นสายฟ้าแลบ หางตาก็ยังเห็นคนขยุกขยิก ฮันน่าเหลือบมอง"มีอะไรอีก"
ผลตอบรับที่ได้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม น้องมันเงอะงะ ชี้นู้นชี้นี่มั่วไปหมด
"ค--คือผมรอเพื่อนน่ะฮะ เห็นชมรมพี่เขาเปิดรับคนเข้าชมรมแล้วก็มีกิจกรรมให้คนที่สนใจบาสมาวัดกัน เน็ทก็เลยอยากลอง ชมรมพี่นี่ฮิตมากเลยนะ! ตอนผมมาก็มีแต่คนพูดถึงชมรมบาสกันหมดเลย คนก็เยอะมากๆด้วย"
เด็กโกลเด้นยังคงพูดไม่หยุดในขณะที่ฮันน่าหน้าตึงขึ้นเรื่อย ๆกับสิ่งที่น้องมันพูด กิจกรรมอะไรอีก? ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้ พอเงยหน้ามามองรอบตัวถึงได้เห็นว่ามีคนมากหน้าหลายตายัวเยี้ยะไปหมด ไม่ใช่แค่คนที่จะเข้าสมัครเข้าคัดบาสแต่กลับมีสาวๆมานั่งจับจองกันเพื่อดูผู้ชายกันอีก
โดนตุ๋นเข้าแล้วไง
ฮันน่าจ้องเขม็งไปยังกัปตันทีมบาสที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดนักกีฬาเรียบร้อย กัปตันที่เขาว่าน่ากลัวนักหนาสะดุ้งโหยงแล้วหันมามอง เกเบรียนยิ้มแหย ยกนิ้วชี้กับนิ้วโป้งบีบเข้าหากันแล้วขยับปากพูดไร้เสียงว่านิดนึงนะ
นิดนึงพ่อง
"รุ่นพี่เป็นอะไรรึเปล่าฮะ หน้าตาไม่ดีเลย"รุ่นพี่ที่ว่าหันควับ น้องมันพอรู้ตัวว่าพูดคำผิดก็แก้ตัวยกใหญ่
"ผมหมายถึงหน้าตาไม่สู้ดีเลยฮะ! คือพี่ดูเครียดๆกังวลอะไรสักอย่าง คือถ้าไม่รังเกียจอะไรก็ระบายมาได้นะ ผมยินดีรับฟัง"
"เสือก"
ฮันน่าโพล่งออกไป น้องมันชะงักค้างด้วยท่าอ้าปากพูดจ้อ ดวงตากลมกะพริบตาปริบๆก่อนจะนั่งสงบเสงี่ยมห่างจากเธอเป็นโยชน์ ฮันน่าเหล่มองมือน้องที่กอบกุมกันอยู่แน่น
จะกลัวเธออะไรขนาดนั้น
น่าแปลกที่ท่าทางน้องมันออกจะน่ารำคาญในสายตาแต่เธอกลับนึกตลกตลอด เด็กตรงหน้าดูเป็นประเภทพวกเข้าขากับคนอื่นง่าย ช่างพูด โก๊ะๆเด๋อๆแล้วก็ดูไม่ค่อยซีเรียสกับอะไรเยอะ ขนาดพูดคำหยาบออกไปนับหลายรอบน้องมันยังไม่มีทีท่าจะเลิกชวนคุยเลยสักนิด
อ้อ ส่วนที่ว่าทำไมน้องมันน่าคุ้น เด็กนี่เป็นคนเดียวกับที่โยนบาสใส่หัวเธอวันนั้นนั่นเอง
จะว่าไปตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ฮันน่าก็ดุใส่น้องตลอด
รู้แบบนี้แต่ไม่รู้สึกผิดเลยแฮะ
"ชื่ออะไร"
ด้วยความที่สงสารเด็กที่อยากจะพูด ฮันน่าเลยเลือกเป็นฝ่ายชวนคุยบ้าง มันก็คงดีกว่านั่งอยู่เฉยๆให้ความคุกกรุ่นเกเบรียนแผดเผาอยู่ในใจ
"ปีเตอร์ฮะ! ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์"น้องมันแนะนำตัวอย่างกะตือรือร้น ดูเป็นมนุษย์ที่ไม่รู้จักคำว่าหมดพลังงาน
"ฮันน่า ชาร์ลอต์ต"เธอบอกกลับ
"ผมรู้! เพื่อนในห้องผมชอบพูดเรื่องพี่เยอะเลยแล้วก็พี่เป็นคนที่เด่นมากๆเลยไม่มีใครรู้จัก จริงๆผมจำชื่อพี่ได้ตั้งแต่ที่พี่เกเบรียนพูดชื่อพี่ครั้งแรก"
"เหรอ"เธอตอบรับในลำคอ"แล้วพูดว่ายังไงบ้าง"
"ก็รุ่นพี่เป็นคนที่เก่ง ฉลาดแล้วก็รวยมากๆแล้วก็.."ฮันน่าแค่นเสียงหัวเราะหึในลำคอ เธอรอฟังสิ่งที่เด็กจะพูดต่อ จนมันนานเกินผิดปกติถึงได้เงยหน้าขึ้นไปมอง
สิ่งแรกที่โดดเด่นคือใบหูแดงก่ำ ปีเตอร์หลบสายตา ถูหลังคอตัวเอง เด็กนี่กำลังเขิน?
"แล้วก็..เขาบอกว่ารุ่นพี่สวยมากๆ"
กับคำแค่นี้จำเป็นต้องเขินขนาดนี้ด้วย
เด็กน้อยจริงๆ
ฮันน่าตอบรับในลำคอเป็นอันว่ารู้เรื่องแล้วคุ้ยถุงขนมของลัสโซ่ที่ฝากเอาไว้ ของของเพื่อนก็เหมือนของของเราเพราะงั้นคำว่ามารยาทก็ตัดออกจากหัวไปได้เลย
ป๊อก
"รุ่นพี่ชอบกินมันเหรอฮะ"
เปิดฝาน้ำอัดลมได้ไม่ถึงสิบวิเด็กข้างตัวก็ทำลายความเงียบ ปีเตอร์ตาแป๋ว ฮันน่าประมวลผลคำพูดของเด็กมันก่อนจะกระดกน้ำขึ้นดื่ม
"เปล่า"
"อ้าว"ปฎิกิริยาตอบกลับเร็วเหมือนถูกตั้งระบบไว้"ผมนึกว่าพี่ชอบ เห็นวันนั้นฝากให้ผมซื้อให้ ทุกครั้งที่เจอพี่ก็เห็นถือมันไปตลอดเลย"
"ฉันแค่อยากกิน"
แล้วบทสนทนาก็เงียบลงอีกครั้ง ฮันน่าไม่คิดจะต่อบทสนทนาอีก ไม่รู้ว่าควรต่อไปทำไม
"เอ่อ.."
ดูท่าจะไม่ใช่กับปีเตอร์ รุ่นพี่สาวหันไปมอง ตั้งหน้ารอคำพูดที่น้องมันจะพูด ทันทีที่ริมฝีปากบางเฉียบขยับ เสียงเรียกชื่อของสาวเอกเคมีเกรด 12 ก็ดังลั่นทั่วโรงยิม
"ฮันน่า!"พ่อกัปตันทีมกวักมือเรียกหย็อยๆ ช่วงเว้าแขนเสื้อขยับหยุกหยิกจนเห็นลอนหน้าท้องแน่น ได้ยินเสียงนักเรียนหญิงข้างๆกรี๊ดกร๊าดก็แทบจะยกมือขึ้นมาปิดหู
อะไรมันจะขนาดนั้นแม่คุณ
ท่ามกลางโรงยิม กลางใจสนามบาสมีกัปตันเกเบรียนเดาะลูกบาสเล่น มีเหล่าน้องๆหน้าตาไม่คุ้นเรียงแถว เห็นเจ้าลัสโซ่นั่งทำหน้าบื้อข้างบราวน์ขาเดี้ยง
"มาแล้วค้าบ เมียกัปตันทีมบาส"
"บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้นะลัสโซ่"
"อุ้ย คำพูดเป็นกรด"
ลัสโซ่สงบเสงี่ยม เธอรับลูกบาสจากกัปตันทีม ไล่มองเด็กทีละคนเชื่องช้า มีบางคนเผลอถอยหลังออกห่างเพราะสบตาเข้ากับฮันน่า บางครั้งก็น่าคิดว่าตัวเธอมันน่ากลัวขนาดไหนเชียว
"อันนี้คือคัด?"
ร่างกะปวกกะเปียก มีรูปร่างสมมาตรฐานชมรมไม่ถึงครึ่ง ส่วนใหญ่เหมือนเด็กไม่เอาถ่านและเด็กเนิร์ด พวกชอบรองของ
"แค่ล็อตเดียว เดี๋ยวมีอีก"ปาร์คว่า รับสมุดชมรมไปจากฮันน่า เธอพยักหน้าแล้วกลับมามองเด็กหลงผิดอีกครั้ง
"หนึ่งต่อหนึ่ง"เธอเดาะบาสไปกลางสนาม โรงยิมเงียบกริบ ออกแรงชู้ตบาสลงห่วงตกลงมายังเกเบรียนที่รับได้แบบพอดิบพอดีเหมือนจับวาง
"แย่งลูกไปได้ผ่าน"
กัปตันทีมวิ่งเดาะบาสเข้าหา สาธิตการคัดแบบตัวต่อตัวให้ดูกับตา ฮันน่าสะบัดข้อมือ ตั้งท่าพร้อมบุกอีกฝ่ายทีเผลอ
เกเบรียนชอบบาส เขาเก่งบาสยิ่งกว่าอะไร พละกำลังแข็งแกร่ง มันสมองการอ่านเกมยอดเยี่ยม รูปร่างสูงใหญ่ป้องกันมิดชิด
เฟอร์เฟ็คทุกอย่าง ฮันน่ารู้ข้อนี้ดีแต่ใช่ว่าเกเบรียนจะดีไปหมดทุกอย่าง ทุกอย่างย่อมมีจุดอ่อน การเล่นบาสก็มีช่องโหว่เหมือนกัน
รองเท้าเสียดสีกับพื้นโรงยิมจนแสบแก้วหู มันส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดตลอดเวลาที่เธอขยับตัว ฮันน่าก้าว เกเบรียนถอย ยื้ออยู่แบบนั้นจนพอใจ ผู้หญิงคนเดียวของชมรมก็ยกยิ้ม
"อะไ..!"
ตึง!
กัปตันทีมนิ่งอยู่กับที่ ฮันน่าใช้ช่วงเวลาทีเผลอแย่งลูกบาสไปได้ อาจจะเป็นเพราะเธอดึงดูดความสนใจด้วยการสบตา เกเบรียนถึงไม่ทันเห็นมือเล็กที่ลอดเข้ามาแย่งไปขณะเดาะลูก รู้ตัวอีกทีฮันน่าก็หมุนตัวกลับมาพร้อมลูกบาสที่ชู้ตลงห่วงไปแล้ว
เขาแพ้
ฮันน่าเลือกใช้กลยุทธ์ง่ายๆ การสบตาฝ่ายตรงข้ามด้วยสายตาเรียบนิ่ง คนอื่นอาจไม่เป็นอะไรแต่สำหรับฮันน่า การจ้องตากันโดยระยะประชิดคล้ายกับว่าเหมือนโดนมนต์สะกด ดวงตาเธอแข็งกร้าวแต่กลับแพรวพราวคล้ายกำลังออกคำสั่งให้คนที่จับจ้องมองเพียงมัน
หรือเพราะคนคนนั้นคือเกเบรียน ถึงได้ผลง่ายเกินไปหน่อย
"แบบนี้"ฮันน่าหันมาสบตาเหล่าเด็กรุ่นน้อง เผลอไปสบตากับดวงตาสีน้ำตาล ดวงตาลูกหมาโกลเด้น ปีเตอร์ย้ายที่จากอัฒจันทร์มายังสนามยิมรวมกับเด็กคนอื่นๆ คนข้างตัวนั้นคุ้นดี คงเป็นเพื่อนเด็กโกลเด้นที่พูดถึง
เธอละสายตาจากเด็กตากลม ดวงตาปีเตอร์มัน.… ซื่อบื้อ
"ตั้งแถวสอง ลัสโซ่ เกเบรียนจะเป็นคนต้าน แย่งลูกแล้วชู้ตให้ได้ แบ่งคนละฝั่ง แป้นบาสมี ทำเวลาให้ดี นานตัด เร็วเอา"
จบคำพูดก็มีแต่เสียงโอดโอย ฮันน่ายกมือขึ้นกอดอก ยกยิ้มที่คิดว่าน่าจะใจดีแต่หน้ามันดันตึง
"ทำไม่ได้ก็ออกไป"
"โหดจริ๊ง"
เป็นลัสโซ่คนเดิมที่กล้าแซะแล้วก็เป็นเธออีกเหมือนเดิมที่ตอบกลับด้วยคำพูดเจ็บแสบ
"ปากไม่ได้มีไว้บ่นอย่างเดียว"ฮันน่าแย่งลูกมาจากเกเบรียนแล้วโยนใส่เพื่อนตัวดีที่รับได้แบบพอดี"ว่างมากก็ไปคัด"
"ฮุก ฮันน่าไม่เคยอ่อนโยนกะเค้าเลยง่ะ"
"ไร้สาระ"
ลัสโซ่คอตก จับบาสระหว่างอกแล้วเดินไปยังแป้นอีกฝั่ง เห็นหูกับหางลู่ตกเหมือนสุนัขที่เจ้าของไม่เล่นด้วย ฮันน่ามองตามไปก่อนจะนึกระอา มีเพื่อนไม่มีสติแล้วหนักใจ
เด็กเริ่มกระจัดกระจายเข้าที่ ข้อดีของการเป็นฮันน่า ชาร์ลอต์ตคงเป็นไม่มีใครกล้าขัดใจ อาจเป็นเพราะเธอดูน่ากลัว อะไรที่สั่งออกไปเลยได้เร็วทุกอย่าง
บางอย่างก็ไม่ได้ โดยเฉพาะกับคนที่กล้าหือ คนที่ไม่กลัวเกรง
ลัสโซ่แล้วหนึ่ง ด้วยความเป็นเพื่อนกันมานานเลยไม่ได้มีความเกรงใจกันอยู่แล้ว ฝ่ายนั้นเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย ปากกล้าตีนถีบ หมายถึงตีนเธอเนี่ยแหละ
"แล้วนี่ทำไมไม่ไปคัดน้อง"
อีกหนึ่งก็เป็นเกเบรียน เพื่อนสนิทตัวโตสุดในกลุ่ม
กัปตันทีมทำหน้าไขสือ มองกลับไปยังน้องที่ต่อแถวยาวกระลอกละหันมายิ้มแป้น
"มาขอกำลังใจ"
"ฝัน?"เธอไม่เคยให้กำลังใจ ถนัดแช่งมากกว่า
"โอเค๊"กัปตันทีมยอมแพ้ เดินคอตกหูลู่ตามลัสโซ่ไปติดๆ
พอกวาดสายตาดูว่าไม่มีใครเล็ดลอดออกไปได้ ฮันน่าก็เลือกที่จะนั่งรอที่ข้างสนาม ไม่วายฝากฝั่งเอริคที่เพิ่งเข้ามาให้ตรวจดูร่างกายน้องเผื่อพวกบ้าพลังจะเล่นไม่ออมแรงไปหน่อย ผู้จัดการชมรมพยักหน้ารับง่ายดายและบอกให้ปาร์คไปช่วยแรงอีกที
"ไม่ไปคัดกับพวกนั้นด้วยเหรอ"บราวน์ที่นั่งห่างไปไม่กี่ช่วงแขนทำลายความเงียบ ระหว่างเราถูกขั้นด้วยไม้พยุงของคนขาหัก
"ทำไมฉันต้องคัด"ฮันน่าเชิงถาม เธอตวัดขานั่งไขว้หางตามปกติ"แล้วรองกัปตันสมควรต้องไปคัดรึเปล่า"
คนขาเดี้ยงถลึงตา เถียงกลับไม่ได้ก็ทำหน้าอมทุกข์ บราวน์เป็นกัปตันทีมรองจากเกเบรียน ฝีมือพอกัน ถ้าไม่ติดว่าติดเล่น เขาก็คงได้เป็นกัปตันมากกว่าเกเบรียนเห็นๆ มีชั้นเชิง วิธีการตั้งรับดีกว่า ใจเย็นกว่า
ในขณะที่เกเบรียนเจออะไรจี้จุดจะเย็นไม่ลง
"ขาเป็นแบบนี้จะให้ไปคัดได้ไง"
"สมน้ำหน้าดีนัก"เธอไม่ได้เอ่ยความเห็นใจใดใด พูดอะไรออกไปก็รู้สึกแบบนั้น"อยู่ดีๆไม่ชอบ ชอบไปเป็นพระเอก"
พระเอกที่ได้ชื่อว่าอาสาไปรับแมวบนต้นไม้หน้าบึ้งตึง คิดเรื่องนี้ทีไรตลกทุกที จำได้ว่าตอนนั้นบราวน์อยากโชว์พาวใส่สาวที่ปลื้ม แมวเจ้าถิ่นโรงเรียนติดอยู่ตรงกิ่งไม้ใหญ่ เห็นว่าสาวที่ว่าเป็นพวกทาสแมว บราวน์เลยอาสาจะอุ้มลงมา
ปีนไปสุด ยื่นมือไปรับแต่แมวดันหยิ่ง พอพระเอกบราวน์จะยื่นมือไปอุ้มก็ขู่ฟ่อ ข่วนเข้าที่หลังมือหนา ความตกใจตรงนั้นทำให้เจ้าตัวตกพลัดลงมาจากต้นไม้
ตลกสุดคือพอหลังจากที่บราวน์พลัดตกลงมาในท่าที่ทุเรศตา แมวเจ้าถิ่นกลับกระโดดลงมาได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่วายเลียมือเยาะเย้ยคนที่อาสาจะไปพาลง
เขามันทำดีไม่ขึ้น
"ใครจะไปเป็นนางร้ายเหมือนเธอ"ฮันน่ายักไหล่ ไม่แยแสกับคำพูดของเพื่อน นางร้ายก็เหมาะกับเธออยู่
"ก็ใช่ว่าอยากเป็นนางเอก"
"ทำหน้าบึ้งตลอดทั้งวันเดี๋ยวก็ไม่มีคนมาจีบหรอก"บราวน์หัวเราะเสียงแข็ง"หัดยิ้มซะบ้าง"
"ใครสนที่ไหน"
ทั้งชีวิตไม่เคยคิดอยากมีแฟน ฮันน่าไม่เคยมีความสัมพันธ์ระยะยาวมีแต่ฉาบฉวย ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมาหลายอย่างหล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรมากนัก วันไนท์แสตนก็คือวันไนท์แสตน ข้อตกลงคือวันเดียวจบไม่มีสานต่อ ถ้าสานเธอพร้อมปิดประตูใส่
เธอไม่เคยดูแลใคร อาศัยความเอาตัวรอดของตัวเองอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ รู้ว่าตัวเองนิสัยยังไง ไม่พร้อมเปลี่ยนให้กับใครไม่รู้ที่อยู่ๆก็เข้ามา ถือคตินั่นมันคือตัวเธอเองทำไมต้องเปลี่ยนให้ใคร
ดูเห็นแก่ตัวหน่อยแต่ฮันน่าค่อนข้างโอเคกับคตินี้
อยู่คนเดียวสบายกว่ามีซะอีก
ครั้งนึงเคยเห็นลัสโซ่โดนแฟนตามเหมือนปลิง จู้จี้ จุกจิก ตามเป็นแม่ เผลอๆแม่ไม่ขนาดนี้ แค่เพื่อนมียังรำคาญแล้วถ้าเธอมีจะขนาดไหน
"แต่คนบางคนก็สน"
คำพูดของคนขาเดี้ยงทำให้ฮันน่าหันไปมอง บราวน์ไม่ได้มองตรงมายังเธอแต่กลับมองเหม่อไปยังกลุ่มเด็กที่กำลังต่อคิวคัดตัว ฮันน่ามองตาม สิ่งที่ได้คือเจ้าลูกหมาโกลเด้นกำลังคุยโม้กับเพื่อนสนิท
เธอไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่บราวน์กำลังสื่อเท่าไร ฮันน่าหันมามองเพื่อนอีกครั้ง จะอ้าปากถามว่าหมายถึงอะไรก็โดนชิงพูดตัดขึ้นมาก่อน
"ได้กินเด็กแล้วมั้ง"
มุมปากบราวน์ยกยิ้ม ไม่แน่ใจว่ามันเป็นรอยยิ้มข่มขืนหรือแซว แต่ประโยคต่อมาที่มันพูดว่า"สงสารน้องว่ะ"ทำเธอขมวดคิ้วอีกรอบ
หันไปมองเจ้าลูกหมาก็เป็นจังหวะที่เจ้าตัวกำลังหันหน้ากลับพอดิบพอดี ฮันน่าลูบหน้า พอรู้แล้วว่ามันหมายความว่าอะไร เธอไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าปีเตอร์กำลังแอบมอง
เด็กนั่นไม่ใช่สเป็คเธอ เก้งก้าง ใสซื่อแถมดูไม่มีแรง
ด้วยอายุที่ห่างกันอย่างน้อยเกือบปี ฮันน่าก็ไม่คิดที่จะสานต่อหากมีความสัมพันธ์อย่างนั้นจริงๆ อีกอย่างเธอคิดว่าตัวเองไม่น่าจะได้เจอน้องมันอีก เขาจืดจาง ไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีเหตุจำเป็นต้องพูดคุยหรือผูกมิตร รู้แค่ชื่ออะไรก็ดีแค่ไหน
ทั้งที่พูดออกไปแบบนั้นแต่ฮันน่ากลับเจอหน้าน้องมันอีกภายในไม่กี่วัน เวรเอ้ย
100 per
มีแอบมงแอบมองด้วยอ่า ไหนบอกไม่ได้ชอบไงเจ้าพีท!
ปีเตอร์ : แล้วเขาก็บอกว่าพี่สวยมาก
ความคิดเห็น