ตอนที่ 2 : 01 [บังเอิญ] 50%
01: บังเอิญ
ไม่รู้ว่าเป็นพรมลิขิตหรือว่าอะไรที่ทำให้เราต้องมาเจอกันอีก
_____________
สุดท้ายแล้วเมื่อวานหลังจากที่ผมคิดอยู่นานว่าตัวเองจะไปซุกหัวนอนอยู่ที่ไหนสุดท้ายแล้วก็จบลงที่ห้องของเพื่อนสนิทที่มีฐานะไม่น้อย ตัวมันเองก็ไม่ได้บ่นอะไรเลยทำให้เบาใจไปบ้าง
แต่ว่าก็ว่าเถอะถึงเป็นเพื่อนกันแต่ผมก็ไม่คิดที่จะมาอาศัยมันนานนักหรอก เหตุผลหนึ่งเพราะเกรงใจอีกเหตุผลก็เพราะมันอยู่กับแฟน
คอนโดที่มันอยู่ไม่ได้กว้างเหมือนอย่างในหนังในนิยาย เมื่อคืนที่มาหามันผมก็ได้นอนโซฟาเพราะมันมีห้องนอนแค่ห้องเดียว
คิดแล้วอย่างจะร้องไห้ ร่างกายรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
ช่วงนี้เหมือนช่วงมรสุมชีวิตจริงๆ จู่ๆก็เลิกกับแฟน ไม่มีบ้านอยู่ ที่สำคัญคือแทบจะไม่มีเงิน คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตกกับชีวิตตกอับตอนนี้ ที่ทำได้คงมีแต่ต้องพยายามที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
"มึงตื่นเร็วจังว่ะ"เสียงเซียนเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวดังขึ้นจากข้างหลัง
"ก็ปกติแหละวะ เช้ามีเรียน"เพราะตอนนี้เพิ่งจะเริ่มต้นของเทอมได้ไม่นานงานจึงไม่เยอะมาก(จริงๆก็เยอะแต่คิดว่ากลางเทอมน่าจะหนักกว่า)
"แล้วมึงกับไอ้แม็กนี่ยังไง"ผมหลุบตามองโอวัลตินในแก้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเป็นครั้งที่สองในรอบวัน แค่ได้ยินชื่อมันก็ปวดแปล๊บในอกแล้ววะ แม่งเหี้ย แต่แม่งก็เลิกรักง่ายๆไม่ได้ คนรักกันมากี่ปีวันเดียวคงจะลืมได้หรอก
"ยังจะมาเงียบใส่กูอีก"ผมมองหน้านิ่วคิ้วขมวดของมันก่อนจะหลบสายตาที่กดดันของไอ้เซียน
เซียนแม่งก็งี้ กดดันเพื่อนเก่งชิบหาย
"เลิกกับมันแล้ว"ผมสัมผัสได้ทันทีว่าตัวเองเสียงสั่นมากแค่ไหนยามพูดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
"ก็ดีที่มึงตาสว่างสักที กูคิดว่ามึงจะทนคบกับมันต่อ"พูดแล้วจี๊ดเลยเพื่อน
"กูก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น"ผมตอบไม่เต็มเสียง
ยอมรับว่าที่ผ่านมาช่วงที่ขึ้นมหาลัยแม็กเปลี่ยนไปบ้างแต่มันก็ยังใส่ใจดูแลผมไง จะไม่ให้รู้สึกดีได้ไง คนเราจะเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมก็ไม่แปลก แต่ไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนไปขนาดนี้
"มึงไม่ได้โง่หรอก บางอย่างมึงรู้มึงก็ทำเป็นไม่รับรู้"ผมแอบสะอึกในอก อดไม่ได้ที่จะเบะปากกับความฝีปากดีของเพื่อนตัวดี แล้วดูมันด่าเพื่อนหน้าตายนี่มันหน้าตบให้คว่ำสักที
"เออช่างแม่งเหอะ เลิกก็เลิกแล้ว"ผมตัดบทอย่างขอไปที คิดว่าหลังจากนี้คงไม่ได้เจออะไรกับไอ้แม็กมันอีก เพราะยังไงคณะที่เรียนก็ไกลกัน
"ก็ดี หาผัวใหม่เชื่อกู"ไอ้นี่ก็ยุเก่งจริงๆ
"กูไม่รีบวะ แผลยังไม่ทันหายจะไปให้คนอื่นมาเหยียบซ้ำทำห่าอะไร"
"คนใหม่อาจจะไม่ได้หลอกฟันมึงก็ได้ ถ้าโชคดีอาจจะเป็นคนที่เข้ามาช่วยเยียวยามึงด้วยซ้ำ"ผมอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงขึ้นจมูก
ถ้าเจอคนแบบนั้นจริงต้องใช้โชคทั้งชีวิตเลยปะวะ คนที่พร้อมเข้ามาเยียวยาเด็กบ้านๆนี่นะ เหอะ ชาติหน้าก็ยังไม่แน่ว่าจะเจอเลย เพราะแบบนั้นอย่างไปหวังลมๆแล้งๆ
เซียนมองเพื่อนตัวเองก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ จริงๆที่พูดก็ไม่ได้อยากให้เลมันรีบหาคนใหม่อะไร แต่อยากให้มันมองเห็นคนอื่นบ้าง ทั้งชีวิตมหาลัยของมันก็มีแต่ไอ้แม็กมาตลอดจนแทบจะไม่เห็นคนอื่น
มันเองก็ใช่ว่าหน้าตาจะไม่ดีอะไร ผิวอาจจะไม่ได้ขาวมากมายอะไรแต่มันก็เป็นคนหน้าตาดี ถ้าหลุดจากไอ้แม็กก็คงมีคนอื่นพร้อมเสียบตลอดเวลาเพื่อช่วยรักษาแผลใจให้ กลัวแต่มันนั่นแหละที่จะไม่ยอมรับใครเข้ามาในชีวิตอีก เพราะลืมใครบางคนไม่ได้
ส่วนไอ้แม็ก อีกไม่นานมันก็จะรู้เองว่าถ้าขาดทะเลไปชีวิตมันจะเป็นยังไง คนเคยสบายจะติดชีวิตแบบนั้นก็ไม่แปลก มีเพื่อนเขาค่อยดูแลทุกอย่าง
ยิ่งคิดก็ยิ่งสมเพช มีของดีอยู่กับตัวเสือกรักษาของไม่เป็นซ้ำยังขว้างปามันทิ้งจนแตกไม่เหลือชิ้นดีๆ พอๆกับใจไอ้เลมันเลย
เห็นมันดูนิ่งๆปกติแบบนี้ ใจมันไม่รู้ว่าช้ำไปแค่ไหนแล้ว
"แล้วนี่น้ำตาลยังไม่ตื่นหรอวะ"ผมอดไม่ได้ที่จะถาม
"ยังไม่ตื่นวะ เมื่อคืนทำงานหนักไปหน่อย"ผมถึงกับกลอกตามองบน ก็คงรู้ๆกันนะว่าทำงานหนักที่ว่าคืออะไร
ว่าแต่มันเอากันอีท่าไหนผมถึงไม่ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาวะ เอาเถอะก็ไม่ได้อยากเสือกเรื่องของมันมากเท่าไหร่ แค่มาอยู่กับมันนี่ก็เกรงใจจะตายห่าแล้ว
ช่วงสายของวันร่างสูงโปร่งเดินลงจากรถตุ๊กๆก่อนจะเดินเข้ามหาลัย รู้สึกขี้เกียจเรียนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เพื่อนในสาขาหันมามองกันบ้างเป็นครั้งคราวไม่ใช่ว่าเพราะสนิทกันแต่อาจจะเพราะเรื่องผมกับไอ้แม็ก
ด้วยความที่แม็กมันมีสังคมเพื่อนเยอะแม้แต่ในคณะและคนในสาขาของผมเองมันก็ยังมีเป็นเพื่อน นั่นทำให้ไม่แปลกหากคู่รักที่เคยรักกันมากเลิกกันแล้วชาวบ้านจะอยากรู้อยากเห็น
ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก ขอแค่อย่าทำให้ผมเดือนร้อนก็พอแล้ว
ใช้เวลาสามชั่วโมงตอนเช้าในการเรียน แค่ครึ่งวันก็แทบจะสูบแรงไปจนหมดแล้ว นี่ตอนบ่ายมีอีกคลาสเดียวไม่อย่างนั้นวันนี้น่าจะตายคาห้องจริงๆ
Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrr
แม่ โทรหาคุณ
ผมมองเบอร์ที่แสนคุ้นเคยก่อนจะผ่อนลมหายใจเบาๆ นี่มันก็นานแล้วนะที่แม่หายหน้าหายตาไป ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะมา'ขอ'อะไรจากผมอีก
"ฮัลโหลครับแม่"
[ก็ยังดีที่แกยังจำได้ว่ามีแม่อย่างฉัน] น้ำเสียงไม่พอใจดังมาจากปลายสาย ผมทำได้เพียงหลุบสายตามองปลายเท้าที่ขยับพาร่างกายที่เริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆออกจากตึกของคณะ
"แม่มีอะไรรึเปล่าครับ"
[ถ้าฉันไม่มีธุระจะโทรหาแกไม่ได้เลยรึไงห้ะ! ไอ้ลูกไม่รักดี]
"เปล่าครับ"
[ก็ดี ที่บ้านพ่อแกเอาเงินไปกินเหล้าหมดแล้ว รีบๆส่งเงินมาสักที]
"แต่นี่ยังไม่ถึงกำหนดที่คุยกันไว้นะครับ แล้วเงินเดือนผมก็ยังไม่ออก"เพราะทำงานในร้านอาหารโรงแรมที่หนึ่งเงินที่ได้จึงค่อนข้างดีแลกกับความเหนื่อยที่สะสม ผมอดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ที่แม่ไม่เห็นใจผมบ้างเลย เรียนก็ต้องใช้เงินที่บ้านก็ต้องส่งอีกแค่นี้ก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว
เอาเถอะผมเลือกที่จะเข้ามาเรียนในเมืองเอง ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองนั่นแหละ
[ก็รอบนี้มันหมดแล้ว อย่าลืมส่งเงินมาให้ด้วย!!]
"ครับ"ผมได้แต่รับคำเสียงค่อย ก้มมองโทรศัพท์ก็เห็นสายมารดาตัดไปอย่างรวดเร็ว
ผลัก
"อ๊ะ ขอโทษครับ"เพราะเอาแต่มองโทรศัพท์เลยไม่ทันมองคนที่สวนกันไปมา
ผมค่อยๆมองจากรองเท้าหนังคัดเงาอย่างดีก่อนจะเลื่อนขึ้นมาพบกับชายในชุดสูทอย่างดี มืออีกฝ่ายถือแก้วกาแฟราคาแพง แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือชุดสูทสีดำเปื้อนไปด้วยน้ำกาแฟไปหมด รวมถึงฝ่ามือเรียวยาวด้วย
"ไม่เป็นไรครับ"ผมมองเจ้าของเสียงที่ดูคุ้นหูก่อนจะเห็นว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้เป็นชายคนเดียวกับคนที่เข้ามาทักผมเมื่อวาน
อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ แต่ก่อนหน้านั้นควรสนใจมืออีกฝ่ายก่อนมากกว่า
"จะไม่เป็นไรได้ยังไง ดูมือคุณสิแดงหมดแล้ว!!"ผมรีบพูดรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าที่มักพกประจำขึ้นมาเช็ด ถ้าเป็นรอยแดงแบบนี้อาจจะบวมขึ้นมาเลยก็ได้ คงต้องหายาทาไม่งั้นเป็นรอยแผลแน่
ดวงตาคมมองสีหน้าร้อนรนของคนตรงหน้าก่อนจะแอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือเรียวยาวและลงบนมือของเขาเพื่อเช็กรอยแดงจากความร้อนของกาแฟ
ร่างสูงรู้สึกสดชื่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยริมลอง รสชาติหวานจางๆกับกลิ่นหอมอ่อนๆในอากาศ คนเราจะสามารถมีรสชาติของอารมณ์ได้อร่อยขนาดนี้เลยหรือ....
ไม่คิดว่ารสชาติของความห่วงใยจะอร่อยถึงขนาดนี้
นัยน์ตาสีสนิมหลุบตาลงมองมือที่ยังคงแตะกันอย่างพึงพอใจ เป็นเวลานานแล้วที่การกินอารมณ์ของคนอื่นผ่านการแตะตัวกันให้รสชาติดีขนาดนี้ หากเป็นคนอื่นมันคงจะมีรสขมฝืดเฝือนแน่นอน
อ่า เป็นรสชาติที่อยากกินอีกเรื่อยๆจริงๆ
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า”ร่างสูงหลุดออกจากภวังค์ สายตาคมเหลือบมองดวงหน้าเรียวก่อนจะยิ้มสุภาพออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“ไม่เป็นไรครับ ส่วนแผลนี่อีกเดี๋ยวก็หาย”ใช่อีกเดี๋ยวก็หาย มันเป็นแค่รอยแดงเล็กๆที่ผมไม่คิดจะสนใจอยู่แล้ว
“ไม่ได้ครับ คุณรู้มั้ยว่าเวลาที่แผลมันแห้งมันจะตกสะเก็ดติดกับผิว มือคุณจะออกมาดูไม่ดีนะ เอาเป็นว่าคุณรอผมตรงนี้ผมจะไปเอายาในล็อกเกอร์มาให้”ร่างสูงโปร่งพูดรัวเร็วก่อนจะรีบผละจากไปอย่างรวดเร็ว
ร่างสูงหรือวาฬก้มลงมองมือตัวเองที่ยังถูกยกค้างไว้ก่อนจะถอนหายใจ อยากให้ร่างกายสัมผัสกันมากกว่านี้ อย่างน้อยสักนิดก็ยังดี
ที่สำคัญไปกว่านั้นคงต้องหาที่รอนักศึกษาคนนี้สักน้อย หากกลับมาแล้วไม่เห็นกันมันจะไปกันใหญ่
••••
เอาสปอยมาฝากค่ะ เขาจะเจอกันอีกแล้วว
อัพแล้วนพคะ 50% เราจะอัพแบบนี้ทุกๆวันนร้าวันละ 50%
หากเจอคำผิดบอกกันได้นะคะจะรีบแก้ไข
คนละเม้นเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
*ยังไม่ตรวจคำผิด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

6 ความคิดเห็น
-
#5 Feelstar✨ (จากตอนที่ 2)วันที่ 31 สิงหาคม 2563 / 21:19สนุกม้ากกกกเลยจ้าาา#50
-
#4 ลมสีขาว2342 (จากตอนที่ 2)วันที่ 31 สิงหาคม 2563 / 18:14เป็นกำลังใจให้ค่ะ#40
-
#3 Blue sky_1 (จากตอนที่ 2)วันที่ 31 สิงหาคม 2563 / 17:54รอนะคะ#30
-
#2 ฟีนิกซ์ PJM (จากตอนที่ 2)วันที่ 31 สิงหาคม 2563 / 14:51รอนะคะ#20
-
#1 P'Queen (จากตอนที่ 2)วันที่ 31 สิงหาคม 2563 / 13:41ติดตามค่า#10