SF~เริ่มต้นด้วยร้าย..ลงท้ายด้วยรัก 3*8 - SF~เริ่มต้นด้วยร้าย..ลงท้ายด้วยรัก 3*8 นิยาย SF~เริ่มต้นด้วยร้าย..ลงท้ายด้วยรัก 3*8 : Dek-D.com - Writer

    SF~เริ่มต้นด้วยร้าย..ลงท้ายด้วยรัก 3*8

    ผู้เข้าชมรวม

    4,537

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    4.53K

    ความคิดเห็น


    110

    คนติดตาม


    10
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.พ. 54 / 21:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    สวัสดีจ้า
    กาไอซ์ไรเตอร์รายงานตัวค่ะ ^^"
    หลังจากพบกันในเรื่อง
    หยุดรักไว้ที่นายคนเดียวไปแล้ว
    และกาไอซ์คนนี้กำลังจะเปิดเรื่องถัดไป
    จึงมีSFขั้นเวลาไปพลางๆก่อนจ้า
    ออกแนว แก้แค้น
    แต่ขอยืนยันว่าฟิคกาไอซ์
    ไม่มีดราม่านะคะ ;Pp เชื่อได้หรือเปล่า ??
    ต้องติดตามจ้าๆ  ๆ
    55 555555555.
    กาไอซ์อายุ16นะคะ เป็นผู้หญิงค่ะ
    (เอิ่มม หลายคนบอกเค้า้เป็นผู้ชาย
    ไม่ใช่นะ = =;;)
    padiwarada_ice@hotmail.com <<
    เค้ามีเมล์ด้วยจะบอกๆ  ๆ ;Pp

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      SF เริ่มต้นด้วยร้าย ,, ลงท้ายด้วยรัก
      ท่ามกลางมหานครที่แสนวุ่นวายยังคงมีหญิงสาวอีกคนที่วุ่นวายใจไม่ต่างกัน
      กับเรื่องสำคัญครั้งยิ่งใหญ่นี้
      ก่อนจะตัดสินใจใช้มือเล็กเคาะประตูห้องพักของใครบางคน
      ก่อนที่จะถูกเปิดออกในเวลาไม่นาน
      "เกรซ ... เข้ามาก่อนสิๆ"น้ำเสียงยินดีพร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
      บ่งบอกอารมณ์ของคนพูดได้เป็นอย่างดี
      "เอ่อ คือ เกรซมีเรื่องสำคัญจะบอกพี่โตโน่น่ะค่ะ"ทันทีที่ย่างก้าวเข้ามาในห้องพักสุดหรูหญิงสาวนามว่าเกรซ หรือนวกชมณ ก็รีบบอกธุระของตน
      "เดี๋ยวเกรซ ฟังเรื่องของพี่ก่อน ดูนี่สิ พี่ได้รับคัดเลือกไปเรียนต่อปริญญาโท
      ที่ลอนดอนด้วย เกรซดีใจกับพี่มั๊ย? ความฝันพี่เป็นจริงแล้ว"ร่างสูงโผเข้ากอดเกรซ
      อย่างดีใจ จนทำให้หล่อนเองเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าเรื่องสำคัญที่จะมาบอกเค้าในวันนี้
      ควรจะเอ่ยปากออกไปหรือเปล่า
      "ดีใจค่ะ พี่โตโน่เก่งที่สุดเลย"หน้าสวยโปรยยิ้มหวาน ก่อนจะชื่นชมในตัวคนรัก
      ต้องยอมรับว่าเค้าเก่งมากเหลือเกิน
      "ถ้าเรียนจบกลับมา พี่จะมาขอเกรซแต่งงานนะ"คำพูดหนักแน่นที่เอื้อนเอ่ยโดยภาคิน
      มีหรอที่คนฟังอย่างเธอจะไม่เชื่อใจ
      "บ้า พูดอะไรของพี่โตโน่น่ะ"
      "เออจริงสิ เกือบลืมไปเลย ว่าแต่ธุระของเกรซล่ะ"คราวนี้หญิงสาวเริ่มสีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ควรจะพูดมันออกไปหรอ วินาทีนี้อนาคตของภาคินสำคัญที่สุด
      "อ๋อ กะ เกรซแค่จะบอกพี่โตโน่ว่า เกรซหิวข้าวแล้วไปทานข้าวกันเถอะค่ะ"ทันทีที่หล่อนพูดจบ คนฟังก็หลุดขำพรืดใหญ่ นี่น่ะหรอ ธุระสำคัญของเธอ
      "โอเคๆ งั้นเราไปฉลองกัน วันนี้ไอ้ริทมันขึ้นวอร์ดกว่าจะกลับก็คงดึก
      ไปแค่สองคนนี่แหละ"วันนี้นวกชมณเลือกที่จะไม่บอกเรื่องสำคัญ
      ซึ่งมันคงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วในตอนนี้
      ยังไงเสียถ้าเกิดบอกไป ความฝันของถาคินล่ะ อนาคตของเค้าจะจบลงเพราะเธอ
      ไม่ได้เด็ดขาด หลังจากนั้นไม่นานภาคินก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
      9เดือนถัดมา
      "เกรซทำใจดีดีไว้นะ หมอกำลังจะมาแล้ว"เสียงของใครบางคนพยายามตะโกนเรียกหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง
      "เกรซไม่ไหวแล้วพี่กัน เกรซปวดท้อง โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว "ริมฝีปากบางที่ซีดเผือก
      พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใส ทำให้คนเป็นพี่ตกใจไม่แพ้กัน
      "หมอมาแล้วเกรซ ทำใจให้สบายไม่ต้องคิดมากนะ"ระยะเวลาเกือบ3ชั่วโมงกว่าที่
      แพทย์ผู้ชำนาญจะเดินออกจากห้อง
      "น้องสาว กับหลานผมเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ"ร่างสูงที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยรีบถามขึ้น
      "ตอนนี้เด็กปลอดภัยแล้วแต่คุณแม่เสียเลือดมาก หมอเกรงว่าร่างกายจะไม่ไหว
      ยังไงเชิญญาติเข้าไปข้างในก่อนค่ะ"
      "เกรซ เกรซเป็นไงบ้าง"หญิงสาวที่นอนอยู่ปรือตาขึ้นมองคนที่เข้ามาหาอีกครั้ง
      "พี่กัน นี่ถ้าพี่โตโน่กลับมาแล้วฝากนี่ให้ด้วยนะ"เธอยื่นแหวนวงเล็กให้กับพี่ชาย
      "เกรซ ไม่เกรซต้องไม่เป็นไร"
      "เกรซรักพี่กันนะ ฝากดูแลลูกของเกรซด้วย"มือเล็กที่กุมอีกมือของคนเป็นพี่ชายไว้แน่นปล่อยออกอย่างง่ายดาย การสูญเสียครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด
      หัวใจที่เคยเบิกบาน กลับมีแต่ความมืดดำเข้าครอบงำ
      เสียงของหัวใจตอนนี้พร่ำบอกแต่เพียงว่า ใครที่มันทำให้น้องสาวเค้าต้องตาย
      มันต้องชดใช้อย่างสาสม ...
      "ฮึ้ก เกรซ พี่จะแกแค้นมันแทนเกรซเอง"
      8ปีถัดมา
      'ฮัลโหล ตายคาโรงบาลหรือยังครับมึง'
      "โอ้โห นี่ปากหรอห๊ะ? ไอ้พี่บ้าเอ้ย มีอะไรนี่ไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะเว้ย"
      'จะบอกว่าอีก3เดือนกูจะกลับบ้านแล้ว '
      "กลับบ้านแล้วไง? กลับก็กลับสิครับ กลับบ้าน ห๊ะ พี่โน่นะจะกลับบ้านหรอ เฮ้ยจริงดิ"
      'ริทครับ ริทเห็นพี่เป็นคนยังไงครับริท'
      "อ้าวจะรู้หรอ เกิดลืมเมืองไทยไปแล้วว่าไงล่ะ"
      'โถๆ น้องรัก พี่ไม่ลืมหรอกครับ'
      "ใช่พี่โน่ไม่ลืมหรอก สาวไทยสวยจะตาย"
      'เออพูดถึง ติดต่อเกรซได้หรือยัง?'
      "ติดต่อไม่ได้เลยพี่โน่ ริทแวะไปดูบ้านที่กรุงเทพ เค้าก็บอกว่าย้ายออกไปนานแล้ว
      นี่ก็หลายปีแล้วด้วยนะ"
      'ไว้กลับไปถึงกูจัดการเอง พึ่งมึงไม่ได้สักอย่างเลย เกิดมาเป็นน้องกูทำไมวะเนี่ย'
      "แล้วพี่โน่เกิดมาเป็นพี่ริททำไมล่ะ แค่นี้นะจะทำคลอดแล้ว"
      อีกฟากฝั่งหนึ่ง กลับต่างกันโดยสิ้นเชิง
      "คุณนภัทรครับ ข้อมูลที่ให้ผมไปหาได้มาเรียบร้อยแล้วนะครับ"
      "ความจริงมันก็น่าจะเรียบร้อยได้ตั้งแต่หลายปีที่แล้วด้วยซ้ำคุณสมยศ
      ว่ายังไงก็รีบพูดมาผมจะรีบไปทำธุระต่อ"แฟ้มเอกสารถูกยิ่นให้นภัทร
      ก่อนที่เค้าจะรีบร้อนออกจากบริษัทไป
      "ป๊ะป๊ากัน ทำไมมารับตีโต้ช้าจังล่ะครับ"เด็กน้อยที่อยู่ในยูนิฟอร์มโรงเรียนนานาชาติ
      พูดขึ้นทันทีที่เห็นนภัทร
      "พอดีวันนี้ป๊างานยุ่งนิดหน่อยน่ะครับโต้ เดี๋ยววันนี้ป๊าพาไปฉลองปิดเทอม
      กินไอศครีมกันดีมั๊ย?"บุคคลที่ใช้แทนตัวเองว่าพ่อ ออกรถก่อนจะสรรหา
      ข้อเสนอมาเอาใจ
      "ไปกันเลยครับป๊า"
      เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ร่างสูงที่พึ่งอาบน้ำเสร็จเตรียมตัวสำหรับการเข้านอน
      สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นแฟ้มเอกสารที่ได้มาวันนี้
      จึงเปิดมันอ่านอย่างตั้งใจ ก่อนจะเงยขึ้นมาพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น
      "เรืองฤทธิ์ คำวิลัยศักดิ์ น้องชายคนเดียวของภาคินงั้นหรอ? หึหึ คราวนี้แหละถาคิน
      นายจะได้เจ็บปวดกว่าที่ฉันเจอมาเป็นร้อยล้านเท่า"
      เค้าไม่รู้หรอกว่าเรืองฤทธิ์เป็นคนใคร แต่เรืองฤทธิ์จะต้องได้รับบทเรียน
      จากการกระทำของพี่ชายตัวเองครั้งนี้เหมือนกัน

      ไว้จะมาต่อนะจ๊ะ ... ^^"

      กาไอซ์รายงานตัวครับผม :D
      ยังจำกันได้อยู่มั๊ย ?? จากฟิคที่จบไปเมื่อกี๊นี้ (เอิ่มม มันมีคนติดตามมั๊ยเถอะ T T')
      55 5555555. กลับมาในรูปแบบของSF
      อาจจะใช้คำพูดไม่เหมาะสม  หรืออะไรหลายๆอย่าง ฝากติชมด้วยจ้า !!*
      กาไอซ์ ,, ไรเตอร์ :D


      ___________________________________________________________
      ร่างเล็กที่พึ่งเดินออกจากโรงพยาบาลอย่างเหนื่อยล้าตรงมายังที่จอดรถ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้านพักผ่อน
      ฉับพลันมีท่อนแขนแข็งแรงรั้งตัวของเค้าไว้ พร้อมทั้งผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่กดลงบนจมูกโด่งทันที
      เพียงไม่นานร่างของคนตัวเล็กก็ร่วงลงในอ้อนแขนทันที
      กว่า3ชั่วโมงที่เรืองฤทธิ์ยังคงไม่ได้สติ ถังน้ำพลาสติกถูกสาดใส่เค้าอย่างแรง
      ได้ผลดวงตาคู่สวยหรี่ลงเพื่อปรับโฟกัสเล็กหน่อย ก่อนจะต้องเบิกตาโพลงอย่างตกใจ
      เมื่อเห็นว่าทั้งมือและเท้าถูกเชือกไนล่อนเส้นหนาผูกแน่น ที่นี่ที่ไหนกัน?เท่าที่จำได้กำลังจะเปิดประตูรถแล้วก็ ...
      "ฟื้นแล้วหรอคุณหมอ ตายยากดีนี่"น้ำเสียงของอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากล่าวขึ้น
      "แกเป็นใคร? แล้วที่นี่ที่ไหน"คำถามมากมายเต็มหมดไปหมดที่เรืองฤทธิ์คนนี้
      อยากจะทราบคำตอบ ทั้งกลัว ทั้งตกใจ  ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับเค้ากันแน่
      "อยากรู้ไปทำไมกันเรืองฤทธิ์? กลัวหรอ?"ไอ้โจรนี่รู้จักชื่อเค้า แสดงว่าต้องไม่ธรรมดาแน่
      "ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย"ร่างเล็กทั้งดิ้นพล่านไปมา หนำซ้ำยังตะโกนเสียดัง
      "ร้องสิ เอาสิ เรียกให้คนมาช่วยเลย ต่อให้แหกปากจนคอแตกก็ไม่มีใครได้ยินหรอก"นภัทรตะโกนแข่งกับเสียงคนตัวเล็กทันที
      "กะ แกจับฉันมาทำไม"คราวนี้น้ำใสๆคลออยู่เต็มดวงตากลมก่อนจะร่วงลงมาเป็นสายอาบแก้ม
      "กลัวตายหรอ? คนอย่างนายกลัวตายด้วยหรอเรืองฤทธิ์"มือเรียวของคนตรงหน้า
      บีบแก้มเนียนใสจนใบหน้าต้องยกขึ้นตามแรงกระทำที่รุนแรงนั่นก่อนที่จะสะบัดหนีอย่างไม่ไยดี
      "ฉันไปทำอะไรให้แก ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้"
      "นายได้รู้แน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ อ้อ แล้วอย่าคิดจะหนีล่ะ แถวนี้เสือมันชุม"สายตาคมจ้องเรืองฤทธิ์อย่างไม่วางตา ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเตรียมจากไป แต่แล้วเรืองฤทธิ์ก็ต้องทำให้มีน้ำโหอีกครั้ง
      "ฉันไปฆ่าพ่อแม่พี่น้องแกหรือไงห๊ะ? ไอ้โจรชั่ว"น้ำเสียงที่โกรธไม่ต่างกันเล็ดลอด
      ผ่านไรฟันอย่างเน้นชัดทุกถ้อยคำ ราวกับมีดกรีดลงที่กลางจิตใจอย่างเชื่องช้า
      ก่อนที่นภัทรจะตอบสนองคำพูดของเค้าโดยที่ใช้มือเรียวฟาดลงบนใบหน้า
      ของเรืองฤทธิ์อย่างเต็มแรง ของเหลวเหนียวข้นก็ซึมออกที่มุมปากทันที
      "ถ้ายังไม่อยากตายตอนนี้ ก็หุบปากไปซะ"ร่างสูงจ้ำอ้าวออกจากกระท่อมหลังเล็ก
      อย่างฉุนเฉียว ทิ้งไว้เพียงอีกคนที่นั่งร่ำไห้อย่างไม่อายใครจับเค้ามาต้องการอะไร?
      แล้วทำไมต้องทำรุนแรงแบบนี้ด้วย
      เค้าไม่ได้ฆ่าใครเสียหน่อย ! พี่โตโน่ ช่วยด้วย ช่วยน้องชายคนนี้ที กลัวเหลือเกิน ...
      "คุณกันคะ ป้าว่ามันไม่มากไปหน่อยหรอคะ?"แม่นมที่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เล็ก กล่าวเตือนสติอีกครั้ง
      "มันน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่กันได้รับ"
      "แต่เค้าก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะคะคุณกัน"หากแต่นภัทรดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเสียหรอก ว่าจะรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่อง ขอเพียงแต่เค้าได้ทำในสิ่งที่คิดถูกสาสมแก่ใจก็เป็นพอ
      "นมไม่ต้องพูดแล้วครับ ฝากทางนี้ด้วยนะ กันต้องเตรียมตัวกลับกรุงเทพมีประชุมด่วนครับ"แม้ว่าภายนอกจะดูแข็งกร้าวมากเพียงใด แต่การกระทำของเค้าที่มีแต่แม่นมคนนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
      ทันทีที่ประตูกระท่อนหลังเล็กเปิดออก ถาดอาหารที่ถูกจัดแจงอย่างเรียบร้อยพร้อมกับวางลงตรงหน้าคนตัวเล็กที่ยังไม่หยุดร้องไห้
      "ป้าทำอาหารมาให้ค่ะคุณ ส่วนนี่เสื้อผ้ายังไงก็เปลี่ยนซะนะคะ"หญิงสาวรุ่นป้ายิ้มบางๆให้เรืองฤทธิ์ การกระทำมันช่างต่างกับเมื่อครู่เสียนี่กระไร
      "พวกคุณจับผมมาทำไม?"
      "เอ่อ ป้าว่าคุณหนูพักผ่อนก่อนดีกว่านะคะ ป้าขอตัวก่อน"ประตูถูกปิดอีกครั้ง เรืองฤทธิ์ที่พึ่งตั้งสติได้กวาดสายตาหาสิ่งที่จะช่วยให้เอาตัวรอดทันที ตะปูที่โผล่พ้นออกมานั่นแหลมคมพอที่จะทำให้เชือกขาดได้แน่

      เดี๋ยวมาต่อๆ จ้า


      สั้นไปมั๊ยคะรีดเดอร์ ?? แงๆ ๆ กาไอซ์ขอโทษนะคะที่อัพช้า T T'

      คนอ่านไปไหนหมด ... ฮึ้กก เศร้าจับจิต !!*
      ยังไงก็ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ :D


      ___________________________________________________________


      อาจเป็นเพราะความสัพเพร่าของนภัทรจึงใช้เพียงเวลาไม่นานเชือกไนล่อนเส้นหนา
      ที่ผูกติดกับข้อมือเล็กขาดออกอย่างง่ายดาย
      เพื่อไม่ให้แม่นมสงสัยร่างเล็กเลือกที่จะปีนออกทางหน้าต่าง แต่แล้วโชค
      ก็ยังไม่เข้าข้างเค้าการหลบหนีใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาของใครบางคนไปได้
      คิดถูกแล้วที่วันนี้เลือกไม่ไปเข้าร่วมการประชุมงาน
      "หึ...นายพลาดแล้วเรืองฤทธิ์"ใบหน้าคมแสยะยิ้มหนึ่งที ก่อนจะสั่งลูกน้อง
      ดักเรืองฤทธ์ยังอีกฟากฝั่งหนึ่งอย่างรู้เส้นทาง
      "นะ นี่พวกแกจะทำอะไร? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ บอกให้ปล่อยไงเล่า"ร่างเล็กดิ้นพล่าน
      เพื่อให้หลุดจากการถูกจับตัวโดยชายนิรนามสองคน
      "คิดจะหนีอย่างนั้นหรอเรืองฤทธิ์ มันง่ายไปหน่อยมั้ง?"น้ำเสียงของอีกคน
      ทำให้เรืองฤทธิ์ต้องเงยหน้ามอง
      "ไอ้คนเลว ไอ้ชั่ว"ไม่ทันจะได้พูดต่อก็ต้องรู้สึกจุกเมื่อนภัทรชกเข้าที่หน้าท้องอย่างแรง นั่นเป็นผลให้เรืองฤทธิ์ไม่มีแม้แต่แรงขัดขืนใดๆทั้งสิ้น
      ทันทีที่แสงแรกแห่งตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้น ก็ทำให้คนที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นพร้อมกันด้วย แต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนุ่ม
      ภายในห้องถูกจัดแจงไว้อย่างเรียบร้อย ไม่อยากจะเชื่อว่าโจรบ้านั่น
      จะมีบ้านหลังโตแบบนี้ ร่างเล็กค่อยๆยันตัวเองขึ้นเพราะยังเจ็บอยู่ที่ท้องน้อย
      ก่อนจะต้องถอนหายใจเมื่อเหลือบไปเห็นโซ่เหล็กล่ามไว้กับข้อเท้าซ้ายหนึ่งข้าง
      พอดีกับประตูไม้สลักถูกเปิดออกโดยคนที่เรืองฤทธิ์มั่นใจอย่างแน่นอนว่า
      เป็นคนที่ชกท้องเค้าเมื่อวาน รวมถึงโซ่ที่ล่ามอยู่ด้วย
      "ไง ตื่นแล้วหรอ?"
      "ปล่อยฉัน"คนตัวเล็กไม่ตอบคำถามหนำซ้ำยังคงสั่งให้นภัทรปล่อยตัวเค้าอีกด้วย
      "หึ...คิดว่าฉันควรจะทำตามที่นายบอกหรือเปล่าล่ะ?"ร่างสูงยังคงจ้องเรืองฤทธิ์
      อย่างไม่วางตา
      "ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่เอาเรื่อง
      ฉันสัญญา"เรืองฤทธิ์เผลอร้องไห้พร้อมกับเว้าวอนเค้า จะทรมานกันไปถึงไหน
      เค้าไปทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจนักหนา
      "สัญญา? สัญญางั้นหรอ? ไม่มีทางอย่ามาบีบน้ำตาหน่อยเลย"นภัทรกล่าว คำสัญญา
      ก็เพราะคำสัญญาบ้าๆนี่ที่ต้องทำให้น้องสาวเค้าตาย
      "แล้วแกจับฉันมาทำไม แกก็บอกมาสิว่าฉันทำอะไรให้แก บอกฉันมาสิ"คราวนี้เรืองฤทธิ์เลือกที่จะตะโกน เพราะในเมื่อไม่มีความเห็นใจให้กัน ก็ไม่จำเป็นที่เรืองฤทธิ์
      จะต้องอ้อนวอนอีกต่อไป
      "หึ อยากรู้นักหรอ อยากรู้มากใช่มั๊ย? ได้..."มือเรียวหยิบกรอปรูปไม้ที่คว่ำอยู่
      ยัดใส่มือคนตรงหน้ารูปผู้ชายและผู้หญิงยืนยิ้มหวานคู่กัน ผู้หญิงคนนี้คนที่พี่ชายเค้า
      ให้ตามหามาตลอด8ปี ใช่ ต้องใช่แน่ๆ
      "เกรซ... กะ แกรู้จักเกรซ"เรืองฤทธิ์สับสนไปหมด ตกลงเกิดอะไรขึ้น แล้วโจรที่จับตัวเค้ามารู้จักกับเกรซได้อย่างไร
      "ใช่เกรซคือน้องสาวคนเดียวของฉัน"เค้าแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
      "งั้นนายก็คือ กัน"เรืองฤทธิ์เปลี่ยนสรรพนามทันที ผู้ชายที่จับตัวเค้าคือนภัทร
      ทายาทของตระกูลอินทร์ใจเอื้อ นภัทร ... นวกชมณ เป็นอย่างที่คิดไว้อย่างแน่นอน
      "ฉลาดดีนี่ เมื่อ8ปีก่อนเกรซตาย เธอตายเพราะคำสัญญาที่พี่ชายนายเคยให้ไว้
      ไหนล่ะคำสัญญา ไหนล่ะผู้ชายที่บอกว่ารักน้องฉันนักรักน้องฉันหนา
      อยู่ไหนล่ะเรืองฤทธิ์ ตอบมาสิว่าอยู่ไหน?"มือเรียวบีบต้นแขนเรืองฤทธิ์อย่างสุดแรง
      "มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ"ร่างเล็กที่สั่นเทาด้วยความเจ็บยังอุส่าห์จะอธิบายต่อ
      "หุบปาก ฉันไม่ต้องการฟังคำแก้ตัว"นภัทรตวาดใส่คนที่ยังไม่หยุดร้องไห้
      "แล้วนายต้องการอะไร"
      "ต้องการให้ครอบครัวนายชดใช้กับสิ่งที่ทำได้ทำไว้ ชีวิตก็แลกด้วยชีวิตไงล่ะ"
      สิ่งที่เรืองฤทธิ์ควรจะได้รับก็คือความเจ็บปวดมากกว่าที่นภัทรเจอเป็นล้านเท่า
      "นายอย่าทำอะไรพี่โตโน่นะ นายจะฆ่าพี่ชายฉันไม่ได้นะ"เรืองฤทธิ์กล่าวทั้งน้ำตา
      ชีวิตคนไม่ใช่ผักใช่ปลาที่จะฆ่าแกงกันง่ายๆ
      "ทำไม? กลัวพี่ชายนายจะตายหรอ? แล้วทีน้องฉันล่ะ ฉันมีโอกาสได้ร้องขอแบบนี้
      บ้างหรือเปล่า"นภัทรตอบโต้คืนบ้าง สิ่งที่ควรจะได้รับตอบแทน
      ก็คือการสูญเสียแบบที่นภัทรเคยเจอมาเท่านั้น
      "งั้นนายก็ฆ่าฉันเลยสิ เอาเลย ฆ่าฉันแล้วเรื่องจะได้จบ"คราวนี้คนตัวเล็กยืนขึ้น
      ประจันหน้ากับนภัทรอย่างถือดีทั้งที่คราบน้ำตายังไม่ทันแห้งจากใบหน้าเลย
      "หึ มันไม่จบง่ายขนาดนั้นหรอกเรืองฤทธิ์ฉันจะทำให้นายได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด ทรมาน เหมือนอย่างที่น้องฉันทนทรมานรอ รอคนเลวๆอย่างพี่ชายนาย"จะให้ฆ่า
      เรืองฤทธิ์ตอนนี้เค้าก็ทำได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องจับตัวมาถึงที่นี่
      แต่ที่ทำเพื่อจะทรมานเรืองฤทธิ์ให้สาสมแก่ใจ ก่อนที่จะฆ่าเรืองฤทธิ์ทิ้งไปเสีย
      มือเรียวผลักใบหน้าของเรืองฤทธิ์ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
      ไหนเกรซเคยบอกว่าพี่ชายเค้าเป็นคนมีเหตุผล แล้วอะไรทำให้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
      แค่จะอธิบายว่าพี่โตโน่ก็ตามหาเกรซ พี่ก็โตโน่ก็เป็นห่วงเกรซ
      แต่แค่เปิดโอกาสให้พูดยังไม่มีเลย...

      เหลืออีกเยอะ << แถวบ้านไม่เรียกSFค่ะ = =;;

      กาไอซ์มาต่อแล้วจ้า !!*
      แหะๆ หายไปเป็นแรมปี โอ๊ะโอ รีดเดอร์หายหมด

      ประเด็นคือก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว ยิ่งหายอีกงานนี้ล่ะโอ้แม่เจ้า
      ไปหมดแล้วครับผม ฟิคกาไอซ์มีแต่ความเงียบสงบ T T'

      55 55555555. หายใจเข้าพุท หายใจออกโท กันเลยทีเดียว
      ว่ากันว่าเงียบขนาดนั่งสมาธิได้อ่ะจ๊ะ ;Pp



      ___________________________________________________________


      รถยนต์คันหรูจอดที่หน้าบ้านของนภัทร เหตุผลที่ต้องท่อมาถึงที่นี่
      ก็เพราะกลัวว่าสิ่งที่นภัทรทำอยู่มันจะร้ายแรงขึ้น
      "กัน ไอ้กันโว้ย"คนที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่เดินออกมารับแขกก่อนจะตีสีหน้าไม่พอใจเล็กๆ
      "มึงมาทำไมเซน?"นภัทรกล่าวถามทันทีเมื่อแขกไม่ได้รับเชิญ
      ถือวิสาสะเข้ามาในบ้านของเค้าหน้าตาเฉย
      "โถ ไอ้กันกูก็มาดูสิว่ามึงจะผิดสัญญาหรือเปล่า? อย่าลืมนะเว้ยที่เราคุยกันไว้
      มันแค่สั่งสอนให้สำนึก ไม่ใช่ฆ่าเค้า
      ลองคิดดูนะกันถ้ามึงฆ่าเค้า มึงติดคุกหัวโตแน่ มึงก็รู้ว่าครอบครัวเค้าใหญ่แค่ไหน
      ที่สำคัญถ้าพี่ชายเค้ารู้ว่ามึงจับตัวน้องเค้ามา มึงไม่รอดแน่"ดูเหมือนคำเตือนสติ
      จากเพื่อนรักกลับทำให้นภัทรมีน้ำโหไม่น้อย
      "ทำไมกูต้องกลัวด้วย แล้วทีมันทำกับน้องกูล่ะ "
      "กูว่ามึงพอเถอะกัน แก้แค้นไปก็เท่านั้น มึงไม่เหนื่อยหรอ เค้าหนีมึงกี่รอบแล้ว
      ถ้าเกิดมึงต้องมาชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ เป็นมึง มึงชอบหรอ?"ปฎิภาณกล่าวขึ้น ทั้งที่รู้ดีว่าอย่างไรเสียมาถึงขนาดนี้แล้ว นภัทรไม่ยอมแน่
      "เซนกูว่าถ้ามึงจะพูดเรื่องนี้มึงกลับไปเถอะ"เค้าไม่สนใจหรอกว่าใครจะว่าอย่างไร
      ตอนนี้ความแค้นมันครอบงำจิตใจไปเสียหมดแล้ว
      "กูก็แค่เตือนมึง ว่าแต่ตอนนี้เรืองฤทธิ์อยู่ที่ไหนล่ะ?"ปฎิภาณกวาดสายตา
      หาบุคคลที่สาม ก่อนจะเดินขึ้นไปหาบนห้อง ทันทีที่ประตูเปิดออก
      ก็พบร่างของคนตัวเล็กนั่งกอดเข่าพร้อมทั้งร้องไห้อย่างหนัก ปฎิภาณจะให้แม่บ้าน
      ยกกับข้าวเข้ามาในห้อง
      "กินข้าวซะสิ"น้ำเสียงหวานกล่าวขึ้นมันดูเหมือนจะเป็นการเชื้อเชิญมากกว่า
      การออกคำสั่งเสียอีก
      "ไม่ ฉันไม่หิว"คำตอบแบบเดิมที่เรืองฤทธิ์พูดมันทุกครั้งเมื่อนภัทรสั่งให้เค้าทำ
      "แน่ใจหรอ? งั้นฉันกินแล้วนะ โอ้โหดูสิน่าอร่อยทั้งนั้นเลย"คนที่นั่งอยู่โต๊ะตักอาหาร
      เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยทำให้เรืองฤทธิ์เอง ยังแอบเผลอกลืนน้ำลายตามไปด้วย
      "มากินเถอะน่า ฉันรู้ว่านายหิว"ไม่ใช่เพราะทนต่อคำรบเร้าไม่ไหว
      แต่หากเรืองฤทธิ์หิวต่างหาก จึงยอมลุกขึ้นมานั่งตรงข้ามแต่โดยดี
      "คะ คุณเป็นใคร?"
      "คน"ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มให้เรืองฤทธิ์จนตาหยี
      "นี่ ไม่ตลกนะ"เรืองฤทธิ์ขมวดคิ้วให้คนตรงหน้า ยียวนเสียจริง
      "เซน ปฎิภาณ ผู้ชายที่หน้าตาดีมาก มากแบบหล่อเลยแหละ ที่สำคัญ โสด
      ขีดเส้นใต้ด้วยว่าโสด"นิ้วกลางไขว้กับนิ้วชี้ก่อนจะชูให้เรืองฤทธิ์ดู
      เพื่อจะบ่งบอกว่าเค้าโกหก แม้มุขนี้จะคิดได้ไม่นาน
      กลับทำให้สีหน้าของเรืองฤทธิ์เปื้อนยิ้มขึ้นได้บ้าง ต้องยอมรับว่าเรืองฤทธิ์
      ถูกชะตากับเค้าเหมือนกัน
      "อ้าว มัวแต่มองอยู่นั่นแหละ รู้ตัวครับว่าหล่อ กินข้าวเถอะ เดี๋ยวจะเย็นหมด"
      ด้วยความที่ปฎิภาณเข้ากับคนง่าย เพียงไม่นานเค้าก็สร้างรอยยิ้ม
      และเสียงหัวเราะให้กับเรืองฤทธิ์ได้ แต่อีกฟากฝั่งที่เพียงแค่แนบหูฟัง ก็กลับ
      สร้างอารมณ์โกรธให้เป็นอย่างมาก มีความสุขกันเข้าไป ทีกับเค้าแม้แต่หน้า
      ยังไม่อยากจะมอง กับไอ้เซนรู้จักกันไม่ถึงวัน ดูจะมีความสุขมาสินะ
      "แอบฟังอะไรคะคุณหนู?"หญิงสาวรุ่นยืนยิ้มให้นภัทรอย่างรู้ทัน
      "เปล่านี่ครับนม กันก็แค่ แค่เห็นว่าไอ้เซนมันเสียงดังเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรครับ"
      "ถ้าคุณหนูอยากได้ยินเสียงหัวเราะแบบนี้อีก ก็ทำแบบที่คุณเซนทำสิคะ"
      แม่นมทิ้งท้าบไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไป ตกลงความหมายคืออะไร
      แล้วข้างในห้องคุยอะไรกัน ทำไมถึงดูมีความสุขขนาดนั้น
      ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคือ โกรธ หงุดหงิด ห่วง หรือ หวง กันแน่ ....
      แต่ไม่มีทางเด็ดขาดที่นภัทรจะมีความรู้สึกแบบนั้นกับเรืองฤทธิ์ ไม่มีทาง !


      รีดเดอร์ กาไอซ์ขอโทษค่ะ T T'
      คือลืมไรเตอร์คนนี้ไปหรือยัง ??
      งื้ออ คืองี้ กาไอซ์ลืม = =;;
      เอิ่ม ไม่มีอะไรจะแก้ตัวนอกจากลืม ช่วงนี้วุ่นวายกีฬาสีด้วยอ่ะค่ะ
      กาไอซ์ต้องขอโทษด้วยครับผม
      ยังไง ไว้จะรีบมาต่ออีกจ้า (: ใกล้จบๆ ๆ


      ___________________________________________________________


      2-3วันที่ผ่านมานภทัรยุ่งอยู่กับงานที่กรุงเทพ ไม่มีเวลากลับมาหาคนที่ทิ้งไว้เลย
      ถามว่าคิดถึงหรือเปล่า จะบอกว่าคิดถึงมันก็คงไม่ใช่ความรู้สึกนั้น
      มันคงกังวลมากกว่า กังวลว่าเรืองฤทธิ์จะหายไป ...
      "ริท เซนขอถามอะไรได้หรือเปล่า?"สรรพนามถูกเปลี่ยนไป
      เมื่อความสนิทสนมเริ่มมากขึ้น
      "ว่ามาสิเซน"
      "ถ้าเกิดสิ่งที่ริทเคยเล่าให้เซนฟังมันคือความจริง แล้วริทคิดจะบอกไอ้กันเมื่อไหร่?"
      คำถามที่เรืองฤทธิ์เองก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกัน คนอย่างนภัทรเอาอะไร
      แน่นอนไม่ได้สักอย่าง วันดีคืนดี คิดอยากจะปลดโซ่ที่ล่ามข้อเท้าออก
      ก็ปล่อยออกเสียอย่างนั้น บางวันก็ไม่มองแม้แต่ใบหน้าของเรืองฤทธิ์
      "ริทก็ ไม่รู้เหมือนกัน"สายตาของเรืองฤทธิ์มองออกไปไกลเรื่อยๆ
      จนกลายเป็นเหม่อลอยในที่สุด
      "เออเซนลืมบอกไปเลย พรุ่งนี้เซนต้องกลับไปเมกาแล้วนะ"ปฏิภาณทำลายความเงียบ
      "อ้าว ทำไมล่ะ? ก็ไหนเซนบอกว่าไม่กลับง่ายไง ทิ้งกันชัดๆเลย"ใจหายอยู่ลึกๆ
      ที่เพื่อนอย่างปฏิภาณจากเค้าไปอีกคน
      "ก็ ไม่อยากทิ้งน้องไว้นาน"คำพูดที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยถูกกล่าวออกไป
      "คิดถึงเซนแย่เลยนะ"คนตัวเล็กกอดร่างสูงแน่น อยู่ที่นี่เวลาไม่สบายใจ
      ก็มีแต่เซนที่คอยปลอบ
      "ไอ้กันถึงมันจะเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นคนดีนะ เชื่อเซนเถอะ ท่าทางไอ้กันมันจะมาแล้ว เดี๋ยวเซนไปก่อนนะริท"เซนไม่อยู่แล้ว ริทจะทำอย่างไรต่อไป สับสนเหลือเกิน ....
      "นี่เข้ามาในบ้านหลังนี้ได้ยังไงห๊ะ? คิดจะมาขโมยของหรอลุง ไม่มีทางซะหรอก"อยู่ดีดีก็มีเด็กตัวเล็กวิ่งพรวดพราดเข้ามาหาเรืองฤทธิ์พร้อมกับพูดจาแปลก
      "เดี๋ยว นี่มันเรื่องอะไรกัน? แล้วใครเป็นลุงแกห๊ะไอ้เด็กเปรต"
      "ก็ลุงนั่นแหละ เข้ามาในนี้ได้ยังไง"เด็กน้อยยังคงตั้งคำถามต่อไปเรื่อยๆ
      "เดี๋ยวหนูฟังพี่นะ เวลาพูดกับผู้ใหญ่ต้องมีหางเสียง ครับ ไหนลองพูดสิ"เห็นทีเรืองฤทธิ์ต้องสงบสติอารมณ์แล้วพูดดีดีเสีย
      "ครับ ... ลุง"แต่ก็ไม่ทันจะได้หายใจเด็กน้อยก็หาเรื่องอีกจนได้
      "นี่ไอ้เด็กเปรตใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้กันห๊ะ? เป็นเด็กเป็นเล็กสามหาวใหญ่แล้ว"เรืองฤทธิ์ยืนเถียงกับเด็กน้อยตรงหน้าอย่างไม่ลดละ
      "ลุงก็เหมือนกันแหละไม่มีมารยาท คิดจะมาขโมยของใช่มั๊ย? นี่แหน่ะ ๆ ๆ"ปืนฉีดน้ำ
      อันเล็กฉีดใส่เรืองฤทธิ์อย่างไม่ยั้ง ตกลงใครเป็นเด็กใครเป็นผู้ใหญ่กันแน่
      "นี่ อย่าฉีดนะ เลิกฉีดได้แล้วไอ้เด็กบ้า"
      "หยุด หยุดเดี๋ยวนี้"น้ำเสียงขรึมจากบุคคลที่สามตวาดใส่เด็กน้อย
      และผู้ใหญ่ไม่รู้จักโตที่เถียงกันอยู่
      "ป๊ากัน เค้าเป็นใครครับ แล้วมาอยู่ที่บ้านเราได้ยังไง?"ป๊า เด็กน้อยเรียกนภัทร
      ว่าพ่องั้นหรอ
      "ขอโทษอาริทซะ"นภทัรสั่งให้เด็กน้อยขอโทษเรืองฤทธิ์
      "แต่ว่า ... "
      "ป๊าบอกให้ขอโทษ เสร็จตามป๊ามาข้างใน"คำสั่งครั้งสุดท้ายที่แสนจะเฉียบขาด
      จนกระทั่งเด็กน้อยยอมขอโทษและเดินตามนภัทรเข้าไปในห้องทำงาน
      "ตีโต้รู้ใช่มั๊ยครับว่าทำผิด? อาริทเค้าเป็นแขกของป๊า
      โต้ไม่ควรเสียมารยาทแบบนั้น"นภัทรถามพร้อมกับถือไม้เรียวอันเล็กไว้
      "ครับ"
      "ที่ป๊าตีเพราะโต้จะได้จำ และไม่ทำแบบนั้นอีก เข้าใจที่ป๊าพูดนะครับ"เด็กตัวเล็ก
      พยักหน้าสองสามทีก่อนไม้เรียวจะฟาดลงที่ขาเรียว
      "ป๊าครับโต้ขอโทษ"น้ำตาไหลอาบแก้มใสของเด็กน้อยอย่างน่าสงสาร
      "คนที่โต้ควรจะขอโทษไม่ใช่ป๊านะครับ"เด็กน้อยเดินออกมาจากห้องทำงาน
      ก่อนจะทิ้งตัวลงข้างๆเรืองฤทธิ์
      "เด็กบ้าอะไร นิสัยเหมือนพ่อไม่มีผิด"คนเป็นผู้ใหญ่ก็ดูจะไม่โตเสียที
      "อาริทครับ"
      "อะไรอีกล่ะ"เรืองฤทธิ์หันไปมองเด็กน้อยที่ตอนนี้น้ำตาเปื้อนใบหน้าไปเสียหมด
      ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปทันที
      "ตีโต้ขอโทษนะครับ"มือเล็กไหว้ที่คนเป็นผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ไม่มีเหตุผลอะไรเลย
      ที่เรืองฤทธิ์ต้องโกรธเด็กคนนี้
      "ไม่เป็นไรครับ ไม่ร้องนะ"เรืองฤทธิ์กอดเด็กน้อยหลวมๆแต่ก็ต้องรีบปล่อยออก
      เมื่อได้ยินเด็กน้อยร้องโอดโอย
      "โอ๊ย เบาๆสิครับอาริท โต้เจ็บนะ"รอยแดงที่อยู่บริเวณขาบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
      ว่าถูกทำโทษมา คนตัวเล็กเดินไปหยิบยามาทาให้เด็กน้อยทันที
      "อาริทเก่งจัง ทายาไม่เจ็บเลย ถ้าเป็นป๊านะป่านนี้ร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก"เด็กน้อย
      ยังคงจ้อไม่หยุด
      "ก็อาริทเป็นหมอนี่ครับ ถ้าทำเจ็บใครเค้าอยากให้หมอรักษาล่ะ"เรืองฤทธิ์ยิ้มหวาน
      ให้เด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างเอ็นดู
      "โต้ไปนอนได้แล้วลูก ดึกแล้วครับ"นภัทรพาเด็กน้อยเข้าห้องนอน
      แต่เมื่อเดินออกมาก็พบอีกคนยืนรออยู่หน้าห้อง
      "ตีเด็กทำไม?"คงไม่ต้องถามแล้วว่ามายืนรออะไร
      "ฉันมีเหตุผล"
      "แต่นายก็ไม่ควรทำ เพราะเด็กยังเล็กมาก พูดดีดีก็ได้"เรืองฤทธิ์รีบกล่าวดักไว้
      "ฉันตีให้จำ โตมาจะได้ไม่ก้าวร้าว ต่อปากต่อคำกับคนอื่นไปทั่วเหมือนคนแถวนี้
      ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะ"ร่างสูงเดินลิ่วเข้าไปห้องทิ้งไว้เพียงเรืองฤทธิ์
      ที่ได้แต่กระทืบเท้าอย่างโมโห พูดแบบนี้มันว่าให้เค้าชัดๆ ไอ้บ้า ไอ้นิสัยไม่ดี ....


      กาไอซ์มาแล้วค่ะ ๆ ๆ !!*
      ขอโทษรีดเดอร์อีกสัก38รอบค่ะ
      กาไอซ์ไม่มีเวลาเลยค่ะยุ่งมากช่วงนี้ แต่ออนเอ็มทุกวันเนี่ยนะ 55 555555.
      ยังไงฝากติดตามด้วยนะคะ (:


      ___________________________________________________________

      "แล้วป๊าจะรีบกลับมานะครับโต้"ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่บนรถบอกลาเด็กตัวน้อยที่งอแงอีกแล้ว
      ก็แน่ล่ะคุณพ่อพึ่งรับมาอยู่ได้ไม่กี่วัน จะต้องไปทำงานอีกแล้ว
      "ครับ"
      "เอ่อ ฉันฝากด้วยนะ"ผู้ใหญ่ที่ยังไม่ยอมเป็นผู้ใหญ่สักทีได้แต่พยักหน้างึกงักตาม
      หลายวันที่เรืองฤทธิ์ได้ใช้เวลาอยู่กับเด็กน้อยรู้สึกเหมือนตัวเอง
      ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เด็กคนนี้เหมือนเค้าเคยรู้จักมาก่อน เหมือนใครสักคน เหมือนอย่างไม่น่าเชื่อ ...
      "อาริทครับ สวยมั๊ย?"เด็กน้อยสะกิดคนเหม่อลอยให้ตื่นจากภวังค์ ก่อนจะยื่นกระดาษวาดภาพฝีมือของตนเองให้เรืองฤทธิ์ดู
      'ครอบครัวในฝัน' ครอบครัวในฝันงั้นหรอ? จริงสิเมื่อก่อนเค้าเองก็เคยได้ทำ
      "อาริทครับ โต้ถามว่าสวยมั๊ย อาริทไม่ตอบโต้เลยอ่ะ"ตีโต้หน้ามุ่ย
      เพราะเรืองฤทธิ์เหม่ออีกแล้วน่ะสิ
      "ครับๆ สวยสิ ว่าแต่ทำไมมีตั้ง5คนล่ะครับ?"
      "ก็นี่ป๊า ม๊า ป๊ากัน"ตกลงหมายความว่าอย่างไร ป๊า หรือว่า แม่ของตีโต้จะมีแฟนใหม่ หรือ นายกันนั่นจะเป็นพ่อคนใหม่ของตีโต้
      "เอ่อ ยังไง?"ทำไมเด็กน้อยถึงรับเรื่องแบบนี้ได้
      "อ๋อ อาริทยังไม่รู้สินะครับ ม๊าของโต้อยู่บนสวรรค์แล้ว ป๊ากันเป็นเฮียของหม่าม๊าน่ะครับ ส่วนป๊าของโต้ป๊ากันไม่ให้พูดถึง เพราะพูดทีไรป๊าจะโกรธทุกครั้งเลย
      โต้ก็เลยไม่รู้ว่าป๊าโต้อยู่ไหน?"แม่ของตีโต้เป็นน้องของกันงั้นก็แสดงว่าเด็กคนนี้
      คือ ลูกชายของพี่โตโน่งั้นหรอ? นี่มันเรื่องอะไรกัน?
      แสดงว่าที่ตลอดเวลาไม่คิดถึงโตโน่ก็เพราะอย่างนี้เองน่ะหรอ
      "อาริทครับ อาริทเหม่ออีกแล้วนะ โต้งอนแล้วด้วย"
      "โทษครับๆ แล้วนี่คนสุดท้ายล่ะใคร?"เรืองฤทธิ์ตั้งคำถามต่อไป
      เพื่อไม่ให้ตีโต้สงสัยอะไรขึ้นมา
      "ก็อาริทไงครับ ยืนข้างป๊ากันเลยจีบมือกันด้วย นี่ครอบครัวในฝันของโต้"
      พร้อมกับดึงกระดาษออกมาเขียนชื่อกำกับไว้ใต้รูปด้วย
      คำพูดอันไร้เดียงสาของเด็กน้อยจะรู้บ้างหรือเปล่า
      ว่าสามารถทำให้ดวงใจหนักแน่นของคนเป็นผู้ใหญ่ได้เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
      "อาริทว่านี่ก็ดึกแล้ว เราไปนอนกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวถ้าป๊ากันมาอาริทจะปลุกนะ"
      เรืองฤทธิ์พาตีโต้เข้าไปนอนในห้อง
      พร้อมทั้งอ่านนิทานจนเด็กจอมแสบฟังกว่าจะนอนหลับ ถามนั่นถามนี่มากมาย
      ตกลงเด็กคนนี้คือลูกของพี่โตโน่จริงๆน่ะหรอ พี่โตโน่ริททำสำเร็จแล้วนะ
      ถึงริทจะไม่เจอเกรซแต่ริทก็เจอสิ่งที่สำคัญในชีวิตของพี่อีกอย่างแล้วล่ะ
      มือเรียวหยิบกระดาษวาดภาพนั้นมาดูอีกครั้ง
      'ก็อาริทไงครับ ยืนข้างป๊ากันเลยจีบมือกันด้วย นี่ครอบครัวในฝันของโต้'
      ทันทีที่นึกถึงคำพูดของเด็กน้อยใบหน้าเรียวก็ร้อนผ่าว
      เรืองฤทธิ์สะบัดหัวไปมาก่อนจะเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
      คนที่พึ่งเดินทางมาถึงค่อยๆแง้มประตูเข้ามาในห้องก็พบร่างเล็กของเด็กน้อย
      นอนหลับสบายอยู่ใต้ผ้าห่ม กับผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักโตเอนตัวอยู่ข้างกัน
      ไม่รู้สมองสั่งการอย่างไร ให้เผลอยื่นใบหน้าเข้าไปจ้องเรืองฤทธิ์อย่างใกล้ขึ้น
      ริมฝีปากเชิดงอนบ่งบ่อกความเอาแต่ใจของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
      พร้อมทั้งแก้มขาวเนียนช่างรับกับสันจมูกโด่งนั้นเสียจริง
      ถ้าไม่นับความเย่อหยิ่ง ต่อปากต่อคำล่ะก็ต้องยอมรับเลยเชียว
      ว่าคนตรงหน้านภัทรคนนี้น่ารักเหลือเกิน เมื่อละสายตาออกจากเรืองฤทธิ์ก็มาพบกระดาษภาพวาดที่อยู่ข้างตัวเค้าก่อนจะหยิบมาดู
      พร้อมทั้งรอยยิ้มที่เผลออย่างไม่รู้ตัว
      ตกลงเค้าควรจะเกลียดเรืองฤทธิ์ต่อไปดีหรือเปล่า?
      เค้าควรเลือกที่จะฟังเหตุผลของเรืองฤทธิ์? หรือควรจะปล่อยเรืองฤทธิ์ไป
      วินาทีนี้ยอมรับในใจอย่างลึกๆว่าไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าถ้าเรืองฤทธิ์ไปแล้ว
      เค้าจะเป็นอย่างไร นภัทรนี่ตกลงเราเป็นอะไร ...


      กาไอซ์มาอัพแล้วนะคะ
      ขอตัวไปนอนก่อนจ้า ฝันหวานทุกคนครับ
      (:



      ___________________________________________________________


      "ป๊าดูเหนื่อยๆนะครับ พักก่อนดีกว่า"เด็กน้อยพูดกับคนเป็นพ่อที่ยังคงสนใจ
      กับเอกสารตรงหน้า ซึ่งทำให้เรืองฤทธิ์เอง
      อดใจไม่ได้จึงหันไปมองใบหน้าคมที่ตอนซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
      นภัทรไม่ดูแลตัวเองเลยหรืออย่างไรกัน ?
      "ไม่เป็นไรครับโต้ เดี๋ยวเสร็จแล้ว"ดื้อจริงๆ คนบ้าอะไร ไอ้บ้าเอ้ย ...
      "งั้นโต้เข้าไปนอนก่อนนะครับ" เป็นเวลากว่าหลายชั่วโมงที่สะสางเอกสารเสร็จสักที
      ร่างสูงลุกขึ้นตั้งใจว่าจะไปดื่มกาแฟสักหน่อย แต่ด้วยความที่ลุกขึ้นพรวดพราดหนำซ้ำกับร่างกายที่อ่อนเพลียจึงทำให้ล้มลงทันที
      "กัน !"สัญชาตญาณของแพทย์ไม่รอช้ากับการช่วยเหลือคนไม่ได้สติ เรืองฤทธิ์
      พาร่างสูงค่อยๆพามานอนที่เตียง ก่อนจะคอยเช็ดตัวเฝ้าดูอาการคนป่วยตลอดทั้งคืน
      เช้าวันใหม่ที่เปลือกตาค่อยๆยกขึ้นอย่างหนักอึ้ง
      "อ่ะนี่ข้าวต้มกินซะจะได้กินยา"ถ้อยเซรามิคถูกยื่นให้คนป่วยอย่างไม่รู้จะเรียกว่าเต็มใจหรือไม่ก็ไม่รู้ มือเรียวรับมาก่อนจะค่อยๆตักเข้าปาก แต่มันก็ดูขัดหูขัดตา
      คนตรงหน้าเสียจริง ก็แน่ล่ะเค้ากำลังป่วยอยู่นะ จะให้กินเองมันก็กระไรอยู่
      เรืองฤทธิ์ดึงถ้วยข้าวต้มออกจากนภัทรแล้วป้อนเค้า คนป่วยงงใหญ่
      ตกลงจะมาไม้ไหนกันแน่ แต่ก็ลอบยิ้มอยู่ในใจ
      ที่อย่างน้อยเรืองฤทธิ์ก็ไม่ได้รังเกียจเค้าเหมือนครั้งที่ผ่านมา
      หลังจากทานยาเสร็จนภัทรทำท่าจะลุกขึ้น
      "จะไปไหน?"
      "ทำงานต่อน่ะสิ"มือเล็กกดร่างสูงให้ติดกับเตียงนอนอย่างเคย
      คิดจะทำบ้าอะไรของนายอีกนภัทร
      "นายไม่มีสิทธิ์จะลุกไปไหนทั้งนั้น จนกว่านายจะดีขึ้น"เรืองฤทธิ์กล่าวเน้นชัดทุกถ้อยคำ
      "แล้วนายมีสิทธ์อะไรมาสั่งฉัน?"คนถูกย้อนคืนเล่นเสียไม่ไปถูก
      ครั้นจะตอบว่าเป็นห่วงก็กระไรอยู่
      "กะ ก็ฉันเป็นหมอ ฉะนั้นห้ามขัดคำสั่งฉัน ถ้าไม่มีอะไรสงสัยแล้ว งั้นฉันไปนะ"
      "เดี๋ยวเรืองฤทธิ์ ช่วยอยู่กับฉัน ... ได้มั๊ย?"ร่างเล็กหันไปมองเค้าก่อนจะนั่งลงตามคำขอ
      "ได้สิ"
      "เปล่า ฉันหมายถึง อยู่กับฉันตลอดไปเลย จะได้หรือเปล่า
      แต่ถ้าเกิดนายจะกลับกรุงเทพ ก็กลับได้เลยนะ ฉันไม่ได้ว่าอะไร"คำถามที่เรืองฤทธิ์เอง
      ก็ไม่คิดว่าจะได้ยิน นภัทรต้องการอะไรจากเค้ากันแน่ ทำแบบนี้เพื่ออะไร
      ความเงียบปกคลุมภายในห้องอยู่นาน มีเพียงเสียงหัวใจเท่านั้นที่ดังกว่าอะไรทั้งหมด ความรู้สึกตอนนี้ มันคืออะไร ใจของเรืองฤทธิ์ต้องการอะไรกันแน่
      "ช่างมันเถอะ คิดว่าฉันไม่ได้พูดมันก็แล้วกันนะ"
      "กัน .. ฉันยังไม่ขอให้คำตอบได้ตอนนี้ได้ใช่มั๊ย"นภัทรพยักหน้าสองสามที
      ไม่ว่าคำตอบนั้นจะเป็นเช่นไรอย่างน้อย นภัทรก็ได้รู้หัวใจตัวเองแล้ว
      "รถใครน่ะครับโต้"เรืองฤทธิ์ถามเด็กน้อยที่ยืนดูรถยนต์อยู่นานสองนาน
      "คุ้นๆนะครับอาริท เหมือนโต้เคยเห็น"ไม่ทันจะได้สงสัยต่อ
      คนขับก็ถือวิสาสะเดินเข้ามาในบ้าน
      "ยัยป้าหน้าเลือด ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"ผู้หญิงคนนี้ เค้าเป็นใคร?
      แล้วทำไมตีโต้ถึงได้ไม่ชอบนักหนา?
      "กันขาาาา กัน กันอยู่ไหนคะ"หญิงสาวตะโกนเสียงดังพลางกวาดสายตาหานภัทร
      "ป๊าไม่อยู่ กลับไปได้แล้วไป ชิ้วๆ"
      "แหม ใจเย็นสิคะน้องตีโต้พี่เกตก็แค่อยากจะแวะมาเยี่ยมแฟนพี่เกตเท่านั้นเองค่ะ"
      หญิงสาวแสร้งยิ้มให้ราวกับเอ็นดูหนักหนา
      "เอ่อ กันอยู่ในห้องนั้นน่ะครับ"เรืองฤทธิ์เป็นฝ่ายพูดขึ้น ร่างบางของหญิงสาวกุลีกุจอเดินเข้าไปทันที แฟน? แฟนของนภัทรงั้นหรอ?
      "อาริทอย่าไปเชื่อนะครับ ยัยป้านี่ขี้ตู่ ป๊ากันยังไม่พูดอะไรเลย"เด็กน้อยพูดกับเรืองฤทธิ์ เค้าไม่อยากรู้หรอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับนภัทร
      เค้าต้องการรู้เพียงแค่ว่า ถ้านภัทรมีคนดูแลอยู่แล้ว
      จะต้องการให้เค้ามาดูแลเพื่ออะไรอีก .... คนตัวเล็กหาคำตอบให้นภัทรได้แล้วล่ะ
      คนตัวเล็กต้องการจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
      คนงานขับรถเข้าไปส่งเรืองฤทธิ์ในตัวเมืองทันที
      เค้าสัญญาว่าจะพาโตโน่มาพบลูกชายแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ !
      'ลาก่อน นภัทร' ....


      ตอนต่อไปจบแล้วจ้า 55 5555555.
      ค้างมานาน ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคน

      กาไอซ์ขอสวัสดีปีกระต่ายด้วยจ้า !!*
      ช้าไปแต่ใจอยากส่ง (:
      ___________________________________________________________

      "เสร็จยังครับป๊า เร็วๆหน่อยสิครับ"เด็กตัวน้อยกระโดดโลดเต้นอย่างรีบร้อน
      "พี่กันคะ เกตว่าอย่าไปเลยดีกว่านะคะพี่กันพึ่งหายป่วยเอง"หญิงสาวพยายามห้าม
      แต่เธอคงคิดผิดเสียแล้วล่ะที่ห้ามคนอย่างนภัทร
      "เลิกยุ่งกับฉันสักที จะไปไหนก็ไปเลย ฉันรำคาญเธอเต็มทนแล้ว"มือเรียวปิดประตูรถเสียงดัง ก่อนที่เด็กน้อยนั่งข้างจะกดกระจกลงเย้ย
      "ไปก่อนนะยัยป้าหน้าเลือด"กว่าที่จะรู้ตัวว่าต้องตามนภัทรไปรถยนต์คันหรู
      ก็แล่นไปไกลแล้ว

      "ป๊ากันครับ เราจะเจออาริทมั๊ย"คำถามที่นภัทรเองก็ยังไม่รู้คำจะตอบเด็กน้อยยังไง
      ถ้าเกิดไม่เจอล่ะ ชีวิตเค้าจะอยู่อย่างไร...
      รถยนต์คันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง
      "ขอโทษนะครับ มีใครอยู่มั๊ยครับ"นภัทรกดออดพลางเรียกคนในบ้าน
      "มีใครอยู่หรือเปล่าครับ"เด็กน้อยช่วยพูดอีกแรง ไม่นานร่างสูงของใครอีกคนเดิน
      ออกมาก่อนจะต้องตกใจ
      "นภัทร คุณมาที่นี่ได้ยังไง แล้วเกรซล่ะ"ผู้ชายคนนั้น คนที่นภัทรตั้งใจว่าเมื่อเห็นหน้าเขาจะชกสักที แต่ตอนนี้กลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น
      อย่างที่เซนบอก ภาคินไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
      "เกรซเสียแล้ว"คำพูดเพียงประโยคเดียวแทบทำให้คนตรงหน้านภัทรแทบยืนไม่ติด น้ำตาลูกผู้ชายคลอดวงตาพร้อมที่จะไหลรินออกมา
      "เกรซฝากแหวนวงนี้มาให้นาย แต่ถ้านายอยากจะบอกอะไรกับเกรซล่ะก็ ฉันว่าบอกผ่านตัวแทนของเกรซก็ได้นะ"นภัทรจับไหล่เด็กตัวน้อยที่ยืนฟังผู้ใหญ่สองคนพูดกัน
      "เด็กคนนี้คือ"
      "ใช่ เค้าคือลูกของนายภาคิน"ร่างสูงโผเข้ากอดเด็กน้อยอย่างไม่ลังเลใจ
      เมื่อพ่อลูกได้พบหน้ากันแล้ว นภัทรก็รีบถามขึ้น
      "เอ่อ แล้วนี่คุณรู้จักบ้านผมได้ยังไง?"ใช่ ตอนนี้กำลังมาตามหาใครบางคนอยู่นี่
      "เรืองฤทธิ์ล่ะ เรืองฤทธิ์อยู่ที่นี่หรือเปล่า"นภัทรชะเง้อมองในบ้านหลังโต
      "คุณรู้จักริทหรอ?"ภาคินถามอย่างไม่เข้าใจ เค้าไปรู้จักเรืองฤทธิ์ตั้งแต่ตอนไหน
      แล้วทำไมน้องชายตัวดีถึงไม่ยอมเล่าให้ฟัง
      "ใช่ เรื่องมันยาวน่ะ ว่าแต่ริทอยู่หรือเปล่า?"
      "ริทไปคลินิกอ่ะ เย็นๆคงกลับ เข้ามารอข้างในก่อนแล้วกัน"ภาคินกล่าว
      "ไปครับป๊า ไปคลินิกกัน ขืนรออยู่นี่เดี๋ยวอาริทไม่หายงอนนะ"เด็กน้อยกระตุกชายเสื้อนภัทรเบาๆ ขืนไม่บอกนภัทรก็เลือกที่จะตามไปหาอยู่แล้ว
      "เดี๋ยวนี่มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้ว"
      "งั้นเอางี้ ตีโต้ไปกับป๊าโน่นะลูก ภาคินคุณช่วยพาผมไปคลินิกหน่อยนะ ด่วนเลย"รถยนต์สองคันวิ่งตามกันมุ่งหน้าไปที่คลิกในทันที
      "กรอกประวัติแล้วเชิญนั่งรอทางนี้ก่อนนะคะคุณ"ผู้ช่วยคุณหมอกล่าวกับนภัทรที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องตรวจ เค้าไม่ได้จะมารักษาสักหน่อย
      "เอ่อ คือผมไม่ได้ ..."
      "รีบกรอกแล้วก็รอก่อนสิครับป๊า เดี๋ยวถึงคิวแล้ว"เด็กน้อยนั่งข้างๆคนป่วยจำเป็น
      "คุณนภัทรค่ะ"ร่างสูงกำลังจะเดินเข้าไปในห้องตรวจพร้อมกับ
      เด็กน้อยที่นั่งคอยชูนิ้วโป้งให้อย่างร่าเริง นภัทร นภัทรงั้นหรอ
      แค่ชื่อก็ทำให้คนฟังแทบใจหายแล้ว
      "อาการเป็นไงบ้างครับ"คุณหมอกล่าวถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังนั่งลง
      กัน นี่คือเค้าจริงๆด้วย เค้ามาที่นี่ทำไม
      "เจ็บ"
      "จะ เจ็บตรงไหนครับ"เรืองฤทธิ์ยังคงสวมบทเป็นคุณหมอต่อไป
      ทั้งที่อารมณ์ตอนนี้ไม่รู้ว่าควรจะดีใจ เสียใจ หรืออะไรดี
      "เจ็บตรงนี้ ตั้งแต่ที่คนรักหายไป"นภัทรคว้ามือเล็กมาแนบกับอกแกร่ง
      "กะ กัน นายมาหาฉันทำไม ในเมื่อ..."ใช่ นภัทรไม่ควรทำแบบนี้
      "ฉันไม่ได้รักเกต ฉันรักนายริท"
      "แต่ว่าผู้หญิงคนนั้น ..."
      "ฉันขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกอย่าง"คำพูดที่ริทเองก็ไม่เคยแม้แต่คิดว่าจะได้ยิน
      "ฉันไม่ให้อภัยได้มั๊ย?"ร่างสูงถึงกับทำอะไรไม่ถูก แต่สิ่งที่เค้าทำมันก็ถูกต้องแล้ว
      ที่เรืองฤทธิ์จะไม่ให้อภัย
      "ขอบใจนะเรืองฤทธิ์ ฉันเข้าใจ เข้าใจทุกอย่างแล้ว"หน้าหล่อฝืนยิ้มให้กับคนตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นเพื่อออกจากห้องไป
      "ที่ฉันบอกว่าฉันไม่ให้อภัย เพราะว่าฉันไม่เคยโกรธนายเลยกัน ไม่เคยแม้แต่จะคิด"
      คนตัวเล็กโผเข้ากอดนภัทรพลางร้องไห้อย่างหยุดไม่ได้ คิดถึงเหลือเกิน
      "ทำไมนายขี้แยจัง"มือเรียวปาดน้ำตาที่แก้มใส
      "ก็เพราะนายนั่นแหละ ทำให้ฉันคิดถึง"คนตัวเล็กตีลงบนอกกว้างเบาๆ
      "ใครบอกเพราะนายต่างหากที่หนีฉันไป"นภัทรย้อนคืนอย่างหมั่นไส้
      "กันนายมันนิสัยไม่ดี"
      "แน๊ะ ฉันต้องขอโทษมั๊ย?"
      "เรื่องของนายสิ ฉันไม่ได้ขอร้องซะหน่อย"
      "โอ๋ ๆ ขอโทษนะ ฉันจะไม่ทำให้นายเสียใจตลอดชีวิตเลย"
      "สัญญา?"
      "ปัญญาอ่อน ต้องสัญญาด้วยหรอเนี่ย"
      "นี่กัน ฉันงอนนายจริงๆแล้วด้วยนะ"
      "ไม่สัญญา แต่สาบาน"ด้วยหัวใจของคนคนนี้
      จะไม่มีวันทำให้เรืองฤทธิ์เสียใจอีกแน่นอน .... End <3
      Ps.ใครชอบดราม่าคลุมดำค่ะ !
      "บ้า ออกไปได้แล้วจะปิดคลินิกแล้วๆ ๆ"คนตัวเล็กผลักร่างสูงให้ออกไปข้างนอก
      "ริท รออยู่นี่นะ เดี๋ยวจะเอารถมารับ"นภัทรเดินข้ามถนนไป
      แต่สายตายังคงเฝ้ามองเรืองฤทธิ์อยู่ไม่ห่าง กลัว กลัวว่าเรืองฤทธิ์จะหายไปอีก
      "กัน ระวัง!"นี่คือเสียงสุดท้ายที่นภัทรได้ยิน ก่อนจะดับวูบไป ร่างสูงนอนที่ท่วมไปด้วยเลือดแน่นิ่งอยู่ถนนอย่างไม่ไหวติง นภัทรจากโลกนี้ไปแล้ว นภัทรไม่มีวันกลับมา สัญญาที่ให้ไว้เค้าทำได้จริงๆ แต่ทำไมเวลาของเค้ามันถึงสั้นเหลือเกิน กลับมาอยู่ด้วยกันก่อนสิกัน แค่นี้เองน่ะหรอกับคำสัญญาของนาย ?
      ลาก่อน นภัทร .....

      จบบริบูรณ์อย่างสวยงามหรือเปล่า? 55 55555.
      สำหรับSFที่มันไม่สั้นเลย = =;; ของไรเตอร์ปลาทองคนนี้(รีดเดอร์ซันติมาตั้งให้T T')
      ขอบคุณสำหรับการติดตาม ส่วนเรื่องยาวหลังวันที่25นี้เจอกันแน่นอนจ้า
      แหะ ๆ หวังว่าคงจะติดตามกันนะคะ (: รักรีดเดอร์ จุ้บบบบ !!*



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×